I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 21 ความลึกลับของเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกาย!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 21 ความลึกลับของเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การเจริญอาหารเหมือนเช่นเคยของหลิงหลานทำให้หลานลั่วเฟิ่งที่อยู่ข้างกายเธอรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง ลูกทานอาหารได้คือมีบุญวาสนา แต่ทานเยอะขนาดนี้ จะไม่มีปัญหาจริงๆ เหรอ

หลิงฉินและหลิงหนานอีที่คุ้มกันอยู่ด้านข้างก็รู้สึกสับสนมากเช่นเดียวกัน การเจริญอาหารของหลิงหลานย่อมอยู่ในระดับน่ากลัว ต่อให้รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นเพราะร่างกายต้องการพลังงานถึงได้เจริญอาหารมากขนาดนี้ แต่ปริมาณอาหารนี้ก็มากเกินไปหน่อยจริงๆ

พวกเขามองไปที่ร่างกายเล็กๆ ของหลิงหลานด้วยความระมัดระวัง และทำได้แค่ส่ายหน้าถอนหายใจเท่านั้น พวกเขาไม่เข้าใจ หรือว่ากระเพาะของคุณชายน้อยของพวกเขาจะมาจากมิติแปลกแยก?

เวลาพิสูจน์แล้วว่าความกังวลของหลิงหลานเป็นเรื่องไม่จำเป็น ถึงแม้ว่าเธอจะทานเยอะ แต่ร่างกายของเธอนอกจากจะสูงขึ้นนิดหน่อยแล้ว ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างอื่นอีก ยกตัวอย่างเช่น พวกความกว้าง ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังแตกต่างจากเด็กคนอื่นที่ได้รับยากระตุ้นยีน ไม่ได้แข็งแรงทรงพลังขนาดนั้น หากแต่ดูบอบบางอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด

ตั้งแต่นั้นมาหลานลั่วเฟิ่งก็ไม่มีความคิดให้หลิงหลานควบคุมอาหารอีกเลย ทานเยอะขนาดนั้นก็ยังผอมบาง ถ้าหากอดอาหารอีก ลูกน้อยของเธอไม่กลายเป็นถั่วงอกเลยเหรอ ถึงอย่างไรตระกูลหลิงก็ไม่ได้ขาดแคลนอาหาร

ดังนั้นก็เลยไม่มีคนวุ่นวายกับปริมาณอาหารของหลิงหลานอีก สุดท้ายถ้าหากหลิงหลานทานพวกสเต๊กข้าวผัดน้อยลงละก็ ตระกูลหลิงก็จะตกอยู่ในความอลหม่านทั้งตระกูล ความอยากอาหารของคุณชายลดลง หรือว่าป่วย…แค่ก ความเคยชินน่ากลัวมากจริงๆ

ความจริงแล้วหลิงหลานเองก็งุนงงกับสภาพแบบนี้ของตัวเองมากเช่นกัน เธอแอบไปหาเสี่ยวซื่อและให้เขาตรวจสอบสาเหตุ

เสี่ยวซื่อยอดเยี่ยมมาก ไม่นานเขาก็หาคำตอบได้

ที่แท้สาเหตุที่หลิงหลานดูไม่แข็งแรงเป็นเพราะว่า ความแข็งแกร่งที่อยู่ในสายตาของทุกคนคือ ผลจากการที่สารเจือปนแข็งตัวสะสมอยู่ในร่างกายเด็ก แน่นอนว่าผลลัพธ์นี้ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นเรื่องแย่ทั้งหมด ข้อดีคือ ตัวตนของมันจะเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของร่างกายเด็กโดยทางอ้อม สามารถต้านทานการโจมตีของพลังในระดับหนึ่ง แต่ข้อเสียก็คือ มันจะลดระดับความยืดหยุ่นของร่างกายเด็ก ทำให้ความทนทานด้อยลง

แต่ยาที่หลิงหลานดูดซับไม่มีสารเจือปนใดๆ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสารเจือปนสะสมอยู่ในร่างกายและก่อเป็นความแข็งแกร่งที่รูปลักษณ์ภายนอก

นอกจากนี้หลิงหลานก็มีความอยากอาหารปริมาณมาก นี่เกี่ยวข้องกับทักษะทางกายภาพระดับสูงที่หลิงหลานฝึกฝนในมิติการเรียนรู้ การฝึกฝนทักษะทางกายภาพจะใช้พลังงานของร่างกายเยอะมาก หลิงหลานจำเป็นต้องอาศัยความพยายามในการกินเพื่อที่จะเติมเต็มพลังงานที่ร่างกายต้องการ นี่ยังมีผลงานส่วนหนึ่งจากการแช่น้ำยาสูตรลับของตระกูลหลิงด้วย มันเพิ่มความจุของร่างกายหลิงหลานในการดูดซับพลังงาน…เดิมทีเธอต้องการพลังงานแค่ข้าวหนึ่งชามเท่านั้น แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นข้าวสองชาม

แน่นอนว่ายิ่งร่างกายกักเก็บพลังงานมาก ก็หมายความว่าพลังของหลิงหลานก็ยิ่งแข็งแกร่ง สรุปคือสำหรับหลิงหลานแล้ว มันเป็นเรื่องดีมาก

ส่วนเรื่องเพราะอะไรหลิงหลานถึงได้ดูเข้าใจผิดว่าอ่อนแอบอบบาง…เสี่ยวซื่อก็ไม่แน่ใจอยู่บ้าง เขาค้นหาอยู่นานมาก สุดท้ายก็ตระหนักอะไรบางอย่างได้รางๆ เขาคาดว่าเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายที่หลิงหลานเรียนรู้ในชาติก่อนก็คือตัวการ

เมื่อหลิงหลานได้ยินคำตอบที่เสี่ยวซื่อให้มาก็วางใจ ขอเพียงไม่มีอันตรายอะไร อีกทั้งยังได้ลาภปาก หลิงหลานก็ไม่สนใจว่าตัวเองจะกลายเป็นราชาพุงโต

อย่างไรก็ตาม หลิงหลานใช้ชีวิตกินๆ นอนๆ อย่างมีความสุขได้ไม่นานเท่าไร มารดารีบก็ปล่อยให้เธอถูกพ่อบ้านหลิงฉินฝึกสอนอย่างไร้ความปราณี เธออายุครบห้าขวบก็ต้องเริ่มเรียนรู้ทักษะการต่อสู้มือเปล่าที่สืบทอดกันมาในตระกูลหลิง

วันแรก หลิงหลานก็ได้ลิ้มรสความขมขื่นว่าอนาคตอยู่ยากแล้ว ทักษะการต่อสู้มือเปล่าของตระกูลหลิงเอนเอียงไปทางการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ดังนั้นมันไม่มีสิ่งที่เรียกว่าทางลัด ได้แต่อาศัยการฝึกฝนอย่างยากลำบากเพื่อเลื่อนขั้น ยกตัวอย่างเช่น ต้องต่อยกี่ครั้ง เตะกี่ครั้ง ถ้ายังไม่ถึงจำนวนที่กำหนดก็ไม่อนุญาตให้พักผ่อน

เมื่อหลิงหลานเตะครั้งสุดท้ายเสร็จ เธอก็ล้มลงไปกับพื้นไม่ขยับเขยื้อน ทำให้หลิงหนานอีที่คุ้มกันอยู่ด้านข้างอุ้มเธอขึ้นมาด้วยความปวดใจและส่งเธอเข้าไปในห้องลับเพื่อแช่น้ำยา ผ่อนคลายร่างกายของหลิงหลานที่ถูกบีบคั้นถึงขีดสุด

เมื่อหลิงหลานเข้าไปใปแช่น้ำยาก็รู้ว่ายาที่อาบวันนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาอยู่บ้าง มันไม่มีความรู้สึกเจ็บ มีเพียงความรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ชาแปลบๆ ความรู้สึกสบายทำให้เธอเกือบจะหลับไป

เวลานี้เองเสี่ยวซื่อก็เอ่ยปากกล่าวด้วยความดูถูกว่า “ทักษะการต่อสู้มือเปล่านี้ดีกว่าของที่อยู่ในมิติการเรียนรู้ที่ไหนกัน มันสร้างความเสียหายที่แฝงเร้นในร่างกายง่ายมากๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขามีการแช่น้ำยาพวกนี้ เด็กเกิดมาได้เท่าไรก็ถูกทำลายทิ้งได้เท่านั้น”

หลิงหลานเอ่ยด้วยรอยยิ้มขื่น “ไม่ฝึกไม่ได้จริงๆ นี่นา ฉันยังจะทำอะไรได้อีก ทำได้ก็แค่ฝึกฝนต่อไปเท่านั้น ฉันเห็นท่าทีผิดหวังของผู้ใหญ่ทั้งสองคนไม่ได้” ชาติก่อนหลิงหลานเห็นสีหน้าผิดหวังของบิดามารดาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะอาการป่วยของเธอมากไปแล้ว ดังนั้นทุกครั้งที่เธอเหนื่อยสุดขีด ความผิดหวังที่อยู่ในสายตาของหลิงฉินและหลิงหนานอีทำให้เธอเปลี่ยนความคิดที่อยากจะล้มเลิก เธอต้องฮึกเหิมต่อไป ยืนหยัดต่อไป

เธอเป็นคนชอบทำร้ายตัวเองจริงๆ! หลิงหลานรู้ว่านี่ถือเป็นหนึ่งในจิตใจชั่วร้ายของเธอ ประสบการณ์ในชาติก่อนสะท้อนให้เห็นถึงการตัดสินใจและการกระทำของเธอในวันนี้

หลังจากที่แช่น้ำยาเสร็จแล้ว เสี่ยวซื่อก็พบว่าบาดแผลบนร่างกายของหลิงหลานไม่ได้ถูกน้ำยาฟื้นฟูทั้งหมด ถึงแม้ตอนนี้ดูเหมือนปัญหาจะไม่ใหญ่ แต่ผ่านไปหลายปีมันจะต้องทิ้งความเสียหายที่แฝงเร้นให้กับร่างกายแน่นอน

เสี่ยวซื่อยังอยากให้หลิงหลานหาโอกาสข้ามการฝึกฝนของวันพรุ่งนี้ เช้าวันที่สองเขาก็งุนงงพบว่าบาดแผลของหลิงหลานที่เดิมทียังคงหลงเหลืออยู่เล็กน้อยได้อันตรธานหายไปโดยไร้ร่องรอยแล้ว ถึงขนาดที่สภาพร่างกายของเธอยังดีกว่าเมื่อวาน

เสี่ยวซื่อตะลึงงัน รีบสอบถามหลิงหลานว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไป

หลิงหลานทำหน้าเหลอหลา คล้ายกับไม่เข้าใจว่าเสี่ยวซื่อต้องการถามอะไรกันแน่

เสี่ยวซื่อร้อนใจจะให้หลิงหลานอธิบายว่าเมื่อคืนนอกจากเธอจะนอนหลับแล้ว ยังทำเรื่องอะไรอีก

นี่เป็นเรื่องที่สำคัญพอสมควรนะ ถ้าหากสามารถเข้าใจสาเหตุได้ มันก็จะเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ควรทราบว่าต่อให้อยู่ในโลกเทคโนโลยีชั้นสูงของเขา คิดอยากจะฟื้นฟูบาดแผลบนร่างกายโดยสมบูรณ์ จะอาศัยแค่น้ำยาฟื้นฟูเพียงอย่างเดียวไม่ได้ มันจำเป็นต้องพึ่งพาการยืมพลังส่วนอื่นมาทดแทนถึงจะทำสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น ยืมพลังชีวิต ยืมพลังงานของร่างกาย ถึงแม้ว่าการยืมพลังพวกนี้จะไม่มีปัญหาในระยะเวลาใกล้ๆ แต่อนาคตมันจะนำปัญหาแอบแฝงมาให้อย่างไร้ที่สิ้นสุด

แต่สถานการณ์ของหลิงหลานแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอฟื้นฟูกลับคืนมาได้โดยสมบูรณ์ แต่พลังชีวิตไม่ได้ลดลง หากแต่ยังเพิ่มขึ้นมาก พลังงานที่แฝงอยู่ในร่างกายเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน ทุกอย่างนี้พิสูจน์ได้ว่าหลิงหลานฟื้นฟูบาดแผลของเธอโดยที่ไม่ได้อาศัยการยืมพลังงานเป็นการแลกเปลี่ยน

หลิงหลานใคร่ครวญอย่างจริงจังมาก ก่อนจะบอกเสี่ยวซื่อด้วยความไม่มั่นใจว่าดูเหมือนเธอจะฝึกฝนเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายก่อนนอน

พอเสี่ยวซื่อได้ยินคำตอบของหลิงหลาน ก็ให้หลิงหลานทำการฝึกฝนของวันนี้ต่อโดยไม่ลังเล หลังจากนั้นตอนกลางคืนก็ให้เธอฝึกเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายอีก

ผลสุดท้ายก็เป็นเหมือนกับครั้งแรกตามที่คิดไว้จริงๆ ร่างกายฟื้นฟูคืนสู่สภาพที่ดีที่สุดอีกครั้ง เสี่ยวซื่อมองวิธีโคจรลมปราณบำรุงร่างกายด้วยความตื่นตะลึง ไม่คิดว่าดาวดึกดำบรรพ์ที่เพิ่งจะเห็นเทคโนโลยีนิดหน่อยจะมีของที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ เคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายได้หล่อเลี้ยงพลังงานของร่างกาย ไม่เพียงเท่านั้น มันยังนำพลังงานส่วนหนึ่งของร่างกายซึมซับเข้าไปที่เส้นทางโคจรของมัน และพลังงานพวกนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีการวิทยาศาสตร์

สาเหตุที่เสี่ยวซื่อมองเห็นได้เป็นเพราะหลิงหลานคือโฮสต์ของมันที่สามารถแบ่งปันจิตวิญญาณกับหลิงหลานได้ ทำให้เขา ‘มองเห็น’ ภาพการโคจรของลมปราณบำรุงร่างกายได้อย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าเขาอาจจะไม่สามารถจินตนาการได้ว่าบนโลกนี้ยังมีวิชาลับแบบนี้อยู่ด้วย

เสี่ยวซื่อรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ถ้ารู้แต่แรกว่าโลกดึกดำบรรพ์นั่นมีของมหัศจรรย์มากมายขนาดนี้ ตอนนั้นเขาน่าจะใส่ใจค้นหาเก็บรวบรวมให้มากๆ น่าเสียดายที่ทุกอย่างสายไปแล้ว…

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 21 ความลึกลับของเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกาย!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 21 ความลึกลับของเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การเจริญอาหารเหมือนเช่นเคยของหลิงหลานทำให้หลานลั่วเฟิ่งที่อยู่ข้างกายเธอรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง ลูกทานอาหารได้คือมีบุญวาสนา แต่ทานเยอะขนาดนี้ จะไม่มีปัญหาจริงๆ เหรอ

หลิงฉินและหลิงหนานอีที่คุ้มกันอยู่ด้านข้างก็รู้สึกสับสนมากเช่นเดียวกัน การเจริญอาหารของหลิงหลานย่อมอยู่ในระดับน่ากลัว ต่อให้รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นเพราะร่างกายต้องการพลังงานถึงได้เจริญอาหารมากขนาดนี้ แต่ปริมาณอาหารนี้ก็มากเกินไปหน่อยจริงๆ

พวกเขามองไปที่ร่างกายเล็กๆ ของหลิงหลานด้วยความระมัดระวัง และทำได้แค่ส่ายหน้าถอนหายใจเท่านั้น พวกเขาไม่เข้าใจ หรือว่ากระเพาะของคุณชายน้อยของพวกเขาจะมาจากมิติแปลกแยก?

เวลาพิสูจน์แล้วว่าความกังวลของหลิงหลานเป็นเรื่องไม่จำเป็น ถึงแม้ว่าเธอจะทานเยอะ แต่ร่างกายของเธอนอกจากจะสูงขึ้นนิดหน่อยแล้ว ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอย่างอื่นอีก ยกตัวอย่างเช่น พวกความกว้าง ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังแตกต่างจากเด็กคนอื่นที่ได้รับยากระตุ้นยีน ไม่ได้แข็งแรงทรงพลังขนาดนั้น หากแต่ดูบอบบางอ่อนแออย่างเห็นได้ชัด

ตั้งแต่นั้นมาหลานลั่วเฟิ่งก็ไม่มีความคิดให้หลิงหลานควบคุมอาหารอีกเลย ทานเยอะขนาดนั้นก็ยังผอมบาง ถ้าหากอดอาหารอีก ลูกน้อยของเธอไม่กลายเป็นถั่วงอกเลยเหรอ ถึงอย่างไรตระกูลหลิงก็ไม่ได้ขาดแคลนอาหาร

ดังนั้นก็เลยไม่มีคนวุ่นวายกับปริมาณอาหารของหลิงหลานอีก สุดท้ายถ้าหากหลิงหลานทานพวกสเต๊กข้าวผัดน้อยลงละก็ ตระกูลหลิงก็จะตกอยู่ในความอลหม่านทั้งตระกูล ความอยากอาหารของคุณชายลดลง หรือว่าป่วย…แค่ก ความเคยชินน่ากลัวมากจริงๆ

ความจริงแล้วหลิงหลานเองก็งุนงงกับสภาพแบบนี้ของตัวเองมากเช่นกัน เธอแอบไปหาเสี่ยวซื่อและให้เขาตรวจสอบสาเหตุ

เสี่ยวซื่อยอดเยี่ยมมาก ไม่นานเขาก็หาคำตอบได้

ที่แท้สาเหตุที่หลิงหลานดูไม่แข็งแรงเป็นเพราะว่า ความแข็งแกร่งที่อยู่ในสายตาของทุกคนคือ ผลจากการที่สารเจือปนแข็งตัวสะสมอยู่ในร่างกายเด็ก แน่นอนว่าผลลัพธ์นี้ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นเรื่องแย่ทั้งหมด ข้อดีคือ ตัวตนของมันจะเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของร่างกายเด็กโดยทางอ้อม สามารถต้านทานการโจมตีของพลังในระดับหนึ่ง แต่ข้อเสียก็คือ มันจะลดระดับความยืดหยุ่นของร่างกายเด็ก ทำให้ความทนทานด้อยลง

แต่ยาที่หลิงหลานดูดซับไม่มีสารเจือปนใดๆ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสารเจือปนสะสมอยู่ในร่างกายและก่อเป็นความแข็งแกร่งที่รูปลักษณ์ภายนอก

นอกจากนี้หลิงหลานก็มีความอยากอาหารปริมาณมาก นี่เกี่ยวข้องกับทักษะทางกายภาพระดับสูงที่หลิงหลานฝึกฝนในมิติการเรียนรู้ การฝึกฝนทักษะทางกายภาพจะใช้พลังงานของร่างกายเยอะมาก หลิงหลานจำเป็นต้องอาศัยความพยายามในการกินเพื่อที่จะเติมเต็มพลังงานที่ร่างกายต้องการ นี่ยังมีผลงานส่วนหนึ่งจากการแช่น้ำยาสูตรลับของตระกูลหลิงด้วย มันเพิ่มความจุของร่างกายหลิงหลานในการดูดซับพลังงาน…เดิมทีเธอต้องการพลังงานแค่ข้าวหนึ่งชามเท่านั้น แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นข้าวสองชาม

แน่นอนว่ายิ่งร่างกายกักเก็บพลังงานมาก ก็หมายความว่าพลังของหลิงหลานก็ยิ่งแข็งแกร่ง สรุปคือสำหรับหลิงหลานแล้ว มันเป็นเรื่องดีมาก

ส่วนเรื่องเพราะอะไรหลิงหลานถึงได้ดูเข้าใจผิดว่าอ่อนแอบอบบาง…เสี่ยวซื่อก็ไม่แน่ใจอยู่บ้าง เขาค้นหาอยู่นานมาก สุดท้ายก็ตระหนักอะไรบางอย่างได้รางๆ เขาคาดว่าเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายที่หลิงหลานเรียนรู้ในชาติก่อนก็คือตัวการ

เมื่อหลิงหลานได้ยินคำตอบที่เสี่ยวซื่อให้มาก็วางใจ ขอเพียงไม่มีอันตรายอะไร อีกทั้งยังได้ลาภปาก หลิงหลานก็ไม่สนใจว่าตัวเองจะกลายเป็นราชาพุงโต

อย่างไรก็ตาม หลิงหลานใช้ชีวิตกินๆ นอนๆ อย่างมีความสุขได้ไม่นานเท่าไร มารดารีบก็ปล่อยให้เธอถูกพ่อบ้านหลิงฉินฝึกสอนอย่างไร้ความปราณี เธออายุครบห้าขวบก็ต้องเริ่มเรียนรู้ทักษะการต่อสู้มือเปล่าที่สืบทอดกันมาในตระกูลหลิง

วันแรก หลิงหลานก็ได้ลิ้มรสความขมขื่นว่าอนาคตอยู่ยากแล้ว ทักษะการต่อสู้มือเปล่าของตระกูลหลิงเอนเอียงไปทางการฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ดังนั้นมันไม่มีสิ่งที่เรียกว่าทางลัด ได้แต่อาศัยการฝึกฝนอย่างยากลำบากเพื่อเลื่อนขั้น ยกตัวอย่างเช่น ต้องต่อยกี่ครั้ง เตะกี่ครั้ง ถ้ายังไม่ถึงจำนวนที่กำหนดก็ไม่อนุญาตให้พักผ่อน

เมื่อหลิงหลานเตะครั้งสุดท้ายเสร็จ เธอก็ล้มลงไปกับพื้นไม่ขยับเขยื้อน ทำให้หลิงหนานอีที่คุ้มกันอยู่ด้านข้างอุ้มเธอขึ้นมาด้วยความปวดใจและส่งเธอเข้าไปในห้องลับเพื่อแช่น้ำยา ผ่อนคลายร่างกายของหลิงหลานที่ถูกบีบคั้นถึงขีดสุด

เมื่อหลิงหลานเข้าไปใปแช่น้ำยาก็รู้ว่ายาที่อาบวันนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาอยู่บ้าง มันไม่มีความรู้สึกเจ็บ มีเพียงความรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ชาแปลบๆ ความรู้สึกสบายทำให้เธอเกือบจะหลับไป

เวลานี้เองเสี่ยวซื่อก็เอ่ยปากกล่าวด้วยความดูถูกว่า “ทักษะการต่อสู้มือเปล่านี้ดีกว่าของที่อยู่ในมิติการเรียนรู้ที่ไหนกัน มันสร้างความเสียหายที่แฝงเร้นในร่างกายง่ายมากๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขามีการแช่น้ำยาพวกนี้ เด็กเกิดมาได้เท่าไรก็ถูกทำลายทิ้งได้เท่านั้น”

หลิงหลานเอ่ยด้วยรอยยิ้มขื่น “ไม่ฝึกไม่ได้จริงๆ นี่นา ฉันยังจะทำอะไรได้อีก ทำได้ก็แค่ฝึกฝนต่อไปเท่านั้น ฉันเห็นท่าทีผิดหวังของผู้ใหญ่ทั้งสองคนไม่ได้” ชาติก่อนหลิงหลานเห็นสีหน้าผิดหวังของบิดามารดาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะอาการป่วยของเธอมากไปแล้ว ดังนั้นทุกครั้งที่เธอเหนื่อยสุดขีด ความผิดหวังที่อยู่ในสายตาของหลิงฉินและหลิงหนานอีทำให้เธอเปลี่ยนความคิดที่อยากจะล้มเลิก เธอต้องฮึกเหิมต่อไป ยืนหยัดต่อไป

เธอเป็นคนชอบทำร้ายตัวเองจริงๆ! หลิงหลานรู้ว่านี่ถือเป็นหนึ่งในจิตใจชั่วร้ายของเธอ ประสบการณ์ในชาติก่อนสะท้อนให้เห็นถึงการตัดสินใจและการกระทำของเธอในวันนี้

หลังจากที่แช่น้ำยาเสร็จแล้ว เสี่ยวซื่อก็พบว่าบาดแผลบนร่างกายของหลิงหลานไม่ได้ถูกน้ำยาฟื้นฟูทั้งหมด ถึงแม้ตอนนี้ดูเหมือนปัญหาจะไม่ใหญ่ แต่ผ่านไปหลายปีมันจะต้องทิ้งความเสียหายที่แฝงเร้นให้กับร่างกายแน่นอน

เสี่ยวซื่อยังอยากให้หลิงหลานหาโอกาสข้ามการฝึกฝนของวันพรุ่งนี้ เช้าวันที่สองเขาก็งุนงงพบว่าบาดแผลของหลิงหลานที่เดิมทียังคงหลงเหลืออยู่เล็กน้อยได้อันตรธานหายไปโดยไร้ร่องรอยแล้ว ถึงขนาดที่สภาพร่างกายของเธอยังดีกว่าเมื่อวาน

เสี่ยวซื่อตะลึงงัน รีบสอบถามหลิงหลานว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไป

หลิงหลานทำหน้าเหลอหลา คล้ายกับไม่เข้าใจว่าเสี่ยวซื่อต้องการถามอะไรกันแน่

เสี่ยวซื่อร้อนใจจะให้หลิงหลานอธิบายว่าเมื่อคืนนอกจากเธอจะนอนหลับแล้ว ยังทำเรื่องอะไรอีก

นี่เป็นเรื่องที่สำคัญพอสมควรนะ ถ้าหากสามารถเข้าใจสาเหตุได้ มันก็จะเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ควรทราบว่าต่อให้อยู่ในโลกเทคโนโลยีชั้นสูงของเขา คิดอยากจะฟื้นฟูบาดแผลบนร่างกายโดยสมบูรณ์ จะอาศัยแค่น้ำยาฟื้นฟูเพียงอย่างเดียวไม่ได้ มันจำเป็นต้องพึ่งพาการยืมพลังส่วนอื่นมาทดแทนถึงจะทำสำเร็จ ยกตัวอย่างเช่น ยืมพลังชีวิต ยืมพลังงานของร่างกาย ถึงแม้ว่าการยืมพลังพวกนี้จะไม่มีปัญหาในระยะเวลาใกล้ๆ แต่อนาคตมันจะนำปัญหาแอบแฝงมาให้อย่างไร้ที่สิ้นสุด

แต่สถานการณ์ของหลิงหลานแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอฟื้นฟูกลับคืนมาได้โดยสมบูรณ์ แต่พลังชีวิตไม่ได้ลดลง หากแต่ยังเพิ่มขึ้นมาก พลังงานที่แฝงอยู่ในร่างกายเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน ทุกอย่างนี้พิสูจน์ได้ว่าหลิงหลานฟื้นฟูบาดแผลของเธอโดยที่ไม่ได้อาศัยการยืมพลังงานเป็นการแลกเปลี่ยน

หลิงหลานใคร่ครวญอย่างจริงจังมาก ก่อนจะบอกเสี่ยวซื่อด้วยความไม่มั่นใจว่าดูเหมือนเธอจะฝึกฝนเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายก่อนนอน

พอเสี่ยวซื่อได้ยินคำตอบของหลิงหลาน ก็ให้หลิงหลานทำการฝึกฝนของวันนี้ต่อโดยไม่ลังเล หลังจากนั้นตอนกลางคืนก็ให้เธอฝึกเคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายอีก

ผลสุดท้ายก็เป็นเหมือนกับครั้งแรกตามที่คิดไว้จริงๆ ร่างกายฟื้นฟูคืนสู่สภาพที่ดีที่สุดอีกครั้ง เสี่ยวซื่อมองวิธีโคจรลมปราณบำรุงร่างกายด้วยความตื่นตะลึง ไม่คิดว่าดาวดึกดำบรรพ์ที่เพิ่งจะเห็นเทคโนโลยีนิดหน่อยจะมีของที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ เคล็ดวิชาลมปราณบำรุงร่างกายได้หล่อเลี้ยงพลังงานของร่างกาย ไม่เพียงเท่านั้น มันยังนำพลังงานส่วนหนึ่งของร่างกายซึมซับเข้าไปที่เส้นทางโคจรของมัน และพลังงานพวกนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยวิธีการวิทยาศาสตร์

สาเหตุที่เสี่ยวซื่อมองเห็นได้เป็นเพราะหลิงหลานคือโฮสต์ของมันที่สามารถแบ่งปันจิตวิญญาณกับหลิงหลานได้ ทำให้เขา ‘มองเห็น’ ภาพการโคจรของลมปราณบำรุงร่างกายได้อย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าเขาอาจจะไม่สามารถจินตนาการได้ว่าบนโลกนี้ยังมีวิชาลับแบบนี้อยู่ด้วย

เสี่ยวซื่อรู้สึกเสียใจเล็กน้อย ถ้ารู้แต่แรกว่าโลกดึกดำบรรพ์นั่นมีของมหัศจรรย์มากมายขนาดนี้ ตอนนั้นเขาน่าจะใส่ใจค้นหาเก็บรวบรวมให้มากๆ น่าเสียดายที่ทุกอย่างสายไปแล้ว…

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+