บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 544 ตรวจเข้ม

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 544 ตรวจเข้ม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 544

ตรวจเข้ม

“หลินเฟย เจ้าจะไม่กลับบ้านจริงๆงั้นหรือ”ชิงจื่อน้องชายของชิงชิวถามขณะกำลังประกอบสิ่งประดิษฐ์ของตนเองช้าๆ

“ไม่เอา ข้าอยากจะอยู่ที่นี่”หลินเฟยทำแก้มป่องออกมาพลางนั่งแหมะอยู่ตรงโต๊ะทำงานของชิงจื่อด้วยท่าทีเบื่อๆ

“พี่สะใภ้ทำอะไรกันแน่นะเจ้าถึงได้งอนขนาดนี้”ชิงจื่อหัวเราะเจื่อนๆออกมาพลางนำแผ่นแก้วขนาดเล็กประกอบเข้าไปในสิ่งประดิษฐ์ของตนเอง

“ท่านอา ท่านไม่ต้องสร้างต่อไม่ได้หรือ เจ้าสิ่งนั้นจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดีนะ”หลินเฟยว่าพลางชี้ไปที่สิ่งประดิษฐ์ของชิงจื่อ ในมือของชิงจื่อนั้นคือกล้องถ่ายรูปนั่นเอง พอเหม่ยหลินขอร้องมาตัวมันก็เริ่มทำการพัฒนากล้องทันที แถมยังทำได้เกือบจะเสร็จแล้วด้วย

“ไม่ได้หรอก ท่านตาของเจ้าเป็นเจ้าของโรงงานนี้นะ ข้าจะขัดคำสั่งท่านได้ยังไงกัน”ชิงจื่อหัวเราะออกมาพลางประกอบกล่องของตนต่อ มันไม่เข้าใจเลยว่ากล้องที่มันทำจะส่งผลร้ายได้อย่างไร แถมตัวมันเองก็กำลังพัฒนากล้องอยู่แล้วด้วย เพราะสิ่งประดิษฐ์ก่อนหน้านี้อย่างจอทีวีเองก็ต้องการกล้องคุณภาพดีเพื่อเก็บภาพดีๆและถ่ายทอดออกไปเช่นกัน นอกจากจะได้ทำตามคำสั่งของเหม่ยหลินมันยังได้ทดลองสิ่งที่มันสนใจด้วย แบบนี้ไม่ทำได้อย่างไร

“ข้ากำลังคิดว่าจะใส่กล้องเข้าไปในโทรศัพท์ด้วย เจ้าว่าดีหรือไม่”ชิงจื่อถามพลางมองไปทางหลานชายที่กำลังนั่งเซ็งอยู่

“ไม่”หลินเฟยตอบปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลย แน่นอนว่าชิงจื่อแค่ถามหยอกหลินเฟยเท่านั้นเพราะเห็นท่าทีหลินเฟยต่อต้านเรื่องสร้างกล้องถ่ายรูปที่ชัดกว่าเดิมมาสักพักแล้ว

“……..”แม้ตนจะบอกว่าไม่ แต่อาชิงจื่อก็ยังประกอบกล้องต่อด้วยท่าทีสบายใจ ทำเอาหลินเฟยได้แต่ยอมแพ้แล้วนั่งเล่นต่อไปด้วยท่าทีเบื่อๆ ก่อนจะนำกระดาษแผ่นหนึ่งบนโต๊ะของชิงจื่อมานั่งดูเล่นด้วยท่าทีสงสัย

“ท่านน้า เจ้านี่คืออะไรหรือขอรับ”หลินเฟยถามพลางมองแผ่นพิมพ์เขียวด้วยท่าทีประหลาดใจ

“อ๋อ เจ้านั่นเป็นเครื่องช่วยถอดรหัสของอาณาจักรเจแรนที่เคยรบกับอาณาจักรไชน์ ตอนนั้นท่านรูบี้ขอให้ช่วยคิดค้น แต่สงครามมันจบไปก่อนก็เลยไม่ได้ทำอะไรต่อ”ชิงจื่อว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีอ่อนโยนสิ่งที่หลินเฟยกำลังดูนั้นคือเครื่องแปลงภาษาอัตโนมัติที่พัฒนายังไม่เสร็จ ยิ่งสงครามจบไปแล้วก็ไม่ทราบจะทำต่อไปทำไมเหมือนกัน

“ข้าขอลองทำเจ้านี่เล่นไปสักพักนะขอรับ”หลินเฟยว่าพลางนำพิมพ์เขียวออกมาขีดๆเขียนๆด้วยท่าทีเหมือนเด็กกำลังระบายสีเทียนบนงานของผู้ใหญ่ไม่มีผิด แต่ถึงอย่างไรไป๋หลินเฟยก็เป็นเด็กของตระกูลไป๋ แม้จะอายุน้อยการทำความเข้าใจสิ่งต่างๆกลับมากกว่าเด็กปกติหลายเท่า

“ท่านอา ข้าขอยืมเจ้านี่หน่อยได้ไหม”ไป๋หลินเฟยถามพลางชี้ไปที่สายทองแดงที่วางอยู่มุมหนึ่งของห้อง

“ได้ แต่ระวังด้วยล่ะ”ชิงจื่อตอบพลางพยักหน้าช้าๆ ของในโรงงานเกือบทั้งหมดเป็นของตระกูลไป๋อยู่แล้ว มีเหตุผลที่จะห้ามไป๋หลินเฟยหรอก

“ท่านน้า รหัสของอาณาจักรเจแรนอยู่ในเอกสารปึกนี้สินะขอรับ”หลินเฟยถามพลางชูปึกกระดาษปึกหนึ่งขึ้นมา มันคือคำสั่งเข้ารหัสของกองทัพอาณาจักรเจแรนที่ใช้ส่งข้อความไปยังกองทัพต่างๆ ทำให้การสืบข่าวจากอาณาจักรดังกล่าวยากมากไปด้วย

“ใช่ ข้อความเข้ารหัสระบุวันที่เอาไว้ด้วย ดูเหมือนวิธีการถอดรหัสจะเปลี่ยนไปตลอด พวกอาณาจักรไชน์ก็เลยถอดรหัสออกมาไม่ได้สักที”ชิงจื่อตอบพลางหัวเราะออกมา หากไม่ได้กำลังเสริมของไป๋จูเหวินไปช่วย ป่านนี้อาณาจักรไชน์ก็คงยังรบกับอาณาจักรอื่นๆอยู่แน่ๆ เพราะอาณาจักรอื่นๆต่างมีวิธีการแยบยลและน่ากลัวมาก แม้จะสิ้นท่าเพราะกำลังที่เหนือกว่าของทัพอสูรก็ตาม

“ขอรับ….”หลินเฟยนำพิมพ์เขียวออกมานั่งลองทำเล่นระหว่างเวลาว่าง เครื่องถอดรหัสที่ชิงจื่อทำยังไม่เสร็จ หลินเฟยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็แก้พิมพ์เขียวแล้วเริ่มประกอบตามแบบทีละน้อยๆ เพียงแต่….

“เฟยเอ๋อ เจ้ายังไม่หายงอนแม่อีกเหรอ”เสียงหวานของไป๋หลินผู้เป็นมารดาของหลินเฟยดังขึ้นที่ด้านหลังของหลินเฟยขณะกำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งประดิษฐ์ตรงหน้า

“เฟยเอ๋อ แม่ขอโทษ หายงอนนะคนเก่ง”ไป๋หลินว่าพลางกอดร่างของหลินเฟยจากด้านหลัง ช่วยไม่ได้นี่นาหลินเฟยน่ารักขนาดนี้ พวกนางก็เลยเผลอแกล้งกันมากไปหน่อยจนทำให้หลินเฟยงอนอย่างที่เห็น

“กลับบ้านกันเถอะเฟยเอ๋อ พวกน้าๆกับท่านยายทำกับข้าวที่ลูกชอบเอาไว้ด้วยนะ”ไป๋หลินเห็นบุตรชายยังงอนไม่ยอมพูดด้วยก็รีบง้อขอคืนดีทันที

“ท่านแม่ต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอีกนะขอรับ”หลินเฟยเห็นมารดาตนเองง้อเช่นนี้ก็ถอนหายใจออกมา นางเป็นหญิงที่หลินเฟยรักที่สุด จะงอนไปนานๆก็คงไม่ได้

“ไม่แล้ว หลินเฟยไม่ชอบแม่ก็ไม่ทำแล้ว”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีดีใจ ปกตินางไม่เคยต้องง้อผู้ชายคนไหน แต่หลินเฟยเป็นบุตรชายสุดที่รักของนางนี่นา จะไม่ให้นางง้อได้อย่างไร

“แล้วรูปที่พวกท่านถ่ายเอาไว้ละขอรับ”หลินเฟยว่าพลางทำแก้มป่องออกมาด้วยท่าทีระแวง

“เอ๋ พวกนั้นเก็บไว้ไม่ได้เหรอ”ไป๋หลินถามด้วยท่าทีเสียดาย ถ้าหากหลินเฟยไม่ยอมใส่เสื้อผ้าพวกนั้นให้แล้วนางก็หมดโอกาสถ่ายรูปแบบนั้นเก็บไว้แล้วสิ เช่นนั้นรูปที่มีอยู่ก็เป็นสมบัติล้ำค่ามากเขียวนะ

“ถ้าพวกท่านไม่ทำลายรูปทิ้ง ข้าก็จะไม่กลับไป”หลินเฟยว่าพลางหันหน้าหนีอีกรอบ

“โถ่ ก็ได้ๆ แม่ยอมแล้ว”ไป๋หลินรีบง้อบุตรชายทันทีก่อนจะกลับไปงอนตุ๊บป่องอีกครั้ง แค่รูปถ่ายคู่ของไป๋หลินกับเหม่ยหลินยังทำเงินได้มหาศาล รูปถ่ายหลานชายคนเล็กของตระกูลไป๋ที่โดนจับแต่งหญิงอยู่ด้วยจะมีค่าขนาดไหนกันนะ แต่ในเมื่อหลินเฟยยืนยันแบบนั้นไป๋หลินก็ไม่มีทางเลือก ทำลายรูปที่ตนมีทั้งหมดต่อหน้าหลินเฟยทันที และยังรับปากด้วยว่าจะไปขอให้พวกท่านยายและน้าๆของหลินเฟยทำลายรูปทิ้งเช่นกันหลินเฟยถึงยอมกลับบ้านด้วย

“ท่านอา เจ้านี่สนุกดีข้าขอเอากลับไปด้วยนะขอรับ”ก่อนจะกลับ หลินเฟยขอเอาพิมพ์เขียวของชิงจื่อและโครงสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ตนพึ่งทำไปได้ไม่เท่าไหร่กลับไปด้วย แน่นอนว่าชิงจื่อไม่ห้ามอยู่แล้ว แถมยังถามอีกด้วยว่าจะเอาพิมพ์เขียวที่ไม่ได้ใช้แล้วไปอีกหรือไม่

.

.

“ท่านน้า จัดการเลยขอรับ”หลินเฟยที่กลับมาถึงเขตอสูรผาไร้ก้นแล้วไม่รอช้าขอแรงไป๋จูล่งเอารูปถ่ายทั้งหมดออกมาจากมิติของพวกน้าๆแต่ละคนทันที

“น้องหลินเฟย นี้เจ้าไม่เชื่อใจข้าแล้วงั้นหรือ”หลานฮวาบีบน้ำตาด้วยท่าทีน่าสงสาร พวกนางเอารูปถ่ายออกมาทำลายหมดแล้ว แต่หลินเฟยก็ยังไม่เชื่อและขอให้จูล่งมาตรวจสอบอีกคนด้วย

“เจอแล้ว”จูล่งที่กำลังตรวจสอบภายในมิติของหลานฮวาพูดพลางนำฟิล์มและรูปถ่ายของหลินเฟยที่ยังเหลืออยู่ออกมาวางเอาไว้บนพื้นเบื้องหน้าหลานฮวาที่น้ำตายังไม่ทันไหลออกมาสักหยด

“แฮะๆ”พอเห็นว่าหลานฮวายังแอบเม้มของกลางเอาไว้ ไป๋หลินเฟยก็ค้อนนางเข้าให้อย่างจัง แต่นางกลับไม่มีท่าทีสำนึกผิดแม้แต่น้อย แถมยังหัวเราะกลบเกลื่อนอีกต่างหาก

“หลินเฟย พวกน้ารู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร เมื่อรู้ว่าทำผิดแล้วก็ไม่ทำผิดซ้ำหรอกนะ”ต้าหวานว่าพลางยืดอกด้วยท่าทีมั่นใจ

“แล้วนี่อะไรหรือขอรับ”ไป๋จูล่งว่าพลางนำรูปที่ต้าหวานซ่อนเอาไว้ออกมาจากแขนเสื้อของนาง

“กะ ก็พี่ไม่ได้เก็บเอาไว้ในมิติส่วนตัวจริงๆนี่นา”ต้าหวานเหลือบสายตามองไปทางอื่นด้วยท่าทีเขินๆ ช่วยไม่ได้นี่นาหลินเฟยก็เหมือนหลานของพวกนาง รูปถ่ายพวกนั้นถ่ายหลินเฟยออกมาได้น่ารักมาก พวกนางก็อยากเก็บไว้นะสิ

“พี่ผิงกั่ว นั่นอะไรหรือ”พอเห็นว่าคนอื่นๆโดนยึดรูปไปทีละคนๆ ผิงกั่วที่เหลือเป็นคนสุดท้ายก็นำรูปถ่ายของหลินเฟยออกมาถือกันโต้งๆเสียอย่างนั้น

“ข้ารู้ตัวแล้วว่าซ่อนไปก็ไม่พ้น ข้าเลยจะขอร้องน้องหลินเฟยตรงๆว่าข้าอยากจะขอเก็บเอาไว้ได้หรือไม่”ผิงกั่วถามพลางกะพริบตาปริบๆด้วยท่าทีขอร้อง

“ไม่ได้”หลินเฟยพูดจบก็ดึงรูปออกจากมือผิงกั่วทันที วันนี้มันจะไม่ปรานีใครทั้งนั้นโทษฐานที่รุมรังแกมันเมื่อวันก่อน

“พวกเจ้าเนี่ยนะ.. เดี๋ยวเฟยเอ๋อก็งอนอีกหรอก คราวนี้ข้าไม่ช่วยพวกเจ้าอีกรอบหรอกนะ”ชิงชิวผู้เป็นบิดาของหลินเฟยถอนหายใจออกมา เพราะคนท่าหลินเฟยที่งอนตุ๊บป่องไปอยู่กับชิงจื่อก็คือตัวมันเอง ตอนแรกหลินเฟยไม่ยอมให้มันบอกไป๋หลินด้วยซ้ำว่าตนเองอยู่ไหน แต่เพราะไป๋หลินขอร้องหลายครั้งมันเลยต้องบอกจนได้

“ก็มันน่าเสียดายนี่นา”หลี่เย่ว่าพลางถอนหายใจออกมา สุดท้ายรูปที่พวกนางเม้มเอาไว้ก็โดนหาจนเจอทุกรูปไม่เว้นแม้แต่ในห้องพักของพวกนางเลย มีผู้ใช้วิชาแทรกแซงมิติแบบนี้จะซ่อนอะไรก็ลำบากจริงๆ

“เฟยเอ๋อ ยายทำลายรูปให้หมดแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ”เหม่ยหลินว่าพลางลูบผมของหลินเฟยด้วยท่าทีเอ็นดู แม้แต่เหม่ยหลินผู้เป็นยายยังต้องโดนตรวจสอบจนไม่เหลือรูปสักใบ

“ก็ได้ขอรับ”หลินเฟยถอนหายใจออกมาพลางเดินตามท่านยายไปด้วยท่าทีสบายใจ พวกท่านน้าท่านยายง้อมันขนาดนี้มันหายโกรธไปนานแล้ว แต่ก็ปล่อยให้มีรูปถ่ายเหลืออยู่ไม่ได้เหมือนกัน

.

.

“ท่านนี่นะ รู้ก็รู้ว่าข้าเป็นห่วงลูก ยังจะไม่ยอมบอกที่อยู่ของลูกตั้งหลายวัน”ในคืนวันนั้นไป๋หลินที่ได้พบบุตรชายเสียทีหลังไม่ได้เจอกันนานหลายวันก็ลากชิงชิวออกมาสำเร็จโทษทันทีข้อหาพาบุตรชายไปซ่อน

“ก็หลินเฟยกำลังโกรธนี่นา ข้าเลยพาไปสงบจิตสงบใจหน่อยเดียวเอง”ชิงชิวตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา

“งั้นข้าจะโกรธท่านบ้าง รู้หรือเปล่าว่าข้าเป็นห่วงลูกแค่ไหน”ไป๋หลินว่าพลางทำแก้มป่องออกมาเหมือนสมัยเด็กๆไม่มีผิด

“งั้น…ข้าคงต้องหาของมาง้อเจ้าสินะ”ชิงชิวว่าพลางนำของชิ้นหนึ่งออกมาจากมิติของตนเอง

“แบบนี้ไม่ผิดต่อหลินเฟยหรือ”ไป๋หลินถามพลางยิ้มออกมาบางๆแน่นอนว่ารูปถ่ายของหลินเฟยโดนทำลายไปหมดแล้ว แถมจูล่งยังช่วยคนตัวพวกนางอย่างละเอียด ไม่เหลือรอดแม่แต่คนเดียว แต่หากชิงชิวเป็นผู้เก็บเอาไว้ในมิติส่วนตัวโอกาสจะโดนค้นก็น้อยลง

“พ่อแม่จะเก็บรูปลูกเอาไว้ดูไม่เห็นแปลกนี่นา แต่อย่าให้หลินเฟยเห็นล่ะ”ชิงชิวยิ้มบางๆออกมาพลางกอดเอวของไป๋หลินเอาไว้หลวมๆ มันอยู่กับนางมาตั้งแต่สมัยเป็นองค์หญิง มันทำอะไรต้องมีวิธีรับมือนางตลอดนั่นล่ะ

“หลินเฟยไม่ยอมสวมเสื้อผ้าสวยๆแล้วด้วย สงสัยเราคงต้องมีลูกสาวอีกสักคนแล้วสิ”ไป๋หลินเก็บรูปเข้าไปในมิติช้าๆ ก่อนจะยิ้มหวานให้ชิงชิว แน่นอนนางเพียงพูดเล่น แต่หากจะทำให้เป็นจริง นางก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรอสูรบรรพกาลบุตรอสูรบรรพกาล 544 ตรวจเข้ม

Now you are reading บุตรอสูรบรรพกาล Chapter บุตรอสูรบรรพกาล 544 ตรวจเข้ม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 544

ตรวจเข้ม

“หลินเฟย เจ้าจะไม่กลับบ้านจริงๆงั้นหรือ”ชิงจื่อน้องชายของชิงชิวถามขณะกำลังประกอบสิ่งประดิษฐ์ของตนเองช้าๆ

“ไม่เอา ข้าอยากจะอยู่ที่นี่”หลินเฟยทำแก้มป่องออกมาพลางนั่งแหมะอยู่ตรงโต๊ะทำงานของชิงจื่อด้วยท่าทีเบื่อๆ

“พี่สะใภ้ทำอะไรกันแน่นะเจ้าถึงได้งอนขนาดนี้”ชิงจื่อหัวเราะเจื่อนๆออกมาพลางนำแผ่นแก้วขนาดเล็กประกอบเข้าไปในสิ่งประดิษฐ์ของตนเอง

“ท่านอา ท่านไม่ต้องสร้างต่อไม่ได้หรือ เจ้าสิ่งนั้นจะเป็นผลร้ายมากกว่าผลดีนะ”หลินเฟยว่าพลางชี้ไปที่สิ่งประดิษฐ์ของชิงจื่อ ในมือของชิงจื่อนั้นคือกล้องถ่ายรูปนั่นเอง พอเหม่ยหลินขอร้องมาตัวมันก็เริ่มทำการพัฒนากล้องทันที แถมยังทำได้เกือบจะเสร็จแล้วด้วย

“ไม่ได้หรอก ท่านตาของเจ้าเป็นเจ้าของโรงงานนี้นะ ข้าจะขัดคำสั่งท่านได้ยังไงกัน”ชิงจื่อหัวเราะออกมาพลางประกอบกล่องของตนต่อ มันไม่เข้าใจเลยว่ากล้องที่มันทำจะส่งผลร้ายได้อย่างไร แถมตัวมันเองก็กำลังพัฒนากล้องอยู่แล้วด้วย เพราะสิ่งประดิษฐ์ก่อนหน้านี้อย่างจอทีวีเองก็ต้องการกล้องคุณภาพดีเพื่อเก็บภาพดีๆและถ่ายทอดออกไปเช่นกัน นอกจากจะได้ทำตามคำสั่งของเหม่ยหลินมันยังได้ทดลองสิ่งที่มันสนใจด้วย แบบนี้ไม่ทำได้อย่างไร

“ข้ากำลังคิดว่าจะใส่กล้องเข้าไปในโทรศัพท์ด้วย เจ้าว่าดีหรือไม่”ชิงจื่อถามพลางมองไปทางหลานชายที่กำลังนั่งเซ็งอยู่

“ไม่”หลินเฟยตอบปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลย แน่นอนว่าชิงจื่อแค่ถามหยอกหลินเฟยเท่านั้นเพราะเห็นท่าทีหลินเฟยต่อต้านเรื่องสร้างกล้องถ่ายรูปที่ชัดกว่าเดิมมาสักพักแล้ว

“……..”แม้ตนจะบอกว่าไม่ แต่อาชิงจื่อก็ยังประกอบกล้องต่อด้วยท่าทีสบายใจ ทำเอาหลินเฟยได้แต่ยอมแพ้แล้วนั่งเล่นต่อไปด้วยท่าทีเบื่อๆ ก่อนจะนำกระดาษแผ่นหนึ่งบนโต๊ะของชิงจื่อมานั่งดูเล่นด้วยท่าทีสงสัย

“ท่านน้า เจ้านี่คืออะไรหรือขอรับ”หลินเฟยถามพลางมองแผ่นพิมพ์เขียวด้วยท่าทีประหลาดใจ

“อ๋อ เจ้านั่นเป็นเครื่องช่วยถอดรหัสของอาณาจักรเจแรนที่เคยรบกับอาณาจักรไชน์ ตอนนั้นท่านรูบี้ขอให้ช่วยคิดค้น แต่สงครามมันจบไปก่อนก็เลยไม่ได้ทำอะไรต่อ”ชิงจื่อว่าพลางยิ้มออกมาด้วยท่าทีอ่อนโยนสิ่งที่หลินเฟยกำลังดูนั้นคือเครื่องแปลงภาษาอัตโนมัติที่พัฒนายังไม่เสร็จ ยิ่งสงครามจบไปแล้วก็ไม่ทราบจะทำต่อไปทำไมเหมือนกัน

“ข้าขอลองทำเจ้านี่เล่นไปสักพักนะขอรับ”หลินเฟยว่าพลางนำพิมพ์เขียวออกมาขีดๆเขียนๆด้วยท่าทีเหมือนเด็กกำลังระบายสีเทียนบนงานของผู้ใหญ่ไม่มีผิด แต่ถึงอย่างไรไป๋หลินเฟยก็เป็นเด็กของตระกูลไป๋ แม้จะอายุน้อยการทำความเข้าใจสิ่งต่างๆกลับมากกว่าเด็กปกติหลายเท่า

“ท่านอา ข้าขอยืมเจ้านี่หน่อยได้ไหม”ไป๋หลินเฟยถามพลางชี้ไปที่สายทองแดงที่วางอยู่มุมหนึ่งของห้อง

“ได้ แต่ระวังด้วยล่ะ”ชิงจื่อตอบพลางพยักหน้าช้าๆ ของในโรงงานเกือบทั้งหมดเป็นของตระกูลไป๋อยู่แล้ว มีเหตุผลที่จะห้ามไป๋หลินเฟยหรอก

“ท่านน้า รหัสของอาณาจักรเจแรนอยู่ในเอกสารปึกนี้สินะขอรับ”หลินเฟยถามพลางชูปึกกระดาษปึกหนึ่งขึ้นมา มันคือคำสั่งเข้ารหัสของกองทัพอาณาจักรเจแรนที่ใช้ส่งข้อความไปยังกองทัพต่างๆ ทำให้การสืบข่าวจากอาณาจักรดังกล่าวยากมากไปด้วย

“ใช่ ข้อความเข้ารหัสระบุวันที่เอาไว้ด้วย ดูเหมือนวิธีการถอดรหัสจะเปลี่ยนไปตลอด พวกอาณาจักรไชน์ก็เลยถอดรหัสออกมาไม่ได้สักที”ชิงจื่อตอบพลางหัวเราะออกมา หากไม่ได้กำลังเสริมของไป๋จูเหวินไปช่วย ป่านนี้อาณาจักรไชน์ก็คงยังรบกับอาณาจักรอื่นๆอยู่แน่ๆ เพราะอาณาจักรอื่นๆต่างมีวิธีการแยบยลและน่ากลัวมาก แม้จะสิ้นท่าเพราะกำลังที่เหนือกว่าของทัพอสูรก็ตาม

“ขอรับ….”หลินเฟยนำพิมพ์เขียวออกมานั่งลองทำเล่นระหว่างเวลาว่าง เครื่องถอดรหัสที่ชิงจื่อทำยังไม่เสร็จ หลินเฟยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็แก้พิมพ์เขียวแล้วเริ่มประกอบตามแบบทีละน้อยๆ เพียงแต่….

“เฟยเอ๋อ เจ้ายังไม่หายงอนแม่อีกเหรอ”เสียงหวานของไป๋หลินผู้เป็นมารดาของหลินเฟยดังขึ้นที่ด้านหลังของหลินเฟยขณะกำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งประดิษฐ์ตรงหน้า

“เฟยเอ๋อ แม่ขอโทษ หายงอนนะคนเก่ง”ไป๋หลินว่าพลางกอดร่างของหลินเฟยจากด้านหลัง ช่วยไม่ได้นี่นาหลินเฟยน่ารักขนาดนี้ พวกนางก็เลยเผลอแกล้งกันมากไปหน่อยจนทำให้หลินเฟยงอนอย่างที่เห็น

“กลับบ้านกันเถอะเฟยเอ๋อ พวกน้าๆกับท่านยายทำกับข้าวที่ลูกชอบเอาไว้ด้วยนะ”ไป๋หลินเห็นบุตรชายยังงอนไม่ยอมพูดด้วยก็รีบง้อขอคืนดีทันที

“ท่านแม่ต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอีกนะขอรับ”หลินเฟยเห็นมารดาตนเองง้อเช่นนี้ก็ถอนหายใจออกมา นางเป็นหญิงที่หลินเฟยรักที่สุด จะงอนไปนานๆก็คงไม่ได้

“ไม่แล้ว หลินเฟยไม่ชอบแม่ก็ไม่ทำแล้ว”ไป๋หลินว่าพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีดีใจ ปกตินางไม่เคยต้องง้อผู้ชายคนไหน แต่หลินเฟยเป็นบุตรชายสุดที่รักของนางนี่นา จะไม่ให้นางง้อได้อย่างไร

“แล้วรูปที่พวกท่านถ่ายเอาไว้ละขอรับ”หลินเฟยว่าพลางทำแก้มป่องออกมาด้วยท่าทีระแวง

“เอ๋ พวกนั้นเก็บไว้ไม่ได้เหรอ”ไป๋หลินถามด้วยท่าทีเสียดาย ถ้าหากหลินเฟยไม่ยอมใส่เสื้อผ้าพวกนั้นให้แล้วนางก็หมดโอกาสถ่ายรูปแบบนั้นเก็บไว้แล้วสิ เช่นนั้นรูปที่มีอยู่ก็เป็นสมบัติล้ำค่ามากเขียวนะ

“ถ้าพวกท่านไม่ทำลายรูปทิ้ง ข้าก็จะไม่กลับไป”หลินเฟยว่าพลางหันหน้าหนีอีกรอบ

“โถ่ ก็ได้ๆ แม่ยอมแล้ว”ไป๋หลินรีบง้อบุตรชายทันทีก่อนจะกลับไปงอนตุ๊บป่องอีกครั้ง แค่รูปถ่ายคู่ของไป๋หลินกับเหม่ยหลินยังทำเงินได้มหาศาล รูปถ่ายหลานชายคนเล็กของตระกูลไป๋ที่โดนจับแต่งหญิงอยู่ด้วยจะมีค่าขนาดไหนกันนะ แต่ในเมื่อหลินเฟยยืนยันแบบนั้นไป๋หลินก็ไม่มีทางเลือก ทำลายรูปที่ตนมีทั้งหมดต่อหน้าหลินเฟยทันที และยังรับปากด้วยว่าจะไปขอให้พวกท่านยายและน้าๆของหลินเฟยทำลายรูปทิ้งเช่นกันหลินเฟยถึงยอมกลับบ้านด้วย

“ท่านอา เจ้านี่สนุกดีข้าขอเอากลับไปด้วยนะขอรับ”ก่อนจะกลับ หลินเฟยขอเอาพิมพ์เขียวของชิงจื่อและโครงสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่ตนพึ่งทำไปได้ไม่เท่าไหร่กลับไปด้วย แน่นอนว่าชิงจื่อไม่ห้ามอยู่แล้ว แถมยังถามอีกด้วยว่าจะเอาพิมพ์เขียวที่ไม่ได้ใช้แล้วไปอีกหรือไม่

.

.

“ท่านน้า จัดการเลยขอรับ”หลินเฟยที่กลับมาถึงเขตอสูรผาไร้ก้นแล้วไม่รอช้าขอแรงไป๋จูล่งเอารูปถ่ายทั้งหมดออกมาจากมิติของพวกน้าๆแต่ละคนทันที

“น้องหลินเฟย นี้เจ้าไม่เชื่อใจข้าแล้วงั้นหรือ”หลานฮวาบีบน้ำตาด้วยท่าทีน่าสงสาร พวกนางเอารูปถ่ายออกมาทำลายหมดแล้ว แต่หลินเฟยก็ยังไม่เชื่อและขอให้จูล่งมาตรวจสอบอีกคนด้วย

“เจอแล้ว”จูล่งที่กำลังตรวจสอบภายในมิติของหลานฮวาพูดพลางนำฟิล์มและรูปถ่ายของหลินเฟยที่ยังเหลืออยู่ออกมาวางเอาไว้บนพื้นเบื้องหน้าหลานฮวาที่น้ำตายังไม่ทันไหลออกมาสักหยด

“แฮะๆ”พอเห็นว่าหลานฮวายังแอบเม้มของกลางเอาไว้ ไป๋หลินเฟยก็ค้อนนางเข้าให้อย่างจัง แต่นางกลับไม่มีท่าทีสำนึกผิดแม้แต่น้อย แถมยังหัวเราะกลบเกลื่อนอีกต่างหาก

“หลินเฟย พวกน้ารู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร เมื่อรู้ว่าทำผิดแล้วก็ไม่ทำผิดซ้ำหรอกนะ”ต้าหวานว่าพลางยืดอกด้วยท่าทีมั่นใจ

“แล้วนี่อะไรหรือขอรับ”ไป๋จูล่งว่าพลางนำรูปที่ต้าหวานซ่อนเอาไว้ออกมาจากแขนเสื้อของนาง

“กะ ก็พี่ไม่ได้เก็บเอาไว้ในมิติส่วนตัวจริงๆนี่นา”ต้าหวานเหลือบสายตามองไปทางอื่นด้วยท่าทีเขินๆ ช่วยไม่ได้นี่นาหลินเฟยก็เหมือนหลานของพวกนาง รูปถ่ายพวกนั้นถ่ายหลินเฟยออกมาได้น่ารักมาก พวกนางก็อยากเก็บไว้นะสิ

“พี่ผิงกั่ว นั่นอะไรหรือ”พอเห็นว่าคนอื่นๆโดนยึดรูปไปทีละคนๆ ผิงกั่วที่เหลือเป็นคนสุดท้ายก็นำรูปถ่ายของหลินเฟยออกมาถือกันโต้งๆเสียอย่างนั้น

“ข้ารู้ตัวแล้วว่าซ่อนไปก็ไม่พ้น ข้าเลยจะขอร้องน้องหลินเฟยตรงๆว่าข้าอยากจะขอเก็บเอาไว้ได้หรือไม่”ผิงกั่วถามพลางกะพริบตาปริบๆด้วยท่าทีขอร้อง

“ไม่ได้”หลินเฟยพูดจบก็ดึงรูปออกจากมือผิงกั่วทันที วันนี้มันจะไม่ปรานีใครทั้งนั้นโทษฐานที่รุมรังแกมันเมื่อวันก่อน

“พวกเจ้าเนี่ยนะ.. เดี๋ยวเฟยเอ๋อก็งอนอีกหรอก คราวนี้ข้าไม่ช่วยพวกเจ้าอีกรอบหรอกนะ”ชิงชิวผู้เป็นบิดาของหลินเฟยถอนหายใจออกมา เพราะคนท่าหลินเฟยที่งอนตุ๊บป่องไปอยู่กับชิงจื่อก็คือตัวมันเอง ตอนแรกหลินเฟยไม่ยอมให้มันบอกไป๋หลินด้วยซ้ำว่าตนเองอยู่ไหน แต่เพราะไป๋หลินขอร้องหลายครั้งมันเลยต้องบอกจนได้

“ก็มันน่าเสียดายนี่นา”หลี่เย่ว่าพลางถอนหายใจออกมา สุดท้ายรูปที่พวกนางเม้มเอาไว้ก็โดนหาจนเจอทุกรูปไม่เว้นแม้แต่ในห้องพักของพวกนางเลย มีผู้ใช้วิชาแทรกแซงมิติแบบนี้จะซ่อนอะไรก็ลำบากจริงๆ

“เฟยเอ๋อ ยายทำลายรูปให้หมดแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ”เหม่ยหลินว่าพลางลูบผมของหลินเฟยด้วยท่าทีเอ็นดู แม้แต่เหม่ยหลินผู้เป็นยายยังต้องโดนตรวจสอบจนไม่เหลือรูปสักใบ

“ก็ได้ขอรับ”หลินเฟยถอนหายใจออกมาพลางเดินตามท่านยายไปด้วยท่าทีสบายใจ พวกท่านน้าท่านยายง้อมันขนาดนี้มันหายโกรธไปนานแล้ว แต่ก็ปล่อยให้มีรูปถ่ายเหลืออยู่ไม่ได้เหมือนกัน

.

.

“ท่านนี่นะ รู้ก็รู้ว่าข้าเป็นห่วงลูก ยังจะไม่ยอมบอกที่อยู่ของลูกตั้งหลายวัน”ในคืนวันนั้นไป๋หลินที่ได้พบบุตรชายเสียทีหลังไม่ได้เจอกันนานหลายวันก็ลากชิงชิวออกมาสำเร็จโทษทันทีข้อหาพาบุตรชายไปซ่อน

“ก็หลินเฟยกำลังโกรธนี่นา ข้าเลยพาไปสงบจิตสงบใจหน่อยเดียวเอง”ชิงชิวตอบพลางยิ้มเจื่อนๆออกมา

“งั้นข้าจะโกรธท่านบ้าง รู้หรือเปล่าว่าข้าเป็นห่วงลูกแค่ไหน”ไป๋หลินว่าพลางทำแก้มป่องออกมาเหมือนสมัยเด็กๆไม่มีผิด

“งั้น…ข้าคงต้องหาของมาง้อเจ้าสินะ”ชิงชิวว่าพลางนำของชิ้นหนึ่งออกมาจากมิติของตนเอง

“แบบนี้ไม่ผิดต่อหลินเฟยหรือ”ไป๋หลินถามพลางยิ้มออกมาบางๆแน่นอนว่ารูปถ่ายของหลินเฟยโดนทำลายไปหมดแล้ว แถมจูล่งยังช่วยคนตัวพวกนางอย่างละเอียด ไม่เหลือรอดแม่แต่คนเดียว แต่หากชิงชิวเป็นผู้เก็บเอาไว้ในมิติส่วนตัวโอกาสจะโดนค้นก็น้อยลง

“พ่อแม่จะเก็บรูปลูกเอาไว้ดูไม่เห็นแปลกนี่นา แต่อย่าให้หลินเฟยเห็นล่ะ”ชิงชิวยิ้มบางๆออกมาพลางกอดเอวของไป๋หลินเอาไว้หลวมๆ มันอยู่กับนางมาตั้งแต่สมัยเป็นองค์หญิง มันทำอะไรต้องมีวิธีรับมือนางตลอดนั่นล่ะ

“หลินเฟยไม่ยอมสวมเสื้อผ้าสวยๆแล้วด้วย สงสัยเราคงต้องมีลูกสาวอีกสักคนแล้วสิ”ไป๋หลินเก็บรูปเข้าไปในมิติช้าๆ ก่อนจะยิ้มหวานให้ชิงชิว แน่นอนนางเพียงพูดเล่น แต่หากจะทำให้เป็นจริง นางก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+