บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 457 วันรวมญาติ

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 457 วันรวมญาติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 457

วันรวมญาติ

“หลี่เย่ เจ้าร่ำเรียนวิชาแพทย์มาจากไหนงั้นหรือ”ไป๋หลินถามขณะนั่งอยู่บนหลังของไป๋ไป่

“ทะ ที่โรงเรียนการแพทย์ที่สองเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบด้วยท่าทีลุกลนไม่น้อย นางเป็นเด็กสาวที่พึ่งเกิดมาได้ 19 ปี ไม่แปลกที่นางจะไม่รู้จักเจ้าหญิงไป๋หลิน เพราะตอนที่นางเกิดผู้ครองอาณาจักรไป๋ก็คือจักรพรรดินีหลิวเมิ่งไปแล้ว แม้จะมีตำนานของจักรพรรดิไป๋พระองค์ก่อนให้ได้ฟังบ้าง แต่เรื่องของไป๋หลินกลับมีไม้มาก แถมแต่ละเรื่องยังมีแต่เรื่องความงามเสียมากกว่า หลี่เย่เลยไม่ได้สนใจและตั้งใจศึกษาวิชาแพทย์ของตนเท่านั้น ทำให้นางไม่ทราบวว่าพี่สาวตรงหน้านางนั้นคือใครกันแน่ นางรู้แต่ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจไม่น้อยเลย แถมยังมีพลังสูงมากจนน่ากลัวเลยทีเดียว

“ที่สองงั้นหรือ…..”ไป๋หลินขมวดคิ้ว ตอนนายยังอยู่ที่อาณาจักรไป๋ก็เริ่มมีการสร้างโรงเรียนแล้ว แต่ตอนนี้นางไม่ทราบเหมือนกันว่ามีโรงเรียนทางด้านการแพทย์กี่โรงเรียนและโรงเรียนไหนดีหรือไม่ดี

“ข้าขอดูตำราของเจ้าได้หรือไม่”ไป๋หลินถามพลางมองไปทางหลี่เย่ แน่นอนว่านางไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างไร ตอนนี้สำหรับหลี่เย่แล้วไป๋หลินนอกจากจะมีฝีมือยอดเยี่ยมแล้วยังน่านับถืออย่างมากอีกด้วย

“นี่เจ้าค่ะ”หลี่เย่นำตำราที่สร้างจากกระดาษสีขาวที่ดูดีกว่ากระดาษสมัยเก่าหลายเท่า แถมตัวหนังสือยังชัดเจนอีกต่างหาก แต่เทคโนโลยีการพิมพ์หนังสือนั้นแพร่ไปจนทั่วแล้วไป๋หลินเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่

พรึบ….พรึบ.ๆๆๆ เพียงครู่เดียวราวกับไป๋หลินนั่งเปิดหน้ากระดาษเล่นนางก็จดจำเนื้อหาภายในตำราที่หลี่เย่ท่องทั้งวันทั้งคืนได้จนหมด ก่อนจะหลับตาลงช้าๆเปรียบเทียบเนื้อหาในตำรากับความรู้ของตน

“ยาสูตรนี้ทำไมถึงเปลี่ยนวัตถุดิบกัน”ไป๋หลินถามพลางชี้ไปที่หน้ากระดาษหน้าหนึ่ง

“อ๋อ เพราะช่วง 20 ปีมานี้ดอกกระดิ่งม่วงหาได้ยาก อาจารย์ท่านหนึ่งก็เลยทดลองหาตัวยาอื่นมาทดแทนเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำทำให้ไป๋หลินพอใจไม่น้อย

“อืมเรื่องนี้ไม่เป็นไร ถึงจะเปลี่ยนวัตถุดิบแต่ก็ได้ผลไม่ต่างกันมาก แต่ตรงนี้นี่สิ”ไป๋หลินว่าพลางชี้ไปยังตำราส่วนหลังที่เป็นตำราการรักษาชั้นสูง ตำราที่ท่านพ่อของนางทิ้งเอาไว้ให้มีสูตรยาพิสดารนับร้อยชนิด แม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็มีมากกว่าในตำราที่หลี่เย่เอาออกมาแน่ๆ

“ทำไมหรือเจ้าคะ”หลี่เย่ถามพลางมองในหน้าตำราของตน พวกยาชั้นสูงที่ใช้สมุนไพรล้ำค่าทำนั้นมีเพียง 12 สูตรเท่านั้น

“ข้าจำได้ว่าตอนเปิดโรงเรียนใหม่ๆท่านพ่อทิ้งสูตรเอาไว้ทั้งสิ้น 132 ชนิด ทำไมถึงเหลือแค่นี้”ไป๋หลินถามพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบออกมาตามตรง เรื่องที่สูตรยามีมากกว่านี้นางก็พึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

“อืม…ท่าทางก่อนกลับข้าคงต้องไปจัดการเสียหน่อย”ไป๋หลินถอนหายใจออกมาพลางลองเปรียบเทียบตำราที่พ่อของนางทำขึ้นกับตำราในยุคใหม่ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่สูตรยาชั้นสูง แต่ยาระดับกลางและระดับต่ำก็โดนเอาสูตรต่างๆออกไปหลายรายการทีเดียว ไม่ทราบเพราะหาวัตถุดิบไม่ได้หรือมีใครจงใจเก็บความรู้เอาไว้กันแน่

“งั้นระหว่างเดินทางเจ้าเอานี่ไปอ่านก็แล้วกัน”ไป๋หลินว่าพลางนำตำราแพทย์ที่ตนเก็บไว้ออกมา เล่มนี้เป็นเล่มต้นฉบับที่นางขอมาจากท่านพ่อ เรียกได้ว่าเป็นเล่มที่เขียนขึ้นด้วยลายมือของไป๋จูเหวินเลยทีเดียว หากหลี่เย่ทราบว่าไป๋จูเหวินคือองค์จักรพรรดิไป๋ละก็นางต้องไม่กล้าแม้แต่จะแตะตำราเล่มนี้อย่างแน่นอน

“ขะ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”หลี่เย่กะพริบตาปริบๆพลางเปิดตำราออกอ่านช้าๆ ดูเหมือนเรื่องที่ไป๋หลินพูดจะเป็นเรื่องจริงเสียด้วย ในตำราเล่มนี้มีวิชารักษาและสูตรยาที่หายไปจากตำราเล่มปัจจุบันด้วย ทำให้นางได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย

“………….หญ้าดาว…….ต้นกาบขาว……..”ทันทีที่เริ่มอ่านตำรา เหมือนกับว่าหลี่เย่จะเข้าไปอยู่ในห้วงของตนเองไม่มีผิด ยิ่งอ่านนางก็ยิ่งเหมือนจมอยู่กับตำรา เพราะความรู้เหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ แถมมันยังน่าสนใจและน่าตกใจมากอีกด้วย น่าเสียดายที่นางไม่มีความสามารถเหมือนคนตระกูลไป๋ ทำให้นางต้องท่องอยู่นานสองนานทีเดียวกว่าจะจำสูตรยาใหม่ๆได้สักสูตร

“หลี่เย่”ไป๋หลินเรียกไปทางหลี่เย่เมื่อเห็นว่าพวกตนใกล้ถึงเขตอสูรผาไร้ก้นแล้ว

“………”ไร้เสียงตอบรับ ยามนี้หลี่เย่จมกับตำราตรงหน้าจนแว่นตาของนางแทบจะติดหน้ากระดาษอยู่แล้ว

“หลี่เย่”

“จะ เจ้าคะ”เมื่อไป๋หลินเพิ่มเสียงขึ้นหลี่เย่ก็เหมือนพึ่งจะได้สติ ไม่นึกเลยว่าเอาตำราให้นางดูเช่นนี้จะทำให้นางจดจ่อจนลืมไปว่าตนเองกำลังจะเดินทางไปยังเขตอสูรผาไร้ก้นที่นางต้องการอยู่รอมร่อ

“เราจะถึงเขตอสูรผาไร้ก้นแล้ว พอเจ้าไปถึงที่นั่นห้ามออกห่างพวกเรานะ”ไป๋หลินพูดพลางจ้องมองไปที่หลี่เย่อย่างจริงจัง ตัวไป๋หลินและไป๋ไป่รวมถึงชิงชิวเองเคยเข้าออกเขตอสูรผาไร้ก้นกันเป็นว่าเล่น ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจูล่งมันมีความสามารถดึงดูดเหล่าอสูรอยู่แล้ว และถึงจะมีอสูรที่ไหนหน้ามืดตามัวไปโจมตีมันเข้าละก็ ไป๋หลินก็เชื่อเหลือเกินว่าน้องชายผู้นี้รับมือได้ แต่หากเป็นหลี่เย่ละก็ นางอาจจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้บุกรุกก็ได้ แม้พลังของนางจะสูงพอสมควร แต่ก็ไม่ได้มากพอจะรับมือเหล่าอสูรในเขตอสูรผาไร้ก้นหรอก

“จะ เจ้าค่ะ”หลี่เย่พยักหน้าช้าๆด้วยท่าทีเกร็งๆ สำหรับนางแล้วเขตอสูรผาไร้ก้นเป็นสถานที่ต้องห้าม นางไม่อาจนึกได้เลยว่าจะเป็นสถานที่ที่โหดร้ายขนาดไหน

วูบ….ร่างของไป๋ไป่ทะยานลงไปจากหน้าผาของผาไร้ก้นอย่างรวดเร็ว นางบินทะลุผ่านป่าเมฆาอัสนีไปอย่างรวดเร็วเพื่อมุ่งไปยังเมืองจำลองที่อยู่ใจกลางเขตอสูรผาไร้ก้น

เปรี้ยง!!! อยู่ๆสายฟ้าสองสายก็พุ่งวาบเข้ามาด้านหน้าของไป๋ไป่เข้าอย่างจังทำเอาหลี่เย่สะดุ้งวาบ

คลืน… สายฟ้าทั้งสองสายยังไม่ทันเข้ามากระแทกร่างของไป๋ไป่ก็พลันเปลี่ยนรูปเป็นพยัคฆ์เมฆาอัสนีสองตนยืนอยู่ตรงหน้าไป๋ไป่พอดี สำหรับหลี่เย่ที่ไม่สามารถสัมผัสพลังอสูรได้นั้นนางได้แต่ตกตะลึงกับภาพพยัคฆ์สองตนที่ลอยอยู่เบื้องหน้าเสียจนตัวสั่น เสือตัวใหญ่เช่นนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนักแถมดูจากสายฟ้ารอบตัวแล้วพวกมันคงแข็งแกร่งมากแน่ๆ

เปรี้ยง!!! พยัคฆ์อัสนีเมฆาทั้งสองตนพุ่งฟาดลงมาบนหลังของไป๋ไป่ ทำเอาหลี่เย่หลับตาปี๋ด้วยความตกใจ

“พี่หลิน พี่มาจริงๆด้วย”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆกับหลี่เย่มาก ทำเอานางได้แต่ลืมตาขึ้นมาช้าๆ

“พี่หลิน ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน”เสียงชายหนุ่มอีกเสียงดังขึ้นเช่นกัน ก่อนที่หลี่เย่จะลืมตาขึ้นมามองว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้านั่นคือหญิงสาวและชายหนุ่มคู่หนึ่งกำลังแย่งแขนขวาแขนซ้ายของไป๋หลินไปกอดคนละข้าง แถมยังถูหน้าบนแขนของนางอีกต่างหาก

“เหลยหู่ อวิ๋นหู่ พวกเจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าจะกลับมา”ไป๋หลินถามพลางมองพยัคฆ์เมฆาอัสนีทั้งสองตน

“ก็ท่านพ่อบอก”อวิ๋นหู่ในร่างหญิงสาวตอบ

“ท่านพ่อของเจ้า….อย่าบอกนะว่า”ไป๋หลินรีบเปลี่ยนดวงตาตนเองเป็นสีม่วงทันที ทำให้นางมองเห็นได้จากระยะไกลว่าที่เมืองจำลองนั้นไม่ได้มีแค่พลังอสูรของพวกท่านราชินีมังกร แต่กลับมีพลังอสูรของพวกท่านน้าอยู่ด้วย

“ท่านพ่อบอกว่าพี่ต้องแวะมาแน่ๆก็เลยอยู่รอแนะ”เหลยหู๋ในร่างชายหนุ่มตอบพลางยิ้มกว้าง

“จะว่าไปพวกท่านน้าก็บอกว่าจะมานี่นา แต่ก็ไม่คิดว่าจะยกกันมาหมดแบบนี้”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา พอใช้ดวงตาสีม่วงแล้วก็มองเห็นว่าไม่ใช่แค่พวกท่านน้า แม้แต่ท่านพ่อและท่านแม่เองก็มาด้วยเช่นกัน

.

.

“ลูกมาช้านะ มีเรื่องอะไรงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามทันทีที่ไป๋หลินลงมาจากหลังของไป๋ไป่ ความเร็วของท่านน้าไก่ฟ้ากับไป๋ไป่ห่างกันไม่มาก แต่ไป๋หลินกลับมาถึงช้ากว่าไป๋จูเหวิน 4 วันแบบนี้หากไม่เกิดเรื่องกลางทางก็คง…..

“ขะ ข้าพาจูล่งไปเที่ยวเล่นมานิดหน่อย”ไป๋หลินยิ้มเจื่อนๆออกมาพลางหลบสายตาผู้เป็นพ่อช้าๆ

“พี่สาวพาเจ้าไปเที่ยวสนุกหรือเปล่า”เหม่ยหลินถามพลางเดินเข้าไปหาบุตรชาย

“สนุกขอรับ ข้าเจอเรื่องแปลกๆเยอะแยะเลย”จูล่งตอบพลางยิ้มกว้างด้วยท่าทีดีใจ

“……”แม้คนอื่นๆจะดูปกติกันมาก แต่หลี่เย่ที่ยืนอยู่ข้างหลังกลับไม่ทราบจะทำเช่นไรดี นางหรือคิดว่าเขตอสูรผาไร้กันจะเป็นเขตอสูรที่เต็มไปด้วยอสูรดุร้ายที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้เสียอีก แต่นี่อะไร พอเข้ามาแล้วราวกับเป็นวันรวมญาติไม่มีผิด ไม่ไช่แค่พ่อแม่ของพี่สาวไป๋หลิน ดูเหมือนอสูรที่เป็นพ่อแม่ของไป๋ไป่ที่ตนขี่หลังมาก็อยู่ที่นี่ รวมทั้งอสูรเป็นครอบครัวรอบๆอีกหลายสิบตน บรรยากาศมันดูอบอุ่นจนต่างจากเขตอสูรที่นางคิดเอาไว้คนละโลกเลย

“……”เพราะบรรยากาศตรงหน้ามันเหมือนวันรวมญาติเสียเหลือเกิน หลี่เย่ก็เลยเข้าไปแทรกไม่ได้เลย ทำให้นางถอยออกมาเล็กน้อยเพื่อหาอะไรทำ

กึก…หลี่เย่ชะงักเท้าไปทันทีเมื่อมองไปเห็นสมุนไพรหายากที่ขึ้นอยู่ข้างทาง สมุนไพรตัวนี้หายากมาก ทำไมถึงไม่มีใครเก็บกันทั้งๆที่ขึ้นอยู่ข้างทางตรงจุดที่เห็นได้ชัดเจนเช่นนี้

“….”เมื่อมองดีๆแล้วหลี่เย่ก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ ตามข้างทางนั้นมีสมุนไพรหายากหลากหลายชนิดเติบโตกันอย่างกับล้อกันเล่น ไม่ใช่ว่านางไม่เคยเข้าเขตอสูรมาก่อน แต่เขตอสูรที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้นางไม่เคยเห็นเลย สมแล้วที่เป็นเขตอสูรผาไร้ก้นที่ห้ามคนนอกเข้า

“นั่นมัน…”หลี่เย่เดินตามสมุนไพรมาช้าๆ ก่อนจะพบเข้ากับสมุนไพรหายากชนิดหนึ่ง นางยื่นมือไปหมายจับเด็ด แต่เหมือนจะพึ่งนึกออกว่าตนต้องขออนุญาตไป๋หลินเสียก่อนก็เลยหันหลังจะกลับไปถามไป๋หลินว่าขอเก็บสมุนไพรบางอย่างไปได้หรือไม่ เพียงแต่

“……..เอ”หลี่เย่มองไปรอบๆช้าๆ ทางนี้คือทางที่นางพึ่งเดินมาไม่ใช่หรือ? ทำไมเหมือนมันจะมึดๆกว่าเดิมนะ?

“เอ๋………”หลี่เย่กะพริบตาปริบๆมองต้นไม่รอบๆ จะว่าไปพันธุ์ไม้รอบๆก็ไม่เหมือนเดิมนี่นา

“นี่ข้า..”หลี่เย่ไม่ทราบจะร้องไห้หรือหัวเราะดี นี่นางกำลังหลงทางงั้นหรือ เป็นไปไม่ได้น่า……..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 457 วันรวมญาติ

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 457 วันรวมญาติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 457

วันรวมญาติ

“หลี่เย่ เจ้าร่ำเรียนวิชาแพทย์มาจากไหนงั้นหรือ”ไป๋หลินถามขณะนั่งอยู่บนหลังของไป๋ไป่

“ทะ ที่โรงเรียนการแพทย์ที่สองเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบด้วยท่าทีลุกลนไม่น้อย นางเป็นเด็กสาวที่พึ่งเกิดมาได้ 19 ปี ไม่แปลกที่นางจะไม่รู้จักเจ้าหญิงไป๋หลิน เพราะตอนที่นางเกิดผู้ครองอาณาจักรไป๋ก็คือจักรพรรดินีหลิวเมิ่งไปแล้ว แม้จะมีตำนานของจักรพรรดิไป๋พระองค์ก่อนให้ได้ฟังบ้าง แต่เรื่องของไป๋หลินกลับมีไม้มาก แถมแต่ละเรื่องยังมีแต่เรื่องความงามเสียมากกว่า หลี่เย่เลยไม่ได้สนใจและตั้งใจศึกษาวิชาแพทย์ของตนเท่านั้น ทำให้นางไม่ทราบวว่าพี่สาวตรงหน้านางนั้นคือใครกันแน่ นางรู้แต่ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้มีอำนาจไม่น้อยเลย แถมยังมีพลังสูงมากจนน่ากลัวเลยทีเดียว

“ที่สองงั้นหรือ…..”ไป๋หลินขมวดคิ้ว ตอนนายยังอยู่ที่อาณาจักรไป๋ก็เริ่มมีการสร้างโรงเรียนแล้ว แต่ตอนนี้นางไม่ทราบเหมือนกันว่ามีโรงเรียนทางด้านการแพทย์กี่โรงเรียนและโรงเรียนไหนดีหรือไม่ดี

“ข้าขอดูตำราของเจ้าได้หรือไม่”ไป๋หลินถามพลางมองไปทางหลี่เย่ แน่นอนว่านางไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างไร ตอนนี้สำหรับหลี่เย่แล้วไป๋หลินนอกจากจะมีฝีมือยอดเยี่ยมแล้วยังน่านับถืออย่างมากอีกด้วย

“นี่เจ้าค่ะ”หลี่เย่นำตำราที่สร้างจากกระดาษสีขาวที่ดูดีกว่ากระดาษสมัยเก่าหลายเท่า แถมตัวหนังสือยังชัดเจนอีกต่างหาก แต่เทคโนโลยีการพิมพ์หนังสือนั้นแพร่ไปจนทั่วแล้วไป๋หลินเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่

พรึบ….พรึบ.ๆๆๆ เพียงครู่เดียวราวกับไป๋หลินนั่งเปิดหน้ากระดาษเล่นนางก็จดจำเนื้อหาภายในตำราที่หลี่เย่ท่องทั้งวันทั้งคืนได้จนหมด ก่อนจะหลับตาลงช้าๆเปรียบเทียบเนื้อหาในตำรากับความรู้ของตน

“ยาสูตรนี้ทำไมถึงเปลี่ยนวัตถุดิบกัน”ไป๋หลินถามพลางชี้ไปที่หน้ากระดาษหน้าหนึ่ง

“อ๋อ เพราะช่วง 20 ปีมานี้ดอกกระดิ่งม่วงหาได้ยาก อาจารย์ท่านหนึ่งก็เลยทดลองหาตัวยาอื่นมาทดแทนเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำทำให้ไป๋หลินพอใจไม่น้อย

“อืมเรื่องนี้ไม่เป็นไร ถึงจะเปลี่ยนวัตถุดิบแต่ก็ได้ผลไม่ต่างกันมาก แต่ตรงนี้นี่สิ”ไป๋หลินว่าพลางชี้ไปยังตำราส่วนหลังที่เป็นตำราการรักษาชั้นสูง ตำราที่ท่านพ่อของนางทิ้งเอาไว้ให้มีสูตรยาพิสดารนับร้อยชนิด แม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็มีมากกว่าในตำราที่หลี่เย่เอาออกมาแน่ๆ

“ทำไมหรือเจ้าคะ”หลี่เย่ถามพลางมองในหน้าตำราของตน พวกยาชั้นสูงที่ใช้สมุนไพรล้ำค่าทำนั้นมีเพียง 12 สูตรเท่านั้น

“ข้าจำได้ว่าตอนเปิดโรงเรียนใหม่ๆท่านพ่อทิ้งสูตรเอาไว้ทั้งสิ้น 132 ชนิด ทำไมถึงเหลือแค่นี้”ไป๋หลินถามพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบออกมาตามตรง เรื่องที่สูตรยามีมากกว่านี้นางก็พึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

“อืม…ท่าทางก่อนกลับข้าคงต้องไปจัดการเสียหน่อย”ไป๋หลินถอนหายใจออกมาพลางลองเปรียบเทียบตำราที่พ่อของนางทำขึ้นกับตำราในยุคใหม่ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่สูตรยาชั้นสูง แต่ยาระดับกลางและระดับต่ำก็โดนเอาสูตรต่างๆออกไปหลายรายการทีเดียว ไม่ทราบเพราะหาวัตถุดิบไม่ได้หรือมีใครจงใจเก็บความรู้เอาไว้กันแน่

“งั้นระหว่างเดินทางเจ้าเอานี่ไปอ่านก็แล้วกัน”ไป๋หลินว่าพลางนำตำราแพทย์ที่ตนเก็บไว้ออกมา เล่มนี้เป็นเล่มต้นฉบับที่นางขอมาจากท่านพ่อ เรียกได้ว่าเป็นเล่มที่เขียนขึ้นด้วยลายมือของไป๋จูเหวินเลยทีเดียว หากหลี่เย่ทราบว่าไป๋จูเหวินคือองค์จักรพรรดิไป๋ละก็นางต้องไม่กล้าแม้แต่จะแตะตำราเล่มนี้อย่างแน่นอน

“ขะ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”หลี่เย่กะพริบตาปริบๆพลางเปิดตำราออกอ่านช้าๆ ดูเหมือนเรื่องที่ไป๋หลินพูดจะเป็นเรื่องจริงเสียด้วย ในตำราเล่มนี้มีวิชารักษาและสูตรยาที่หายไปจากตำราเล่มปัจจุบันด้วย ทำให้นางได้เปิดหูเปิดตาไม่น้อย

“………….หญ้าดาว…….ต้นกาบขาว……..”ทันทีที่เริ่มอ่านตำรา เหมือนกับว่าหลี่เย่จะเข้าไปอยู่ในห้วงของตนเองไม่มีผิด ยิ่งอ่านนางก็ยิ่งเหมือนจมอยู่กับตำรา เพราะความรู้เหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ แถมมันยังน่าสนใจและน่าตกใจมากอีกด้วย น่าเสียดายที่นางไม่มีความสามารถเหมือนคนตระกูลไป๋ ทำให้นางต้องท่องอยู่นานสองนานทีเดียวกว่าจะจำสูตรยาใหม่ๆได้สักสูตร

“หลี่เย่”ไป๋หลินเรียกไปทางหลี่เย่เมื่อเห็นว่าพวกตนใกล้ถึงเขตอสูรผาไร้ก้นแล้ว

“………”ไร้เสียงตอบรับ ยามนี้หลี่เย่จมกับตำราตรงหน้าจนแว่นตาของนางแทบจะติดหน้ากระดาษอยู่แล้ว

“หลี่เย่”

“จะ เจ้าคะ”เมื่อไป๋หลินเพิ่มเสียงขึ้นหลี่เย่ก็เหมือนพึ่งจะได้สติ ไม่นึกเลยว่าเอาตำราให้นางดูเช่นนี้จะทำให้นางจดจ่อจนลืมไปว่าตนเองกำลังจะเดินทางไปยังเขตอสูรผาไร้ก้นที่นางต้องการอยู่รอมร่อ

“เราจะถึงเขตอสูรผาไร้ก้นแล้ว พอเจ้าไปถึงที่นั่นห้ามออกห่างพวกเรานะ”ไป๋หลินพูดพลางจ้องมองไปที่หลี่เย่อย่างจริงจัง ตัวไป๋หลินและไป๋ไป่รวมถึงชิงชิวเองเคยเข้าออกเขตอสูรผาไร้ก้นกันเป็นว่าเล่น ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจูล่งมันมีความสามารถดึงดูดเหล่าอสูรอยู่แล้ว และถึงจะมีอสูรที่ไหนหน้ามืดตามัวไปโจมตีมันเข้าละก็ ไป๋หลินก็เชื่อเหลือเกินว่าน้องชายผู้นี้รับมือได้ แต่หากเป็นหลี่เย่ละก็ นางอาจจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้บุกรุกก็ได้ แม้พลังของนางจะสูงพอสมควร แต่ก็ไม่ได้มากพอจะรับมือเหล่าอสูรในเขตอสูรผาไร้ก้นหรอก

“จะ เจ้าค่ะ”หลี่เย่พยักหน้าช้าๆด้วยท่าทีเกร็งๆ สำหรับนางแล้วเขตอสูรผาไร้ก้นเป็นสถานที่ต้องห้าม นางไม่อาจนึกได้เลยว่าจะเป็นสถานที่ที่โหดร้ายขนาดไหน

วูบ….ร่างของไป๋ไป่ทะยานลงไปจากหน้าผาของผาไร้ก้นอย่างรวดเร็ว นางบินทะลุผ่านป่าเมฆาอัสนีไปอย่างรวดเร็วเพื่อมุ่งไปยังเมืองจำลองที่อยู่ใจกลางเขตอสูรผาไร้ก้น

เปรี้ยง!!! อยู่ๆสายฟ้าสองสายก็พุ่งวาบเข้ามาด้านหน้าของไป๋ไป่เข้าอย่างจังทำเอาหลี่เย่สะดุ้งวาบ

คลืน… สายฟ้าทั้งสองสายยังไม่ทันเข้ามากระแทกร่างของไป๋ไป่ก็พลันเปลี่ยนรูปเป็นพยัคฆ์เมฆาอัสนีสองตนยืนอยู่ตรงหน้าไป๋ไป่พอดี สำหรับหลี่เย่ที่ไม่สามารถสัมผัสพลังอสูรได้นั้นนางได้แต่ตกตะลึงกับภาพพยัคฆ์สองตนที่ลอยอยู่เบื้องหน้าเสียจนตัวสั่น เสือตัวใหญ่เช่นนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนักแถมดูจากสายฟ้ารอบตัวแล้วพวกมันคงแข็งแกร่งมากแน่ๆ

เปรี้ยง!!! พยัคฆ์อัสนีเมฆาทั้งสองตนพุ่งฟาดลงมาบนหลังของไป๋ไป่ ทำเอาหลี่เย่หลับตาปี๋ด้วยความตกใจ

“พี่หลิน พี่มาจริงๆด้วย”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆกับหลี่เย่มาก ทำเอานางได้แต่ลืมตาขึ้นมาช้าๆ

“พี่หลิน ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน”เสียงชายหนุ่มอีกเสียงดังขึ้นเช่นกัน ก่อนที่หลี่เย่จะลืมตาขึ้นมามองว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้านั่นคือหญิงสาวและชายหนุ่มคู่หนึ่งกำลังแย่งแขนขวาแขนซ้ายของไป๋หลินไปกอดคนละข้าง แถมยังถูหน้าบนแขนของนางอีกต่างหาก

“เหลยหู่ อวิ๋นหู่ พวกเจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าจะกลับมา”ไป๋หลินถามพลางมองพยัคฆ์เมฆาอัสนีทั้งสองตน

“ก็ท่านพ่อบอก”อวิ๋นหู่ในร่างหญิงสาวตอบ

“ท่านพ่อของเจ้า….อย่าบอกนะว่า”ไป๋หลินรีบเปลี่ยนดวงตาตนเองเป็นสีม่วงทันที ทำให้นางมองเห็นได้จากระยะไกลว่าที่เมืองจำลองนั้นไม่ได้มีแค่พลังอสูรของพวกท่านราชินีมังกร แต่กลับมีพลังอสูรของพวกท่านน้าอยู่ด้วย

“ท่านพ่อบอกว่าพี่ต้องแวะมาแน่ๆก็เลยอยู่รอแนะ”เหลยหู๋ในร่างชายหนุ่มตอบพลางยิ้มกว้าง

“จะว่าไปพวกท่านน้าก็บอกว่าจะมานี่นา แต่ก็ไม่คิดว่าจะยกกันมาหมดแบบนี้”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา พอใช้ดวงตาสีม่วงแล้วก็มองเห็นว่าไม่ใช่แค่พวกท่านน้า แม้แต่ท่านพ่อและท่านแม่เองก็มาด้วยเช่นกัน

.

.

“ลูกมาช้านะ มีเรื่องอะไรงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามทันทีที่ไป๋หลินลงมาจากหลังของไป๋ไป่ ความเร็วของท่านน้าไก่ฟ้ากับไป๋ไป่ห่างกันไม่มาก แต่ไป๋หลินกลับมาถึงช้ากว่าไป๋จูเหวิน 4 วันแบบนี้หากไม่เกิดเรื่องกลางทางก็คง…..

“ขะ ข้าพาจูล่งไปเที่ยวเล่นมานิดหน่อย”ไป๋หลินยิ้มเจื่อนๆออกมาพลางหลบสายตาผู้เป็นพ่อช้าๆ

“พี่สาวพาเจ้าไปเที่ยวสนุกหรือเปล่า”เหม่ยหลินถามพลางเดินเข้าไปหาบุตรชาย

“สนุกขอรับ ข้าเจอเรื่องแปลกๆเยอะแยะเลย”จูล่งตอบพลางยิ้มกว้างด้วยท่าทีดีใจ

“……”แม้คนอื่นๆจะดูปกติกันมาก แต่หลี่เย่ที่ยืนอยู่ข้างหลังกลับไม่ทราบจะทำเช่นไรดี นางหรือคิดว่าเขตอสูรผาไร้กันจะเป็นเขตอสูรที่เต็มไปด้วยอสูรดุร้ายที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้เสียอีก แต่นี่อะไร พอเข้ามาแล้วราวกับเป็นวันรวมญาติไม่มีผิด ไม่ไช่แค่พ่อแม่ของพี่สาวไป๋หลิน ดูเหมือนอสูรที่เป็นพ่อแม่ของไป๋ไป่ที่ตนขี่หลังมาก็อยู่ที่นี่ รวมทั้งอสูรเป็นครอบครัวรอบๆอีกหลายสิบตน บรรยากาศมันดูอบอุ่นจนต่างจากเขตอสูรที่นางคิดเอาไว้คนละโลกเลย

“……”เพราะบรรยากาศตรงหน้ามันเหมือนวันรวมญาติเสียเหลือเกิน หลี่เย่ก็เลยเข้าไปแทรกไม่ได้เลย ทำให้นางถอยออกมาเล็กน้อยเพื่อหาอะไรทำ

กึก…หลี่เย่ชะงักเท้าไปทันทีเมื่อมองไปเห็นสมุนไพรหายากที่ขึ้นอยู่ข้างทาง สมุนไพรตัวนี้หายากมาก ทำไมถึงไม่มีใครเก็บกันทั้งๆที่ขึ้นอยู่ข้างทางตรงจุดที่เห็นได้ชัดเจนเช่นนี้

“….”เมื่อมองดีๆแล้วหลี่เย่ก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ ตามข้างทางนั้นมีสมุนไพรหายากหลากหลายชนิดเติบโตกันอย่างกับล้อกันเล่น ไม่ใช่ว่านางไม่เคยเข้าเขตอสูรมาก่อน แต่เขตอสูรที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้นางไม่เคยเห็นเลย สมแล้วที่เป็นเขตอสูรผาไร้ก้นที่ห้ามคนนอกเข้า

“นั่นมัน…”หลี่เย่เดินตามสมุนไพรมาช้าๆ ก่อนจะพบเข้ากับสมุนไพรหายากชนิดหนึ่ง นางยื่นมือไปหมายจับเด็ด แต่เหมือนจะพึ่งนึกออกว่าตนต้องขออนุญาตไป๋หลินเสียก่อนก็เลยหันหลังจะกลับไปถามไป๋หลินว่าขอเก็บสมุนไพรบางอย่างไปได้หรือไม่ เพียงแต่

“……..เอ”หลี่เย่มองไปรอบๆช้าๆ ทางนี้คือทางที่นางพึ่งเดินมาไม่ใช่หรือ? ทำไมเหมือนมันจะมึดๆกว่าเดิมนะ?

“เอ๋………”หลี่เย่กะพริบตาปริบๆมองต้นไม่รอบๆ จะว่าไปพันธุ์ไม้รอบๆก็ไม่เหมือนเดิมนี่นา

“นี่ข้า..”หลี่เย่ไม่ทราบจะร้องไห้หรือหัวเราะดี นี่นางกำลังหลงทางงั้นหรือ เป็นไปไม่ได้น่า……..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+