POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) 218

Now you are reading POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) Chapter 218 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

EP 218 ความเข้าใจผิดของดงซูบิน

By loop

วันนี้มันเป็นวันที่แสนสดใสในช่วงฤดูร้อนและดวงอาทิตย์นั้นส่องแสงกระทบลงมาทำให้สภาพแวดล้อมภายนอกดูอบอุ่น

 

ดงซูบินนั้นทานแป้งโดว์ 2 แท่งจากร้านอาหารเช้าระหว่างเดินทางไปธนาคาร ICBC เพื่อโอนเงิน 5 ล้านหยวนคืนให้กับฉูหยวนแน่นอนว่าบริษัทประมูลของเขา ยังคงต้องการเงินจำนวนนี้ในการดำเนินการและ ดงซูบินเองเก็บเงินได้เพียง 1.8 ล้านที่เขาได้รับจากตลาดหุ้น เงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับเขาที่จะซื้อรถใหม่และอพาร์ตเมนต์ ส่วนที่เหลือน่าจะเพียงพอเหลือเก็บไว้ใช้ในอนาคต

 

ระหว่างทางกลับไปที่ที่พัก ดงซูบินได้พบกับหยูเหมยเซียว ที่กำลังกลับมาจากตลาด

 

หยูเหมยเซียวนั้นไม่เห็น ดงซูบินและเธอกำลังใช้โทรศัพท์ของเธออยู่ เสียงของเธอนุ่มนวลและเขินอาย “ ฉัน…ฉันถึงบ้านแล้ว…แล้ววันอื่นล่ะ? วันนี้ฉันยุ่ง…ฉันต้องทำอาหารให้หัวหน้าซูบิน…. ใช่…ขอโทษ…ครั้งหน้า…โอเค…” หยูเหมยเซียพูดเบา ๆ และดูเหมือนจะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเธอ หลังจากวางสายเธอก็ถอนหายใจ

 

ดงซูบินเดินผ่านไป “ พี่หยู พี่กำลังคุยกับใครอยู่หรอ”

 

หยูเหมยเซียวตกใจและโบกมืออย่างรวดเร็ว “ ไม่มีใคร…”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกอิจฉากับคนที่อยู่ปลายสายของหยูเหมยเซียว แต่พยายามยิ้มเพื่อกบเกลื่อน “ ผู้ชายเหรอ” หยูเหมยเซียวก้มหัวลง ดงซูบินมองไปที่เธอและถาม “ แสดงว่าชายคนนั้นน่าจะอยากจีบพี่และอยากเดทกับพี่หรือเปล่า”

 

 

 

 

 

 

 

หยูเหมยเซียวลดศีรษะลงและหน้าแดง “ เขาเป็นตำรวจซึ่งฉันรู้จักตอนโอนทะเบียนบ้าน เขา…สองสามวันนี้…เขาเอาแต่โทรมาถามฉัน แต่หัวหน้าซูบิน ฉันไม่เห็นด้วยเลยที่จะเจอกับเขา…ฉันทานอาหารกับเขาในวันที่เขาช่วยฉันลงทะเบียนให้เสร็จเท่านั้น เขาช่วยเหลือฉันแล้วและฉันก็ปฏิเสธคำเชิญของเขาไม่ได้ ถ้าไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างงี้ฉันก็จะไม่ไปทานอาหารกับเขาแน่นอน…จริงๆนะ…”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีแต่เก็บอารมณ์ซ่อนไว้ “ทุกอย่างปกติดี. ถ้าเขาถามพี่อยู่อีกครั้งในครั้งหน้า พี่เองไม่จำเป็นต้องกังวลว่าฉันจะไม่พอใจนะ”

 

หยูเหมยเซียวเองถึงกับตื่นตระหนก “ ฉัน…ฉันจะลบเบอร์เขาตอนนี้และจะไม่ติดต่อเขาอีกในอนาคต”

 

ดงซูบินเองยิ้มออก “ พี่หยูไม่จำเป็นต้องลบเบอร์ของเขา ไปกันเถอะ. ถ้าพี่ไม่ได้ออกไปเดทกับเขา เราก็จะกลับบ้านเดี๋ยวนี้”

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ใบหน้าของหัวหน้าซูบินอย่างลับๆ เธอไม่สามารถบอกได้ว่าดงซูบินกำลัง โกรธอยู่หรือเปล่า

 

ดงซูบินเองก็ไม่ได้โกรธหยูเหมยเซียวมากนัก แน่นอนว่าหยูเหมยเซียวเองก็ควรที่จะมีเพื่อนบ้าง นอกจากนี้เธอยังอายุไม่มากและยังมีลูกสาวด้วย แม้ว่าเธอต้องการจะหาใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ดงซูบินเองก็ก็ไม่มีเหตุผลที่จะหยุดเธอ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ดงซูบินก็ยังรู้สึกอิจฉาชายคนนั้น เพราะลึกๆแล้วดงซูบินเองก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเธออยู่

 

หลังจากเข้าไปในบ้านหยูเหมยเซียว ถามหยูเซียวเซียว “ พี่สาวลวนกลับไปแล้วเหรอ”

 

หยูเซียวเซียววางหนังสือลงและพยักหน้า “ อาจารย์ลวนกลับไปโรงเรียนแล้ว พี่ใหญ่ พี่กลับมาแล้ว!”

 

ดงซูบินยิ้มและลูบหัวหยูเซียวเซียว “ ทำไมวันนี้เธอไม่ไปอยู่ที่โรงเรียนล่ะ”

 

“ ใกล้จะสอบปลายภาคเรียนแล้วครูของหนูก็ให้นั่งทำการบ้านอยู่ที่บ้าน”

 

“ตกลง. เตรียมความพร้อมสำหรับการสอบของเธอให้ดี เธอต้องทำให้ดีที่สุด” ดงซูบินสัญญากับหยูเซียวเซียวว่า “ ถ้าเธอสอบได้ที่ต้นๆได้ ในโรงเรียน ฉันจะซื้ออะไรก็ได้ที่เธอต้องการให้”

 

หยูเซียวเซียวกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอย่างตื่นเต้นและกลับไปที่ห้องเพื่อตั้งใจอ่านหนังสือต่อ

 

หลังจากประตูห้องนอนปิดดงซูบินยิ้มและถาม “ แม่ของฉันมาที่นี้ก่อนหน้านี้หรือเปล่า”

 

หยูเหมยเซียวพยักหน้า “ พี่สาวลวนเอาผลไม้มาให้นะคะ”

 

หลังจากนั้นไม่นานหยูเหมยเซียวก็ไปที่ห้องครัวเพื่อล้างผลไม้

 

บี๊บบี๊บบี๊บ เป็นการแจ้งเตือนทาง SMS ดงซูบินซึ่งกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นเห็น หยูเหมยเซียวมองออกไปนอกห้องครัวอย่างลับๆจากมุมตาของเขา เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและอ่าน SMS หลังจากนั้นเธอก็เช็ดมือและเริ่มแตะโทรศัพท์ ดูเหมือนเธอจะพิมพ์ตอบกลับ แต่เธอช้ามาก เธอใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการพิมพ์คำตอบ

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกอิจฉาอีกครั้งและเข้าไปในห้องของหยูเซียวเซียว

 

“พี่ชาย.” หยูเซียวเซียวเงยหน้าขึ้นมองดงซูบิน

 

ดงซูบินปิดประตูตามหลังเขาและถามเบา ๆ “ แม่ของเธอกำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า”

 

หยูเซียวเซียวเองก็หน้าแดง “ หนู…หนูก็ไม่รู้ แต่ไม่กี่วันมานี้มีคนโทรหาเธอ หนูถามเธอว่าเป็นใครเธอก็บอกว่าเป็นตำรวจจากแผนกทะเบียนบ้าน”

 

ดงซูบินถามต่อ “ เธอเคยเจอเขาไหม? เขาหน้าตาเป็นยังไง?”

 

“ ไม่ หนูไม่เคยเจอเขาเลย”

 

“ตกลง. ทุกอย่างปกติดี. ตั้งใจอ่านหนังสือต่อไปนะ” ดงซูบินออกจากห้องและไปที่ห้องครัว

 

หยูเหมยเซียวที่ยังคงพยายามตอบกลับ SMS รีบวางโทรศัพท์ของเธอ “ ผลไม้ใกล้ปลอกเสร็จแล้วนี้ รอสักครู่นะคะ”

 

ดงซูบินเองก็ยิ้ม “ พี่หยูส่ง SMS ต่อเถอะ ฉันไม่ได้รีบร้อนเลย โอ้ผู้ชายคนนั้นจากทะเบียนบ้านเหรอ? นิสัยของเขาเป็นอย่างไร”

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ดงซูบินและตอบกลับเบา ๆ “ ฉันคิดว่าบุคคลิกของเขาค่อนข้างดี”

 

ดงซูบินถาม “ สภาพครอบครัวของเขาเป็นอย่างไร? ครอบครัวของเขามีกี่คน”

 

“ เขาเป็นลูกชายคนเดียวและสภาพครอบครัวของเขาถือว่าดี เขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเขา” หยูเหมยเซียว ตอบและอธิบายอย่างรวดเร็ว “ ฉันไม่ได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเป็นคนที่บอกฉันเกี่ยวกับครอบครัวของเขา หัวหน้าซูบิน…ที่จริง…ฉัน….” หยูเหมยเซียว พูดติดอ่าง “ หัวหน้าซูบินฉันขอพูดคุยกับคุณได้ไหม? ฉัน…ฉันอยากจะย้ายออกไปกับหยูเซียวเซียว”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกประหลาดใจและอารมณ์ของเขาก็ดูแย่ลงด้วย

 

หยูเหมยเซียวอธิบายอย่างรวดเร็ว “ ฉันไม่ได้หมายความว่าอะไร ฉันแค่รู้สึกว่าการอยู่ที่นี่จะ…รบกวนคุณ”

 

ดงซูบินถอนหายใจในใจ “ พี่หยูจะออกไปเมื่อไหร่”

 

“ ฉันจะมองหาอพาร์ตเมนต์ใกล้ ๆ ในช่วงบ่ายวันนี้” หยูเหมยเซียว พูดต่อ “ ฉันจะยังคงกลับมาทุกวันเพื่อเตรียมอาหารให้คุณนะ”

 

ตงซู่ปิงโบกมือ “ วางผลไม้ไว้ที่นั่นและนำบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านมาด้วย”

 

หยูเหมยเซียวตะลึง แต่ไม่กล้าถามว่าดงซูบินจะเอาของพวกนั้นไปทำอะไร เธอไปที่ห้องของเธอเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและนำบัตรประจำตัวมาด้วย พวกเขาเดินออกจากที่พักของครอบครัวและเธอก็ถาม “ หัวหน้าซูบินพวกเรา…พวกเราจะไปเช่าอพาร์ทเมนต์กันไหม”

 

“ใช่.”

 

อสังหาริมทรัพย์หัวเหมย. นี่คืออสังหาริมทรัพย์ระดับกลางมันตั้งขึ้นมาอายุหนึ่งปีในบริเวณใกล้เคียงและอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกสบาย มีร้านค้าและอาหารอยู่ใกล้ ๆ รถแท็กซี่จอดอยู่หน้าที่ดินและ ดงซูบินเข้าไปในที่นั้นโดยมีหยูเหมยเซียวอยู่ข้างหลังเขา หยูเหมยเซียวเองก็รู้สึกไม่สบายใจและไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าซูบิน ถึงพาเธอมาที่นี่ ค่าเช่าสถานที่นี้แพง นอกจากนี้ยังเป็นตึกใหม่ จะมียูนิตให้เช่าอย่างงั้นหรอ?

 

ห้องตัวอย่างนี้ถูกถอดออกมาให้ผู้สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมห้องก่อนและเป็นผู้บริหารอาคารที่ดูแลการขายอยู่ในขณะนี้

 

ดงซูบินมองไปรอบ ๆ และรู้ว่าหน่วยงานส่วนใหญ่ถูกยึดไปแล้ว เขาเข้าไปในสำนักงานบริหารอาคารและถาม “ มีหน่วยงานใหม่หรือป่าว”

 

หยูเหมยเซียวถึงกับตะลึง “ หัวหน้าซูบิน คุณคือ…”

 

ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสูทธุรกิจตอบ “ ขายหมดแล้วและเราเหลือห้องตัวอย่างเพียงห้องเดียว”

 

ดงซูบินคิดชั่วขณะ “ เอาล่ะ. พาผมไปดูห้องนั้นหน้อย”

 

ห้องตัวอย่างมีไว้เพื่อรองรับผู้ซื้อในการดูห้องชุดจริง พาร์ติชันและรูปแบบของยูนิตเหมือนกับส่วนที่เหลือของอพาร์ทเมนต์ในอาคาร แต่โดยปกติแล้วจะอยู่ชั้นล่าง ยูนิตเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดและราคาถูกกว่าเล็กน้อย

 

ห้องตัวอย่างนี้ตั้งอยู่ในอาคารอพาร์ตเมนต์ 1 ยูนิต 101 และมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน

 

ดงซูบินมองไปรอบ ๆ และพอใจกับมัน “ ยูนิตนี้ใหญ่แค่ไหนและราคาเท่าไหร่”

 

ผู้หญิงคนนั้นตอบ “ ยูนิตนี้เป็นแบบ 2 ห้องนอนพื้นที่ประมาณ 80 ตรม. รวมอยู่ที่ประมาณ 300,000 หยวนและ 4,100 หยวนต่อตรม. ” อพาร์ทเมนท์แห่งนี้ถือว่ามีราคาแพงมาสำหรับเมืองหยางไท่ แต่เมื่อเทียบกับปักกิ่งที่ต่อตรมราคาเป็นหมื่นนี่ถือเป็นราคาที่ถูกมาก

 

ดงซูบินถามรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อยและเดินไปรอบ ๆ หน่วย

 

หยูเหมยเซียวชอบยูนิตนี้เช่นกันและเธอก็มองไปรอบ ๆ

 

ดงซูบินรู้ว่าความรู้สึกของ พี่สาวหยูเป็นอย่างไร ไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลังจากครอบครัวของดงซูบินขายบ้านของพวกเขาแม่ของเขาและเขาก็คิดที่จะหาบ้านเป็นของตัวเองอีกครั้ง แตกต่างจากการเช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยที่ไม่ว่าบ้านเช่าจะใหญ่โตแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ได้เป็นของพวกเขา

 

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมาดงซูบินก็บอกกับเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น “ขอบคุณ. เราจะขอดูรอบ ๆ ก่อน”

 

หลังจากผู้หญิงคนนั้นจากไหยูเหมยเซียว ก็ถาม “ ทำไมคุณถึงพาฉันมาดูอพาร์ทเมนต์นี้”

 

ดงซูบินไม่ได้พูดอะไรมากและหยิบบัตรธนาคารออกมาและส่งให้หยูเหมยเซียว “ รหัสของบัตรคือวันเกิดของฉัน ฉันเป็นข้าราชการและไม่เหมาะที่จะใช้ชื่อตัวเอง พี่หยูจะซื้ออพาร์ทเมนต์นี้ภายใต้ชื่อของพี่และชำระเงินเต็มจำนวน หากฝ่ายบริหารอาคารไม่สามารถดำเนินธุรกรรมได้ในวันนี้พี่หยูต้องวางเงินมัดจำก่อน”

 

หยูเหมยเซียวอ้าปากค้าง “ หัวหน้าซูบิน…คุณต้องการซื้ออพาร์ทเมนต์นี้อย่างงั้นหรอ”

 

ดงซูบินพยักหน้า “ ฉันจะรอพี่อยู่ที่นี่”

 

หยูเหม่ยเซียว รู้ว่าหัวหน้าซูบินั้นร่ำรวยและเมื่อเขาช่วยเธอจ่ายหนี้เขาก็เอาเงิน 200,000 หยวนออกไปในคราวเดียว หยูเหมยเซียวไม่รู้ว่าหัวหน้าซูบินได้เงินมาจากไหนและยังสงสัยว่าเขารับสินบนหรือป่าว แต่จนกระทั่งเธอได้เห็นดงซูบิน ซื้อขายหุ้นเมื่อวันก่อนเธอก็เข้าใจ หยูเหมยเซียวเห็นหัวหน้าซูบินเงียบและเธอไม่กล้าถามอะไร เธอหยิบบัตรธนาคารติดตัวแล้วเดินไปที่สำนักงานบริหารอาคาร

 

หยูเหมยเซียวกลับมาหลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงและคืนบัตรธนาคารและใบเสร็จรับเงินให้ ดงซูบิน “ การทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์”

 

ดงซูบินหยิบบัตรธนาคารจากเธอและถาม “ชำระเต็มจำนวนหรือไม่”

 

“ใช่. พวกเขาบอกว่าวันนี้เราสามารถย้ายเข้าได้ แต่ยังมีเอกสารบางอย่างที่เราต้องกรอกเพิ่มเติมอีก”

 

ดงซูบินเองก็พยักหน้า “ไปกันเถอะ.”

 

หยูเหมยเซียวยื่นใบเสร็จให้ดงซูบิน “ นี่คือใบเสร็จรับเงิน คุณ…”

 

“ ฝากไว้กับพี่หยูก่อน”

 

เป็นเวลาประมาณเที่ยงเมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน หยูเซียวเซียวอยู่ในห้องนั่งเล่นดื่มโค้กหนึ่งกระป๋อง “ แม่ค่ะพี่ใหญ่ไปไหนมากัน? หนูหิวแล้ว.”

 

ดงซูบิน ตอบด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง “ เราไปซื้ออพาร์ตเมนต์มา”

 

ดวงตาของหยูเซียวเซียวเบิกกว้างขึ้น “ ซื้ออพาร์ทเมนต์? พี่ใหญ่ตอนนี้พี่ใหญ่ไม่มีอพาร์ตเมนต์หรือ?”

 

หยูเหมยเซียวเช็ดหน้าลูกสาวเบา ๆ “ อพาร์ตเมนต์พี่ใหญ่ของลูกอาศัยอยู่ตอนนี้เป็นของทางราชการ”

 

ดงซูบินนั่งลงบนโซฟาและโบกมือให้พวกเขา “ เซียวเซียวพี่หยูมานี้หน่อย ฉันมีบางอย่างจะพูดกับทั้งสองคน” คู่แม่และลูกสาวเดินผ่านไปและ ดงซูบินก็พูดต่อ “ ทั้งสองไปเก็บข้าวของกันหมดแล้ววันนี้ทั้งสองคนจะย้ายไปที่อพาร์ตเมนต์ฮัวเหม่ย”

 

หยูเหมยเซียวถึงกับตกใจ “ เราจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร?! เรา…เช่าห้องก็พอแล้ว!”

 

ดงซูบินส่ายหัว “พี่สาวหยูฉันจะให้อพาร์ตเมนต์นี้กับพี่และนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันช่วยพี่ด้วย”

 

หยูเหมยเซียวจับมือของเธอ “ ไม่…ไม่…เราไม่สามารถรับสิ่งต่างๆจากคุณได้อีกแล้ว อพาร์ทเมนต์นั้นเกือบ 400,000 หยวน ฉัน…”

 

ดงซูบินพูดขัดเธอขึ้นมา “ นั่งลงและฟังฉัน พี่สาวหยู ฉันอายุน้อยกว่าพี่สาวหยูมากและฉันไม่ควรบอกเรื่องนี้กับพี่ แต่…เมื่ออายุมากแล้วหยูเซียวเซียวเองก็ยังเด็ก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถเลี้ยงเธอได้ตามลำพัง พี่สาวหยูควรไปพบเจอคนที่ดูแลพี่สาวหยู เอิ่ม…เจ้าหน้าที่จากแผนกทะเบียนบ้านก็ยินดีกับพี่สาวหยูใช่มั้ย? พี่ควรตัดสินใจด้วยตัวพี่เอง ถ้าพี่คิดว่าผู้ชายคนนั้นดีกับพี่และเซียวเซียวพี่ควรจะไปสานสัมพันธ์กับเขาต่อและออกไปอยู่กันสองคน”

 

หยูเหมยเซียวกำลังจะหลั่งน้ำตา “ ไม่…หัวหน้าซูบิน…ไม่ใช่แบบนี้!”

 

ดงซูบินขัดจังหวะเธออีกครั้ง “ การเป็นผู้ช่วยของฉันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาวและพี่ควรใช้ชีวิตของตัวเอง ผู้ชายคนนั้นยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่และไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง? หากทั้งสองคนตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกัน ทุกคนสามารถอยู่ที่นั่นได้หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันแล้ว แค่ถือว่าอพาร์ทเมนต์นั้นเป็นของขวัญแต่งงานจากฉัน โอ้ฉันจะช่วยพี่หางานหลังจากนี้ด้วย ถ้าพี่สาวหยูต่งงานพี่ควรหยุดทำงานเป็นผู้ช่วย”

 

แม้ว่า ดงซูบินจะไม่เต็มใจมากนัก แต่เขาก็ยังคงเคารพการตัดสินใจของหยูเหมยเซียว ทุกคนที่รู้จักดงซูบิน รู้ดีว่าเขาปฏิบัติต่อเพื่อนและญาติของเขาดียิ่งกว่าการปฏิบัติต่อตัวเอง เขาได้พิจารณาเกี่ยวกับอนาคตของหยูเหมยเซียวด้วยอพาร์ทเมนต์สามีและงานใหม่เธอไม่ควรมีความทุกข์ในอนาคต

 

ดวงตาของหยูเซียวเซียวเปลี่ยนเป็นสีแดง “แม่! เราต้องไปไหม”

 

หยูเหมยเซียวกัดริมฝีปากล่างของเธอและกลั้นน้ำตาของเธอ

 

หยูเซียวเซียว มองไปที่ดงซูบินและจับแขนแม่ของเธอ “แม่! หนู…หนูไม่อยากไป! เราอยู่ที่นี่ได้ไหม” หยูเซียวเซียวไม่ได้พบกับเจ้าหน้าที่คนนั้นจากแผนกทะเบียนบ้าน แต่เธอรู้ว่าไม่มีใครปฏิบัติกับเธอได้ดีไปกว่าหัวหน้าซูบินแล้ว เธอรักที่นี่และชอบพี่ใหญ่คนนี้

 

หยูเหมยเซียวกัดฟันและพูด “ หัวหน้าซูบินฉันไม่ต้องการงานอื่น ฉัน…ฉันจะเป็นผู้ช่วยของคุณไปตลอดชีวิต”

 

ดงซูบินหัวเราะ “ พี่หยูพูดแบบนี้ได้อย่างไร? rujจะยังคงเป็นผู้ช่วยของฉันหลังจากแต่งงานได้อย่างไร? นี้ไม่ถูกต้อง.”

 

“ ฉัน…ฉันจะไม่แต่งงานอีกแล้ว! เจ้าหน้าที่คนนั้นกับฉัน … เราไม่ได้คบกัน! จริงๆ!”

 

“ แล้วถ้าพี่หยูพบว่านั้นเป็นผู้ชายในอนาคตล่ะ? ฟังฉันและยอมรับอพาร์ทเมนต์นั้น อย่างไรก็ตามบ้านหลังนั้นอยู่ภายใต้ชื่อของพี่และพี่สามารถอยู่ที่นั่นได้หลังจากแต่งงานแล้ว” ดงซูบินกลัวว่าคำพูดของเขาจะดูเหมือนเป็นการห้ามเธอ “ เอาล่ะ. ไปเก็บข้าวของของพี่”

 

หยูเซียวเซียวตื่นตระหนก “แม่! แม่!”

 

ดงซูบินลูบหัวหยูเซียวเซียว “ เซียวเซียวเธอเป็นคนดีนะ ฉันจะไปเยี่ยมเธอเมื่อฉันว่าง”

 

หยูเหมยเซียวไม่สามารถกลั้นน้ำตาของเธอได้อีกต่อไปและร้องไห้!

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกปวดใจมาก “ พี่สาวหยูอย่าทำแบบนี้ นี้ไม่ใช้การอำลากัน”

 

หยูเหมยเซียวร้องไห้ดังขึ้น “ หัวหน้าซูบิน…สะอื้น…เจ้าหน้าที่คนนั้นกับฉันไม่ได้อยู่ด้วยกัน…สะอื้น…ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขา…เขาเป็นคนที่ติดพันฉัน…ฉัน…สะอื้น…ฉันไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไง…สะอื้น…ฉันไม่ ไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งงานอีกครั้ง…ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน…สะอื้น…ฉันไม่ต้องการอพาร์ทเมนต์นั้น…ฉันไม่ต้องการอะไร…” ต

 

ดงซูบินเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของหยูเหม่ยเซียวอย่างรวดเร็ว “ อย่าร้องไห้…มันเป็นความผิดของฉันเอง…ฉันขอโทษโอเค”

 

หยูเหมยเซียวเช็ดน้ำตาและพูด “ โปรดเชื่อฉัน…ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา!”

 

ดงซูบินเองรู้สึกหนักใจ เขายิ้ม. “ เอาล่ะ…ฉันเชื่อพี่ หยุดร้องไห้. อย่าปล่อยให้ลูกสาวของพี่หยูหัวเราะเยาะคุณ”

 

“ สะอื้น…ที่ฉันอยากเช่าห้องข้างนอกคือ…เป็นเพราะพี่สาวลวนบอกฉัน…สะอื้น…บอกฉันว่าคุณมีปัญหามากมาย…และคุณยังบังคับให้เลขาธิการพรรคของมณฑลออกไปด้วย พี่สาวลวนกลัวว่า…สบ…อาจมีคนใช้ประโยชน์จากเซียวเซียวกับฉันเป็นข้ออ้างในการแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับคุณ…และมันอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพการงานของคุณ…เธอต้องการให้เราย้ายไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ…สะอื้น…ฉันรู้ว่าคุณทำให้หลายคนขุ่นเคือง เพราะฉัน…และฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้คุณอีกแล้ว…นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องการเช่าห้องข้างนอก…สะอื้น…ฉันไม่อยากย้ายออก…ฉันอยากอยู่ที่นี่

 

ดงซูบินตระหนักว่าเขาเข้าใจ หยูเหมยเซียวผิดมาตลอด หยูเหมยเซียวไม่ต้องการย้ายออกเพราะเธอต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เป็นแม่ของเขาที่กลัวว่าเขาจะมีปัญหามากขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่ ดงซูบินทุบรถเบนซ์ระหว่างงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องแม่ของเขากังวลว่าเขาจะมีปัญหามากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เธอต้องการให้ หยูเหมยเซียว และหยูเซียวเซียว ย้ายไปอยู่กับเธอ!

 

อา! นี้ฉันเข้าใจผิดมาตลอดเลยหรอ!

 

ดงซูบินใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาของหยูเหมยเซียว และปลอบใจเธอ “ เอาล่ะ. ถ้าไม่อยากจากไปก็อยู่ต่อเถอะ พี่สาวหยูสามารถอยู่ได้นานเท่าที่พี่ต้องการ”

 

หยูเหมยเซียวส่ายหัว “ ฉันสร้างปัญหากับคุณไม่ได้อีกแล้ว สะอื้น…ฉันเช่าห้องอยู่และอาศัยอยู่กับเซียวเซียว แต่ฉันจะยังคงทำงานให้คุณ”

 

ดงซูบินลูบผมยาวของหยูเหมยเซียว “ เอาล่ะเอาล่ะ…ทำในสิ่งที่พี่หยูต้องการ หยุดร้องไห้ได้ไหม”

 

หยูเหมยเซียวหยุดสะอื้นหลังจากได้ยินคำตอบของดงซูบิน “ จากนั้นฉันจะมาทำอาหารและทำความสะอาดบ้านให้คุณทุกวันและจะกลับไปที่ห้องเช่าในตอนกลางคืน”

 

ดงซูบินพยักหน้า

 

ในที่สุดหยูเหมยเซียวก็หยุดร้องไห้และเช็ดน้ำตาด้วยทิชชู่

 

ดงซูบินส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ถูกการร้องไห้การขว้างปาอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นอาวุธของผู้หญิงที่ต่อสู้กับผู้ชาย ในที่สุดเขาก็ได้ประสบกับมันในวันนี้ หลังจากที่หยูเหมยเซียว สงบลงดงซูบิน กล่าว “ พี่สาวหยูเราจ่ายค่าอพาร์ทเมนต์แล้วและไม่สามารถขอเงินคืนได้ ย้ายไปที่ฮัวเหม่ยด้วยกันเถอะ เราจะยังอยู่ด้วยกันและจะไม่มีใครนินทาฉันที่นี้ ฉันกลับไปที่อพาร์ทเมนต์นี้เพื่อพักสักครั้ง คุณคิดยังไงกับสิ่งนี้?”

 

หยูเหมยเซียวหน้าแดง “ ฉัน…ฉันจะเชื่อคุณ”

 

หยูเซียวเซียวส่งเสียงเชียร์และกอดแม่ของเธอ

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ดงซูบิน “ แต่อพาร์ทเมนต์นั้นต้องอยู่ภายใต้ชื่อของคุณ”

 

“ ฉันบอกว่านั่นคือของขวัญของฉันสำหรับพี่สาวหยู ถ้าพี่สาวหยูจะแต่งงานในอนาคตอพาร์ทเมนต์…”ดงซูบินชะงักเมื่อเห็นดวงตาของหยูเหม่ยเซียเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง “ เราควรคิดถึงเซียวเซียวด้วย แม้ว่าพี่สาวหยูจะไม่ต้องการพี่สาวหยูก็สามารถเก็บไว้เป็นสินสอดของเซียวเซียวได้”

 

หยูเซียวเซียวก้มหน้าลงอย่างเขิน ๆ และพึมพำอะไรบางอย่าง

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ลูกสาวของเธอและเช็ดน้ำตาของเธอด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณ. ฉันจะหาเงินมาตอบแทนคุณให้เร็วที่สุด”

 

“ มีอะไรให้ที่จะต้องตอบแทนหรอก? อพาร์ทเมนต์นั้นเป็นของขวัญของฉันสำหรับเซียเวียว และไม่ใช่สำหรับพี่สาวหยูแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ”

 

หยูเหมยเซียวเองก็ไม่มีที่อยู่อาศัยแล้วและสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือลูกสาวของเธอ เธอไม่สามารถปฏิเสธอพาร์ตเมนต์ของ ดงซูบิน ได้อีกต่อไปเพราะเธอต้องพิจารณาอนาคตของลูกสาวของเธอ หลังจากที่เฉียนเฉียนเติบโตขึ้นเธอก็จะแต่งงานและต้องการบ้านของเธอเอง

ดงซูบินเองพอใจกับผลลัพธ์นี้ เขายิ้มและกล่าวว่า “ ไปเก็บของแล้วย้ายไปอพาร์ทเมนต์ใหม่กันเถอะ!”

 

หยูเซียวเซียววิ่งกลับไปที่ห้องของเธอด้วยความตื่นเต้นเพื่อเก็บของ

 

ขณะที่ หยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียว กำลังเก็บของดงซูบินเดินไปที่ระเบียงและโทรหาแม่ของเขา “ แม่ผมเพิ่งซื้ออพาร์ทเมนต์ให้พี่สาวยู อยู่ที่ ฮัวเหม่ย เอ่อ… แต่หยูเซียวเซียวคิดถึงผมและผมอาจจะอยู่ที่นั่นสักสองสามวันเมื่อตอนผมว่าง” ดงซูบินเองนั้นแหละที่เป็นคนที่คิดถึงพวกเธอและไม่ต้องการให้พวกเธอจากไป แต่เขาบอกเรื่องนี้กับแม่ไม่ได้

 

กลางดึก.

 

ฮัวเหมยเอสเตท.

 

หยูเซียวเซียวยังคงรู้สึกตื่นเต้นกับอพาร์ทเมนต์ใหม่ เธอเข้าออกทุกห้องตั้งแต่ช่วงบ่าย

 

หยูเหมยเซียวเองก็ดูอารมณ์ดีเช่นกัน หลังจากไม่มีที่อยู่อาศัยมานานในที่สุดเธอก็มีที่อยู่

 

ดงซูบินเคยคิดจะซื้ออพาร์ทเมนต์สำหรับหยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียวมาก่อนหน้านี้แล้วเขายังคงสับสนว่าฉูหยวน หรือ เสี่ยวหลานใครเป็นแฟนของเขา แต่เขารู้ดีว่าถ้าคนใดคนหนึ่งมาเยี่ยมเขาหยูเหมยเซีว และ หยูเซียวเซียว จะไม่สามารถอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของครอบครัวของเขาได้ เขาจะต้องแย่แน่หากปล่อยให้พวกเธออยู่ที่นั่น กล่าวอีกนัยหนึ่งคู่แม่ลูกคู่นี้เป็นระเบิดเวลาและฉูหยวน และ เสี่ยวหลานจะต้องไม่พบพวกเธอ ตอนนี้ด้วยอพาร์ทเมนต์ใหม่สำหรับพวกเขาดงซูบินเองรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

 

เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ดงซูบินก็รู้สึกหนักใจและไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากเขาไม่รู้จะทำอย่างไรเขาจึงตัดสินใจที่จะหยุดคิดถึงเรื่องนี้และมีความสุขกับชีวิตของเขาในตอนนี้

 

“ พี่ใหญ่หนูควรวางแจกันนี้ไว้ที่ไหน” หยูเซียวเซียวถือแจกันใบใหญ่ออกมา

 

ดงซูบินหัวเราะ “ เธอเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์นี้ เธอสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองได้เลย”

 

“ โอ้…งั้นหนูจะวางไว้ข้างคอนโซลทีวี!”

 

หยูเหมยเซียว กลัวลูกสาวของเธออาจทำแจกันแตกจึงไปช่วยเธอ “ระวัง.”

 

ดงซูบินก็พับแขนเสื้อขึ้นและเข้าไปช่วย

 

อพาร์ทเมนท์มีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน แต่เครื่องใช้ในบ้านจะถูกส่งในวันพรุ่งนี้เท่านั้น ตอนนี้พวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ได้ตามต้องการเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้ง 3 ก็นั่งลงบนโซฟาพลางหอบ หยูเหมยเซียว หยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของดงซูบิน และ หยูเซียวเซียว กำลังกอดแขนของดงซูบินไว้

 

ดงซูบิน ยิ้มอย่างมีความสุขและโอบแขนรอบเอวหยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียวเขาลุกขึ้นยืนและพาพวกเขาไปที่ห้อง “ ฉันซื้ออพาร์ทเมนต์แล้วตอนนี้ฉันเองก็ยังต้องการรถ ช่วยเลือกรถที่เหมาะกับตัวฉันให้หน่อย”

 

หยูเหมยเซียวรู้สึกว่าแขนของดงซูบินรอบเอวของเธอและเธอก็หน้าแดง เธอรู้สึกได้ว่าดงซูบิน ปฏิบัติต่อเธอในฐานะสมาชิกในครอบครัวของเขาและเธอก็ไม่ได้หยุดเขา ตั้งแต่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตและหลังจากสามีของเธอติดการพนันเธอก็ไม่มีความรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้อีกเลย

 

ดงซูบินมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา สินทรัพย์รวมของ บริษัท ประมูลของเขามีมูลค่าเกือบ 10 ล้านและเขาถือได้ว่าเป็นเศรษฐี แต่ในขณะนี้เขาไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ การมีอพาร์ตเมนต์และรถยนต์จะเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาอย่างมีนัยสำคัญ ท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดงซูบินใฝ่ฝันเมื่อสี่ปีก่อน

 

ครอบครัวบ้านรถเงินอาชีพที่ดี…

 

ดงซูบิน รู้สึกว่าชีวิตของเขาได้รับการเติมเต็มแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) 218

Now you are reading POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) Chapter 218 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

EP 218 ความเข้าใจผิดของดงซูบิน

By loop

วันนี้มันเป็นวันที่แสนสดใสในช่วงฤดูร้อนและดวงอาทิตย์นั้นส่องแสงกระทบลงมาทำให้สภาพแวดล้อมภายนอกดูอบอุ่น

 

ดงซูบินนั้นทานแป้งโดว์ 2 แท่งจากร้านอาหารเช้าระหว่างเดินทางไปธนาคาร ICBC เพื่อโอนเงิน 5 ล้านหยวนคืนให้กับฉูหยวนแน่นอนว่าบริษัทประมูลของเขา ยังคงต้องการเงินจำนวนนี้ในการดำเนินการและ ดงซูบินเองเก็บเงินได้เพียง 1.8 ล้านที่เขาได้รับจากตลาดหุ้น เงินจำนวนนี้เพียงพอสำหรับเขาที่จะซื้อรถใหม่และอพาร์ตเมนต์ ส่วนที่เหลือน่าจะเพียงพอเหลือเก็บไว้ใช้ในอนาคต

 

ระหว่างทางกลับไปที่ที่พัก ดงซูบินได้พบกับหยูเหมยเซียว ที่กำลังกลับมาจากตลาด

 

หยูเหมยเซียวนั้นไม่เห็น ดงซูบินและเธอกำลังใช้โทรศัพท์ของเธออยู่ เสียงของเธอนุ่มนวลและเขินอาย “ ฉัน…ฉันถึงบ้านแล้ว…แล้ววันอื่นล่ะ? วันนี้ฉันยุ่ง…ฉันต้องทำอาหารให้หัวหน้าซูบิน…. ใช่…ขอโทษ…ครั้งหน้า…โอเค…” หยูเหมยเซียพูดเบา ๆ และดูเหมือนจะกลัวว่าคนอื่นจะได้ยินเธอ หลังจากวางสายเธอก็ถอนหายใจ

 

ดงซูบินเดินผ่านไป “ พี่หยู พี่กำลังคุยกับใครอยู่หรอ”

 

หยูเหมยเซียวตกใจและโบกมืออย่างรวดเร็ว “ ไม่มีใคร…”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกอิจฉากับคนที่อยู่ปลายสายของหยูเหมยเซียว แต่พยายามยิ้มเพื่อกบเกลื่อน “ ผู้ชายเหรอ” หยูเหมยเซียวก้มหัวลง ดงซูบินมองไปที่เธอและถาม “ แสดงว่าชายคนนั้นน่าจะอยากจีบพี่และอยากเดทกับพี่หรือเปล่า”

 

 

 

 

 

 

 

หยูเหมยเซียวลดศีรษะลงและหน้าแดง “ เขาเป็นตำรวจซึ่งฉันรู้จักตอนโอนทะเบียนบ้าน เขา…สองสามวันนี้…เขาเอาแต่โทรมาถามฉัน แต่หัวหน้าซูบิน ฉันไม่เห็นด้วยเลยที่จะเจอกับเขา…ฉันทานอาหารกับเขาในวันที่เขาช่วยฉันลงทะเบียนให้เสร็จเท่านั้น เขาช่วยเหลือฉันแล้วและฉันก็ปฏิเสธคำเชิญของเขาไม่ได้ ถ้าไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างงี้ฉันก็จะไม่ไปทานอาหารกับเขาแน่นอน…จริงๆนะ…”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีแต่เก็บอารมณ์ซ่อนไว้ “ทุกอย่างปกติดี. ถ้าเขาถามพี่อยู่อีกครั้งในครั้งหน้า พี่เองไม่จำเป็นต้องกังวลว่าฉันจะไม่พอใจนะ”

 

หยูเหมยเซียวเองถึงกับตื่นตระหนก “ ฉัน…ฉันจะลบเบอร์เขาตอนนี้และจะไม่ติดต่อเขาอีกในอนาคต”

 

ดงซูบินเองยิ้มออก “ พี่หยูไม่จำเป็นต้องลบเบอร์ของเขา ไปกันเถอะ. ถ้าพี่ไม่ได้ออกไปเดทกับเขา เราก็จะกลับบ้านเดี๋ยวนี้”

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ใบหน้าของหัวหน้าซูบินอย่างลับๆ เธอไม่สามารถบอกได้ว่าดงซูบินกำลัง โกรธอยู่หรือเปล่า

 

ดงซูบินเองก็ไม่ได้โกรธหยูเหมยเซียวมากนัก แน่นอนว่าหยูเหมยเซียวเองก็ควรที่จะมีเพื่อนบ้าง นอกจากนี้เธอยังอายุไม่มากและยังมีลูกสาวด้วย แม้ว่าเธอต้องการจะหาใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต ดงซูบินเองก็ก็ไม่มีเหตุผลที่จะหยุดเธอ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ดงซูบินก็ยังรู้สึกอิจฉาชายคนนั้น เพราะลึกๆแล้วดงซูบินเองก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเธออยู่

 

หลังจากเข้าไปในบ้านหยูเหมยเซียว ถามหยูเซียวเซียว “ พี่สาวลวนกลับไปแล้วเหรอ”

 

หยูเซียวเซียววางหนังสือลงและพยักหน้า “ อาจารย์ลวนกลับไปโรงเรียนแล้ว พี่ใหญ่ พี่กลับมาแล้ว!”

 

ดงซูบินยิ้มและลูบหัวหยูเซียวเซียว “ ทำไมวันนี้เธอไม่ไปอยู่ที่โรงเรียนล่ะ”

 

“ ใกล้จะสอบปลายภาคเรียนแล้วครูของหนูก็ให้นั่งทำการบ้านอยู่ที่บ้าน”

 

“ตกลง. เตรียมความพร้อมสำหรับการสอบของเธอให้ดี เธอต้องทำให้ดีที่สุด” ดงซูบินสัญญากับหยูเซียวเซียวว่า “ ถ้าเธอสอบได้ที่ต้นๆได้ ในโรงเรียน ฉันจะซื้ออะไรก็ได้ที่เธอต้องการให้”

 

หยูเซียวเซียวกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอย่างตื่นเต้นและกลับไปที่ห้องเพื่อตั้งใจอ่านหนังสือต่อ

 

หลังจากประตูห้องนอนปิดดงซูบินยิ้มและถาม “ แม่ของฉันมาที่นี้ก่อนหน้านี้หรือเปล่า”

 

หยูเหมยเซียวพยักหน้า “ พี่สาวลวนเอาผลไม้มาให้นะคะ”

 

หลังจากนั้นไม่นานหยูเหมยเซียวก็ไปที่ห้องครัวเพื่อล้างผลไม้

 

บี๊บบี๊บบี๊บ เป็นการแจ้งเตือนทาง SMS ดงซูบินซึ่งกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นเห็น หยูเหมยเซียวมองออกไปนอกห้องครัวอย่างลับๆจากมุมตาของเขา เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและอ่าน SMS หลังจากนั้นเธอก็เช็ดมือและเริ่มแตะโทรศัพท์ ดูเหมือนเธอจะพิมพ์ตอบกลับ แต่เธอช้ามาก เธอใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการพิมพ์คำตอบ

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกอิจฉาอีกครั้งและเข้าไปในห้องของหยูเซียวเซียว

 

“พี่ชาย.” หยูเซียวเซียวเงยหน้าขึ้นมองดงซูบิน

 

ดงซูบินปิดประตูตามหลังเขาและถามเบา ๆ “ แม่ของเธอกำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า”

 

หยูเซียวเซียวเองก็หน้าแดง “ หนู…หนูก็ไม่รู้ แต่ไม่กี่วันมานี้มีคนโทรหาเธอ หนูถามเธอว่าเป็นใครเธอก็บอกว่าเป็นตำรวจจากแผนกทะเบียนบ้าน”

 

ดงซูบินถามต่อ “ เธอเคยเจอเขาไหม? เขาหน้าตาเป็นยังไง?”

 

“ ไม่ หนูไม่เคยเจอเขาเลย”

 

“ตกลง. ทุกอย่างปกติดี. ตั้งใจอ่านหนังสือต่อไปนะ” ดงซูบินออกจากห้องและไปที่ห้องครัว

 

หยูเหมยเซียวที่ยังคงพยายามตอบกลับ SMS รีบวางโทรศัพท์ของเธอ “ ผลไม้ใกล้ปลอกเสร็จแล้วนี้ รอสักครู่นะคะ”

 

ดงซูบินเองก็ยิ้ม “ พี่หยูส่ง SMS ต่อเถอะ ฉันไม่ได้รีบร้อนเลย โอ้ผู้ชายคนนั้นจากทะเบียนบ้านเหรอ? นิสัยของเขาเป็นอย่างไร”

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ดงซูบินและตอบกลับเบา ๆ “ ฉันคิดว่าบุคคลิกของเขาค่อนข้างดี”

 

ดงซูบินถาม “ สภาพครอบครัวของเขาเป็นอย่างไร? ครอบครัวของเขามีกี่คน”

 

“ เขาเป็นลูกชายคนเดียวและสภาพครอบครัวของเขาถือว่าดี เขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเขา” หยูเหมยเซียว ตอบและอธิบายอย่างรวดเร็ว “ ฉันไม่ได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเป็นคนที่บอกฉันเกี่ยวกับครอบครัวของเขา หัวหน้าซูบิน…ที่จริง…ฉัน….” หยูเหมยเซียว พูดติดอ่าง “ หัวหน้าซูบินฉันขอพูดคุยกับคุณได้ไหม? ฉัน…ฉันอยากจะย้ายออกไปกับหยูเซียวเซียว”

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกประหลาดใจและอารมณ์ของเขาก็ดูแย่ลงด้วย

 

หยูเหมยเซียวอธิบายอย่างรวดเร็ว “ ฉันไม่ได้หมายความว่าอะไร ฉันแค่รู้สึกว่าการอยู่ที่นี่จะ…รบกวนคุณ”

 

ดงซูบินถอนหายใจในใจ “ พี่หยูจะออกไปเมื่อไหร่”

 

“ ฉันจะมองหาอพาร์ตเมนต์ใกล้ ๆ ในช่วงบ่ายวันนี้” หยูเหมยเซียว พูดต่อ “ ฉันจะยังคงกลับมาทุกวันเพื่อเตรียมอาหารให้คุณนะ”

 

ตงซู่ปิงโบกมือ “ วางผลไม้ไว้ที่นั่นและนำบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านมาด้วย”

 

หยูเหมยเซียวตะลึง แต่ไม่กล้าถามว่าดงซูบินจะเอาของพวกนั้นไปทำอะไร เธอไปที่ห้องของเธอเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและนำบัตรประจำตัวมาด้วย พวกเขาเดินออกจากที่พักของครอบครัวและเธอก็ถาม “ หัวหน้าซูบินพวกเรา…พวกเราจะไปเช่าอพาร์ทเมนต์กันไหม”

 

“ใช่.”

 

อสังหาริมทรัพย์หัวเหมย. นี่คืออสังหาริมทรัพย์ระดับกลางมันตั้งขึ้นมาอายุหนึ่งปีในบริเวณใกล้เคียงและอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกสบาย มีร้านค้าและอาหารอยู่ใกล้ ๆ รถแท็กซี่จอดอยู่หน้าที่ดินและ ดงซูบินเข้าไปในที่นั้นโดยมีหยูเหมยเซียวอยู่ข้างหลังเขา หยูเหมยเซียวเองก็รู้สึกไม่สบายใจและไม่เข้าใจว่าทำไมหัวหน้าซูบิน ถึงพาเธอมาที่นี่ ค่าเช่าสถานที่นี้แพง นอกจากนี้ยังเป็นตึกใหม่ จะมียูนิตให้เช่าอย่างงั้นหรอ?

 

ห้องตัวอย่างนี้ถูกถอดออกมาให้ผู้สนใจได้เข้ามาเยี่ยมชมห้องก่อนและเป็นผู้บริหารอาคารที่ดูแลการขายอยู่ในขณะนี้

 

ดงซูบินมองไปรอบ ๆ และรู้ว่าหน่วยงานส่วนใหญ่ถูกยึดไปแล้ว เขาเข้าไปในสำนักงานบริหารอาคารและถาม “ มีหน่วยงานใหม่หรือป่าว”

 

หยูเหมยเซียวถึงกับตะลึง “ หัวหน้าซูบิน คุณคือ…”

 

ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดสูทธุรกิจตอบ “ ขายหมดแล้วและเราเหลือห้องตัวอย่างเพียงห้องเดียว”

 

ดงซูบินคิดชั่วขณะ “ เอาล่ะ. พาผมไปดูห้องนั้นหน้อย”

 

ห้องตัวอย่างมีไว้เพื่อรองรับผู้ซื้อในการดูห้องชุดจริง พาร์ติชันและรูปแบบของยูนิตเหมือนกับส่วนที่เหลือของอพาร์ทเมนต์ในอาคาร แต่โดยปกติแล้วจะอยู่ชั้นล่าง ยูนิตเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดและราคาถูกกว่าเล็กน้อย

 

ห้องตัวอย่างนี้ตั้งอยู่ในอาคารอพาร์ตเมนต์ 1 ยูนิต 101 และมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน

 

ดงซูบินมองไปรอบ ๆ และพอใจกับมัน “ ยูนิตนี้ใหญ่แค่ไหนและราคาเท่าไหร่”

 

ผู้หญิงคนนั้นตอบ “ ยูนิตนี้เป็นแบบ 2 ห้องนอนพื้นที่ประมาณ 80 ตรม. รวมอยู่ที่ประมาณ 300,000 หยวนและ 4,100 หยวนต่อตรม. ” อพาร์ทเมนท์แห่งนี้ถือว่ามีราคาแพงมาสำหรับเมืองหยางไท่ แต่เมื่อเทียบกับปักกิ่งที่ต่อตรมราคาเป็นหมื่นนี่ถือเป็นราคาที่ถูกมาก

 

ดงซูบินถามรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อยและเดินไปรอบ ๆ หน่วย

 

หยูเหมยเซียวชอบยูนิตนี้เช่นกันและเธอก็มองไปรอบ ๆ

 

ดงซูบินรู้ว่าความรู้สึกของ พี่สาวหยูเป็นอย่างไร ไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลังจากครอบครัวของดงซูบินขายบ้านของพวกเขาแม่ของเขาและเขาก็คิดที่จะหาบ้านเป็นของตัวเองอีกครั้ง แตกต่างจากการเช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัยที่ไม่ว่าบ้านเช่าจะใหญ่โตแค่ไหน แต่ก็ยังไม่ได้เป็นของพวกเขา

 

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงต่อมาดงซูบินก็บอกกับเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น “ขอบคุณ. เราจะขอดูรอบ ๆ ก่อน”

 

หลังจากผู้หญิงคนนั้นจากไหยูเหมยเซียว ก็ถาม “ ทำไมคุณถึงพาฉันมาดูอพาร์ทเมนต์นี้”

 

ดงซูบินไม่ได้พูดอะไรมากและหยิบบัตรธนาคารออกมาและส่งให้หยูเหมยเซียว “ รหัสของบัตรคือวันเกิดของฉัน ฉันเป็นข้าราชการและไม่เหมาะที่จะใช้ชื่อตัวเอง พี่หยูจะซื้ออพาร์ทเมนต์นี้ภายใต้ชื่อของพี่และชำระเงินเต็มจำนวน หากฝ่ายบริหารอาคารไม่สามารถดำเนินธุรกรรมได้ในวันนี้พี่หยูต้องวางเงินมัดจำก่อน”

 

หยูเหมยเซียวอ้าปากค้าง “ หัวหน้าซูบิน…คุณต้องการซื้ออพาร์ทเมนต์นี้อย่างงั้นหรอ”

 

ดงซูบินพยักหน้า “ ฉันจะรอพี่อยู่ที่นี่”

 

หยูเหม่ยเซียว รู้ว่าหัวหน้าซูบินั้นร่ำรวยและเมื่อเขาช่วยเธอจ่ายหนี้เขาก็เอาเงิน 200,000 หยวนออกไปในคราวเดียว หยูเหมยเซียวไม่รู้ว่าหัวหน้าซูบินได้เงินมาจากไหนและยังสงสัยว่าเขารับสินบนหรือป่าว แต่จนกระทั่งเธอได้เห็นดงซูบิน ซื้อขายหุ้นเมื่อวันก่อนเธอก็เข้าใจ หยูเหมยเซียวเห็นหัวหน้าซูบินเงียบและเธอไม่กล้าถามอะไร เธอหยิบบัตรธนาคารติดตัวแล้วเดินไปที่สำนักงานบริหารอาคาร

 

หยูเหมยเซียวกลับมาหลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงและคืนบัตรธนาคารและใบเสร็จรับเงินให้ ดงซูบิน “ การทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์”

 

ดงซูบินหยิบบัตรธนาคารจากเธอและถาม “ชำระเต็มจำนวนหรือไม่”

 

“ใช่. พวกเขาบอกว่าวันนี้เราสามารถย้ายเข้าได้ แต่ยังมีเอกสารบางอย่างที่เราต้องกรอกเพิ่มเติมอีก”

 

ดงซูบินเองก็พยักหน้า “ไปกันเถอะ.”

 

หยูเหมยเซียวยื่นใบเสร็จให้ดงซูบิน “ นี่คือใบเสร็จรับเงิน คุณ…”

 

“ ฝากไว้กับพี่หยูก่อน”

 

เป็นเวลาประมาณเที่ยงเมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน หยูเซียวเซียวอยู่ในห้องนั่งเล่นดื่มโค้กหนึ่งกระป๋อง “ แม่ค่ะพี่ใหญ่ไปไหนมากัน? หนูหิวแล้ว.”

 

ดงซูบิน ตอบด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง “ เราไปซื้ออพาร์ตเมนต์มา”

 

ดวงตาของหยูเซียวเซียวเบิกกว้างขึ้น “ ซื้ออพาร์ทเมนต์? พี่ใหญ่ตอนนี้พี่ใหญ่ไม่มีอพาร์ตเมนต์หรือ?”

 

หยูเหมยเซียวเช็ดหน้าลูกสาวเบา ๆ “ อพาร์ตเมนต์พี่ใหญ่ของลูกอาศัยอยู่ตอนนี้เป็นของทางราชการ”

 

ดงซูบินนั่งลงบนโซฟาและโบกมือให้พวกเขา “ เซียวเซียวพี่หยูมานี้หน่อย ฉันมีบางอย่างจะพูดกับทั้งสองคน” คู่แม่และลูกสาวเดินผ่านไปและ ดงซูบินก็พูดต่อ “ ทั้งสองไปเก็บข้าวของกันหมดแล้ววันนี้ทั้งสองคนจะย้ายไปที่อพาร์ตเมนต์ฮัวเหม่ย”

 

หยูเหมยเซียวถึงกับตกใจ “ เราจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร?! เรา…เช่าห้องก็พอแล้ว!”

 

ดงซูบินส่ายหัว “พี่สาวหยูฉันจะให้อพาร์ตเมนต์นี้กับพี่และนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันช่วยพี่ด้วย”

 

หยูเหมยเซียวจับมือของเธอ “ ไม่…ไม่…เราไม่สามารถรับสิ่งต่างๆจากคุณได้อีกแล้ว อพาร์ทเมนต์นั้นเกือบ 400,000 หยวน ฉัน…”

 

ดงซูบินพูดขัดเธอขึ้นมา “ นั่งลงและฟังฉัน พี่สาวหยู ฉันอายุน้อยกว่าพี่สาวหยูมากและฉันไม่ควรบอกเรื่องนี้กับพี่ แต่…เมื่ออายุมากแล้วหยูเซียวเซียวเองก็ยังเด็ก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถเลี้ยงเธอได้ตามลำพัง พี่สาวหยูควรไปพบเจอคนที่ดูแลพี่สาวหยู เอิ่ม…เจ้าหน้าที่จากแผนกทะเบียนบ้านก็ยินดีกับพี่สาวหยูใช่มั้ย? พี่ควรตัดสินใจด้วยตัวพี่เอง ถ้าพี่คิดว่าผู้ชายคนนั้นดีกับพี่และเซียวเซียวพี่ควรจะไปสานสัมพันธ์กับเขาต่อและออกไปอยู่กันสองคน”

 

หยูเหมยเซียวกำลังจะหลั่งน้ำตา “ ไม่…หัวหน้าซูบิน…ไม่ใช่แบบนี้!”

 

ดงซูบินขัดจังหวะเธออีกครั้ง “ การเป็นผู้ช่วยของฉันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาวและพี่ควรใช้ชีวิตของตัวเอง ผู้ชายคนนั้นยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่และไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง? หากทั้งสองคนตัดสินใจที่จะอยู่ด้วยกัน ทุกคนสามารถอยู่ที่นั่นได้หลังจากที่ทั้งสองแต่งงานกันแล้ว แค่ถือว่าอพาร์ทเมนต์นั้นเป็นของขวัญแต่งงานจากฉัน โอ้ฉันจะช่วยพี่หางานหลังจากนี้ด้วย ถ้าพี่สาวหยูต่งงานพี่ควรหยุดทำงานเป็นผู้ช่วย”

 

แม้ว่า ดงซูบินจะไม่เต็มใจมากนัก แต่เขาก็ยังคงเคารพการตัดสินใจของหยูเหมยเซียว ทุกคนที่รู้จักดงซูบิน รู้ดีว่าเขาปฏิบัติต่อเพื่อนและญาติของเขาดียิ่งกว่าการปฏิบัติต่อตัวเอง เขาได้พิจารณาเกี่ยวกับอนาคตของหยูเหมยเซียวด้วยอพาร์ทเมนต์สามีและงานใหม่เธอไม่ควรมีความทุกข์ในอนาคต

 

ดวงตาของหยูเซียวเซียวเปลี่ยนเป็นสีแดง “แม่! เราต้องไปไหม”

 

หยูเหมยเซียวกัดริมฝีปากล่างของเธอและกลั้นน้ำตาของเธอ

 

หยูเซียวเซียว มองไปที่ดงซูบินและจับแขนแม่ของเธอ “แม่! หนู…หนูไม่อยากไป! เราอยู่ที่นี่ได้ไหม” หยูเซียวเซียวไม่ได้พบกับเจ้าหน้าที่คนนั้นจากแผนกทะเบียนบ้าน แต่เธอรู้ว่าไม่มีใครปฏิบัติกับเธอได้ดีไปกว่าหัวหน้าซูบินแล้ว เธอรักที่นี่และชอบพี่ใหญ่คนนี้

 

หยูเหมยเซียวกัดฟันและพูด “ หัวหน้าซูบินฉันไม่ต้องการงานอื่น ฉัน…ฉันจะเป็นผู้ช่วยของคุณไปตลอดชีวิต”

 

ดงซูบินหัวเราะ “ พี่หยูพูดแบบนี้ได้อย่างไร? rujจะยังคงเป็นผู้ช่วยของฉันหลังจากแต่งงานได้อย่างไร? นี้ไม่ถูกต้อง.”

 

“ ฉัน…ฉันจะไม่แต่งงานอีกแล้ว! เจ้าหน้าที่คนนั้นกับฉัน … เราไม่ได้คบกัน! จริงๆ!”

 

“ แล้วถ้าพี่หยูพบว่านั้นเป็นผู้ชายในอนาคตล่ะ? ฟังฉันและยอมรับอพาร์ทเมนต์นั้น อย่างไรก็ตามบ้านหลังนั้นอยู่ภายใต้ชื่อของพี่และพี่สามารถอยู่ที่นั่นได้หลังจากแต่งงานแล้ว” ดงซูบินกลัวว่าคำพูดของเขาจะดูเหมือนเป็นการห้ามเธอ “ เอาล่ะ. ไปเก็บข้าวของของพี่”

 

หยูเซียวเซียวตื่นตระหนก “แม่! แม่!”

 

ดงซูบินลูบหัวหยูเซียวเซียว “ เซียวเซียวเธอเป็นคนดีนะ ฉันจะไปเยี่ยมเธอเมื่อฉันว่าง”

 

หยูเหมยเซียวไม่สามารถกลั้นน้ำตาของเธอได้อีกต่อไปและร้องไห้!

 

ดงซูบินเองก็รู้สึกปวดใจมาก “ พี่สาวหยูอย่าทำแบบนี้ นี้ไม่ใช้การอำลากัน”

 

หยูเหมยเซียวร้องไห้ดังขึ้น “ หัวหน้าซูบิน…สะอื้น…เจ้าหน้าที่คนนั้นกับฉันไม่ได้อยู่ด้วยกัน…สะอื้น…ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขา…เขาเป็นคนที่ติดพันฉัน…ฉัน…สะอื้น…ฉันไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไง…สะอื้น…ฉันไม่ ไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งงานอีกครั้ง…ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน…สะอื้น…ฉันไม่ต้องการอพาร์ทเมนต์นั้น…ฉันไม่ต้องการอะไร…” ต

 

ดงซูบินเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของหยูเหม่ยเซียวอย่างรวดเร็ว “ อย่าร้องไห้…มันเป็นความผิดของฉันเอง…ฉันขอโทษโอเค”

 

หยูเหมยเซียวเช็ดน้ำตาและพูด “ โปรดเชื่อฉัน…ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา!”

 

ดงซูบินเองรู้สึกหนักใจ เขายิ้ม. “ เอาล่ะ…ฉันเชื่อพี่ หยุดร้องไห้. อย่าปล่อยให้ลูกสาวของพี่หยูหัวเราะเยาะคุณ”

 

“ สะอื้น…ที่ฉันอยากเช่าห้องข้างนอกคือ…เป็นเพราะพี่สาวลวนบอกฉัน…สะอื้น…บอกฉันว่าคุณมีปัญหามากมาย…และคุณยังบังคับให้เลขาธิการพรรคของมณฑลออกไปด้วย พี่สาวลวนกลัวว่า…สบ…อาจมีคนใช้ประโยชน์จากเซียวเซียวกับฉันเป็นข้ออ้างในการแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับคุณ…และมันอาจส่งผลกระทบต่ออาชีพการงานของคุณ…เธอต้องการให้เราย้ายไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ…สะอื้น…ฉันรู้ว่าคุณทำให้หลายคนขุ่นเคือง เพราะฉัน…และฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้คุณอีกแล้ว…นั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องการเช่าห้องข้างนอก…สะอื้น…ฉันไม่อยากย้ายออก…ฉันอยากอยู่ที่นี่

 

ดงซูบินตระหนักว่าเขาเข้าใจ หยูเหมยเซียวผิดมาตลอด หยูเหมยเซียวไม่ต้องการย้ายออกเพราะเธอต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เป็นแม่ของเขาที่กลัวว่าเขาจะมีปัญหามากขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่ ดงซูบินทุบรถเบนซ์ระหว่างงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องแม่ของเขากังวลว่าเขาจะมีปัญหามากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เธอต้องการให้ หยูเหมยเซียว และหยูเซียวเซียว ย้ายไปอยู่กับเธอ!

 

อา! นี้ฉันเข้าใจผิดมาตลอดเลยหรอ!

 

ดงซูบินใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาของหยูเหมยเซียว และปลอบใจเธอ “ เอาล่ะ. ถ้าไม่อยากจากไปก็อยู่ต่อเถอะ พี่สาวหยูสามารถอยู่ได้นานเท่าที่พี่ต้องการ”

 

หยูเหมยเซียวส่ายหัว “ ฉันสร้างปัญหากับคุณไม่ได้อีกแล้ว สะอื้น…ฉันเช่าห้องอยู่และอาศัยอยู่กับเซียวเซียว แต่ฉันจะยังคงทำงานให้คุณ”

 

ดงซูบินลูบผมยาวของหยูเหมยเซียว “ เอาล่ะเอาล่ะ…ทำในสิ่งที่พี่หยูต้องการ หยุดร้องไห้ได้ไหม”

 

หยูเหมยเซียวหยุดสะอื้นหลังจากได้ยินคำตอบของดงซูบิน “ จากนั้นฉันจะมาทำอาหารและทำความสะอาดบ้านให้คุณทุกวันและจะกลับไปที่ห้องเช่าในตอนกลางคืน”

 

ดงซูบินพยักหน้า

 

ในที่สุดหยูเหมยเซียวก็หยุดร้องไห้และเช็ดน้ำตาด้วยทิชชู่

 

ดงซูบินส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ถูกการร้องไห้การขว้างปาอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นอาวุธของผู้หญิงที่ต่อสู้กับผู้ชาย ในที่สุดเขาก็ได้ประสบกับมันในวันนี้ หลังจากที่หยูเหมยเซียว สงบลงดงซูบิน กล่าว “ พี่สาวหยูเราจ่ายค่าอพาร์ทเมนต์แล้วและไม่สามารถขอเงินคืนได้ ย้ายไปที่ฮัวเหม่ยด้วยกันเถอะ เราจะยังอยู่ด้วยกันและจะไม่มีใครนินทาฉันที่นี้ ฉันกลับไปที่อพาร์ทเมนต์นี้เพื่อพักสักครั้ง คุณคิดยังไงกับสิ่งนี้?”

 

หยูเหมยเซียวหน้าแดง “ ฉัน…ฉันจะเชื่อคุณ”

 

หยูเซียวเซียวส่งเสียงเชียร์และกอดแม่ของเธอ

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ดงซูบิน “ แต่อพาร์ทเมนต์นั้นต้องอยู่ภายใต้ชื่อของคุณ”

 

“ ฉันบอกว่านั่นคือของขวัญของฉันสำหรับพี่สาวหยู ถ้าพี่สาวหยูจะแต่งงานในอนาคตอพาร์ทเมนต์…”ดงซูบินชะงักเมื่อเห็นดวงตาของหยูเหม่ยเซียเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้ง “ เราควรคิดถึงเซียวเซียวด้วย แม้ว่าพี่สาวหยูจะไม่ต้องการพี่สาวหยูก็สามารถเก็บไว้เป็นสินสอดของเซียวเซียวได้”

 

หยูเซียวเซียวก้มหน้าลงอย่างเขิน ๆ และพึมพำอะไรบางอย่าง

 

หยูเหมยเซียวมองไปที่ลูกสาวของเธอและเช็ดน้ำตาของเธอด้วยความขอบคุณ “ขอบคุณ. ฉันจะหาเงินมาตอบแทนคุณให้เร็วที่สุด”

 

“ มีอะไรให้ที่จะต้องตอบแทนหรอก? อพาร์ทเมนต์นั้นเป็นของขวัญของฉันสำหรับเซียเวียว และไม่ใช่สำหรับพี่สาวหยูแล้ว ฮ่า ๆ ๆ ”

 

หยูเหมยเซียวเองก็ไม่มีที่อยู่อาศัยแล้วและสิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือลูกสาวของเธอ เธอไม่สามารถปฏิเสธอพาร์ตเมนต์ของ ดงซูบิน ได้อีกต่อไปเพราะเธอต้องพิจารณาอนาคตของลูกสาวของเธอ หลังจากที่เฉียนเฉียนเติบโตขึ้นเธอก็จะแต่งงานและต้องการบ้านของเธอเอง

ดงซูบินเองพอใจกับผลลัพธ์นี้ เขายิ้มและกล่าวว่า “ ไปเก็บของแล้วย้ายไปอพาร์ทเมนต์ใหม่กันเถอะ!”

 

หยูเซียวเซียววิ่งกลับไปที่ห้องของเธอด้วยความตื่นเต้นเพื่อเก็บของ

 

ขณะที่ หยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียว กำลังเก็บของดงซูบินเดินไปที่ระเบียงและโทรหาแม่ของเขา “ แม่ผมเพิ่งซื้ออพาร์ทเมนต์ให้พี่สาวยู อยู่ที่ ฮัวเหม่ย เอ่อ… แต่หยูเซียวเซียวคิดถึงผมและผมอาจจะอยู่ที่นั่นสักสองสามวันเมื่อตอนผมว่าง” ดงซูบินเองนั้นแหละที่เป็นคนที่คิดถึงพวกเธอและไม่ต้องการให้พวกเธอจากไป แต่เขาบอกเรื่องนี้กับแม่ไม่ได้

 

กลางดึก.

 

ฮัวเหมยเอสเตท.

 

หยูเซียวเซียวยังคงรู้สึกตื่นเต้นกับอพาร์ทเมนต์ใหม่ เธอเข้าออกทุกห้องตั้งแต่ช่วงบ่าย

 

หยูเหมยเซียวเองก็ดูอารมณ์ดีเช่นกัน หลังจากไม่มีที่อยู่อาศัยมานานในที่สุดเธอก็มีที่อยู่

 

ดงซูบินเคยคิดจะซื้ออพาร์ทเมนต์สำหรับหยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียวมาก่อนหน้านี้แล้วเขายังคงสับสนว่าฉูหยวน หรือ เสี่ยวหลานใครเป็นแฟนของเขา แต่เขารู้ดีว่าถ้าคนใดคนหนึ่งมาเยี่ยมเขาหยูเหมยเซีว และ หยูเซียวเซียว จะไม่สามารถอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของครอบครัวของเขาได้ เขาจะต้องแย่แน่หากปล่อยให้พวกเธออยู่ที่นั่น กล่าวอีกนัยหนึ่งคู่แม่ลูกคู่นี้เป็นระเบิดเวลาและฉูหยวน และ เสี่ยวหลานจะต้องไม่พบพวกเธอ ตอนนี้ด้วยอพาร์ทเมนต์ใหม่สำหรับพวกเขาดงซูบินเองรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น

 

เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ดงซูบินก็รู้สึกหนักใจและไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากเขาไม่รู้จะทำอย่างไรเขาจึงตัดสินใจที่จะหยุดคิดถึงเรื่องนี้และมีความสุขกับชีวิตของเขาในตอนนี้

 

“ พี่ใหญ่หนูควรวางแจกันนี้ไว้ที่ไหน” หยูเซียวเซียวถือแจกันใบใหญ่ออกมา

 

ดงซูบินหัวเราะ “ เธอเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์นี้ เธอสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองได้เลย”

 

“ โอ้…งั้นหนูจะวางไว้ข้างคอนโซลทีวี!”

 

หยูเหมยเซียว กลัวลูกสาวของเธออาจทำแจกันแตกจึงไปช่วยเธอ “ระวัง.”

 

ดงซูบินก็พับแขนเสื้อขึ้นและเข้าไปช่วย

 

อพาร์ทเมนท์มีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน แต่เครื่องใช้ในบ้านจะถูกส่งในวันพรุ่งนี้เท่านั้น ตอนนี้พวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ได้ตามต้องการเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้ง 3 ก็นั่งลงบนโซฟาพลางหอบ หยูเหมยเซียว หยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากของดงซูบิน และ หยูเซียวเซียว กำลังกอดแขนของดงซูบินไว้

 

ดงซูบิน ยิ้มอย่างมีความสุขและโอบแขนรอบเอวหยูเหมยเซียว และ หยูเซียวเซียวเขาลุกขึ้นยืนและพาพวกเขาไปที่ห้อง “ ฉันซื้ออพาร์ทเมนต์แล้วตอนนี้ฉันเองก็ยังต้องการรถ ช่วยเลือกรถที่เหมาะกับตัวฉันให้หน่อย”

 

หยูเหมยเซียวรู้สึกว่าแขนของดงซูบินรอบเอวของเธอและเธอก็หน้าแดง เธอรู้สึกได้ว่าดงซูบิน ปฏิบัติต่อเธอในฐานะสมาชิกในครอบครัวของเขาและเธอก็ไม่ได้หยุดเขา ตั้งแต่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตและหลังจากสามีของเธอติดการพนันเธอก็ไม่มีความรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้อีกเลย

 

ดงซูบินมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา สินทรัพย์รวมของ บริษัท ประมูลของเขามีมูลค่าเกือบ 10 ล้านและเขาถือได้ว่าเป็นเศรษฐี แต่ในขณะนี้เขาไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ การมีอพาร์ตเมนต์และรถยนต์จะเป็นการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเขาอย่างมีนัยสำคัญ ท้ายที่สุดสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ดงซูบินใฝ่ฝันเมื่อสี่ปีก่อน

 

ครอบครัวบ้านรถเงินอาชีพที่ดี…

 

ดงซูบิน รู้สึกว่าชีวิตของเขาได้รับการเติมเต็มแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+