I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 148 หมายเลข X…

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 148 หมายเลข X... at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงหลานฝืนข่มกลั้นความรู้สึกไม่สบายตัว เธอกัดฟันควบคุมหุ่นรบให้ดึงดาบแสงออกมาจากในห้องคนขับของหุ่นรบฮิงูเระ

การที่หลิงหลานรู้สึกไม่สบายตัวนั้นไม่ใช่เพราะว่านี่เป็นการฆ่าคนครั้งแรกในชีวิตจริงของเธอ หากแต่แรงสะท้อนกลับที่เกิดจากการควบคุมหุ่นรบทำให้ร่างกายน้อยๆ ที่ยังอ่อนแออยู่นิดหน่อยในตอนนี้ของเธอแบกรับไม่ไหวอยู่บ้าง

เสี่ยวซื่อสังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของหลิงหลาน รู้ว่าคือสาเหตุอะไร เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ลูกพี่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เสี่ยวซื่อรู้ว่าการบังคับหุ่นรบจะต้องมีแรงสะท้อนกลับไปยังร่างกายของผู้ควบคุม เขาพยายามสุดความสามารถในการลดการสะท้อนเหล่านั้นให้ต่ำจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว พยายามที่จะไม่ให้ลูกพี่ของตนได้รับบาดเจ็บอะไร

อย่างไรก็ตาม เสี่ยวซื่อคิดไม่ถึงเลยว่า หลิงหลานควบคุมหุ่นรบของจริงครั้งแรกจะแสดงความสามารถได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ โดยเฉพาะท่วงท่าการหลบหลีกปืนใหญ่สุดท้าย แสดงความสามารถเกินมาตรฐานไปแล้ว ทำให้การวิ่งอย่างไร้กฎเกณฑ์ของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงกลายเป็นการวิ่งพุ่งอย่างไร้หลักเกณฑ์ที่มีเพียงผู้ควบคุมไพ่ราชาเท่านั้นที่จะใช้ได้

ความจริงแล้วการวิ่งไร้กฎเกณฑ์กับการวิ่งพุ่งไร้หลักเกณฑ์เป็นทักษะจากต้นกำเนิดเดียวกัน สาเหตุที่มีสองชื่อเป็นเพราะความสูงต่ำของระดับผู้ควบคุม สุดท้ายประสิทธิภาพที่ปรากฏออกมาจึงไม่เหมือนกันเท่านั้น

วิ่งไร้กฎเกณฑ์เป็นทักษะการควบคุมระดับสูงของผู้ควบคุมหุ่นรบ มันเป็นหนึ่งทักษะสำคัญที่นักรบหุ่นรบชั้นสูงและผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษจำเป็นต้องเรียนรู้ ส่วนการวิ่งพุ่งไร้หลักเกณฑ์นั้นเป็นทักษะเฉพาะของผู้ควบคุมไพ่ราชา หรือพูดอีกอย่างก็คือ มีเพียงผู้ควบคุมไพ่ราชาเท่านั้นถึงจะสามารถใช้การวิ่งพุ่งไร้หลักเกณฑ์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ฉีหลงกับอู่จย่งเข้าใจผิดว่าหลิงหลานเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชา ความจริงแล้ว จากความสามารถในการควบคุมของหลิงหลานตอนนี้ เธอไปถึงแค่ระดับนักรบหุ่นรบชั้นสูง อย่างมากก็ย่างเข้าสู่ระดับผู้ควบคุมระดับพิเศษแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น

ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดว่า การปรากฏตัวของการวิ่งพุ่งไร้หลักเกณฑ์เป็นผลจากการที่หลิงหลานควบคุมข้ามขั้นโดยไม่คาดฝัน

แน่นอนว่าการควบคุมข้ามขั้นได้สร้างความเสียหายต่อร่างกายของหลิงหลานอย่างยิ่งยวดเช่นกัน ถึงแม้ว่าเสี่ยวซื่อจะลดแรงสะท้อนพวกนี้ให้ต่ำที่สุดแล้ว แต่มันยังคงทำให้ร่างกายของหลิงหลานเกิดการบาดเจ็บในระดับหนึ่ง

“ไม่เป็นไร ความเจ็บปวดยิ่งกว่านี้ฉันยังเคยทนมาได้เลย นี่นับว่าเป็นอะไร?” หลิงหลานปลอบเสี่ยวซื่อ ถึงแม้ว่าสีหน้าซีดเผือดของเธอจะทำให้คนกังวลใจ แต่ว่าสีหน้ากลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย ราวกับว่าไม่มีความเจ็บปวดบนร่างกายอยู่เลยก็ไม่ปาน

ความจริงแล้ว นับตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจควบคุมหุ่นรบ ก็ทำใจเรื่องได้รับบาดเจ็บเอาไว้แล้ว ควรรู้ไว้ว่าสำหรับเด็กที่อายุไม่ครบ 13 ปี ต่อให้ร่างกายจะแข็งแรงอีกสักแค่ไหน ลึกๆ แล้วก็ยังไม่สามารถต้านทานแรงสะท้อนที่หุ่นรบส่งกลับมาได้ นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สหพันธรัฐห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีลงไปเรียนรู้การควบคุมหุ่นรบ

แน่นอนว่า คำพูดที่หลิงหลานปลอบใจเสี่ยวซื่อก็เป็นความจริงเช่นกัน เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในตอนที่อาการกำเริบในชาติก่อนแล้ว ความเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ ในตอนนี้แตกต่างราวฟ้ากับดินจริงๆ ไม่มีค่าพอให้พูดถึง

“นอกจากนี้ นายยังช่วยฉันลดแรงสะท้อนไปมาก ปกป้องคุ้มครองฉันดีมากเลย ดังนั้นฉันเลยไม่เป็นไร ขอบใจนะเสี่ยวซื่อ!” หลิงหลานขอบคุณสำหรับความพยายามของเสี่ยวซื่อด้วยความจริงใจ ไม่อย่างนั้นสภาพร่างกายของเธออาจจะแย่ยิ่งกว่านี้

“ลูกพี่ ฉันไม่รับกระสุนเคลือบน้ำตาลของเธอแน่นอน…” เสี่ยวซื่อหน้าบานเป็นกระด้ง ยิ้มแย้มราวกับดอกไม้บาน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ลืมอธิบายจุดยืนของเขาให้ชัดเจนแน่วแน่ ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ที่มีหลักการ เขาจะถูกคนซื้อง่ายขนาดนี้ได้ยังไง

หลิงหลานไม่สนใจท่าทีซึนเดเระของเสี่ยวซื่อในตอนนี้ เธอค้นหาบริเวณรอบด้านอย่างรวดเร็ว ไม่นานก้หาตำแหน่งที่พวกฉีหลงซ่อนตัวเจอ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เป็นไรก็โล่งใจทันที

หลิงหลานเก็บดาบแสงกลับไปห้อยไว้ที่ด้านหลังอย่างเรียบร้อย มีดคลื่นแม่เหล็กในมือขวาเสียบกลับไปที่ข้างต้นหาด้านนอกหุ่นรบอีกครั้ง ในขณะที่ใคร่ครวญว่าจะเข้าไปทักทายพวกฉีหลงดีหรือไม่นั้น จู่ๆ เสี่ยวซื่อก็ทำหน้าเครียด เอ่ยปากเตือนว่า “ลูกพี่ หุ่นรบฮิงูเระที่บินไปเมื่อตะกี้นี้บินกลับมาแล้ว ห่างจากพวกเราประมาณไม่ถึงสองเมตร”

หลิงหลานได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็ตึงเครียดขึ้นมา ถึงแม้ว่าเธอจะทำการเตรียมตัวเรื่องแบบนี้เอาไว้แต่แรกแล้ว แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมาจริงๆ เธอก็ยังรู้สึกเครียดขึ้นมาเล็กน้อย

“ซ่อนตัวให้ดี อย่าออกมานะ!” หลิงหลานทิ้งคำพูดประโยคนี้เอาไว้แล้วก็บังคับหุ่นรบให้บินไปอีกทางโดยไม่ลังเล เตรียมตัวเว้นระยะห่างกับพื้นที่แห่งนี้ หลิงหลานไม่อยากให้การต่อสู้ในเวลาต่อมาทำร้ายพวกฉีหลงได้ ไม่อย่างนั้นการที่เธอรีบมาช่วยเหลือก็ไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว

พวกฉีหลงที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าได้ยินเสียงเย็นกระจ่างใสดังเข้ามาที่หู ในใจพวกเขาก็ตื่นตระหนกโดยพลัน ความคิดที่อยากคลานออกมาแต่เดิมนั้นนั้นหายไปทันที พวกเขาหมอบอยู่ที่จุดซ่อนตัวของตนเอง ไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวเลยแม้แต่น้อย

“นั่นมันหุ่นรบของฮิงูเระนี่ หุ่นรบสองตัวที่เพิ่งไปเมื่อตะกี้นี้กลับมาอีกแล้ว ทุกคนระวังอย่าให้ถูกพบตัวได้นะ!” ตำแหน่งที่อู่จย่งซ่อนตัวสามารถมองเห็นหุ่นรบบนท้องฟ้าบินเข้ามาอย่างรวดเร็วได้พอดี เขาเอ่ยเสียงเบาเตือนให้ทุกคนระวังตัวไว้ ตอนนี้พวกฉีหลงเข้าใจเหตุผลที่หุ่นรบของสหพันธรัฐตัวนั้นเตือนพวกเขาและบินจากไปอย่างรวดเร็วแล้ว

“เขาทำเพื่อช่วยพวกเรา ถึงได้ล่อหุ่นรบสองตัวนั้นไปเหรอ?” ใบหน้าของหลินจงชิงเผยความรู้สึกสับสนออกมา มันมีความซาบซึ้งใจ ความเคารพ และก็มีร่องรอยความงุนงงสับสนอยู่เล็กน้อย

“เขาเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชา เขาจะต้องล้มหุ่นรบสองตัวนั้นได้แน่นอน” ลั่วล่างกำหมัดแน่น พูดโน้มน้าวหลินจงชิง ในขณะเดียวกันก็โน้มน้าวตัวเองเช่นกัน

“จะได้เหรอ? อย่าบอกฉันนะว่านายมองไม่เห็นหมายเลขบนแขนหุ่นรบสามตัวนั้น” เยี่ยซวี่รู้สึกหดหู่ใจ ในฐานะที่เขาเป็นเด็กในระบบทหารรัฐบาล พวกเขารู้ข้อมูลเรื่องหุ่นรบของประเทศตัวเองและประเทศศัตรูดี รู้เยอะกว่าหลิงหลานที่มาจากต่างมิติอย่างชัดเจน

คำพูดของเยี่ยซวี่ทำให้ทุกคนเงียบกริบ มีเพียงหลินจงชิงที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง เขามองฉีหลงและก็มองหานจี้จวิน หวังว่าพวกเขาจะอธิบายข้อสงสัยให้เขาได้ ในฐานะที่เขาเป็นชาวบ้านยากจน เขาไม่รู้เรื่องข้อมูลทางทหารพวกนี้เลย

ฉีหลงที่เดิมทีทำตัวห้าวๆ พูดมากกลับเงียบเชียบตรงกันข้ามกับท่าทีในยามปกติ ถึงขนาดที่ใบหน้าเผยความรู้สึกงุนงง ใคร่ครวญเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ หานจี้จวินมองเขาด้วยความไม่เข้าใจแวบหนึ่ง ก่อนจะพบว่าความสนใจของฉีหลงไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปากอธิบายว่า “ระดับของผู้ควบคุมหุ่นรบของฮิงูเระดูได้บนหมายเลขที่แขนของเขา หมายเลขของพวกหุ่นรบเมื่อตะกี้นี้ขึ้นต้นด้วย X นั่นหมายความว่า พวกเขามาจากหน่วยหุ่นรบไพ่ราชา!”

“ไพ่ราชา?” หลินจงชิงจับจุดสำคัญได้

หานจี้จวินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มขื่น คราวนี้หลินจงชิงเข้าใจแล้ว สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นมาทันที…

ผู้มีพระคุณของพวกเขาจะถูกเด็ดปีกตรงนี้เหรอ? ทุกคนรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา

…..

“หัวหน้า ฉันเจอหุ่นรบของโกโต้คุงแล้ว ห้องคนขับของโกโต้คุงมีรูขนาดใหญ่ ดูท่าจะพลีชีพแล้ว ฉันวิเคราะห์ดูแล้ว นี่น่าจะมาจากการแทงโดยดาบแสงของหุ่นรบ…” ผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุค้นเจอจุดที่ฝังศพโกโต้คุงไว้ รูปถ่ายที่ซูมเข้าชัดเจนมาก มองแวบเดียวก็รู้ว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาเสียชีวิตยังไงง

“บากะยาโร่ว![1]” หน้าผากของหัวหน้าทีมมีเส้นเลือดปูดโปง เขากัดฟันสบถออกมา โมโหที่มีคนสังหารลูกน้องของเขาภายใต้สายตาเขา นี่ทำให้เขารู้สึกอับอายมาก

“หัวหน้า ทางนั้นมีหุ่นรบอยู่….เป็นของสหพันธรัฐ” เวลานี้ผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุขยายขอบเขตในการค้นหาแล้ว ไม่นานมันก็ทำให้เขาพบหลิงหลานที่กำลังบินในระดับต่ำอยู่

“ต้องเป็นหมอนั่นที่ฆ่าโกโต้คุงแน่นอน พวกเราต้องฆ่าเขามาล้างความอับอายของเราให้ได้ ตาม!” หัวหน้าทีมหันหัวหุ่นรบ บินไปหาหุ่นรบตัวนั้นด้วยใบหน้าเดือดดาล ชิกามารุที่อยู่ด้านหลังมีปฏิกิริยารวดเร็วสุดขีด เขารีบบังคับหุ่นรบตามไป

หุ่นรบของหลิงหลานบินโดยไม่ได้ปิดบังตัว ความเร็วก็ไม่ได้เร็วมากเช่นกัน สาเหตุที่เธอทำแบบนี้เป็นเพราะว่าเพื่อจะล่อหุ่นรบสองตัวนั้นให้ออกจากเขตพื่นที่ที่พวกฉีหลงซ่อนตัวอยู่ หลิงหลานรู้ดีว่า การต่อสู้กับหุ่นรบไพ่ราชาสองตัวจำเป็นต้องทุ่มเทสุดชีวิต เวลานั้นเธอจะไม่มีเวลาสนใจสถานการณ์รอบด้านเลย ดังนั้นเธอต้องออกห่างจากตำแหน่งของพวกฉีหลงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ทำร้ายพวกเขา ยิ่งไกลยิ่งดี

ภาพที่เสี่ยวซื่อส่งไปมาทำให้หลิงหลานรู้ว่าหุ่นรบสองตัวนี้ตามมาเหมือนกับที่เธอคาดหวังไว้ หลิงหลานค่อยเร่งความเร็วของหุ่นรบขึ้นหลายเท่า เครื่องยนต์หลักสองตัวส่งเสียงดังสนั่นพร้อมกัน หุ่นรบพุ่งออกไปเป็นแสงสายหนึ่งอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวมันก็บินไปได้หนึ่งพันเมตร

“ชิกามารุคุง เร่งความเร็วเข้า อีกฝ่ายสังเกตเห็นพวกเราแล้ว” หัวหน้าทีมเห็นหุ่นรบสหพันธรัฐเร่งความเร็วหนี ก็รู้ว่าอีกฝ่ายพบร่องรอยของพวกเขาแล้ว

“ไฮ้!” หุ่นรบของฮิงูเระสองตัวเร่งความเร็วขึ้นมาพร้อมกัน พุ่งไปหาหลิงหลานอย่างคลุ้มคลั่ง ไล่กัดเธอราวกับสุนัขบ้าสองตัวก็ไม่ปาน

เนื่องจากหลิงหลานเก็บแรงขับเคลื่อนไว้ ไม่ได้เร่งความเร็วของหุ่นรบจนถึงขีดสุด ดังนั้นผ่านไปประมาณสิบวินาที เธอก็ถูกหุ่นรบด้านหลังไล่ตามทัน

“ชิกามารุคุง ซุ่มยิงบนชั้นอากาศสูง” เมื่อเข้าสู่ขอบเขตการซุ่มยิง หัวหน้าทีมก็รีบสั่งการทันที เขาปรารถนาให้ลูกน้องทำลายผู้ควบคุมหุ่นรบสารเลวนั่นในนัดเดียว

“ไฮ้!” เดิมทีผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุก็เป็นยอดฝีมือด้านการซุ่มยิง เขาบังคับหุ่นรบให้บินอย่างมั่นคงไปพลาง ยกปืนไรเฟิลในมือหุ่นรบไปพลาง หลังจากที่ล็อกเป้าหลิงหลานซึ่งกำลังบินอยู่ทางด้านหน้าแล้ว เขาก็กดปุ่มยิงอย่างเฉียบขาด

“ลูกพี่ พวกเราถูกล็อกเป้าหมายแล้ว” ฝ่ายตรงข้ามเพิ่งจะล็อกเป้าที่หุ่นรบของหลิงหลาน เสี่ยวซื่อก็เอ่ยเตือนหลิงหลานขึ้นมา

จากนั้นก็เห็นนิ้วมือของหลิงหลานโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง หน้าผาก ปลายจมูกของหลิงหลานหลั่งเหงื่อออกมาอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็เกาะตัวหยดลงมาตรงๆ…

ทันใดนั้นหุ่นรบก็บิดร่างราวกับปลาที่ลงไปในน้ำก็ไม่ปาน วาดเป็นรูปโค้งอย่างน่าประหลาด หลบลูกปืนใหญ่ที่ยิงมาได้พอดี!

“บินไร้กฎเกณฑ์! บัดซบ!” ผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุโจมตีพลาดเป้าก็หงุดหงิดมาก เขาเองก็บินไร้กฎเกณฑ์เป็น แต่ว่าคำนวณการตกของลูกปืนได้แม่นยำขนาดนี้ เขาก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกนี่แหละ

ชิกามารุไม่รู้ว่า คนที่คำนวณการตกของลูกปืนได้แม่นยำไม่ใช่ผู้ควบคุมหุ่นรบคนนั้น หากแต่เป็นเสี่ยวซื่อที่คำนวณแทนออปติคัลคอมพิวเตอร์ด้านในชั่วคราว แน่นอนว่านี่ก็เป็นเพราะการรู้ใจกันอย่างสุดขีดในการประสานความร่วมมือของหลิงหลานกับเสี่ยวซื่อ ไม่อย่างนั้นถ้าโชคร้าย มีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกโจมตี ทั้งหุ่นรบและคนต่างถูกทำลายทันที

ถึงแม้ว่าหลิงหลานจะหลบการซุ่มยิงของผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุได้หลายครั้ง แต่ในขณะเดียวกันเธอถูกอีกฝ่ายหน่วงเหนี่ยวไว้ หุ่นรบหัวหน้าทีมที่ไล่ตามเธอมาตลอดอยู่ห่างจากหลิงหลานไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรแล้ว จากนั้นก็เห็นอีกฝ่ายชูปืนใหญ่เลเซอร์ในมือขึ้นมาด้วยความอำมหิตอย่างยิ่ง ก่อนจะจ่อไปยังหลิงหลานที่กำลังหลบการซุ่มโจมตีของชิกามารุ เตรียมตัวเล็งเป้ายิงใส่หลิงหลาน

“ลูกพี่ หุ่นรบอีกตัวก็คิดจะโจมตีพวกเราเหมือนกัน” เสี่ยวซื่อเอ่ยเตือนด้วยความเคร่งเครียด

“แย่แล้ว!” หลิงหลานยังมีความทั่นใจว่าสามารถหลบการลอบยิงของหุ่นรบหนึ่งตัวได้ แต่ถ้าหุ่นรบสองตัวมาพร้อมกัน หลิงหลานก็ไม่มีความมั่นใจแล้วเหมือนกัน

หลิงหลานเพิ่งจะกล่าวจบ ความเร็วมือในการควบคุมของเธอก็เพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง เวลานี้มองไม่เห็นเค้าโครงนิ้วมือของหลิงหลานแล้ว และก็ดูไม่ออกว่าเธอสัมผัสปุ่มไหนบ้าง มีเพียงเงาของนิ้วมือที่อยู่เต็มแผงควบคุม งดงามและเลือนรางราวกับดอกไม้ที่ผลิบานไปทีละดอก

…………………………………………………….

[1] คำด่าในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง ไอ้เวร ไอ้บัดซบ

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 148 หมายเลข X…

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 148 หมายเลข X... at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงหลานฝืนข่มกลั้นความรู้สึกไม่สบายตัว เธอกัดฟันควบคุมหุ่นรบให้ดึงดาบแสงออกมาจากในห้องคนขับของหุ่นรบฮิงูเระ

การที่หลิงหลานรู้สึกไม่สบายตัวนั้นไม่ใช่เพราะว่านี่เป็นการฆ่าคนครั้งแรกในชีวิตจริงของเธอ หากแต่แรงสะท้อนกลับที่เกิดจากการควบคุมหุ่นรบทำให้ร่างกายน้อยๆ ที่ยังอ่อนแออยู่นิดหน่อยในตอนนี้ของเธอแบกรับไม่ไหวอยู่บ้าง

เสี่ยวซื่อสังเกตเห็นท่าทีผิดปกติของหลิงหลาน รู้ว่าคือสาเหตุอะไร เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ลูกพี่ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เสี่ยวซื่อรู้ว่าการบังคับหุ่นรบจะต้องมีแรงสะท้อนกลับไปยังร่างกายของผู้ควบคุม เขาพยายามสุดความสามารถในการลดการสะท้อนเหล่านั้นให้ต่ำจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว พยายามที่จะไม่ให้ลูกพี่ของตนได้รับบาดเจ็บอะไร

อย่างไรก็ตาม เสี่ยวซื่อคิดไม่ถึงเลยว่า หลิงหลานควบคุมหุ่นรบของจริงครั้งแรกจะแสดงความสามารถได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ โดยเฉพาะท่วงท่าการหลบหลีกปืนใหญ่สุดท้าย แสดงความสามารถเกินมาตรฐานไปแล้ว ทำให้การวิ่งอย่างไร้กฎเกณฑ์ของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสูงกลายเป็นการวิ่งพุ่งอย่างไร้หลักเกณฑ์ที่มีเพียงผู้ควบคุมไพ่ราชาเท่านั้นที่จะใช้ได้

ความจริงแล้วการวิ่งไร้กฎเกณฑ์กับการวิ่งพุ่งไร้หลักเกณฑ์เป็นทักษะจากต้นกำเนิดเดียวกัน สาเหตุที่มีสองชื่อเป็นเพราะความสูงต่ำของระดับผู้ควบคุม สุดท้ายประสิทธิภาพที่ปรากฏออกมาจึงไม่เหมือนกันเท่านั้น

วิ่งไร้กฎเกณฑ์เป็นทักษะการควบคุมระดับสูงของผู้ควบคุมหุ่นรบ มันเป็นหนึ่งทักษะสำคัญที่นักรบหุ่นรบชั้นสูงและผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษจำเป็นต้องเรียนรู้ ส่วนการวิ่งพุ่งไร้หลักเกณฑ์นั้นเป็นทักษะเฉพาะของผู้ควบคุมไพ่ราชา หรือพูดอีกอย่างก็คือ มีเพียงผู้ควบคุมไพ่ราชาเท่านั้นถึงจะสามารถใช้การวิ่งพุ่งไร้หลักเกณฑ์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ฉีหลงกับอู่จย่งเข้าใจผิดว่าหลิงหลานเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชา ความจริงแล้ว จากความสามารถในการควบคุมของหลิงหลานตอนนี้ เธอไปถึงแค่ระดับนักรบหุ่นรบชั้นสูง อย่างมากก็ย่างเข้าสู่ระดับผู้ควบคุมระดับพิเศษแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น

ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดว่า การปรากฏตัวของการวิ่งพุ่งไร้หลักเกณฑ์เป็นผลจากการที่หลิงหลานควบคุมข้ามขั้นโดยไม่คาดฝัน

แน่นอนว่าการควบคุมข้ามขั้นได้สร้างความเสียหายต่อร่างกายของหลิงหลานอย่างยิ่งยวดเช่นกัน ถึงแม้ว่าเสี่ยวซื่อจะลดแรงสะท้อนพวกนี้ให้ต่ำที่สุดแล้ว แต่มันยังคงทำให้ร่างกายของหลิงหลานเกิดการบาดเจ็บในระดับหนึ่ง

“ไม่เป็นไร ความเจ็บปวดยิ่งกว่านี้ฉันยังเคยทนมาได้เลย นี่นับว่าเป็นอะไร?” หลิงหลานปลอบเสี่ยวซื่อ ถึงแม้ว่าสีหน้าซีดเผือดของเธอจะทำให้คนกังวลใจ แต่ว่าสีหน้ากลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย ราวกับว่าไม่มีความเจ็บปวดบนร่างกายอยู่เลยก็ไม่ปาน

ความจริงแล้ว นับตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจควบคุมหุ่นรบ ก็ทำใจเรื่องได้รับบาดเจ็บเอาไว้แล้ว ควรรู้ไว้ว่าสำหรับเด็กที่อายุไม่ครบ 13 ปี ต่อให้ร่างกายจะแข็งแรงอีกสักแค่ไหน ลึกๆ แล้วก็ยังไม่สามารถต้านทานแรงสะท้อนที่หุ่นรบส่งกลับมาได้ นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สหพันธรัฐห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีลงไปเรียนรู้การควบคุมหุ่นรบ

แน่นอนว่า คำพูดที่หลิงหลานปลอบใจเสี่ยวซื่อก็เป็นความจริงเช่นกัน เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในตอนที่อาการกำเริบในชาติก่อนแล้ว ความเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ ในตอนนี้แตกต่างราวฟ้ากับดินจริงๆ ไม่มีค่าพอให้พูดถึง

“นอกจากนี้ นายยังช่วยฉันลดแรงสะท้อนไปมาก ปกป้องคุ้มครองฉันดีมากเลย ดังนั้นฉันเลยไม่เป็นไร ขอบใจนะเสี่ยวซื่อ!” หลิงหลานขอบคุณสำหรับความพยายามของเสี่ยวซื่อด้วยความจริงใจ ไม่อย่างนั้นสภาพร่างกายของเธออาจจะแย่ยิ่งกว่านี้

“ลูกพี่ ฉันไม่รับกระสุนเคลือบน้ำตาลของเธอแน่นอน…” เสี่ยวซื่อหน้าบานเป็นกระด้ง ยิ้มแย้มราวกับดอกไม้บาน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ลืมอธิบายจุดยืนของเขาให้ชัดเจนแน่วแน่ ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ที่มีหลักการ เขาจะถูกคนซื้อง่ายขนาดนี้ได้ยังไง

หลิงหลานไม่สนใจท่าทีซึนเดเระของเสี่ยวซื่อในตอนนี้ เธอค้นหาบริเวณรอบด้านอย่างรวดเร็ว ไม่นานก้หาตำแหน่งที่พวกฉีหลงซ่อนตัวเจอ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่เป็นไรก็โล่งใจทันที

หลิงหลานเก็บดาบแสงกลับไปห้อยไว้ที่ด้านหลังอย่างเรียบร้อย มีดคลื่นแม่เหล็กในมือขวาเสียบกลับไปที่ข้างต้นหาด้านนอกหุ่นรบอีกครั้ง ในขณะที่ใคร่ครวญว่าจะเข้าไปทักทายพวกฉีหลงดีหรือไม่นั้น จู่ๆ เสี่ยวซื่อก็ทำหน้าเครียด เอ่ยปากเตือนว่า “ลูกพี่ หุ่นรบฮิงูเระที่บินไปเมื่อตะกี้นี้บินกลับมาแล้ว ห่างจากพวกเราประมาณไม่ถึงสองเมตร”

หลิงหลานได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็ตึงเครียดขึ้นมา ถึงแม้ว่าเธอจะทำการเตรียมตัวเรื่องแบบนี้เอาไว้แต่แรกแล้ว แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมาจริงๆ เธอก็ยังรู้สึกเครียดขึ้นมาเล็กน้อย

“ซ่อนตัวให้ดี อย่าออกมานะ!” หลิงหลานทิ้งคำพูดประโยคนี้เอาไว้แล้วก็บังคับหุ่นรบให้บินไปอีกทางโดยไม่ลังเล เตรียมตัวเว้นระยะห่างกับพื้นที่แห่งนี้ หลิงหลานไม่อยากให้การต่อสู้ในเวลาต่อมาทำร้ายพวกฉีหลงได้ ไม่อย่างนั้นการที่เธอรีบมาช่วยเหลือก็ไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว

พวกฉีหลงที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าได้ยินเสียงเย็นกระจ่างใสดังเข้ามาที่หู ในใจพวกเขาก็ตื่นตระหนกโดยพลัน ความคิดที่อยากคลานออกมาแต่เดิมนั้นนั้นหายไปทันที พวกเขาหมอบอยู่ที่จุดซ่อนตัวของตนเอง ไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวเลยแม้แต่น้อย

“นั่นมันหุ่นรบของฮิงูเระนี่ หุ่นรบสองตัวที่เพิ่งไปเมื่อตะกี้นี้กลับมาอีกแล้ว ทุกคนระวังอย่าให้ถูกพบตัวได้นะ!” ตำแหน่งที่อู่จย่งซ่อนตัวสามารถมองเห็นหุ่นรบบนท้องฟ้าบินเข้ามาอย่างรวดเร็วได้พอดี เขาเอ่ยเสียงเบาเตือนให้ทุกคนระวังตัวไว้ ตอนนี้พวกฉีหลงเข้าใจเหตุผลที่หุ่นรบของสหพันธรัฐตัวนั้นเตือนพวกเขาและบินจากไปอย่างรวดเร็วแล้ว

“เขาทำเพื่อช่วยพวกเรา ถึงได้ล่อหุ่นรบสองตัวนั้นไปเหรอ?” ใบหน้าของหลินจงชิงเผยความรู้สึกสับสนออกมา มันมีความซาบซึ้งใจ ความเคารพ และก็มีร่องรอยความงุนงงสับสนอยู่เล็กน้อย

“เขาเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชา เขาจะต้องล้มหุ่นรบสองตัวนั้นได้แน่นอน” ลั่วล่างกำหมัดแน่น พูดโน้มน้าวหลินจงชิง ในขณะเดียวกันก็โน้มน้าวตัวเองเช่นกัน

“จะได้เหรอ? อย่าบอกฉันนะว่านายมองไม่เห็นหมายเลขบนแขนหุ่นรบสามตัวนั้น” เยี่ยซวี่รู้สึกหดหู่ใจ ในฐานะที่เขาเป็นเด็กในระบบทหารรัฐบาล พวกเขารู้ข้อมูลเรื่องหุ่นรบของประเทศตัวเองและประเทศศัตรูดี รู้เยอะกว่าหลิงหลานที่มาจากต่างมิติอย่างชัดเจน

คำพูดของเยี่ยซวี่ทำให้ทุกคนเงียบกริบ มีเพียงหลินจงชิงที่ไม่เข้าใจอยู่บ้าง เขามองฉีหลงและก็มองหานจี้จวิน หวังว่าพวกเขาจะอธิบายข้อสงสัยให้เขาได้ ในฐานะที่เขาเป็นชาวบ้านยากจน เขาไม่รู้เรื่องข้อมูลทางทหารพวกนี้เลย

ฉีหลงที่เดิมทีทำตัวห้าวๆ พูดมากกลับเงียบเชียบตรงกันข้ามกับท่าทีในยามปกติ ถึงขนาดที่ใบหน้าเผยความรู้สึกงุนงง ใคร่ครวญเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ หานจี้จวินมองเขาด้วยความไม่เข้าใจแวบหนึ่ง ก่อนจะพบว่าความสนใจของฉีหลงไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปากอธิบายว่า “ระดับของผู้ควบคุมหุ่นรบของฮิงูเระดูได้บนหมายเลขที่แขนของเขา หมายเลขของพวกหุ่นรบเมื่อตะกี้นี้ขึ้นต้นด้วย X นั่นหมายความว่า พวกเขามาจากหน่วยหุ่นรบไพ่ราชา!”

“ไพ่ราชา?” หลินจงชิงจับจุดสำคัญได้

หานจี้จวินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มขื่น คราวนี้หลินจงชิงเข้าใจแล้ว สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดขึ้นมาทันที…

ผู้มีพระคุณของพวกเขาจะถูกเด็ดปีกตรงนี้เหรอ? ทุกคนรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมา

…..

“หัวหน้า ฉันเจอหุ่นรบของโกโต้คุงแล้ว ห้องคนขับของโกโต้คุงมีรูขนาดใหญ่ ดูท่าจะพลีชีพแล้ว ฉันวิเคราะห์ดูแล้ว นี่น่าจะมาจากการแทงโดยดาบแสงของหุ่นรบ…” ผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุค้นเจอจุดที่ฝังศพโกโต้คุงไว้ รูปถ่ายที่ซูมเข้าชัดเจนมาก มองแวบเดียวก็รู้ว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาเสียชีวิตยังไงง

“บากะยาโร่ว![1]” หน้าผากของหัวหน้าทีมมีเส้นเลือดปูดโปง เขากัดฟันสบถออกมา โมโหที่มีคนสังหารลูกน้องของเขาภายใต้สายตาเขา นี่ทำให้เขารู้สึกอับอายมาก

“หัวหน้า ทางนั้นมีหุ่นรบอยู่….เป็นของสหพันธรัฐ” เวลานี้ผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุขยายขอบเขตในการค้นหาแล้ว ไม่นานมันก็ทำให้เขาพบหลิงหลานที่กำลังบินในระดับต่ำอยู่

“ต้องเป็นหมอนั่นที่ฆ่าโกโต้คุงแน่นอน พวกเราต้องฆ่าเขามาล้างความอับอายของเราให้ได้ ตาม!” หัวหน้าทีมหันหัวหุ่นรบ บินไปหาหุ่นรบตัวนั้นด้วยใบหน้าเดือดดาล ชิกามารุที่อยู่ด้านหลังมีปฏิกิริยารวดเร็วสุดขีด เขารีบบังคับหุ่นรบตามไป

หุ่นรบของหลิงหลานบินโดยไม่ได้ปิดบังตัว ความเร็วก็ไม่ได้เร็วมากเช่นกัน สาเหตุที่เธอทำแบบนี้เป็นเพราะว่าเพื่อจะล่อหุ่นรบสองตัวนั้นให้ออกจากเขตพื่นที่ที่พวกฉีหลงซ่อนตัวอยู่ หลิงหลานรู้ดีว่า การต่อสู้กับหุ่นรบไพ่ราชาสองตัวจำเป็นต้องทุ่มเทสุดชีวิต เวลานั้นเธอจะไม่มีเวลาสนใจสถานการณ์รอบด้านเลย ดังนั้นเธอต้องออกห่างจากตำแหน่งของพวกฉีหลงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ทำร้ายพวกเขา ยิ่งไกลยิ่งดี

ภาพที่เสี่ยวซื่อส่งไปมาทำให้หลิงหลานรู้ว่าหุ่นรบสองตัวนี้ตามมาเหมือนกับที่เธอคาดหวังไว้ หลิงหลานค่อยเร่งความเร็วของหุ่นรบขึ้นหลายเท่า เครื่องยนต์หลักสองตัวส่งเสียงดังสนั่นพร้อมกัน หุ่นรบพุ่งออกไปเป็นแสงสายหนึ่งอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวมันก็บินไปได้หนึ่งพันเมตร

“ชิกามารุคุง เร่งความเร็วเข้า อีกฝ่ายสังเกตเห็นพวกเราแล้ว” หัวหน้าทีมเห็นหุ่นรบสหพันธรัฐเร่งความเร็วหนี ก็รู้ว่าอีกฝ่ายพบร่องรอยของพวกเขาแล้ว

“ไฮ้!” หุ่นรบของฮิงูเระสองตัวเร่งความเร็วขึ้นมาพร้อมกัน พุ่งไปหาหลิงหลานอย่างคลุ้มคลั่ง ไล่กัดเธอราวกับสุนัขบ้าสองตัวก็ไม่ปาน

เนื่องจากหลิงหลานเก็บแรงขับเคลื่อนไว้ ไม่ได้เร่งความเร็วของหุ่นรบจนถึงขีดสุด ดังนั้นผ่านไปประมาณสิบวินาที เธอก็ถูกหุ่นรบด้านหลังไล่ตามทัน

“ชิกามารุคุง ซุ่มยิงบนชั้นอากาศสูง” เมื่อเข้าสู่ขอบเขตการซุ่มยิง หัวหน้าทีมก็รีบสั่งการทันที เขาปรารถนาให้ลูกน้องทำลายผู้ควบคุมหุ่นรบสารเลวนั่นในนัดเดียว

“ไฮ้!” เดิมทีผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุก็เป็นยอดฝีมือด้านการซุ่มยิง เขาบังคับหุ่นรบให้บินอย่างมั่นคงไปพลาง ยกปืนไรเฟิลในมือหุ่นรบไปพลาง หลังจากที่ล็อกเป้าหลิงหลานซึ่งกำลังบินอยู่ทางด้านหน้าแล้ว เขาก็กดปุ่มยิงอย่างเฉียบขาด

“ลูกพี่ พวกเราถูกล็อกเป้าหมายแล้ว” ฝ่ายตรงข้ามเพิ่งจะล็อกเป้าที่หุ่นรบของหลิงหลาน เสี่ยวซื่อก็เอ่ยเตือนหลิงหลานขึ้นมา

จากนั้นก็เห็นนิ้วมือของหลิงหลานโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง หน้าผาก ปลายจมูกของหลิงหลานหลั่งเหงื่อออกมาอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็เกาะตัวหยดลงมาตรงๆ…

ทันใดนั้นหุ่นรบก็บิดร่างราวกับปลาที่ลงไปในน้ำก็ไม่ปาน วาดเป็นรูปโค้งอย่างน่าประหลาด หลบลูกปืนใหญ่ที่ยิงมาได้พอดี!

“บินไร้กฎเกณฑ์! บัดซบ!” ผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุโจมตีพลาดเป้าก็หงุดหงิดมาก เขาเองก็บินไร้กฎเกณฑ์เป็น แต่ว่าคำนวณการตกของลูกปืนได้แม่นยำขนาดนี้ เขาก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกนี่แหละ

ชิกามารุไม่รู้ว่า คนที่คำนวณการตกของลูกปืนได้แม่นยำไม่ใช่ผู้ควบคุมหุ่นรบคนนั้น หากแต่เป็นเสี่ยวซื่อที่คำนวณแทนออปติคัลคอมพิวเตอร์ด้านในชั่วคราว แน่นอนว่านี่ก็เป็นเพราะการรู้ใจกันอย่างสุดขีดในการประสานความร่วมมือของหลิงหลานกับเสี่ยวซื่อ ไม่อย่างนั้นถ้าโชคร้าย มีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกโจมตี ทั้งหุ่นรบและคนต่างถูกทำลายทันที

ถึงแม้ว่าหลิงหลานจะหลบการซุ่มยิงของผู้ควบคุมหุ่นรบชิกามารุได้หลายครั้ง แต่ในขณะเดียวกันเธอถูกอีกฝ่ายหน่วงเหนี่ยวไว้ หุ่นรบหัวหน้าทีมที่ไล่ตามเธอมาตลอดอยู่ห่างจากหลิงหลานไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรแล้ว จากนั้นก็เห็นอีกฝ่ายชูปืนใหญ่เลเซอร์ในมือขึ้นมาด้วยความอำมหิตอย่างยิ่ง ก่อนจะจ่อไปยังหลิงหลานที่กำลังหลบการซุ่มโจมตีของชิกามารุ เตรียมตัวเล็งเป้ายิงใส่หลิงหลาน

“ลูกพี่ หุ่นรบอีกตัวก็คิดจะโจมตีพวกเราเหมือนกัน” เสี่ยวซื่อเอ่ยเตือนด้วยความเคร่งเครียด

“แย่แล้ว!” หลิงหลานยังมีความทั่นใจว่าสามารถหลบการลอบยิงของหุ่นรบหนึ่งตัวได้ แต่ถ้าหุ่นรบสองตัวมาพร้อมกัน หลิงหลานก็ไม่มีความมั่นใจแล้วเหมือนกัน

หลิงหลานเพิ่งจะกล่าวจบ ความเร็วมือในการควบคุมของเธอก็เพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง เวลานี้มองไม่เห็นเค้าโครงนิ้วมือของหลิงหลานแล้ว และก็ดูไม่ออกว่าเธอสัมผัสปุ่มไหนบ้าง มีเพียงเงาของนิ้วมือที่อยู่เต็มแผงควบคุม งดงามและเลือนรางราวกับดอกไม้ที่ผลิบานไปทีละดอก

…………………………………………………….

[1] คำด่าในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง ไอ้เวร ไอ้บัดซบ

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+