I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 75 ความปรารถนาที่จะมีลูก!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 75 ความปรารถนาที่จะมีลูก! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทำไมไม่ได้ล่ะ ในเมื่อไม่มีเป้าหมายอะไร พวกเราก็สร้างขึ้นมาสักอันสิ ถ้ามีเป้าหมายแล้ว ลูกพี่ก็จะไม่มีความลังเลไม่แน่ใจแล้วนี่นา” เสี่ยวซื่อยิ่งพูดก็ยิ่งอิ่มอกอิ่มใจ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดจริงๆ

ดูเหมือนจะมีเหตุผล! หลิงหลานตัดสินใจลองวิธีของเสี่ยวซื่อก่อน บางทีเธออาจจะโชคดีสุดยอดเป็นแมวตาบอดเจอหนูตาย ถึงแม้ว่าเสี่ยวซื่อจะดูเชื่อถือไม่ได้ขนาดนั้นก็ตาม…

หลิงหลานครุ่นคิดอยู่นาน หลังจากนั้นก็เอ่ยถามด้วยใบหน้างุนงงว่า “เสี่ยวซื่อ ถ้างั้นฉันจะตั้งเป้าหมายอะไรดีล่ะ?”

เสี่ยวซื่อไร้คำพูด เรื่องนี้ลูกพี่ควรคิดเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงถามเขาล่ะ?

อย่างไรก็ตาม เสี่ยวซื่อย่อมเป็นลูกน้องที่รับผิดชอบต่อหน้าที่ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็รีบค้นหาในคลังข้อมูลของตัวเองทันที ดังนั้นคำที่ถูกเน้นข้อความด้วยสีสันงดงามก็เด้งออกมาจากในคลังข้อมูลทีละคำ เสี่ยวซื่อพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ลูกพี่ พวกเราไปยึดครองกาแลกซี่กันเถอะ”

หลิงหลานกลอกตาใส่เสี่ยวซื่ออย่างโอเวอร์ “นายเห็นฉันเป็นไอ้โง่เหรอ?” เรื่องที่สิ้นเปลืองทั้งแรงกายแรงใจเอามากๆ แบบนี้ ใครทำคนนั้นก็โง่สิ

“งั้นเป็นราชาปกครองนครรัฐล่ะ?” เสี่ยวซื่อลดความต้องการทันที

“ไม่สนใจ” หลิงหลานพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ เสี่ยวซื่อเสนอเรื่องที่มันปกติหน่อยไม่ได้เลยหรือไง? เธอไม่ใช่คนที่ต้องการจะเป็นราชามหาอำนาจอะไรหรอกนะ หลิงหลานรู้จักตัวเองดีมาก

“งั้นสร้างโลกที่สมบูรณ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน?” “กลายเป็นฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ไม่เป็นสองรองใคร?”

หลิงหลานกลุ้มใจ เป้าหมายยิ่งใหญ่ที่เสี่ยวซื่อพูดมาพวกนี้เป็นการแกล้งเธอชัดๆ แม่งเอ๊ย เธอไม่ใช่แม่พระนะ

เสียงของเสี่ยวซื่ออ่อนลงไปทุกทีท่ามกลางสายตาของหลิงหลานที่ไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ…ฮือๆๆ ลูกพี่ ของพวกนี้อยู่ในคลังข้อมูลนะ ถ้าไม่พอใจอีก เขาก็ช่วยไม่ได้แล้ว

อ้อ? ยังมีอีกอัน ทันใดนั้นเสี่ยวซื่อเห็นอีกคำที่ยังไม่ได้อ่านออกมา “ใช่แล้ว พวกเราเปิดฮาเร็มเป็นพ่อพันธุ์ได้นะ?” ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเปิดฮาเร็มเป็นพ่อพันธุ์คืออะไร แต่ว่าอัตราความเป็นไปได้ที่คำนี้จะปรากฏออกมาก็ไม่น้อยไปกว่าพวกคำด้านบนเลย

หลิงหลานได้ยินคำพูดก็โมโหแล้วก็เอาหัวโหม่งใส่ศีรษะเสี่ยวซื่อแรงๆ “ไอ้โง่ ฉันเป็นผู้หญิงนะ” แม่งเอ๊ย เป็นพ่อพันธุ์หมายถึงผู้ชายไม่ใช่หรือไง นอกจากนี้เธอไม่มีความคิดสตรีเป็นใหญ่เหนือบุรุษด้วย บวกกับชาติก่อนได้รับการสั่งสอนเรื่องหนึ่งสามีหนึ่งภรรยา เธอไม่สามารถรับเรื่องแบบนี้ได้เป็นอันขาด

“ผู้หญิงเปิดวังหลังเป็นพ่อพันธุ์ไม่ได้แล้ว?” เสี่ยวซื่อเบ้ปาก ไม่ยอมรับอยู่บ้าง เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่านี่เกี่ยวอะไรกับเพศด้วย แต่ในเมื่อลูกพี่เกลียดข้อนี้ มันก็ย่อม fail ไป

ทั้งสองคนครุ่นคิดต่อไปอย่างหนัก พวกเขานั่งทำหน้ากลัดกลุ้มด้วยกัน สองมือประคองใบหน้าของตัวเอง

ผ่านไป สิบนาที ผ่านไปครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว…เสี่ยวซื่อที่คิดข้อแนะนำดีๆ ไม่ออกก็คลั่งขึ้นมาในที่สุด เขาทึ้งผมของตัวเองร้องเสียงแหลมว่า “อ้ากกก….คิดไม่ออก ยังมีเป้าหมายยิ่งใหญ่อะไรอีกเหรอ”

“ยิ่งใหญ่? จะเอายิ่งใหญ่ไปเพื่ออะไร?” หลิงหลานถูกเสี่ยวซื่อเตือนสติ คล้ายกับหาทิศทางที่จะใคร่ครวญเจอ “บางทีเราอาจจะเริ่มคิดจากความปรารถนาเล็กๆ ก็ได้…”

เสี่ยวซื่อไม่เข้าใจ “หมายความว่ายังไง?”

“ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้เสี่ยวซื่ออยากบรรลุเป้าหมายอะไรมากที่สุดล่ะ?”

เสี่ยวซื่อได้ยินคำกล่าวก็ยืดหน้าอกเล็กๆ ของตัวเองฉับพลันและกล่าวว่า “ฉันอยากเป็นลูกน้องอันดับหนึ่งของลูกพี่”

หน้าผากของหลิงหลานขึ้นขีดดำ จะมีความคิดทะเยอทะยานมากขึ้นหน่อยไม่ได้เลยหรือไง? นอกจากนี้เธอพูดไปตั้งนานแล้วว่าเขาเป็นลูกน้องอันดับหนึ่ง ทำไมยังหมกมุ่นอยู่กับปัญหาเรื่องนี้อีกนะ?

เสี่ยวซื่อเหมือนกับเข้าใจเช่นกัน เขามองไปที่หลิงหลานด้วยแววตาเปล่งประกายและพูดว่า “ลูกพี่ ถ้างั้นเป้าหมายที่เธออยากทำให้สำเร็จในช่วงนี้คืออะไรล่ะ?”

“รักษาตำแหน่งในห้องสเปเชียลเอต่อไป” หลิงหลานตอบโดยไม่ลังเล ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่รบกวนเธอในช่วงนี้ก็คือเรื่องนี้เช่นกัน

“รักษาตำแหน่ง? ไม่เอาอันดับหนึ่งเหรอ?” เสี่ยวซื่องุนงงมาก ควรทราบว่าดูจากความแข็งแกร่งของหลิงหลาน การจะคว้าอันดับหนึ่งย่อมเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก

“ไม่มีความคิดนี้เลย แน่นอนว่าถ้าเกิดได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เป็นไร ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ” หลิงหลานไม่ได้สนใจปัญหานี้มากนัก

เมื่อคำพูดนี้เพิ่งกล่าวออกมา ทันใดนั้นหลิงหลานก็ตะลึงงัน ความลังเลไม่แน่ใจและไม่มีเป้าหมายที่อาจารย์หมายเก้าว่าไว้หมายถึงเรื่องนี้ใช่หรือเปล่า? เพราะว่าเธอไม่มีจุดยืนของตัวเองมาตลอด รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นผลสอบ การฝึกฝน รวมไปถึงพวกภารกิจฝึกฝนในมิติการเรียนรู้ ความจริงแล้ว เธอไม่เคยคิดอยากจะได้เองเลย

“ฉันรู้แล้ว…” หลิงหลานตระหนักได้ฉับพลัน

“หรือว่าต้องชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งจริงๆ?” ถึงแม้หลิงหลานรู้สึกว่าเธอหาทางเจอแล้ว แต่ในใจยังคงรู้สึกงงงวยอยู่บ้าง เดิมทีเธอตั้งใจไว้ว่าไม่อยากยืนเด่นสะดุดตากลายเป็นจุดสนใจของทุกคน การบีบบังคับให้ตัวเองทำเรื่องที่ไม่อยากทำจะแก้ไขอุปสรรคตรงหน้าเธอได้จริงๆ เหรอ? มันจะไม่ยิ่งเดินไปผิดทางใช่ไหม?

“ไม่ชิงก็ไม่ชิง ถึงยังไงการเอาตำแหน่งอันดับหนึ่งไปก็ไม่มีผลประโยชน์มากเท่าไหร่ ต้นทุนกับกำไรไม่สมดุลกันมากเกินไปแล้ว” เสี่ยวซื่อไม่มีความคิดสับสนวุ่นวายมากมายขนาดหลิงหลาน เขาเพียงแต่ค้นหาคำตอบจากในผลประโยชน์เท่านั้น นอกจากจะได้รับชื่อเสียงแล้ว การชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งแทบจะไม่มีข้อดีอะไรเลย เสี่ยวซื่อเองก็ไม่สนใจเหมือนกันว่าลูกพี่ของเขาจะเป็นที่หนึ่งได้หรือเปล่า

“ลูกพี่ เธอต้องค้นหาเรื่องที่ทำแล้วมีประโยชน์มากกว่าตำแหน่งที่หนึ่งนะ” เสี่ยวซื่อพูดพลางจำลองลูกอมออกมาไว้ในมือและเลียมันหลายทีเนื่องจากความเบื่อหน่าย เขาคิดว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น มีแต่เรื่องที่ไร้ประโยชน์เท่านั้นที่ทำไม่ได้

“มีประโยชน์สูงกว่า ไม่มีจริงๆ นั่นแหละ” หลิงหลานที่เหนื่อยล้าไม่สามารถหาเรื่องที่บรรลุความต้องการของเสี่ยวซื่อได้เลย

เสี่ยวซื่อรู้สึกหดหู่ใจ เขาเลียลูกอมแรงๆ จากนั้นก็เอ่ยกับหลิงหลานด้วยความจริงจังว่า “เอาแบบนี้ละกัน ลูกพี่ เธออยากใช้ชีวิตแบบไหนในอนาคต?”

“ชีวิตที่สงบสุข อิสระ พอเบื่อก็มีลูก หลังจากนั้นก็เลี้ยงเขาจนเติบใหญ่ เล่นด้วยกันกับเขา” มุมปากของหลิงหลานแฝงไปด้วยรอยยิ้ม เธออยากมีเด็กมากจริงๆ เมื่อบวกกันสองชาติแล้ว อายุของเธอไม่น้อยแล้วจริงๆ

เสี่ยวซื่อได้ยินคำพูดของหลิงหลานก็ทำหน้าขรึมทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

เมื่อหลิงหลานเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเสี่ยวซื่อ เธอก็ไม่พอใจ “ทำไม? ฉันมีลูกไม่ได้หรือไง?”

“แน่นอนว่าได้” เสี่ยวซื่อรีบพูด “แต่ว่า ลูกพี่ไม่เคยคิดเรื่องสถานการณ์ของตัวเองเลยหรือไง?”

“สถานการณ์? ฉันปลอมแปลงฐานะเป็นผู้ชาย?” หลิงหลานตระหนักขึ้นมาได้ โดยพื้นฐานแล้วสถานะนี้กำหนดให้เธอไม่สามารถแต่งงานได้อย่างเปิดเผย ถ้าอยากหาผู้ชายสักคนเพื่อขอสเปิร์มก็ต้องหาอย่างลับๆ…

“ฉันเชื่อว่าตระกูลหลิงจะเตรียมผู้คุ้มกันสักคนมาผูกสัมพันธ์กับฉัน” หลิงหลานไม่กังวลเรื่องไม่มีผู้ชาย หลานลั่วเฟิ่งกับหลิงฉินไม่มีทางให้ตระกูลหลิงสิ้นทายาท

“ไม่เหมาะสม” เสี่ยวซื่อคัดค้านอย่างกระตือรือร้น

“หืม? ทำไมล่ะ?” หลิงหลานไม่เข้าใจ

“ลูกพี่ เธอต้องรู้ว่า ลูกจะยอดเยี่ยมหรือไม่ โดยพื้นฐานแล้วต้องดูยีนของฝั่งพ่อนะ” ช่วงนี้เสี่ยวซื่อศึกษาข้อมูลพวกนี้ในโลกออนไลน์เสมือนจริงมาไม่น้อย

“อ้า…นี่หมายความว่าต่อให้ยีนของฉันดีอีกสักแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์แล้วเหรอ?” หลิงหลานโมโห เธอเป็นคนให้กำเนิดลูก แต่ลูกจะดีเลิศหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับเธอเลย นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว

เสี่ยวซื่อกล่าวด้วยใบหน้าที่แสดงความเสียใจว่า “แน่นอนว่าถ้ายีนฝั่งแม่ดี ลูกก็จะยิ่งยอดเยี่ยมมากขึ้น แต่ว่าหลักๆ แล้วยังคงเป็นฝั่งพ่อ ถ้ายีนฝั่งพ่อแย่ เด็กเกิดมามีคุณสมบัติแย่ก็เป็นเรื่องที่แทบจะแน่นอนแล้ว”

“พูดได้ว่า ถ้าฉันอยากให้ลูกของฉันโดดเด่นเหนือใคร ก็ไม่สามารถหาผู้ชายตามใจชอบได้เลย” หลิงหลานกัดฟัน นี่นับเป็นพันธุกรรมอะไรกัน ทำไมต้องให้ฝั่งพ่อสำคัญขนาดนี้ด้วย?

เสี่ยวซื่อกล่าวด้วยสีหน้าดีใจที่เห็นคนอื่นทุกข์ตรม “ถูกต้องเลย ลูกพี่”

“และสถานะของฉันในตอนนี้ไม่สามารถมีความรักแต่งงานมีลูกกับผู้ชายที่แข็งแกร่งได้อย่างอิสระเลย” ในที่สุดหลิงหลานก็เข้าใจแล้วว่า เสี่ยวซื่อทำหน้าโอเวอร์นั้นหมายความว่าอะไร

แน่นอนว่าถ้าเกิดหลิงหลานไม่สนใจปัญหาเรื่องคุณสมบัติของลูก ทุกอย่างนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หลิงหลานย่อมเป็นแม่ที่มีความรับผิดชอบ ในเมื่อสามารถทำให้ลูกของตัวเองโดดเด่นได้มากยิ่งขึ้น เธอย่อมไม่ให้ลูกของตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรมเด็ดขาด

“ไม่มีวิธีแก้ปัญหาเลยหรือไง?” หลิงหลานขมวดคิ้วถาม เธอไม่เชื่อหรอก ถึงยังไงเธอก็ตั้งเป้าเรื่องการมีลูกไว้แล้ว ต่อให้ยากลำบากอีกแค่ไหนก็ต้องทำให้สำเร็จ สิ่งที่เธออยากทำในชาตินี้ก็มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น

“มีอยู่สองวิธี” เสี่ยวซื่อยอดเยี่ยมมาก ให้วิธีการหลิงหลานมาสองทาง

“ข้อแรก ปล้นคลังสเปิร์มของสหพันธรัฐ ฉันเชื่อว่าข้างในย่อมเก็บสเปิร์มของผู้ชายที่แข็งแกร่งไว้แน่นอน” คำพูดของเสี่ยวซื่อทำให้แววตาของหลิงหลานเปล่งประกาย แต่คำพูดต่อมาเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานหน้าเปลี่ยนสี

“แต่เธอต้องเอาชนะกองกำลังหุ่นรบไพ่ราชาที่ตั้งมั่นอยู่ในคลังสเปิร์มของสหพันธรัฐด้วยนะ เล่ากันว่าผู้นำกองกำลังยังเป็นผู้ควบคุมขั้นราชาด้วย ขอเตือนเธอนะว่า ผู้ควบคุมขั้นราชาเป็นรองผู้ควบคุมขั้นเทวะแค่ระดับเดียว ถ้าเธออยากไปปล้นสเปิร์มที่นั่นอย่างราบรื่น จะต้องมีความสามารถใกล้เคียงกับผู้ควบคุมขั้นเทวะ ไม่อย่างนั้นเธอได้เข้าไปพร้อมกับชีวิตแต่ออกมาพร้อมกับความตายแน่นอน”

“แล้วอีกวิธีล่ะ” หลิงหลานทิ้งวิธีนี้ไปโดยไม่ลังเล เธออยากมีลูกเท่านั้น ไม่ได้อยากรนหาที่ตายนะ

“หาผู้ชายที่แข็งแกร่งสักคนที่เธอถูกใจ ใช้กำลังกดเขาลง บังคับเขาซะ” เสี่ยวซื่อกล่าวอย่างองอาจ

หลิงหลานทำหน้า 囧 ให้ตายสิ วิธีการสองอย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปทำได้เลย

“ฉันแนะนำให้เธอเลือกวิธีการที่สองนะ จัดการผู้ชายที่แข็งแกร่งสักคนง่ายกว่าจัดการกับผู้ชายที่แข็งแกร่งหนึ่งกองมากๆ” เสี่ยวซื่อแนะนำด้วยความเห็นอกเห็นใจมาก

คำพูดของเสี่ยวซื่อไม่ได้ทำให้สีหน้าของหลิงหลานดูดีมากเท่าไหร่เลย เพราะว่าคิดจะบีบบังคับผู้ชายที่แข็งแกร่งสักคนย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย

“แน่นอนว่า เลือกลักพาตัวก็ได้เหมือนกันนะ…ถ้าเกิดผู้ชายที่แข็งแกร่งสักคนสมัครใจนอนกับเธอเอง ลูกพี่ เธอก็ไม่ต้องกังวลแล้ว” เสี่ยวซื่อยิ้มด้วยความลำพองใจ เขาคิดว่าข้อเสนอแนะนี้ดีมากเกินไปแล้วจริงๆ

“โง่เง่า!” หลิงหลานเขกหัวเสี่ยวซื่ออย่างไม่สบอารมณ์ ผู้ชายคนไหนจะยินดีนอนกับผู้ชายอีกคน? นอกเสียจากเขาจะเป็นเกย์ แต่ถ้าเขาเป็นเกย์จริงๆ เธอก็รับไม่ได้ ควรรู้ไว้ว่าเธอเป็นผู้หญิงนะ

“ไม่ได้เหรอ? ถ้างั้นลูกพี่ก็ได้แต่พึ่งตัวเองขืนใจเขาแล้ว” เสี่ยวซื่อพูดด้วยความเสียใจ

“ขืนใจเหรอ? ดูท่าฉันต้องแข็งแกร่งมากขึ้น ไม่อยากนั้นก็จะขืนใจอีกฝ่ายไม่ได้” หลิงหลานใคร่ครวญทุกด้านก่อนจะตระหนักได้ว่าคำพูดของเสี่ยวซื่อก็สมเหตุสมผล เธอจะต้องทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะให้กำเนิดลูกที่ยอดเยี่ยม

“อื้อ ลูกพี่สู้ๆ เธอต้องพยายามให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นเธอจะให้กำเนิดเด็กที่มีความสามารถเหนือใครไม่ได้นะ” เสี่ยวซื่อให้กำลังใจหลิงหลานสู้ต่อไป

ทันใดนั้นหลิงหลานก็ตระหนักได้ว่าการที่เธอรับการทรมานของมิติการเรียนรู้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความหมายเลย มันทำให้เธอแข็งแกร่งมากขึ้น ยิ่งทำให้เธอบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

“ลูกของฉันจะต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด…” แววตาของหลิงหลานไม่มีความลังเลสับสนอีกแล้ว ใครก็ขัดขวางความตั้งใจที่จะมีลูกที่ยอดเยี่ยมของเธอไม่ได้ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็จะยืนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุด ตัวเลือกของฉันก็จะได้มากขึ้น…”

เป็นเพราะความปรารถนาที่เรียบง่ายนี้ ทำให้หลิงหลานเหยียบย่ำไปบนเส้นทางของผู้แข็งแกร่ง ไม่มีความสับสนอีกต่อไป

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 75 ความปรารถนาที่จะมีลูก!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 75 ความปรารถนาที่จะมีลูก! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ทำไมไม่ได้ล่ะ ในเมื่อไม่มีเป้าหมายอะไร พวกเราก็สร้างขึ้นมาสักอันสิ ถ้ามีเป้าหมายแล้ว ลูกพี่ก็จะไม่มีความลังเลไม่แน่ใจแล้วนี่นา” เสี่ยวซื่อยิ่งพูดก็ยิ่งอิ่มอกอิ่มใจ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตปัญญาประดิษฐ์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดจริงๆ

ดูเหมือนจะมีเหตุผล! หลิงหลานตัดสินใจลองวิธีของเสี่ยวซื่อก่อน บางทีเธออาจจะโชคดีสุดยอดเป็นแมวตาบอดเจอหนูตาย ถึงแม้ว่าเสี่ยวซื่อจะดูเชื่อถือไม่ได้ขนาดนั้นก็ตาม…

หลิงหลานครุ่นคิดอยู่นาน หลังจากนั้นก็เอ่ยถามด้วยใบหน้างุนงงว่า “เสี่ยวซื่อ ถ้างั้นฉันจะตั้งเป้าหมายอะไรดีล่ะ?”

เสี่ยวซื่อไร้คำพูด เรื่องนี้ลูกพี่ควรคิดเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงถามเขาล่ะ?

อย่างไรก็ตาม เสี่ยวซื่อย่อมเป็นลูกน้องที่รับผิดชอบต่อหน้าที่ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงก็รีบค้นหาในคลังข้อมูลของตัวเองทันที ดังนั้นคำที่ถูกเน้นข้อความด้วยสีสันงดงามก็เด้งออกมาจากในคลังข้อมูลทีละคำ เสี่ยวซื่อพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ลูกพี่ พวกเราไปยึดครองกาแลกซี่กันเถอะ”

หลิงหลานกลอกตาใส่เสี่ยวซื่ออย่างโอเวอร์ “นายเห็นฉันเป็นไอ้โง่เหรอ?” เรื่องที่สิ้นเปลืองทั้งแรงกายแรงใจเอามากๆ แบบนี้ ใครทำคนนั้นก็โง่สิ

“งั้นเป็นราชาปกครองนครรัฐล่ะ?” เสี่ยวซื่อลดความต้องการทันที

“ไม่สนใจ” หลิงหลานพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ เสี่ยวซื่อเสนอเรื่องที่มันปกติหน่อยไม่ได้เลยหรือไง? เธอไม่ใช่คนที่ต้องการจะเป็นราชามหาอำนาจอะไรหรอกนะ หลิงหลานรู้จักตัวเองดีมาก

“งั้นสร้างโลกที่สมบูรณ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน?” “กลายเป็นฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ไม่เป็นสองรองใคร?”

หลิงหลานกลุ้มใจ เป้าหมายยิ่งใหญ่ที่เสี่ยวซื่อพูดมาพวกนี้เป็นการแกล้งเธอชัดๆ แม่งเอ๊ย เธอไม่ใช่แม่พระนะ

เสียงของเสี่ยวซื่ออ่อนลงไปทุกทีท่ามกลางสายตาของหลิงหลานที่ไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ…ฮือๆๆ ลูกพี่ ของพวกนี้อยู่ในคลังข้อมูลนะ ถ้าไม่พอใจอีก เขาก็ช่วยไม่ได้แล้ว

อ้อ? ยังมีอีกอัน ทันใดนั้นเสี่ยวซื่อเห็นอีกคำที่ยังไม่ได้อ่านออกมา “ใช่แล้ว พวกเราเปิดฮาเร็มเป็นพ่อพันธุ์ได้นะ?” ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเปิดฮาเร็มเป็นพ่อพันธุ์คืออะไร แต่ว่าอัตราความเป็นไปได้ที่คำนี้จะปรากฏออกมาก็ไม่น้อยไปกว่าพวกคำด้านบนเลย

หลิงหลานได้ยินคำพูดก็โมโหแล้วก็เอาหัวโหม่งใส่ศีรษะเสี่ยวซื่อแรงๆ “ไอ้โง่ ฉันเป็นผู้หญิงนะ” แม่งเอ๊ย เป็นพ่อพันธุ์หมายถึงผู้ชายไม่ใช่หรือไง นอกจากนี้เธอไม่มีความคิดสตรีเป็นใหญ่เหนือบุรุษด้วย บวกกับชาติก่อนได้รับการสั่งสอนเรื่องหนึ่งสามีหนึ่งภรรยา เธอไม่สามารถรับเรื่องแบบนี้ได้เป็นอันขาด

“ผู้หญิงเปิดวังหลังเป็นพ่อพันธุ์ไม่ได้แล้ว?” เสี่ยวซื่อเบ้ปาก ไม่ยอมรับอยู่บ้าง เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่านี่เกี่ยวอะไรกับเพศด้วย แต่ในเมื่อลูกพี่เกลียดข้อนี้ มันก็ย่อม fail ไป

ทั้งสองคนครุ่นคิดต่อไปอย่างหนัก พวกเขานั่งทำหน้ากลัดกลุ้มด้วยกัน สองมือประคองใบหน้าของตัวเอง

ผ่านไป สิบนาที ผ่านไปครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว…เสี่ยวซื่อที่คิดข้อแนะนำดีๆ ไม่ออกก็คลั่งขึ้นมาในที่สุด เขาทึ้งผมของตัวเองร้องเสียงแหลมว่า “อ้ากกก….คิดไม่ออก ยังมีเป้าหมายยิ่งใหญ่อะไรอีกเหรอ”

“ยิ่งใหญ่? จะเอายิ่งใหญ่ไปเพื่ออะไร?” หลิงหลานถูกเสี่ยวซื่อเตือนสติ คล้ายกับหาทิศทางที่จะใคร่ครวญเจอ “บางทีเราอาจจะเริ่มคิดจากความปรารถนาเล็กๆ ก็ได้…”

เสี่ยวซื่อไม่เข้าใจ “หมายความว่ายังไง?”

“ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้เสี่ยวซื่ออยากบรรลุเป้าหมายอะไรมากที่สุดล่ะ?”

เสี่ยวซื่อได้ยินคำกล่าวก็ยืดหน้าอกเล็กๆ ของตัวเองฉับพลันและกล่าวว่า “ฉันอยากเป็นลูกน้องอันดับหนึ่งของลูกพี่”

หน้าผากของหลิงหลานขึ้นขีดดำ จะมีความคิดทะเยอทะยานมากขึ้นหน่อยไม่ได้เลยหรือไง? นอกจากนี้เธอพูดไปตั้งนานแล้วว่าเขาเป็นลูกน้องอันดับหนึ่ง ทำไมยังหมกมุ่นอยู่กับปัญหาเรื่องนี้อีกนะ?

เสี่ยวซื่อเหมือนกับเข้าใจเช่นกัน เขามองไปที่หลิงหลานด้วยแววตาเปล่งประกายและพูดว่า “ลูกพี่ ถ้างั้นเป้าหมายที่เธออยากทำให้สำเร็จในช่วงนี้คืออะไรล่ะ?”

“รักษาตำแหน่งในห้องสเปเชียลเอต่อไป” หลิงหลานตอบโดยไม่ลังเล ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องที่รบกวนเธอในช่วงนี้ก็คือเรื่องนี้เช่นกัน

“รักษาตำแหน่ง? ไม่เอาอันดับหนึ่งเหรอ?” เสี่ยวซื่องุนงงมาก ควรทราบว่าดูจากความแข็งแกร่งของหลิงหลาน การจะคว้าอันดับหนึ่งย่อมเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก

“ไม่มีความคิดนี้เลย แน่นอนว่าถ้าเกิดได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เป็นไร ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ” หลิงหลานไม่ได้สนใจปัญหานี้มากนัก

เมื่อคำพูดนี้เพิ่งกล่าวออกมา ทันใดนั้นหลิงหลานก็ตะลึงงัน ความลังเลไม่แน่ใจและไม่มีเป้าหมายที่อาจารย์หมายเก้าว่าไว้หมายถึงเรื่องนี้ใช่หรือเปล่า? เพราะว่าเธอไม่มีจุดยืนของตัวเองมาตลอด รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทุกคนให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นผลสอบ การฝึกฝน รวมไปถึงพวกภารกิจฝึกฝนในมิติการเรียนรู้ ความจริงแล้ว เธอไม่เคยคิดอยากจะได้เองเลย

“ฉันรู้แล้ว…” หลิงหลานตระหนักได้ฉับพลัน

“หรือว่าต้องชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งจริงๆ?” ถึงแม้หลิงหลานรู้สึกว่าเธอหาทางเจอแล้ว แต่ในใจยังคงรู้สึกงงงวยอยู่บ้าง เดิมทีเธอตั้งใจไว้ว่าไม่อยากยืนเด่นสะดุดตากลายเป็นจุดสนใจของทุกคน การบีบบังคับให้ตัวเองทำเรื่องที่ไม่อยากทำจะแก้ไขอุปสรรคตรงหน้าเธอได้จริงๆ เหรอ? มันจะไม่ยิ่งเดินไปผิดทางใช่ไหม?

“ไม่ชิงก็ไม่ชิง ถึงยังไงการเอาตำแหน่งอันดับหนึ่งไปก็ไม่มีผลประโยชน์มากเท่าไหร่ ต้นทุนกับกำไรไม่สมดุลกันมากเกินไปแล้ว” เสี่ยวซื่อไม่มีความคิดสับสนวุ่นวายมากมายขนาดหลิงหลาน เขาเพียงแต่ค้นหาคำตอบจากในผลประโยชน์เท่านั้น นอกจากจะได้รับชื่อเสียงแล้ว การชิงตำแหน่งอันดับหนึ่งแทบจะไม่มีข้อดีอะไรเลย เสี่ยวซื่อเองก็ไม่สนใจเหมือนกันว่าลูกพี่ของเขาจะเป็นที่หนึ่งได้หรือเปล่า

“ลูกพี่ เธอต้องค้นหาเรื่องที่ทำแล้วมีประโยชน์มากกว่าตำแหน่งที่หนึ่งนะ” เสี่ยวซื่อพูดพลางจำลองลูกอมออกมาไว้ในมือและเลียมันหลายทีเนื่องจากความเบื่อหน่าย เขาคิดว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น มีแต่เรื่องที่ไร้ประโยชน์เท่านั้นที่ทำไม่ได้

“มีประโยชน์สูงกว่า ไม่มีจริงๆ นั่นแหละ” หลิงหลานที่เหนื่อยล้าไม่สามารถหาเรื่องที่บรรลุความต้องการของเสี่ยวซื่อได้เลย

เสี่ยวซื่อรู้สึกหดหู่ใจ เขาเลียลูกอมแรงๆ จากนั้นก็เอ่ยกับหลิงหลานด้วยความจริงจังว่า “เอาแบบนี้ละกัน ลูกพี่ เธออยากใช้ชีวิตแบบไหนในอนาคต?”

“ชีวิตที่สงบสุข อิสระ พอเบื่อก็มีลูก หลังจากนั้นก็เลี้ยงเขาจนเติบใหญ่ เล่นด้วยกันกับเขา” มุมปากของหลิงหลานแฝงไปด้วยรอยยิ้ม เธออยากมีเด็กมากจริงๆ เมื่อบวกกันสองชาติแล้ว อายุของเธอไม่น้อยแล้วจริงๆ

เสี่ยวซื่อได้ยินคำพูดของหลิงหลานก็ทำหน้าขรึมทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

เมื่อหลิงหลานเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเสี่ยวซื่อ เธอก็ไม่พอใจ “ทำไม? ฉันมีลูกไม่ได้หรือไง?”

“แน่นอนว่าได้” เสี่ยวซื่อรีบพูด “แต่ว่า ลูกพี่ไม่เคยคิดเรื่องสถานการณ์ของตัวเองเลยหรือไง?”

“สถานการณ์? ฉันปลอมแปลงฐานะเป็นผู้ชาย?” หลิงหลานตระหนักขึ้นมาได้ โดยพื้นฐานแล้วสถานะนี้กำหนดให้เธอไม่สามารถแต่งงานได้อย่างเปิดเผย ถ้าอยากหาผู้ชายสักคนเพื่อขอสเปิร์มก็ต้องหาอย่างลับๆ…

“ฉันเชื่อว่าตระกูลหลิงจะเตรียมผู้คุ้มกันสักคนมาผูกสัมพันธ์กับฉัน” หลิงหลานไม่กังวลเรื่องไม่มีผู้ชาย หลานลั่วเฟิ่งกับหลิงฉินไม่มีทางให้ตระกูลหลิงสิ้นทายาท

“ไม่เหมาะสม” เสี่ยวซื่อคัดค้านอย่างกระตือรือร้น

“หืม? ทำไมล่ะ?” หลิงหลานไม่เข้าใจ

“ลูกพี่ เธอต้องรู้ว่า ลูกจะยอดเยี่ยมหรือไม่ โดยพื้นฐานแล้วต้องดูยีนของฝั่งพ่อนะ” ช่วงนี้เสี่ยวซื่อศึกษาข้อมูลพวกนี้ในโลกออนไลน์เสมือนจริงมาไม่น้อย

“อ้า…นี่หมายความว่าต่อให้ยีนของฉันดีอีกสักแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์แล้วเหรอ?” หลิงหลานโมโห เธอเป็นคนให้กำเนิดลูก แต่ลูกจะดีเลิศหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับเธอเลย นี่มันไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว

เสี่ยวซื่อกล่าวด้วยใบหน้าที่แสดงความเสียใจว่า “แน่นอนว่าถ้ายีนฝั่งแม่ดี ลูกก็จะยิ่งยอดเยี่ยมมากขึ้น แต่ว่าหลักๆ แล้วยังคงเป็นฝั่งพ่อ ถ้ายีนฝั่งพ่อแย่ เด็กเกิดมามีคุณสมบัติแย่ก็เป็นเรื่องที่แทบจะแน่นอนแล้ว”

“พูดได้ว่า ถ้าฉันอยากให้ลูกของฉันโดดเด่นเหนือใคร ก็ไม่สามารถหาผู้ชายตามใจชอบได้เลย” หลิงหลานกัดฟัน นี่นับเป็นพันธุกรรมอะไรกัน ทำไมต้องให้ฝั่งพ่อสำคัญขนาดนี้ด้วย?

เสี่ยวซื่อกล่าวด้วยสีหน้าดีใจที่เห็นคนอื่นทุกข์ตรม “ถูกต้องเลย ลูกพี่”

“และสถานะของฉันในตอนนี้ไม่สามารถมีความรักแต่งงานมีลูกกับผู้ชายที่แข็งแกร่งได้อย่างอิสระเลย” ในที่สุดหลิงหลานก็เข้าใจแล้วว่า เสี่ยวซื่อทำหน้าโอเวอร์นั้นหมายความว่าอะไร

แน่นอนว่าถ้าเกิดหลิงหลานไม่สนใจปัญหาเรื่องคุณสมบัติของลูก ทุกอย่างนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หลิงหลานย่อมเป็นแม่ที่มีความรับผิดชอบ ในเมื่อสามารถทำให้ลูกของตัวเองโดดเด่นได้มากยิ่งขึ้น เธอย่อมไม่ให้ลูกของตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรมเด็ดขาด

“ไม่มีวิธีแก้ปัญหาเลยหรือไง?” หลิงหลานขมวดคิ้วถาม เธอไม่เชื่อหรอก ถึงยังไงเธอก็ตั้งเป้าเรื่องการมีลูกไว้แล้ว ต่อให้ยากลำบากอีกแค่ไหนก็ต้องทำให้สำเร็จ สิ่งที่เธออยากทำในชาตินี้ก็มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น

“มีอยู่สองวิธี” เสี่ยวซื่อยอดเยี่ยมมาก ให้วิธีการหลิงหลานมาสองทาง

“ข้อแรก ปล้นคลังสเปิร์มของสหพันธรัฐ ฉันเชื่อว่าข้างในย่อมเก็บสเปิร์มของผู้ชายที่แข็งแกร่งไว้แน่นอน” คำพูดของเสี่ยวซื่อทำให้แววตาของหลิงหลานเปล่งประกาย แต่คำพูดต่อมาเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานหน้าเปลี่ยนสี

“แต่เธอต้องเอาชนะกองกำลังหุ่นรบไพ่ราชาที่ตั้งมั่นอยู่ในคลังสเปิร์มของสหพันธรัฐด้วยนะ เล่ากันว่าผู้นำกองกำลังยังเป็นผู้ควบคุมขั้นราชาด้วย ขอเตือนเธอนะว่า ผู้ควบคุมขั้นราชาเป็นรองผู้ควบคุมขั้นเทวะแค่ระดับเดียว ถ้าเธออยากไปปล้นสเปิร์มที่นั่นอย่างราบรื่น จะต้องมีความสามารถใกล้เคียงกับผู้ควบคุมขั้นเทวะ ไม่อย่างนั้นเธอได้เข้าไปพร้อมกับชีวิตแต่ออกมาพร้อมกับความตายแน่นอน”

“แล้วอีกวิธีล่ะ” หลิงหลานทิ้งวิธีนี้ไปโดยไม่ลังเล เธออยากมีลูกเท่านั้น ไม่ได้อยากรนหาที่ตายนะ

“หาผู้ชายที่แข็งแกร่งสักคนที่เธอถูกใจ ใช้กำลังกดเขาลง บังคับเขาซะ” เสี่ยวซื่อกล่าวอย่างองอาจ

หลิงหลานทำหน้า 囧 ให้ตายสิ วิธีการสองอย่างนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปทำได้เลย

“ฉันแนะนำให้เธอเลือกวิธีการที่สองนะ จัดการผู้ชายที่แข็งแกร่งสักคนง่ายกว่าจัดการกับผู้ชายที่แข็งแกร่งหนึ่งกองมากๆ” เสี่ยวซื่อแนะนำด้วยความเห็นอกเห็นใจมาก

คำพูดของเสี่ยวซื่อไม่ได้ทำให้สีหน้าของหลิงหลานดูดีมากเท่าไหร่เลย เพราะว่าคิดจะบีบบังคับผู้ชายที่แข็งแกร่งสักคนย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย

“แน่นอนว่า เลือกลักพาตัวก็ได้เหมือนกันนะ…ถ้าเกิดผู้ชายที่แข็งแกร่งสักคนสมัครใจนอนกับเธอเอง ลูกพี่ เธอก็ไม่ต้องกังวลแล้ว” เสี่ยวซื่อยิ้มด้วยความลำพองใจ เขาคิดว่าข้อเสนอแนะนี้ดีมากเกินไปแล้วจริงๆ

“โง่เง่า!” หลิงหลานเขกหัวเสี่ยวซื่ออย่างไม่สบอารมณ์ ผู้ชายคนไหนจะยินดีนอนกับผู้ชายอีกคน? นอกเสียจากเขาจะเป็นเกย์ แต่ถ้าเขาเป็นเกย์จริงๆ เธอก็รับไม่ได้ ควรรู้ไว้ว่าเธอเป็นผู้หญิงนะ

“ไม่ได้เหรอ? ถ้างั้นลูกพี่ก็ได้แต่พึ่งตัวเองขืนใจเขาแล้ว” เสี่ยวซื่อพูดด้วยความเสียใจ

“ขืนใจเหรอ? ดูท่าฉันต้องแข็งแกร่งมากขึ้น ไม่อยากนั้นก็จะขืนใจอีกฝ่ายไม่ได้” หลิงหลานใคร่ครวญทุกด้านก่อนจะตระหนักได้ว่าคำพูดของเสี่ยวซื่อก็สมเหตุสมผล เธอจะต้องทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะให้กำเนิดลูกที่ยอดเยี่ยม

“อื้อ ลูกพี่สู้ๆ เธอต้องพยายามให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นเธอจะให้กำเนิดเด็กที่มีความสามารถเหนือใครไม่ได้นะ” เสี่ยวซื่อให้กำลังใจหลิงหลานสู้ต่อไป

ทันใดนั้นหลิงหลานก็ตระหนักได้ว่าการที่เธอรับการทรมานของมิติการเรียนรู้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความหมายเลย มันทำให้เธอแข็งแกร่งมากขึ้น ยิ่งทำให้เธอบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น

“ลูกของฉันจะต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด…” แววตาของหลิงหลานไม่มีความลังเลสับสนอีกแล้ว ใครก็ขัดขวางความตั้งใจที่จะมีลูกที่ยอดเยี่ยมของเธอไม่ได้ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็จะยืนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุด ตัวเลือกของฉันก็จะได้มากขึ้น…”

เป็นเพราะความปรารถนาที่เรียบง่ายนี้ ทำให้หลิงหลานเหยียบย่ำไปบนเส้นทางของผู้แข็งแกร่ง ไม่มีความสับสนอีกต่อไป

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+