I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 238 ชะตาหงส์!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 238 ชะตาหงส์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จริงเหรอ?” จ้าวจวิ้นสนใจขึ้นมาแล้ว รีบเอ่ยถามว่า “งั้นนายถามคนของสำนักนายสิ ว่าช่วงนี้มีใครเข้าไปในโลกหุ่นรบหรือเปล่า? ให้เขารีบเลื่อนระดับเร็วๆ ฉันแม่งคันไม้คนมือแล้ว อยากซัดกับเขาสักยกมากๆ เลย”

หลี่หลานเฟิงมองเขาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มแวบหนึ่ง เขาไม่ได้ตอบจ้าวจวิ้นหากแต่ยกอีกเรื่องขึ้นมาพูดแทน “ได้ยินว่าราชันสายฟ้ากำลังกักตนเข้าฌานอยู่ เมื่อเขาทำสำเร็จก็สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ นายอยากสู้กับเขา อาจจะไม่มีโอกาสแล้ว”

จ้าวจวิ้นเหมือนกับถูกราดน้ำเย็นใส่หัว อารมณ์ตื่นเต้นแต่เดิมหายไปแล้ว เขาลูบใบหน้าแข็งกระด้างของตัวเองทันทีและเอ่ยอย่างฉุนเฉียวว่า “แม่งเอ๊ย หมอนั่นไม่ใช่คนแล้วจริงๆ ฉันเพิ่งจะทำความคุ้นเคยกับหุ่นระดับพิเศษ เพิ่งมีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับเขา เขาก็เลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาเนี่ยนะ? หรือว่าพวกเราห่างกันมาก ไล่ตามยังไงก็ไล่ไม่ทัน?”

จ้าวจวิ้นท้อแท้ใจเล็กน้อย เขาถือว่าตัวเองเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการควบคุมหุ่นรบดีเยี่ยมมาก แต่เมื่อเทียบกับราชันสายฟ้าเหลยถิงแล้ว เขายังด้อยกว่าเล็กน้อย ไล่ตามหลังอีกฝ่ายอย่างยากลำบาก ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะไล่ตามอีกฝ่ายทันในปีนี้ พอเขามีโอกาสต่อสู้กับอีกฝ่าย เขากลับพบว่าตัวเองถูกหมอนั่นสลัดทิ้งไปข้างหลัง ความรู้สึกแบบนี้ทำร้ายคนมาก ควรรู้เอาไว้ว่า จนถึงตอนนี้เขายังไม่อาจมีโอกาสสัมผัสถึงประตูแห่งความลับของไพ่ราชาเลย

“ไม่ใช่คน? ห่างกันมาก? นายก็ยกย่องเขาเกินไปแล้ว” มุมปากของหลี่หลานเฟิงเผยรอยยิ้มเยาะหยันออกมาเล็กน้อย ราวกับว่าไม่ค่อยเห็นราชันสายฟ้าอยู่ในสายตา

“พูดแบบนี้ นายไม่คิดว่าเขาจะเลื่อนขั้นในครั้งนี้เหรอ?” คำพูดของหลี่หลานเฟิงทำให้จ้าวจวิ้นที่เดิมทีอารมณ์หม่นหมองฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง จ้าวจวิ้นเชื่อถือการคาดการณ์ของหลี่หลานเฟิงมาก ถ้าหากอีกฝ่ายเลื่อนขั้นล้มเหลว ก็พิสูจน์ว่าตัวเขาไม่ได้ถูกอีกฝ่ายทิ้งห่างมากเกินไป

“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น เขาจะเลื่อนขั้นได้หรือเปล่าก็ต้องดูที่ความสามารถ และก็ต้องดูที่โชคเหมือนกัน” หลี่หลานเฟิ่งกล่าวพลางส่งสายตาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม สีหน้าแบบนี้ทำให้จิตใจของจ้าวจวิ้นสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้…

จ้าวจวิ้นเก็บงำอารมณ์ทันที เขาฝืนเบนสายตาของตัวเองไปด้านข้างเพื่อให้หลุดพ้นจากสายตาของหลี่หลานเฟิง แม่งเอ๊ย นี่มันเป็นการกลายพันธุ์ทางจิตด้านไหนกันแน่? พลังทำลายล้างแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว มีหลายครั้งที่เขาตกบ่วงโดยที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ พริบตาเดียวก็เผลอใจลอยสูญเสียการป้องกันไป ถ้าหากหลี่หลานเฟิงเป็นศัตรูของเขาละก็ เขาคงตายมานานไม่รู้กี่ครั้งแล้ว… แน่นอนว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ความสามารถนี้ของหลี่หลานเฟิงเล็กน้อย หลี่หลานเฟิงยังคงควบคุมความสามารถนี้ไว้มากๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอก ไม่เคยปล่อยความสามารถนี้ออกมา

จ้าวจวิ้นที่กลับมาควบคุมตัวเองได้อีกครั้งก็เพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ราชันสายฟ้า เขากัดฟันกล่าวว่า “ใช่แล้ว ยังต้องดูโชคด้วย ให้ตายเหอะ ฉันหวังว่าคราวนี้โชคของเขาจะแย่โคตรๆ เลื่อนขั้นไม่สำเร็จ”

“แทนที่จะขอความช่วยเหลือจากโชคที่เลือนรางไม่แน่นอน ไม่สู้นายไปศึกษาการควบคุมหุ่นรบของนาย รีบเลื่อนขอบเขตของนายให้เร็วที่สุดไม่ดีกว่าเหรอ…ต่อให้คราวนี้ราชันสายฟ้าล้มเหลว เขาก็ไม่มีทางหยุดอยู่ที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษนานนักหรอก” หลี่หลานเฟิงเตือนจ้าวจวิ้นด้วยความหวังดี

หลี่หลานเฟิงรู้ดีว่า การเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาของเฉียวถิงมีแค่ปัญหาเรื่องเวลาเท่านั้น ถ้าเขาโชคดี พรุ่งนี้ก็สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ แต่ว่าต่อให้โชคร้ายอีกสักแค่ไหน เขาก็ถูไถกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ในช่วงเวลาสองปีก่อนเรียนจบ

“ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปโลกหุ่นรบเดี๋ยวนี้ละ จะไม่เสียเวลาสักนาทีเลย…”จ้าวจวิ้นที่โดนหลี่หลานเฟิงเตือนสติก็พลันรู้สึกถึงแรงกดดันที่หนักหน่วง ไม่มีอารมณ์พูดคุยกับหลี่หลานเฟิงต่อแล้ว เขากลับไปล็อกอินเข้าสู่โลกเสมือนจริงทันทีก่อนจะศึกษาการควบคุมหุ่นรบ การเลื่อนระดับมีเพียงหนทางเดียว นั่นก็คือฝึกฝนอย่างหนัก ทะลวงขีดจำกัดการควบคุมของตัวเอง

หลี่หลานเฟิงไปส่งจ้าวจวิ้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อในห้องเหลือเพียงเขาคนเดียว แววตาที่เดิมทีดูอบอุ่นแฝงไปด้วยรอยยิ้มค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชามุ่งมั่น และยังซ่อนความกังวลอยู่ลึกๆ ข้างใน

หลี่หลานเฟิงมองไปที่หุ่นรบกระต่ายในหน้าจออีกครั้ง เวลานี้หุ่นรบกระต่ายระเบิดหุ่นรบของคู่ต่อสู้อย่างแม่นยำเฉียบขาดอีกครั้งแล้วออกไปจากสนามประลองการดวลอย่างองอาจ ความเฉยชาที่สงบนิ่งไม่ตื่นเต้นกับชัยชนะเลยสักนิดของอีกฝ่ายทำให้หัวใจของเขาที่รู้สึกคุ้นเคยกระตุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอยู่รางๆ หลี่หลานเฟิงอดกำหมัดแน่นไม่ได้ “นายเป็นใครกันแน่? ใช่เขาหรือเปล่า? ไม่สิเขาไม่มีทางหยุดอยู่ตรงที่เดิมเมื่อเจ็ดปีก่อนหรอก แต่ว่ารูปแบบการต่อสู้นี้เหมือนเขามากขนาดนั้น หรือว่าจะเป็นศิษย์น้องชายหรือว่าศิษย์น้องหญิงร่วมสำนักของเขา? หรือว่าเป็นลูกศิษย์ของเขา?”

หลี่หลานเฟิงตัดสินใจในชั่วพริบตาว่า เขาจะต้องตามหาหุ่นรบกระต่ายตัวนี้ให้ได้ ต้องรู้ให้ได้ว่าอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์กับคนที่เขารู้จักเมื่อตอนนั้นหรือเปล่า…

ถ้าเกิดโชคดีหาเขาเจอ…ความเคร่งเครียดและความกังวลในใจหลี่หลานเฟิงพลันลดลงไปเล็กน้อย ความกล้าหาญพรั่งพรูขึ้นมาในใจอีกครั้ง ใช่แล้ว ขอเพียงหาอีกฝ่ายเจอ ขอเพียงอีกฝ่ายยังยินดีชี้แนะสักรอบ เขาก็มีความมั่นใจว่าจะไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับสิ่งที่เรียกว่าชีวิตที่ถูกชะตากำหนด!

ตอนนี้หลี่หลานเฟิงอดนึกถึงเช้าตรู่เมื่อหลายวันก่อนที่คุณปู่ของเขาโทรศัพท์มาหาไม่ได้….

หลี่หลานเฟิงที่เพิ่งตื่นกำลังจะอาบน้ำแต่งตัวรับวีดิโอคอลของคุณปู่ที่ยากจะติดต่อเขาสักครั้ง หลี่หลานเฟิงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ควรรู้เอาไว้ว่านับตั้งแต่ที่เขาสอบเข้าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง คุณปู่แทบจะตัดการติดต่อทุกอย่างกับเขาเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สถานะตัวตนของเขาถูกเปิดเผย และเขาก็เปลี่ยนจากผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลมาเป็นลูกหลานสายย่อยที่แสดงฝีมือพอรับได้ แล้วใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอย่างจืดจางมาสี่ปี

“คุณปู่หาผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ?” หลังจากที่คุณปู่ของเขาบอกเป็นนัยๆ ว่าการติดต่อครั้งนี้ไม่มีปัญหา หลี่หลานเฟิงถึงค่อยวางใจลงและเอ่ยถามออกมา

“หลานเอ๋อร์ ปู่อยากให้หลานเลื่อนขั้นไปยังหุ่นรบระดับพิเศษให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…” สีหน้าของคุณปู่ตระกูลหลี่ดูเคร่งขรึมจริงจังอยู่บ้าง

หลี่หลานเฟิงได้ยินคำพูดก็งงงันอย่างมาก “เพราะอะไรครับ? คุณปู่?”

หลี่หลานเฟิงยังจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนเขาเคยบอกคุณปู่ของเขาไว้ว่า มียอดฝีมือด้านหุ่นรบในโลกหุ่นรบเคยชี้แนะเขาว่าพื้นฐานการควบคุมหุ่นรบสำคัญมาก และเขาก็เคยได้ลิ้มรสข้อดีของการมีพื้นฐานที่ดี ถ้าหากเขาทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาถึงขนาดสามารถทำการท้าประลองข้ามระดับได้เลย ด้วยเหตุนี้เอง คุณปู่ของเขาจึงเห็นด้วยและสนับสนุนเขาอย่างมากเช่นกัน แต่ทำไมวันนี้จู่ๆ คุณปู่ถึงร้องขอแบบนี้ล่ะ? ควรรู้เอาไว้ว่า การควบคุมพื้นฐานของระดับนักรบหุ่นรบชั้นสูงของเขายังขาดไปอีกนิดหน่อย นี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาไม่ยอมเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษมาตลอด

“หลายวันก่อน ปู่ขอให้ผู้นำตระกูลจูเก่อช่วยทำนายดวงชะตาของหลานอีกรอบ เครื่องหมายบ่งบอกว่า ราชาผู้นั้นมาถึงข้างกายหลานแล้ว…” เสียงของคุณปู่ตระกูลหลี่หนักอึ้งสุดขีด ถึงขนาดมีความกังวลอยู่บ้าง “หลายปีมานี้ ที่ปู่ให้หลานปิดบังตัวตน ปิดบังหน้าตาที่แท้จริง ส่งหลานไปที่ไกลๆ ลอบอบรมสั่งสอนหลานอย่างสุดความสามารถก็เพื่อให้หลานกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งระดับสุดยอด มีความสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้…ตอนนี้เครื่องหมายบอกว่า คนผู้นั้นปรากฏตัวแล้ว ไม่มีเวลาให้หลานค่อยๆ สั่งสมความสามารถแล้ว ถ้าเกิดหลานมีความสามารถไม่พอ ถูกเขาเห็นขึ้นมา หลานจะหนีจากชะตาหงส์ของหลานที่ถูกกำหนดไว้ได้ยังไง?”

หลี่หลานเฟิงได้ยินว่าราชาปรากฏตัวแล้ว หัวใจก็กระตุกฉับพลัน คิ้วของเขาขมวดแน่นขึ้นมาทันที จากนั้นพอได้ยินชะตาหงส์ที่เสียดแทงหูอีกก็อดกำหมัดตัวเองแน่นๆ ไม่ได้ เล็บแทบจะแทงทะลุฝ่ามือ แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับเทียบความเดือดดาลในใจไม่ได้เลย

ควรทราบไว้ว่า ผู้สืบทอดสายหลักทุกคนของตระกูลหลี่จะต้องให้ผู้นำตระกูลของตระกูลจู่เกอเทพหยั่งรู้ทำนายชะตาชีวิตให้เพื่อตัดสินแนวทางการอบรมสั่งสอนในอนาคตของพวกเขา

เมื่อเขาเกิดมาก็ได้รับการประเมินว่ามีพรสวรรค์น่าตกตะลึง คุณปู่ดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง คิดว่าเขาจะกลายเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลหลี่ แต่เขากลับถูกคำว่าชะตาหงส์ของเทพหยั่งรู้จูเก่อซัดเขาจากฟ้าลงมาสู่ฝุ่นทันที…นี่ก็คือสาเหตุที่เขาไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าคนในตระกูลหลี่อย่างเปิดเผยได้ เนื่องจากผู้สืบทอดคนแรกของตระกูลหลี่ไม่อาจกลายเป็นของเล่นของราชาโดยเด็ดขาด ตระกูลหลี่ทนรับการอับอายขายขี้หน้าแบบนี้ไม่ไหว…

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่ใจอ่อน ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากทิ้งพรสวรรค์ของเขา เลยตัดสินใจปิดบังคำทำนายนี้ไว้อย่างเด็ดขาด ประกาศต่อคนข้างนอกว่าพรสวรรค์ของเขาไม่ดีและส่งเขาไปที่ดาวเว่ยหลานดาวระดับสาม แสดงท่าทีต่อคนนอกว่าปล่อยให้เขาไปตามยถากรรม แต่ความจริงแล้วกลับทุ่มเทความคิดอบรมสั่งสอนเขา ถ้าไม่ใช่เพราะการจัดการพวกนี้ของคุณปู่ เขาคงถูกคนอื่นๆ ในตระกูลหลี่กักขังไว้ในเขตหวงห้ามของตระกูลไปนานแล้ว หลังจากนั้นก็รอให้เขาเติบใหญ่แล้วส่งเขาให้กับมือของราชา กลายเป็นของเล่นในมืออีกฝ่าย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของตระกูลหลี่…

หลี่หลานเฟิงอดหัวเราะหยันในใจไม่ได้ ‘ชะตาหงส์เชี่ยอะไร? เขาเป็นผู้ชายนะ จะไปนอนอยู่ใต้ร่างผู้ชายอีกคนได้ยังไงกันเล่า ต่อให้อีกฝ่ายเป็นราชาที่แข็งแกร่งหาใครเทียบเทียม เขาก็ไม่มีทางยอมรับพรหมลิขิตเหมือนกัน เขาฝึกฝนอย่างหนักพัฒนาความสามารถ ทุ่มเทความคิดวางแผนจัดการก็เพื่อฝืนชะตานี้ เขามาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่มีทางล้มเลิกแน่นอน

ถึงแม้ว่าคำพูดของคุณปู่จะทำให้หลี่หลานเฟิงรู้สึกหวาดหวั่นขุ่นเคือง แต่มันไม่ทำให้เขาสูญเสียความเยือกเย็นไป เขาตอบเสียงเบาว่า “คุณปู่ครับ ผมรู้แล้ว คุณปู่วางใจเถอะ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ขอเพียงผ่านไปอีกสักพัก ผมเชื่อว่าผมเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้”

“หลานรู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว” คุณปู่ตระกูลหลี่เงียบไปครู่หนึ่งแล้วค่อยเอ่ยเตือนว่า “หลานเอ๋อร์ ระวังยอดฝีมือที่ปรากฏตัวข้างกายหลานในปีนี้ หรือว่าพวกอัจฉริยะที่เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาในปีนี้ด้วย มีความเป็นไปได้สูงว่าในนั้นจะมีราชาที่กำหนดในชะตาของหลานอยู่ พยายามเว้นระยะห่างจากพวกเขาให้มากที่สุด อย่าให้อีกฝ่ายสนใจหลานขึ้นมาล่ะ…”

หลี่หลานเฟิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “สภาพผมเป็นแบบนี้ ยังจะมีคนสนใจผมอีกเหรอครับ?”

คุณปู่ตื่นตระหนกลนลานเพราะคำทำนายนั่นไปแล้วใช่ไหม? พูดตามตรง เขาเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งมาตลอดว่าคำทำนายจะแม่นยำขนาดนั้นจริงๆ เหรอ? ถ้าหากแม่นยำขนาดนั้นจริงๆ ทำไมผู้นำตระกูลจูเก่อกับคุณปู่เขาถึงร่วมมือกันช่วยเขาฝืนชะตาล่ะ?

คุณปู่ตระกูลหลี่เงียบไปอีกครั้ง เขาจะบอกหลานตัวเองยังไงดีว่า บางครั้งการสนใจคนผู้หนึ่งไม่ใช่เพราะแค่รูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียว มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นท่าที การกระทำ หรือว่าวิธีจัดการเรื่องราวบางอย่าง… “ถึงยังไงหลานก็ต้องระวังตัวไว้!” เขากล่าวจบก็ตัดสายวีดิโอคอล

หลังจากที่ผู้นำตระกูลหลี่ที่อยู่บนดาวโดฮาวางสายโทรศัพท์แล้ว ใบหน้าผอมน่าเกรงขามของเขาดูครุ่นคิดเล็กน้อย เขานึกถึงคำทำนายของเทพหยั่งรู้จูเก่อ ข้างใต้ชะตาหงส์ที่สะดุดตานั้นยังมีชะตาของผู้บัญชาการทหารสูงสุดอยู่รางเลือน ถ้าไม่ใช่เพราะคำทำนายครึ่งหลังนี้ เขาไม่มีทางทุ่มเทความคิดจัดการฝืนโชคชะตาของหลานตัวเองหรอก ต่อให้เขามีพรสวรรค์น่าตื่นตะลึงเช่นนี้ก็ตาม…

“ปู่ช่วยหลานเท่าที่จะทำได้แล้ว ตอนนี้ก็ต้องดูว่าหลานจะเลือกยังไงแล้ว” ผู้นำตระกูลหลี่ถอนหายใจเบาๆ สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่างไกลๆ ถ้าหากหลานตัวเองกลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ สำหรับเขาแล้วนี่คือบทสรุปที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่หลานเฟิงมองวีดิโอคอลที่ถูกตัดสาย คิ้วขมวดแน่น เขาเริ่มลอบใคร่ครวญขึ้นมา “ราชาคนนั้นคือใครกันแน่? ได้ยินว่าราชันสายฟ้ากำลังจะเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาแล้ว? ดูท่าต้องคิดหาวิธีควบคุมกลุ่มอำนาจของราชันสายฟ้าซะแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 238 ชะตาหงส์!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 238 ชะตาหงส์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จริงเหรอ?” จ้าวจวิ้นสนใจขึ้นมาแล้ว รีบเอ่ยถามว่า “งั้นนายถามคนของสำนักนายสิ ว่าช่วงนี้มีใครเข้าไปในโลกหุ่นรบหรือเปล่า? ให้เขารีบเลื่อนระดับเร็วๆ ฉันแม่งคันไม้คนมือแล้ว อยากซัดกับเขาสักยกมากๆ เลย”

หลี่หลานเฟิงมองเขาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มแวบหนึ่ง เขาไม่ได้ตอบจ้าวจวิ้นหากแต่ยกอีกเรื่องขึ้นมาพูดแทน “ได้ยินว่าราชันสายฟ้ากำลังกักตนเข้าฌานอยู่ เมื่อเขาทำสำเร็จก็สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ นายอยากสู้กับเขา อาจจะไม่มีโอกาสแล้ว”

จ้าวจวิ้นเหมือนกับถูกราดน้ำเย็นใส่หัว อารมณ์ตื่นเต้นแต่เดิมหายไปแล้ว เขาลูบใบหน้าแข็งกระด้างของตัวเองทันทีและเอ่ยอย่างฉุนเฉียวว่า “แม่งเอ๊ย หมอนั่นไม่ใช่คนแล้วจริงๆ ฉันเพิ่งจะทำความคุ้นเคยกับหุ่นระดับพิเศษ เพิ่งมีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับเขา เขาก็เลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาเนี่ยนะ? หรือว่าพวกเราห่างกันมาก ไล่ตามยังไงก็ไล่ไม่ทัน?”

จ้าวจวิ้นท้อแท้ใจเล็กน้อย เขาถือว่าตัวเองเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการควบคุมหุ่นรบดีเยี่ยมมาก แต่เมื่อเทียบกับราชันสายฟ้าเหลยถิงแล้ว เขายังด้อยกว่าเล็กน้อย ไล่ตามหลังอีกฝ่ายอย่างยากลำบาก ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะไล่ตามอีกฝ่ายทันในปีนี้ พอเขามีโอกาสต่อสู้กับอีกฝ่าย เขากลับพบว่าตัวเองถูกหมอนั่นสลัดทิ้งไปข้างหลัง ความรู้สึกแบบนี้ทำร้ายคนมาก ควรรู้เอาไว้ว่า จนถึงตอนนี้เขายังไม่อาจมีโอกาสสัมผัสถึงประตูแห่งความลับของไพ่ราชาเลย

“ไม่ใช่คน? ห่างกันมาก? นายก็ยกย่องเขาเกินไปแล้ว” มุมปากของหลี่หลานเฟิงเผยรอยยิ้มเยาะหยันออกมาเล็กน้อย ราวกับว่าไม่ค่อยเห็นราชันสายฟ้าอยู่ในสายตา

“พูดแบบนี้ นายไม่คิดว่าเขาจะเลื่อนขั้นในครั้งนี้เหรอ?” คำพูดของหลี่หลานเฟิงทำให้จ้าวจวิ้นที่เดิมทีอารมณ์หม่นหมองฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง จ้าวจวิ้นเชื่อถือการคาดการณ์ของหลี่หลานเฟิงมาก ถ้าหากอีกฝ่ายเลื่อนขั้นล้มเหลว ก็พิสูจน์ว่าตัวเขาไม่ได้ถูกอีกฝ่ายทิ้งห่างมากเกินไป

“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น เขาจะเลื่อนขั้นได้หรือเปล่าก็ต้องดูที่ความสามารถ และก็ต้องดูที่โชคเหมือนกัน” หลี่หลานเฟิ่งกล่าวพลางส่งสายตาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม สีหน้าแบบนี้ทำให้จิตใจของจ้าวจวิ้นสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้…

จ้าวจวิ้นเก็บงำอารมณ์ทันที เขาฝืนเบนสายตาของตัวเองไปด้านข้างเพื่อให้หลุดพ้นจากสายตาของหลี่หลานเฟิง แม่งเอ๊ย นี่มันเป็นการกลายพันธุ์ทางจิตด้านไหนกันแน่? พลังทำลายล้างแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว มีหลายครั้งที่เขาตกบ่วงโดยที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ พริบตาเดียวก็เผลอใจลอยสูญเสียการป้องกันไป ถ้าหากหลี่หลานเฟิงเป็นศัตรูของเขาละก็ เขาคงตายมานานไม่รู้กี่ครั้งแล้ว… แน่นอนว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ความสามารถนี้ของหลี่หลานเฟิงเล็กน้อย หลี่หลานเฟิงยังคงควบคุมความสามารถนี้ไว้มากๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอก ไม่เคยปล่อยความสามารถนี้ออกมา

จ้าวจวิ้นที่กลับมาควบคุมตัวเองได้อีกครั้งก็เพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ราชันสายฟ้า เขากัดฟันกล่าวว่า “ใช่แล้ว ยังต้องดูโชคด้วย ให้ตายเหอะ ฉันหวังว่าคราวนี้โชคของเขาจะแย่โคตรๆ เลื่อนขั้นไม่สำเร็จ”

“แทนที่จะขอความช่วยเหลือจากโชคที่เลือนรางไม่แน่นอน ไม่สู้นายไปศึกษาการควบคุมหุ่นรบของนาย รีบเลื่อนขอบเขตของนายให้เร็วที่สุดไม่ดีกว่าเหรอ…ต่อให้คราวนี้ราชันสายฟ้าล้มเหลว เขาก็ไม่มีทางหยุดอยู่ที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษนานนักหรอก” หลี่หลานเฟิงเตือนจ้าวจวิ้นด้วยความหวังดี

หลี่หลานเฟิงรู้ดีว่า การเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาของเฉียวถิงมีแค่ปัญหาเรื่องเวลาเท่านั้น ถ้าเขาโชคดี พรุ่งนี้ก็สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ แต่ว่าต่อให้โชคร้ายอีกสักแค่ไหน เขาก็ถูไถกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ในช่วงเวลาสองปีก่อนเรียนจบ

“ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปโลกหุ่นรบเดี๋ยวนี้ละ จะไม่เสียเวลาสักนาทีเลย…”จ้าวจวิ้นที่โดนหลี่หลานเฟิงเตือนสติก็พลันรู้สึกถึงแรงกดดันที่หนักหน่วง ไม่มีอารมณ์พูดคุยกับหลี่หลานเฟิงต่อแล้ว เขากลับไปล็อกอินเข้าสู่โลกเสมือนจริงทันทีก่อนจะศึกษาการควบคุมหุ่นรบ การเลื่อนระดับมีเพียงหนทางเดียว นั่นก็คือฝึกฝนอย่างหนัก ทะลวงขีดจำกัดการควบคุมของตัวเอง

หลี่หลานเฟิงไปส่งจ้าวจวิ้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อในห้องเหลือเพียงเขาคนเดียว แววตาที่เดิมทีดูอบอุ่นแฝงไปด้วยรอยยิ้มค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชามุ่งมั่น และยังซ่อนความกังวลอยู่ลึกๆ ข้างใน

หลี่หลานเฟิงมองไปที่หุ่นรบกระต่ายในหน้าจออีกครั้ง เวลานี้หุ่นรบกระต่ายระเบิดหุ่นรบของคู่ต่อสู้อย่างแม่นยำเฉียบขาดอีกครั้งแล้วออกไปจากสนามประลองการดวลอย่างองอาจ ความเฉยชาที่สงบนิ่งไม่ตื่นเต้นกับชัยชนะเลยสักนิดของอีกฝ่ายทำให้หัวใจของเขาที่รู้สึกคุ้นเคยกระตุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอยู่รางๆ หลี่หลานเฟิงอดกำหมัดแน่นไม่ได้ “นายเป็นใครกันแน่? ใช่เขาหรือเปล่า? ไม่สิเขาไม่มีทางหยุดอยู่ตรงที่เดิมเมื่อเจ็ดปีก่อนหรอก แต่ว่ารูปแบบการต่อสู้นี้เหมือนเขามากขนาดนั้น หรือว่าจะเป็นศิษย์น้องชายหรือว่าศิษย์น้องหญิงร่วมสำนักของเขา? หรือว่าเป็นลูกศิษย์ของเขา?”

หลี่หลานเฟิงตัดสินใจในชั่วพริบตาว่า เขาจะต้องตามหาหุ่นรบกระต่ายตัวนี้ให้ได้ ต้องรู้ให้ได้ว่าอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์กับคนที่เขารู้จักเมื่อตอนนั้นหรือเปล่า…

ถ้าเกิดโชคดีหาเขาเจอ…ความเคร่งเครียดและความกังวลในใจหลี่หลานเฟิงพลันลดลงไปเล็กน้อย ความกล้าหาญพรั่งพรูขึ้นมาในใจอีกครั้ง ใช่แล้ว ขอเพียงหาอีกฝ่ายเจอ ขอเพียงอีกฝ่ายยังยินดีชี้แนะสักรอบ เขาก็มีความมั่นใจว่าจะไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับสิ่งที่เรียกว่าชีวิตที่ถูกชะตากำหนด!

ตอนนี้หลี่หลานเฟิงอดนึกถึงเช้าตรู่เมื่อหลายวันก่อนที่คุณปู่ของเขาโทรศัพท์มาหาไม่ได้….

หลี่หลานเฟิงที่เพิ่งตื่นกำลังจะอาบน้ำแต่งตัวรับวีดิโอคอลของคุณปู่ที่ยากจะติดต่อเขาสักครั้ง หลี่หลานเฟิงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ควรรู้เอาไว้ว่านับตั้งแต่ที่เขาสอบเข้าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง คุณปู่แทบจะตัดการติดต่อทุกอย่างกับเขาเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สถานะตัวตนของเขาถูกเปิดเผย และเขาก็เปลี่ยนจากผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลมาเป็นลูกหลานสายย่อยที่แสดงฝีมือพอรับได้ แล้วใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอย่างจืดจางมาสี่ปี

“คุณปู่หาผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ?” หลังจากที่คุณปู่ของเขาบอกเป็นนัยๆ ว่าการติดต่อครั้งนี้ไม่มีปัญหา หลี่หลานเฟิงถึงค่อยวางใจลงและเอ่ยถามออกมา

“หลานเอ๋อร์ ปู่อยากให้หลานเลื่อนขั้นไปยังหุ่นรบระดับพิเศษให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…” สีหน้าของคุณปู่ตระกูลหลี่ดูเคร่งขรึมจริงจังอยู่บ้าง

หลี่หลานเฟิงได้ยินคำพูดก็งงงันอย่างมาก “เพราะอะไรครับ? คุณปู่?”

หลี่หลานเฟิงยังจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนเขาเคยบอกคุณปู่ของเขาไว้ว่า มียอดฝีมือด้านหุ่นรบในโลกหุ่นรบเคยชี้แนะเขาว่าพื้นฐานการควบคุมหุ่นรบสำคัญมาก และเขาก็เคยได้ลิ้มรสข้อดีของการมีพื้นฐานที่ดี ถ้าหากเขาทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาถึงขนาดสามารถทำการท้าประลองข้ามระดับได้เลย ด้วยเหตุนี้เอง คุณปู่ของเขาจึงเห็นด้วยและสนับสนุนเขาอย่างมากเช่นกัน แต่ทำไมวันนี้จู่ๆ คุณปู่ถึงร้องขอแบบนี้ล่ะ? ควรรู้เอาไว้ว่า การควบคุมพื้นฐานของระดับนักรบหุ่นรบชั้นสูงของเขายังขาดไปอีกนิดหน่อย นี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาไม่ยอมเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษมาตลอด

“หลายวันก่อน ปู่ขอให้ผู้นำตระกูลจูเก่อช่วยทำนายดวงชะตาของหลานอีกรอบ เครื่องหมายบ่งบอกว่า ราชาผู้นั้นมาถึงข้างกายหลานแล้ว…” เสียงของคุณปู่ตระกูลหลี่หนักอึ้งสุดขีด ถึงขนาดมีความกังวลอยู่บ้าง “หลายปีมานี้ ที่ปู่ให้หลานปิดบังตัวตน ปิดบังหน้าตาที่แท้จริง ส่งหลานไปที่ไกลๆ ลอบอบรมสั่งสอนหลานอย่างสุดความสามารถก็เพื่อให้หลานกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งระดับสุดยอด มีความสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้…ตอนนี้เครื่องหมายบอกว่า คนผู้นั้นปรากฏตัวแล้ว ไม่มีเวลาให้หลานค่อยๆ สั่งสมความสามารถแล้ว ถ้าเกิดหลานมีความสามารถไม่พอ ถูกเขาเห็นขึ้นมา หลานจะหนีจากชะตาหงส์ของหลานที่ถูกกำหนดไว้ได้ยังไง?”

หลี่หลานเฟิงได้ยินว่าราชาปรากฏตัวแล้ว หัวใจก็กระตุกฉับพลัน คิ้วของเขาขมวดแน่นขึ้นมาทันที จากนั้นพอได้ยินชะตาหงส์ที่เสียดแทงหูอีกก็อดกำหมัดตัวเองแน่นๆ ไม่ได้ เล็บแทบจะแทงทะลุฝ่ามือ แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับเทียบความเดือดดาลในใจไม่ได้เลย

ควรทราบไว้ว่า ผู้สืบทอดสายหลักทุกคนของตระกูลหลี่จะต้องให้ผู้นำตระกูลของตระกูลจู่เกอเทพหยั่งรู้ทำนายชะตาชีวิตให้เพื่อตัดสินแนวทางการอบรมสั่งสอนในอนาคตของพวกเขา

เมื่อเขาเกิดมาก็ได้รับการประเมินว่ามีพรสวรรค์น่าตกตะลึง คุณปู่ดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง คิดว่าเขาจะกลายเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลหลี่ แต่เขากลับถูกคำว่าชะตาหงส์ของเทพหยั่งรู้จูเก่อซัดเขาจากฟ้าลงมาสู่ฝุ่นทันที…นี่ก็คือสาเหตุที่เขาไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าคนในตระกูลหลี่อย่างเปิดเผยได้ เนื่องจากผู้สืบทอดคนแรกของตระกูลหลี่ไม่อาจกลายเป็นของเล่นของราชาโดยเด็ดขาด ตระกูลหลี่ทนรับการอับอายขายขี้หน้าแบบนี้ไม่ไหว…

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่ใจอ่อน ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากทิ้งพรสวรรค์ของเขา เลยตัดสินใจปิดบังคำทำนายนี้ไว้อย่างเด็ดขาด ประกาศต่อคนข้างนอกว่าพรสวรรค์ของเขาไม่ดีและส่งเขาไปที่ดาวเว่ยหลานดาวระดับสาม แสดงท่าทีต่อคนนอกว่าปล่อยให้เขาไปตามยถากรรม แต่ความจริงแล้วกลับทุ่มเทความคิดอบรมสั่งสอนเขา ถ้าไม่ใช่เพราะการจัดการพวกนี้ของคุณปู่ เขาคงถูกคนอื่นๆ ในตระกูลหลี่กักขังไว้ในเขตหวงห้ามของตระกูลไปนานแล้ว หลังจากนั้นก็รอให้เขาเติบใหญ่แล้วส่งเขาให้กับมือของราชา กลายเป็นของเล่นในมืออีกฝ่าย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของตระกูลหลี่…

หลี่หลานเฟิงอดหัวเราะหยันในใจไม่ได้ ‘ชะตาหงส์เชี่ยอะไร? เขาเป็นผู้ชายนะ จะไปนอนอยู่ใต้ร่างผู้ชายอีกคนได้ยังไงกันเล่า ต่อให้อีกฝ่ายเป็นราชาที่แข็งแกร่งหาใครเทียบเทียม เขาก็ไม่มีทางยอมรับพรหมลิขิตเหมือนกัน เขาฝึกฝนอย่างหนักพัฒนาความสามารถ ทุ่มเทความคิดวางแผนจัดการก็เพื่อฝืนชะตานี้ เขามาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่มีทางล้มเลิกแน่นอน

ถึงแม้ว่าคำพูดของคุณปู่จะทำให้หลี่หลานเฟิงรู้สึกหวาดหวั่นขุ่นเคือง แต่มันไม่ทำให้เขาสูญเสียความเยือกเย็นไป เขาตอบเสียงเบาว่า “คุณปู่ครับ ผมรู้แล้ว คุณปู่วางใจเถอะ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ขอเพียงผ่านไปอีกสักพัก ผมเชื่อว่าผมเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้”

“หลานรู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว” คุณปู่ตระกูลหลี่เงียบไปครู่หนึ่งแล้วค่อยเอ่ยเตือนว่า “หลานเอ๋อร์ ระวังยอดฝีมือที่ปรากฏตัวข้างกายหลานในปีนี้ หรือว่าพวกอัจฉริยะที่เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาในปีนี้ด้วย มีความเป็นไปได้สูงว่าในนั้นจะมีราชาที่กำหนดในชะตาของหลานอยู่ พยายามเว้นระยะห่างจากพวกเขาให้มากที่สุด อย่าให้อีกฝ่ายสนใจหลานขึ้นมาล่ะ…”

หลี่หลานเฟิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “สภาพผมเป็นแบบนี้ ยังจะมีคนสนใจผมอีกเหรอครับ?”

คุณปู่ตื่นตระหนกลนลานเพราะคำทำนายนั่นไปแล้วใช่ไหม? พูดตามตรง เขาเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งมาตลอดว่าคำทำนายจะแม่นยำขนาดนั้นจริงๆ เหรอ? ถ้าหากแม่นยำขนาดนั้นจริงๆ ทำไมผู้นำตระกูลจูเก่อกับคุณปู่เขาถึงร่วมมือกันช่วยเขาฝืนชะตาล่ะ?

คุณปู่ตระกูลหลี่เงียบไปอีกครั้ง เขาจะบอกหลานตัวเองยังไงดีว่า บางครั้งการสนใจคนผู้หนึ่งไม่ใช่เพราะแค่รูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียว มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นท่าที การกระทำ หรือว่าวิธีจัดการเรื่องราวบางอย่าง… “ถึงยังไงหลานก็ต้องระวังตัวไว้!” เขากล่าวจบก็ตัดสายวีดิโอคอล

หลังจากที่ผู้นำตระกูลหลี่ที่อยู่บนดาวโดฮาวางสายโทรศัพท์แล้ว ใบหน้าผอมน่าเกรงขามของเขาดูครุ่นคิดเล็กน้อย เขานึกถึงคำทำนายของเทพหยั่งรู้จูเก่อ ข้างใต้ชะตาหงส์ที่สะดุดตานั้นยังมีชะตาของผู้บัญชาการทหารสูงสุดอยู่รางเลือน ถ้าไม่ใช่เพราะคำทำนายครึ่งหลังนี้ เขาไม่มีทางทุ่มเทความคิดจัดการฝืนโชคชะตาของหลานตัวเองหรอก ต่อให้เขามีพรสวรรค์น่าตื่นตะลึงเช่นนี้ก็ตาม…

“ปู่ช่วยหลานเท่าที่จะทำได้แล้ว ตอนนี้ก็ต้องดูว่าหลานจะเลือกยังไงแล้ว” ผู้นำตระกูลหลี่ถอนหายใจเบาๆ สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่างไกลๆ ถ้าหากหลานตัวเองกลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ สำหรับเขาแล้วนี่คือบทสรุปที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่หลานเฟิงมองวีดิโอคอลที่ถูกตัดสาย คิ้วขมวดแน่น เขาเริ่มลอบใคร่ครวญขึ้นมา “ราชาคนนั้นคือใครกันแน่? ได้ยินว่าราชันสายฟ้ากำลังจะเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาแล้ว? ดูท่าต้องคิดหาวิธีควบคุมกลุ่มอำนาจของราชันสายฟ้าซะแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 238 ชะตาหงส์!

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 238 ชะตาหงส์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“จริงเหรอ?” จ้าวจวิ้นสนใจขึ้นมาแล้ว รีบเอ่ยถามว่า “งั้นนายถามคนของสำนักนายสิ ว่าช่วงนี้มีใครเข้าไปในโลกหุ่นรบหรือเปล่า? ให้เขารีบเลื่อนระดับเร็วๆ ฉันแม่งคันไม้คนมือแล้ว อยากซัดกับเขาสักยกมากๆ เลย”

หลี่หลานเฟิงมองเขาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มแวบหนึ่ง เขาไม่ได้ตอบจ้าวจวิ้นหากแต่ยกอีกเรื่องขึ้นมาพูดแทน “ได้ยินว่าราชันสายฟ้ากำลังกักตนเข้าฌานอยู่ เมื่อเขาทำสำเร็จก็สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ นายอยากสู้กับเขา อาจจะไม่มีโอกาสแล้ว”

จ้าวจวิ้นเหมือนกับถูกราดน้ำเย็นใส่หัว อารมณ์ตื่นเต้นแต่เดิมหายไปแล้ว เขาลูบใบหน้าแข็งกระด้างของตัวเองทันทีและเอ่ยอย่างฉุนเฉียวว่า “แม่งเอ๊ย หมอนั่นไม่ใช่คนแล้วจริงๆ ฉันเพิ่งจะทำความคุ้นเคยกับหุ่นระดับพิเศษ เพิ่งมีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับเขา เขาก็เลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาเนี่ยนะ? หรือว่าพวกเราห่างกันมาก ไล่ตามยังไงก็ไล่ไม่ทัน?”

จ้าวจวิ้นท้อแท้ใจเล็กน้อย เขาถือว่าตัวเองเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการควบคุมหุ่นรบดีเยี่ยมมาก แต่เมื่อเทียบกับราชันสายฟ้าเหลยถิงแล้ว เขายังด้อยกว่าเล็กน้อย ไล่ตามหลังอีกฝ่ายอย่างยากลำบาก ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะไล่ตามอีกฝ่ายทันในปีนี้ พอเขามีโอกาสต่อสู้กับอีกฝ่าย เขากลับพบว่าตัวเองถูกหมอนั่นสลัดทิ้งไปข้างหลัง ความรู้สึกแบบนี้ทำร้ายคนมาก ควรรู้เอาไว้ว่า จนถึงตอนนี้เขายังไม่อาจมีโอกาสสัมผัสถึงประตูแห่งความลับของไพ่ราชาเลย

“ไม่ใช่คน? ห่างกันมาก? นายก็ยกย่องเขาเกินไปแล้ว” มุมปากของหลี่หลานเฟิงเผยรอยยิ้มเยาะหยันออกมาเล็กน้อย ราวกับว่าไม่ค่อยเห็นราชันสายฟ้าอยู่ในสายตา

“พูดแบบนี้ นายไม่คิดว่าเขาจะเลื่อนขั้นในครั้งนี้เหรอ?” คำพูดของหลี่หลานเฟิงทำให้จ้าวจวิ้นที่เดิมทีอารมณ์หม่นหมองฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง จ้าวจวิ้นเชื่อถือการคาดการณ์ของหลี่หลานเฟิงมาก ถ้าหากอีกฝ่ายเลื่อนขั้นล้มเหลว ก็พิสูจน์ว่าตัวเขาไม่ได้ถูกอีกฝ่ายทิ้งห่างมากเกินไป

“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้น เขาจะเลื่อนขั้นได้หรือเปล่าก็ต้องดูที่ความสามารถ และก็ต้องดูที่โชคเหมือนกัน” หลี่หลานเฟิ่งกล่าวพลางส่งสายตาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม สีหน้าแบบนี้ทำให้จิตใจของจ้าวจวิ้นสั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้…

จ้าวจวิ้นเก็บงำอารมณ์ทันที เขาฝืนเบนสายตาของตัวเองไปด้านข้างเพื่อให้หลุดพ้นจากสายตาของหลี่หลานเฟิง แม่งเอ๊ย นี่มันเป็นการกลายพันธุ์ทางจิตด้านไหนกันแน่? พลังทำลายล้างแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว มีหลายครั้งที่เขาตกบ่วงโดยที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ พริบตาเดียวก็เผลอใจลอยสูญเสียการป้องกันไป ถ้าหากหลี่หลานเฟิงเป็นศัตรูของเขาละก็ เขาคงตายมานานไม่รู้กี่ครั้งแล้ว… แน่นอนว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ความสามารถนี้ของหลี่หลานเฟิงเล็กน้อย หลี่หลานเฟิงยังคงควบคุมความสามารถนี้ไว้มากๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนนอก ไม่เคยปล่อยความสามารถนี้ออกมา

จ้าวจวิ้นที่กลับมาควบคุมตัวเองได้อีกครั้งก็เพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ราชันสายฟ้า เขากัดฟันกล่าวว่า “ใช่แล้ว ยังต้องดูโชคด้วย ให้ตายเหอะ ฉันหวังว่าคราวนี้โชคของเขาจะแย่โคตรๆ เลื่อนขั้นไม่สำเร็จ”

“แทนที่จะขอความช่วยเหลือจากโชคที่เลือนรางไม่แน่นอน ไม่สู้นายไปศึกษาการควบคุมหุ่นรบของนาย รีบเลื่อนขอบเขตของนายให้เร็วที่สุดไม่ดีกว่าเหรอ…ต่อให้คราวนี้ราชันสายฟ้าล้มเหลว เขาก็ไม่มีทางหยุดอยู่ที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษนานนักหรอก” หลี่หลานเฟิงเตือนจ้าวจวิ้นด้วยความหวังดี

หลี่หลานเฟิงรู้ดีว่า การเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาของเฉียวถิงมีแค่ปัญหาเรื่องเวลาเท่านั้น ถ้าเขาโชคดี พรุ่งนี้ก็สามารถเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ แต่ว่าต่อให้โชคร้ายอีกสักแค่ไหน เขาก็ถูไถกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ในช่วงเวลาสองปีก่อนเรียนจบ

“ฉันรู้แล้ว ฉันจะไปโลกหุ่นรบเดี๋ยวนี้ละ จะไม่เสียเวลาสักนาทีเลย…”จ้าวจวิ้นที่โดนหลี่หลานเฟิงเตือนสติก็พลันรู้สึกถึงแรงกดดันที่หนักหน่วง ไม่มีอารมณ์พูดคุยกับหลี่หลานเฟิงต่อแล้ว เขากลับไปล็อกอินเข้าสู่โลกเสมือนจริงทันทีก่อนจะศึกษาการควบคุมหุ่นรบ การเลื่อนระดับมีเพียงหนทางเดียว นั่นก็คือฝึกฝนอย่างหนัก ทะลวงขีดจำกัดการควบคุมของตัวเอง

หลี่หลานเฟิงไปส่งจ้าวจวิ้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อในห้องเหลือเพียงเขาคนเดียว แววตาที่เดิมทีดูอบอุ่นแฝงไปด้วยรอยยิ้มค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชามุ่งมั่น และยังซ่อนความกังวลอยู่ลึกๆ ข้างใน

หลี่หลานเฟิงมองไปที่หุ่นรบกระต่ายในหน้าจออีกครั้ง เวลานี้หุ่นรบกระต่ายระเบิดหุ่นรบของคู่ต่อสู้อย่างแม่นยำเฉียบขาดอีกครั้งแล้วออกไปจากสนามประลองการดวลอย่างองอาจ ความเฉยชาที่สงบนิ่งไม่ตื่นเต้นกับชัยชนะเลยสักนิดของอีกฝ่ายทำให้หัวใจของเขาที่รู้สึกคุ้นเคยกระตุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดอยู่รางๆ หลี่หลานเฟิงอดกำหมัดแน่นไม่ได้ “นายเป็นใครกันแน่? ใช่เขาหรือเปล่า? ไม่สิเขาไม่มีทางหยุดอยู่ตรงที่เดิมเมื่อเจ็ดปีก่อนหรอก แต่ว่ารูปแบบการต่อสู้นี้เหมือนเขามากขนาดนั้น หรือว่าจะเป็นศิษย์น้องชายหรือว่าศิษย์น้องหญิงร่วมสำนักของเขา? หรือว่าเป็นลูกศิษย์ของเขา?”

หลี่หลานเฟิงตัดสินใจในชั่วพริบตาว่า เขาจะต้องตามหาหุ่นรบกระต่ายตัวนี้ให้ได้ ต้องรู้ให้ได้ว่าอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์กับคนที่เขารู้จักเมื่อตอนนั้นหรือเปล่า…

ถ้าเกิดโชคดีหาเขาเจอ…ความเคร่งเครียดและความกังวลในใจหลี่หลานเฟิงพลันลดลงไปเล็กน้อย ความกล้าหาญพรั่งพรูขึ้นมาในใจอีกครั้ง ใช่แล้ว ขอเพียงหาอีกฝ่ายเจอ ขอเพียงอีกฝ่ายยังยินดีชี้แนะสักรอบ เขาก็มีความมั่นใจว่าจะไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับสิ่งที่เรียกว่าชีวิตที่ถูกชะตากำหนด!

ตอนนี้หลี่หลานเฟิงอดนึกถึงเช้าตรู่เมื่อหลายวันก่อนที่คุณปู่ของเขาโทรศัพท์มาหาไม่ได้….

หลี่หลานเฟิงที่เพิ่งตื่นกำลังจะอาบน้ำแต่งตัวรับวีดิโอคอลของคุณปู่ที่ยากจะติดต่อเขาสักครั้ง หลี่หลานเฟิงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ควรรู้เอาไว้ว่านับตั้งแต่ที่เขาสอบเข้าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง คุณปู่แทบจะตัดการติดต่อทุกอย่างกับเขาเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้สถานะตัวตนของเขาถูกเปิดเผย และเขาก็เปลี่ยนจากผู้สืบทอดสายตรงของตระกูลมาเป็นลูกหลานสายย่อยที่แสดงฝีมือพอรับได้ แล้วใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอย่างจืดจางมาสี่ปี

“คุณปู่หาผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ?” หลังจากที่คุณปู่ของเขาบอกเป็นนัยๆ ว่าการติดต่อครั้งนี้ไม่มีปัญหา หลี่หลานเฟิงถึงค่อยวางใจลงและเอ่ยถามออกมา

“หลานเอ๋อร์ ปู่อยากให้หลานเลื่อนขั้นไปยังหุ่นรบระดับพิเศษให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…” สีหน้าของคุณปู่ตระกูลหลี่ดูเคร่งขรึมจริงจังอยู่บ้าง

หลี่หลานเฟิงได้ยินคำพูดก็งงงันอย่างมาก “เพราะอะไรครับ? คุณปู่?”

หลี่หลานเฟิงยังจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนเขาเคยบอกคุณปู่ของเขาไว้ว่า มียอดฝีมือด้านหุ่นรบในโลกหุ่นรบเคยชี้แนะเขาว่าพื้นฐานการควบคุมหุ่นรบสำคัญมาก และเขาก็เคยได้ลิ้มรสข้อดีของการมีพื้นฐานที่ดี ถ้าหากเขาทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาถึงขนาดสามารถทำการท้าประลองข้ามระดับได้เลย ด้วยเหตุนี้เอง คุณปู่ของเขาจึงเห็นด้วยและสนับสนุนเขาอย่างมากเช่นกัน แต่ทำไมวันนี้จู่ๆ คุณปู่ถึงร้องขอแบบนี้ล่ะ? ควรรู้เอาไว้ว่า การควบคุมพื้นฐานของระดับนักรบหุ่นรบชั้นสูงของเขายังขาดไปอีกนิดหน่อย นี่ก็เป็นเหตุผลที่เขาไม่ยอมเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษมาตลอด

“หลายวันก่อน ปู่ขอให้ผู้นำตระกูลจูเก่อช่วยทำนายดวงชะตาของหลานอีกรอบ เครื่องหมายบ่งบอกว่า ราชาผู้นั้นมาถึงข้างกายหลานแล้ว…” เสียงของคุณปู่ตระกูลหลี่หนักอึ้งสุดขีด ถึงขนาดมีความกังวลอยู่บ้าง “หลายปีมานี้ ที่ปู่ให้หลานปิดบังตัวตน ปิดบังหน้าตาที่แท้จริง ส่งหลานไปที่ไกลๆ ลอบอบรมสั่งสอนหลานอย่างสุดความสามารถก็เพื่อให้หลานกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งระดับสุดยอด มีความสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้…ตอนนี้เครื่องหมายบอกว่า คนผู้นั้นปรากฏตัวแล้ว ไม่มีเวลาให้หลานค่อยๆ สั่งสมความสามารถแล้ว ถ้าเกิดหลานมีความสามารถไม่พอ ถูกเขาเห็นขึ้นมา หลานจะหนีจากชะตาหงส์ของหลานที่ถูกกำหนดไว้ได้ยังไง?”

หลี่หลานเฟิงได้ยินว่าราชาปรากฏตัวแล้ว หัวใจก็กระตุกฉับพลัน คิ้วของเขาขมวดแน่นขึ้นมาทันที จากนั้นพอได้ยินชะตาหงส์ที่เสียดแทงหูอีกก็อดกำหมัดตัวเองแน่นๆ ไม่ได้ เล็บแทบจะแทงทะลุฝ่ามือ แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นกลับเทียบความเดือดดาลในใจไม่ได้เลย

ควรทราบไว้ว่า ผู้สืบทอดสายหลักทุกคนของตระกูลหลี่จะต้องให้ผู้นำตระกูลของตระกูลจู่เกอเทพหยั่งรู้ทำนายชะตาชีวิตให้เพื่อตัดสินแนวทางการอบรมสั่งสอนในอนาคตของพวกเขา

เมื่อเขาเกิดมาก็ได้รับการประเมินว่ามีพรสวรรค์น่าตกตะลึง คุณปู่ดีใจเป็นบ้าเป็นหลัง คิดว่าเขาจะกลายเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของตระกูลหลี่ แต่เขากลับถูกคำว่าชะตาหงส์ของเทพหยั่งรู้จูเก่อซัดเขาจากฟ้าลงมาสู่ฝุ่นทันที…นี่ก็คือสาเหตุที่เขาไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าคนในตระกูลหลี่อย่างเปิดเผยได้ เนื่องจากผู้สืบทอดคนแรกของตระกูลหลี่ไม่อาจกลายเป็นของเล่นของราชาโดยเด็ดขาด ตระกูลหลี่ทนรับการอับอายขายขี้หน้าแบบนี้ไม่ไหว…

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปู่ใจอ่อน ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากทิ้งพรสวรรค์ของเขา เลยตัดสินใจปิดบังคำทำนายนี้ไว้อย่างเด็ดขาด ประกาศต่อคนข้างนอกว่าพรสวรรค์ของเขาไม่ดีและส่งเขาไปที่ดาวเว่ยหลานดาวระดับสาม แสดงท่าทีต่อคนนอกว่าปล่อยให้เขาไปตามยถากรรม แต่ความจริงแล้วกลับทุ่มเทความคิดอบรมสั่งสอนเขา ถ้าไม่ใช่เพราะการจัดการพวกนี้ของคุณปู่ เขาคงถูกคนอื่นๆ ในตระกูลหลี่กักขังไว้ในเขตหวงห้ามของตระกูลไปนานแล้ว หลังจากนั้นก็รอให้เขาเติบใหญ่แล้วส่งเขาให้กับมือของราชา กลายเป็นของเล่นในมืออีกฝ่าย เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของตระกูลหลี่…

หลี่หลานเฟิงอดหัวเราะหยันในใจไม่ได้ ‘ชะตาหงส์เชี่ยอะไร? เขาเป็นผู้ชายนะ จะไปนอนอยู่ใต้ร่างผู้ชายอีกคนได้ยังไงกันเล่า ต่อให้อีกฝ่ายเป็นราชาที่แข็งแกร่งหาใครเทียบเทียม เขาก็ไม่มีทางยอมรับพรหมลิขิตเหมือนกัน เขาฝึกฝนอย่างหนักพัฒนาความสามารถ ทุ่มเทความคิดวางแผนจัดการก็เพื่อฝืนชะตานี้ เขามาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่มีทางล้มเลิกแน่นอน

ถึงแม้ว่าคำพูดของคุณปู่จะทำให้หลี่หลานเฟิงรู้สึกหวาดหวั่นขุ่นเคือง แต่มันไม่ทำให้เขาสูญเสียความเยือกเย็นไป เขาตอบเสียงเบาว่า “คุณปู่ครับ ผมรู้แล้ว คุณปู่วางใจเถอะ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ขอเพียงผ่านไปอีกสักพัก ผมเชื่อว่าผมเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้”

“หลานรู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว” คุณปู่ตระกูลหลี่เงียบไปครู่หนึ่งแล้วค่อยเอ่ยเตือนว่า “หลานเอ๋อร์ ระวังยอดฝีมือที่ปรากฏตัวข้างกายหลานในปีนี้ หรือว่าพวกอัจฉริยะที่เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาในปีนี้ด้วย มีความเป็นไปได้สูงว่าในนั้นจะมีราชาที่กำหนดในชะตาของหลานอยู่ พยายามเว้นระยะห่างจากพวกเขาให้มากที่สุด อย่าให้อีกฝ่ายสนใจหลานขึ้นมาล่ะ…”

หลี่หลานเฟิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่นว่า “สภาพผมเป็นแบบนี้ ยังจะมีคนสนใจผมอีกเหรอครับ?”

คุณปู่ตื่นตระหนกลนลานเพราะคำทำนายนั่นไปแล้วใช่ไหม? พูดตามตรง เขาเองก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งมาตลอดว่าคำทำนายจะแม่นยำขนาดนั้นจริงๆ เหรอ? ถ้าหากแม่นยำขนาดนั้นจริงๆ ทำไมผู้นำตระกูลจูเก่อกับคุณปู่เขาถึงร่วมมือกันช่วยเขาฝืนชะตาล่ะ?

คุณปู่ตระกูลหลี่เงียบไปอีกครั้ง เขาจะบอกหลานตัวเองยังไงดีว่า บางครั้งการสนใจคนผู้หนึ่งไม่ใช่เพราะแค่รูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียว มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นท่าที การกระทำ หรือว่าวิธีจัดการเรื่องราวบางอย่าง… “ถึงยังไงหลานก็ต้องระวังตัวไว้!” เขากล่าวจบก็ตัดสายวีดิโอคอล

หลังจากที่ผู้นำตระกูลหลี่ที่อยู่บนดาวโดฮาวางสายโทรศัพท์แล้ว ใบหน้าผอมน่าเกรงขามของเขาดูครุ่นคิดเล็กน้อย เขานึกถึงคำทำนายของเทพหยั่งรู้จูเก่อ ข้างใต้ชะตาหงส์ที่สะดุดตานั้นยังมีชะตาของผู้บัญชาการทหารสูงสุดอยู่รางเลือน ถ้าไม่ใช่เพราะคำทำนายครึ่งหลังนี้ เขาไม่มีทางทุ่มเทความคิดจัดการฝืนโชคชะตาของหลานตัวเองหรอก ต่อให้เขามีพรสวรรค์น่าตื่นตะลึงเช่นนี้ก็ตาม…

“ปู่ช่วยหลานเท่าที่จะทำได้แล้ว ตอนนี้ก็ต้องดูว่าหลานจะเลือกยังไงแล้ว” ผู้นำตระกูลหลี่ถอนหายใจเบาๆ สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่างไกลๆ ถ้าหากหลานตัวเองกลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ สำหรับเขาแล้วนี่คือบทสรุปที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

หลี่หลานเฟิงมองวีดิโอคอลที่ถูกตัดสาย คิ้วขมวดแน่น เขาเริ่มลอบใคร่ครวญขึ้นมา “ราชาคนนั้นคือใครกันแน่? ได้ยินว่าราชันสายฟ้ากำลังจะเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาแล้ว? ดูท่าต้องคิดหาวิธีควบคุมกลุ่มอำนาจของราชันสายฟ้าซะแล้ว”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+