I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 45 ใครอยากสังหารหลิงหลาน?

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 45 ใครอยากสังหารหลิงหลาน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อถึงวันเปิดเรียนอย่างเป็นทางการ หลิงหลานปฏิเสธหลานลั่วเฟิ่งที่อยากส่งเธอไปโรงเรียน และให้พ่อบ้านหลิงฉินพาเธอมาจัดการขั้นตอนการเข้าเรียนคนเดียวเท่านั้น

ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้หลิงหลานตื่นมาตอนเช้าก็หนังตากระตุกล่ะ ถึงแม้ว่าหลิงหลานจะโน้มน้าวตัวเองว่าอย่าเชื่อในไสยศาสตร์มากเกินไป แต่ว่าความปลอดภัยย่อมเป็นอันดับหนึ่ง ให้มารดาที่ไม่มีพลังรบเลยแม้แต่น้อยรออยู่ในบ้านดีกว่า

แน่นอนว่าหลังจากที่หลิงหลานนั่งอยู่บนโฮเวอร์คาร์แล้ว เธอก็คุยกับเสี่ยวซื่อเรื่องสาเหตุของปฏิกิริยาตอบสนองทางกายภาพนี้ อย่างไรก็ตามทั้งสองคนต่างก็เป็นน้ำเต็มขวดไม่ส่งเสียง น้ำครึ่งขวดกระเพื่อม[1] ใครก็พูดสาเหตุออกมาไม่ได้ สุดท้ายยิ่งคุยกันก็มีแต่จะยิ่งสับสน

เมื่อเห็นสองตาของเสี่ยวซื่อปรากฏเป็นเส้นวงกลม หลิงหลานที่รำคาญจนหงุดหงิดก็หยุดหัวข้อสนทนาที่ไร้ประโยชน์ไม่มีค่าอะไรให้ปรึกษานี้ทิ้งไป และจัดให้ปรากฏการณ์นี้อยู่ในหมวดหมู่ที่ไม่มีคำตอบโดยไม่ลังเล ทำให้ได้รับแววตาเลื่อมใสของเสี่ยวซื่อที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว

นอกจากหลิงหลานจะรู้สึกได้ใจแล้ว เธอก็หันหน้าไปทางอื่นด้วยความใจฝ่ออย่างมากไม่กล้ามองเสี่ยวซื่ออีก แม่งเอ๊ย เธอไม่เคยคิดจะหลอกเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรอกนะ

ในขณะที่หลิงหลานกำลังกำจัดความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นในใจ สายตาของเธอก็ไหววูบจากนั้นเธอก็เงยหน้ามองออกไปที่นอกหน้าต่างรถ เวลานี้พ่อบ้านหลิงฉินที่อยู่ข้างๆ ก็สัมผัสได้ถึงวิกฤติ เขาเอ่ยปากขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “หลิงศูนย์เจ็ด เปลี่ยนเป็นโหมดป้องกันฉุกเฉินทั้งคัน และส่งสัญญาณเตือนภัยออกไปด้วย”

“ครับ หลิงศูนย์เจ็ดรับทราบ” ในฐานะที่หลิงศูนย์เจ็ดเป็นพาหนะที่มีไว้สำหรับผู้นำตระกูลใช้โดยเฉพาะ มันย่อมไม่ใช่โฮเวอร์คาร์ธรรมดา

หลังจากเสียงของหลิงศูนย์เจ็ด หลิงหลานก็เห็นพื้นที่โปร่งใสภายในรถถูกชั้นป้องกันโปร่งแสงครอบคลุมไว้หนึ่งชั้น ส่วนเธอกับพ่อบ้านหลิงฉินถูกเข็มขัดนิรภัยที่เด้งออกมาจากบนที่นั่งคาดไว้ ในเวลาเดียวกัน ความเร็วของหลิงศูนย์เจ็ดก็เพิ่มขึ้นอีกระดับและบินไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ต่อให้หลิงศูนย์เจ็ดเปลี่ยนเป็นเร่งความเร็วขึ้นแบบนี้ แต่มันก็ยังหลีกหนีการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามไม่พ้น

สายตาหลิงหลานส่องประกายเย็นเยียบ สองมือกุมที่จับข้างตัว

ปัง! พลังมหาศาลสายหนึ่งพลิกโฮเวอร์คาร์ให้คว่ำ หลิงศูนย์เจ็ดพยายามควบคุมร่างตัวเองที่สูญเสียการควบคุมไปบ้างขณะอยู่กลางอากาศอย่างสุดความสามารถ

“แจ้งเตือน แจ้งเตือน ระดับความสมบูรณ์ของตัวรถอยู่ที่ 71.28% ใช้พลังงานไป 22% สามารถทนรับการโจมตีแบบเดิมได้สองครั้งเท่านั้น!” ในที่สุดหลิงศูนย์เจ็ดก็ควบคุมตัวรถได้และรายงานระดับความเสียหายของตัวรถออกมา

“หลิงศูนย์เจ็ด ทิ้งเส้นทางการบินที่กำหนดไว้ ทำการแล่นไม่เป็นแบบแผน พยายามสลัดพวกมันให้หลุดอย่างสุดความสามารถ” แววตาทั้งสองข้างของหลิงฉินไม่ปกปิดความอำมหิตของตัวเองเลยสักนิดเดียว กล้าทำร้ายความหวังของตระกูลหลิงของพวกเขา เขาย่อมไม่ปล่อยพวกมันไปเด็ดขาด

“ครับ!” หลิงศูนย์เจ็ดเปลี่ยนวิธีการเคลื่อนที่ ไม่เพียงความเร็วจะไปถึง 2.2 มัคแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ไม่หยุดไม่หย่อน หลบการโจมตีระยะไกลของศัตรูครั้งแล้วครั้งเล่า

หลิงฉินที่อยู่ในรถดึงห่วงที่อยู่ด้านหน้าที่นั่งออกอย่างสงบนิ่ง กล่องขนาดใหญ่สุดขีดก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าหลิงหลาน ข้างในมีเสื้อกั๊กป้องกันและยังมีอาวุธอยู่จำนวนหนึ่ง

หลิงหลานที่เรียนความรู้ทางด้านนี้แล้วก็ทราบว่าด้านในมีปืนกลเลเซอร์อนุภาครุ่น II หนึ่งกระบอก ปืนพกพลังเยือกแข็งหนึ่งกระบอก ระเบิดแสงสองลูก ระเบิดน้ำตาสองลูก ระเบิดควันหนึ่งลูก แน่นอนว่ายังมีดาบสั้นอัลตร้าลิเทียมอัลลอยที่ใช้โจมตีระยะประชิดสองเล่ม จากคำพูดในชาติก่อน ดาบสั้นสองเล่มนั้นย่อมคมจนอยู่ในระดับที่สามารถผ่าเหล็กราวกับโคลน เป่าเส้นขนขาด[2]

อาวุธเหล่านี้ต่างก็ถูกฝ่ายกองทัพควบคุมไว้ ประชาชนถูกห้ามใช้ อย่างไรก็ตาม ขอเพียงมีคน ย่อมต้องมีความต้องการ ไม่ว่าของอะไรต่างก็ทำให้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีตระกูลหลิงก็ก่อตั้งจากการทำงานในกองทัพ มีความเกี่ยวพันกับหน่วยกองทัพอย่างซับซ้อน จะครอบครองอาวุธพวกนี้ก็ไม่ยากลำบากเลย

หลิงหลานเห็นว่าด้านหน้าตัวเองก็มีห่วงที่เหมือนกัน เธอออกแรงดึง กล่องแบบเดียวกันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

หลิงฉินอธิบายสาเหตุให้หลิงหลานฟังว่าทำไมอาวุธเหล่านี้ถึงได้หยิบง่ายขนาดนี้ “ขอเพียงเปิดใช้งานโหมดป้องกันฉุกเฉิน กล่องอาวุธที่เดิมที่ถูกล็อกไว้ก็จะถูกเปิดออกในเวลาเดียวกัน ถ้าหากอยู่ในสถานการณ์ปกติ ต่อให้คุณงัดมัน ก็หยิบของพวกนี้ไม่ได้”

หลิงฉินส่งสัญญาณให้หลิงหลานทำตามวิธีการของเขา สวมเสื้อกั๊กป้องกัน ใครจะไปรู้ว่าโฮเวอร์คาร์จะประคองตัวเองไปได้ถึงเมื่อไหร่ ต้องสวมเสื้อกั๊กป้องกันที่จำเป็นให้เร็วที่สุด

หลิงหลานพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจแล้ว เธอสวมชุดป้องกันอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็หยิบดาบสั้นที่ผ่าเหล็กดั่งโคลนสองเล่มนั้นขึ้นมาก่อนจะมัดไว้ที่ขาทั้งสองข้างอย่างแน่นหนา เธอใคร่ครวญสักพักแล้วก็หยิบปืนพกพลังเยือกแข็งกระบอกนั้นขึ้นมา ถึงแม้ว่าพลังทำลายล้างของมันจะไม่ได้ดีเท่าปืนกลเลเซอร์อนุภาครุ่น II แต่ว่ามันชนะที่ความเล็ก ซึ่งการใช้งานค่อนข้างเหมาะกับเธอที่เป็นเด็กอายุหกขวบ สุดท้ายเธอก็หยิบระเบิดแสงสองลูก วางไว้ในกระเป๋าสองข้างของชุดป้องกัน และทิ้งระเบิดอีกสองประเภทไว้

อาวุธไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแกร่ง หากแต่อยู่ที่ความเหมาะสม หลิงหลานเข้าใจหลักการนี้อย่างยิ่งจากการสั่งสอนของตระกูลหลิงและมิติการเรียนรู้ หลิงฉินเห็นแบบนี้ก็พยักหน้าเงียบๆ การเลือกของหลิงหลานเหมาะสมมากที่สุดแล้ว ควรทราบว่าถึงแม้ระเบิดอีกสองประเภทสามารถขัดขวางฝ่ายตรงข้ามได้ดีมาก แต่ความจริงแล้วถ้าฝ่ายตัวเองไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เข้าชุด มันก็ไม่มีประโยชน์เลยเช่นกัน

…………

ห่างออกไปหลายลี้[3] เนื่องจากทีม 413 กลัวว่าจะถูกพวกหลิงหลานสังเกตเห็นดังนั้นจึงเลือกคุ้มกันอยู่ห่างๆ พวกเขาเห็นการโจมตีที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดนี้ก็หนังศีรษะชากันไปเป็นแถบๆ

“เชี่ย พี่น้องทั้งหลาย ไม่อยากตายก็พุ่งไป” 413 ที่ขับหุ่นรบของตัวเองพุ่งไปยังจุดที่เกิดเรื่องอย่างฉับไว ดวงหน้าของเขาที่อยู่ในหุ่นรบซีดเผือด ถ้าหากหลิงหลานเกิดเรื่องตรงหน้าพวกเขา เขาจะต้องถูกผู้บัญชาการจอมปีศาจของเขาถลกหนังแน่นอน

ช่วงนี้วันๆ ของทีม 413 ต่างผ่านไปอย่างสบายมากๆ หลิงหลานไม่ใช่เด็กที่ชอบวิ่งออกไปข้างนอก นี่จึงทำให้การทำงานคุ้มครองของพวกเขาง่ายดายมาก พวกเขาแค่ต้องสุ่มเวลาตรวจสอบรอบๆ บริเวณตระกูลหลิงก็พอ

พวกเขาทั้งหมดหกคนต่างเร่งเครื่องสุดกำลัง ขับหุ่นรบส่งเสียงหวอขณะพุ่งไปยังทิศทางที่หลิงหลานอยู่ เมื่อพวกเขายิ่งเข้าไปใกล้จุดโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ…

“ระวัง แยกย้าย!” 413 ที่นำหน้าขนลุกชันไปทั่วทั้งร่าง เขากู่ร้องอย่างบ้าคลั่งและนำคนอื่นๆ พุ่งหลบไปทางด้านข้าง

ร่างทั้งหกที่แล่นเคียงข้างกันต่างแยกย้ายออกทันที ลำแสงเย็นที่รุนแรงสายหนึ่งระเบิดตรงเส้นทางที่พวกเขาเพิ่งบินไปเมื่อสักครู่นี้

“หมายเลขสอง สภาพสมบูรณ์!”

“หุ่นรบหมายเลขสาม ขาขวาถูกแช่แข็งแล้ว”

“หมายเลขสี่ ทุกอย่างปกติ”

“หมายเลขห้า เสียการควบคุมที่มือซ้ายแล้ว”

“หมายเลขหก ไม่ได้รับความเสียหาย”

ลูกทีมห้าคนรายงานสภาพของพวกเขาให้ 413 ฟังทันที หมายเลขสามกับหมายเลขห้าได้รับความเสียหายจากการโจมตีเมื่อสักครู่นี้

“หมายเลข 4 หมายเลข 6 คุ้มกันหมายเลข 3 กับหมายเลข 5 ส่วนหมายเลข 2 กับฉันจะไปประจันหน้ากับศัตรู” 413 รีบสั่งการ

“ครับ หัวหน้า!”

เวลานี้เอง เบื้องหน้า 413 ก็มีกองทัพหุ่นรบปรากฏตัวขึ้นมาหนึ่งกอง พวกเขาโผล่มาจากมุมต่างๆ หุ่นรบมาตรฐานที่เป็นระเบียบติดอาวุธพร้อมสรรพเผยรูปลักษณ์โหดเหี้ยมของฝ่ายตรงข้าม นี่ทำให้ใบหน้าของ 413 ดำมืดราวกับเมฆครึ้มก่อนพายุฝน

413 เปิดปุ่มสื่อสาร “พวกนายเป็นหน่วยอะไร คิดจะทำอะไรกันแน่” หุ่นรบมาตรฐานแบบนี้รวมไปถึงอาวุธครบชุดมีอยู่แค่ภายในกองทัพเท่านั้น ทางกองทัพไม่อนุญาตให้อาวุธเช่นนี้รั่วไหลไปสู่พลเรือน คนพวกนี้ย่อมต้องมาจากทางกองทัพแน่นอน และคนที่สามารถจัดการส่งกองทัพหุ่นรบออกมาอย่างไร้สุ้มไร้เสียงก็มีเพียงคนในระดับสูงของทางกองทัพเท่านั้น

ถ้าอย่างนั้นคนที่อยู่ในระดับสูงของกองทัพคนไหนอยากจะสังหารหลิงหลานล่ะ หรือว่าจะมีไส้ศึกแฝงตัวอยู่ในสหพันธรัฐจริงๆ?

อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องใช้กองกำลังพวกนี้เพื่อหน่ออ่อนที่โดดเด่นเล็กๆ เพียงต้นเดียวเหรอ พวกเขาไม่กลัวว่าตัวเองจะถูกเปิดเผยเลยหรือไง

413 ยังไม่รู้ว่าหลิงหลานเป็นลูกของหลิงเซียว ถ้าหากเขารู้แล้วละก็ บางทีเขาอาจจะเข้าใจว่าทำไมถึงมีคนมุ่งหวังจะสังหารหลิงหลานขนาดนี้

……………………………….

[1] น้ำเต็มขวดไม่ส่งเสียง น้ำครึ่งขวดกระเพื่อม อุปมาว่าคนที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ย่อมถ่อมตนพูดจาน้อย ส่วนคนความรู้ตื้นเขินต่างชอบโอ้อวดตนเอง

[2] เป่าเส้นขนขาด อุปมาว่า วางเส้นขนลงบนคมดาบแล้วเป่าลมเบาๆ เส้นขนสัมผัสกับตัวคมดาบก็ขาดออก สื่อถึงคมกริบมากๆ

[3] ลี้ หนึ่งลี้เท่ากับห้าร้อยเมตร

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 45 ใครอยากสังหารหลิงหลาน?

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 45 ใครอยากสังหารหลิงหลาน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อถึงวันเปิดเรียนอย่างเป็นทางการ หลิงหลานปฏิเสธหลานลั่วเฟิ่งที่อยากส่งเธอไปโรงเรียน และให้พ่อบ้านหลิงฉินพาเธอมาจัดการขั้นตอนการเข้าเรียนคนเดียวเท่านั้น

ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้หลิงหลานตื่นมาตอนเช้าก็หนังตากระตุกล่ะ ถึงแม้ว่าหลิงหลานจะโน้มน้าวตัวเองว่าอย่าเชื่อในไสยศาสตร์มากเกินไป แต่ว่าความปลอดภัยย่อมเป็นอันดับหนึ่ง ให้มารดาที่ไม่มีพลังรบเลยแม้แต่น้อยรออยู่ในบ้านดีกว่า

แน่นอนว่าหลังจากที่หลิงหลานนั่งอยู่บนโฮเวอร์คาร์แล้ว เธอก็คุยกับเสี่ยวซื่อเรื่องสาเหตุของปฏิกิริยาตอบสนองทางกายภาพนี้ อย่างไรก็ตามทั้งสองคนต่างก็เป็นน้ำเต็มขวดไม่ส่งเสียง น้ำครึ่งขวดกระเพื่อม[1] ใครก็พูดสาเหตุออกมาไม่ได้ สุดท้ายยิ่งคุยกันก็มีแต่จะยิ่งสับสน

เมื่อเห็นสองตาของเสี่ยวซื่อปรากฏเป็นเส้นวงกลม หลิงหลานที่รำคาญจนหงุดหงิดก็หยุดหัวข้อสนทนาที่ไร้ประโยชน์ไม่มีค่าอะไรให้ปรึกษานี้ทิ้งไป และจัดให้ปรากฏการณ์นี้อยู่ในหมวดหมู่ที่ไม่มีคำตอบโดยไม่ลังเล ทำให้ได้รับแววตาเลื่อมใสของเสี่ยวซื่อที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว

นอกจากหลิงหลานจะรู้สึกได้ใจแล้ว เธอก็หันหน้าไปทางอื่นด้วยความใจฝ่ออย่างมากไม่กล้ามองเสี่ยวซื่ออีก แม่งเอ๊ย เธอไม่เคยคิดจะหลอกเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรอกนะ

ในขณะที่หลิงหลานกำลังกำจัดความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นในใจ สายตาของเธอก็ไหววูบจากนั้นเธอก็เงยหน้ามองออกไปที่นอกหน้าต่างรถ เวลานี้พ่อบ้านหลิงฉินที่อยู่ข้างๆ ก็สัมผัสได้ถึงวิกฤติ เขาเอ่ยปากขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “หลิงศูนย์เจ็ด เปลี่ยนเป็นโหมดป้องกันฉุกเฉินทั้งคัน และส่งสัญญาณเตือนภัยออกไปด้วย”

“ครับ หลิงศูนย์เจ็ดรับทราบ” ในฐานะที่หลิงศูนย์เจ็ดเป็นพาหนะที่มีไว้สำหรับผู้นำตระกูลใช้โดยเฉพาะ มันย่อมไม่ใช่โฮเวอร์คาร์ธรรมดา

หลังจากเสียงของหลิงศูนย์เจ็ด หลิงหลานก็เห็นพื้นที่โปร่งใสภายในรถถูกชั้นป้องกันโปร่งแสงครอบคลุมไว้หนึ่งชั้น ส่วนเธอกับพ่อบ้านหลิงฉินถูกเข็มขัดนิรภัยที่เด้งออกมาจากบนที่นั่งคาดไว้ ในเวลาเดียวกัน ความเร็วของหลิงศูนย์เจ็ดก็เพิ่มขึ้นอีกระดับและบินไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ต่อให้หลิงศูนย์เจ็ดเปลี่ยนเป็นเร่งความเร็วขึ้นแบบนี้ แต่มันก็ยังหลีกหนีการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามไม่พ้น

สายตาหลิงหลานส่องประกายเย็นเยียบ สองมือกุมที่จับข้างตัว

ปัง! พลังมหาศาลสายหนึ่งพลิกโฮเวอร์คาร์ให้คว่ำ หลิงศูนย์เจ็ดพยายามควบคุมร่างตัวเองที่สูญเสียการควบคุมไปบ้างขณะอยู่กลางอากาศอย่างสุดความสามารถ

“แจ้งเตือน แจ้งเตือน ระดับความสมบูรณ์ของตัวรถอยู่ที่ 71.28% ใช้พลังงานไป 22% สามารถทนรับการโจมตีแบบเดิมได้สองครั้งเท่านั้น!” ในที่สุดหลิงศูนย์เจ็ดก็ควบคุมตัวรถได้และรายงานระดับความเสียหายของตัวรถออกมา

“หลิงศูนย์เจ็ด ทิ้งเส้นทางการบินที่กำหนดไว้ ทำการแล่นไม่เป็นแบบแผน พยายามสลัดพวกมันให้หลุดอย่างสุดความสามารถ” แววตาทั้งสองข้างของหลิงฉินไม่ปกปิดความอำมหิตของตัวเองเลยสักนิดเดียว กล้าทำร้ายความหวังของตระกูลหลิงของพวกเขา เขาย่อมไม่ปล่อยพวกมันไปเด็ดขาด

“ครับ!” หลิงศูนย์เจ็ดเปลี่ยนวิธีการเคลื่อนที่ ไม่เพียงความเร็วจะไปถึง 2.2 มัคแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ไม่หยุดไม่หย่อน หลบการโจมตีระยะไกลของศัตรูครั้งแล้วครั้งเล่า

หลิงฉินที่อยู่ในรถดึงห่วงที่อยู่ด้านหน้าที่นั่งออกอย่างสงบนิ่ง กล่องขนาดใหญ่สุดขีดก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าหลิงหลาน ข้างในมีเสื้อกั๊กป้องกันและยังมีอาวุธอยู่จำนวนหนึ่ง

หลิงหลานที่เรียนความรู้ทางด้านนี้แล้วก็ทราบว่าด้านในมีปืนกลเลเซอร์อนุภาครุ่น II หนึ่งกระบอก ปืนพกพลังเยือกแข็งหนึ่งกระบอก ระเบิดแสงสองลูก ระเบิดน้ำตาสองลูก ระเบิดควันหนึ่งลูก แน่นอนว่ายังมีดาบสั้นอัลตร้าลิเทียมอัลลอยที่ใช้โจมตีระยะประชิดสองเล่ม จากคำพูดในชาติก่อน ดาบสั้นสองเล่มนั้นย่อมคมจนอยู่ในระดับที่สามารถผ่าเหล็กราวกับโคลน เป่าเส้นขนขาด[2]

อาวุธเหล่านี้ต่างก็ถูกฝ่ายกองทัพควบคุมไว้ ประชาชนถูกห้ามใช้ อย่างไรก็ตาม ขอเพียงมีคน ย่อมต้องมีความต้องการ ไม่ว่าของอะไรต่างก็ทำให้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีตระกูลหลิงก็ก่อตั้งจากการทำงานในกองทัพ มีความเกี่ยวพันกับหน่วยกองทัพอย่างซับซ้อน จะครอบครองอาวุธพวกนี้ก็ไม่ยากลำบากเลย

หลิงหลานเห็นว่าด้านหน้าตัวเองก็มีห่วงที่เหมือนกัน เธอออกแรงดึง กล่องแบบเดียวกันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

หลิงฉินอธิบายสาเหตุให้หลิงหลานฟังว่าทำไมอาวุธเหล่านี้ถึงได้หยิบง่ายขนาดนี้ “ขอเพียงเปิดใช้งานโหมดป้องกันฉุกเฉิน กล่องอาวุธที่เดิมที่ถูกล็อกไว้ก็จะถูกเปิดออกในเวลาเดียวกัน ถ้าหากอยู่ในสถานการณ์ปกติ ต่อให้คุณงัดมัน ก็หยิบของพวกนี้ไม่ได้”

หลิงฉินส่งสัญญาณให้หลิงหลานทำตามวิธีการของเขา สวมเสื้อกั๊กป้องกัน ใครจะไปรู้ว่าโฮเวอร์คาร์จะประคองตัวเองไปได้ถึงเมื่อไหร่ ต้องสวมเสื้อกั๊กป้องกันที่จำเป็นให้เร็วที่สุด

หลิงหลานพยักหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจแล้ว เธอสวมชุดป้องกันอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็หยิบดาบสั้นที่ผ่าเหล็กดั่งโคลนสองเล่มนั้นขึ้นมาก่อนจะมัดไว้ที่ขาทั้งสองข้างอย่างแน่นหนา เธอใคร่ครวญสักพักแล้วก็หยิบปืนพกพลังเยือกแข็งกระบอกนั้นขึ้นมา ถึงแม้ว่าพลังทำลายล้างของมันจะไม่ได้ดีเท่าปืนกลเลเซอร์อนุภาครุ่น II แต่ว่ามันชนะที่ความเล็ก ซึ่งการใช้งานค่อนข้างเหมาะกับเธอที่เป็นเด็กอายุหกขวบ สุดท้ายเธอก็หยิบระเบิดแสงสองลูก วางไว้ในกระเป๋าสองข้างของชุดป้องกัน และทิ้งระเบิดอีกสองประเภทไว้

อาวุธไม่ได้อยู่ที่ความแข็งแกร่ง หากแต่อยู่ที่ความเหมาะสม หลิงหลานเข้าใจหลักการนี้อย่างยิ่งจากการสั่งสอนของตระกูลหลิงและมิติการเรียนรู้ หลิงฉินเห็นแบบนี้ก็พยักหน้าเงียบๆ การเลือกของหลิงหลานเหมาะสมมากที่สุดแล้ว ควรทราบว่าถึงแม้ระเบิดอีกสองประเภทสามารถขัดขวางฝ่ายตรงข้ามได้ดีมาก แต่ความจริงแล้วถ้าฝ่ายตัวเองไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เข้าชุด มันก็ไม่มีประโยชน์เลยเช่นกัน

…………

ห่างออกไปหลายลี้[3] เนื่องจากทีม 413 กลัวว่าจะถูกพวกหลิงหลานสังเกตเห็นดังนั้นจึงเลือกคุ้มกันอยู่ห่างๆ พวกเขาเห็นการโจมตีที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดนี้ก็หนังศีรษะชากันไปเป็นแถบๆ

“เชี่ย พี่น้องทั้งหลาย ไม่อยากตายก็พุ่งไป” 413 ที่ขับหุ่นรบของตัวเองพุ่งไปยังจุดที่เกิดเรื่องอย่างฉับไว ดวงหน้าของเขาที่อยู่ในหุ่นรบซีดเผือด ถ้าหากหลิงหลานเกิดเรื่องตรงหน้าพวกเขา เขาจะต้องถูกผู้บัญชาการจอมปีศาจของเขาถลกหนังแน่นอน

ช่วงนี้วันๆ ของทีม 413 ต่างผ่านไปอย่างสบายมากๆ หลิงหลานไม่ใช่เด็กที่ชอบวิ่งออกไปข้างนอก นี่จึงทำให้การทำงานคุ้มครองของพวกเขาง่ายดายมาก พวกเขาแค่ต้องสุ่มเวลาตรวจสอบรอบๆ บริเวณตระกูลหลิงก็พอ

พวกเขาทั้งหมดหกคนต่างเร่งเครื่องสุดกำลัง ขับหุ่นรบส่งเสียงหวอขณะพุ่งไปยังทิศทางที่หลิงหลานอยู่ เมื่อพวกเขายิ่งเข้าไปใกล้จุดโจมตีมากขึ้นเรื่อยๆ…

“ระวัง แยกย้าย!” 413 ที่นำหน้าขนลุกชันไปทั่วทั้งร่าง เขากู่ร้องอย่างบ้าคลั่งและนำคนอื่นๆ พุ่งหลบไปทางด้านข้าง

ร่างทั้งหกที่แล่นเคียงข้างกันต่างแยกย้ายออกทันที ลำแสงเย็นที่รุนแรงสายหนึ่งระเบิดตรงเส้นทางที่พวกเขาเพิ่งบินไปเมื่อสักครู่นี้

“หมายเลขสอง สภาพสมบูรณ์!”

“หุ่นรบหมายเลขสาม ขาขวาถูกแช่แข็งแล้ว”

“หมายเลขสี่ ทุกอย่างปกติ”

“หมายเลขห้า เสียการควบคุมที่มือซ้ายแล้ว”

“หมายเลขหก ไม่ได้รับความเสียหาย”

ลูกทีมห้าคนรายงานสภาพของพวกเขาให้ 413 ฟังทันที หมายเลขสามกับหมายเลขห้าได้รับความเสียหายจากการโจมตีเมื่อสักครู่นี้

“หมายเลข 4 หมายเลข 6 คุ้มกันหมายเลข 3 กับหมายเลข 5 ส่วนหมายเลข 2 กับฉันจะไปประจันหน้ากับศัตรู” 413 รีบสั่งการ

“ครับ หัวหน้า!”

เวลานี้เอง เบื้องหน้า 413 ก็มีกองทัพหุ่นรบปรากฏตัวขึ้นมาหนึ่งกอง พวกเขาโผล่มาจากมุมต่างๆ หุ่นรบมาตรฐานที่เป็นระเบียบติดอาวุธพร้อมสรรพเผยรูปลักษณ์โหดเหี้ยมของฝ่ายตรงข้าม นี่ทำให้ใบหน้าของ 413 ดำมืดราวกับเมฆครึ้มก่อนพายุฝน

413 เปิดปุ่มสื่อสาร “พวกนายเป็นหน่วยอะไร คิดจะทำอะไรกันแน่” หุ่นรบมาตรฐานแบบนี้รวมไปถึงอาวุธครบชุดมีอยู่แค่ภายในกองทัพเท่านั้น ทางกองทัพไม่อนุญาตให้อาวุธเช่นนี้รั่วไหลไปสู่พลเรือน คนพวกนี้ย่อมต้องมาจากทางกองทัพแน่นอน และคนที่สามารถจัดการส่งกองทัพหุ่นรบออกมาอย่างไร้สุ้มไร้เสียงก็มีเพียงคนในระดับสูงของทางกองทัพเท่านั้น

ถ้าอย่างนั้นคนที่อยู่ในระดับสูงของกองทัพคนไหนอยากจะสังหารหลิงหลานล่ะ หรือว่าจะมีไส้ศึกแฝงตัวอยู่ในสหพันธรัฐจริงๆ?

อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องใช้กองกำลังพวกนี้เพื่อหน่ออ่อนที่โดดเด่นเล็กๆ เพียงต้นเดียวเหรอ พวกเขาไม่กลัวว่าตัวเองจะถูกเปิดเผยเลยหรือไง

413 ยังไม่รู้ว่าหลิงหลานเป็นลูกของหลิงเซียว ถ้าหากเขารู้แล้วละก็ บางทีเขาอาจจะเข้าใจว่าทำไมถึงมีคนมุ่งหวังจะสังหารหลิงหลานขนาดนี้

……………………………….

[1] น้ำเต็มขวดไม่ส่งเสียง น้ำครึ่งขวดกระเพื่อม อุปมาว่าคนที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ย่อมถ่อมตนพูดจาน้อย ส่วนคนความรู้ตื้นเขินต่างชอบโอ้อวดตนเอง

[2] เป่าเส้นขนขาด อุปมาว่า วางเส้นขนลงบนคมดาบแล้วเป่าลมเบาๆ เส้นขนสัมผัสกับตัวคมดาบก็ขาดออก สื่อถึงคมกริบมากๆ

[3] ลี้ หนึ่งลี้เท่ากับห้าร้อยเมตร

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+