บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 290 ช่วยงาน

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 290 ช่วยงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 290 ช่วยงาน

ตอนที่ 290

 

ช่วยงาน

“เอาล่ะ ต่อไปเราจะมาประชุมกันเรื่องอสูรที่เราจะล่ากัน” ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีเหล่านักล่าอสูรอยู่กันเต็มห้อง ท่าทางการประชุมจะเครียดกันไม่น้อยเลย

“เป้าหมายในคราวนี้อยู่ที่เขตอสูรบึงมรณะ” ชายที่อยู่หัวแถวพูด พลางเปิดแผนที่ออกมากางบนผนัง

 

“บึงงั้นเหรอ ที่นั่นคงเดินลําบากข้าจะเตรียมรองเท้าหนังหนาๆให้ก็แล้วกัน” ชายคนหนึ่งตอบพลางมองแผนที่ด้วยท่าที่จริงจัง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเดินบนน้ําได้อย่างอิสระ อย่างน้อยให้เดินได้อย่างสบายใจก็เป็นเรื่องดี

“แล้วเราจะทํายังไงกับราชาของเขตนั้นล่ะ” ชายอีกคนถามขึ้นพลางมองไปบนแผนที่เช่นกัน ราชาของบึงมรณะคืออสูรจระเข้เผือกที่มีขนาดใหญ่พอๆกับช้าง แม้ตัวจะไม่ใหญ่มากําหรับราชาเขตอสูร แต่มันก็เป็นหนึ่งในอสูรที่มีกําลังมาก ยิ่งต่อสู้กับมันใต้น้ํายิ่งลําบาก

 

“คราวนี้ภารกิจของเราคือการเก็บใบบัวหกแฉก ขอให้ทุกคนพยายามหลบเลี่ยงการปะทะกับราชาเข้าไว้” หัวหน้ากลุ่มพูดพลางชี้ไปที่ส่วนเล็กๆของบึง ภายในเขตอสูรมักมีสมุนไพรมีค่ามากมายเพราะพืชพันธุ์ดูดซับพลังอสูรเข้าไปทําให้กลายพันธุ์จนมีพลังแปลกประหลาดขึ้นมา และการหาของที่ลูกค้าต้องการหรือจของที่สามารถนํามาป้อนให้ตลาดได้ก็คือหน้าที่ของพวกมันนั่นเอง

“ไม่ได้หรอก ก็ใบบัวหกแฉกจะขึ้นเหนือรังของอสูรนี่นา แบบนั้นยังไงพวกลุงๆก็ต้องปะทะกับราชาเขตอยู่ดี”ไป่หลินพูดขึ้นมาพลางทําสีหน้าครุ่นคิด แม้สภาพของนางจะไม่ต่างจากเด็กที่กําลังปืนโต๊ะขึ้นมาเล่นเลย

“เจ้าเป็นใคร” ชายคนหนึ่งในกลุ่มถามพลางมองมาทางไป่หลิน อยู่ๆก็มีเด็กที่ไหนมาเล่นในห้องประชุม หรือใครพาลูกสาวมาด้วย?

“จระเข้เผือกเหรอ แค่ใช้กรงเล็บแทงเข้าไปสักทีก็พอแล้วนี่”ไป ไปว่าพลางทําท่าเหมือนจะจ้วงแทงไปข้างหน้า

“ไม่ได้ ห้ามฆ่าราชาเขตสิ ภารกิจครั้งนี้ต้องเข้าไปเก็บสมุนไพรมาอย่างเดียวนะ” หลินหลินท้วงเพราะตนเคยอยู่ในกลุ่มนักล่าอสูรมาก่อน ทําให้ทราบดีว่าการฆ่าราชาเขตเป็นเรื่องไม่สมควรทําเพราะหากฆ่าไปแล้วเขตอสูรก็จะค่อยๆล่มสลายไป สุดท้ายคนที่เสียผลประโยชน์ที่สุดก็คือคนที่หวังเอาสมุนไพรในเขตอสูรอย่างพวกนักล่าอสูรที่ล่ะ

“พวกหนูเป็นใครกัน แล้วเข้ามาที่นี่ได้ไง” หัวหน้ากลุ่มถามพลาง มองไป่หลินกับพี่ๆของนางอย่างสงสัย ที่นี่เป็นพื้นที่ประชุมงานหาก ไม่ใช่นักล่าอสูรในหน่วย 1 เข้ามาไม่ได้ไม่ใช่หรือ

 

“ข้ามาช่วยงานเจ้าค่ะ”ไป่หลินว่าพลางยิ้มกว้าง

 

“แล้วเจ้าล่ะจะทํายังไงไปน้อย”ไป๋ไป๋ถามพลางมองมาทางไป่หลิน

“ก็เข้าไปขอคุณจระเข้ดีๆก็ได้ไม่ใช่เหรอ”ไป่หลินว่าพลางเอียงคอสงสัย การนําสมุนไพรมาจากเขตอสูรเป็นเรื่องง่ายสําหรับไป่หลินมาก ขอแค่นางเดินเข้าไปขอร้องอสูรเหล่านั้นนางก็จะได้สมุนไพรมาอย่างไม่ยากเย็นแล้ว

“นั่นสิ ถ้าเป็นเจ้าก็คงทําแบบนั้น”ไป๋ไป๋ว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ ตัวนางไม่ทราบหรอกว่าทําไม แต่อสูรทุกตัวมักจะใจดีกับไป่หลินเสมอแม้แต่พ่อของนางเองก็เช่นกัน

 

“เดินเข้าไปขอ…คนธรรมดาทําแบบนั้นได้ที่ไหนล่ะ”ชายคนหนึ่งพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ

“ถ้าสู้ไม่ได้ก็รอเวลาที่มันออกล่าก็พอ”ไป๋ไป๋ว่าพลางทําท่านึก ในเขตอสูรผาไร้กันก็มีอสูรจระเข้อยู่หรอกแต่นางก็ไม่มั่นใจว่าอสูรจระเข้ทุกตัวจะเหมือนกันหรือเปล่า

“แม่หนู มันหากินตอนกลางคืนแต่นอนตอนกลางวันนะ เราไปเก็บมาตอนมันนอนไม่ดีกว่าเหรอ” หัวหน้ากลุ่มว่าพลางขมวดคิ้วสงสัย

“ก็อสูรจระเข้บางทีก็จะขึ้นมานอนบนดินนี่นา ถ้าเข้าไปเอาตอนนั้นอาจจะโดนเล่นงานก็ได้นะ”ไป๋ไป๋ว่าพลางยิ้มบางๆ

 

“ถูกแล้ว ถ้าแอบไปตอนกลางคืนที่มันออกหากินน่าจะปลอดภัยกว่า” หงเยวว่าพลางเดินเข้ามาหาไป๋ไป๋ช้าๆ

“ท่านหงเยว่ ท่านพาเด็กพวกนี้มาหรือขอรับ” ทันทีที่เห็นหงเยว่หัวหน้ากลุ่มก็มียืดหลังขึ้นตรงทันที

“ขออภัยด้วยที่เด็กๆเข้ามาวุ่นวายเจ้าค่ะ” หงเยวว่าพลางอุ้มไป่หลินออกมาจากโต๊ะ

 

“เด็กพวกนี้เป็นใครกันหรือขอรับ ท่าทางพวกนางรู้เกี่ยวกับอสูรละเอียดมาก” หัวหน้ากลุ่มถามพลางมองไปทางไป๋ไป๋กับไป่หลิน แม้จะเหมือนคําพูดเรื่อยเปื่อยของเด็กแต่พวกนางก็แนะนําได้ดีทีเดียว

 

“นางเป็นบุตรสาวของเจ้านายข้าเจ้าค่ะ ส่วนเด็กๆที่เหลือก็เป็นอสูรของนาง”ได้ยินหงเยวตอบคนในห้องก็พากันชะงักไปทันที ไม่นึกเลยว่าบุตรสาวของหัวหน้าสาขาใหญ่จะมาที่นี่

“พี่เยว่ ที่นี่เรียบร้อยดี ไปหน่วยอื่นกันเถอะ”ไป่หลินว่าพลางยิ้มกว้าง นางเล่นเดินเข้าไปดูการประชุมของหน่วย 1 มาหลายกลุ่มแล้ว แต่เพราะความเห็นของนางกับไป๋ไป๋ค่อนข้างมีประโยชน์ทําให้หงเยวไม่ได้ว่าอะไร

“ไม่ได้ นี่ก็เย็นมากแล้วเจ้าต้องกลับไปหาพ่อเจ้าแล้วไม่ใช่หรือไง” หงเยวว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ ขึ้นให้ไป่หลินเดินตรวจทุกห้องประชุมมีหวังพรุ่งนี้ก็คงไม่เสร็จ

“อะ เอ่อ เดินทางปลอดภัยนะขอรับคุณหนู” หัวหน้ากลุ่มว่าพลางก้มหัวน้อยๆ หัวหน้าสาขาใหญ่ถือเป็นหัวหน้าสูงสุดของกลุ่มนักล่าอสูร ขึ้นทําตัวเสียมารยาทกับลูกสาวท่านมีหวังพวกมันลําบากแน่

 

“ค้า ตั้งใจทํางานกันนะคะลุงๆ”ไป่หลินยิ้มพลางโบกมือลาอย่างร่าเริง ทําเอาคนในห้องประชุมหันมามองหน้ากันไปมาก่อนจะหัวเราะกันครู่หนึ่ง

 

“ว่าแต่คุณหนูก็น่ารักดีนะ ข้าชักอยากเห็นนายหญิงสาขาใหญ่แล้วสิว่าจะหน้าตางดงามแค่ไหน” ชายคนหนึ่งพูดพลางยิ้มออกมา

 

“นั่นสิ ไม่ใช่ว่านางมาด้วยงั้นหรือ” ชายอีกคนว่าพลางเริ่มคาดเดาว่าเหม่ยหลินจะมาที่เมืองร้อยแปดอสูรแห่งนี้หรือไม่ แทนที่จะประชุมเรื่องเขตอสูรกันเสียแล้ว

 

“ท่าทางการฝึกคนใหม่ๆจะยากพอควรเลยนะ ท่านเองก็ต้องเหนื่อยอีกเยอะ”ไป๋จูเหวินพูดพลางนั่งลงเก้าอี้แขกแทนที่จะนั่งบนเก้าบัลลังก์ของหัวหน้ากลุ่มเพราะที่นี่หัวหน้ากลุ่มคืออดีตท่านรองต่างหาก

 

“ไม่หรอก เพราะได้เขตอสูรพันธมิตรของเจ้าช่วยเลยให้คนใหม่ๆเรียนรู้ได้มากทีเดียว” อดีตรองหัวหน้าว่าพลางยิ้มออกมา เขตอสูรพันธมิตรที่ว่าคือเหล่าราชาเขตอสูรที่ไป๋จูเหวินขอให้มาช่วยตอนบุ กเมืองของกลุ่มเขี้ยวโลหิตนั่นเอง พอมันได้รับความสามารถของไป๋จูเหวินเข้าไปพวกมันก็ไม่คิดจะต่อต้านไป๋จูเหวินอยู่แล้ว พวกมันจึงยอมให้กลุ่มนักล่าอสูรเข้าไปสํารวจหรือเก็บเกี่ยวสมุนไพรได้จํานวนหนึ่ง แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นความลับในคนระดับสูงของกลุ่มนักล่าอสูร พวกลูกน้องที่ไปนั้นไม่ได้ทราบเรื่องนี้ด้วย และทราบแต่เพียงว่าตนเองต้องแอบเข้าไปเท่านั้น

 

“แถมเจ้ายังเป็นหลานชายองค์จักรพรรดิด้วย ทําให้พวกเราเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้นมาก บอกตามตรงนะ งานตอนนี้ของข้าเบากว่าสมัยแรกของหวงหลงเยอะ” อดีตรองหัวหน้าว่าพลางยิ้มออกมา ตอนนั้นแทบจะล้มชุ่มอยู่รอมร่อเสียด้วยซ้ํา โชคดีจริงๆที่ตอนนั้นตัดสินใจสู้ต่อ

 

“จริงสิ เหมือนองค์จักรพรรดิอยากจะให้เจ้าเข้าไปพบอยู่เหมือนกัน หลังจากนี้ก็แวะไปหาท่านสักหน่อยสิ”ได้ยินที่อดีตรองหัวหน้าพูดไป๋จูเหวินก็พยักหน้าน้อยๆเป็นการบอกว่าเข้าใจแล้ว เพราะมันก็จะพาไป่หลินไปพบองค์จักรพรรดิเหมือนกัน ถึงอย่างไรท่านก็เป็นญาติคนหนึ่งของไป่หลิน แถมวันแต่งของมันท่านก็มาอวยพรเสียด้วย

 

“ท่านพ่อ วันนี้ข้าช่วยงานท่านพ่อได้เยอะแยะเลย” อยู่ๆไป่หลินก็วิ่งเข้ามาในห้องของอดีตรองหัวหน้ากลุ่ม พลางกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของไป๋จูเหวินทันที

 

“งั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไป่หลินอย่างเอ็นดู ช่วยไม่ได้นี่นา ก็ที่ขอบปากนางมีคราบน้ําตาลหน่อยๆพอบอกว่าได้ช่วยงานแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้

“วันนี้ข้าสอนไป่หลินใช้เงินในตลาดกับพานางไปชมหน่วย 1 มาเจ้าค่ะ” หงเยวรายงานพลางยิ้มบางๆเช่นกัน

 

“งั้นเหรอ ท่าทางเจ้าจะเหนื่อยน่าดู วันนี้พักผ่อนซะพรุ่งนี้พ่อจะพาเจ้าไปพบอาของพ่อที่วังหลวง”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางลูบหัวบุตรสาวอย่างเอ็นดู

 

“วังหลวง ทําไมท่านอาของท่านพ่อถึงอยู่ในวังหลวงละเจ้าคะ”ไป่หลินถามพลางเอียงคองงๆ

“เพราะท่านเป็นองค์จักรพรรดิยังไงล่ะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ

“จักรพรรดิ! งั้นข้าก็เหมือนเป็นเจ้าหญิงเลยสิ”ไป่หลินว่าพลางทําตาโต แม้จะไม่เคยออกมาดูโลกภายนอกแต่ก็ไม่ได้ไม่ทราบเรื่องภายนอกเลยเหมือนไป๋จูเหวิน เพราะไป่หลินยังมีตําราจากโลกภายนอกให้อ่าน รวมทั้งมีเหม่ยหลินคอยสอนอีกต่างหาก

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”ไป๋จูเหวินตอบอย่างยิ้มแย้ม เห็นท่าทางนางตื่นเต้นเช่นนี้ก็ดูน่ารักดี แต่อาจจะเพราะแบบนั้นก็ได้ทําให้ไป่หลินกลายเป็นคนที่ตื่นเต้นที่สุดในการเดินทางของเช้าวันถัดมาเลย

 

“โอ้ ไป๋จูเหวิน เจ้ามาแล้ว” ทันทีที่ไป๋จูเหวินเข้าไปที่ท้องพระโรงเพื่อเข้าเฝ้า อยู่ๆองค์จักรพรรดิก็ลุกพรวดจากบัลลังก์เข้ามาหาไป๋จูเหวินในทันที ตอนนี้มันไม่ได้เรียกไป๋จูเหวินว่าในอี้แล้วเพราะไป๋จูเหวินขอร้องให้เรียกด้วยชื่อนี้แทน

 

“ขอรับองค์จักรพรรดิ”ไป๋จูเหวินตอบรับด้วยท่าที่ประหลาดใจ ปกติท่านไม่เคยมาดหลุดแบบนี้กลางท้องพระโรงเลยไม่ใช่หรือ

 

“ไป๋จูเหวินโชคดีจริงๆที่เจ้ามาทัน ขอร้องล่ะเจ้าช่วยไปอาณาจักรโฮกับข้าหน่อยเถอะ”องค์จักรพรรดิว่าพลางกุมมือของไป๋จูเหวินเอาไว้ ปกติตําแหน่งจักรพรรดิไม่เคยต้องขอร้องอะไรใครอยู่แล้ว แต่คราวนี้มันถึงกับขอร้องออกมาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้มันเรื่องอะไรกัน?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 290 ช่วยงาน

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 290 ช่วยงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 290 ช่วยงาน

ตอนที่ 290

 

ช่วยงาน

“เอาล่ะ ต่อไปเราจะมาประชุมกันเรื่องอสูรที่เราจะล่ากัน” ภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่มีเหล่านักล่าอสูรอยู่กันเต็มห้อง ท่าทางการประชุมจะเครียดกันไม่น้อยเลย

“เป้าหมายในคราวนี้อยู่ที่เขตอสูรบึงมรณะ” ชายที่อยู่หัวแถวพูด พลางเปิดแผนที่ออกมากางบนผนัง

 

“บึงงั้นเหรอ ที่นั่นคงเดินลําบากข้าจะเตรียมรองเท้าหนังหนาๆให้ก็แล้วกัน” ชายคนหนึ่งตอบพลางมองแผนที่ด้วยท่าที่จริงจัง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเดินบนน้ําได้อย่างอิสระ อย่างน้อยให้เดินได้อย่างสบายใจก็เป็นเรื่องดี

“แล้วเราจะทํายังไงกับราชาของเขตนั้นล่ะ” ชายอีกคนถามขึ้นพลางมองไปบนแผนที่เช่นกัน ราชาของบึงมรณะคืออสูรจระเข้เผือกที่มีขนาดใหญ่พอๆกับช้าง แม้ตัวจะไม่ใหญ่มากําหรับราชาเขตอสูร แต่มันก็เป็นหนึ่งในอสูรที่มีกําลังมาก ยิ่งต่อสู้กับมันใต้น้ํายิ่งลําบาก

 

“คราวนี้ภารกิจของเราคือการเก็บใบบัวหกแฉก ขอให้ทุกคนพยายามหลบเลี่ยงการปะทะกับราชาเข้าไว้” หัวหน้ากลุ่มพูดพลางชี้ไปที่ส่วนเล็กๆของบึง ภายในเขตอสูรมักมีสมุนไพรมีค่ามากมายเพราะพืชพันธุ์ดูดซับพลังอสูรเข้าไปทําให้กลายพันธุ์จนมีพลังแปลกประหลาดขึ้นมา และการหาของที่ลูกค้าต้องการหรือจของที่สามารถนํามาป้อนให้ตลาดได้ก็คือหน้าที่ของพวกมันนั่นเอง

“ไม่ได้หรอก ก็ใบบัวหกแฉกจะขึ้นเหนือรังของอสูรนี่นา แบบนั้นยังไงพวกลุงๆก็ต้องปะทะกับราชาเขตอยู่ดี”ไป่หลินพูดขึ้นมาพลางทําสีหน้าครุ่นคิด แม้สภาพของนางจะไม่ต่างจากเด็กที่กําลังปืนโต๊ะขึ้นมาเล่นเลย

“เจ้าเป็นใคร” ชายคนหนึ่งในกลุ่มถามพลางมองมาทางไป่หลิน อยู่ๆก็มีเด็กที่ไหนมาเล่นในห้องประชุม หรือใครพาลูกสาวมาด้วย?

“จระเข้เผือกเหรอ แค่ใช้กรงเล็บแทงเข้าไปสักทีก็พอแล้วนี่”ไป ไปว่าพลางทําท่าเหมือนจะจ้วงแทงไปข้างหน้า

“ไม่ได้ ห้ามฆ่าราชาเขตสิ ภารกิจครั้งนี้ต้องเข้าไปเก็บสมุนไพรมาอย่างเดียวนะ” หลินหลินท้วงเพราะตนเคยอยู่ในกลุ่มนักล่าอสูรมาก่อน ทําให้ทราบดีว่าการฆ่าราชาเขตเป็นเรื่องไม่สมควรทําเพราะหากฆ่าไปแล้วเขตอสูรก็จะค่อยๆล่มสลายไป สุดท้ายคนที่เสียผลประโยชน์ที่สุดก็คือคนที่หวังเอาสมุนไพรในเขตอสูรอย่างพวกนักล่าอสูรที่ล่ะ

“พวกหนูเป็นใครกัน แล้วเข้ามาที่นี่ได้ไง” หัวหน้ากลุ่มถามพลาง มองไป่หลินกับพี่ๆของนางอย่างสงสัย ที่นี่เป็นพื้นที่ประชุมงานหาก ไม่ใช่นักล่าอสูรในหน่วย 1 เข้ามาไม่ได้ไม่ใช่หรือ

 

“ข้ามาช่วยงานเจ้าค่ะ”ไป่หลินว่าพลางยิ้มกว้าง

 

“แล้วเจ้าล่ะจะทํายังไงไปน้อย”ไป๋ไป๋ถามพลางมองมาทางไป่หลิน

“ก็เข้าไปขอคุณจระเข้ดีๆก็ได้ไม่ใช่เหรอ”ไป่หลินว่าพลางเอียงคอสงสัย การนําสมุนไพรมาจากเขตอสูรเป็นเรื่องง่ายสําหรับไป่หลินมาก ขอแค่นางเดินเข้าไปขอร้องอสูรเหล่านั้นนางก็จะได้สมุนไพรมาอย่างไม่ยากเย็นแล้ว

“นั่นสิ ถ้าเป็นเจ้าก็คงทําแบบนั้น”ไป๋ไป๋ว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ ตัวนางไม่ทราบหรอกว่าทําไม แต่อสูรทุกตัวมักจะใจดีกับไป่หลินเสมอแม้แต่พ่อของนางเองก็เช่นกัน

 

“เดินเข้าไปขอ…คนธรรมดาทําแบบนั้นได้ที่ไหนล่ะ”ชายคนหนึ่งพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ

“ถ้าสู้ไม่ได้ก็รอเวลาที่มันออกล่าก็พอ”ไป๋ไป๋ว่าพลางทําท่านึก ในเขตอสูรผาไร้กันก็มีอสูรจระเข้อยู่หรอกแต่นางก็ไม่มั่นใจว่าอสูรจระเข้ทุกตัวจะเหมือนกันหรือเปล่า

“แม่หนู มันหากินตอนกลางคืนแต่นอนตอนกลางวันนะ เราไปเก็บมาตอนมันนอนไม่ดีกว่าเหรอ” หัวหน้ากลุ่มว่าพลางขมวดคิ้วสงสัย

“ก็อสูรจระเข้บางทีก็จะขึ้นมานอนบนดินนี่นา ถ้าเข้าไปเอาตอนนั้นอาจจะโดนเล่นงานก็ได้นะ”ไป๋ไป๋ว่าพลางยิ้มบางๆ

 

“ถูกแล้ว ถ้าแอบไปตอนกลางคืนที่มันออกหากินน่าจะปลอดภัยกว่า” หงเยวว่าพลางเดินเข้ามาหาไป๋ไป๋ช้าๆ

“ท่านหงเยว่ ท่านพาเด็กพวกนี้มาหรือขอรับ” ทันทีที่เห็นหงเยว่หัวหน้ากลุ่มก็มียืดหลังขึ้นตรงทันที

“ขออภัยด้วยที่เด็กๆเข้ามาวุ่นวายเจ้าค่ะ” หงเยวว่าพลางอุ้มไป่หลินออกมาจากโต๊ะ

 

“เด็กพวกนี้เป็นใครกันหรือขอรับ ท่าทางพวกนางรู้เกี่ยวกับอสูรละเอียดมาก” หัวหน้ากลุ่มถามพลางมองไปทางไป๋ไป๋กับไป่หลิน แม้จะเหมือนคําพูดเรื่อยเปื่อยของเด็กแต่พวกนางก็แนะนําได้ดีทีเดียว

 

“นางเป็นบุตรสาวของเจ้านายข้าเจ้าค่ะ ส่วนเด็กๆที่เหลือก็เป็นอสูรของนาง”ได้ยินหงเยวตอบคนในห้องก็พากันชะงักไปทันที ไม่นึกเลยว่าบุตรสาวของหัวหน้าสาขาใหญ่จะมาที่นี่

“พี่เยว่ ที่นี่เรียบร้อยดี ไปหน่วยอื่นกันเถอะ”ไป่หลินว่าพลางยิ้มกว้าง นางเล่นเดินเข้าไปดูการประชุมของหน่วย 1 มาหลายกลุ่มแล้ว แต่เพราะความเห็นของนางกับไป๋ไป๋ค่อนข้างมีประโยชน์ทําให้หงเยวไม่ได้ว่าอะไร

“ไม่ได้ นี่ก็เย็นมากแล้วเจ้าต้องกลับไปหาพ่อเจ้าแล้วไม่ใช่หรือไง” หงเยวว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ ขึ้นให้ไป่หลินเดินตรวจทุกห้องประชุมมีหวังพรุ่งนี้ก็คงไม่เสร็จ

“อะ เอ่อ เดินทางปลอดภัยนะขอรับคุณหนู” หัวหน้ากลุ่มว่าพลางก้มหัวน้อยๆ หัวหน้าสาขาใหญ่ถือเป็นหัวหน้าสูงสุดของกลุ่มนักล่าอสูร ขึ้นทําตัวเสียมารยาทกับลูกสาวท่านมีหวังพวกมันลําบากแน่

 

“ค้า ตั้งใจทํางานกันนะคะลุงๆ”ไป่หลินยิ้มพลางโบกมือลาอย่างร่าเริง ทําเอาคนในห้องประชุมหันมามองหน้ากันไปมาก่อนจะหัวเราะกันครู่หนึ่ง

 

“ว่าแต่คุณหนูก็น่ารักดีนะ ข้าชักอยากเห็นนายหญิงสาขาใหญ่แล้วสิว่าจะหน้าตางดงามแค่ไหน” ชายคนหนึ่งพูดพลางยิ้มออกมา

 

“นั่นสิ ไม่ใช่ว่านางมาด้วยงั้นหรือ” ชายอีกคนว่าพลางเริ่มคาดเดาว่าเหม่ยหลินจะมาที่เมืองร้อยแปดอสูรแห่งนี้หรือไม่ แทนที่จะประชุมเรื่องเขตอสูรกันเสียแล้ว

 

“ท่าทางการฝึกคนใหม่ๆจะยากพอควรเลยนะ ท่านเองก็ต้องเหนื่อยอีกเยอะ”ไป๋จูเหวินพูดพลางนั่งลงเก้าอี้แขกแทนที่จะนั่งบนเก้าบัลลังก์ของหัวหน้ากลุ่มเพราะที่นี่หัวหน้ากลุ่มคืออดีตท่านรองต่างหาก

 

“ไม่หรอก เพราะได้เขตอสูรพันธมิตรของเจ้าช่วยเลยให้คนใหม่ๆเรียนรู้ได้มากทีเดียว” อดีตรองหัวหน้าว่าพลางยิ้มออกมา เขตอสูรพันธมิตรที่ว่าคือเหล่าราชาเขตอสูรที่ไป๋จูเหวินขอให้มาช่วยตอนบุ กเมืองของกลุ่มเขี้ยวโลหิตนั่นเอง พอมันได้รับความสามารถของไป๋จูเหวินเข้าไปพวกมันก็ไม่คิดจะต่อต้านไป๋จูเหวินอยู่แล้ว พวกมันจึงยอมให้กลุ่มนักล่าอสูรเข้าไปสํารวจหรือเก็บเกี่ยวสมุนไพรได้จํานวนหนึ่ง แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นความลับในคนระดับสูงของกลุ่มนักล่าอสูร พวกลูกน้องที่ไปนั้นไม่ได้ทราบเรื่องนี้ด้วย และทราบแต่เพียงว่าตนเองต้องแอบเข้าไปเท่านั้น

 

“แถมเจ้ายังเป็นหลานชายองค์จักรพรรดิด้วย ทําให้พวกเราเข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้นมาก บอกตามตรงนะ งานตอนนี้ของข้าเบากว่าสมัยแรกของหวงหลงเยอะ” อดีตรองหัวหน้าว่าพลางยิ้มออกมา ตอนนั้นแทบจะล้มชุ่มอยู่รอมร่อเสียด้วยซ้ํา โชคดีจริงๆที่ตอนนั้นตัดสินใจสู้ต่อ

 

“จริงสิ เหมือนองค์จักรพรรดิอยากจะให้เจ้าเข้าไปพบอยู่เหมือนกัน หลังจากนี้ก็แวะไปหาท่านสักหน่อยสิ”ได้ยินที่อดีตรองหัวหน้าพูดไป๋จูเหวินก็พยักหน้าน้อยๆเป็นการบอกว่าเข้าใจแล้ว เพราะมันก็จะพาไป่หลินไปพบองค์จักรพรรดิเหมือนกัน ถึงอย่างไรท่านก็เป็นญาติคนหนึ่งของไป่หลิน แถมวันแต่งของมันท่านก็มาอวยพรเสียด้วย

 

“ท่านพ่อ วันนี้ข้าช่วยงานท่านพ่อได้เยอะแยะเลย” อยู่ๆไป่หลินก็วิ่งเข้ามาในห้องของอดีตรองหัวหน้ากลุ่ม พลางกระโดดขึ้นไปนั่งบนตักของไป๋จูเหวินทันที

 

“งั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไป่หลินอย่างเอ็นดู ช่วยไม่ได้นี่นา ก็ที่ขอบปากนางมีคราบน้ําตาลหน่อยๆพอบอกว่าได้ช่วยงานแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้

“วันนี้ข้าสอนไป่หลินใช้เงินในตลาดกับพานางไปชมหน่วย 1 มาเจ้าค่ะ” หงเยวรายงานพลางยิ้มบางๆเช่นกัน

 

“งั้นเหรอ ท่าทางเจ้าจะเหนื่อยน่าดู วันนี้พักผ่อนซะพรุ่งนี้พ่อจะพาเจ้าไปพบอาของพ่อที่วังหลวง”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางลูบหัวบุตรสาวอย่างเอ็นดู

 

“วังหลวง ทําไมท่านอาของท่านพ่อถึงอยู่ในวังหลวงละเจ้าคะ”ไป่หลินถามพลางเอียงคองงๆ

“เพราะท่านเป็นองค์จักรพรรดิยังไงล่ะ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ

“จักรพรรดิ! งั้นข้าก็เหมือนเป็นเจ้าหญิงเลยสิ”ไป่หลินว่าพลางทําตาโต แม้จะไม่เคยออกมาดูโลกภายนอกแต่ก็ไม่ได้ไม่ทราบเรื่องภายนอกเลยเหมือนไป๋จูเหวิน เพราะไป่หลินยังมีตําราจากโลกภายนอกให้อ่าน รวมทั้งมีเหม่ยหลินคอยสอนอีกต่างหาก

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”ไป๋จูเหวินตอบอย่างยิ้มแย้ม เห็นท่าทางนางตื่นเต้นเช่นนี้ก็ดูน่ารักดี แต่อาจจะเพราะแบบนั้นก็ได้ทําให้ไป่หลินกลายเป็นคนที่ตื่นเต้นที่สุดในการเดินทางของเช้าวันถัดมาเลย

 

“โอ้ ไป๋จูเหวิน เจ้ามาแล้ว” ทันทีที่ไป๋จูเหวินเข้าไปที่ท้องพระโรงเพื่อเข้าเฝ้า อยู่ๆองค์จักรพรรดิก็ลุกพรวดจากบัลลังก์เข้ามาหาไป๋จูเหวินในทันที ตอนนี้มันไม่ได้เรียกไป๋จูเหวินว่าในอี้แล้วเพราะไป๋จูเหวินขอร้องให้เรียกด้วยชื่อนี้แทน

 

“ขอรับองค์จักรพรรดิ”ไป๋จูเหวินตอบรับด้วยท่าที่ประหลาดใจ ปกติท่านไม่เคยมาดหลุดแบบนี้กลางท้องพระโรงเลยไม่ใช่หรือ

 

“ไป๋จูเหวินโชคดีจริงๆที่เจ้ามาทัน ขอร้องล่ะเจ้าช่วยไปอาณาจักรโฮกับข้าหน่อยเถอะ”องค์จักรพรรดิว่าพลางกุมมือของไป๋จูเหวินเอาไว้ ปกติตําแหน่งจักรพรรดิไม่เคยต้องขอร้องอะไรใครอยู่แล้ว แต่คราวนี้มันถึงกับขอร้องออกมาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้มันเรื่องอะไรกัน?

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+