I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 25 เพื่อนกลุ่มเดียวกัน

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 25 เพื่อนกลุ่มเดียวกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงหลานอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ “นายรู้ได้ไง” ควรทราบว่าผลการสอบของเด็กทุกคนมีแค่ผู้คุมสอบเท่านั้นที่จะรู้ได้ และผู้คุมสอบแต่ละคนต่างก็ถูกย้ายมากจากเขตกองทัพต่างๆ รู้หลักการเก็บงำความลับและปากแข็งมาก

ฉีหลงพูดด้วยความเขินอายว่า “ความจริงแล้วตอนที่ฉันเข้าไปสอบ ผู้คุมสอบทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ บอกว่านายเป็นอัจฉริยะที่ยากจะพบเจอ พละกำลังของนายต้องได้รับคำอวยพรจากสวรรค์แน่นอน ฉันคิดว่าผู้คุมสอบพูดแบบนี้ พละกำลังของนายต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน”

เอาเถอะ เป็นผู้คุมสอบที่ตื่นเต้นจนพูดโพล่งออกมานิดหน่อยโดยไม่ระมัดระวัง แต่เด็กที่ดูเหมือนเรื่อยๆ เอื่อยๆ คนนี้กลับไม่ใช่คนที่ไม่มีไหวพริบ เขาคว้าจุดสำคัญได้ทันที

“ใช่แล้ว นายชื่ออะไรน่ะ ฉันชื่อฉีหลง เขาชื่อหานจี้จวิน เขาเติบโตมาด้วยกันกับฉัน เป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของฉัน” ฉีหลงไม่มีความรู้สึกเป็นคนแปลกหน้าในตอนที่เจอหน้ากันครั้งแรกเลยสักนิดเดียว เขาชี้ไปยังเด็กชายที่อยู่ข้างกายสาวน้อยร่างอวบด้วยความร่าเริงและแนะนำให้กับเธอ ในสีหน้าของเขาดูมีความโอ้อวดภาคภูมิใจ ทำให้หลิงหลานต้องจ้องมองเด็กชายที่ทำให้ฉีหลงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างลึกซึ้งด้วยความสงสัยใคร่รู้

เด็กชายผงกศีรษะให้เธอน้อยๆ ด้วยสีหน้าที่สุขุมมาก เขาไม่พูดจา ทว่าสายตากลับจ้องสำรวจโดยไม่อาจปิดบังเอาไว้ได้ แน่นอนว่านี่เป็นเพราะอายุของเขายังน้อย บางทีถ้าเกิดเขาโตขึ้นมาหน่อยก็อาจจะปกปิดได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แววตาที่อีกฝ่ายจ้องสำรวจมาไม่ได้ทำให้หลิงหลานรู้สึกไม่ชอบใจ เนื่องจากหลิงหลานรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้ายอะไร เพียงแต่กำลังตัดสินว่าหลิงหลานคู่ควรให้ฉีหลงที่เป็นเพื่อนสนิทคบหาหรือเปล่า ท่าทีพะวักพะวงนี้ทำให้หลิงหลานรับรู้ถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของคนทั้งสองดี

หลิงหลานมองฉีหลงที่กำลังยิ้มอย่างเริงร่าอยู่ด้านข้าง เธอนึกถึงนิยายที่เมื่อก่อนเคยอ่าน คนโง่ทุกคนต่างก็มีเพื่อนสนิทเพศเดียวกันที่เชี่ยวชาญด้านการคำนวนอยู่ข้างกายจริงๆ ด้วย ตอนนี้มองเห็นมิตรภาพระหว่างผู้ชายของเด็กหนุ่มสองคนได้อย่างชัดเจนเลย…พระเจ้าช่างยุติธรรมจริงๆ

หลิงหลานรู้สึกประทับใจฉีหลงกับหานจี้จวินมากขึ้น ท่าทีของเธอก็ดูอ่อนโยนมากเช่นกัน เธอกล่าวทักทายกับหานจี้จวินอย่างเป็นมิตรว่า “สวัสดี ฉันชื่อหลิงหลาน ยินดีที่ได้รู้จักนายนะ”

“หลิงหลาน เธอคือน้องสาวฝั่งพ่อของจี้จวิน ชื่อหานซู่หย่า เธอชอบตามมาเล่นกับพวกเราตลอด อย่าลดตัวไปทะเลาะกับเด็กเลยนะ” ฉีหลงไม่รอให้หานจี้จวินตอบก็พูดต่อและชี้ไปที่สาวน้อยร่างอวบ

เวลานี้เขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าเนื่องจากคำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้สาวน้อยจ้ำม่ำแยกเขี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำเอาหานจี้จวินต้องส่งสายตาจนใจและปวดหัวให้กับหลิงหลาน ดูท่าเขาต้องเปลืองความคิดไม่น้อยเพื่อประสานความสัมพันธ์ระหว่างน้องสาวฝั่งพ่อกับเพื่อนสนิทของตัวเอง

หลิงหลานอมยิ้มไม่พูดจา เธอไม่ได้ตอบคำพูดของฉีหลงเลยสักนิด นี่ทำให้สาวน้อยอ้วนท้วนที่กำลังโกรธเกรี้ยวรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย อย่างน้อยที่สุดเด็กชายคนนี้ก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกเกลียดขนาดนั้น อารมณ์ของเด็กสาวแปรปรวนตลอด นี่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องอายุหรอกนะ

เด็กน้อยหลายคนคุยกันราวกับผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ แต่ยังไม่ทันได้คุยกันหลายประโยค ก็ได้ยินเสียงเด็กที่อยู่ด้านข้างตะโกนว่า “การสอบจะเริ่มแล้ว”

ที่แท้ผู้คุมสอบที่รับหน้าที่ทดสอบก็ปรากฏตัวขึ้นบนสนามกีฬาขนาดใหญ่แล้ว เจ้าหน้าที่เริ่มแบ่งกลุ่มให้กับเด็กๆ เหล่านี้

อันที่จริงการแบ่งกลุ่มนั้นเรียบง่ายมาก ทุกๆ สิบหมายเลขก็คือหนึ่งกลุ่ม หลิงหลานมองหมายเลขเข้าสอบของตัวเอง หมายเลข 7253 แล้วก็มองของพวกฉีหลง หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยขีดดำทันที แม่งเอ๊ย นี่มันบังเอิญมากเกินไปแล้ว ไม่นึกเลยว่าหมายเลขของพวกเขาจะอยู่ด้านหลังเธอ 7254 7255 7256…

หลิงหลานเมินความตื่นเต้นของฉีหลง การตกตะลึงของหานจี้จวินและความไม่พอใจนิดหน่อยของหานซู่หย่าไป เธอแหงนหน้ามองฟ้าด้วยความจนปัญญา มุมปากอดบิดเบี้ยวไม่ได้ นี่ก็คือกฎของการข้ามมิติใช่ไหม คนที่มีความเกี่ยวข้องกับเธอจะมารวมกลุ่มกับเธอเอง? ยกตัวอย่างเช่น ฉีหลงที่ส่งตัวเองมาถึงหน้าประตู

นอกจากพวกเขาสี่คนแล้ว อีกหกคนที่อยู่กลุ่มหมายเลขเดียวกันก็มารวมตัวที่ข้างกายพวกเขา ไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้พวกเขาเป็นกลุ่มที่มีคนเยอะล่ะ คนที่อยู่กระจัดกระจายย่อมต้องเสาะหากลุ่มที่คนมารวมกันเยอะโดยอัตโนมัติ

เพื่อนใหม่ห้าคนประกอบด้วยผู้ชายห้าคนและผู้หญิงหนึ่งคน ในนั้นยังมีชายหญิงคู่หนึ่งที่หน้าตาเหมือนกันสุดขีด น่าจะเป็นฝาแฝดคู่มังกรหงส์[1]”

ถึงแม้ว่ายุคนี้จะมีคนที่หน้าตาอัปลักษณ์ไม่กี่คน แต่ว่าฝาแฝดชายหญิงคู่นั้นหน้าตางดงามมากเป็นพิเศษ พวกเขาเหมือนกับตุ๊กตาหยกที่ดูแวววาวบริสุทธิ์ เด็กชายดูหยิ่งทระนงมั่นใจในตัวเอง ส่วนเด็กหญิงก็เขินอายน่ารัก ดวงหน้าคล้ายคลึงกันทว่าอารมณ์ที่แสดงออกมาดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นี่ทำให้หลิงหลานอดจ้องมองอยู่สักพักด้วยความสงสัยไม่ได้

บางทีสายตาของหลิงหลานอาจจะดูกระตือรือร้นอยู่บ้าง ฝาแฝดมังกรหงส์คู่นั้นถึงสัมผัสได้เล็กน้อย เด็กหญิงที่เหมือนกับองค์หญิงน้อยก็ยิ้มอย่างขวยเขินมาให้เธอ ทำให้หลิงหลานยิ้มกลับโดยอัตโนมัติ เด็กชายเห็นฉากนี้ก็จ้องเธอด้วยความเดือดดาล ราวกับกำลังเตือนเธอว่าเขาไม่อนุญาตให้ล่อลวงน้องสาวเขา

หลิงหลานถูจมูกด้วยความจนใจ ได้ ยิ้มทีเดียวก็ถูกมองว่าเป็นเด็กบ้ากามไปแล้ว ความคิดจะปกป้องน้องสาวของเด็กชายคนนี้หนักมากเกินไปแล้ว แต่ว่าอายุเท่านี้ก็คิดจะปกป้องน้องสาวจากพวกบ้ากาม มันไม่ได้แก่แดดเกินไปหน่อยเหรอ

ฉีหลงเห็นสายตาจ้องเขม็งของอีกฝ่ายก็จ้องกลับไปด้วยความไม่ยอมแพ้ ปากก็ไม่ลืมพูดปลอบใจหลิงหลานว่า “หลิงหลาน ไม่เป็นไร ลั่วล่างก็เป็นคนนิสัยแบบนี้แหละ เขาเห็นน้องสาวสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด”

ดูเหมือนว่าฝาแฝดมังกรหงส์คู่นั้นก็เป็นคนรู้จักมักคุ้นของฉีหลงเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถเรียกชื่อของอีกฝ่ายได้ทันที

หลิงหลานกล่าวด้วยความจนใจว่า “ที่แท้ก็เป็นซิสค่อน[2]!”

“ซิสค่อน?!” ฉีหลงได้ยินคำพูดนี้ก็อึ้งไป หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะพรืดและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “หลิงหลาน นายมันอัจฉริยะมากๆ พูดออกมาได้ตรงเผงขนาดนี้ได้ยังไง ซิสค่อน…ทำไมฉันไม่เคยนึกถึงคำศัพท์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้นะ”

ปฏิกิริยาตอบกลับที่ดูเกินจริงของฉีหลงทำให้หลิงหลานตะลึงงัน ควรทราบว่าคำว่าซิสค่อนเป็นคำที่ถูกใช้จนเปื่อยในโลกเดิมของหลิงหลาน แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่นึกเลยว่ายุคนี้จะไม่มี…

หลินหลานใจกระตุก หรือว่าภัยพิบัติและความไม่สงบหลายครั้งในหนึ่งหมื่นปีมานี้ทำให้วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาถูกตัดขาดไปแล้ว? ถ้าอย่างนั้นพวกหนังสือที่เสี่ยวซื่อเก็บไว้ก็อาจจะนำทองคำถังแรกมาให้พวกเขาก็ได้…

ปฏิกิริยาตอบสนองที่ดูประหลาดของฉีหลงทำให้เด็กคนอื่นๆ ต่างสงสัย และรีบสอบถามเขาเบาๆ หลังจากนั้นคำว่าซิสค่อนก็แพร่กระจายในหมู่เด็ก นอกจากฝาแฝดมังกรหงส์คู่นั้นแล้ว เด็กกลุ่มนี้ต่างรู้กันหมดและปิดปากลอบหัวเราะ

ท่าทางการแอบหัวเราะของพวกเขาก็เป็นการบอกอย่างชัดเจน ลั่วล่างที่เป็นเด็กแฝดชายแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นไม่ได้แล้ว ใบหน้าเขาดำทะมึนขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็อดทนไม่ไหวเดินเข้ามาถามหลิงหลานตรงๆ ว่า “เฮ้ นายพูดจาอะไรแย่ๆ ให้เรา”

หลิงหลานชี้มาที่ตัวเองด้วยใบหน้าใสซื่อ “ฉัน? พูดจาแย่ๆ ให้นาย? ฉันจะพูดจาแย่ๆ ให้นายทำไม” คนที่แอบหัวเราะก็ไม่ใช่เธอด้วย ต่อให้หาคนเล่นงานก็ต้องไปหาฉีหลงสิ ถ้าไม่ใช่เพราะปากสว่างของเขา จะทำให้เด็กทุกคนที่อยู่ข้างๆ รู้เรื่องนี้และแอบหัวเราะใส่เขาได้อย่างไร

“ถ้างั้นทำไมพวกเขาถึงหัวเราะฉัน” ลั่วล่างกล่าวโทษด้วยความโมโห เขาเห็นชัดเจนว่าเพราะคำพูดบางอย่างของหลิงหลานทำให้พวกฉีหลงเริ่มหัวเราะใส่เขา

การกล่าวโทษนี้ทำให้หลิงหลานค่อนข้างไร้เรี่ยวแรง “นายเป็นโรคหลงผิดคิดว่าถูกทำร้ายเหรอ”

“โรคหลงผิดคิดว่าถูกทำร้าย…” พรืด เสียงลอบหัวเราะหลายเสียงระเบิดขึ้นมาจากด้านข้างอีกครั้ง ตั้งแต่ที่ลั่วล่างมาหาหลิงหลาน พวกเพื่อนๆ ต่างให้ความสนใจมาที่ตัวพวกเขา หลังจากนั้นก็ได้ยินคำพูดที่น่าสนใจอีกตามที่คาดไว้จริงๆ พวกเขาพบว่าเด็กที่ดูอ่อนแอเล็กน้อยตรงหน้าพวกเขาเป็นคนที่รู้จักใช้คำมาก สามารถใช้คำที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ว่าพูดได้ตรงใจความสำคัญขนาดนั้น ทำให้พวกเขาหัวเราะไม่หยุด ให้ตายสิ เขามีพรสวรรค์มากเกินไปจริงๆ

ฉีหลงเป็นคนที่หัวเราะหนักมากที่สุด แม้กระทั้งหานจี้จวินที่เดิมทีสุขุมก็ควบคุมมุมปากไม่ให้เผยอยิ้มออกมาไม่ได้ ทำให้กลับไปสู่สถานะเด็กน้อยของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ

พวกเขาไม่หัวเราะก็ยังดี แต่เมื่อหัวเราะขึ้นมาแล้ว ลั่วล่างก็ยิ่งโกรธ ชี้ไปที่พวกเขาขณะที่โกรธจนพูดไม่ออก หลิงหลานครุ่นคิดอย่างไร้ยางอายว่า เด็กนี่จะโกรธจนเป็นลมไปหรือเปล่า

………………………………………..

[1] ฝาแฝดคู่มังกรหงส์ ฝาแฝดชายหญิง

[2] ซิสค่อน มาจากคำว่า Sister complex หมายถึงอาการบ้าน้องสาวหรือพี่สาว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ 25 เพื่อนกลุ่มเดียวกัน

Now you are reading I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ Chapter 25 เพื่อนกลุ่มเดียวกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิงหลานอดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ “นายรู้ได้ไง” ควรทราบว่าผลการสอบของเด็กทุกคนมีแค่ผู้คุมสอบเท่านั้นที่จะรู้ได้ และผู้คุมสอบแต่ละคนต่างก็ถูกย้ายมากจากเขตกองทัพต่างๆ รู้หลักการเก็บงำความลับและปากแข็งมาก

ฉีหลงพูดด้วยความเขินอายว่า “ความจริงแล้วตอนที่ฉันเข้าไปสอบ ผู้คุมสอบทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่ บอกว่านายเป็นอัจฉริยะที่ยากจะพบเจอ พละกำลังของนายต้องได้รับคำอวยพรจากสวรรค์แน่นอน ฉันคิดว่าผู้คุมสอบพูดแบบนี้ พละกำลังของนายต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน”

เอาเถอะ เป็นผู้คุมสอบที่ตื่นเต้นจนพูดโพล่งออกมานิดหน่อยโดยไม่ระมัดระวัง แต่เด็กที่ดูเหมือนเรื่อยๆ เอื่อยๆ คนนี้กลับไม่ใช่คนที่ไม่มีไหวพริบ เขาคว้าจุดสำคัญได้ทันที

“ใช่แล้ว นายชื่ออะไรน่ะ ฉันชื่อฉีหลง เขาชื่อหานจี้จวิน เขาเติบโตมาด้วยกันกับฉัน เป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของฉัน” ฉีหลงไม่มีความรู้สึกเป็นคนแปลกหน้าในตอนที่เจอหน้ากันครั้งแรกเลยสักนิดเดียว เขาชี้ไปยังเด็กชายที่อยู่ข้างกายสาวน้อยร่างอวบด้วยความร่าเริงและแนะนำให้กับเธอ ในสีหน้าของเขาดูมีความโอ้อวดภาคภูมิใจ ทำให้หลิงหลานต้องจ้องมองเด็กชายที่ทำให้ฉีหลงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างลึกซึ้งด้วยความสงสัยใคร่รู้

เด็กชายผงกศีรษะให้เธอน้อยๆ ด้วยสีหน้าที่สุขุมมาก เขาไม่พูดจา ทว่าสายตากลับจ้องสำรวจโดยไม่อาจปิดบังเอาไว้ได้ แน่นอนว่านี่เป็นเพราะอายุของเขายังน้อย บางทีถ้าเกิดเขาโตขึ้นมาหน่อยก็อาจจะปกปิดได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แววตาที่อีกฝ่ายจ้องสำรวจมาไม่ได้ทำให้หลิงหลานรู้สึกไม่ชอบใจ เนื่องจากหลิงหลานรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้ายอะไร เพียงแต่กำลังตัดสินว่าหลิงหลานคู่ควรให้ฉีหลงที่เป็นเพื่อนสนิทคบหาหรือเปล่า ท่าทีพะวักพะวงนี้ทำให้หลิงหลานรับรู้ถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของคนทั้งสองดี

หลิงหลานมองฉีหลงที่กำลังยิ้มอย่างเริงร่าอยู่ด้านข้าง เธอนึกถึงนิยายที่เมื่อก่อนเคยอ่าน คนโง่ทุกคนต่างก็มีเพื่อนสนิทเพศเดียวกันที่เชี่ยวชาญด้านการคำนวนอยู่ข้างกายจริงๆ ด้วย ตอนนี้มองเห็นมิตรภาพระหว่างผู้ชายของเด็กหนุ่มสองคนได้อย่างชัดเจนเลย…พระเจ้าช่างยุติธรรมจริงๆ

หลิงหลานรู้สึกประทับใจฉีหลงกับหานจี้จวินมากขึ้น ท่าทีของเธอก็ดูอ่อนโยนมากเช่นกัน เธอกล่าวทักทายกับหานจี้จวินอย่างเป็นมิตรว่า “สวัสดี ฉันชื่อหลิงหลาน ยินดีที่ได้รู้จักนายนะ”

“หลิงหลาน เธอคือน้องสาวฝั่งพ่อของจี้จวิน ชื่อหานซู่หย่า เธอชอบตามมาเล่นกับพวกเราตลอด อย่าลดตัวไปทะเลาะกับเด็กเลยนะ” ฉีหลงไม่รอให้หานจี้จวินตอบก็พูดต่อและชี้ไปที่สาวน้อยร่างอวบ

เวลานี้เขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าเนื่องจากคำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้สาวน้อยจ้ำม่ำแยกเขี้ยวด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำเอาหานจี้จวินต้องส่งสายตาจนใจและปวดหัวให้กับหลิงหลาน ดูท่าเขาต้องเปลืองความคิดไม่น้อยเพื่อประสานความสัมพันธ์ระหว่างน้องสาวฝั่งพ่อกับเพื่อนสนิทของตัวเอง

หลิงหลานอมยิ้มไม่พูดจา เธอไม่ได้ตอบคำพูดของฉีหลงเลยสักนิด นี่ทำให้สาวน้อยอ้วนท้วนที่กำลังโกรธเกรี้ยวรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย อย่างน้อยที่สุดเด็กชายคนนี้ก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ไม่ได้ทำให้คนรู้สึกเกลียดขนาดนั้น อารมณ์ของเด็กสาวแปรปรวนตลอด นี่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องอายุหรอกนะ

เด็กน้อยหลายคนคุยกันราวกับผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ แต่ยังไม่ทันได้คุยกันหลายประโยค ก็ได้ยินเสียงเด็กที่อยู่ด้านข้างตะโกนว่า “การสอบจะเริ่มแล้ว”

ที่แท้ผู้คุมสอบที่รับหน้าที่ทดสอบก็ปรากฏตัวขึ้นบนสนามกีฬาขนาดใหญ่แล้ว เจ้าหน้าที่เริ่มแบ่งกลุ่มให้กับเด็กๆ เหล่านี้

อันที่จริงการแบ่งกลุ่มนั้นเรียบง่ายมาก ทุกๆ สิบหมายเลขก็คือหนึ่งกลุ่ม หลิงหลานมองหมายเลขเข้าสอบของตัวเอง หมายเลข 7253 แล้วก็มองของพวกฉีหลง หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยขีดดำทันที แม่งเอ๊ย นี่มันบังเอิญมากเกินไปแล้ว ไม่นึกเลยว่าหมายเลขของพวกเขาจะอยู่ด้านหลังเธอ 7254 7255 7256…

หลิงหลานเมินความตื่นเต้นของฉีหลง การตกตะลึงของหานจี้จวินและความไม่พอใจนิดหน่อยของหานซู่หย่าไป เธอแหงนหน้ามองฟ้าด้วยความจนปัญญา มุมปากอดบิดเบี้ยวไม่ได้ นี่ก็คือกฎของการข้ามมิติใช่ไหม คนที่มีความเกี่ยวข้องกับเธอจะมารวมกลุ่มกับเธอเอง? ยกตัวอย่างเช่น ฉีหลงที่ส่งตัวเองมาถึงหน้าประตู

นอกจากพวกเขาสี่คนแล้ว อีกหกคนที่อยู่กลุ่มหมายเลขเดียวกันก็มารวมตัวที่ข้างกายพวกเขา ไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้พวกเขาเป็นกลุ่มที่มีคนเยอะล่ะ คนที่อยู่กระจัดกระจายย่อมต้องเสาะหากลุ่มที่คนมารวมกันเยอะโดยอัตโนมัติ

เพื่อนใหม่ห้าคนประกอบด้วยผู้ชายห้าคนและผู้หญิงหนึ่งคน ในนั้นยังมีชายหญิงคู่หนึ่งที่หน้าตาเหมือนกันสุดขีด น่าจะเป็นฝาแฝดคู่มังกรหงส์[1]”

ถึงแม้ว่ายุคนี้จะมีคนที่หน้าตาอัปลักษณ์ไม่กี่คน แต่ว่าฝาแฝดชายหญิงคู่นั้นหน้าตางดงามมากเป็นพิเศษ พวกเขาเหมือนกับตุ๊กตาหยกที่ดูแวววาวบริสุทธิ์ เด็กชายดูหยิ่งทระนงมั่นใจในตัวเอง ส่วนเด็กหญิงก็เขินอายน่ารัก ดวงหน้าคล้ายคลึงกันทว่าอารมณ์ที่แสดงออกมาดูแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นี่ทำให้หลิงหลานอดจ้องมองอยู่สักพักด้วยความสงสัยไม่ได้

บางทีสายตาของหลิงหลานอาจจะดูกระตือรือร้นอยู่บ้าง ฝาแฝดมังกรหงส์คู่นั้นถึงสัมผัสได้เล็กน้อย เด็กหญิงที่เหมือนกับองค์หญิงน้อยก็ยิ้มอย่างขวยเขินมาให้เธอ ทำให้หลิงหลานยิ้มกลับโดยอัตโนมัติ เด็กชายเห็นฉากนี้ก็จ้องเธอด้วยความเดือดดาล ราวกับกำลังเตือนเธอว่าเขาไม่อนุญาตให้ล่อลวงน้องสาวเขา

หลิงหลานถูจมูกด้วยความจนใจ ได้ ยิ้มทีเดียวก็ถูกมองว่าเป็นเด็กบ้ากามไปแล้ว ความคิดจะปกป้องน้องสาวของเด็กชายคนนี้หนักมากเกินไปแล้ว แต่ว่าอายุเท่านี้ก็คิดจะปกป้องน้องสาวจากพวกบ้ากาม มันไม่ได้แก่แดดเกินไปหน่อยเหรอ

ฉีหลงเห็นสายตาจ้องเขม็งของอีกฝ่ายก็จ้องกลับไปด้วยความไม่ยอมแพ้ ปากก็ไม่ลืมพูดปลอบใจหลิงหลานว่า “หลิงหลาน ไม่เป็นไร ลั่วล่างก็เป็นคนนิสัยแบบนี้แหละ เขาเห็นน้องสาวสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด”

ดูเหมือนว่าฝาแฝดมังกรหงส์คู่นั้นก็เป็นคนรู้จักมักคุ้นของฉีหลงเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถเรียกชื่อของอีกฝ่ายได้ทันที

หลิงหลานกล่าวด้วยความจนใจว่า “ที่แท้ก็เป็นซิสค่อน[2]!”

“ซิสค่อน?!” ฉีหลงได้ยินคำพูดนี้ก็อึ้งไป หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะพรืดและระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “หลิงหลาน นายมันอัจฉริยะมากๆ พูดออกมาได้ตรงเผงขนาดนี้ได้ยังไง ซิสค่อน…ทำไมฉันไม่เคยนึกถึงคำศัพท์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้นะ”

ปฏิกิริยาตอบกลับที่ดูเกินจริงของฉีหลงทำให้หลิงหลานตะลึงงัน ควรทราบว่าคำว่าซิสค่อนเป็นคำที่ถูกใช้จนเปื่อยในโลกเดิมของหลิงหลาน แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่นึกเลยว่ายุคนี้จะไม่มี…

หลินหลานใจกระตุก หรือว่าภัยพิบัติและความไม่สงบหลายครั้งในหนึ่งหมื่นปีมานี้ทำให้วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาถูกตัดขาดไปแล้ว? ถ้าอย่างนั้นพวกหนังสือที่เสี่ยวซื่อเก็บไว้ก็อาจจะนำทองคำถังแรกมาให้พวกเขาก็ได้…

ปฏิกิริยาตอบสนองที่ดูประหลาดของฉีหลงทำให้เด็กคนอื่นๆ ต่างสงสัย และรีบสอบถามเขาเบาๆ หลังจากนั้นคำว่าซิสค่อนก็แพร่กระจายในหมู่เด็ก นอกจากฝาแฝดมังกรหงส์คู่นั้นแล้ว เด็กกลุ่มนี้ต่างรู้กันหมดและปิดปากลอบหัวเราะ

ท่าทางการแอบหัวเราะของพวกเขาก็เป็นการบอกอย่างชัดเจน ลั่วล่างที่เป็นเด็กแฝดชายแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นไม่ได้แล้ว ใบหน้าเขาดำทะมึนขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็อดทนไม่ไหวเดินเข้ามาถามหลิงหลานตรงๆ ว่า “เฮ้ นายพูดจาอะไรแย่ๆ ให้เรา”

หลิงหลานชี้มาที่ตัวเองด้วยใบหน้าใสซื่อ “ฉัน? พูดจาแย่ๆ ให้นาย? ฉันจะพูดจาแย่ๆ ให้นายทำไม” คนที่แอบหัวเราะก็ไม่ใช่เธอด้วย ต่อให้หาคนเล่นงานก็ต้องไปหาฉีหลงสิ ถ้าไม่ใช่เพราะปากสว่างของเขา จะทำให้เด็กทุกคนที่อยู่ข้างๆ รู้เรื่องนี้และแอบหัวเราะใส่เขาได้อย่างไร

“ถ้างั้นทำไมพวกเขาถึงหัวเราะฉัน” ลั่วล่างกล่าวโทษด้วยความโมโห เขาเห็นชัดเจนว่าเพราะคำพูดบางอย่างของหลิงหลานทำให้พวกฉีหลงเริ่มหัวเราะใส่เขา

การกล่าวโทษนี้ทำให้หลิงหลานค่อนข้างไร้เรี่ยวแรง “นายเป็นโรคหลงผิดคิดว่าถูกทำร้ายเหรอ”

“โรคหลงผิดคิดว่าถูกทำร้าย…” พรืด เสียงลอบหัวเราะหลายเสียงระเบิดขึ้นมาจากด้านข้างอีกครั้ง ตั้งแต่ที่ลั่วล่างมาหาหลิงหลาน พวกเพื่อนๆ ต่างให้ความสนใจมาที่ตัวพวกเขา หลังจากนั้นก็ได้ยินคำพูดที่น่าสนใจอีกตามที่คาดไว้จริงๆ พวกเขาพบว่าเด็กที่ดูอ่อนแอเล็กน้อยตรงหน้าพวกเขาเป็นคนที่รู้จักใช้คำมาก สามารถใช้คำที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ว่าพูดได้ตรงใจความสำคัญขนาดนั้น ทำให้พวกเขาหัวเราะไม่หยุด ให้ตายสิ เขามีพรสวรรค์มากเกินไปจริงๆ

ฉีหลงเป็นคนที่หัวเราะหนักมากที่สุด แม้กระทั้งหานจี้จวินที่เดิมทีสุขุมก็ควบคุมมุมปากไม่ให้เผยอยิ้มออกมาไม่ได้ ทำให้กลับไปสู่สถานะเด็กน้อยของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ

พวกเขาไม่หัวเราะก็ยังดี แต่เมื่อหัวเราะขึ้นมาแล้ว ลั่วล่างก็ยิ่งโกรธ ชี้ไปที่พวกเขาขณะที่โกรธจนพูดไม่ออก หลิงหลานครุ่นคิดอย่างไร้ยางอายว่า เด็กนี่จะโกรธจนเป็นลมไปหรือเปล่า

………………………………………..

[1] ฝาแฝดคู่มังกรหงส์ ฝาแฝดชายหญิง

[2] ซิสค่อน มาจากคำว่า Sister complex หมายถึงอาการบ้าน้องสาวหรือพี่สาว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+