บุตรอสูรบรรพกาล 493 วิชาที่ยอดเยี่ยม

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter 493 วิชาที่ยอดเยี่ยม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 493

วิชาที่ยอดเยี่ยม

“นายน้อยจูล่ง ท่านไม่โกรธบ้างหรือขอรับ”หล่อเจียงถามพลางมองไปทางจูล่งที่กำลังนั่งกินอาหารด้วยท่าทีสบายๆไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เลย

“มีอะไรที่ข้าต้องโกรธด้วยงั้นหรือขอรับ”จูล่งถามพลางเอียงคอสงสัย ทั้งๆที่สาวๆต่างมีน้ำโหเพราะคำพูดของเสินคงแท้ๆ แต่จูล่งกลับไม่ทราบเสียอย่างนั้นว่ามันต้องโกรธตรงไหน

“นั่นเพราะมันหาว่าท่านเป็น…..”หล่อเจียงกำลังจะอธิบาย แต่ยังไม่ทันพูดอะไรไปมากกว่านี้ต้าหวานก็ยื่นมือมาห้ามเสียก่อน พวกนางเองก็ลืมไปเลยว่าจูล่งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆมาตั้งแต่เกิด คำว่าลูกเมียน้อยอาจจะเป็นคำที่ไม่เคยได้ยินก็เป็นได้

“คราวนี้ถือว่าเจ้าพวกนั้นโชคดีจริงๆ”หลี่เย่ส่ายหน้าน้อยๆออกมา พอเห็นท่าทีงงๆของจูล่งความโกรธที่พวกนางมีกันก่อนหน้านี้เหมือนหายวับไปทันทีเลย

“ว่าแต่ เจ้าสองคนนั้นเป็นยอดฝีมือรุ่นใหม่อันดับ 1 กับ 2 สินะ”เส้าเทียนถามด้วยท่าทีสนใจ มันเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าพวกนั้นด่าอะไร แต่มันได้ยินที่หล่อเจียงพูดอย่างชัดเจน พวกมันทั้งสองเป็นอันดับ 1 และ 2 ของตารางยอดฝีมือรุ่นใหม่ไม่ผิดแน่

“ใช่ เสินคงเป็นอันดับ 2 ส่วน จินหมิง เป็นอันดับ 1”หล่อเจียงตอบออกมาด้วยท่าทีไม่ค่อยพอใจนัก หล่อเจียงนั้นฝึกฝนในสำนักเล็กๆ มีพรสวรรค์อย่างมากทำให้ติดอันดับ 3 ได้ด้วยกำลังของตนเอง แต่เมื่อเจอกับเสินคงและจินหมิงมันกลับไม่สามารถสู้ได้เพราะทั้งสองต่างอยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 กันแล้ว

“เจ้าพวกนั้นท่าทางแข็งแกร่งน่าดู หลังจากนี้ข้าจะต้องเอาชนะพวกมันให้ได้”เส้าเทียนยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายๆ สำหรับมันแล้วจะหล่อเจียง เสินคง หรือ จินหมิงก็เหมือนกันทั้งนั้น นั่นคือเป้าหมายที่มันต้องเอาชนะนั่นเอง

“ไม่ไหวหรอก เจ้าพวกนั้นมีทั้งสมุนไพรช่วยฝึกฝน แล้วก็มียอดวิชาอยู่กับตัวอีกต่างหาก”หล่อเจียงก้มหน้าลงช้าๆด้วยความไม่มั่นใจ หล่อเจียงแม้มีพรสวรรค์แต่ไร้วาสนาไปหน่อย ไม่มีกำลังทรัพย์พอจะหาสมุนไพรมาช่วยในการฝึกฝน ไม่มีดวงได้พบยอดวิชาที่หายาก ลำพังความสามารถของมันขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ได้นั้นนับว่าเต็มที่แล้ว ว่ากันว่าที่เสินคงและจินหมิงมีพลังระดับเทียนเซียนขั้น 10 ตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นเพราะพ่อของเสินคงใช้ทั้งเงินและอำนาจหาสมุนไพรและยาเสริมพลังให้กับพวกมันทั้งสองตั้งแต่เด็ก ทำให้เสินคงที่เป็นนายน้อยรวมกับจินหมิงที่เป็นผู้ติดตามแข็งแกร่งกันมากถึงขนาดสามารถรับตำแหน่งของพ่อได้อย่างไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ข้าเองก็มียอดวิชาเช่นกัน ขอแค่ข้าเพิ่มระดับพลังวิญญาณขึ้นไปอีกได้ข้าต้องสู้สองคนนั้นได้แน่ๆ”เส้าเทียนว่าพลางยิ้มกว้างออกมา เป็นอย่างที่มันพูดจริงๆเส้าเทียนมีวิชาคุ้มกายที่แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยพบในอาณาจักรไป๋เสียด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าอีกก้าวเดียวก็จะเอาชนะหล่อเจียงได้แล้ว เพียงแต่ระดับพลังของเส้าเทียนยังต่ำไปบ้างเท่านั้นเอง

.

.

“อารมณ์เสียชะมัด”ทางด้านเสินคงที่พึ่งเดินออกมาจากร้านอาหารพลันบ่นกับพวกพ้องของตนทันที แม้ทางร้านจะยกโต๊ะที่พวกจูล่งนั่งก่อนหน้านี้ให้พวกตนใช้ แต่หากรับก็เหมือนเก็บเศษเนื้อที่คนอื่นไม่ต้องการชัดๆ เสินคงก็เลยโวยวายกับเจ้าของร้านไป แต่มันเหมือนจะรู้จักกับพ่อของมันจริงๆก็เลยทำอะไรมากไม่ได้

“เจ้าพวกนั้นมันอะไรกัน ก็แค่บังเอิญเป็นผู้มีพระคุณของเถ้าแก่แค่นั้นล่ะ”หญิงสาวคนหนึ่งพูดด้วยท่าทีไม่พอใจ พวกนางที่มากับเสินคงต่างดีอกดีใจที่จะได้เข้าร้านดังทั้งที แต่กลับต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ทำเอาโมโหไปหมด

“ให้ข้าจัดการให้เอาไหม”จินหมิงถามพลางมองไปทางเสินคงที่ยังดูอารมณ์เสียอย่างมาก มันโตมากับเสินคงราวกับเป็นพี่ชาย ย่อมเข้าใจดีกว่าเสินคงอยากทำอะไร

“ดูเหมือนผู้มีพระคุณของเถ้าแก่จะมีแค่หมอคนนั้นเพียงคนเดียว ถ้าไม่ยุ่งกับนางเถ้าแก่ก็คงทำอะไรไม่ได้”เสินคงว่าพลางกำหมัดแน่น

“งั้นพวกเราจับเจ้าขี้เหร่หล่อเจียงมคุยกันดีหรือไม่”จินหมิงถามพลางยิ้มออกมา หล่อเจียงเป็นคนที่เคยเจอพวกมันเล่นงานมาแล้ว เจ้านั่นมันขี้อิจฉาแถมยังยั่วง่าย ปั่นหัวมันไม่ใช่เรื่องยากเลย

“ไม่…พามาทั้งกลุ่มนั่นละ เหลือไว้แค่หมอคนนั้นก็พอ”เสินคงตอบพลางจ้องมองขึ้นไปบนชั้น 2 ของร้าน จะว่าไปสาวๆในกลุ่มของพวกมันก็ดูไม่เลวนัก จับมาเล่นสนุกเสียหน่อยคงพอจะทำให้มันหายอารมณ์เสียได้บ้างโดยเฉพาะผู้หญิงที่ปาไม้จิ้มฟันใส่มัน นางคนนั้นท่าทางพยศไม่น้อย หากเอามาสั่งสอนเสียหน่อยก็คงสะใจมันมากทีเดียว

.

.

“ครั้งหน้าหากท่านหมอมาอีกบอกให้เด็กๆไปบอกข้าได้เลยนะขอรับ”หลังจากพวกจูล่งกินอาหารจนเสร็จ เจ้าของร้านก็ออกมาส่งด้วยตนเองเลยทีเดียว แถมยังกำชับอีกด้วยว่าหากหลี่เย่มาอีกให้บอกมันได้ทันที

“ขอบคุณมากเจ้าค่ะเถ้าแก่ หากภรรยาท่านอาการไม่ดีก็สามารถเรียกข้าได้เสมอเช่นกันเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบพลางยิ้มออกมา หลังจากนึกอยู่พักใหญ่ในที่สุดนางก็จำได้เสียทีว่าเถ้าแก่ผู้นี้คือใคร

“เช่นนั้นเดินทางปลอดภัยนะขอรับ ข้าน้อยต้องไปต้อนรับลูกค้าต่อ”เจ้าของร้านว่าพลางขอตัวกลับไปทำงาน แน่นอนว่าหลี่เย่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร เท่านี้นางก็ได้รับการต้อนรับที่ยอดเยี่ยมพอแล้ว หลังจากล่ำลากันเสร็จเจ้าของร้านก็เข้าไปจัดการภายในร้านของตนเองส่วนพวกจูล่งนั้นก็พากันเดินกลับออกมาหมายจะไปหาที่พักในคืนนี้เอาในเมืองอีกที

“เมื่อครู่พวกเจ้าทำเอาไว้แสบดีนี่”พวกจูล่งเดินออกมาจากร้านยังไม่พ้นแสงไฟของร้านดี อยู่ๆกลุ่มของเสินคงก็ออกมาขวางเอาไว้เสียก่อน ทำเอาพวกสาวๆถอนหายใจออกมากันถ้วนหน้า พวกนางทราบอยู่แล้วว่าพวกมันต้องดักรออยู่หน้าร้าน โดนหักหน้ากลางร้านเช่นนั้นเสินคงไม่มียางยอมง่ายๆแน่ๆ

“ถึงเจ้าของร้านจะเกรงใจพวกเจ้า แต่ข้างนอกนี้ไม่มีใครช่วยพวกเจ้าได้หรอกนะ”เสินคงว่าพลางเอากระบี่ออกมาถือไว้ในมือ พริบตานั้นก็ปรากฏสายฟ้าแลบออกมาจากรอบข้างกระบี่ เหมือนเป็นการบอกว่าเสินคงเป็นผู้มีพลังธาตุสายฟ้านั่นเอง

“อึก…..”ภายในกลุ่มมีเพียงหล่อเจียงเท่านั้นที่มีท่าทีหวาดกลัว เจ้าบ้าเสินคงนั้นช่างเต็มไปด้วยโชคดีจริงๆ นอกจากจะเกิดเป็นลูกชายคนใหญ่คนโตแล้วยังมีพรสวรรค์ฝึกฝนวิชาแถมยังได้รับพลังธาตุหายากอย่างธาตุอัสนีอีกต่างหาก

“เจ้าหนูนี่คือนายน้อยของพวกเจ้าสินะ น่าเสียดายจริงๆสาวงามขนาดนี้กลับต้องมาติดตามนายน้อยไร้ความสามารถ”เสินคงว่าพลางชี้กระบี่ไปทางไป๋จูล่ง แม้จะทราบดีว่ากระบี่เล่มนั้นทำอะไรจูล่งไม่ได้ แต่พวกสาวๆก็มีท่าทีไม่พอใจออกมาทันที

“เมื่อครู่พวกเจ้าทำให้ข้าอารมณ์เสียมากทีเดียว บางทีถ้าตัดหูเจ้ามาสักข้างข้าคงอารมณ์ดีขึ้น”เสินคงว่าพลางเลื่อนกระบี่ไปที่ใบหน้าของจูล่ง หากกระบี่เล่มนั้นแตะผิวหนังของจูล่งละก็ วันนี้คุณชายเสินคงอาจจะได้โดนสำนักเทพจุติหมายหัวไปแล้วแน่ๆ เพียงแต่….

“เจ้าจะทำอะไร”เส้าเทียนที่อยู่ข้างๆจูล่งยื่นมือไปคว้ากระบี่เอาไว้ด้วยมือเปล่าก่อนจะจ้องมองไปทางเสินคงด้วยท่าทีไม่พอใจ ตัวมันไม่เข้าใจคำด่าของเสินคง แต่หากชี้กระบี่เข้าหาสหายของมันตัวเส้าเทียนก็ไม่ทนเหมือนกัน

เปรี้ยง!! เส้าเทียนยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อ จินหมิงที่อยู่ด้านหลังเสินคงก็พุ่งวาบเข้ามาหาเส้าเทียนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะต่อยใส่เส้าเทียนเสียเต็มแรง

“ใครบอกให้เจ้าเข้ามายุ่ง”จินหมิงว่าพลางต่อยซ้ำไปที่ใบหน้าของเส้าเทียนอีกครั้ง แต่พลังป้องกันของเส้าเทียนไม่ธรรมดาจริงๆ ต่อให้เป็นหมัดของระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ก็ไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย

“ไม่ให้ข้ายุ่งได้อย่างไร น้องจูล่งเป็นสหายของข้า หากพวกเจ้าคิดจะทำร้ายข้าก็ไม่ยอม”เส้าเทียนกัดฟันกรอดพลางรับหมัดของจินหมิงอีกครั้ง แต่จินหมิงเองก็สมกับเป็นอันดับ 1 แห่งตารางอันดับยอดฝีมือรุ่นใหม่ หมัดของมันนั้นรุนแรงมาก หากเปลี่ยนจากเส้าเทียนเป็นหล่อเจียงละก็เพียงโดนหมัดแรกหล่อเจียงก็อาจจะสลบได้เลย

“ดี ในเมื่อเจ้าเสนอหน้าออกมาเองข้าก็จะจัดการเจ้าก่อน”เสินคงว่าพลางปล่อยพลังวิญญาณของตนออกมา ไม่ใช่แค่พลังวิญญาณระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 เท่านั้นแต่เสินคงยังเรียนวิชาเพื่อเร่งพลังวิญญาณคล้ายๆกับของเส้าเทียนอีกต่างหาก ยามมันเอาจริงต่อให้เป็นยอดฝีมือ 2 หรือ 3 คนก็เอาไม่อยู่

เปรี้ยง! กระบี่ของเสินคงแทงเข้าใส่ร่างของเส้าเทียนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เรียกได้ว่าสมกับเป็นผู้ใช้ธาตุอัสนีเป็นอย่างมาก แต่กระบี่ของเสินคงก็ไม่อาจแทงเข้าไปในร่างกายของเส้าเทียนได้เลย

“ร่างเจ้านี่แข็งดีจริงๆ”จินหมิงว่าพลางง้างหมัดไปข้างหลัง ก่อนจะต่อยอัดเข้าไปใส่ร่างของเส้าเทียนอีกครั้ง จินหมิงขึ้นชื่อเรื่องหมัดที่รุนแรงอยู่แล้ว ว่ากันว่าหมัดของจินหมิงเทียบเท่ากับวิชาฝ่ามือเพลิงพิโรธของไป๋จูเหวินในสมัยที่ยังเป็นยอดฝีมือรุ่นใหม่อยู่เลยทีเดียว

“อัก….”เส้าเทียนโดนหมัดของจินหมิงเข้าไปถึงกับถอยออกมาหลายก้าว ทั้งพลังวิญญาณและวิชาที่ใช้ออกมารุนแรงมากจนน่าตกใจ แถมเสินคงยังใช้กระบี่ตามมาเล่นงานเส้าเทียนจนไม่มีเวลาตอบโต้อีกต่างหาก พอเสินคงหยุดโจมตี จินหมิงก็รวบรวมพลังแล้วต่อยใส่เส้าเทียนเสียแล้ว บอกตามตรงว่าเส้าเทียนแทบไม่มีทางต่อกรได้เลย

“น้องจูล่ง…”ต้าหวานเห็นท่าทีจะไม่ดี นางก็เลยจะเข้าไปห้าม แต่ก่อนที่นางจะเข้าไป จูล่งกลับยื่นมือมาขวางนางเอาไว้ก่อน

“ไม่ต้องหรอกขอรับ”จูล่งยิ้มด้วยท่าทีสบายๆ แม้หลี่เย่จะมองเห็นว่าดวงตาของจูล่งเปลี่ยนเป็นสีเงิน แต่นางก็ไม่ทราบอยู่ดีว่าดวงตาสีอื่นๆของจูล่งทำอะไรได้บ้าง แต่ในเมื่อจูล่งห้ามต้าหวานจะลงมือก็คงไม่ได้

ตูม!! ร่างของเส้าเทียนถอยออกไปหลายก้าวหลังจากโดนจินหมิงโจมตีเข้าไปหลายสิบหมัด ยามนี้แม้แต่จินหมิงก็ยังประหลาดใจว่าทำไมเส้าเทียนยังทนอยู่ได้ แต่ละหมัดของจินหมิงใส่พลังลงไปเต็มที่ ทำให้จินหมิงเสียหลังไปไม่น้อย แต่เส้าเทียนกลับไม่มีท่าทีจะล้มเลย แถมว่ากันตามตรงกระบี่ของเสินคงแทบจะทำอะไรเส้าเทียนไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

วูบ…..ระหว่างที่เสินคงกำลังจะเข้าไปซ้ำใส่เส้าเทียน อยู่ๆพลังวิญญาณของเส้าเทียนก็พุ่งสูงจนน่าตกใจ แต่เดิมพลังของมันอยู่เพียงระดับเทียนเซียนขั้นที่ 5 เท่านั้น ยามที่มันใช้วิชาก่อนหน้านี้พลังของมันจะอยู่ในระดับยอดฝีมือ แต่ยามนี้มันสูงไปกว่านั้น

“ยอดเลย อาณาจักรไป๋นี้มีแต่คนเก่งจริงๆ”เส้าเทียนว่าพลางเดินกลับเข้ามาหาจินหมิง

เปรี้ยง!!หมัดของจินหมิงต่อยเข้าใส่ร่างของเส้าเทียนอีกครั้ง แต่คราวนี้เส้าเทียนกลับไม่สะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย แถมหากมองดีๆรอบๆตัวของเส้าเทียนยามนี้มีแสงสีทองลอยออกมารอบๆอีกต่างหาก

“เจ้าหนูนั่น…”ต้าเฉียนเบิกตากว้างมองไปทางเส้าเทียนด้วยท่าทีประหลาดใจ พลังของเส้าเทียนยามนี้พอๆกับระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 เลย วิชาอะไรกันแน่ที่เพิ่มพลังของผู้ใช้ได้สูงถึงเพียงนี้ หากเส้าเทียนอยู่ระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 เหมือนเฒ่าประทับสวรรค์ละก็ บางทีมันอาจจะน่ากลัวกว่าเฒ่าประทับสวรรค์ที่มาท้าสู้พวกต้าเฉียนเมื่อคราวก่อนอีกกระมัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาล 493 วิชาที่ยอดเยี่ยม

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter 493 วิชาที่ยอดเยี่ยม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 493

วิชาที่ยอดเยี่ยม

“นายน้อยจูล่ง ท่านไม่โกรธบ้างหรือขอรับ”หล่อเจียงถามพลางมองไปทางจูล่งที่กำลังนั่งกินอาหารด้วยท่าทีสบายๆไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เลย

“มีอะไรที่ข้าต้องโกรธด้วยงั้นหรือขอรับ”จูล่งถามพลางเอียงคอสงสัย ทั้งๆที่สาวๆต่างมีน้ำโหเพราะคำพูดของเสินคงแท้ๆ แต่จูล่งกลับไม่ทราบเสียอย่างนั้นว่ามันต้องโกรธตรงไหน

“นั่นเพราะมันหาว่าท่านเป็น…..”หล่อเจียงกำลังจะอธิบาย แต่ยังไม่ทันพูดอะไรไปมากกว่านี้ต้าหวานก็ยื่นมือมาห้ามเสียก่อน พวกนางเองก็ลืมไปเลยว่าจูล่งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆมาตั้งแต่เกิด คำว่าลูกเมียน้อยอาจจะเป็นคำที่ไม่เคยได้ยินก็เป็นได้

“คราวนี้ถือว่าเจ้าพวกนั้นโชคดีจริงๆ”หลี่เย่ส่ายหน้าน้อยๆออกมา พอเห็นท่าทีงงๆของจูล่งความโกรธที่พวกนางมีกันก่อนหน้านี้เหมือนหายวับไปทันทีเลย

“ว่าแต่ เจ้าสองคนนั้นเป็นยอดฝีมือรุ่นใหม่อันดับ 1 กับ 2 สินะ”เส้าเทียนถามด้วยท่าทีสนใจ มันเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าพวกนั้นด่าอะไร แต่มันได้ยินที่หล่อเจียงพูดอย่างชัดเจน พวกมันทั้งสองเป็นอันดับ 1 และ 2 ของตารางยอดฝีมือรุ่นใหม่ไม่ผิดแน่

“ใช่ เสินคงเป็นอันดับ 2 ส่วน จินหมิง เป็นอันดับ 1”หล่อเจียงตอบออกมาด้วยท่าทีไม่ค่อยพอใจนัก หล่อเจียงนั้นฝึกฝนในสำนักเล็กๆ มีพรสวรรค์อย่างมากทำให้ติดอันดับ 3 ได้ด้วยกำลังของตนเอง แต่เมื่อเจอกับเสินคงและจินหมิงมันกลับไม่สามารถสู้ได้เพราะทั้งสองต่างอยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 กันแล้ว

“เจ้าพวกนั้นท่าทางแข็งแกร่งน่าดู หลังจากนี้ข้าจะต้องเอาชนะพวกมันให้ได้”เส้าเทียนยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายๆ สำหรับมันแล้วจะหล่อเจียง เสินคง หรือ จินหมิงก็เหมือนกันทั้งนั้น นั่นคือเป้าหมายที่มันต้องเอาชนะนั่นเอง

“ไม่ไหวหรอก เจ้าพวกนั้นมีทั้งสมุนไพรช่วยฝึกฝน แล้วก็มียอดวิชาอยู่กับตัวอีกต่างหาก”หล่อเจียงก้มหน้าลงช้าๆด้วยความไม่มั่นใจ หล่อเจียงแม้มีพรสวรรค์แต่ไร้วาสนาไปหน่อย ไม่มีกำลังทรัพย์พอจะหาสมุนไพรมาช่วยในการฝึกฝน ไม่มีดวงได้พบยอดวิชาที่หายาก ลำพังความสามารถของมันขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ได้นั้นนับว่าเต็มที่แล้ว ว่ากันว่าที่เสินคงและจินหมิงมีพลังระดับเทียนเซียนขั้น 10 ตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นเพราะพ่อของเสินคงใช้ทั้งเงินและอำนาจหาสมุนไพรและยาเสริมพลังให้กับพวกมันทั้งสองตั้งแต่เด็ก ทำให้เสินคงที่เป็นนายน้อยรวมกับจินหมิงที่เป็นผู้ติดตามแข็งแกร่งกันมากถึงขนาดสามารถรับตำแหน่งของพ่อได้อย่างไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก ข้าเองก็มียอดวิชาเช่นกัน ขอแค่ข้าเพิ่มระดับพลังวิญญาณขึ้นไปอีกได้ข้าต้องสู้สองคนนั้นได้แน่ๆ”เส้าเทียนว่าพลางยิ้มกว้างออกมา เป็นอย่างที่มันพูดจริงๆเส้าเทียนมีวิชาคุ้มกายที่แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยพบในอาณาจักรไป๋เสียด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าอีกก้าวเดียวก็จะเอาชนะหล่อเจียงได้แล้ว เพียงแต่ระดับพลังของเส้าเทียนยังต่ำไปบ้างเท่านั้นเอง

.

.

“อารมณ์เสียชะมัด”ทางด้านเสินคงที่พึ่งเดินออกมาจากร้านอาหารพลันบ่นกับพวกพ้องของตนทันที แม้ทางร้านจะยกโต๊ะที่พวกจูล่งนั่งก่อนหน้านี้ให้พวกตนใช้ แต่หากรับก็เหมือนเก็บเศษเนื้อที่คนอื่นไม่ต้องการชัดๆ เสินคงก็เลยโวยวายกับเจ้าของร้านไป แต่มันเหมือนจะรู้จักกับพ่อของมันจริงๆก็เลยทำอะไรมากไม่ได้

“เจ้าพวกนั้นมันอะไรกัน ก็แค่บังเอิญเป็นผู้มีพระคุณของเถ้าแก่แค่นั้นล่ะ”หญิงสาวคนหนึ่งพูดด้วยท่าทีไม่พอใจ พวกนางที่มากับเสินคงต่างดีอกดีใจที่จะได้เข้าร้านดังทั้งที แต่กลับต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ทำเอาโมโหไปหมด

“ให้ข้าจัดการให้เอาไหม”จินหมิงถามพลางมองไปทางเสินคงที่ยังดูอารมณ์เสียอย่างมาก มันโตมากับเสินคงราวกับเป็นพี่ชาย ย่อมเข้าใจดีกว่าเสินคงอยากทำอะไร

“ดูเหมือนผู้มีพระคุณของเถ้าแก่จะมีแค่หมอคนนั้นเพียงคนเดียว ถ้าไม่ยุ่งกับนางเถ้าแก่ก็คงทำอะไรไม่ได้”เสินคงว่าพลางกำหมัดแน่น

“งั้นพวกเราจับเจ้าขี้เหร่หล่อเจียงมคุยกันดีหรือไม่”จินหมิงถามพลางยิ้มออกมา หล่อเจียงเป็นคนที่เคยเจอพวกมันเล่นงานมาแล้ว เจ้านั่นมันขี้อิจฉาแถมยังยั่วง่าย ปั่นหัวมันไม่ใช่เรื่องยากเลย

“ไม่…พามาทั้งกลุ่มนั่นละ เหลือไว้แค่หมอคนนั้นก็พอ”เสินคงตอบพลางจ้องมองขึ้นไปบนชั้น 2 ของร้าน จะว่าไปสาวๆในกลุ่มของพวกมันก็ดูไม่เลวนัก จับมาเล่นสนุกเสียหน่อยคงพอจะทำให้มันหายอารมณ์เสียได้บ้างโดยเฉพาะผู้หญิงที่ปาไม้จิ้มฟันใส่มัน นางคนนั้นท่าทางพยศไม่น้อย หากเอามาสั่งสอนเสียหน่อยก็คงสะใจมันมากทีเดียว

.

.

“ครั้งหน้าหากท่านหมอมาอีกบอกให้เด็กๆไปบอกข้าได้เลยนะขอรับ”หลังจากพวกจูล่งกินอาหารจนเสร็จ เจ้าของร้านก็ออกมาส่งด้วยตนเองเลยทีเดียว แถมยังกำชับอีกด้วยว่าหากหลี่เย่มาอีกให้บอกมันได้ทันที

“ขอบคุณมากเจ้าค่ะเถ้าแก่ หากภรรยาท่านอาการไม่ดีก็สามารถเรียกข้าได้เสมอเช่นกันเจ้าค่ะ”หลี่เย่ตอบพลางยิ้มออกมา หลังจากนึกอยู่พักใหญ่ในที่สุดนางก็จำได้เสียทีว่าเถ้าแก่ผู้นี้คือใคร

“เช่นนั้นเดินทางปลอดภัยนะขอรับ ข้าน้อยต้องไปต้อนรับลูกค้าต่อ”เจ้าของร้านว่าพลางขอตัวกลับไปทำงาน แน่นอนว่าหลี่เย่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร เท่านี้นางก็ได้รับการต้อนรับที่ยอดเยี่ยมพอแล้ว หลังจากล่ำลากันเสร็จเจ้าของร้านก็เข้าไปจัดการภายในร้านของตนเองส่วนพวกจูล่งนั้นก็พากันเดินกลับออกมาหมายจะไปหาที่พักในคืนนี้เอาในเมืองอีกที

“เมื่อครู่พวกเจ้าทำเอาไว้แสบดีนี่”พวกจูล่งเดินออกมาจากร้านยังไม่พ้นแสงไฟของร้านดี อยู่ๆกลุ่มของเสินคงก็ออกมาขวางเอาไว้เสียก่อน ทำเอาพวกสาวๆถอนหายใจออกมากันถ้วนหน้า พวกนางทราบอยู่แล้วว่าพวกมันต้องดักรออยู่หน้าร้าน โดนหักหน้ากลางร้านเช่นนั้นเสินคงไม่มียางยอมง่ายๆแน่ๆ

“ถึงเจ้าของร้านจะเกรงใจพวกเจ้า แต่ข้างนอกนี้ไม่มีใครช่วยพวกเจ้าได้หรอกนะ”เสินคงว่าพลางเอากระบี่ออกมาถือไว้ในมือ พริบตานั้นก็ปรากฏสายฟ้าแลบออกมาจากรอบข้างกระบี่ เหมือนเป็นการบอกว่าเสินคงเป็นผู้มีพลังธาตุสายฟ้านั่นเอง

“อึก…..”ภายในกลุ่มมีเพียงหล่อเจียงเท่านั้นที่มีท่าทีหวาดกลัว เจ้าบ้าเสินคงนั้นช่างเต็มไปด้วยโชคดีจริงๆ นอกจากจะเกิดเป็นลูกชายคนใหญ่คนโตแล้วยังมีพรสวรรค์ฝึกฝนวิชาแถมยังได้รับพลังธาตุหายากอย่างธาตุอัสนีอีกต่างหาก

“เจ้าหนูนี่คือนายน้อยของพวกเจ้าสินะ น่าเสียดายจริงๆสาวงามขนาดนี้กลับต้องมาติดตามนายน้อยไร้ความสามารถ”เสินคงว่าพลางชี้กระบี่ไปทางไป๋จูล่ง แม้จะทราบดีว่ากระบี่เล่มนั้นทำอะไรจูล่งไม่ได้ แต่พวกสาวๆก็มีท่าทีไม่พอใจออกมาทันที

“เมื่อครู่พวกเจ้าทำให้ข้าอารมณ์เสียมากทีเดียว บางทีถ้าตัดหูเจ้ามาสักข้างข้าคงอารมณ์ดีขึ้น”เสินคงว่าพลางเลื่อนกระบี่ไปที่ใบหน้าของจูล่ง หากกระบี่เล่มนั้นแตะผิวหนังของจูล่งละก็ วันนี้คุณชายเสินคงอาจจะได้โดนสำนักเทพจุติหมายหัวไปแล้วแน่ๆ เพียงแต่….

“เจ้าจะทำอะไร”เส้าเทียนที่อยู่ข้างๆจูล่งยื่นมือไปคว้ากระบี่เอาไว้ด้วยมือเปล่าก่อนจะจ้องมองไปทางเสินคงด้วยท่าทีไม่พอใจ ตัวมันไม่เข้าใจคำด่าของเสินคง แต่หากชี้กระบี่เข้าหาสหายของมันตัวเส้าเทียนก็ไม่ทนเหมือนกัน

เปรี้ยง!! เส้าเทียนยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อ จินหมิงที่อยู่ด้านหลังเสินคงก็พุ่งวาบเข้ามาหาเส้าเทียนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะต่อยใส่เส้าเทียนเสียเต็มแรง

“ใครบอกให้เจ้าเข้ามายุ่ง”จินหมิงว่าพลางต่อยซ้ำไปที่ใบหน้าของเส้าเทียนอีกครั้ง แต่พลังป้องกันของเส้าเทียนไม่ธรรมดาจริงๆ ต่อให้เป็นหมัดของระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ก็ไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย

“ไม่ให้ข้ายุ่งได้อย่างไร น้องจูล่งเป็นสหายของข้า หากพวกเจ้าคิดจะทำร้ายข้าก็ไม่ยอม”เส้าเทียนกัดฟันกรอดพลางรับหมัดของจินหมิงอีกครั้ง แต่จินหมิงเองก็สมกับเป็นอันดับ 1 แห่งตารางอันดับยอดฝีมือรุ่นใหม่ หมัดของมันนั้นรุนแรงมาก หากเปลี่ยนจากเส้าเทียนเป็นหล่อเจียงละก็เพียงโดนหมัดแรกหล่อเจียงก็อาจจะสลบได้เลย

“ดี ในเมื่อเจ้าเสนอหน้าออกมาเองข้าก็จะจัดการเจ้าก่อน”เสินคงว่าพลางปล่อยพลังวิญญาณของตนออกมา ไม่ใช่แค่พลังวิญญาณระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 เท่านั้นแต่เสินคงยังเรียนวิชาเพื่อเร่งพลังวิญญาณคล้ายๆกับของเส้าเทียนอีกต่างหาก ยามมันเอาจริงต่อให้เป็นยอดฝีมือ 2 หรือ 3 คนก็เอาไม่อยู่

เปรี้ยง! กระบี่ของเสินคงแทงเข้าใส่ร่างของเส้าเทียนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ เรียกได้ว่าสมกับเป็นผู้ใช้ธาตุอัสนีเป็นอย่างมาก แต่กระบี่ของเสินคงก็ไม่อาจแทงเข้าไปในร่างกายของเส้าเทียนได้เลย

“ร่างเจ้านี่แข็งดีจริงๆ”จินหมิงว่าพลางง้างหมัดไปข้างหลัง ก่อนจะต่อยอัดเข้าไปใส่ร่างของเส้าเทียนอีกครั้ง จินหมิงขึ้นชื่อเรื่องหมัดที่รุนแรงอยู่แล้ว ว่ากันว่าหมัดของจินหมิงเทียบเท่ากับวิชาฝ่ามือเพลิงพิโรธของไป๋จูเหวินในสมัยที่ยังเป็นยอดฝีมือรุ่นใหม่อยู่เลยทีเดียว

“อัก….”เส้าเทียนโดนหมัดของจินหมิงเข้าไปถึงกับถอยออกมาหลายก้าว ทั้งพลังวิญญาณและวิชาที่ใช้ออกมารุนแรงมากจนน่าตกใจ แถมเสินคงยังใช้กระบี่ตามมาเล่นงานเส้าเทียนจนไม่มีเวลาตอบโต้อีกต่างหาก พอเสินคงหยุดโจมตี จินหมิงก็รวบรวมพลังแล้วต่อยใส่เส้าเทียนเสียแล้ว บอกตามตรงว่าเส้าเทียนแทบไม่มีทางต่อกรได้เลย

“น้องจูล่ง…”ต้าหวานเห็นท่าทีจะไม่ดี นางก็เลยจะเข้าไปห้าม แต่ก่อนที่นางจะเข้าไป จูล่งกลับยื่นมือมาขวางนางเอาไว้ก่อน

“ไม่ต้องหรอกขอรับ”จูล่งยิ้มด้วยท่าทีสบายๆ แม้หลี่เย่จะมองเห็นว่าดวงตาของจูล่งเปลี่ยนเป็นสีเงิน แต่นางก็ไม่ทราบอยู่ดีว่าดวงตาสีอื่นๆของจูล่งทำอะไรได้บ้าง แต่ในเมื่อจูล่งห้ามต้าหวานจะลงมือก็คงไม่ได้

ตูม!! ร่างของเส้าเทียนถอยออกไปหลายก้าวหลังจากโดนจินหมิงโจมตีเข้าไปหลายสิบหมัด ยามนี้แม้แต่จินหมิงก็ยังประหลาดใจว่าทำไมเส้าเทียนยังทนอยู่ได้ แต่ละหมัดของจินหมิงใส่พลังลงไปเต็มที่ ทำให้จินหมิงเสียหลังไปไม่น้อย แต่เส้าเทียนกลับไม่มีท่าทีจะล้มเลย แถมว่ากันตามตรงกระบี่ของเสินคงแทบจะทำอะไรเส้าเทียนไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

วูบ…..ระหว่างที่เสินคงกำลังจะเข้าไปซ้ำใส่เส้าเทียน อยู่ๆพลังวิญญาณของเส้าเทียนก็พุ่งสูงจนน่าตกใจ แต่เดิมพลังของมันอยู่เพียงระดับเทียนเซียนขั้นที่ 5 เท่านั้น ยามที่มันใช้วิชาก่อนหน้านี้พลังของมันจะอยู่ในระดับยอดฝีมือ แต่ยามนี้มันสูงไปกว่านั้น

“ยอดเลย อาณาจักรไป๋นี้มีแต่คนเก่งจริงๆ”เส้าเทียนว่าพลางเดินกลับเข้ามาหาจินหมิง

เปรี้ยง!!หมัดของจินหมิงต่อยเข้าใส่ร่างของเส้าเทียนอีกครั้ง แต่คราวนี้เส้าเทียนกลับไม่สะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย แถมหากมองดีๆรอบๆตัวของเส้าเทียนยามนี้มีแสงสีทองลอยออกมารอบๆอีกต่างหาก

“เจ้าหนูนั่น…”ต้าเฉียนเบิกตากว้างมองไปทางเส้าเทียนด้วยท่าทีประหลาดใจ พลังของเส้าเทียนยามนี้พอๆกับระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 เลย วิชาอะไรกันแน่ที่เพิ่มพลังของผู้ใช้ได้สูงถึงเพียงนี้ หากเส้าเทียนอยู่ระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 เหมือนเฒ่าประทับสวรรค์ละก็ บางทีมันอาจจะน่ากลัวกว่าเฒ่าประทับสวรรค์ที่มาท้าสู้พวกต้าเฉียนเมื่อคราวก่อนอีกกระมัง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+