[นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน 261 เทศกาลโลลิxหมีส่งท้าย ส่วนหลัง

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 狂乱令嬢ニア・リストン คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน Chapter 261 เทศกาลโลลิxหมีส่งท้าย ส่วนหลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

261 เทศกาลส่งท้าย ส่วนหลัง

 

สิ่งสำคัญในการล็อคผลการแข่งขันคือ มีความจริงผสมอยู่

ต้องดูไม่เหมือนเป็นของปลอม และต้องดูเหมือนว่าคุณกำลังทำสิ่งนี้อย่างจริงจังโดยไม่สนว่าใครกำลังมองดูอยู่ก็ตาม

 

ยิ่งเป็นการประลองอันยิ่งใหญ่ที่จะถูกจารึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ ยิ่งไม่มีใครสงสัย

 

――การโจมตีด้วยการต่อยและเตะที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟสีน้ำเงินของฉัน ท่วมท้นทหารจักรกลของลิวิเซล

 

หากให้ฉันเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตาของพวกเขาแล้ว ฉันจะบอกว่าเป็นเหมือนยักษ์ที่เคลื่อนไหวช้า ทรงพลัง ปะทะทหารตัวน้อยที่ว่องไว

ทว่าอย่างไรก็ตาม มันก็มีเสียงที่ฟังดูเหมือนกำลังเจ็บปวด

 

ในแต่ละการโจมตี เสียงสะท้อนของโลหะกระทบอย่างฉูดฉาด เครื่องยังสั่นสะท้าน และเดินโซเซตามการตอบสนอง

 

เป็นร่างที่ถูกผลักอยู่ฝ่ายเดียวด้วยความเร็ว――แต่ในความเป็นจริง ทุกส่วนถูกปกคลุมไปด้วยเกราะหนา

 

เปลวไฟยังคงอยู่ในจุดที่โดนโจมตี  สำหรับผู้ชม「ความรู้สึกเหมือนถูกโจมตีอย่างรุนแรง」นั่นมันน่าทึ่งมาก แต่ที่จริงแล้วไม่มีความเสียหายใด ๆ

 

――เข้าใจล่ะ、ลิวิเซลเรียนรู้「คิ」ได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นทหารจักรกลที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน

 

นั่นคือส่วนหนึ่งที่ฉันตั้งเป้าไว้ แต่ดูเหมือนว่าเขาเองก็เข้าใจการเคลื่อนไหว และความตั้งใจของฉันแล้วเหมือนกัน

 

มุมในการโจมตี

ทิศทางที่ต้องส่ายไป

การโจมตีในส่วนที่ไม่สร้างความเสียหาย

 

หากเขาเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ การโต้กลับก็จะเกิดขึ้นในไม่ช้า

และสำหรับการโต้กลับนั้น ฉันสามารถควบคุมได้ว่าจะให้เล็งไปที่ไหนและอย่างไร โดยการตีให้ท่วงท่าเกิดเสียสมดุล 

 

เกราะโลหะขาดความยืดหยุ่นเหมือนมนุษย์ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะบิดตัว หรือยืด หรือเกร็งกล้ามเนื้ออย่างแรงได้

แม้ว่าพวกมันอาจจะทำสิ่งที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ได้ แต่ก็มีการเคลื่อนไหวหลายอย่างที่เป็นไปไม่ได้อย่างน่าประหลาดใจ

 

และ เพื่อชดเชยสิ่งนั้น จึงเป็นหน้าที่ของดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์……

 

――ฟุมุ ยังไม่ยอมรับการท้าทาย

 

“”กรี๊ดดดดดดดดดดด!!””

 

ท่ามกลางเสียงเชียร์ดังลั่นก็ยังมีเสียงกรีดร้องปะปนอยู่ด้วย

 

เป็นการโต้กลับของผู้บังคับบัญชา

ดาบศักดิ์สิทธิ์ถูกเหวี่ยงในแนวนอน ตีเข้ากับฉันโดนตรงในจังหวะที่เหมาะสมเป็นรูปแบบเคาน์เตอร์ ฉันกลิ้งไปบนพื้นจนทำให้เกิดกลุ่มฝุ่น

 

ดาบที่ใหญ่กว่าความสูงของผู้ใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเด็กเลย การโดนโจมตีเข้าโดยตรงไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่ได้ตั้งใจมาดูการสังหารโหดก็ต้องกรีดร้องแน่ ๆ

 

ทว่า มีความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ฉันพยายามทำให้ดูเหมือนมันโดนอย่างจัง แต่ก็รับมือมันได้อย่างดี อันที่จริงคงจะถูกต้องกว่าถ้าบอกว่าฉันแกล้งปลิวไปด้วยตัวเอง

เพื่อให้ดูฉูดฉาดยิ่งขึ้น

 

ทว่า――ก็สมกับเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ชั้นสาม

พลังศักดิ์สิทธิ์เอาชนะการป้องกันได้อย่างไม่มีเงื่อนไขสินะ

 

ความจริงที่ว่ามันเจาะทะลุ「คิ」ที่ใช้ป้องกันได้นั้น ก็ถือว่าเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง

หากไม่ใช่ฉันแล้ว ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่มี「คิ」

 

“……ถึงกระนั้นคุณก็ยังโง่เขลา”

 

ฉันยั่วยุขณะยืนขึ้น

 

แม้ว่าจะเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ แต่ทำไมถึงช้าขนาดนี้ ขาดทั้งความเฉียบคม เหมือนใช้แค่กำลังเหวี่ยงไปมารอบ ๆ นั่นดาบสินะ ไม่มีความภูมิใจในการเป็นดาบเลยเหรอ

 

เจ้าโง่นี้ หากคุณแข็งแกร่งขึ้นเพียงเพราะแค่สะสมพลัง คุณก็ไม่มีปัญหาในการจัดการกับดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มอื่น ๆ ได้หรอก แบบนี้คงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นแค่ชั้นสาม

 

คงมีหลายอย่างที่นี่เป็นปัจจัยในการตัดสินใจ ทำให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น

นั่นจะสร้างภาระให้กับผู้ใช้ ไม่ต้องพูดถึงการขยายไปจนถึงจุดที่ไม่อาจเหวี่ยงได้ในชีวิตจริง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเรื่องโง่เท่านั้น

 

ไหน ๆ แล้ว ฉันขอกระตุ้นให้แรงขึ้นอีกหน่อยได้ไหม

 

 

 

เป็นอีกครั้ง คราวนี้ ในขณะที่ปล่อยเปลวไฟสีน้ำเงินที่รุนแรงมากขึ้น ฉันก็โจมตีเฉพาะแขนขวาซึ่งถือดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์อยู่เท่านั้น และในที่สุดเขาก็ขึ้นตามแรงยั่ว

 

 ――『ไอ้เจ้าคนหยาบคาย! กล้าดียังไงถึงมาใช้ไฟปลอมต่อหน้าข้ากัน!』

 

ความคิดที่มีส่วนผสมของความหงุดหงิดเข้ามาหาฉัน

ติดกับแล้วติดกับแล้ว ในที่สุดก็ตกหลุมการยั่วยุ

 

ฉันยังโจมตีต่อไปราวกับว่าไม่ได้ยิน――

 

 ――『คิดมาล้อเล่นกับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์งั้นเรอะ เจ้าลูกหมา! ……ก็ดีเซ๊ ลองลิ้มรสชาติของเปลวไฟที่แท้จริงไปซ้าาาาาา!』

 

มาแล้ว!

 

ดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์จากดาบที่มีสีแดงเข้มอยู่แล้วก็แดงยิ่งขึ้น และปลุกเร้าเปลวไฟสีแดงเข้ม

 

ถูกต้อง ใช้มันซะ

จงใช้พลังแห่งดาบศักดิ์สิทธิ์ที่คุณสะสม สะสม และสะสมจนใหญ่เกินกว่าที่คนจะถือได้ออกมาซะ 

 

 ――『เจ้าโง่!! จงกลายเป็นเถ้าถ่านไปซะ!!』

 

  ซู่ม!!

 

เปลวไฟที่กระจายออกมาจากดาบ จนดูราวกับว่ามันมีชีวิตอยู่ได้พุ่งเข้ามากลืนกินฉันในทันที

 

 ――『ฟุฮ่าๆๆๆๆ! ที่นี่รู้ซึ้งถึงรสชาติการใช้เปลวไฟปลอมต่อหน้าข้ารึยัง! …………อาเร๊ะ?』

 

เปลวไฟสีแดงเข้มที่กลืนกินอากาศและส่งเสียงร้องตามสายลม ติดอยู่ในเปลวไฟสีน้ำเงินที่ฉันปล่อยออกมา……แล้วหายไป 

 

ไฟปลอมอย่างงั้นสินะ

นั่นเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน เปลวไฟของฉันเป็นแค่ของโชว์ มันไม่ร้อนเลยสักนิด

 

ทว่า 「คิ」ที่ถูกปล่อยออกมาด้วยนั้นแตกต่างออกไป?

ไม่ใช่ภาพลวงตาหรืออะไรแบบนั้น

 

 ――『ทะ、ทำไม……ระ、รอก่อน!』 

 

“รองั้นเหรอ”

 

ลูกเตะที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟปลอมสีน้ำเงินปะทะเข้ากับดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์ที่ยังคงพ่นไฟอยู่

 

  เปรี๊ยง

 

ชิ้นส่วนสีแดงแตกออกจากกันและกระจายไปทั่ว ――โฮร่า เห็นไหม ช่างเปราะบาง เพราะว่ามันยังเป็นแค่ก้อนแร่ที่ยังไม่ได้เจียระไน

 

 ――『บะ、บิ่นงั้นเรออออ!? ใบดาบของข้าหัก!? ทำไมกัน หรือว่าลูกหมาอย่างเจ้าเองก็เป็นดาบศักดิ์สิทธิ์งั้นเรอะ!?』

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้มีประสบการณ์การต่อสู้มากนัก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอารมณ์เสียมาก

 

“ทำให้หมดหวังรึไง”

 

เดาว่าลิวิเซลยังไม่รู้ตัวว่าดาบศักดิ์สิทธิ์เสียหาย เขาปรับท่าทางราวกับกำลังเตรียมตัว

ในระหว่างนั้นฉันก็หยุดแล้วพูด

 

คำพูดไม่ได้วส่งไปถึงใคร

นอกซะจากดาบศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันเชื่อมต่อกับจิตใจของฉันอยู่

 

“ถ้าคุณร้องขอชีวิต ฉันจะยกโทษให้คุณ แต่ถ้าคุณพยายามวิ่งหนี ฉันจะหักคุณโดยไม่ถาม ――สงสัยคงจะลืมไปแล้วสิน๊า?”

 

 ――『ยะ 、อย่ามาพูดบ้า ๆ ……ข้าไม่ชอบใจเลยที่เจ้าพูดเหมือนชนะไปแล้ว ทั้งที่เป็นแค่ลูกหมาแท้ ๆ! ข้าจะเผาเจ้าที่นี่ให้ได้! ด้วยพลังทั้งหมดของข้า!』

 

“ช่างโง่เขลา”

 

 ――『นี่มันอะไรกัน!?』

 

“มันสายเกินไปที่จะตัดสินใจ ถ้าเป็นการการประลองที่จริงจัง นายก็แพ้ไปแล้ว”

 

ลิวิเซลซึ่งไม่รู้เกี่ยวกับการสงครามน้ำลายครั้งนี้ วิ่งเข้ามาด้วยความเร็ว

เปลวไฟของดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์ มันส่องแสงสีขาวทะลุผ่านสีแดง

 

ดูเหมือนจะเป็นการปลดปล่อยค่อนข้างสูงเลย

ที่เห็นมันวูบวาบเหมือนหมอกควัน

 

 ――『หนวกหูโว๊ยยยยย!! …กรี๊ดดดดดดดดดด…!?』

 

เปรี๊ยง

 

ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ไฟลุกโชนถูกเหวี่ยงลงมาจากด้านบนด้วยพลังทั้งหมด ฉันเตะสวนขึ้นไป

 

ใบมีดสีขาวที่ดูเหมือนมันจะลุกเป็นไฟ ผสมกับเปลวไฟปลอมสีน้ำเงินแล้วหายไป

นอกจากนี้ ก็ยังมีชิ้นส่วนของดาบสีแดงแตกกระจายไปทั่ว

 

 

 

ลิวิเซล ผู้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อให้เป็นราชาองค์ต่อไปอย่างเป็นทางการ และ นักเรียนต่างชาติจากต่างประเทศ กลายเป็นกาารประลองคู่ที่มีชื่อเสียงที่จะถูกพูดถึงไปอีกนาน

 

เนื้อหาของการต่อสู้ที่รุนแรงที่ครอบคลุมถึงหน้าหกสิบเอ็ด「เส้นทางแห่งราชามาเวเลียองค์ที่สามสิบห้า」หนังสือประวัติศาสตร์ซึ่งเขียนโดยผู้เชี่ยวชาญในยุคต่อไป

 

เนื้อหามีดังนี้

 

ราชาองค์ต่อไป ลิวิเซลได้ขึ้นขับเครื่องประจำตัวของผู้บัญชาการ「สุนัขปีศาจเรดแลนด์」พร้อมดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์ เขาได้รับความเสียหายมากมายจนไม่มีตรงไหนของชุดเกราะที่ไม่เสียหาย และสูญเสียแขนไปหนึ่งข้าง พวกเขาต่อสู้กันอย่างรุนแรงจนไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป

 

ดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์ซึ่งยังคงเพิ่มเปลวไฟอันโหมกระหน่ำ ตอบสนองต่อวิญญาณที่ไม่ธรรมดาของลิวิเซล และต่อสู้เคียงข้างกัน พวกเขาต่อสู้อย่างสุดกำลังจนดาบยักษ์แตกออก

 

ในทางกลับกัน นักเรียนต่างชาติจากต่างประเทศ เนีย・ลิสตัน ผู้ใช้หมัดเปลวไฟสีน้ำเงินก็ต่อสู้จนถึงที่สุดเช่นกัน แม้ว่าร่างกายของเธอจะถูกโจมตีและบาดเจ็บก็ตาม

มีหลายคนที่หลงใหลในเทคนิคศิลปะการต่อสู้อันลึกลับของเธอที่สามารถปล่อยเปลวไฟสีน้ำเงินได้ และทักษะที่สวยงามด้วยเปลวไฟสีน้ำเงิน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงสุดท้ายที่คลื่นเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีน้ำเงินราชามังกรแห่งการทำลายล้างราชาแห่งความตายได้กลืนกินเปลวไฟของดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์ ――เมื่อมังกรสีน้ำเงินตัวใหญ่ที่สร้างขึ้นจากเปลวไฟมาถึงเรดแลนด์ ทุกคนต่างก็พูดไม่ออกและได้แต่จับจองไปที่ภาพตรงหน้า

 

หากดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจ ออเดอร์ไม่ได้ใบดาบเกินครึ่งในการปกป้องเรดแลนด์ ราชาอาจจะถูกเผนก่อนที่จะทันได้นั่งลงบนบัลลังก์

 

ขาทั้งสองข้างของเรดแลนด์ได้รับความเสียหาย ในขณะที่เนีย・ลิสตันเองก็มาถึงขีดจำกัดของตนเองและทรุดลงคุกเข่า

ลิวิเซลซึ่งไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป ก็ประสบความพ่ายแพ้ในเสี้ยววินาทีอย่างน่าผิดหวัง 

 

ความพ่ายแพ้ของราชาองค์ต่อไป

ยังไงก็ตาม มันเป็นผลมาจากการต่อสู้ที่รุนแรงซึ่งหาได้ยากในประวัติศาสตร์

 

บรรดาผู้ชมที่ได้รับชมการแข่งขันที่พวกเขาทุ่มเททุกอน่างลงไปอย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของราชาผู้พ่ายแพ้ ลิวิเซล ไม่มีแม้แต่เสียงเยาะเย้ยดังขึ้นมาด้วยซ้ำ

ในทาวตรงกันข้าม บางคนถึงกับแสดงความโกรธต่อคำใส่ร้ายของคนที่ไม่ได้เห็นมัน

 

และ เนีย・ลิสตันเองซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ก็ได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลามเช่นกัน

 

 

 

“――ยะ ยินดีต้องรับกลับค่ะ คุณหนู! เป็นอะไรไหมคะ!?”

 

ริโนกิสซึ่งยังอยู่ในทางเดินที่ฉันใช้ก่อนหน้านี้ ตามที่คาดไว้ เธอดูกังวลมองตรงมาที่ฉันเมื่อฉันกลับมา เหมือนกับตอนต้นไม้โลกเลย

 

“อืม ไม่เป็นไรเลยสักนิด”

 

ถึงแขนเสื้อจะขาดเป็นชิ้น ๆ ถึงเสื้อเบลาส์จะถูกับพื้นจนทำให้เกิดรู และกระโปรงก็มีรอยกรีดลึกจนแทบขาดออกจากกัน

ผมและร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่น และแขนซ้ายมีรอยไหม้ มีเลือดออกจากแทบทุกที่

 

――ม๊า ทั้งหมดนี้เรียกว่า「รอยแผลเกียรติยศ」กับ「คราบเกียรติยศ」ล่ะนะ มันไม่ได้แย่อย่างที่คิดด้วย

 

เป็นไง คงจะเป็นเพียงรูปลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกถึงการต่อสู้จนตายใช่ไหม

 

“เป็นยังไง? เป็นการล็อคผลการแข่งขันที่ดีเลยใช่ไหมล่ะ?”

 

“……นั่นเป็นการล็อคผลการแข่งขันจริง ๆ งั้นเหรอคะ? เห็นแล้วรู้สึกแทบไม่เหมือนเลยสำหรับดิฉัน……”

 

อ้า หากมีคำพูดแบบนั้นมาจากริโนกิสที่รู้เรื่องการล็อคผลการแข่งขันอยู่แล้ว ก็แปลว่าไม่เป็นไรล่ะน๊า

 

――ทั้งไม่ต้องดิ้นรนปิดเกม หรือได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นนี่เป็นการล็อคผลการแข่งขันอย่างแน่นอนจริงไหม

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

ไร้สาระ

ได้กินทุเรียนครั้งแรกในรอบหลายปี หลังกินเสร็จคันปากแสบลิ้นจนหมดอารมณ์อร่อย ฮา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด