I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 158 อาจารย์ของมิติรวมตัว!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 158 อาจารย์ของมิติรวมตัว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงหลานโดนเสี่ยวซื่อเหยียดหยามอย่างโหดร้ายรอบหนึ่ง อย่างไรก็ตามหลิงหลานก็ได้แต่ถูจมูกยอมรับเท่านั้น ใครใช้ให้เธอโง่ด้านนี้มากจริงๆ ล่ะ หลังจากนี้เธอยังต้องอาศัยเสี่ยวซื่อแก้ไขข้อสงสัยให้เธอนะ หลิงหลานรู้ดีว่าไม่สามารถเอาแต่บีบคั้นเสี่ยวซื่อเพียงอย่างเดียวได้ เมื่อถึงเวลาเหมาะสมก็ให้เขาอวดเก่งหน่อย ต่อไปเขาจะได้ทุ่มแรงให้ข้อมูลประเภทนี้มากขึ้น

จำเป็นต้องพูดว่า ความจริงแล้วบางครั้งหลิงหลานก็ใจร้ายมาก เรามาร้องไห้สงสารให้เสี่ยวซื่อที่โง่งมกันก่อนเถอะ!

อันที่จริง วิธีการฝึกฝนพลังจิตที่หลิงเซียวถ่ายทอดมานั้นสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง ต่อให้เสี่ยวซื่อที่มีข้อมูลเก็บไว้ในคลังมากมายนับไม่ถ้วนเห็นวิธีการฝึกฝนของระบบเหล่านี้ก็อดตาวาวไม่ได้ ทันใดนั้นเขาจำลองข้อมูลในมือออกมาชุดหนึ่งในตอนที่หลิงหลานไม่ได้สังเกต หลังจากนั้นมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา ไม่รู้ว่ามันโดนเขาส่งไปยังสถานที่แห่งไหน…

………..

มิติเฉพาะแห่งหนึ่งของมิติการเรียนรู้ มีแผ่นเมฆเรียบๆ อยู่บนจุดที่สูงที่สุดของยอดเขาสูงชันลูกหนึ่งภายใต้ท้องฟ้าอึมครึม หมายเลขหนึ่งกำลังนั่งหลับตาปลีกวิเวกอยู่ ทันใดนั้นเองเขาก็เลิกคิ้วขึ้นมา เอื้อมมือไปคว้าบนอากาศ ข้อมูลชุดหนึ่งก็ปรากฎขึ้นมาในมือเขาอย่างไร้ที่มาที่ไปเช่นนี้เอง

หมายเลขหนึ่งค่อยลืมตาขึ้นก่อนจะพลิกเปิดดูมันตามใจชอบ สีหน้าของเขาพลันเคร่งขรึมขึ้นมา เสียงเย็นชาดังลั่นไปทั่วทั้งมิติทันที “รวมตัว!”

เสียงนี้เพิ่งจะสิ้นสุดลง ก็เห็นเส้นตั้งฉากสีดำแปดสายปรากฏขึ้นมาตรงบริเวณท้องฟ้าขมุกขมัวที่ห่างจากจุดที่หมายเลขหนึ่งนั่งอยู่หลายสิบเมตรฉับพลัน

หลังจากนั้นก็เห็นเส้นตั้งฉากหลายสายนั้นหนาขึ้นเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายก็แตกออกมาจากตรงกลาง สิ่งแรกที่สะดุดเข้ามาในสายตาก็คือด้านในพวกมันต่างก็มีมืออยู่คู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นว่ามือหลายคู่นี้ได้แหวกรอยแยกพวกนี้ออก เผยให้เห็นร่างของพวกเขา ซึ่งก็คืออาจารย์คนอื่นๆ ในมิติการเรียนรู้ หมายเลขสองจนถึงหมายเลขเก้า รวมทั้งหมดแปดคนไม่มีขาด

อาจารย์หมายสามที่ดูอ่อนโยนเรียบง่ายซื่อสัตย์เอ่ยพลางยิ้มระรื่น “พี่ใหญ่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงให้พวกเรามารวมตัวกัน?”

หมายเลขห้าหรี่ตาลงน้อยๆ ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มไร้พิษสงออกมาทันที “ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะทำให้ฉันตื่นเต้นขึ้นมาได้หรือเปล่า…” เขากล่าวจบก็ยังแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ท่าทางดูสนอกสนใจ ว่าไปแล้วนับตั้งแต่ที่หลิงหลานน้อยจบการฝึกฝนจากทางเขาแล้ว เขาก็รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความปรารถนาแล้ว ทำอะไรไม่มีอารมณ์….

หมายเลขสี่เป็นสาวงามที่ดูเซ็กซี่มาก ต่อให้สวมชุดเครื่องแบบทหารที่กระชับแน่น ก็ยังเห็นรูปร่างที่น่าหลงใหล ทรวดทรงเว้าโค้งที่เซ็กซี่ของเธอ สามารถทำให้ผู้ชายเลือดกำเดากระฉูดอย่างรุนแรงได้เลย ชุดเครื่องแบบที่เย้ายวนเอ๋ย…

เธอถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เอ่ยด้วยความกลัดกลุ้มว่า “ฉันสนใจแค่เมื่อไหร่ฉันจะเปิดตัวได้….ฉันอยากสอนหลานน้อยที่รักของบ้านเราแล้วนะ!”

หมายเลขเก้าแค่นเสียงเย็น “หลิงหลานไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ของพวกนี้…”

หมายเลขสี่ส่ายนิ้วพลางยิ้มกริ่ม “No No No น้องเก้า อย่าแน่ใจขนาดนี้สิ สุดท้ายหลานน้อยที่รักก็ต้องการผู้ชาย เวลานั้นเธอก็ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน ฉันจะให้เธอเรียนรู้กลเม็ดทุกอย่างว่าจะควบคุมผู้ชายยังไง…”

หมายเลขเก้ายังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอเหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เลยอดทนไม่พูดออกมา…

หมายเลขหก หมายเลขเจ็ด หมายเลขแปดก็เป็นแฝดสาม ทุกคนเป็นผู้ชายทั้งหมด อายุยี่สิบห้ายี่สิบหก หน้าตาหล่อเหลาองอาจ ทำให้คนรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาได้อย่างง่ายดาย ทั้งสามคนหน้าตาเหมือนกัน มองไปแวบเดียวไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครเป็นใคร พวกเขามองพี่ใหญ่หมายเลขหนึ่งของพวกเขาด้วยความขุ่นเคืองใจ แววตานั้นตำหนิพี่ใหญ่ตรงๆ ว่า ทำไมไม่ให้พวกเขาออกไปสั่งสอนลูกศิษย์ที่รักของพวกเขา

หมายเลขหนึ่งคล้ายกับไม่อาจต้านทานใบหน้าหล่อเหลาองอาจแบบเดียวกันสามดวงที่ทำหน้าเหมือนกับภรรยาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมได้ เขาพลันกระแอมไอออกมาทีหนึ่งและกล่าวว่า “ในตอนที่หลิงหลานยังไม่ได้เลือกหนทางพัฒนาในอนาคต พวกนายจะไม่สามารถออกมาได้…”

ใครใช้ให้สามคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านล่ะ หมายเลขหกเชี่ยวชาญการทำงานเรื่องการเงินการลงทุนทุกด้าน หมายเลขเจ็ดเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งด้านการบริหารจัดการ และหมายเลขแปดก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแผนการทางทหารกลยุทธ์ทุกประเภท เห็นได้ชัดว่าเป็นถุงเงิน หัวหน้าพ่อบ้าน และก็เสนาธิการ ถ้าหากหลิงหลานตัดสินใจยึดครองใต้หล้า พวกเขาสามคนก็จะปรากฏตัวได้ล่วงหน้า แต่หลิงหลานยังคงสับสนต่อแนวทางอนาคตของตัวเองอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงยังต้องรอคอยต่อไป…..

“เอ๋? หมายเลขสองล่ะ?” หมายเลขสี่พลันนึกได้ว่ายังมีหมายเลขสองที่หัวอกเดียวกันกับพวกเขา ไม่มีโอกาสได้ออกไปเหมือนกัน หมายเลขสองไม่อยากพูดคุยสนิทสนมกับหลานน้อยที่รักของพวกเขาหรือไง?

ทุกคนค่อยตระหนักได้ว่า หมายเลขสองที่เข้ามาด้วยกันกับพวกเขาหายตัวไปแล้ว….

หมายเลขหนึ่งยื่นข้อมูลในมือไปที่ข้างหลังตัวเองอย่างเยือกเย็น ก่อนจะเอ่ยอย่างเฉยชาว่า “หมายเลขสอง นายลองดูข้อมูลชุดนี้สิ”

จากนั้นก็เห็นเงาดำที่มือขวาของหมายเลขหนึ่งเปลี่ยนท่วงท่าฉับพลัน มันยืดขยายขึ้นไปด้านบน สุดท้ายก็สัมผัสกับข้อมูลในมือหมายเลขหนึ่ง เมื่อข้อมูลหลุดออกจากมือของหมายเลขหนึ่ง มันก็เปลี่ยนเป็นเงาก่อนจะกลับเข้าไปในเงาของหมายเลขหนึ่ง สุดท้ายก็ถูกเงาดำกลืนกินจนหมด

เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกโจมตีเข้าที่หัวใจโดยตรง อย่างไรก็ตามหลายคนเหมือนกับต้านทานภาพแปลกประหลาดแบบนี้ได้บ้าง พวกเขาส่วนใหญ่แค่ตัวสั่นเทา และยังคงฝืนแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น

ไม่นานเงาดำก็เอ่ยปากว่า “วิธีการฝึกฝนจิตใจที่สมบูรณ์แบบมาก มั่นคงและปลอดภัยมากกว่าวิธีการปลุกพรสวรรค์แบบเร่งรัดของระบบดาวแมนโดราของพวกเราเสียอีก เทียบกับวิธีการนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าวิธีการของพวกเราดูรุนแรงนิดหน่อย” เสียงของเงาดำราวกับโดนฉีกเส้นเสียงออก มันแหลมแสบแก้วหูอยู่บ้างทำให้คนฟังแล้วรู้สึกไม่สบายอย่างยิ่งยวด

“ดีขนาดนี้จริงๆ เหรอ?” แววตาของหมายเลขห้ามีความสนใจขึ้นมาในที่สุด เมื่อสิ้นเสียงเขา ทันใดนั้นข้อมูลชุดหนึ่งก็เด้งออกมาจากในเงา ก่อนจะบินตรงเข้าใส่หมายเลขห้า

หมายเลขห้ารับมันไว้อย่างสบายๆ ก่อนจะเปิดอ่านดูครู่หนึ่ง จากนั้นก็เห็นแววตาของเขาเปล่งประกาย เขาอุทานว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าเป็นแบบนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าการปลุกพรสวรรค์ขึ้นมาจะเปลืองแรงน้อยแต่ได้ผลคุ้มค่ามาก นี่เป็นหลักสูตรที่ดี ฉันต้องคิดก่อนว่าวิธีการนี้จะรวมกับการฝึกสอนขั้นปีศาจของฉันได้หรือเปล่า…”

หมายเลขเก้าแย่งข้อมูลมา และแค่นเสียงเย็นพูดว่า “อย่าทำลายของดีๆ นี้สิ…”

หมายเลขห้ายิ้มโดยที่ไม่ได้โต้แย้ง และก็ไม่ได้ไปแย่งข้อมูลนั้นกลับมา อันที่จริงพวกข้อมูลอย่างพวกเขา ขอเพียงแตะไปที่ข้อมูลทีหนึ่งก็รู้เนื้อหาข้างในแล้วว่าคืออะไร การเปิดอ่านเป็นแค่นิสัยคุ้นชินของพวกเขามาตลอดเท่านั้น

ทุกคนต่างวนกันดูรอบหนึ่ง ในใจพวกเขาเกิดความตระหนักรู้ได้ว่า การฝึกฝนพลังจิตส่งผลกระตุ้นพวกเขาที่เป็นสิ่งมีชีวิตทางปัญญาชั้นสูงในระดับหนึ่ง ควรพูดว่า แต่ละคนต่างมีการตระหนักรู้แตกต่างกันในขอบเขตของตัวเอง นี่ส่งผลดีต่อการพัฒนาการของพวกเขาในระดับหนึ่ง

“ไม่นึกเลยว่า พวกเราก็มีวันที่ได้รับของขวัญจากโฮสต์ด้วย…” หมายเลขสี่กล่าวพลางถอนหายใจ คำพูดของเธอทำให้ทุกคนเงียบไป เพราะกฎได้กำหนดไว้ว่า พวกเขาจำเป็นต้องตอบแทนโฮสต์ อย่างไรก็ตาม การตอบแทนในตอนนี้ยากลำบากอยู่บ้าง เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่ระบบดาวแมนโดรา ไม่มีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องที่ทำให้พวกเขาสร้างร่างจริงขึ้นมา…

“เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง มันจะต้องมีโอกาสอยู่แล้ว” หมายเลขหนึ่งยุติเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว รอคอยโอกาสในอนาคต และเพราะสาเหตุนี้เอง มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตที่สิ่งมีชีวิตทางปัญญาหมายเลขหก หมายเลขเจ็ดและหมายเลขแปดสามคนได้โอกาสก็พยายามพัฒนาเทคโนโลยีของโลกใบนี้เพื่อให้พวกเขาสร้างร่างจริงขึ้นมาได้ในเร็ววัน

อาจารย์หมายเลขหนึ่งครุ่นคิดแล้วก็กล่าวกับหมายเลขสองว่า “หมายเลขสอง ถึงเวลาที่นายออกโรงแล้ว”

“ครับ หมายเลขหนึ่ง!” หมายเลขสองเอ่ยเสียงทะมึน คราวนี้เขาเปลี่ยนเส้นเสียงในการพูดอีกครั้ง บวกกับใช้เงาดำพูดทำให้ฉากในตอนนี้ดูอึมครึม

ความรู้สึกเหมือนมารร้ายแบบนี้ทำให้อาจารย์คนอื่นๆ ไม่พอใจอยู่บ้าง ทยอยกันประท้วงให้หมายเลขสองเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์อีกครั้ง เพื่อไม่ให้ขู่ขวัญหลานน้อยที่น่ารักของพวกเขา

การประท้วงของพวกเขากลับนำมาซึ่งเสียงหัวเราะเย็นยะเยือกน่ากลัวของหมายเลขสองเท่านั้น ทุกหนทุกแห่งต่างถูกยึดครองโดยเสียงหัวเราะที่ทำให้คนขนลุกขนพองแบบนี้ หลังจากนั้นทั่วทั้งมิติเปลี่ยนเป็นดำทะมึน สายลมน่ากลัวพัดมาทั่วทุกด้าน กลิ่นไอปีศาจตลบอบอวล ไฟปีศาจไร้ที่มาที่ไปส่องแสงกระพริบล่องลอยอยู่ที่ไกลๆ…ราวกับว่าพวกเขามาถึงยมโลกในชั่วพริบตา

นอกจากหมายเลขหนึ่งที่ยังคงมีสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่ขยับเขยื้อนดุจขุนเขาแล้ว คนอื่นๆ หรือแม้กระทั่งหมายเลขห้าที่โรคจิตสุดขีดต่างคงรอยยิ้มของพวกเขาไว้ไม่ได้แล้ว เวลานี้เองหมายเลขสองก็เอ่ยปากเสียงเรียบๆ ว่า “ในเมื่อหลิงหลานสามารถทนการทารุณของหมายเลขห้ามาได้ คิดๆ ดูแล้วเธอก็ไม่มีทางกลัวฉัน…..ฉัน….ฉัน….” เสียงสะท้อนดังก้องในมิติแห่งนี้อย่างไร้ที่สิ้นสุด….

เมื่อคำพูดนี้ออกมา หมายเลขห้ากลายเป็นจุดระบายความโกรธเกรี้ยวอันน่ากลัวของทุกคนทันที พวกเขาทยอยกันจ้องหมายเลขห้าด้วยความขุ่นเคือง อยากให้เขาจัดการหมายเลขสองที่แสร้งทำตัวเป็นผีสาง…โดยเฉพาะหมายเลขเก้าที่แค่นเสียงเย็นออกมาทีหนึ่ง สีหน้าดูเดือดดาลไม่พอใจอย่างยิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะหมายเลขหนึ่งกดดันอยู่ เธอจะต้องท้าประลองกับหมายเลขห้าแน่นอน ควรทราบไว้ว่าก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เธอก็อยากจะอัดหมายเลขห้าหนักๆ สักยกเพื่อปลดปล่อยความแค้นให้หลานน้อยที่น่ารักของพวกเธอ

หมายเลขห้าเผชิญหน้ากับความโกรธของทุกคนก็ได้แต่ยิ้มฝืนๆ เท่านั้น สำหรับหมายเลขสองแล้ว ต่อให้เขาโรคจิตอีกแค่ไหนก็ไม่กล้าทำเกินเลย หมอนี่เชี่ยวชาญด้านการควบคุมพลังจิตอย่างมาก เก่งกาจเรื่องการซ่อนตัวเอง ถ้าเกิดยั่วโมโหเขาขึ้นมา ถ้าไม่ระวังย่อมต้องถูกเขาทารุณอย่างโหดเหี้ยมได้แน่นอน หมายเลขห้าชอบทารุณคน ไม่ได้ชอบทารุณตัวเองนะ

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับหลิงหลานแล้ว เขาไม่มีเจตนาร้ายเลยจริงๆ ทำไมเพื่อนข้างกายเขาถึงเข้าใจเขาไม่ได้เลยนะ? ควรรู้ไว้ว่าการอบรบบ่มเพาะปีศาจแห่งยุคไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอ่อนแอของพวกเขา บอกได้แค่ว่าอัจฉริยะต่างก็เป็นคนที่อ้างว่างโดดเดี่ยวเท่านั้น….

หมายเลขห้าแสร้งทำเป็นเงียบกริบหดหัวเป็นเต่าและจากไปท่ามกลางความเสียใจให้กับพรสวรรค์ของตัวเอง!

……………

หลิงหลานไม่รู้ว่าวันดีๆ ของเธอสิ้นสุดลงแล้ว ไม่นานเธอก็จะได้รับการทรมาณเคี่ยวกรำของมิติการเรียนรู้อีกครั้ง เวลานี้เธอกำลังยืนเคร่งเครียดอยู่หน้าประตูบ้านพัก รอคอยพวกฉีหลงมาถึง ไม่เพียงเท่านั้น สมาชิกทีม 072 คนอื่นๆ ต่างก็มากันหมด และยังเพิ่มหลินจงชิงเพื่อนร่วมชั้นอีกคนด้วย

นี่เป็นครั้งแรกในสองชาติที่หลิงหลานต้อนรับการมาเยี่ยมเยือนของเพื่อนร่วมชั้น เวลานี้หลิงหลานที่ใจเย็นมาตลอดก็กระวนกระวายใจขึ้นมาเช่นกัน ในใจก็รู้สึกลนลานเล็กน้อย

“ลูกพี่หลาน พวกเรามาแล้ว!” เสียงนี้ย่อมเป็นเสียงดังของฉีหลงแน่นอน หลิงหลานเดินออกมาจากสวนดอกไม้เล็กๆ แล้วก็เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดเครื่องแบบสถาบันสีแดงและสีขาวกำลังอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยเมตร คนที่เดินนำหน้าสุดและกำลังโบกมือให้เธอมั่วๆ อย่างเด่นสะดุดตาก็คือฉีหลงที่โผงผางคนนั้นนั่นเอง

เด็กผู้หญิงด้านหลังเขาที่โบกมือมั่วๆ ตามเหมือนกันก็คือหานซู่หย่าที่มีนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมาดูเหมือนทอมบอย ส่วนลั่วเฉาที่ตามหานซู่หย่ามาติดๆ ก็ดึงชายเสื้อของอีกฝ่ายแรงๆ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ เตือนหานซู่หย่าว่าให้สำรวมตัว

หยวนโหยวอวิ๋น หลัวเส่าอวิ๋น เหอเฉาหยาง และหลี่จิงหงสี่คนกำลังมองหลิงหลานด้วยใบหน้าตื่นเต้น ท่าทีดูเหมือนอยากจะทักทายและก็ไม่กล้าทักทาย นับตั้งแต่ที่พวกหลิงหลานไปล่าสัตว์ที่ดาวสัตว์อสูร พวกเขาก็ไม่ได้พบหน้ากันมานานครึ่งปีแล้ว

…………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 158 อาจารย์ของมิติรวมตัว!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 158 อาจารย์ของมิติรวมตัว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงหลานโดนเสี่ยวซื่อเหยียดหยามอย่างโหดร้ายรอบหนึ่ง อย่างไรก็ตามหลิงหลานก็ได้แต่ถูจมูกยอมรับเท่านั้น ใครใช้ให้เธอโง่ด้านนี้มากจริงๆ ล่ะ หลังจากนี้เธอยังต้องอาศัยเสี่ยวซื่อแก้ไขข้อสงสัยให้เธอนะ หลิงหลานรู้ดีว่าไม่สามารถเอาแต่บีบคั้นเสี่ยวซื่อเพียงอย่างเดียวได้ เมื่อถึงเวลาเหมาะสมก็ให้เขาอวดเก่งหน่อย ต่อไปเขาจะได้ทุ่มแรงให้ข้อมูลประเภทนี้มากขึ้น

จำเป็นต้องพูดว่า ความจริงแล้วบางครั้งหลิงหลานก็ใจร้ายมาก เรามาร้องไห้สงสารให้เสี่ยวซื่อที่โง่งมกันก่อนเถอะ!

อันที่จริง วิธีการฝึกฝนพลังจิตที่หลิงเซียวถ่ายทอดมานั้นสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง ต่อให้เสี่ยวซื่อที่มีข้อมูลเก็บไว้ในคลังมากมายนับไม่ถ้วนเห็นวิธีการฝึกฝนของระบบเหล่านี้ก็อดตาวาวไม่ได้ ทันใดนั้นเขาจำลองข้อมูลในมือออกมาชุดหนึ่งในตอนที่หลิงหลานไม่ได้สังเกต หลังจากนั้นมันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา ไม่รู้ว่ามันโดนเขาส่งไปยังสถานที่แห่งไหน…

………..

มิติเฉพาะแห่งหนึ่งของมิติการเรียนรู้ มีแผ่นเมฆเรียบๆ อยู่บนจุดที่สูงที่สุดของยอดเขาสูงชันลูกหนึ่งภายใต้ท้องฟ้าอึมครึม หมายเลขหนึ่งกำลังนั่งหลับตาปลีกวิเวกอยู่ ทันใดนั้นเองเขาก็เลิกคิ้วขึ้นมา เอื้อมมือไปคว้าบนอากาศ ข้อมูลชุดหนึ่งก็ปรากฎขึ้นมาในมือเขาอย่างไร้ที่มาที่ไปเช่นนี้เอง

หมายเลขหนึ่งค่อยลืมตาขึ้นก่อนจะพลิกเปิดดูมันตามใจชอบ สีหน้าของเขาพลันเคร่งขรึมขึ้นมา เสียงเย็นชาดังลั่นไปทั่วทั้งมิติทันที “รวมตัว!”

เสียงนี้เพิ่งจะสิ้นสุดลง ก็เห็นเส้นตั้งฉากสีดำแปดสายปรากฏขึ้นมาตรงบริเวณท้องฟ้าขมุกขมัวที่ห่างจากจุดที่หมายเลขหนึ่งนั่งอยู่หลายสิบเมตรฉับพลัน

หลังจากนั้นก็เห็นเส้นตั้งฉากหลายสายนั้นหนาขึ้นเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายก็แตกออกมาจากตรงกลาง สิ่งแรกที่สะดุดเข้ามาในสายตาก็คือด้านในพวกมันต่างก็มีมืออยู่คู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นว่ามือหลายคู่นี้ได้แหวกรอยแยกพวกนี้ออก เผยให้เห็นร่างของพวกเขา ซึ่งก็คืออาจารย์คนอื่นๆ ในมิติการเรียนรู้ หมายเลขสองจนถึงหมายเลขเก้า รวมทั้งหมดแปดคนไม่มีขาด

อาจารย์หมายสามที่ดูอ่อนโยนเรียบง่ายซื่อสัตย์เอ่ยพลางยิ้มระรื่น “พี่ใหญ่ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ถึงให้พวกเรามารวมตัวกัน?”

หมายเลขห้าหรี่ตาลงน้อยๆ ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มไร้พิษสงออกมาทันที “ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน แต่ไม่รู้ว่าจะทำให้ฉันตื่นเต้นขึ้นมาได้หรือเปล่า…” เขากล่าวจบก็ยังแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ท่าทางดูสนอกสนใจ ว่าไปแล้วนับตั้งแต่ที่หลิงหลานน้อยจบการฝึกฝนจากทางเขาแล้ว เขาก็รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความปรารถนาแล้ว ทำอะไรไม่มีอารมณ์….

หมายเลขสี่เป็นสาวงามที่ดูเซ็กซี่มาก ต่อให้สวมชุดเครื่องแบบทหารที่กระชับแน่น ก็ยังเห็นรูปร่างที่น่าหลงใหล ทรวดทรงเว้าโค้งที่เซ็กซี่ของเธอ สามารถทำให้ผู้ชายเลือดกำเดากระฉูดอย่างรุนแรงได้เลย ชุดเครื่องแบบที่เย้ายวนเอ๋ย…

เธอถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เอ่ยด้วยความกลัดกลุ้มว่า “ฉันสนใจแค่เมื่อไหร่ฉันจะเปิดตัวได้….ฉันอยากสอนหลานน้อยที่รักของบ้านเราแล้วนะ!”

หมายเลขเก้าแค่นเสียงเย็น “หลิงหลานไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ของพวกนี้…”

หมายเลขสี่ส่ายนิ้วพลางยิ้มกริ่ม “No No No น้องเก้า อย่าแน่ใจขนาดนี้สิ สุดท้ายหลานน้อยที่รักก็ต้องการผู้ชาย เวลานั้นเธอก็ต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน ฉันจะให้เธอเรียนรู้กลเม็ดทุกอย่างว่าจะควบคุมผู้ชายยังไง…”

หมายเลขเก้ายังคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอเหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ก็เลยอดทนไม่พูดออกมา…

หมายเลขหก หมายเลขเจ็ด หมายเลขแปดก็เป็นแฝดสาม ทุกคนเป็นผู้ชายทั้งหมด อายุยี่สิบห้ายี่สิบหก หน้าตาหล่อเหลาองอาจ ทำให้คนรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาได้อย่างง่ายดาย ทั้งสามคนหน้าตาเหมือนกัน มองไปแวบเดียวไม่สามารถแยกออกได้ว่าใครเป็นใคร พวกเขามองพี่ใหญ่หมายเลขหนึ่งของพวกเขาด้วยความขุ่นเคืองใจ แววตานั้นตำหนิพี่ใหญ่ตรงๆ ว่า ทำไมไม่ให้พวกเขาออกไปสั่งสอนลูกศิษย์ที่รักของพวกเขา

หมายเลขหนึ่งคล้ายกับไม่อาจต้านทานใบหน้าหล่อเหลาองอาจแบบเดียวกันสามดวงที่ทำหน้าเหมือนกับภรรยาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมได้ เขาพลันกระแอมไอออกมาทีหนึ่งและกล่าวว่า “ในตอนที่หลิงหลานยังไม่ได้เลือกหนทางพัฒนาในอนาคต พวกนายจะไม่สามารถออกมาได้…”

ใครใช้ให้สามคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านล่ะ หมายเลขหกเชี่ยวชาญการทำงานเรื่องการเงินการลงทุนทุกด้าน หมายเลขเจ็ดเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งด้านการบริหารจัดการ และหมายเลขแปดก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแผนการทางทหารกลยุทธ์ทุกประเภท เห็นได้ชัดว่าเป็นถุงเงิน หัวหน้าพ่อบ้าน และก็เสนาธิการ ถ้าหากหลิงหลานตัดสินใจยึดครองใต้หล้า พวกเขาสามคนก็จะปรากฏตัวได้ล่วงหน้า แต่หลิงหลานยังคงสับสนต่อแนวทางอนาคตของตัวเองอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงยังต้องรอคอยต่อไป…..

“เอ๋? หมายเลขสองล่ะ?” หมายเลขสี่พลันนึกได้ว่ายังมีหมายเลขสองที่หัวอกเดียวกันกับพวกเขา ไม่มีโอกาสได้ออกไปเหมือนกัน หมายเลขสองไม่อยากพูดคุยสนิทสนมกับหลานน้อยที่รักของพวกเขาหรือไง?

ทุกคนค่อยตระหนักได้ว่า หมายเลขสองที่เข้ามาด้วยกันกับพวกเขาหายตัวไปแล้ว….

หมายเลขหนึ่งยื่นข้อมูลในมือไปที่ข้างหลังตัวเองอย่างเยือกเย็น ก่อนจะเอ่ยอย่างเฉยชาว่า “หมายเลขสอง นายลองดูข้อมูลชุดนี้สิ”

จากนั้นก็เห็นเงาดำที่มือขวาของหมายเลขหนึ่งเปลี่ยนท่วงท่าฉับพลัน มันยืดขยายขึ้นไปด้านบน สุดท้ายก็สัมผัสกับข้อมูลในมือหมายเลขหนึ่ง เมื่อข้อมูลหลุดออกจากมือของหมายเลขหนึ่ง มันก็เปลี่ยนเป็นเงาก่อนจะกลับเข้าไปในเงาของหมายเลขหนึ่ง สุดท้ายก็ถูกเงาดำกลืนกินจนหมด

เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกโจมตีเข้าที่หัวใจโดยตรง อย่างไรก็ตามหลายคนเหมือนกับต้านทานภาพแปลกประหลาดแบบนี้ได้บ้าง พวกเขาส่วนใหญ่แค่ตัวสั่นเทา และยังคงฝืนแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น

ไม่นานเงาดำก็เอ่ยปากว่า “วิธีการฝึกฝนจิตใจที่สมบูรณ์แบบมาก มั่นคงและปลอดภัยมากกว่าวิธีการปลุกพรสวรรค์แบบเร่งรัดของระบบดาวแมนโดราของพวกเราเสียอีก เทียบกับวิธีการนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าวิธีการของพวกเราดูรุนแรงนิดหน่อย” เสียงของเงาดำราวกับโดนฉีกเส้นเสียงออก มันแหลมแสบแก้วหูอยู่บ้างทำให้คนฟังแล้วรู้สึกไม่สบายอย่างยิ่งยวด

“ดีขนาดนี้จริงๆ เหรอ?” แววตาของหมายเลขห้ามีความสนใจขึ้นมาในที่สุด เมื่อสิ้นเสียงเขา ทันใดนั้นข้อมูลชุดหนึ่งก็เด้งออกมาจากในเงา ก่อนจะบินตรงเข้าใส่หมายเลขห้า

หมายเลขห้ารับมันไว้อย่างสบายๆ ก่อนจะเปิดอ่านดูครู่หนึ่ง จากนั้นก็เห็นแววตาของเขาเปล่งประกาย เขาอุทานว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าเป็นแบบนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าการปลุกพรสวรรค์ขึ้นมาจะเปลืองแรงน้อยแต่ได้ผลคุ้มค่ามาก นี่เป็นหลักสูตรที่ดี ฉันต้องคิดก่อนว่าวิธีการนี้จะรวมกับการฝึกสอนขั้นปีศาจของฉันได้หรือเปล่า…”

หมายเลขเก้าแย่งข้อมูลมา และแค่นเสียงเย็นพูดว่า “อย่าทำลายของดีๆ นี้สิ…”

หมายเลขห้ายิ้มโดยที่ไม่ได้โต้แย้ง และก็ไม่ได้ไปแย่งข้อมูลนั้นกลับมา อันที่จริงพวกข้อมูลอย่างพวกเขา ขอเพียงแตะไปที่ข้อมูลทีหนึ่งก็รู้เนื้อหาข้างในแล้วว่าคืออะไร การเปิดอ่านเป็นแค่นิสัยคุ้นชินของพวกเขามาตลอดเท่านั้น

ทุกคนต่างวนกันดูรอบหนึ่ง ในใจพวกเขาเกิดความตระหนักรู้ได้ว่า การฝึกฝนพลังจิตส่งผลกระตุ้นพวกเขาที่เป็นสิ่งมีชีวิตทางปัญญาชั้นสูงในระดับหนึ่ง ควรพูดว่า แต่ละคนต่างมีการตระหนักรู้แตกต่างกันในขอบเขตของตัวเอง นี่ส่งผลดีต่อการพัฒนาการของพวกเขาในระดับหนึ่ง

“ไม่นึกเลยว่า พวกเราก็มีวันที่ได้รับของขวัญจากโฮสต์ด้วย…” หมายเลขสี่กล่าวพลางถอนหายใจ คำพูดของเธอทำให้ทุกคนเงียบไป เพราะกฎได้กำหนดไว้ว่า พวกเขาจำเป็นต้องตอบแทนโฮสต์ อย่างไรก็ตาม การตอบแทนในตอนนี้ยากลำบากอยู่บ้าง เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่ระบบดาวแมนโดรา ไม่มีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องที่ทำให้พวกเขาสร้างร่างจริงขึ้นมา…

“เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง มันจะต้องมีโอกาสอยู่แล้ว” หมายเลขหนึ่งยุติเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว รอคอยโอกาสในอนาคต และเพราะสาเหตุนี้เอง มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตที่สิ่งมีชีวิตทางปัญญาหมายเลขหก หมายเลขเจ็ดและหมายเลขแปดสามคนได้โอกาสก็พยายามพัฒนาเทคโนโลยีของโลกใบนี้เพื่อให้พวกเขาสร้างร่างจริงขึ้นมาได้ในเร็ววัน

อาจารย์หมายเลขหนึ่งครุ่นคิดแล้วก็กล่าวกับหมายเลขสองว่า “หมายเลขสอง ถึงเวลาที่นายออกโรงแล้ว”

“ครับ หมายเลขหนึ่ง!” หมายเลขสองเอ่ยเสียงทะมึน คราวนี้เขาเปลี่ยนเส้นเสียงในการพูดอีกครั้ง บวกกับใช้เงาดำพูดทำให้ฉากในตอนนี้ดูอึมครึม

ความรู้สึกเหมือนมารร้ายแบบนี้ทำให้อาจารย์คนอื่นๆ ไม่พอใจอยู่บ้าง ทยอยกันประท้วงให้หมายเลขสองเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์อีกครั้ง เพื่อไม่ให้ขู่ขวัญหลานน้อยที่น่ารักของพวกเขา

การประท้วงของพวกเขากลับนำมาซึ่งเสียงหัวเราะเย็นยะเยือกน่ากลัวของหมายเลขสองเท่านั้น ทุกหนทุกแห่งต่างถูกยึดครองโดยเสียงหัวเราะที่ทำให้คนขนลุกขนพองแบบนี้ หลังจากนั้นทั่วทั้งมิติเปลี่ยนเป็นดำทะมึน สายลมน่ากลัวพัดมาทั่วทุกด้าน กลิ่นไอปีศาจตลบอบอวล ไฟปีศาจไร้ที่มาที่ไปส่องแสงกระพริบล่องลอยอยู่ที่ไกลๆ…ราวกับว่าพวกเขามาถึงยมโลกในชั่วพริบตา

นอกจากหมายเลขหนึ่งที่ยังคงมีสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่ขยับเขยื้อนดุจขุนเขาแล้ว คนอื่นๆ หรือแม้กระทั่งหมายเลขห้าที่โรคจิตสุดขีดต่างคงรอยยิ้มของพวกเขาไว้ไม่ได้แล้ว เวลานี้เองหมายเลขสองก็เอ่ยปากเสียงเรียบๆ ว่า “ในเมื่อหลิงหลานสามารถทนการทารุณของหมายเลขห้ามาได้ คิดๆ ดูแล้วเธอก็ไม่มีทางกลัวฉัน…..ฉัน….ฉัน….” เสียงสะท้อนดังก้องในมิติแห่งนี้อย่างไร้ที่สิ้นสุด….

เมื่อคำพูดนี้ออกมา หมายเลขห้ากลายเป็นจุดระบายความโกรธเกรี้ยวอันน่ากลัวของทุกคนทันที พวกเขาทยอยกันจ้องหมายเลขห้าด้วยความขุ่นเคือง อยากให้เขาจัดการหมายเลขสองที่แสร้งทำตัวเป็นผีสาง…โดยเฉพาะหมายเลขเก้าที่แค่นเสียงเย็นออกมาทีหนึ่ง สีหน้าดูเดือดดาลไม่พอใจอย่างยิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะหมายเลขหนึ่งกดดันอยู่ เธอจะต้องท้าประลองกับหมายเลขห้าแน่นอน ควรทราบไว้ว่าก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เธอก็อยากจะอัดหมายเลขห้าหนักๆ สักยกเพื่อปลดปล่อยความแค้นให้หลานน้อยที่น่ารักของพวกเธอ

หมายเลขห้าเผชิญหน้ากับความโกรธของทุกคนก็ได้แต่ยิ้มฝืนๆ เท่านั้น สำหรับหมายเลขสองแล้ว ต่อให้เขาโรคจิตอีกแค่ไหนก็ไม่กล้าทำเกินเลย หมอนี่เชี่ยวชาญด้านการควบคุมพลังจิตอย่างมาก เก่งกาจเรื่องการซ่อนตัวเอง ถ้าเกิดยั่วโมโหเขาขึ้นมา ถ้าไม่ระวังย่อมต้องถูกเขาทารุณอย่างโหดเหี้ยมได้แน่นอน หมายเลขห้าชอบทารุณคน ไม่ได้ชอบทารุณตัวเองนะ

ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับหลิงหลานแล้ว เขาไม่มีเจตนาร้ายเลยจริงๆ ทำไมเพื่อนข้างกายเขาถึงเข้าใจเขาไม่ได้เลยนะ? ควรรู้ไว้ว่าการอบรบบ่มเพาะปีศาจแห่งยุคไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ด้วยวิธีการอ่อนแอของพวกเขา บอกได้แค่ว่าอัจฉริยะต่างก็เป็นคนที่อ้างว่างโดดเดี่ยวเท่านั้น….

หมายเลขห้าแสร้งทำเป็นเงียบกริบหดหัวเป็นเต่าและจากไปท่ามกลางความเสียใจให้กับพรสวรรค์ของตัวเอง!

……………

หลิงหลานไม่รู้ว่าวันดีๆ ของเธอสิ้นสุดลงแล้ว ไม่นานเธอก็จะได้รับการทรมาณเคี่ยวกรำของมิติการเรียนรู้อีกครั้ง เวลานี้เธอกำลังยืนเคร่งเครียดอยู่หน้าประตูบ้านพัก รอคอยพวกฉีหลงมาถึง ไม่เพียงเท่านั้น สมาชิกทีม 072 คนอื่นๆ ต่างก็มากันหมด และยังเพิ่มหลินจงชิงเพื่อนร่วมชั้นอีกคนด้วย

นี่เป็นครั้งแรกในสองชาติที่หลิงหลานต้อนรับการมาเยี่ยมเยือนของเพื่อนร่วมชั้น เวลานี้หลิงหลานที่ใจเย็นมาตลอดก็กระวนกระวายใจขึ้นมาเช่นกัน ในใจก็รู้สึกลนลานเล็กน้อย

“ลูกพี่หลาน พวกเรามาแล้ว!” เสียงนี้ย่อมเป็นเสียงดังของฉีหลงแน่นอน หลิงหลานเดินออกมาจากสวนดอกไม้เล็กๆ แล้วก็เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดเครื่องแบบสถาบันสีแดงและสีขาวกำลังอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยเมตร คนที่เดินนำหน้าสุดและกำลังโบกมือให้เธอมั่วๆ อย่างเด่นสะดุดตาก็คือฉีหลงที่โผงผางคนนั้นนั่นเอง

เด็กผู้หญิงด้านหลังเขาที่โบกมือมั่วๆ ตามเหมือนกันก็คือหานซู่หย่าที่มีนิสัยเปิดเผยตรงไปตรงมาดูเหมือนทอมบอย ส่วนลั่วเฉาที่ตามหานซู่หย่ามาติดๆ ก็ดึงชายเสื้อของอีกฝ่ายแรงๆ ด้วยใบหน้าแดงก่ำ เตือนหานซู่หย่าว่าให้สำรวมตัว

หยวนโหยวอวิ๋น หลัวเส่าอวิ๋น เหอเฉาหยาง และหลี่จิงหงสี่คนกำลังมองหลิงหลานด้วยใบหน้าตื่นเต้น ท่าทีดูเหมือนอยากจะทักทายและก็ไม่กล้าทักทาย นับตั้งแต่ที่พวกหลิงหลานไปล่าสัตว์ที่ดาวสัตว์อสูร พวกเขาก็ไม่ได้พบหน้ากันมานานครึ่งปีแล้ว

…………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+