EP 289 เทพพระเจ้าแห่งความโชคร้าย!

By loop

 

โรงพยาบาลประชาชนของมณฑล

 

ปัง! เสียงดังสนั่นจากที่ไหนสักแห่งสามารถได้ยินได้ทั่วทั้งโรงพยาบาล

 

“อา!! เกิดอะไรขึ้น?”

 

“เมื่อกี้คืออะไร? แผ่นดินไหวอย่างงั้นหรอ?”

 

* มันฟังดูเหมือนเสียงระเบิดสะมากกว่า!”

 

ผู้ป่วยทุกคนตกตะลึงและเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย มีเพียงผู้คนที่อยู่ใกล้ล็อบบี้ลิฟต์ชั้นหนึ่งเท่านั้นที่ได้ยินว่าเสียงดังนั้นมาจากปล่องลิฟต์และสรุปว่านั้นเป็นเสียงของลิฟต์ที่ตกลงมาจากที่สูง หลังจากหายจากอาการช็อกแล้วพยาบาลบางส่วนก็เริ่มส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือพวกเขาบางคนเรียกหัวหน้าของพวกเขาเพราะพวกเขาไม่รู้ว่ามีใครอยู่ในลิฟต์

 

ชั้น 5. ดงซูบินเดินลงบันไดอย่างช้าๆและเมื่อเขามาถึงชั้นหนึ่งเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกําลังงัดประตูลิฟต์ที่เปิดออกด้วยเครื่องมือ เสียงดังเอี้ยด…เจ้าหน้าที่พยายามแงะช่องว่างผ่านประตูและช่างเทคนิคสองคนก็ใช้แรงทั้งหมดเพื่อพยายามเปิดประตูลิพย์ ข้างในนั้นมันมืดและมองไม่เห็นลิฟต์เลย พวกเขาเองขาดการว่าลิฟต์น่าอยู่ที่ด้านล่างของเพลาและพนักงานเริ่มงัดเบิดเพดานของรถลิฟต์

 

ประมาณหกถึงเจ็ดนาทีต่อมาเหมิงเวียวรินได้รับการช่วยเหลือ

 

“ หัวหน้าเหมิง?” หัวหน้าโรงพยาบาลจําเขาได้

 

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสองคนอุ้มเหมิงเซียวรินขึ้นเปลหาม “คุณโอเคไหม? คุณบาดเจ็บตรงไหนบ้าง”

 

เหมิงเชียวรินยังอยู่ในอาการที่ตกใจมาก เขาถูกปกคลุมไปด้วยเหงื่อในช่วงกลางฤดูหนาวและแม้ว่าเขาจะไม่มีอาการบาดเจ็บที่ชัดเจน แต่ริมฝีปากของเขาก็สัน เมื่อเขาได้ยินหน่วยกู้ภัยถามเขา เขาก็อ้าปากค้างและชี้ไปที่หัวของเขาด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นเขาก็หลับตาและจับศีรษะของเขา พยาบาลและแพทย์รีบตรวจร่างกายเขาทันที

 

ดงซูบินได้เห็นทุกอย่างจากระยะไกลและรู้สึกดีขึ้นมาก เขาหันกลับและกลับไปที่วอร์ดของแม่เขา

 

“ ซูบิน” ลวนเสี่ยวชิงถาม “ นั่นมันเสียงอะไร”

 

“ สายเคเบิลของลิฟต์ขาดและตกลงมา แล้วเหมิงเซียนรินก็อยู่ข้างในและผมจึงรู้ว่าเขาเองก็กลัวต่ายเช่นกัน”

 

“อา? อุบัติเหตุหรอ?” ลวนเสี่ยวชิงถาม

 

“เขาสมควรได้รับมัน! นี่คือคามาของเขา!”

 

เหมิงเชียวรินเองก็กลัวแม่ของดงซูบิน และหัวใจวาย ถึงกระนั้นไอ้แก่คนนี้ยังไม่ขอโทษเลยเขาเห็นแม่ของดงซูบินกําลังมีอาการหัวใจวายและไม่ได้เรียกหาหมอหรือพยาบาลและจากไปอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้เขายังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ของเขาและอ้างว่านั้นเป็นเพราะโรคประจําตัวของแม่ของเขาและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา ดงซูบินเองก็เป็นคนที่รักแม่มากและไม่สามารถทนต่อการกระทําแบบนี้ได้และสิ่งที่เขาต้องทําคือต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง เป็นอย่างไรบ้างละความกลัวที่นายได้รับ? ไอ้เวร! ฉันจะให้นายได้ริมรสสิ่งที่นายทํา!

 

“ ผู้ปวยรู้สึกหวิวและปวดศีรษะ ให้เขาตรวจไปตรวจซีทีแสกน ก่อน!” แพทย์กล่าว

 

เอ๊ะ?

 

เดี๋ยว!

 

เหมิงเซียวรินครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป!

 

เหมิงเชียวรินคิดว่าดงซูบิน ทําตัวแปลก ๆ พวกเขาเพิ่งทะเลาะกันและทําไมดงซูบินถึงหยุดเขาและลากเขาเข้าไปในลิฟต์? นอกจากนี้ ดงซูบินก็ก้าวออกจากลิฟต์ในนาทีสุดท้าย สีหน้าท่าทางแววตาและการกระทําของเขาดูเหมือนจะรู้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับลิฟต์ เกิดอะไรขึ้น? เขาเป็นคนที่ทําให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้หรือไม่?

 

ต้องเป็นดงซิบน!

 

เหมิงเชียวรินไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ จากพฤติกรรมของดงซูบินเขาคิดว่าดงซูบินต้องทําอะไรบางอย่างกับลิฟต์อย่างแน่นอน!

 

มันต้องเป็นไอ้สารเลวนั้นที่ตั้งใจจะเอาคืนฉัน!

 

“เดี๋ยวก่อน!” เหมิงเซียวรินตะโกน

 

พยาบาลที่กําลังผลักเขาหยุด “ เกิดอะไรขึ้น?”

 

“ ส่งโทรศัพท์ให้ฉันก่อน” เหมิงเซียวรินโทรเรียกตํารวจ เขาเองก็ต้องการจัดการกับดงซูบินก่อน

 

หลังจากรับสายของเหมิงเซียวในสํานักรักษาความปลอดภัยสาธารณะก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทุกคนรวมทั้งเหลียงเฉิงเผิงต่างตกใจเมื่อทราบว่าอุบัติเหตุของเหมิงเซียงในเกิดจากดงซูบิน พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าเหมิงเซียวรินนั้นเป็นต้นเหตุให้แม่ของดงซูบินหัวใจวายและรู้ว่า หัวหน้าซูบินจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่ แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหัวหน้าซูบินจะแก้แค้นเร็วขนาดนี้

 

คนที่อยู่ใกล้ชิดกับดงซูบินเริ่มเป็นห่วงเขา

 

เหลียงเฉิงเผิงกระแทกโต๊ะของเขาด้วยความโกรธ เขาเตือนดงซูบินว่าอย่าทําอะไรที่ผลีพลามแต่ทําไมเขายัง …

 

สํานักรักษาความปลอดภัยสาธารณะส่งเจ้าหน้าที่ไปที่โรงพยาบาลประชาชนของมณฑลทันทีแม้แต่ฮูยินเก่ารองผู้บริหารสํานักงานใหญ่ก็เข้ามาดูแลการสอบสวน ท้ายที่สุดแล้วคดีนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเกินไป

 

ตอนนี้ดงซูบินอยู่กับลวนเสี่ยวปิง ในวอร์ดของเธอเมื่อตอนที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น

 

มันคือเลขาธิการของเสี่ยวหลาน, อูซินเยียน “ หัวหน้าซูบินสํานักรักษาความปลอดภัยสาธารณะได้ส่งคนไปตรวจสอบ”

 

“ โอ้?” ดงซูบินรู้ว่าฮซินเยียนพูดถึงอะไรและไม่แปลกใจเลย

 

ยูซินเยียนนั้นหยุดสองสามวินาทีและถามว่า “ นายกเทศมนตรีเสี่ยวต้องการให้ฉันถา มคุณว่าอุบัติเหตุนี้”

 

“ ไม่ต้องกังวล มันเป็นเรื่องบังเอิญและผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย” ดงซูบินตอบอย่างใจเย็น “ พี่สาวซูช่วยผมฝากขอบคุณนายกเทศมนตรีเสียวสําหรับความห่วงใยของเธอ”

 

“ดีใจที่ได้ยิน” ซูซินเยียนหัวเราะและคุยกับดงซูบินสักพักก่อนจะวางสาย

 

ฮูยินเก่าและเจ้าหน้าที่จากสํานักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะมาถึงโรงพยาบาลเหมิงเซียนรินอยู่ในสภาพแย่มากและต้องได้รับการตรวจร่างกายหลายครั้ง ฮซินเยียนไม่สามารถรับคําชี้แจงของเขาได้และทําได้เพียงแค่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นจากพยาน ในเวลาเดียวกันเขาส่งคนของเขาไปหาสาเหตุของลิฟต์ขัดข้องในครั้งนี้

 

ภายในสํานักงาน

 

ฮูยินเก่ามองไปที่พยาบาลสองคนอย่างเย็นชา “ คุณทุกคนเห็นหัวหน้าซูบินกับหัวหน้าเหมิงก่อนเกิดอุบัติเหตุ?”

 

พยาบาลคนหนึ่งตอบ “ใช่.”

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

“ พวกเขาทะเลาะกันและหลายคนก็เห็นมัน”

 

อูยินเก่าขมวดคิ้ว “ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป”

 

“ หลังจากนั้นหัวหน้าซูบินก็พูดอะไรบางอย่างกับหัวหน้าเมิ่งและพวกเขาก็เข้าไปในลิฟต์”

 

“ แล้วทําไมหัวหน้าเมิงถึงอยู่คนเดียวในลิฟต์”

 

พยาบาลตอบกลับ “ เมื่อประตูลิฟต์ปิดหัวหน้าดงก็ก้าวออกไป เขาลืมเก็บยาของแม่”

 

หลังจากซักถามพยานแล้วฮูยินเก่าก็เริ่มสงสัยดงซูบินเขาเองไม่พอใจดงซูบินมาก่อนหน้านี้แล้วและได้รับคําเตือนเพราะเขา ดงซูบินยังทําให้เขาสูญเสียการสนับสนุนอดีตเลขาธิการพรรคโดยปกติเขาหวังว่าดงซูบินเป็นคนที่ทําให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ สิ่งที่เขาได้รับจากพยานยืนยันความสงสัยของเขา ดงซูบินมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้

 

อุบัติเหตุครั้งนี้บังเอิญเกินจริง!

 

ยูชินเยียนไปที่ห้องเฝ้าระวังทันที่เพื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด

 

ในบันทึกของกล้องวงจรปิดพฤติกรรมแปลก ๆ ของดงซูบินยืนยันความสงสัยของฮยินเก่าแต่หลังจากตรวจสอบภาพทั้งหมดก่อนเกิดอุบัติเหตุเขาสังเกตเห็นว่า ดงซูบินไม่เคยเข้าใกล้หรือทําอะไรกับลิฟต์เลย เป็นไปไม่ได้ที่จะทําให้ลิฟต์ตกลงมาโดยการกดปุ่ม ต้องมีคนเข้าไปในปล่องลิฟต์เพื่อตัดสายเคเบิลหรือเข้าไปยุ่งกับเครื่องยนต์ลิฟต์จากภายใน แต่ดงซูบินไม่ได้ เข้าใกล้ปล่องลิฟต์หรืออยู่ในลิฟต์นานเกินไป

 

หรือว่าดงซูบินจะจ้างคนให้มาก่อเหตุนี้?

 

อูยินก่าดําเนินการสอบสวนต่อ แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดหวัง

 

ไม่มีใครซ่อมหรือเข้าไปในปล่องลิฟต์ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาและไม่มีการบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด!

 

รองหัวหน้าสํานักกงจงเหวินก็มาที่โรงพยาบาลเช่นกัน เมื่อเขาเห็นฮยินเก่าเชื่อมั่นว่าดงซูบินเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุเขาพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ หัวหน้าหูถ้าเป็นหัวหน้าซูบินที่พยายามฆ่าหัวหน้าเหมิงในอุบัติเหตุครั้งนี้หัวหน้าซูบินต้องเตรียมการเช่นเข้าไปในปล่องลิฟต์หรือคลายสกรูและน็อตออก แต่ไม่มีใครรวมถึงหัวหน้าซูบินได้เข้าไปในปล่องลิฟต์ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเขาจะควบคุมลิฟต์ให้ตกลงมาในขณะที่ชอบได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ไม่มีใครรู้ว่าหัวหน้าเหมิงจะมาที่โรงพยาบาลในวันนี้ ถ้าหัวหน้าซูบินวางแผนที่จะฆ่าหัวหน้าเหมิงเขารู้ได้อย่าง ไรว่าหัวหน้าเหมิงจะมาในวันนี้และเขาจะขึ้นไปชั้นห้า? เขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่าหัวหน้าเพิ่งจะเป็นคนที่ใช้ลิฟต์ไม่ใช่คนอื่น”

 

หัวหน้ากงได้กล่าวถึงบางสิ่งที่สําคัญ อุบัติเหตุนี้ไม่ได้วางแผนไว้

 

มันไม่มีหลักฐานอื่นเลย! ไม่มีใครสามารถทําให้ลิฟต์ตกได้ภายในไม่กี่นาที!

 

ที่ลิฟต์ช่างเทคนิคที่กําลังตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุสรุปว่าลิฟต์ล้มเหลวเนื่อง จากชิ้นส่วนสึกหรอและไม่มีร่องรอยว่ามีใครเข้าไปงัดแงะ ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ

 

ฮูยินเก่าปฏิเสธที่จะยอมรับและดําเนินการสอบสวนต่อไป แต่สุดท้ายเขาต้องยอมรับว่าดงซูบินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุของเหมิงเซียวรินแต่อย่างใด

 

หลักฐานและตรรกะไม่ได้ชี้ไปที่ดงซูบิน

 

เหตุการณ์นี้ยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ

 

แต่ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่านี่เป็นอุบัติเหตุ แต่ก็ยังน่าตกใจ!

 

เหลียงเฉิงเผิงตบหน้าผากของเขาหลังจากอ่านรายงานเหตุการณ์

 

เชียงดาวซึ่งทํางานอยู่ที่อาคารคณะกรรมการพรรคขมวดคิ้ว

 

เสี่ยวหลานส่ายหัวและยิ้ม ยูชินเยียนเลขานุการของเธอกําลังมองไปที่เธอพยายามที่จะกลั้นเสียงหัวเราะของเธอ

 

ทุกคนรู้จักชื่อเล่นของหัวหน้าดง ฉายา ‘เทพเจ้าแห่งความโชคร้าย” ถูกมอบให้กับเขาหลัง จากคดีจินเดอแมนชั่น เนื่องจากขาดหลักฐานเฉียนเฟยจึงถูกปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไขและมีกระถางดอกไม้หล่นใส่เขาในวันเดียวกับที่เขาได้รับการปล่อยตัว ผลกระทบทําให้สมองของเฉียนเฟยเสียหายอย่างหนักและเขายังคงอยู่ในโรงพยาบาล เมื่อกระถางดอกไม้หล่นลงบนเฉียนเฟยหัวหน้าซูบินก็อยู่ข้างๆเขาและคนหลังก็รู้สึกไม่พอใจกับเขามาก

 

มันเกิดขึ้นอีกครั้ง

 

คราวนี้ลิฟต์ตก!

 

สิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับคนที่มีความแค้นกับ ดงซูบินครั้งแรกคือกระถางดอกไม้ที่ตกลงมาและตอนนี้มันเป็นลิฟต์ที่ตกลงมา

 

ตอนนี้แม้แต่ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าในสํานักก็ยังเกิดความสงสัยขึ้นมาเช่นกัน!

 

หัวหน้าซูบินถูกเรียกว่า “พระเจ้าแห่งความโชคร้าย” เป็นเพราะอะไร!

 

มันดูมีบางอย่างที่ผิดปกติ