POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) 141.1

Now you are reading POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) Chapter 141.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 141.1 เหตุสุดวิสัย ถุงน่องมหัศจรรย์ (1)

ผู้แปล loop

ณ เวลากลางคืน.

ดงซูบินได้ทำอาหารเป็นโจ๊กร้อนไว้เพื่อเป็นมื้อเย็นในวันนี้ หลังอาหารเย็นผ่านไปเสี่ยวหลานที่มีไข้ลดลงเล็กน้อย เธอทานยาเพิ่มอีกหนึ่งเม็ดและไปนอนในห้องนอนของดงซูบินอย่างไม่รู้สึกตัว ดังนั้นดงซูบินจึงหันดูรายการจัดงานคืนฤดูใบไม้ผลิกาล่าบนทีวีแทน  เขาเป็นกังวลว่าเขาจะรบกวนเสี่ยวหลานจึงไม่กล้าที่จะเพิ่มระดับเสียงของทีวี ใครต่อหลายคนออกมาจุดประทัดเฉลิมฉลองกันอยู่นอกบ้านมันทำให้เขานั้นก็ไม่ได้ยินเสียงทีวีอีกเช่นกัน ในท้ายที่สุดดงซูบินเลือกที่จะไปดูชุดชั้นในของเสี่ยวหลานซึ่งถูกแขวนโดยอยู่ที่เครื่องทำความร้อนแทน เขาพบว่ามันน่าสนใจกว่าสิ่งที่ปรากฏบนทีวีเสียอีก

ติ๊ก, ติก, ติ๊ก, ติ๊ก……. โทรศัพท์ของเสี่ยวหลานได้ดังขึ้น

ดงซูบินละสายตาจากบราไปอย่างรวดเร็วและหันกลับมาอยู่หน้าทีวี

โทรศัพท์ดังขึ้นสักพักก่อนที่เสี่ยวหลานจะตอบ “สวัสดี? เสี่ยวหลาน?” มันเป็นเสียงที่ขี้เกียจรับสายของเสี่ยวหลาน “ คุณไปทำอะไรที่บ้านของฉัน ฉันไม่ได้อยู่ที่บ้าน……. ใช่. ฉันอยู่ที่บ้านเพื่อน แคะ…… อ่ะ ……ฉันมีไข้นิดหน่อย ไม่เป็นไร……ทำไมคุณไปที่นั้น? ฉันจะกลับไปเร็ว ๆ นี้แหละ……. ฉันสบายดี……. แคะ……” มีการหยุดชั่วคราว “ สบายดี……………………แต่ถ้าแค่อยากส่งของนั้นมาให้ฉัน คุณก็ส่งมันมาให้ฉันได้……ถนนนอตเฮยเป่ย ตรงบล็อคแรกห้อง 301 ……. ตกลง. บาย.”

ดงซูบินกระพริบตาและเทน้ำอุ่นหนึ่งถ้วยก่อนที่จะเคาะประตู “ พี่เสี่ยว ผมขอเขาไปได้ไหม”

“เข้ามาได้สิ.” เสี่ยวหลานนั่งอยู่บนเตียง “ ฮ่าฮ่านี่คือห้องของคุณนะ คุณไม่จำเป็นต้องเคาะประตูหรอก”

ดงซูบินยิ้มอย่างอาย ๆ และส่งแก้วให้เธอ “ มันเป็นน้ำอุ่น เผื่อคุณจะรู้สึกดีขึ้น”

“ขอบคุณนะ.” เสี่ยวหลาน หยิบแก้วจากเขาแล้วหาวอย่างเกียจคร้าน เธอจิบน้ำแล้วมองไปที่ดงซูบิน “ น้องชายของฉันชื่อเสี่ยวห่าวอีกไม่นานเขาจะมาที่นี้ คงไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“แน่นอน.”

“ ฮ่าฮ่าฉันก่อปัญหาให้คุณมากมายเลยวันนี้”

“ไม่เป็นไร. ผมไม่ได้รู้สึกลำบากใจเลย” ดงซูบินปรารถนาในใจของเขาว่าเธอจะอยู่ที่ห้องของเขาต่อ

10 นาทีต่อมา ติ่งต๊อก,ติ่งต๊อก  ……. มีคนอยู่ที่ประตู

ดงซูบินบ่นในใจของเขา ‘ทำไมเขาต้องมาเร็วขนาดนี้’ เขาเดินไปและเปิดประตู มีวัยรุ่นอายุประมาณ 15 ปียืนอยู่ข้างนอก เขาตัวเล็กกว่าดงซูบิน และหน้าตาของเขาไม่คมเท่ากับเสี่ยวหลาน แต่เขาก็ยังดูเหมือนเธออยู่บ้าง  ดงซูบินเปิดประตู “ เสี่ยวห่าวหรอ? กรุณาเข้ามาก่อน”

เด็กชายคนนั้นเห็นดงซูบิน และรู้สึกตกใจ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปแล้วผลักดงซูบินไปข้างหน้าแล้ววิ่งเข้าไปในห้อง

ดงซูบินสูญเสียการทรงตัวของเขาและถอยหลังไปสองก้าว เขาโกรธมาก ‘เวรเอ๋ย เกิดอะไรขึ้น!’

“พี่สาว!” ปัง. เสี่ยวห่าวเปิดประตูห้องนอนและเห็นเสี่ยวหลาน ที่ป่วยอยู่บนเตียง “พี่สาว! เกิดอะไรขึ้น? ใครทำอย่างนี้กับคุณ?” ก่อนที่เสี่ยวหลาน จะตอบกลับไปเสี่ยวหลาน ก็หันมาจับที่คอเสื้อของดงซูบิน “ไอ้เวรนิ! นายทำอะไรกับพี่สาวของฉัน ฉันจะฆ่านาย! นายรู้หรือไม่ว่าปู่ของฉันคือใคร! ห่ะ?!”

ดงซูบินโกรธมาก ‘ฉันได้ช่วยชีวิตพี่สาวของนายไว้ต่างหากแต่นายทำกับฉันอย่างงี้หรอ? แล้วใครจะรู้กันว่าปู่ของนายเป็นใคร!’

“ เสี่ยวห่าว!” เสี่ยวหลาน มองไปที่เสี่ยวห่าว อย่างเฉยเมย “ มานี่สิ!”

เสี่ยวห่าวจ้องมองดงซูบินก่อนที่จะปล่อยมือ เขาหันไปหาพี่สาวของเขาแทน “ พี่สาว เขารังแกพี่รึเปล่า?”

เสี่ยวหลาน จ้องไปที่เสี่ยวห่าว ด้วยสายตาดุดัน:“ นายคิดว่านายเป็นใคร? นายจะทำลายคนต่อหน้าฉันเนี่ยนะ!”

เสี่ยวห่าวพยายามอธิบายตัวเอง:“ ไม่……ผม……พี่อยู่บนเตียงของผู้ชาย……และผมคิดว่า……”

“ นายคิดว่า? นายคิดอะไรอยู่? นอกจากนี้ปู่ของนายคือใคร อา? บอกฉันมาตอนนี้! ปู่ของนายคือใคร!”

เสี่ยวห่าวตะลึงเมื่อเห็นพี่สาวของเขาโกรธมาก เขาตอบอย่างนุ่มนวล:“ ปู่ของผมก็เป็นปู่ของพี่นั้นแหละ”

“ คุณยังจะกล้าที่จะคุยกลับฉันเหรอ?!” เสี่ยวหลานกระแทกบนเตียงและชี้ไปที่ดงซูบิน “ วันนี้ฉันตกลงไปในแม่น้ำและขาของฉันไปติดสาหร่ายทะเล ฉันเกือบจมน้ำตายและซูบินก็เสี่ยงชีวิตมาเพื่อช่วยชีวิตฉัน ถ้าไม่ใช่สำหรับเขานายจะไปที่ห้องเก็บศพแทนตอนนี้! แล้วนายจะคว้าปกเสื้อซูบินทำไม? นายพยายามจะทำอะไร? อา? บอกฉันมา!”

เสี่ยวห่าว กระโดดขึ้นอย่างน่าตกใจ “พี่สาว! คุณเกือบ……. อ่า……”

เสี่ยวหลานจ้องไปที่เขา “ ขอโทษพีซูบินที่ได้ทำอะไรไม่ดีไป!”

เสี่ยวห่าวนั้นตระหนักว่าเขาเข้าใจผิดดงซูบิน และรีบไปที่ดงซูบิน“ พี่ซูบิน พี่จะเป็นพี่ชายของผมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่ได้ช่วยพี่สาวของผมไว้และยังผม…….” เสี่ยวห่าวตบหน้าตัวเองเบา ๆ “ผมขอโทษ. ไม่มี …… พี่ซูบิน พี่ตีผมได้เลย. ผมคว้าคอเสื้อพี่และด่าพี่”

ดงซูบินไม่โกรธเสี่ยวเห่าอีกต่อไป “ไม่เป็นไร. ฉันเขาใจว่านายเป็นห่วงพี่สาวนาย”

เสี่ยวห่าว ปฏิเสธ “ พี่ซูบิน คุณต้องจัดการกับฉันเพราะฉันหยาบคายกับพี่มาก! มันต้อง!”

ดงซูบิน หัวเราะ ‘เห้ย. คำขอนี้คืออะไรกัน? “ มันเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย ทุกอย่างปกติดี.”

“ไม่ได้ พี่ช่วยชีวิตพี่สาวฉันและฉันก็ยังปฏิบัติต่อพี่เช่นนั้น ถ้าพี่ไม่ตีฉันอย่างน้อยหนึ่งครั้งฉันจะรู้สึกไม่สบายใจ เร็วเขา แค่ตีฉันอย่างหนักเท่าที่พี่ต้องการ!” เสี่ยวห่าว ขยับใบหน้าของเขาออกมาข้างหน้า

ดงซูบินมองเขาแล้วหัวเราะ เขาตีเขาเบา ๆ บนหัวนี้ “ตกลง. ฉันตีนายแล้ว นายพอใจไหม”

เสี่ยวห่าวหัวเราะแล้วหันไปหาเสี่ยวหลาน “ พี่ชายซูบินยอมรับคำขอโทษของฉันแล้ว”

เสี่ยวหลาน มองไปที่น้องชายของเธอ:“ ครั้งหน้าก็ใช้สมองส่ะบ้างก่อนที่จะทำอะไรนะ!”

“ครับ” เสี่ยวหลาน เห็นว่าพี่สาวของเขาหายโกรธแล้วเขาก็ขยับเข้ามาใกล้ “ พี่ พี่ยังมีไข้หรือป่าว?พี่ต้องการยาหรือป่าว พี่ต้องการให้ฉันเอาน้ำมาให้รึเปล่า”

เสี่ยวหลานดูที่ เสี่ยวห่าว และพยักหน้า “ พี่ซูบินอยากดื่มน้ำไหม ครับ”

“อยากดื่มนะ!”

ดงซูบินพูดว่า:“ เดียวฉันทำเองดีกว่า”

เสี่ยวหลาน หยุดเขาอย่างรวดเร็ว “ไม่ไม่. พี่ซูบิน พี่นั่งที่นี่รอแหบะ ฉันจะเอาน้ำไปให้เอง”

เสี่ยวหลานส่ายหัวของเธอและยิ้มไปที่ดงซูบิน “ น้องชายของฉันเสียครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก เขาเป็นพวกหุนหันพลันแล่นและชอบด่วนสรุป แต่เขาเป็นคนดีนะ และรู้วิธีการปรับตัวกับการอยู่กับผู้อื่นด้วย”

“ พี่สาว, พี่ชายซูบิน, นี้น้ำ”

ดงซูบินสามารถบอกได้เลยว่าเสี่ยวห่าว กลัวเสี่ยวหลาน เป็นอย่างมาก เขาไม่กล้าด่าดงซูบินเพราะกลัวพี่สาวของเขา อีกทั้งเสี่ยวหลานมีอายุมากกว่าเขาตั้ง 10 ปี รวมไปถึงเธอยังเป็นผู้นำในรัฐบาลกลางและมีบุคลิกที่ดูแข็งแกร่ง มันจะแปลกถ้าเสี่ยวห้าว ไม่กลัวเธอ โอ้…… ‘ทำไมเสี่ยวห่าวพูดถึงปู่ของเขากัน? ปู่ของ เสี่ยวหลานคือใครกัน? เขาเป็นผู้นำในรัฐบาลกลางด้วยหรือป่าว’

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเสี่ยวหลานก็แตะตัวของเธอ เธอดูเหมือนจะไม่สบาย ดงซูบินบอกให้เธอพักซักครู่ก่อนออกเดินทางและออกจากห้องไปกับเสี่ยวห่าว

“ เสี่ยวห่าว นายเรียนโรงเรียนอะไรอยู่” ดงซูบินพยายามที่จะเริ่มบทสนทนา

เสี่ยวห่าวเองก็ตอบด้วยรอยยิ้ม “ ยูคาน โรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดของเมือง”

“ ว้าว……เป็นโรงเรียนที่ดีเลยนิ”

“ ฮ่า…ผมเข้าไปได้เพราะเส้นสายนะ พี่ซูบินบอกผมที่เกี่ยวกับเรื่องบ่ายวันนี้ พี่ช่วยพี่สาวของผมได้อย่างไร”

เสี่ยวห่าว กลัวเสี่ยวหลานตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นใบหน้าพี่สาวของเขาเขาจะตัวสั่นเสี่ยวหลานเป็นคนเดียวที่เขากลัวในครอบครัวของเขา เขานั้นไม่กลัวแม้แต่ปู่ของเขาเอง แต่ถึงแม้จะกลัวพี่สาวของเขาสักแค่เขาเองก็สนิทกับเธอที่สุด เขาสนิทกับพี่สาวมากกว่าพ่อแม่เสียด้วยซ้ำ เมื่อเขารู้ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุเขาจึงรีบมาหาพี่สาวเขาอย่างรวดเร็ว

ดงซูบินคิดอยู่พักหนึ่งแล้วบอกกับเสี่ยวห่าว ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาบอกว่าเขาผ่านพื้นที่นั้นในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ โอ้เขายังไม่ได้พูดถึงการ CPR

“ อ้า……นั่นมันอันตรายมากสำหรับพี่เลย!” เสี่ยวเห่าปิดปากของเขาอย่างรวดเร็ว พี่สาวของเขายังอยู่ในห้องนอน “ พี่ซูบินพี่คือคน! พี่เป็นคนจริง! บอกผมได้ถ้าใครมาก่อกวนพี่ ผมสามารถช่วยหพี่ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้เลย! ผมไม่เคยกลัวใคร” เสี่ยวห่าว หยิบไอโฟน ของดงซุบินและแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกัน

ไม่กลัวใคร? ดงซูบินถึงกับพูดไม่ออก “ จากที่เห็น  นายคงจะมีเรื่องชกต่อยกันในโรงเรียนเป็นประจำสินะ”

เสี่ยวห่าวตอบอย่างรวดเร็ว ‘ชู “และพูดว่า:” อย่าปล่อยให้พี่สาวของผมได้ยินสิ่งนี้ เดียวผมจะเดือดร้อน”

ดงซูบิน หัวเราะ “ ดูสิ นายเป็นคนที่ผอมกว่าฉันอีก แล้วนายต่อยชนะได้ยังไง นายควรตั้งใจเรียนจะดีกว่า!”

เสี่ยวห่าว ภูมิใจนำเสนอ “ พี่ซูบินผมไม่ได้พูดอะไรเกินจริงเลย ผมอาจจะไม่ตัวสูง แต่ผมสามารถต่อยชนะกับคนหนึ่งหรือสองคนพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย แย่จัง! ทำไมพี่มองผมแบบนี้ ผมกำลังพูดความจริงนะ!”

ดงซูบินคิดกับตัวเอง ‘โกหก นายจจะชนะฉันด้วยร่างกายที่อ่อนแอของนายได้อย่างไรกัน’

เมื่อพูดถึงการมีคนน้อยคนนักที่จะได้ชัยชนะจากปักกิ่ง ทุกคนบนท้องถนนของปักกิ่งสามารถโอ้อวดจนกว่าคนอื่นจะเป็นลม แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดจริงจัง พวกเขาถือว่าการล้อเล่นหรือเป็นเรื่องตลก มันเหมือนกับการเล่าเรื่องตลกให้ใครบางคนและไม่มีใครจะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

ดงซูบินรู้สึกว่าเสี่ยวห่าวนั้นดูน่าสนใจหลังจากพูดคุยกันซักพัก เขาลืมสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้เขาดูสนิทสนมกันมากขึ้น

ทันใดนั้น เสี่ยวหลานก็ตะโกนออกมาจากห้อง “ เสี่ยวห่าวสายแล้ว กลับกันเถอะ.”

“ตกลงครับ!” เสี่ยวห่าว ตอบกลับและหันไปหาดงซูบิน “ พี่ซูบินโทรหาผมได้เลยถ้าพี่ต้องการความช่วยเหลือ”

“ตกลง. ฉันจะโทรหานาย.” ดงซูบินหัวเราะแล้วเดินไปที่ห้องนอน เขาเคาะประตูและเข้าไป “ พี่สาวเสี่ยว คุณยังมีไข้อยู่ คุณจะป่วยถ้าคุณเดินออกไปเช่นนี้ ผมจะเรียกแท็กซี่ให้คุณก่อนจะดีกว่าไหม? หรือว่าจะเอาผ้าห่มผมห่อตัวไปก็ได้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) 141.1

Now you are reading POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) Chapter 141.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 141.1 เหตุสุดวิสัย ถุงน่องมหัศจรรย์ (1)

ผู้แปล loop

ณ เวลากลางคืน.

ดงซูบินได้ทำอาหารเป็นโจ๊กร้อนไว้เพื่อเป็นมื้อเย็นในวันนี้ หลังอาหารเย็นผ่านไปเสี่ยวหลานที่มีไข้ลดลงเล็กน้อย เธอทานยาเพิ่มอีกหนึ่งเม็ดและไปนอนในห้องนอนของดงซูบินอย่างไม่รู้สึกตัว ดังนั้นดงซูบินจึงหันดูรายการจัดงานคืนฤดูใบไม้ผลิกาล่าบนทีวีแทน  เขาเป็นกังวลว่าเขาจะรบกวนเสี่ยวหลานจึงไม่กล้าที่จะเพิ่มระดับเสียงของทีวี ใครต่อหลายคนออกมาจุดประทัดเฉลิมฉลองกันอยู่นอกบ้านมันทำให้เขานั้นก็ไม่ได้ยินเสียงทีวีอีกเช่นกัน ในท้ายที่สุดดงซูบินเลือกที่จะไปดูชุดชั้นในของเสี่ยวหลานซึ่งถูกแขวนโดยอยู่ที่เครื่องทำความร้อนแทน เขาพบว่ามันน่าสนใจกว่าสิ่งที่ปรากฏบนทีวีเสียอีก

ติ๊ก, ติก, ติ๊ก, ติ๊ก……. โทรศัพท์ของเสี่ยวหลานได้ดังขึ้น

ดงซูบินละสายตาจากบราไปอย่างรวดเร็วและหันกลับมาอยู่หน้าทีวี

โทรศัพท์ดังขึ้นสักพักก่อนที่เสี่ยวหลานจะตอบ “สวัสดี? เสี่ยวหลาน?” มันเป็นเสียงที่ขี้เกียจรับสายของเสี่ยวหลาน “ คุณไปทำอะไรที่บ้านของฉัน ฉันไม่ได้อยู่ที่บ้าน……. ใช่. ฉันอยู่ที่บ้านเพื่อน แคะ…… อ่ะ ……ฉันมีไข้นิดหน่อย ไม่เป็นไร……ทำไมคุณไปที่นั้น? ฉันจะกลับไปเร็ว ๆ นี้แหละ……. ฉันสบายดี……. แคะ……” มีการหยุดชั่วคราว “ สบายดี……………………แต่ถ้าแค่อยากส่งของนั้นมาให้ฉัน คุณก็ส่งมันมาให้ฉันได้……ถนนนอตเฮยเป่ย ตรงบล็อคแรกห้อง 301 ……. ตกลง. บาย.”

ดงซูบินกระพริบตาและเทน้ำอุ่นหนึ่งถ้วยก่อนที่จะเคาะประตู “ พี่เสี่ยว ผมขอเขาไปได้ไหม”

“เข้ามาได้สิ.” เสี่ยวหลานนั่งอยู่บนเตียง “ ฮ่าฮ่านี่คือห้องของคุณนะ คุณไม่จำเป็นต้องเคาะประตูหรอก”

ดงซูบินยิ้มอย่างอาย ๆ และส่งแก้วให้เธอ “ มันเป็นน้ำอุ่น เผื่อคุณจะรู้สึกดีขึ้น”

“ขอบคุณนะ.” เสี่ยวหลาน หยิบแก้วจากเขาแล้วหาวอย่างเกียจคร้าน เธอจิบน้ำแล้วมองไปที่ดงซูบิน “ น้องชายของฉันชื่อเสี่ยวห่าวอีกไม่นานเขาจะมาที่นี้ คงไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“แน่นอน.”

“ ฮ่าฮ่าฉันก่อปัญหาให้คุณมากมายเลยวันนี้”

“ไม่เป็นไร. ผมไม่ได้รู้สึกลำบากใจเลย” ดงซูบินปรารถนาในใจของเขาว่าเธอจะอยู่ที่ห้องของเขาต่อ

10 นาทีต่อมา ติ่งต๊อก,ติ่งต๊อก  ……. มีคนอยู่ที่ประตู

ดงซูบินบ่นในใจของเขา ‘ทำไมเขาต้องมาเร็วขนาดนี้’ เขาเดินไปและเปิดประตู มีวัยรุ่นอายุประมาณ 15 ปียืนอยู่ข้างนอก เขาตัวเล็กกว่าดงซูบิน และหน้าตาของเขาไม่คมเท่ากับเสี่ยวหลาน แต่เขาก็ยังดูเหมือนเธออยู่บ้าง  ดงซูบินเปิดประตู “ เสี่ยวห่าวหรอ? กรุณาเข้ามาก่อน”

เด็กชายคนนั้นเห็นดงซูบิน และรู้สึกตกใจ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปแล้วผลักดงซูบินไปข้างหน้าแล้ววิ่งเข้าไปในห้อง

ดงซูบินสูญเสียการทรงตัวของเขาและถอยหลังไปสองก้าว เขาโกรธมาก ‘เวรเอ๋ย เกิดอะไรขึ้น!’

“พี่สาว!” ปัง. เสี่ยวห่าวเปิดประตูห้องนอนและเห็นเสี่ยวหลาน ที่ป่วยอยู่บนเตียง “พี่สาว! เกิดอะไรขึ้น? ใครทำอย่างนี้กับคุณ?” ก่อนที่เสี่ยวหลาน จะตอบกลับไปเสี่ยวหลาน ก็หันมาจับที่คอเสื้อของดงซูบิน “ไอ้เวรนิ! นายทำอะไรกับพี่สาวของฉัน ฉันจะฆ่านาย! นายรู้หรือไม่ว่าปู่ของฉันคือใคร! ห่ะ?!”

ดงซูบินโกรธมาก ‘ฉันได้ช่วยชีวิตพี่สาวของนายไว้ต่างหากแต่นายทำกับฉันอย่างงี้หรอ? แล้วใครจะรู้กันว่าปู่ของนายเป็นใคร!’

“ เสี่ยวห่าว!” เสี่ยวหลาน มองไปที่เสี่ยวห่าว อย่างเฉยเมย “ มานี่สิ!”

เสี่ยวห่าวจ้องมองดงซูบินก่อนที่จะปล่อยมือ เขาหันไปหาพี่สาวของเขาแทน “ พี่สาว เขารังแกพี่รึเปล่า?”

เสี่ยวหลาน จ้องไปที่เสี่ยวห่าว ด้วยสายตาดุดัน:“ นายคิดว่านายเป็นใคร? นายจะทำลายคนต่อหน้าฉันเนี่ยนะ!”

เสี่ยวห่าวพยายามอธิบายตัวเอง:“ ไม่……ผม……พี่อยู่บนเตียงของผู้ชาย……และผมคิดว่า……”

“ นายคิดว่า? นายคิดอะไรอยู่? นอกจากนี้ปู่ของนายคือใคร อา? บอกฉันมาตอนนี้! ปู่ของนายคือใคร!”

เสี่ยวห่าวตะลึงเมื่อเห็นพี่สาวของเขาโกรธมาก เขาตอบอย่างนุ่มนวล:“ ปู่ของผมก็เป็นปู่ของพี่นั้นแหละ”

“ คุณยังจะกล้าที่จะคุยกลับฉันเหรอ?!” เสี่ยวหลานกระแทกบนเตียงและชี้ไปที่ดงซูบิน “ วันนี้ฉันตกลงไปในแม่น้ำและขาของฉันไปติดสาหร่ายทะเล ฉันเกือบจมน้ำตายและซูบินก็เสี่ยงชีวิตมาเพื่อช่วยชีวิตฉัน ถ้าไม่ใช่สำหรับเขานายจะไปที่ห้องเก็บศพแทนตอนนี้! แล้วนายจะคว้าปกเสื้อซูบินทำไม? นายพยายามจะทำอะไร? อา? บอกฉันมา!”

เสี่ยวห่าว กระโดดขึ้นอย่างน่าตกใจ “พี่สาว! คุณเกือบ……. อ่า……”

เสี่ยวหลานจ้องไปที่เขา “ ขอโทษพีซูบินที่ได้ทำอะไรไม่ดีไป!”

เสี่ยวห่าวนั้นตระหนักว่าเขาเข้าใจผิดดงซูบิน และรีบไปที่ดงซูบิน“ พี่ซูบิน พี่จะเป็นพี่ชายของผมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พี่ได้ช่วยพี่สาวของผมไว้และยังผม…….” เสี่ยวห่าวตบหน้าตัวเองเบา ๆ “ผมขอโทษ. ไม่มี …… พี่ซูบิน พี่ตีผมได้เลย. ผมคว้าคอเสื้อพี่และด่าพี่”

ดงซูบินไม่โกรธเสี่ยวเห่าอีกต่อไป “ไม่เป็นไร. ฉันเขาใจว่านายเป็นห่วงพี่สาวนาย”

เสี่ยวห่าว ปฏิเสธ “ พี่ซูบิน คุณต้องจัดการกับฉันเพราะฉันหยาบคายกับพี่มาก! มันต้อง!”

ดงซูบิน หัวเราะ ‘เห้ย. คำขอนี้คืออะไรกัน? “ มันเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย ทุกอย่างปกติดี.”

“ไม่ได้ พี่ช่วยชีวิตพี่สาวฉันและฉันก็ยังปฏิบัติต่อพี่เช่นนั้น ถ้าพี่ไม่ตีฉันอย่างน้อยหนึ่งครั้งฉันจะรู้สึกไม่สบายใจ เร็วเขา แค่ตีฉันอย่างหนักเท่าที่พี่ต้องการ!” เสี่ยวห่าว ขยับใบหน้าของเขาออกมาข้างหน้า

ดงซูบินมองเขาแล้วหัวเราะ เขาตีเขาเบา ๆ บนหัวนี้ “ตกลง. ฉันตีนายแล้ว นายพอใจไหม”

เสี่ยวห่าวหัวเราะแล้วหันไปหาเสี่ยวหลาน “ พี่ชายซูบินยอมรับคำขอโทษของฉันแล้ว”

เสี่ยวหลาน มองไปที่น้องชายของเธอ:“ ครั้งหน้าก็ใช้สมองส่ะบ้างก่อนที่จะทำอะไรนะ!”

“ครับ” เสี่ยวหลาน เห็นว่าพี่สาวของเขาหายโกรธแล้วเขาก็ขยับเข้ามาใกล้ “ พี่ พี่ยังมีไข้หรือป่าว?พี่ต้องการยาหรือป่าว พี่ต้องการให้ฉันเอาน้ำมาให้รึเปล่า”

เสี่ยวหลานดูที่ เสี่ยวห่าว และพยักหน้า “ พี่ซูบินอยากดื่มน้ำไหม ครับ”

“อยากดื่มนะ!”

ดงซูบินพูดว่า:“ เดียวฉันทำเองดีกว่า”

เสี่ยวหลาน หยุดเขาอย่างรวดเร็ว “ไม่ไม่. พี่ซูบิน พี่นั่งที่นี่รอแหบะ ฉันจะเอาน้ำไปให้เอง”

เสี่ยวหลานส่ายหัวของเธอและยิ้มไปที่ดงซูบิน “ น้องชายของฉันเสียครอบครัวตั้งแต่ยังเด็ก เขาเป็นพวกหุนหันพลันแล่นและชอบด่วนสรุป แต่เขาเป็นคนดีนะ และรู้วิธีการปรับตัวกับการอยู่กับผู้อื่นด้วย”

“ พี่สาว, พี่ชายซูบิน, นี้น้ำ”

ดงซูบินสามารถบอกได้เลยว่าเสี่ยวห่าว กลัวเสี่ยวหลาน เป็นอย่างมาก เขาไม่กล้าด่าดงซูบินเพราะกลัวพี่สาวของเขา อีกทั้งเสี่ยวหลานมีอายุมากกว่าเขาตั้ง 10 ปี รวมไปถึงเธอยังเป็นผู้นำในรัฐบาลกลางและมีบุคลิกที่ดูแข็งแกร่ง มันจะแปลกถ้าเสี่ยวห้าว ไม่กลัวเธอ โอ้…… ‘ทำไมเสี่ยวห่าวพูดถึงปู่ของเขากัน? ปู่ของ เสี่ยวหลานคือใครกัน? เขาเป็นผู้นำในรัฐบาลกลางด้วยหรือป่าว’

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเสี่ยวหลานก็แตะตัวของเธอ เธอดูเหมือนจะไม่สบาย ดงซูบินบอกให้เธอพักซักครู่ก่อนออกเดินทางและออกจากห้องไปกับเสี่ยวห่าว

“ เสี่ยวห่าว นายเรียนโรงเรียนอะไรอยู่” ดงซูบินพยายามที่จะเริ่มบทสนทนา

เสี่ยวห่าวเองก็ตอบด้วยรอยยิ้ม “ ยูคาน โรงเรียนมัธยมที่ดีที่สุดของเมือง”

“ ว้าว……เป็นโรงเรียนที่ดีเลยนิ”

“ ฮ่า…ผมเข้าไปได้เพราะเส้นสายนะ พี่ซูบินบอกผมที่เกี่ยวกับเรื่องบ่ายวันนี้ พี่ช่วยพี่สาวของผมได้อย่างไร”

เสี่ยวห่าว กลัวเสี่ยวหลานตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นใบหน้าพี่สาวของเขาเขาจะตัวสั่นเสี่ยวหลานเป็นคนเดียวที่เขากลัวในครอบครัวของเขา เขานั้นไม่กลัวแม้แต่ปู่ของเขาเอง แต่ถึงแม้จะกลัวพี่สาวของเขาสักแค่เขาเองก็สนิทกับเธอที่สุด เขาสนิทกับพี่สาวมากกว่าพ่อแม่เสียด้วยซ้ำ เมื่อเขารู้ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุเขาจึงรีบมาหาพี่สาวเขาอย่างรวดเร็ว

ดงซูบินคิดอยู่พักหนึ่งแล้วบอกกับเสี่ยวห่าว ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาบอกว่าเขาผ่านพื้นที่นั้นในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ โอ้เขายังไม่ได้พูดถึงการ CPR

“ อ้า……นั่นมันอันตรายมากสำหรับพี่เลย!” เสี่ยวเห่าปิดปากของเขาอย่างรวดเร็ว พี่สาวของเขายังอยู่ในห้องนอน “ พี่ซูบินพี่คือคน! พี่เป็นคนจริง! บอกผมได้ถ้าใครมาก่อกวนพี่ ผมสามารถช่วยหพี่ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้เลย! ผมไม่เคยกลัวใคร” เสี่ยวห่าว หยิบไอโฟน ของดงซุบินและแลกเปลี่ยนเบอร์โทรกัน

ไม่กลัวใคร? ดงซูบินถึงกับพูดไม่ออก “ จากที่เห็น  นายคงจะมีเรื่องชกต่อยกันในโรงเรียนเป็นประจำสินะ”

เสี่ยวห่าวตอบอย่างรวดเร็ว ‘ชู “และพูดว่า:” อย่าปล่อยให้พี่สาวของผมได้ยินสิ่งนี้ เดียวผมจะเดือดร้อน”

ดงซูบิน หัวเราะ “ ดูสิ นายเป็นคนที่ผอมกว่าฉันอีก แล้วนายต่อยชนะได้ยังไง นายควรตั้งใจเรียนจะดีกว่า!”

เสี่ยวห่าว ภูมิใจนำเสนอ “ พี่ซูบินผมไม่ได้พูดอะไรเกินจริงเลย ผมอาจจะไม่ตัวสูง แต่ผมสามารถต่อยชนะกับคนหนึ่งหรือสองคนพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย แย่จัง! ทำไมพี่มองผมแบบนี้ ผมกำลังพูดความจริงนะ!”

ดงซูบินคิดกับตัวเอง ‘โกหก นายจจะชนะฉันด้วยร่างกายที่อ่อนแอของนายได้อย่างไรกัน’

เมื่อพูดถึงการมีคนน้อยคนนักที่จะได้ชัยชนะจากปักกิ่ง ทุกคนบนท้องถนนของปักกิ่งสามารถโอ้อวดจนกว่าคนอื่นจะเป็นลม แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดจริงจัง พวกเขาถือว่าการล้อเล่นหรือเป็นเรื่องตลก มันเหมือนกับการเล่าเรื่องตลกให้ใครบางคนและไม่มีใครจะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

ดงซูบินรู้สึกว่าเสี่ยวห่าวนั้นดูน่าสนใจหลังจากพูดคุยกันซักพัก เขาลืมสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้เขาดูสนิทสนมกันมากขึ้น

ทันใดนั้น เสี่ยวหลานก็ตะโกนออกมาจากห้อง “ เสี่ยวห่าวสายแล้ว กลับกันเถอะ.”

“ตกลงครับ!” เสี่ยวห่าว ตอบกลับและหันไปหาดงซูบิน “ พี่ซูบินโทรหาผมได้เลยถ้าพี่ต้องการความช่วยเหลือ”

“ตกลง. ฉันจะโทรหานาย.” ดงซูบินหัวเราะแล้วเดินไปที่ห้องนอน เขาเคาะประตูและเข้าไป “ พี่สาวเสี่ยว คุณยังมีไข้อยู่ คุณจะป่วยถ้าคุณเดินออกไปเช่นนี้ ผมจะเรียกแท็กซี่ให้คุณก่อนจะดีกว่าไหม? หรือว่าจะเอาผ้าห่มผมห่อตัวไปก็ได้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+