EP 129.2 ประมูลครั้งยิ่งใหญ่

ผู้แปล loop

สุภาพสตรีอ้วนยกป้ายหมายเลขของเธอ

ผู้จัดประมูลกล่าวว่า:“ 2,500 ……ครั้งที่ 2 เสนอราคา 2,500 ……”

ชายคนหนึ่งจากจังหวัดทางใต้ยกป้ายและตะโกน:“ 4,000”

“ 4,000 ……มีใครสูงกว่านี้ไหม 4,000 ……”

ในท้ายที่สุดคนจากจังหวัดทางใต้ชนะและได้เตาไปในราคาซื้อขาย 10,000 หยวน

2 นาทีต่อมาการเสนอราคาเริ่มต้นในรายการที่สอง

นี่เป็นครั้งแรกที่ดงซูบินเข้ามาการประมูล เขากำลังมองหาคนที่เสนอราคาด้วยความสนใจ ทันใดนั้นมีคนเปิดประตูและมีชายหนุ่ม 4 คนเข้ามาพร้อมป้ายบอกทาง หลังจากเข้าไปพวกเขาก็เริ่มมองหาที่นั่ง หัวหน้าของพวกเขาอายุประมาณ 30 ปีมีผมยาวมองมาที่ดงซูบิน มีที่นั่งว่างข้างเขา 3 ที่นั่ง

ชายที่มีไฝพูดกับชายผมยาว “ เหว่ยหน่าน มานั่งตรงนี้กัน”

ชายผมยาวพยักหน้าแล้วเดินไปกับเพื่อน 3 คนของเขา “ว่าไงเพื่อน.”

ดงซูบินได้เห็นพวกเขาและรู้ว่าพวกเขาจะไปหาเขาเพราะมี 3 ที่ว่างข้างเขา เขาขยับขาเพื่อให้พวกเขาผ่านไป แต่คนเหล่านั้นไม่ขยับดงซูบิน งงงวย “ พวกคุณทุกคนจะเข้าไปใช่ไหม”

เหว่ยหน่านนั้นพูดว่า:“ นายช่วยไปนั่งที่อื่นได้ไหม?”

ดงซูบินตกตะลึงในไม่กี่วินาที “คุณบอกอย่างงี้ได้อย่างไรกัน?”

เหว่ยหน่านตอบ “ มีที่นั่งว่างด้านหน้า เรามาที่นี่ด้วยกันและอยากจะนั่งด้วยกัน”

ดงซูบินเองรู้สึกผิดหวัง ‘เวรเอ๋ย. พวกนายทุกคนต้องการที่จะนั่งด้วยกันและฉันจะต้องให้ที่นั่งของฉันกับพวกนายหรอ ทำไมต้องฉัน พวกนายคิดว่าพวกนายเป็นใคร? “ ถ้าหากพวกนายอยากนั่งด้วยกัน พวกนายก็ควรมาให้เร็วกว่านี้ ไม่ใช่มาแย่งพื้นที่คนอื่นเช่นนี้” เนื่องจากดงซูบินเคยเป็นหัวหน้าแผนกมาหนึ่งเดือนแล้ว วิธีการพูดของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยและฟังดูเหมือนว่าเขากำลังสอนคนอื่นอยู่ หากคนเหล่านี้อยู่ที่นี่ก่อนการประมูลดงซูบินจะไม่รังเกียจที่จะเปลี่ยนที่นั่งกับพวกเขาเลย แต่การประมูลเริ่มขึ้นและพวกเขาก็สาย แต่พวกเขายังต้องการเลือกที่นั่ง? คุณต้องการให้ฉันออกจากที่นั่งให้กับทุกคนแล้วไปหาที่นั่งด้านหน้าเพื่อหาที่นั่งว่าง? คุณบ้าหรือเปล่า?!

“เฮ้!” ผู้ชายที่มีไฝนั้นโกรธ “ คุณคิดว่าคุณใหญ่มาจากไหน”

เหว่ยหม่านขมวดคิ้วและจ้องไปที่ดงซูบิน “ พี่ชาย, ไว้หน้าฉันหน่อย”

ดงซูบินคิดกับตัวเอง ‘นายทุกคนรู้จักมารยาทขั้นพื้นฐานรึเปล่า และยังต้องการให้ฉันยอมแพ้?’ ดงซูบินยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า:“แล้วถ้าคุณทำอย่างงี้กับผม แล้วใครล่ะจะไว้หน้าผม!”

ชายหนุ่มกระแทกโต๊ะอย่างรุนแรง:“ เวรเอ๋ย! แกจะเปลี่ยนที่นั่งไหม?”

ดงซูบินมองที่ชายคนนั้นในสายตาของเขาและพูดช้าๆ:“ ดูภาษาของนายสิ! ยังไงฉันก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง!”

ชายหนุ่มคนนั้นโกรธมาก แต่เหว่ยหน่านดึงเขากลับมาแล้วส่ายหัว เขามองที่ดงซูบินแล้วบอกคนที่อยู่ข้างเขาว่า“ นายไปนั่งข้างหน้าไป” ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจะเป็นผู้ติดตามของเขา เขาพยักหน้าและเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเหว่ยหน่านและชายอีกสองคนนั่งลงข้างๆดงซูบิน

ดงซูบินไม่ได้รบกวนพวกเขาและเฝ้าดูการประมูลต่อไป

รายการที่สาม ……

รายการที่ห้า ……

เหว่ยหน่านและคนของเขากำลังรอสิ่งของบางอย่างอยู่ พวกเขาไม่ได้ยกป้ายแม้แต่ครั้งเดียว

ทันใดนั้นผู้จัดประมูลบนเวทีประกาศ:“ รายการต่อไปนี้……เป็นรายการที่คุณรออยู่ นี่เป็นรายการสุดท้ายสำหรับการประมูลในตอนเช้า สร้อยคอไข่มุก. ไข่มุกเป็นธรรมชาติทั้งหมดและเป็นไข่มุกทองคำทั้งหมด ไข่มุกทุกเม็ดมีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 1.4 ซม. ถึง 1.8 ซม. คุณไม่สามารถหาสร้อยคอเช่นนี้ที่อื่น……. ราคาเริ่มต้นคือ 500,000 หยวน! ทุกครั้งที่คุณเพิ่มป้ายหมายเลข 10,000 หยวน การเสนอราคาเริ่มตอนนี้!”

ที่นี่! ตาของดงซูบินสว่างขึ้นและเริ่มมองไปรอบ ๆ !

คนที่มีหนวดยกป้ายของเขา

“510,000 …… มีใครให้สูงกว่านี้ไหม 510,000 …… .”

หญิงวัยกลางคนยกป้ายของเธอโดยไม่ลังเลและตะโกน:“ 550,000!”

ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้ายกเครื่องหมายขึ้น 560,000

หญิงวัยกลางคนนั้นตะโกนอีกครั้งว่า“ 600,000 หยวน!”

ผู้จัดประมูลตะโกนว่า“ 600,000 ……เลขที่ 6 ราคาเสนอ 600,000 ……มีใครสนใจบ้างไหม? 600,000 ครั้ง……”

ดงซูฐินรู้สึกตื่นเต้นเช่นกันเมื่อเขาเห็นผู้คนต่อสู้กับสิ่งของของเขา เขาแอบสวดอ้อนวอนว่ามีคนไม่กี่คนในคนเท่านี้ หากมีเพียงคนสองคนที่สนใจสร้อยคอนี้ราคาจะไม่สูงขึ้น มันจะสูงขึ้นได้ถึงขนาดไหนกัน

“620,000”

“เลขที่ 21 ประมูล 620,000 …… 620,000 ……โอ้คุณผู้หญิงนั่นตรงนั้น ลำดับที่ 6 เสนอราคา 630,000 ……เป็น 630,000 ราคาเสนอสูงสุดหรือไม่ อา! หมายเลข 21 เสนอราคา 650,000! 650,000 ครั้ง…… 650,000 สองครั้ง……นั่น! 690,000 …… มีใครให้สูงกว่านี้ไหม”

ผู้หญิงวัยกลางคนหมายเลข 6 เลิกไปแล้ว

เมื่อดงซูบินมองอย่างใจจดใจจ่อการประมูลเสียงดังตะโกนข้างเขา:“ 750,000!”

ดงซูบินตกใจและหันไปมองชายผมยาวที่นั่งข้างเขา นั้นคือเหว่ยหน่าน ที่ทำการประมูลนั้นดงซูบินคิดกับตัวเอง ดังนั้นคนเหล่านี้มาที่นี่เพื่อสร้อยคอไข่มุกของฉัน ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาไม่ได้ประมูลสินค้าอื่น แต่เมื่อดงซูบินมองดูพวกเขาพวกเขายังมองดงซูบินด้วยความภาคภูมิใจ ดวงตาของพวกเขามองดูดงซูบิน มันก็เหมือนกับการพูดว่า ‘ดูเราไว้สิประมูล 750,000 คนอย่างแกจะประมูลได้เท่านี้ไหม? ‘

‘สะใจ! สร้อยคอที่พวกแกเสนอราคาทั้งหมดเป็นของฉัน! พวกแกทุกคนต้องภูมิใจไหม! ดงซูบินบอกได้เลยว่าเหว่ยหน่านนี้ร่ำรวยและชอบดูถูกคนอื่น เขามองไปที่ดงซูบินอย่างหยิ่งพยองและมองออกไป

“ 750,000 ……ลำดับที่ 36 ประมูล 750,000 ……มีการเสนอราคาเพิ่มเติมอีกหรือไม่”

ชายวัยกลางคนผู้ประมูลสร้อยคอหันมาเห็นเหว่ยหน่านเขาดูประหลาดใจแล้วยิ้ม

เหว่ยหน่านส่งคืนยิ้มของเขา

ชายวัยกลางคนนั้นลงป้ายหมายเลขของเขา เขาตัดสินใจเลิกแข่งขันการประมูลครั้งนี้

ดงซูบินรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน คนสองคนนี้รู้จักกันหรือป่าว ‘เวรเอ๋ย! พวกเขาจะไม่ประมูลราคาสูงกว่านี้แล้วหรอ? มาเลย! เพิ่มราคาเสนอ! ตอนนี้ 750,000 เท่านั้น!’

ชายคนนั้นจากจังหวัดทางใต้ยังคงเสนอราคาต่อไป “800,000”

เหว่ยหน่านยังไม่ได้คิดอะไรมาก “850,000”

ชายคนนั้นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ 860,000!”

เหว่ยหน่าน ตะโกนเสียงดัง:“ 880,000!”

ดงซูบินยังตระหนักว่าผู้คนมากมายในการประมูลรู้จักเหว่ยหน่านเพราะมีหลายคนหันมาและยิ้มให้เขา ดงซูบินรู้ทันทีว่าเหว่ยหน่าน นี้จะต้องเป็นคนที่โดดเด่นหรือใครบางคนจากครอบครัวของเขามีเส้นสายมากมายอย่างแน่นอน ถ้าไม่ใช่พวกอายุ 40 หรือ 50 จะไม่ยอมให้ชายหนุ่มคนหนึ่งในช่วงอายุ 30 ต้น ๆ หยามหน้าอย่างนี้แน่นอน

‘ใครบางคนที่ทรงพลัง? ใครสน! ราคารีบขึ้นและเพิ่มการเสนอราคา! 880,000 ยังน้อยเกินไป!’

ดงซูบินไม่สนใจเรื่องอื่นเลย เขาเป็นเพียงแค่ความกังวลว่าสร้อยคอของเขาสามารถดึงได้เท่าไหร่ เขาต้องการเงินเพื่อตั้ง บริษัท !

“ 880,000 หนึ่งครั้ง……มีการเสนอราคาที่สูงกว่าใด 880,000 ……” ผู้จัดประมูลตะโกน “ 880,000 สองครั้ง……”

ดงซูบินอยู่ในภาวะกังวลมาก

ไม่มีการประมูลอีกแล้ว! ไม่มีใครในการประมูลกล้าที่จะแข่งขันกับผู้ชายคนนี้!

‘เวรเอ๋ย! เกิดอะไรขึ้น? มาเลย! อย่าพึงจบเร็วขนาดนี้!’

หัวใจของดงซูบินกำลังเต้นแรงขึ้น ราคาเสนอเริ่มต้นต่ำและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้สร้อยได้ราคาเพียง 880,000 หยวนเท่านั้นดงซูบินยังคงต้องจ่ายค่านายหน้าในการประมูลกับทางบริษัท เขาอาจขายสร้อยให้กับใครสักคนในราคา 1 ล้าน บุคคลเหล่านี้ในการประมูลอาจไม่สนใจสร้อยคอนี้หรืออาจหยุดเสนอราคาเนื่องจากเหตุผลอื่น ๆ

ดงซูบินจะได้รับเงินประมาณ 600,000 หยวนหลังจากหักค่าคอมมิชชันถ้าขายสร้อยคอที่ 880,000!

‘พระเจ้าด่าเอ๋ย! ฉันใช้ความพยายามอย่างมากกับสร้อยคอนี้และฉันจะได้แค่ 600,000 หยวนเท่านั้น! มันห่างกันมากเกิยไปจาก 1 ล้าน!’

“ 880,000 ……มีการเสนอราคาเพิ่มอีกไหม” ผู้จัดประมูลยกค้อนขึ้นมาแล้ว

เห่วยหน่านยิ้มอย่างมั่นใจ นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ เขาคาดว่าสร้อยคอนี้จะถึง 1.2 ล้าน เขาได้รับการต่อรองราคาที่ยิ่งใหญ่! ผู้คนที่นี่ไม่สนใจไข่มุก ฮ่าฮ่าฮ่า……ฉันจะประหยัดได้มากเลย’

เวรเอ๋ย! ดงซูบินโกรธเมื่อเขาเห็นรอยยิ้มของเหว่ยหน่าน

‘นี้หรอสิ่งที่ฉันได้รับ ฉันได้รับเงิน 600,000 หยวนเท่านั้น ฉันเสียเวลาไปที่ฟาร์มไกลขนาดนั้นได้ยังไง’

“ 880,000 ……” ผู้จัดการประมูลขยับค้อนของเขาและกำลังจะวางมันลง “ ครั้งที่สาม……”

ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคได้ใครบางคนก็รีบยกหมายเลขและตะโกน:“ 1 ล้าน!”

ทุกคนที่ประมูลหันมามอง!

ดงซูบิน เป็นคนเสนอราคา!

เหว่ยหน่านตกตะลึงอยู่พักหนึ่งแล้วมมองไปที่ดงซูบิน

ดงซูบินไม่ได้ดูใครเลย เขาแค่มองไปที่สร้อยคอ

“ 1 ล้าน……. หมายเลข 33 ประมูล 1 ล้าน……”

ชายหนุ่มที่นั่งข้างเหว่ยนานสบถออกมาแล้วกระซิบอะไรบางอย่างกับเหว่ยหน่านหลังจากนั้นเหว่ยหน่าน ได้ยกป้าย“ 1.05 ล้าน!” เหว่ยหน่านกำลังคิดกับตัวเอง ‘ฉันจะดูว่าแกจะกล้าที่จะประมูลต่อไหม‘ เหว่ยหน่านมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยและเคยพบกับนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาก่อน เขาสามารถบอกได้จากการแต่งกายและภาษากายของ ดงซูบินว่าเขาไม่ใช่คนร่ำรวย

แต่ดงซูบินไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาเพิ่งเพิ่มการเสนอราคา:“ 1.2 ล้าน!”

เหว่ยหนานก็ตกใจ เพื่อนของเขาที่นั้งข้างเขาก็ตกใจเช่นกัน ‘ไอ้เด็กเหลือขอคนนี้กล้าเสนอราคามากกว่า 1 ล้านบาท?’

“ โอ้… 1.2 ล้าน……ใคร ๆ ที่มีการเสนอราคาสูงกว่า ลำดับที่ 33 มีการเสนอราคา 1.2 ล้าน……ไปครั้งเดียว……. 1.2 ล้าน……ไปสองครั้ง……”

เหว่ยหน่านกัดฟันของเขา “ 1.3 ล้าน!” เขารู้สึกว่าดงซูบินไม่น่าจะกล้าเสนอราคาเพิ่มอีก

แต่ความกล้าขอดงซูบิน:“ 1.4 ล้าน!”

เหว่ยหนานโกรธมาก บุคคลนี้ทำให้เขาเสียหน้ากับเพื่อนของเขาก่อนหน้านี้ เขาสามารถชนะสร้อยคอนี้ได้ที่ 880,000 หยวน แต่บุคคลนี้เพิ่มการเสนอราคาโดยจงใจ กำลังพยายามแข่งขันว่าใครมีเงินมากขึ้นกับฉัน ฉันไม่กลัว! เขายก:“ 1.45 ล้าน!”

ดงซูบินตะโกน:“ 1.5 ล้าน!”

เหว่ยหน่านกัดฟัน:“ 1.55 ล้าน!”

ดงซูบินหันมาดู เหว่ยหน่านก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย:“ 1.6 ล้าน!”

ณ ตอนนั้นคนที่เหลือในห้องประชุมถึงกับนั่งหน้านิ่ง

ทุกคนในการประมูลรู้สึกถึงความตึงเครียดและนิ่งเงียบ พวกเขาดูทั้งดงซูบิน และเหว่ยหน่าน 1.6 ล้าน……นี่เป็นราคาที่ไร้สาระ เขาเสนอราคาสร้อยคอนี้สำหรับแฟนสาวของเขาหรือยังไง?

ใบหน้าของเว่ยหน่านเปลี่ยนไปและดูโมโหชั่วขณะหนึ่งก่อนที่จะสงบลง เขารู้ว่าเขาไม่ควรเสนอราคาต่อ ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีเงิน เป็นเพราะเขารู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่า เขายิ้มอย่างเย็นชากับตัวเอง 1.6 ล้านสำหรับสร้อยคอซึ่งมีมูลค่าเพียงประมาณ 1 ล้าน sหยวน? แกโง่หรือเปล่า เขาหันไปหาชายหนุ่มสองคนข้างเขาและพูดอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มสองคนนั้นดูดงซูบินและยิ้ม ด้วยค่าคอมมิชชั่นดงซูบินจะต้องได้ราคาอย่างน้อย 1.8 ล้าน!

“ 1.6 ล้านครั้ง…… 1.6 ล้านสองเท่า……” ผู้จัดประมูลยกค้อนขึ้นมาแล้วกระแทกอย่างแรง “ 1.6 ล้านสามครั้ง! ขาย!”

เหว่ยหน่าน ยินดี เขาหัวเราะกับตัวเองและเรียกว่า ดงซูบินว่าเป็นคนโง่ในใจของเขา

ดงซูบินหันมามอง เหว่ยหน่านเขายังเรียกเขาว่าคนโง่ในใจ เขายิ้มให้ เหว่ยหน่าน และพูดว่า: “ย้อนกลับ!”

ฉากต่อหน้าดวงตาของเขาได้กลายเป็นประกาย!

ดงซูบินรู้สึกว่ามือของเขาถูกยกขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเขากำลังถือป้ายหมายเลขของเขา

ผู้ดำเนินรายการประมูลซึ่งทิ้งค้อนไปก่อนหน้านี้ได้กลับไปสู่ช่วงเวลาที่ดงซูบิน และ เหว่ยหน่านแข่งขันกัน เขาชี้ไปที่ดงซูบิน:“ โอ้… 1.2 ล้าน……มีคนอื่นที่เสนอราคาสูงกว่าเหรอ? ลำดับที่ 33 มีการเสนอราคา 1.2 ล้าน……ไปครั้งเดียว……. 1.2 ล้าน……ไปสองครั้ง……”

นี่เป็นเวลาก่อนที่การเสนอราคาจะสิ้นสุด!

ดงซูบินได้เก็บรักษาพลังของเขาไว้และเขาสามารถใช้มันได้ 3 ครั้ง ตอนนี้ดงซูบินได้ใช้พลังพิเศษไปครั้งเดียวเท่านั้นและเขายังเหลืออีกสองครั้ง

ดงซูบินเข้าใจสถาณการณ์มากขึ้นเมื่อเหว่ยหน่าน กำลังจะชนะสร้อยคอที่ราคา 800,000 หยวน เขาเกือบลืมเกี่ยวกับพลังของเขาหลังจากไม่ได้ใช้งานมามันมาสองสามวัน

เหว่ยหน่านกัดฟันของเขาและมองดู ดงซูบินด้วยสายตาที่เย็นชา “ 1.3 ล้าน!” ‘แกจะกล้าเสนอราคาไปมากกว่านี้ไหม

ดงซูบินตะโกน:“ 1.4 ล้าน!”

เหว่ยหน่านขมวดคิ้วและยกระดับป้ายประมูลขึ้นมา:“ 1.45 ล้าน!”

ดงซูบินตะโกน:“ 1.5 ล้าน!”

เหว่ยหน่านมองหน้าเพื่อนทั้งสองของเขาแล้วตะโกนว่า“ 1.55 ล้าน!” เหว่ยหน่านสงบลงและสูดหายใจลึก ๆ เขาคิดเรื่องนี้ จากการเสนอราคาเพียงไม่กี่ครั้งของดงซูบินเหว่ยหน่าน รู้สึกว่า ดงซูบินจะเพิ่มการเสนอราคาของเขาไปเรื่อยๆ ‘แกคิดว่าแกจะได้สร้อยเส้นนี้ไปจริงๆหรือยังไงกัน? ฉันไม่ยอมหรอก! เงินเพียงเท่านี้ ฮ่าฮ่าฮ่านี่จะสอนบทเรียนให้แกรู้เอง!’

“ 1.55 ล้าน……. มีการเสนอราคาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ 1.55 ล้านครั้ง……”

เหว่ยหน่านลดหัวของเขาและพูดอะไรบางอย่างกับเพื่อนของเขา

ชายหนุ่มสองคนเหล่านั้นดูเหมือนจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและกำลังมองไปที่ดงซูบิน พวกเขาพยายามที่จะดูว่าดงซูบินจะกล้าเพิ่มเงินประมูลให้สูงกว่านี้อีกหรือไม่

แต่หลังจากดงซูบินตะโกน 1.5 ล้านเขาไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วปิดตา!

เหว่ยหน่านไม่ได้คาดหวังว่าดงซูบินจะตอบโต้ด้วยวิธีนี้ เขาตกตะลึง

“ 1.55 ล้านครั้งที่สอง……มีใครต้องการที่จะราคาเสนอสูงกว่านี้ไหม” ผู้ประมูลรายนั้นมองไปที่ดงซูบินในฝูงชนและสังเกตเห็นว่าดงซูบินดูเหมือนว่าเขาหลับไปแล้ว ผู้จัดประมูลพูดไม่ออกแล้วยกค้อนของเขา:“ 1.55 ล้าน……สามครั้ง! ปัง!” เขาทิ้งค้อนอย่างหนัก:“ ขายแล้ว!”

เหว่ยหน่านมองไปที่หน้าเพื่อนของเขาสีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไป! ‘ทำไมไอ้หมอนั้นไม่สู้เสนอราคาการประมูลต่อกัน? ก่อนหน้านี้มันดูไม่ลังเลที่จะยกป้ายเลยนิ ดูเหมือนว่ามันอยากจะได้สร้อยคอจริงเลยเสนอราคา 1.5 ล้าน…….’

เสียงตบมือดังลั่นห้อง …… ทุกคนในการประมูลตบมือ พวกเขาตบมือให้เหว่ยหน่าน!

ดงซูบินเองก็ดูมีความสุขอยู่ภายในใจของเขา การกลับมาครั้งนี้ถือว่ายิ่งใหญ่มาก!

1.55 ล้านหยวน!

หลังจากหักค่าคอมมิชชั่นและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แล้วดงซูบินจะได้รับประมาณ 1.3 ล้านหยวน! มีเงินเกินมา 300,000 หยวน ซึ่งมากกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้แต่แรกคือ 1.0 ล้านหยวน !!!