I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 351 รางวัลภารกิจ!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 351 รางวัลภารกิจ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้บัญชาการฝืนข่มกลั้นเลือดลมปั่นป่วนที่หน้าอก เขาสูดลมหายใจลึกแล้วสั่งการอีกครั้งว่า “เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำทันที” เขายังจำได้ว่าพลังงานของยานรบไม่เพียงพอ ไม่อาจผลาญพลังงานจนหมดเกลี้ยงได้ ถึงแม้ว่าพวกเขามาถึงทะเลดวงดาวแล้ว หนีจากฐานที่มั่นซวิ่นหลงได้ชั่วคราว แต่ผู้บัญชาการรู้ดีว่า กองยานรบซวิ่นหลงยังมียานลาดตระเวนที่ปฏิบัติหน้าที่ในอวกาศซึ่งกำลังลาดตระเวนไปมาในเขตดวงดาวผืนนี้อยู่ ถ้าหากโชคร้ายบังเอิญเจอเข้าละก็ ยานรบที่สูญเสียพลังงานย่อมถูกใครเข่นฆ่าก็ได้ เขาที่หลบหนีออกจากฐานที่มั่นซวิ่นหลงอย่างยากยิ่งไม่อยากตายอย่างกลัดกลุ้มใจเช่นนี้และติดอยู่ในฐานที่มั่นซวิ่นหลงต่อไป

ลูกทีมที่สับเปลี่ยนความเร็วรีบดึงปุ่มความเร็วกลับมาที่เกียร์ต่ำทันที พลังงานของยานรบในเวลานี้ลดลงไปเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ถ้าหากฝ่าชั้นบรรยากาศช้าไปอีกหนึ่งนาที คาดว่าพวกเขาคงถูกแรงดึงดูดลากกลับไปยังฐานที่มั่นซวิ่นหลงอีกครั้งเพราะแหล่งพลังงานถูกใช้จนหมด เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ทุกคนต่างอดนึกกลัวขึ้นมาไม่ได้

ยานรบที่เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำเริ่มแล่นในอวกาศอย่างช้าๆ ในขณะเดียวกันก็เร่งสั่งสมพลังงาน พวกเขาจำเป็นต้องสั่งสมพลังงานให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากนั้นค่อยหลบหนีออกจากที่นี่ด้วยความเร็วสูง ขณะที่ผู้บัญชาการรอการสั่งสมพลังงาน เขาก็อดลอบภาวนาไม่ได้ หวังว่าพวกเขาจะโชคดีสักเล็กน้อย ไม่ต้องเจอยานลาดตระเวนของฐานที่มั่นซวิ่นหลง แน่นอนว่าเขาเองก็หวังว่า ยานรบบนภาคพื้นดินจะไม่แล่นขึ้นมาเร็วมากเกินไป ไม่อย่างนั้นหากต้องเผชิญหน้ากับกองยานรบซวิ่นหลงที่มียานรบหลายสิบลำ พวกเขาไม่มีโอกาสหลบหนีเลย

ควรพูดว่าโชคของพวกผู้บัญชาการไม่เลวมากๆ ก่อนที่จะสั่งสมพลังงานสำเร็จ พวกเขาไม่พบยานลาดตระเวนของซวิ่นหลงเลย ประมาณสิบนาทีให้หลัง ยานรบสั่งสมพลังงานได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม หลังจากนั้นยานรบก็แล่นไปยังเขตศูนย์กลางราวกับโผบินก็ไม่ปาน

ยี่สิบนาทีต่อมา กองยานรบซวิ่นหลงแล่นขึ้นฟ้าได้สำเร็จ กองยานรบซวิ่นหลงที่ประกอบด้วยยานรบสามสิบลำที่มีขนาดแตกต่างกันเริ่มค้นหาร่องรอยยานรบที่ถูกปล้นไป น่าเสียดายที่พวกเขากลับหาเบาะแสที่มีประโยชน์ใดๆ ไม่ได้เลย นี่ทำให้กัปตันของยานรบงุนงงสับสน ขอเพียงยานรบเคยแล่นผ่านย่อมต้องทิ้งร่องรอยการเคลื่อนที่ของพลังงานไว้เล็กน้อย แต่เขตดวงดาวผืนนี้กลับไม่มีเลยสักนิดเดียว ราวกับว่ายานรบที่แล่นขึ้นไปบนฟ้าเมื่อสามสิบนาทีก่อนไม่มีตัวตนอยู่เลยก็ไม่ปาน

กองยานรบซวิ่นหลงที่ไร้ทิศทางไปได้แต่ใช้วิธีการโง่เง่า ทำการค้นหาพื้นที่ทั้งหมดที่แล่นไปทางเขตศูนย์กลาง นี่ทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเขาชักช้าขึ้นมา เว้นระยะห่างจากยานรบที่แล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุดอีกก้าว

ผู้มีความดีความชอบหลักที่ทำให้กองยานรบซวิ่นหลงค้นหาร่องรอยไม่เจอก็คือเสี่ยวซื่อ เสี่ยวซื่อทำการก่อกวนบริเวณที่ยานรบผ่านโดยไม่ต้องให้หลิงหลานสั่งการ พูดอีกอย่างก็คือ ไม่อาจค้นหาเส้นทางการบินที่แท้จริงของพวกเขาโดยอาศัยเครื่องมือบนยานรบได้

นี่ก็คือความสามารถของเสี่ยวซื่อ เขาสามารถทำให้อุปกรณ์ไฮเทคสูญเสียประสิทธิภาพ หรือทำการตัดสินผิดพลาดได้ แน่นอนว่าการที่เขาสามารถทำให้มันส่งผลต่ออุปกรณ์ของกองยานรบซวิ่นหลงได้เป็นเพราะว่าพวกหลิงหลานอยู่ในโลกเสมือนจริง ถ้าหากพวกเขาอยู่ในโลกความเป็นจริงละก็ เสี่ยวซื่ออาจจะไม่เทพขนาดนี้

ตอนที่เจอกองยานรบซวิ่นหลง ยานรบได้รับตำแหน่งของศัตรูล่วงหน้าก่อนอีกฝ่ายก้าวหนึ่งเนื่องจากมีการช่วยเหลืออย่างลับๆ ของเสี่ยวซื่อ นี่ทำให้ผู้บัญชาการมีเวลาทำการหลบหนี หลีกเลี่ยงการค้นหาของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้บัญชาการงุนงงกับเรื่องนี้อยู่บ้างว่าทำไมเรดาร์บนยานรบลำนี้ถึงค้นหาได้ดีและว่องไวกว่ายานรบลำอื่นๆ ที่มา แต่สุดท้ายเขาที่ค้นหาคำตอบไม่เจอก็ได้แต่ลงความเห็นว่าพวกเขาโชคค่อนข้างดี เรดาร์จึงมักแสดงประสิทธิภาพสูงสุดของมันในช่วงเวลาสำคัญที่สุด

ตลอดทางจึงมีเหตุการณ์น่าตกใจแต่ว่าไร้อันตรายเช่นนี้เอง ในที่สุดยานรบก็ออกจากเขตเนบิวลา เข้าสู่เขตดวงดาวถัดไป ถึงแม้ยังไม่ถึงเขตศูนย์กลาง แต่นี่ก็ยืนยันแล้วว่าพวกเขาหลบหนีการไล่ฆ่าของฐานที่มั่นซวิ่นหลงได้สำเร็จแล้ว เนื่องจากกองยานรบซวิ่นหลงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่เขตดวงดาวอื่น

แต่พวกเขาก็อันตรายมากเหมือนกัน อย่างไรเสียยานรบที่พวกเขาปล้นชิงมาก็เป็นยานรบของฐานที่มั่นซวิ่นหลง แต่ทหารสหพันธรัฐในห้องควบคุมหลักเหล่านี้ถูกออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักส่งมาโดยเฉพาะ พวกเขาจึงมีวิธีการพิเศษในการติดต่อกับออปติคัลคอมพิวเตอร์หลัก เมื่อพวกเขาหลุดพ้นจากชายแดนเนบิวลาที่ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักไม่อาจควบคุมได้ พวกเขาก็ติดต่อออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักได้แล้ว

หลังจากที่ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักได้รับข่าวก็จัดเตรียมเส้นทางการบินพิเศษให้พวกเขาเข้าสู่เขตศูนย์กลาง เปิดไฟเขียวตลอดทางที่ขับตรงไปยังเขตศูนย์กลาง ถ้าหากพวกเขาบินต่อเข้าไปข้างในโดยที่ไม่มีเส้นทางพิเศษที่ได้รับอนุญาตนี้ ขอเพียงถูกกองยานลาดตระเวนคุ้มกันพบเจอเข้า พวกเขาคงถูกยิงตกอย่างไร้ความปรานีไปแล้ว ทหารสหพันธรัฐย่อมไม่ทำเรื่องโง่เง่าเช่นนี้

ในที่สุดยานรบก็มาถึงเขตศูนย์กลางอย่างราบรื่น มันร่อนลงไปในเมืองของดาวแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงชายขอบมากที่สุดของเขตศูนย์กลาง ขอเพียงร่อนลงไปในที่แห่งนี้ พวกเขาก็สามารถล็อกเอาท์ออกจากโลกเสมือนจริงได้ และรายงานสถานการณ์ของฐานที่มั่นซวิ่นหลงให้กับกองทัพได้ทันที บางทีพวกเขาอาจจะรีบร้อนไปรายงานเลยไม่ได้ตรวจสอบภายในยานรบให้ละเอียดรอบคอบก็ออกไปจากยานรบอย่างรวดเร็ว

ส่วนหลิงหลานก็ฉวยโอกาสแอบหนีออกมาจากในยานรบ พวกเขาสวมชุดเครื่องแบบต่อสู้มาตรฐานของสหพันธรัฐ ปลอมตัวเป็น NPC หลบเลี่ยงระบบกล้องวงจรปิดทั้งหมดของท่าอวกาศและออกจากท่าอวกาศของยานรบทหารกลับไปที่เมืองอย่างเงียบเชียบ

เมื่อเข้ามาในเมือง ทั้งหมดล้วนเป็นโลกของหุ่นรบแล้ว นี่ค่อยทำให้หลิงหลานสัมผัสได้อีกครั้งว่าเธอกลับมาที่โลกหุ่นรบอย่างแท้จริง…พวกหลิงหลานเก้าคนเปลี่ยนเป็นหุ่นรบของตัวเองอย่างรวดเร็ว และปะปนเข้าไปในฝูงหุ่นรบที่ขวักไขว่ไปมาอย่างคับคั่ง หลิงหลานและคนอื่นๆ แสร้งทำเป็นเดินเที่ยวเล่นในเมือง หลังจากนั้นค่อยไปจุดวาร์ป เลือกเมืองที่ตัวเองต้องการไปแล้วออกจากที่นี่อย่างเป็นธรรมชาติ พวกเขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรที่ยืนยันว่าพวกเขาเคยมาที่เมืองนี้เลย เนื่องจากร่างของพวกเขาถูกเสี่ยวซื่อลบออกไปจากในอุปกรณ์กล้องวงจรปิดทั้งหมดตลอดทางที่เดินผ่านมา

ในที่สุดก็มาถึงเมืองหงหยางแล้ว หลิงหลานนำข้อมูลกลับมาจากจีอู๋ปู้ซิว ถึงแม้เธอมีข้อมูล แต่สิ่งที่ควรปกปิดก็ยังต้องปกปิดเอาไว้ เธอมาถึงคฤหาสน์เจ้าเมืองหงหยาง เสียเวลาเล็กน้อยถึงค่อยหาเจ้าเมืองเจออีกครั้ง

เจ้าเมืองหงหยางคิดว่าหลิงหลานมาเพื่ออ้อนวอนให้เขายกเลิกภารกิจระดับ SSS นอกจากนี้เขามีความประทับใจแบบแย่ๆ ต่อหลิงหลานมาตั้งแต่แรก ดังนั้นท่าทีจึงเย็นชา ไม่ชอบเอามากๆ

เดิมทีหลิงหลานไม่ใช่คนที่ชอบเอาใจผู้อื่น สิ่งที่บรรดาอาจารย์ในมิติการเรียนรู้สอนสั่งล้วนเป็นการใช้ความสามารถมาพูด ดังนั้นเธอจึงไม่พูดพล่ามไร้สาระอะไร ฝืนยัดข้อมูลในมือให้เจ้าเมืองโดยตรง เอ่อ ท่าทีนั้นไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นการเคารพนอบน้อมอะไรเลยจริงๆ…

การกระทำเช่นนี้ของหลิงหลานดูไม่มีมารยาทอยู่บ้างในสายตาของเจ้าเมืองหงหยาง เขาขมวดคิ้ว ยังไม่ได้ทันส่งเสียงพูดก็รู้สึกได้ถึงการแจ้งเตือนที่ส่งมาจากในมือ นี่เป็นไอเทมสำคัญในการบรรลุภารกิจระดับ SSS สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เปิดอ่านหนึ่งรอบอย่างจริงจัง จากนั้นถึงค่อยเงยหน้ามองไปทางหลิงหลาน แววตานั้นแฝงไปด้วยความตื่นตกใจ รวมถึงร่องรอยความตื่นเต้นที่ยากจะปกปิดด้วย

สีหน้านี้ทำให้ในสมองของหลิงหลานหลุดความเอือมระอาออกมาในที่สุด ดูเหมือนพวกอาจารย์จะพูดถูก ขอเพียงคุณมีความสามารถเพียงพอ ต่อให้เป็นคนที่ตอนแรกดูถูกคุณ ท้ายที่สุดพวกเขายังคงมองคุณใหม่ เมื่อความสามารถของคุณเหนือกว่าอีกฝ่ายมาก คุณไม่จำเป็นต้องไปเอาใจ อีกฝ่ายก็จะเข้ามาเอาใจคุณเอง

เจ้าเมืองหงหยางข่มกลั้นอารมณ์ที่สับสนในใจ รายงานข้อมูลชุดนี้ให้กับออปติคัลคอมพิวเตอร์ของโลกหุ่นรบอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับข้อความยืนยันว่าไม่มีข้อผิดพลาด สีหน้าทีเดิมทีเคร่งขรึมก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนน่าคบหาขึ้นมาทันใด เขากล่าวว่า “หลิงเทียนอีเซี่ยน เธอเป็นผู้กล้าในหมู่เด็กหนุ่มจริงๆ ทำผลงานได้ไม่เลวเชียว เธอเป็นคนแรกที่ทำภารกิจระดับ SSS สำเร็จในประวัติศาสตร์โลกหุ่นรบ ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเธอ…”

อย่างที่คิดไว้เลย สีหน้าที่เย็นชาดูถูกแต่เดิมของเจ้าเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ทั่วทั้งร่างของเขาดูกระตือรือร้นอย่างมาก หลิงหลานเห็นดังนั้นมุมปากก็โค้งขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้ดวงหน้ายังคงเย็นชาเหมือนเก่า แต่เธอก็อดทนฟังเจ้าเมืองหงหยางกล่าวคำพูดเหล่านี้จนจบ

สาเหตุที่หลิงหลานอดทนฟังจนจบเป็นเพราะเธอกังวลว่า เนื่องจากเธอไม่ค่อยลงรอยกับเจ้าเมืองหงหยางตอนที่เธอรับภารกิจ ดังนั้นถึงได้รับภารกิจระดับ SSS ที่ร้อยปียากจะได้รับ หลิงหลานสงสัยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ระดับความยากของภารกิจกับรางวัลจะเกี่ยวข้องกับความประทับใจของผู้ออกคำสั่งที่มีต่อเธออยู่บ้าง หลิงหลานย่อมเชื่อว่าไม่มีทางขาดรางวัลหลักหลายรายการภายใต้การควบคุมตรวจตราของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลัก แต่ว่าถ้าเกิดถูกหักรางวัลบางอย่างที่ไม่สำคัญไปไม่ยอมมอบให้เพราะว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไม่ดี หลิงหลานก็คงกลัดกลุ้มใจ ควรรู้เอาไว้ว่าพวกเขาทำภารกิจระดับ SSS นี้สำเร็จอย่างเฉียดตาย หากสามารถมอบรางวัลชดเชยมากหน่อยย่อมเป็นเรื่องดี

ในที่สุดเจ้าเมืองหงหยางก็พล่ามคำพูดปลุกใจจบ หลิงหลานค่อยตอบกลับอย่างเฉยชาว่า “ขอบคุณท่านเจ้าเมืองมากๆ ครับ ยังต้องรบกวนท่านเจ้าเมืองมอบรางวัลสุดท้ายให้พวกเราด้วย”

เมื่อเห็นหลิงหลานมีท่าทีสงบนิ่งไม่ได้ดูตื่นเต้นจนน่าขบขัน ในใจเจ้าเมืองหงหยางยิ่งรู้สึกยินดีไม่หยุด ความประทัยใจที่มีต่อหลิงหลานเลี้ยวโค้งหนึ่งร้อยแปดสิบองศา เขาลืมการกลั่นแกล้งหลิงหลานในตอนนั้นไปแล้ว คิดว่าเขาเป็นคนที่คัดสรรหลิงหลาน มองเห็นความไม่ธรรมดาของอีกฝ่ายในเวลานั้น ถึงได้มอบภารกิจระดับ SSS ให้ ความจริงพิสูจน์แล้วว่า เขามีสายตาที่ยอดเยี่ยมในการแยกแยะวีรบุรุษ เจ้าเมืองหงหยางลำพองใจขึ้นมา…

ในเมื่อเขาขุดอัจฉริยะออกมา เขาจะให้อีกฝ่ายเสียเปรียบได้ยังไง เจ้าเมืองหงหยางเห็นหลิงหลานเป็นคนของเขาแล้ว จึงตัดสินใจว่าจะมอบผลประโยชน์มหาศาลให้ เขาคิดคำนวณดูสักพักก็ประกาศรางวัลสุดท้ายออกมา

รางวัลที่หนึ่ง: หนังสือรับรองก่อตั้งหน่วยรบหนึ่งฉบับ นำหนังสือรับรองไปลงทะเบียนที่ศาลาการก็จะก่อตั้งหน่วยรบได้สำเร็จ เนื่องจากทำภารกิจระดับ SSS สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ หน่วยรบจึงเลื่อนจากระดับไร้ดาวในตอนแรกมาเป็นห้าดาวทันที หน่วยรบไร้ดาว: สมาชิกหน่วยรบ 6-12 คน หน่วยรบหนึ่งดาว: 6-18 คน สองดาว: 6-24 คน สามดาว: 6-30 คน สี่ดาว: 6-38 คน ห้าดาว: 6-50 คน

รางวัลที่สอง: เนื่องจากทำภารกิจระดับ SSS สำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบ มอบตราหัวใจผู้กล้าที่ยิ่งใหญ่ (ระดับ 1) ให้หนึ่งชิ้น ตราชิ้นนี้ต้องอาศัยหัวหน้าทีมเปิดใช้งาน เมื่อเปิดใช้งาน กำลังรบทั้งหมดของทีมจะเพิ่มขึ้นสิบเปอร์เซ็นต์ ระยะเวลาสิบนาที เวลาคูลดาวน์: เจ็ดวัน!

รางวัลที่สาม: สมาชิกทีมทุกคนสามารถแลกหุ่นรบระดับพิเศษขึ้นไปและต่ำกว่าไพ่ราชาลงไปได้ฟรีหนึ่งตัว เงื่อนไข: สมาชิกทีมจำเป็นต้องมีเงื่อนไขสอดคล้องกับหุ่นรบที่บังคับ เวลาบังคับใช้: ไม่มีจำกัด!

รางวัลที่สี่: สามารถรับภารกิจทุกอย่างในโลกหุ่นรบ (ยกเลิกการจำกัดระดับใดๆ ก็ตาม) หากล้มเหลวได้รับบทลงโทษครึ่งเดียว!

รางวัลที่ห้า: สามารถหยิบอาวุธหรืออุปกรณ์เสริมของหุ่นรบได้ตามใจชอบจากในคลังของเจ้าเมืองหงหยางสิบชิ้น เอเนอร์จอนระดับสุดยอดสิบชิ้น วัตถุดิบดัดแปลงหุ่นรบสิบชุด และวัตถุดิบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องสิบชุด…

รางวัลที่หก: สามารถเลือกสถานที่ที่ไม่มีเจ้าของในเมืองหงหยางเป็นค่ายทหารของหน่วยรบได้หนึ่งแห่ง และเลื่อนระดับเป็นค่ายทหารหนึ่งดาวทันที มอบ NPC เฝ้าคุ้มกันให้ยี่สิบคน และอาวุธป้องกันปืนใหญ่เลเซอร์สี่กระบอก

รางวัลที่เจ็ด: เครื่องหมายยกเว้นการท้าประลองหนึ่งชิ้น สามารถยกเว้นหนังสือท้าประลองค่ายทหารของหน่วยรบอื่นได้เป็นเวลาหนึ่งปีในโลกหุ่นรบ…

หลิงหลานมองรางวัลเหล่านี้ก็รู้ว่า สี่อันแรกน่าจะเป็นรางวัลที่ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักมอบให้ ทำให้คนเห็นแล้วใจเต้นอย่างที่คาดไว้จริงๆ ส่วนรางวัลสามอย่างหลังก็น่าจะเป็นรางวัลที่เจ้าเมืองหงหยางมอบให้เป็นการส่วนตัว ดูเหมือนว่าการที่เธอรับฟังคำพูดมากมายจะแสดงผลออกมาแล้ว

เวลานี้หลิงหลานไม่ได้รู้สึกอะไรกับของอื่นๆ ที่เจ้าเมืองมอบให้ เธอเพียงแต่น้ำลายไหลกับเอเนอร์จอนระดับสุดยอดสิบชิ้นนั้น อย่าโทษที่หลิงหลานสายตาตื้นเขินเลย ความจริงภารกิจครั้งนี้ทำให้เอเนอร์จอนที่สะสมไว้แต่เดิมของทีมหมดเกลี้ยงไปทันที ถ้าหากไม่มีเอเนอร์จอนพวกนี้ สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า สมาชิกทุกคนของทีมจำเป็นต้องทำภารกิจเพื่อเอเนอร์จอนอย่างบ้าคลั่งในหลายวันข้างหน้า ไม่อย่างนั้นพวกเขาถึงขนาดที่ไม่อาจเปิดใช้งานหุ่นรบได้เลย

ภารกิจเดียวก็ทำให้ทีมของหลิงหลานยากจนถึงขั้นนี้แล้ว! หลิงหลานคิดถึงตรงนี้ก็หลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้าใจ!

—————————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด