POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) 138

Now you are reading POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) Chapter 138 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 138 เฉลิมฉลองตรุษจีน

ผู้แปล loop

ณ ปีใหม่ของประเทศจีน.

วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าหรือวันส่งท้ายก่อนตรุษจีนจะมาถึง มันอยู่ในวันที่ 30

เสียงประทัดดังไปทั่วทุกสารทิศ ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงการเฉลิมฉลองตามถนน ตอนนี้ดงซูบินรู้สึกดีมากเพราะเขาได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองหัวหน้าส่วนจากผู้บริหารระดับสูงเมื่อวานที่ผ่านมานี้และรู้สึกดีใจมาก หลังจากวางกลอนและคำว่า “ฟู” ที่หน้าประตูของเขาเขาหลังกลับไปที่อพาร์ทเมนต์ เพื่อเริ่มห่อหัวไชเท้าและเกี๊ยวหมู

แต่ความเสียใจเพียงอย่างเดียวของดงซูบินสำหรับปีใหม่นี้คือมันก็ยังเงียบเหมือนสมัยก่อนอยู่ดี

ฉูหยวนเองก็ไม่รับคำขอแต่งงานของเขา และต้องกลับไปที่บ้านพ่อแม่และปู่ย่าของเธอเพื่อเฉลิมฉลอง นี่เป็นเพราะเธอมีครอบครัวใหญ่ เธอได้ออกไปจากอพาทเม้นท์ไปเมื่อเช้านี้พร้อมพ่อกับแม่ของเธอและน่าจะกลับมาหลังจากหมดตรุษจีน

แม่ของดงซูบินเองก็กำลังเดินทางกลับมาปักกิ่ง ซึ่งตอนนี้ดงซูบินต้องนวดแป้งของขนมไหว้พระจันทร์รอแม่ของเขา

แหวน, แหวน, แหวน โทรศัพท์ของดงซูบินดังขึ้น มันเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก

“ หัวหน้าซูบินฉัน พี่หยางนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฉันขอให้หัวหน้ามีความสุขกับวันปีใหม่ด้วยนะ”

ดงซูบินเองก็รู้สึกประหลาดใจและตอบว่า:“ สวัสดีปีใหม่ด้วยเช่นกันครับ พี่หยาง”

พี่หยานคุยกับเขาอยู่พักหนึ่ง มันทำให้ดงซูบินจำได้ว่าเขาแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ไม่เพียงแค่เขาจะโทรมาบอกสวัสดีปีใหม่ดงซูบินมันร่วมไปถึงการพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

เนื่องจากดงซูบินเองไม่สามารถจะไปพบกับดงซูบินเป็นการส่วนตัวได้ เพราะการเลื่อนตำแหน่งของดงซูบินนั้นเป็นกรณีพิเศษและถ้าเขาไปเยี่ยมหัวหน้าจะต้องมีการนินทาและข่าวลือ และมันจะแย่กว่านี้ถ้าเขานำของขวัญปีใหม่ให้กับหัวหน้า ความมั่นคงของรัฐนั้นแตกต่างจากหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ดังนั้นหลังจากไตร่ตรองมาพักหนึ่งแล้ว ดงซูบินก็เริ่มโทรหาเซงอังเกา,เสี่ยวหยาน และหัวหน้าคนอื่น ๆ เพื่อส่งคำอวยพรของเขา

“ หัวหน้าเสี่ยว ขอให้หัวหน้ามีความสุขในช่วงตรุษจีนนะครับ ขอบคุณที่ดูแลผมมาตลอดเวลา ในปีนี้ผมจะทำงานหนักต่อไปและเดินตามรอยเท้าของหัวหน้า…….”

“ หัวหน้าเซง, สวัสดีวันปีใหม่ครับ ขอให้ชีวิตหัวหน้ารุ่งเรืองตลอดไป……”

ดงซูบินยังโทรหาเสี่ยวหลานเพื่อจะอวยพรวันปีใหม่เบอร์โทรของเธอค่อนข้างจะหายาก เพราะดงซูบินโทรหสหัวหน้าเสี่ยวสองครั้งและ หัวหน้าเซง สี่ครั้งก่อนที่เลื่อนหาเบอร์ต่อไป แต่เขาต้องลองโทรหาเสี่ยวหลาน 18 ครั้งก่อนที่เขาจะสามารถติดต่อเธอได้ในการโทรครั้งที่ 19 เขาสงสัยว่ามีกี่คนที่โทรหาเธอเพื่ออวยพรปีใหม่ตรุษจีนนี่คือช่วงเวลาสูงสุดสำหรับผู้ที่จะโทรหาหัวหน้าของพวกเขา

หลังจากโทรหาหัวหน้าทั้งหมดแล้ว ดงซูบินก็ยังคงนวดแป้งแป้งเกี๊ยวต่อไป

ติ้ง, ต๊อก, ติ๊ง โทรศัพท์ของดงซูบิน ดังขึ้นอีกครั้ง

ตาหลินเหม่ยเป็นคนโทรหาเขา “ เฮ่สวัสดีปีใหม่ซูบิน ฉันหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับนายนะ”

ดงซูบิน หัวเราะ “ขอบคุณ. ฉันขอให้เธอและจ้วงจือมีความสุข” เธอเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาที่สนิทกับเขาและเธอเองก็เป็นคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด

“ขอบคุณ. เอ้? ทำไมบ้านนายดูเงียบจัง?”

ดงซูบินหัวเราะ “หลินเหม่ยหยุดซ้ำเติมฉันได้แล้วฮ่า ๆ ๆ ๆ แม่ของฉันกำลังเดินทางกลับมา ปีนี้เราจะฉลองกันสองคนและฉันต้องนวดแป้งด้วยเกี๊ยวด้วยตัวเอง”

“ อ่า……สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เดียวฉันจะไปกับจ้วงจือเพื่อไปช่วยนาย”

“ทุกอย่างปกติดี. ขอบคุณมาก.”

“ ที่บ้านของฉันเลี้ยงกันตอนเย็นนู้นแหละ และฉันมีเรื่องบ้างอย่างที่จะคุยกับนายเรื่องโอนย้ายหลังจากปีใหม่นะ”

ดงซูบิน ได้ยินสิ่งที่เธอพูดและไม่ได้หยุดเธอ “โอเคถ้าอย่างนั้น. มาทานอาหารกลางวันกัน”

กริ่งดังขึ้นเมื่อดงซูบินวางสายไป

ดงซูบินคิดว่าแม่ของเขามาถึงแล้วจึงเดินไปเปิดประตู

แต่คนๆนั้นคือเกาแพนเหว่ย เขามีถุงใหญ่สองใบติดมือกับเขามาด้วย “ หัวหน้าซูบินครับ สวัสดีปีใหม่ นี่คือของขวัญสำหรับหัวหน้า ผมวางไว้ตรงนี้และไม่รบกวนหัวหน้าแล้วครับ.” ระเบียบไม่ได้พูดคือการเยี่ยมหาหัวหน้าในวันที่ 1, 2 และ 3 ของปีใหม่ตรุษจีน แต่ เกาแพนเหว่ยนั้นรู้เกี่ยวกับประวัติครอบครัวของหัวหน้าดงซูบิน เกาแพนเหว่ยว่าหัวหน้าของ เขาไม่มีญาติมากมายและ เกาแพนเหว่ยมาเพื่อดูว่าเขาสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง

ดงซูบินได้แต่หัวเราะ “ เข้ามาก่อนสิ จริงๆไม่ต้องเอาของขวัญมาให้ก็ได”

เกาแพนเหว่ยมองเข้าไปในอพาร์ทเมนต์ของดงซูบิน:“ เอ่อร์……ผมรบกวนไหมครับ”

“ไม่เลย. ฉันอยู่บ้านคนเดียว แม่ของฉันกำลังกลับมา เข้ามานั่งก่อนสิ”

“ขอบคุณครับ. หวังว่าผมจะไม่รบกวนหัวหน้านะครับ”

……

ด้านนอกของอาคารอพาร์ตเมนต์

แม่ของดงซูบินเดินทางมายังอพาทเม้นท์ เธอเห็นทุกครอบครัวแขวนโคมไฟสีแดงด้านนอกหน้าต่างและเด็ก ๆ เล่นกับประทัด เธอได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง ตั้งแต่ลูกชายของเธอได้รับการบรรจุเข้าราชการเธอก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย แต่ตอนนี้เธอก็ได้เห็นลูกชายของเธอมีความสุขสักที อย่างไรก็ตามเธฮรู้ดีว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหนของเธอนั้นก็ยังเป็นพวกขี้แงอยู่ตามเคย อีกทั้งยังรู้ว่าดงซูบินปิดปังหลายๆเรื่องๆเพื่อไม่ให้เธอเป็นกังวลในตัวของเขามากนั้ก

ยังไงก็ตามแม่ของดงซูบินก็ยังส่งสัยอยู่ว่าตอนนี้ลูกชายของเขากำลังอะไรอยู่กันแน่สำหรับการเป็นราชการ ดงซูบินบอกเพียงว่าทุกอย่างดีไปหมดกับงานของเขาแต่เธอก็สงสัยว่าลูกของเธอบอกความจริงกับเธอจริงๆอย่างงั้นรึ

“ เอ๊ะพี่สาวล้วน?” เพื่อนบ้านแถวนั้นเห็นล้วนซูบินแม่ของดงซูบินและไปทักทายเธอ “สวัสดีปีใหม่นะคะ.”

ล้วนซูบิน ยิ้มก่อนจะตอบรับว่า:“ สวัสดีปีใหม่ด้วยเช่นกันนะ ลูกของคุณเป็นอย่างไรบาง เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหรือยัง”

เพื่อนบ้านคนนั้นตอบว่า:“ ตอนนี้เขาจบแล้ว แต่เงินเดือนเขาพอใช้เท่านั้นเทียบกับลูกชายพี่ไม่ได้เลย”

ล้วนซูบิน รู้สึกดีในใจ แต่เธอไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา “ เงินเดือนของซูบินนั้นไม่เยอะขนาดนั้นหรอก การเป็นข้าราชการจะมีเงินเดือนได้เท่าไรเชียว อย่างมากก็คงไม่เกิน 3,000 หยวนต่อเดือนและอาจจะมีเงินเพิ่มๆเล็กๆน้อยๆช่วงปีใหม่”

เพื่อนบ้านนั้นประหลาดใจ:“ คงไม่ใช่อย่างงั้นหรอก ได้ข่าวว่าลูกชายพี่พึงได้เลื่อนตำแหน่งนิ”

ล้วนซูบินหยุดสักครู่แล้วหัวเราะ “ เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรอ? เขาเองยังไม่หมดทดลองงานเลย”

เพื่อนบ้านคนนั้นตอบว่า:“ แต่คนแถวนี้เขาลือกันให้หนาหนูเลยนะ โอ้หรือฉันอาจะเข้าใจผิด ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ ลูกชายของพี่นั้นมีความสามารถมากเลยนะ แม้กระทั่งหัวหน้าส่วนที่หยิ่งๆที่อยู่ชั้นบนก็ยังยอมย้ายนี้เลย ตอนนี้ห้องนั้นเปลี่ยนไปเป็นคนขายเสื้อผ้าแล้ว” ล้วนซูบิน ตกตะลึงอีกครั้ง หัวหน้าส่วนซูนะ ข้าราชการที่อยู่ชั้นบน ซูบินไล่เขาออกไปอย่างงั้นหรอ? สิ่งนี้หมายความว่า? แล้วซูบินไล่พวกเขาออกไปได้ยังไงกัน

แต่ก่อนที่เธอจะถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อนบ้านบอกว่า“ โอ้ญาติของฉันมาล่ะ ฉันต้องไปรับพวกเขาที่ทางเข้า พี่สาวล้วนก็แวะมาดื่มชาห้องฉันได้นะถ้าพี่ว่าง”

ล้วนซูบินที่กำลังสับสนเล็กน้อยก็เดินต่อไปที่ห้อง ระหว่างทางเธอรู้สึกตกใจกับเสียงพลุที่ดังลั่นขึ้นมา

ส่งเสียงกริ๊งเสียงกริ๊กเสียงกริ๊กเสียงลากโซ่ ….. ล้วนซูบิน เปิดประตูด้วยกุญแจของเธอ “ ซูบิน แม่กลับมาแล้ว”

“แม่? ทำไมแม่มาช้า รถติดหรอ?”

“ รถเมล์มันช้านะ”

“ คุณต้องเป็นแม่ของ…… สวัสดีปีใหม่.”

ล้วนซูบินรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นชายสองคนในอพาร์ตเมนต์ นอกเหนือจากลูกชายของเธอยังมีชายอีกคนหนึ่งในช่วงอายุ 30 ต้น ๆ  จากรูปลักษณ์เดียวเธอรู้ว่าชายคนนี้ต้องเป็นข้าราชการอย่างแน่นอน ล้วนซูบินแขวนเสื้อโค้ทของเธอและเข้าไปในห้อง “ เธอต้องเป็นเพื่อนร่วมงานของซูบินแน่ๆเลย สวัสดีปีใหม่ด้วยเช่นกัน” เธองงว่าทำไมเพื่อนร่วมงานของลูกชายของเธอถึงมาที่อพาร์ตเมนต์ของเขาในวันส่งท้ายปีเก่าเช่นนี้

ล้วนซูบินเห็นว่าแม้แต่น้ำสักแก้วบนโต๊ะหรือกาแฟก็ไม่มีให้เขา และเธอก็จ้องมองลูกชายของเธอ “ ทำไมลูกไม่หัดหาน้ำเพื่อมารับแขกเลยล่ะ?”

ดงซูบินหัวเราะ:“ เขาเพิ่งมาถึงด้วย”

เกาแพนเหว่ยยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว:“ คุณน้าเดียวผมเทเองครับ ให้ผมทำเถอะ”

เกาแพนเหว่ย เอาขวดน้ำร้อนแล้วเทน้ำหนึ่งแก้วให้กับล้วนซูบิน ดงซูบิน และก็เทให้ตัวเองแก้วหนึ่ง

ล้วนซูบินตกตะลึง เธอคิดกับตัวเอง ‘คุณทุกคนเป็นพนักงานในสำนักงานเดียวกันทำไมคุณเทน้ำให้ลูกชายของฉัน คุณยังแก่กว่าลูกชายฉันมาก’ หลังจากขอบคุณเกาแพนเหว่ย แล้ว ล้วนซูบินก็มองเขา:“ …เออเออร์… .. ฉันจะพูดยังไงกับคุณดี”

เกาแพนเหว่ยนั่งตัวตรงโดยมี 1/3 ของก้นแตะโซฟา เขาตอบอย่างสุภาพ:“ เกาแพนเหว่ย คุณน้าเรียกผมว่าน้องกั๋วก็ได้ครับ”

“ โอ้คุณมาจากสำนักงานกิจการทั่วไปหรือไม่”

“ใช่.ครับ”

ล้วนซูบินพูดไม่ออกเมื่อเธอเห็นว่า เกาแพนเหว่ยดูตกใจมาก เธอคิดกับตัวเอง ‘ฉันน่ากลัวอย่างั้นหรอ นักเรียนทุกคนของฉันบอกว่าฉันดูใจดีและอ่อนโยน ทำไมชายคนนีรู้สึกตื่นตัวมากเมื่อเขาเห็นฉัน’ ล้วนซูบินนั่งลงบนโซฟา “ ไม่ต้องเกร็งหรอก นั้งตามสบายเถอะคิดว่าที่นี้เป็นบ้านของคุณ ทำงานเป็นไงบ้าง? ช่วงนี้ยุ่งมากไหม?” ล้วนซูบินพยายามพูดคุยกับเขา

เกาแพนเหว่ย ตอบพร้อมกับหลังที่ตรง “ ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลและเราก็ยุ่งๆเล็กน้อยครับ”

ล้วนซูบิน พยักหน้า “ แล้วงานของซูบินล่ะเป็นไงบ้าง เขาถูกหัวหน้าดุบ้างไหม? ลูกชายของฉันคนนี้……เขาเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองเสมอและไม่ได้บอกอะไรเลย”

เกาแพนเหว่ย ตกตะลึง:“ ……ถูกดุหรอ? คุณน้าครับใครจะกล้าดุเขา?” เกาแพนเหว่ยพูดกับตัวเอง มีคนตำหนิหัวหน้าซูบินก็แค่โจวเกา และ ฉางจี้ที่มาวุ่นวายกับเขามาก่อน แต่ทั้งคู่ก็ได้รับเชิญให้ดื่มน้ำชากับคณะกรรมาธิการเพื่อการตรวจสอบวินัยและไม่มีใครเห็นพวกเขาหลังจากนั้น ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคนจะคิดสองครั้งหากพวกเขาต้องการตำหนิหัวหน้าซูบิน

มันเป็นตาของล้วนซูบินที่จะต้องตกใจ “ หัวหน้าซูบิน? หัวหน้าซูบินอะไรกัน?”

เกาแพนเหว่ยรู้สึกประหลาดใจ “คุณไม่รู้?”

“ ฉันควรรู้อะไรดีล่ะ”

ดงซูบินหัวเราะและตบหลังมือแม่ของเขา “ แม่ทำงานในหมู่บ้านและไม่ได้กลับมาเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่ได้บอกแม่ไง ผมอยากจะบอกแม่เกี่ยวกับสิ่งนี้ตอนที่ผมเจอกับแม่ ตอนนี้ผมเป็นรองหัวหน้าฝ่ายกิจการทั่วไปและเข้าร่วมพรรคแล้ว โอ้การเลื่อนตำแหน่งให้หัวหน้าส่วนงานของผมพึงได้รับการยืนยันเมื่อวานนี้ ตอนนี้ผมถือว่าเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการของรัฐบาลแล้ว” เขาไม่ได้บอกแม่เกี่ยวกับงานของเขาเพราะเขาต้องการทำให้เธอประหลาดใจ เขาดีใจมากเมื่อเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของแม่ในตอนนี้

“ฮะ?” ล้วนซูบินตกตะลึง “ ลูกได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรอ”

เกาแพนเหว่ยเสริมขึ้นมา:“ คุณน้าตั้งแต่วันหัวหน้าซูบินเข้าร่วมกับฝีมือของเขาหัวหน้านั้นเหนือชั้นมาก  ไม่มีใครสามารถทำเช่นเขาได้เลย เพราะหัวหน้าซูบินสามารถบรรลุเป้าหมายได้ทุกภารพกิจ แม้ว่าหัวหน้าซูบินจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วน……ไม่แม้ว่าเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองผู้อำนวยการก็ไม่มีใครโต้เถียงอะไรในเรื่องนี้เลย มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง”

ล้วนซูบินพยายามแยกแยะสิ่งที่เธอได้ยิน ผล? เธอรู้จักลูกชายของเธอดี ตั้งแต่เด็กลูกชายของเธอเงอะงะและไม่ฉลาดมาก เขาจะทำงานสำเร็จได้ยังไง นี้น่าจะเป็นเพราะโชคของเขาแน่ๆ

ดงซูบินหัวเราะ:“ แม่อีกซักผักจะมีคนมา มาห่อเกี๊ยวกันเถอะ เกี๊ยวที่ผมห่อนั้นมันน่าเกลียดมา”

“ ให้ผมช่วยทำนะครับ” เกาแพนเหว่ยอาสาสมัครและวิ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างมือ หลังจากล้างมือแล้วก็นำแป้งเกี๊ยวและไส้เดินไปที่ห้องครัว “ หัวหน้าซูบิน คุณน้าไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ ผมแน่ใจว่าทั้งสองมีหลายสิ่งที่จะพูดกัน ผมจะไม่รบกวนทั้งสองคน ผมจะห่อเกี๊ยวอยู่ในครัวเนี่ยแหละ”

ดงซูบินหยุดเขา “แพนเหว่ยไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้ นั่งลง.”

“ทุกอย่างปกติดี. ผมว่างวันนี้และ แวะมาดูว่ามีสิ่งใดที่ผมสามารถช่วยหัวหน้าได้ แต่เกี๊ยวที่ผมห่ออาจไม่ดีเท่าหัวหน้าของหรือคุณน้า”

ดงซูบินหัวเราะ “ เดียวก่อน นายมาถึงบ้านของฉัน แล้วและยังต้องมาทำงานให้ฉันด้วย”

“ มันเป็นหน้าที่ของผมครับ”

ล้วนซูบินจับมือลูกชายของเธอแล้วถามว่า:“ ซูบินลูกได้รับการเลื่อนตำแหน่งจริงๆหรอ?”

“แน่นอนครับ.”

“ หรือลูกแค่ชวนเพื่อนมาหลอกแม่เฉยๆ”

“ฮะ? ทำไมผมต้องทำอย่างงั้นด้วย?”

ล้วนซูบินยังไม่เชื่อเรื่องนี้ เป็นไปได้อย่างไร? ลูกชายของเธอไม่น่าจะมีความสามารถขนาดนั้น เมื่อเธอขอดงซูบินดูบัตรประจำตัว เสียงออดก็ดังขึ้นล้วนซูบินนั้นอยู่ใกล้กับประตูมากที่สุดและเธอก็เดินไปเปิดมัน มีชายหญิงคู่ยืนอยู่ข้างนอก ผู้ชายคนนั้นสูงและอ้วนและเด็กผู้หญิงตัวเล็กมาก

“ นี้คือ…”

ต้าหลินเหม่ย ยิ้ม:“ คุณน้าต้องเป็นแม่ของหัวหน้าซูบินแน่ๆ สวัสดี. สวัสดีปีใหม่.”

จ้วงจือก็ทักทายด้วย:“ สวัสดีปีใหม่ครับ, คุณน้า”

เมื่อได้ยินคู่นี้เรียกหัวหน้าซูบินล้วนซูบินก็เชื่อว่าลูกชายของเธอไม่ได้โกหกเธอ เธอเปิดประตูและเชิญพวกเขาเข้ามา

หลังจากเข้ามา ต้าหลินเหม่ย และจ้วงจือวางของขวัญที่พวกเขาซื้อข้างประตู มีนอตและผลไม้จีนสีแดงๆอยู่บ้าง ดูเหมือนจะมีกล่องบุหรี่สองกล่องยี่ห้อจงหัว ล้วนซูบินตกใจมาก แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องบุหรี่มากนัก แต่เธอก็รู้ราคาของบุหรี่ยี่ห้อจงหัว นี่เป็นแบรนด์ที่มีราคาแพงมาก ต้าหลินเหม่บพบกับดงซูบินและยิ้มว่า:“ หัวหน้าซูบินฉันมาที่นี่เพื่อช่วยหัวหน้าห่อเกี๊ยวนะ”

ดงซูบินหัวเราะ:“ แพนเหว่ย ห่อเกี๊ยวอยู่ในครัว”

ต้าหลินเหม่ยอ้าปากค้าง:“ พี่กัวอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? จากนั้นฉันจะไม่มีโอกาสสร้างความประทับใจให้คุณ ไม่ฉันต้องหาบางสิ่งใทำเช่นกัน” เธอมองไปรอบ ๆ แล้วจับมือของล้วนซูบิร “ น้าคะหนูเรียนรู้การนวดจากแม่ของหนูมาบ้าง ให้หนูนวดไหล่ของคุณน้านะคะ”

ล้วนซูบินโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่จำเป็น. ไม่จำเป็น.”

“ ฮิฮิหนูเก่งมากหนูรับ คุณน้าจะประทับใจ โปรดให้โอกาสหนูแสดงฝีมือซักครั้งนะ ” จ้วงจือนั้นคิดคำพูดดีๆไม่อก แต่ตัวของต้าหลินเหม่ยเองนั้นเป็นคนปากหวาน หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ทำให้ล้วนซูบินนั่งอยู่บนโซฟาและเริ่มนวดไหล่ของเธอราวกับลูกสาวกำลังนวดไหล่ให้แม่ของเธอ เธอพูดต่อ:“ คุณน้าผิวของคุณสมบูรณ์แบบมาก แม้แต่เด็กอย่างเราไม่สามารถเทียบได้กับผิวของคุณน้าเลย”

ล้วนซูบินหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าน้าอายุเกือบ 50 แล้วน่าจะสู้เด็กอย่างพวกเธอได้อย่างไรกัน”

“ อา……คุณน้าเกือบ 50 แล้วเหรอ? คุณน้าดูไม่เหมือนอายุเท่านั้นเลยนะ หนูยังคิดว่าคุณน้ายังอายุ 40 ปี”

ล้วนซูบิน ไม่เคยมีประสบการณ์การดูแลแบบนี้มาก่อน เธอยิ้ม:“ หนูต้องเหนื่อยแน่ๆ นั่งลงและมีน้ำ น้าจะชงชาให้”

ต้าหลินเหม่ย ตอบว่า:“ หนูไม่เหนื่อยหรอก หนูยังต้องนวดขาของคุณอีกนะ”

จ้วงจือที่ไม่ได้ทำงานอะไร เขาหยิบไม้กวาดและที่ตักขยะและเริ่มทำความสะอาดบ้าน

ดงซูบินสงสัยว่าทำไมทั้งสองจึงพยายามอย่างหนักที่จะทำให้เขาพอใจในวันนี้ ทำไมพวกเขาถึงได้นำของขวัญมากมายมา เขาจำได้ว่า ต้าหลินเหม่ยบอกว่าเธอต้องการความช่วยเหลือทางโทรศัพท์และตัดสินใจปล่อยให้พวกเขามาอย่างไรก็ตามแม่ของเขาทำงานหนักมาเกือบตลอดชีวิตและในที่สุดเขาก็สามารถปล่อยให้เธอมีความสุขกับชีวิตได้

ล้วนซูบินรู้สึกดีจากการนวดของต้าหลินเหม่ย ไม่เพียงแค่ไหล่ของเธอรู้สึกดี แต่ภายในใจของเธอก็รู้สึกดีด้วย ในที่สุดเธอก็เชื่อว่าลูกชายของเธอได้กลายเป็นข้าราชการเต็มตัว ผู้คนนำของขวัญมาให้เขาและเทน้ำและชา ใครบางคนกำลังช่วยเขาห่อเกี๊ยวนวดไหล่ของเธอและหนึ่งในนั้นคือกำลังกวาดพื้น ครอบครัวของพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์การดูแลแบบนี้มาก่อน ลูกชายของฉันมีความสามารถจริงๆ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

เกาแพนเหว่ยเดินออกจากครัวยิ้ม “ หัวหน้าซูบิน,คุณน้า, ฉันห่อเกี๊ยวทั้งหมดแล้ว”

ล้วนซูบินรู้สึกขอโทษ “ขอบคุณ. มาแล้วมีผลไม้บ้าง” เธอมองไปที่ต้าหลินเหม่ย ซึ่งยังนวดเท้าของเธออยู่ “ สาวน้อยเธอต้องเหนื่อยแน่ๆ เธอสามารถหยุดการนวดได้ทันทีเลนะ จะได้พักสมองบ้าง ฉันจะเตรียมอาหารกลางวันให้พวกเธอทุกคนก่อน”

เกาแพนเหว่ยตอบกลับอย่างรวดเร็ว:“ ไม่เป็นไรหรอกครับ หากไม่มีอะไรให้ผมช่วยแล้วผมจะขอตัวกลับก่อนนะครับ “

ต้าหลินเหม่ยมองไปที่ เกาแพนเหว่ยและพูดว่า:“ เดี๋ยวพวกเราก็จะกลับแล้ว”

ล้วนซูบินดีใจมากที่รู้ว่าลูกชายของเธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งและไม่ต้องการให้พวกเขากลับไป “ มันเป็นเวลาอาหารกลางวันเร็ว ๆ นี้ พวกเธอพักที่นี่เพื่อทานอาหารกลางวัน ฉันจะเตรียมอาหารสองสามจานเท่านั้นแหละ”

เกาแพนเหว่ย, ต้าหลินเหม่ย และ จ้วงจือ มองไปที่ดงซูบิน พวกเขาทั้งหมดต้องการอยู่ต่อ มันไม่เกี่ยวกับอาหารกลางวัน มันเกี่ยวกับท่าทางของเขา มีเพียงผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของหัวหน้าเท่านั้นที่สามารถเชิญให้รับประทานอาหารกับสมาชิกครอบครัวของหัวหน้า นอกจากนี้วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าของตรุษจีน หากพวกเขาสามารถรับประทานอาหารกับหัวหน้าและครอบครัวของเขาในวันนี้นั่นหมายความว่าพวกเขาจะเป็นลูกน้องที่ไว้ใจได้ของดงซูบิน

ดงซูบินโบกมือของเขา “ หากคุณทุกคนมีเรื่องสำคัญที่ต้อไปร่วมงานกับที่บ้าน มันเป็นปีใหม่และครอบครัวก็มีความสำคัญมากกว่า หากคุณทุกคนไม่มีอะไรสำคัญก็พักทานอาหารกลางวันร่วมกัน พวกเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันกับฉันอยู่แล้ว” หลังจากพูดแบบนี้ดงซูบินรู้สึกดีมาก เขารู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนหัวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ

ล้วนซูบินก็รู้สึกภูมิใจในตัวของลูกชายของเธอเมื่อเธอเห็นว่าลูกชายของเธอทำตัวเหมือนหัวหน้าระดับสูง

เกาแพนเหว่ยก็มีความสุขเมื่อเขาได้ยินดงซูบินกล่าวว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน เขารู้ว่าหัวหน้าซูบินเคยไม่พอใจเขา แต่หลังจากนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว “แล้ว …… ให้ผมช่วยคุณน้าล้างผัก “

ต้าหลินเหม่ย ยังกล่าวอีกว่า:“ ฉันจะช่วยทำอาหาร”

จ้วงจือเสริม:“ ผม……ผมจะช่วยด้วย”

เกี๊ยวสำหรับมื้อเย็นและพวกเขาเตรียมอาหารง่าย ๆ สำหรับมื้อกลางวัน

หลังอาหารกลางวัน เกาแพนเหว่ย ช่วย ล้วยซูบินล้างจานก่อนออกจากห้องไป คราวนี้ล้วนซูบินไม่ได้ห้ามให้เขากลับแต่อย่างใด เธอรู้ว่าทุกคนไม่ว่างในช่วงเวลานี้ แต่ ต้าหลินเหม่ย และ จ้วงจจือไม่ได้ไปไหน หลังจากเกาแพนเหว่ยก้าวออกจากอพาร์ทเมนต์จ้วงจือและต้าหลินเหม่ยดูเหมือนจะเก็บอะไรบางอย่างไว้ ต้าหลินเหม่ยไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีและเธอก็นวดต่อไปที่ขาของล้วนซูบิน

ล้วนซูบินเองก ยังสามารถมองออกได้ว่าพวกเขามีบางสิ่งที่จะต้องพูดกับดงซูบิน “ เธออยากถามอะไรลูกชายฉันหรอ”

ต้าหลินเหม่ยล้างคอของเธออย่างน่าอาย:“ ใช่…. เรา……เราต้องการความช่วยเหลือจากหัวหน้าซูบิน แต่มันก็น่าอายที่จะถาม เราไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้ในช่วงตรุษจีน” ในช่วงปีใหม่ผู้คนจะแลกเปลี่ยนของขวัญและพวกเขาจะขอความช่วยเหลือน้อยมากเว้นแต่จะเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก

ดงซูบินหัวเราะ “มันคืออะไร?”

ต้าหลินเหม่ยมองดูซวงกวางแล้วเขาก็หน้าแดง เขารออยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรเลย เขาส่งสัญญาณให้ ต้าหลินเหม่ยด้วยตาของเขา ต้าหลินเหม่ยจ้องที่เขาด้วยความโกรธและบอกกับดงซูบิน “ หัวหน้าซูบิน จ้วงจือและฉันกำลังคบกันและเราไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในแผนกเดียวกัน แต่เนื่องจากการขาดแคลนกำลังคนเราจึงไม่ได้แยกจากกัน แต่ผู้อำนวยการหลี่ชิงมองหาจ้วงจือเมื่อวานนี้ เขาต้องการโอนจ้วงจือไปยังคณะกรรมการฝ่ายตรวจสอบวินัย”

ดงซูบินได้ยินสิ่งนี้ คณะกรรมการเพื่อการตรวจสอบวินัย? ดี. อย่างน้อยก็ยังดีกว่าฝ่ายคลัง

ต้าหลินเหม่ยมองที่ดงซูบินและกล่าวว่า:“ คุณก็น่าจะรู้ดีเกี่ยวกับงานที่คณะกรรมการตรวจสอบวินัย……ฉันกลัว……”

ดงซูบิน หัวเราะ “ตกลง. ฉันรู้แล้ว. แค่พูดว่าเธฮต้องการให้เขาไปแผนกไหน”

ล้วยซูบิน ตกตะลึง สิ่งนี้หมายความว่า? ลูกชายของเธอสามารถเลือกแผนกเพื่อถ่ายโอนผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาได้? เขามีสิทธิ์นี้ไหม

จ้วงจือเปิดปากของเขาในที่สุด “ ฉันคิดว่างานของแผนกการเมือง……ผิดๆ……ถ้าเป็นไปได้……” แผนกการเมืองเป็นแผนกยอดนิยมในสาขา งานของพวกเขาคือสังเกตและตรวจสอบการทำงานของพนักงานในสาขา ทุกคนต้องการโอนที่นั่น แต่มันยากที่จะเข้าไป

ดงซูบินคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตอบว่า:“ โอเค ฉันจะช่วยเธอทั้งสอง ถามคำถามหลังจากตรุษจีน สิ่งนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหา” ตอนนี้เขาสนิทกับหัวหน้ามากแล้วและนี่เป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ

ต้าหลินเหม่ย และ จ้วงจือแสดงความปิติยินดีออกมาทันใด พวกเขาขอบคุณดงซูบินอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่พวกเขาจะจากไปดงซูบินจะดูของขวัญที่พวกเขาซื้อและพูดว่า:“ ฉันจะเก็บผลไม้จีนไว้ นำบุหรี่กลับไป”

ต้าหลินเหม่ย พูดอย่างรวดเร็ว:“ หัวหน้าซูบินคุณช่วยจ้วงจือไว้มากเลย เรา……”

ดงซูบินโบกมือของเขา “ นี่เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ฉันไม่สูบบุหรี่ นำบุหรี่เหล่านี้กลับไปหาผู้อาวุโสในครอบครัวของเธอ โอ้รอซักครู่” ดงซูบินเปิดตู้แล้วหยิบขวดเหล้า ออกมา เขายิ้มและมอบให้จ้วงจื้อ “ นี่คือของขวัญจากคนอื่น ฉันเป็นคนที่ไม่ดื่มด้วย นำสิ่งนี้กลับไปพร้อมกับพวกนายด้วย” ตอนที่ดงซูบินไม่ใช่หัวหน้าเขาหวังว่าจะได้รับของขวัญ แต่หลังจากที่เขากลายเป็นหัวหน้าเขาเริ่มสงสัยว่าจะทำอย่างไรกับของขวัญทั้งหมดที่เขาได้รับ

ต้าหลินเหม่ย ตอบว่า:“ หัวหน้าซูบิน……”

“ แค่รับไป กลับไปและสนุกกับวันหยุดก็พอแล้ว”

ล้วนซูบิน มองขวดเหล่ายี่ห้อเหมาไถ่ นั้น แม้ว่าเธอจะทนไม่ได้ที่จะส่งขวดนั้นออกไปแต่เธอก็เสริมว่า:“ เอาไปเถอะซูบินไม่ดื่ม”

“ เอ่อ……ขอบคุณหน้าหน้าซูบินมากๆเลย ครับ/ค่ะ” ทั้งคู่หยิบขวดจากดงซูบินแล้วออกไป

หลังจากออกจากอาคารอพาร์ตเมนต์ของ ดงซูบินแล้วต้าหลินเหม่ย มองขวดเหล้าเหมาไถ่ และพูดว่า:“ พวกเรามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าดงซูบินแต่เขาไม่รับของขวัญของเรา แต่เราเป็นคนที่กลับไปพร้อมกับของขวัญแทน……”

จ้วงจือกล่าวว่า“ ซูบินนั้นเป็นคนดี”

ต้าหลินเหม่ย ถอนหายใจ “ใช่. ฉันไม่เคยพบหัวหน้าที่ดีเช่นนี้มาก่อน ฉันไม่รู้ว่าเขาปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร แต่เขาดูแลลูกน้องของเขาจริงๆ ฉันยังจำเวลานั้นได้ที่ฉางจี้แกล้งหัวหน้าซูบิน พี่จ้วงและฉัน หากหัวหน้าซูบินไม่ยอมรับความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อเหตุการณ์นั้นพี่จ้วงและฉันก็จะเดือดร้อน เราจะหาหัวหน้าดีๆอย่างงี้ได้จากไหนได้อีก?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) 138

Now you are reading POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) Chapter 138 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 138 เฉลิมฉลองตรุษจีน

ผู้แปล loop

ณ ปีใหม่ของประเทศจีน.

วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าหรือวันส่งท้ายก่อนตรุษจีนจะมาถึง มันอยู่ในวันที่ 30

เสียงประทัดดังไปทั่วทุกสารทิศ ทุกคนสามารถสัมผัสได้ถึงการเฉลิมฉลองตามถนน ตอนนี้ดงซูบินรู้สึกดีมากเพราะเขาได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองหัวหน้าส่วนจากผู้บริหารระดับสูงเมื่อวานที่ผ่านมานี้และรู้สึกดีใจมาก หลังจากวางกลอนและคำว่า “ฟู” ที่หน้าประตูของเขาเขาหลังกลับไปที่อพาร์ทเมนต์ เพื่อเริ่มห่อหัวไชเท้าและเกี๊ยวหมู

แต่ความเสียใจเพียงอย่างเดียวของดงซูบินสำหรับปีใหม่นี้คือมันก็ยังเงียบเหมือนสมัยก่อนอยู่ดี

ฉูหยวนเองก็ไม่รับคำขอแต่งงานของเขา และต้องกลับไปที่บ้านพ่อแม่และปู่ย่าของเธอเพื่อเฉลิมฉลอง นี่เป็นเพราะเธอมีครอบครัวใหญ่ เธอได้ออกไปจากอพาทเม้นท์ไปเมื่อเช้านี้พร้อมพ่อกับแม่ของเธอและน่าจะกลับมาหลังจากหมดตรุษจีน

แม่ของดงซูบินเองก็กำลังเดินทางกลับมาปักกิ่ง ซึ่งตอนนี้ดงซูบินต้องนวดแป้งของขนมไหว้พระจันทร์รอแม่ของเขา

แหวน, แหวน, แหวน โทรศัพท์ของดงซูบินดังขึ้น มันเป็นหมายเลขที่ไม่รู้จัก

“ หัวหน้าซูบินฉัน พี่หยางนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฉันขอให้หัวหน้ามีความสุขกับวันปีใหม่ด้วยนะ”

ดงซูบินเองก็รู้สึกประหลาดใจและตอบว่า:“ สวัสดีปีใหม่ด้วยเช่นกันครับ พี่หยาง”

พี่หยานคุยกับเขาอยู่พักหนึ่ง มันทำให้ดงซูบินจำได้ว่าเขาแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ไม่เพียงแค่เขาจะโทรมาบอกสวัสดีปีใหม่ดงซูบินมันร่วมไปถึงการพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

เนื่องจากดงซูบินเองไม่สามารถจะไปพบกับดงซูบินเป็นการส่วนตัวได้ เพราะการเลื่อนตำแหน่งของดงซูบินนั้นเป็นกรณีพิเศษและถ้าเขาไปเยี่ยมหัวหน้าจะต้องมีการนินทาและข่าวลือ และมันจะแย่กว่านี้ถ้าเขานำของขวัญปีใหม่ให้กับหัวหน้า ความมั่นคงของรัฐนั้นแตกต่างจากหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ดังนั้นหลังจากไตร่ตรองมาพักหนึ่งแล้ว ดงซูบินก็เริ่มโทรหาเซงอังเกา,เสี่ยวหยาน และหัวหน้าคนอื่น ๆ เพื่อส่งคำอวยพรของเขา

“ หัวหน้าเสี่ยว ขอให้หัวหน้ามีความสุขในช่วงตรุษจีนนะครับ ขอบคุณที่ดูแลผมมาตลอดเวลา ในปีนี้ผมจะทำงานหนักต่อไปและเดินตามรอยเท้าของหัวหน้า…….”

“ หัวหน้าเซง, สวัสดีวันปีใหม่ครับ ขอให้ชีวิตหัวหน้ารุ่งเรืองตลอดไป……”

ดงซูบินยังโทรหาเสี่ยวหลานเพื่อจะอวยพรวันปีใหม่เบอร์โทรของเธอค่อนข้างจะหายาก เพราะดงซูบินโทรหสหัวหน้าเสี่ยวสองครั้งและ หัวหน้าเซง สี่ครั้งก่อนที่เลื่อนหาเบอร์ต่อไป แต่เขาต้องลองโทรหาเสี่ยวหลาน 18 ครั้งก่อนที่เขาจะสามารถติดต่อเธอได้ในการโทรครั้งที่ 19 เขาสงสัยว่ามีกี่คนที่โทรหาเธอเพื่ออวยพรปีใหม่ตรุษจีนนี่คือช่วงเวลาสูงสุดสำหรับผู้ที่จะโทรหาหัวหน้าของพวกเขา

หลังจากโทรหาหัวหน้าทั้งหมดแล้ว ดงซูบินก็ยังคงนวดแป้งแป้งเกี๊ยวต่อไป

ติ้ง, ต๊อก, ติ๊ง โทรศัพท์ของดงซูบิน ดังขึ้นอีกครั้ง

ตาหลินเหม่ยเป็นคนโทรหาเขา “ เฮ่สวัสดีปีใหม่ซูบิน ฉันหวังว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับนายนะ”

ดงซูบิน หัวเราะ “ขอบคุณ. ฉันขอให้เธอและจ้วงจือมีความสุข” เธอเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาที่สนิทกับเขาและเธอเองก็เป็นคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด

“ขอบคุณ. เอ้? ทำไมบ้านนายดูเงียบจัง?”

ดงซูบินหัวเราะ “หลินเหม่ยหยุดซ้ำเติมฉันได้แล้วฮ่า ๆ ๆ ๆ แม่ของฉันกำลังเดินทางกลับมา ปีนี้เราจะฉลองกันสองคนและฉันต้องนวดแป้งด้วยเกี๊ยวด้วยตัวเอง”

“ อ่า……สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เดียวฉันจะไปกับจ้วงจือเพื่อไปช่วยนาย”

“ทุกอย่างปกติดี. ขอบคุณมาก.”

“ ที่บ้านของฉันเลี้ยงกันตอนเย็นนู้นแหละ และฉันมีเรื่องบ้างอย่างที่จะคุยกับนายเรื่องโอนย้ายหลังจากปีใหม่นะ”

ดงซูบิน ได้ยินสิ่งที่เธอพูดและไม่ได้หยุดเธอ “โอเคถ้าอย่างนั้น. มาทานอาหารกลางวันกัน”

กริ่งดังขึ้นเมื่อดงซูบินวางสายไป

ดงซูบินคิดว่าแม่ของเขามาถึงแล้วจึงเดินไปเปิดประตู

แต่คนๆนั้นคือเกาแพนเหว่ย เขามีถุงใหญ่สองใบติดมือกับเขามาด้วย “ หัวหน้าซูบินครับ สวัสดีปีใหม่ นี่คือของขวัญสำหรับหัวหน้า ผมวางไว้ตรงนี้และไม่รบกวนหัวหน้าแล้วครับ.” ระเบียบไม่ได้พูดคือการเยี่ยมหาหัวหน้าในวันที่ 1, 2 และ 3 ของปีใหม่ตรุษจีน แต่ เกาแพนเหว่ยนั้นรู้เกี่ยวกับประวัติครอบครัวของหัวหน้าดงซูบิน เกาแพนเหว่ยว่าหัวหน้าของ เขาไม่มีญาติมากมายและ เกาแพนเหว่ยมาเพื่อดูว่าเขาสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง

ดงซูบินได้แต่หัวเราะ “ เข้ามาก่อนสิ จริงๆไม่ต้องเอาของขวัญมาให้ก็ได”

เกาแพนเหว่ยมองเข้าไปในอพาร์ทเมนต์ของดงซูบิน:“ เอ่อร์……ผมรบกวนไหมครับ”

“ไม่เลย. ฉันอยู่บ้านคนเดียว แม่ของฉันกำลังกลับมา เข้ามานั่งก่อนสิ”

“ขอบคุณครับ. หวังว่าผมจะไม่รบกวนหัวหน้านะครับ”

……

ด้านนอกของอาคารอพาร์ตเมนต์

แม่ของดงซูบินเดินทางมายังอพาทเม้นท์ เธอเห็นทุกครอบครัวแขวนโคมไฟสีแดงด้านนอกหน้าต่างและเด็ก ๆ เล่นกับประทัด เธอได้แต่ยิ้มให้กับตัวเอง ตั้งแต่ลูกชายของเธอได้รับการบรรจุเข้าราชการเธอก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย แต่ตอนนี้เธอก็ได้เห็นลูกชายของเธอมีความสุขสักที อย่างไรก็ตามเธฮรู้ดีว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหนของเธอนั้นก็ยังเป็นพวกขี้แงอยู่ตามเคย อีกทั้งยังรู้ว่าดงซูบินปิดปังหลายๆเรื่องๆเพื่อไม่ให้เธอเป็นกังวลในตัวของเขามากนั้ก

ยังไงก็ตามแม่ของดงซูบินก็ยังส่งสัยอยู่ว่าตอนนี้ลูกชายของเขากำลังอะไรอยู่กันแน่สำหรับการเป็นราชการ ดงซูบินบอกเพียงว่าทุกอย่างดีไปหมดกับงานของเขาแต่เธอก็สงสัยว่าลูกของเธอบอกความจริงกับเธอจริงๆอย่างงั้นรึ

“ เอ๊ะพี่สาวล้วน?” เพื่อนบ้านแถวนั้นเห็นล้วนซูบินแม่ของดงซูบินและไปทักทายเธอ “สวัสดีปีใหม่นะคะ.”

ล้วนซูบิน ยิ้มก่อนจะตอบรับว่า:“ สวัสดีปีใหม่ด้วยเช่นกันนะ ลูกของคุณเป็นอย่างไรบาง เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหรือยัง”

เพื่อนบ้านคนนั้นตอบว่า:“ ตอนนี้เขาจบแล้ว แต่เงินเดือนเขาพอใช้เท่านั้นเทียบกับลูกชายพี่ไม่ได้เลย”

ล้วนซูบิน รู้สึกดีในใจ แต่เธอไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา “ เงินเดือนของซูบินนั้นไม่เยอะขนาดนั้นหรอก การเป็นข้าราชการจะมีเงินเดือนได้เท่าไรเชียว อย่างมากก็คงไม่เกิน 3,000 หยวนต่อเดือนและอาจจะมีเงินเพิ่มๆเล็กๆน้อยๆช่วงปีใหม่”

เพื่อนบ้านนั้นประหลาดใจ:“ คงไม่ใช่อย่างงั้นหรอก ได้ข่าวว่าลูกชายพี่พึงได้เลื่อนตำแหน่งนิ”

ล้วนซูบินหยุดสักครู่แล้วหัวเราะ “ เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรอ? เขาเองยังไม่หมดทดลองงานเลย”

เพื่อนบ้านคนนั้นตอบว่า:“ แต่คนแถวนี้เขาลือกันให้หนาหนูเลยนะ โอ้หรือฉันอาจะเข้าใจผิด ฮ่าฮ่าฮ่า แต่ ลูกชายของพี่นั้นมีความสามารถมากเลยนะ แม้กระทั่งหัวหน้าส่วนที่หยิ่งๆที่อยู่ชั้นบนก็ยังยอมย้ายนี้เลย ตอนนี้ห้องนั้นเปลี่ยนไปเป็นคนขายเสื้อผ้าแล้ว” ล้วนซูบิน ตกตะลึงอีกครั้ง หัวหน้าส่วนซูนะ ข้าราชการที่อยู่ชั้นบน ซูบินไล่เขาออกไปอย่างงั้นหรอ? สิ่งนี้หมายความว่า? แล้วซูบินไล่พวกเขาออกไปได้ยังไงกัน

แต่ก่อนที่เธอจะถามรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อนบ้านบอกว่า“ โอ้ญาติของฉันมาล่ะ ฉันต้องไปรับพวกเขาที่ทางเข้า พี่สาวล้วนก็แวะมาดื่มชาห้องฉันได้นะถ้าพี่ว่าง”

ล้วนซูบินที่กำลังสับสนเล็กน้อยก็เดินต่อไปที่ห้อง ระหว่างทางเธอรู้สึกตกใจกับเสียงพลุที่ดังลั่นขึ้นมา

ส่งเสียงกริ๊งเสียงกริ๊กเสียงกริ๊กเสียงลากโซ่ ….. ล้วนซูบิน เปิดประตูด้วยกุญแจของเธอ “ ซูบิน แม่กลับมาแล้ว”

“แม่? ทำไมแม่มาช้า รถติดหรอ?”

“ รถเมล์มันช้านะ”

“ คุณต้องเป็นแม่ของ…… สวัสดีปีใหม่.”

ล้วนซูบินรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นชายสองคนในอพาร์ตเมนต์ นอกเหนือจากลูกชายของเธอยังมีชายอีกคนหนึ่งในช่วงอายุ 30 ต้น ๆ  จากรูปลักษณ์เดียวเธอรู้ว่าชายคนนี้ต้องเป็นข้าราชการอย่างแน่นอน ล้วนซูบินแขวนเสื้อโค้ทของเธอและเข้าไปในห้อง “ เธอต้องเป็นเพื่อนร่วมงานของซูบินแน่ๆเลย สวัสดีปีใหม่ด้วยเช่นกัน” เธองงว่าทำไมเพื่อนร่วมงานของลูกชายของเธอถึงมาที่อพาร์ตเมนต์ของเขาในวันส่งท้ายปีเก่าเช่นนี้

ล้วนซูบินเห็นว่าแม้แต่น้ำสักแก้วบนโต๊ะหรือกาแฟก็ไม่มีให้เขา และเธอก็จ้องมองลูกชายของเธอ “ ทำไมลูกไม่หัดหาน้ำเพื่อมารับแขกเลยล่ะ?”

ดงซูบินหัวเราะ:“ เขาเพิ่งมาถึงด้วย”

เกาแพนเหว่ยยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว:“ คุณน้าเดียวผมเทเองครับ ให้ผมทำเถอะ”

เกาแพนเหว่ย เอาขวดน้ำร้อนแล้วเทน้ำหนึ่งแก้วให้กับล้วนซูบิน ดงซูบิน และก็เทให้ตัวเองแก้วหนึ่ง

ล้วนซูบินตกตะลึง เธอคิดกับตัวเอง ‘คุณทุกคนเป็นพนักงานในสำนักงานเดียวกันทำไมคุณเทน้ำให้ลูกชายของฉัน คุณยังแก่กว่าลูกชายฉันมาก’ หลังจากขอบคุณเกาแพนเหว่ย แล้ว ล้วนซูบินก็มองเขา:“ …เออเออร์… .. ฉันจะพูดยังไงกับคุณดี”

เกาแพนเหว่ยนั่งตัวตรงโดยมี 1/3 ของก้นแตะโซฟา เขาตอบอย่างสุภาพ:“ เกาแพนเหว่ย คุณน้าเรียกผมว่าน้องกั๋วก็ได้ครับ”

“ โอ้คุณมาจากสำนักงานกิจการทั่วไปหรือไม่”

“ใช่.ครับ”

ล้วนซูบินพูดไม่ออกเมื่อเธอเห็นว่า เกาแพนเหว่ยดูตกใจมาก เธอคิดกับตัวเอง ‘ฉันน่ากลัวอย่างั้นหรอ นักเรียนทุกคนของฉันบอกว่าฉันดูใจดีและอ่อนโยน ทำไมชายคนนีรู้สึกตื่นตัวมากเมื่อเขาเห็นฉัน’ ล้วนซูบินนั่งลงบนโซฟา “ ไม่ต้องเกร็งหรอก นั้งตามสบายเถอะคิดว่าที่นี้เป็นบ้านของคุณ ทำงานเป็นไงบ้าง? ช่วงนี้ยุ่งมากไหม?” ล้วนซูบินพยายามพูดคุยกับเขา

เกาแพนเหว่ย ตอบพร้อมกับหลังที่ตรง “ ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลและเราก็ยุ่งๆเล็กน้อยครับ”

ล้วนซูบิน พยักหน้า “ แล้วงานของซูบินล่ะเป็นไงบ้าง เขาถูกหัวหน้าดุบ้างไหม? ลูกชายของฉันคนนี้……เขาเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองเสมอและไม่ได้บอกอะไรเลย”

เกาแพนเหว่ย ตกตะลึง:“ ……ถูกดุหรอ? คุณน้าครับใครจะกล้าดุเขา?” เกาแพนเหว่ยพูดกับตัวเอง มีคนตำหนิหัวหน้าซูบินก็แค่โจวเกา และ ฉางจี้ที่มาวุ่นวายกับเขามาก่อน แต่ทั้งคู่ก็ได้รับเชิญให้ดื่มน้ำชากับคณะกรรมาธิการเพื่อการตรวจสอบวินัยและไม่มีใครเห็นพวกเขาหลังจากนั้น ตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคนจะคิดสองครั้งหากพวกเขาต้องการตำหนิหัวหน้าซูบิน

มันเป็นตาของล้วนซูบินที่จะต้องตกใจ “ หัวหน้าซูบิน? หัวหน้าซูบินอะไรกัน?”

เกาแพนเหว่ยรู้สึกประหลาดใจ “คุณไม่รู้?”

“ ฉันควรรู้อะไรดีล่ะ”

ดงซูบินหัวเราะและตบหลังมือแม่ของเขา “ แม่ทำงานในหมู่บ้านและไม่ได้กลับมาเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่ได้บอกแม่ไง ผมอยากจะบอกแม่เกี่ยวกับสิ่งนี้ตอนที่ผมเจอกับแม่ ตอนนี้ผมเป็นรองหัวหน้าฝ่ายกิจการทั่วไปและเข้าร่วมพรรคแล้ว โอ้การเลื่อนตำแหน่งให้หัวหน้าส่วนงานของผมพึงได้รับการยืนยันเมื่อวานนี้ ตอนนี้ผมถือว่าเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการของรัฐบาลแล้ว” เขาไม่ได้บอกแม่เกี่ยวกับงานของเขาเพราะเขาต้องการทำให้เธอประหลาดใจ เขาดีใจมากเมื่อเห็นการแสดงออกทางสีหน้าของแม่ในตอนนี้

“ฮะ?” ล้วนซูบินตกตะลึง “ ลูกได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรอ”

เกาแพนเหว่ยเสริมขึ้นมา:“ คุณน้าตั้งแต่วันหัวหน้าซูบินเข้าร่วมกับฝีมือของเขาหัวหน้านั้นเหนือชั้นมาก  ไม่มีใครสามารถทำเช่นเขาได้เลย เพราะหัวหน้าซูบินสามารถบรรลุเป้าหมายได้ทุกภารพกิจ แม้ว่าหัวหน้าซูบินจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าส่วน……ไม่แม้ว่าเขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองผู้อำนวยการก็ไม่มีใครโต้เถียงอะไรในเรื่องนี้เลย มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง”

ล้วนซูบินพยายามแยกแยะสิ่งที่เธอได้ยิน ผล? เธอรู้จักลูกชายของเธอดี ตั้งแต่เด็กลูกชายของเธอเงอะงะและไม่ฉลาดมาก เขาจะทำงานสำเร็จได้ยังไง นี้น่าจะเป็นเพราะโชคของเขาแน่ๆ

ดงซูบินหัวเราะ:“ แม่อีกซักผักจะมีคนมา มาห่อเกี๊ยวกันเถอะ เกี๊ยวที่ผมห่อนั้นมันน่าเกลียดมา”

“ ให้ผมช่วยทำนะครับ” เกาแพนเหว่ยอาสาสมัครและวิ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างมือ หลังจากล้างมือแล้วก็นำแป้งเกี๊ยวและไส้เดินไปที่ห้องครัว “ หัวหน้าซูบิน คุณน้าไปพักผ่อนกันก่อนเถอะ ผมแน่ใจว่าทั้งสองมีหลายสิ่งที่จะพูดกัน ผมจะไม่รบกวนทั้งสองคน ผมจะห่อเกี๊ยวอยู่ในครัวเนี่ยแหละ”

ดงซูบินหยุดเขา “แพนเหว่ยไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้ นั่งลง.”

“ทุกอย่างปกติดี. ผมว่างวันนี้และ แวะมาดูว่ามีสิ่งใดที่ผมสามารถช่วยหัวหน้าได้ แต่เกี๊ยวที่ผมห่ออาจไม่ดีเท่าหัวหน้าของหรือคุณน้า”

ดงซูบินหัวเราะ “ เดียวก่อน นายมาถึงบ้านของฉัน แล้วและยังต้องมาทำงานให้ฉันด้วย”

“ มันเป็นหน้าที่ของผมครับ”

ล้วนซูบินจับมือลูกชายของเธอแล้วถามว่า:“ ซูบินลูกได้รับการเลื่อนตำแหน่งจริงๆหรอ?”

“แน่นอนครับ.”

“ หรือลูกแค่ชวนเพื่อนมาหลอกแม่เฉยๆ”

“ฮะ? ทำไมผมต้องทำอย่างงั้นด้วย?”

ล้วนซูบินยังไม่เชื่อเรื่องนี้ เป็นไปได้อย่างไร? ลูกชายของเธอไม่น่าจะมีความสามารถขนาดนั้น เมื่อเธอขอดงซูบินดูบัตรประจำตัว เสียงออดก็ดังขึ้นล้วนซูบินนั้นอยู่ใกล้กับประตูมากที่สุดและเธอก็เดินไปเปิดมัน มีชายหญิงคู่ยืนอยู่ข้างนอก ผู้ชายคนนั้นสูงและอ้วนและเด็กผู้หญิงตัวเล็กมาก

“ นี้คือ…”

ต้าหลินเหม่ย ยิ้ม:“ คุณน้าต้องเป็นแม่ของหัวหน้าซูบินแน่ๆ สวัสดี. สวัสดีปีใหม่.”

จ้วงจือก็ทักทายด้วย:“ สวัสดีปีใหม่ครับ, คุณน้า”

เมื่อได้ยินคู่นี้เรียกหัวหน้าซูบินล้วนซูบินก็เชื่อว่าลูกชายของเธอไม่ได้โกหกเธอ เธอเปิดประตูและเชิญพวกเขาเข้ามา

หลังจากเข้ามา ต้าหลินเหม่ย และจ้วงจือวางของขวัญที่พวกเขาซื้อข้างประตู มีนอตและผลไม้จีนสีแดงๆอยู่บ้าง ดูเหมือนจะมีกล่องบุหรี่สองกล่องยี่ห้อจงหัว ล้วนซูบินตกใจมาก แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องบุหรี่มากนัก แต่เธอก็รู้ราคาของบุหรี่ยี่ห้อจงหัว นี่เป็นแบรนด์ที่มีราคาแพงมาก ต้าหลินเหม่บพบกับดงซูบินและยิ้มว่า:“ หัวหน้าซูบินฉันมาที่นี่เพื่อช่วยหัวหน้าห่อเกี๊ยวนะ”

ดงซูบินหัวเราะ:“ แพนเหว่ย ห่อเกี๊ยวอยู่ในครัว”

ต้าหลินเหม่ยอ้าปากค้าง:“ พี่กัวอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? จากนั้นฉันจะไม่มีโอกาสสร้างความประทับใจให้คุณ ไม่ฉันต้องหาบางสิ่งใทำเช่นกัน” เธอมองไปรอบ ๆ แล้วจับมือของล้วนซูบิร “ น้าคะหนูเรียนรู้การนวดจากแม่ของหนูมาบ้าง ให้หนูนวดไหล่ของคุณน้านะคะ”

ล้วนซูบินโบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่จำเป็น. ไม่จำเป็น.”

“ ฮิฮิหนูเก่งมากหนูรับ คุณน้าจะประทับใจ โปรดให้โอกาสหนูแสดงฝีมือซักครั้งนะ ” จ้วงจือนั้นคิดคำพูดดีๆไม่อก แต่ตัวของต้าหลินเหม่ยเองนั้นเป็นคนปากหวาน หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ทำให้ล้วนซูบินนั่งอยู่บนโซฟาและเริ่มนวดไหล่ของเธอราวกับลูกสาวกำลังนวดไหล่ให้แม่ของเธอ เธอพูดต่อ:“ คุณน้าผิวของคุณสมบูรณ์แบบมาก แม้แต่เด็กอย่างเราไม่สามารถเทียบได้กับผิวของคุณน้าเลย”

ล้วนซูบินหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าน้าอายุเกือบ 50 แล้วน่าจะสู้เด็กอย่างพวกเธอได้อย่างไรกัน”

“ อา……คุณน้าเกือบ 50 แล้วเหรอ? คุณน้าดูไม่เหมือนอายุเท่านั้นเลยนะ หนูยังคิดว่าคุณน้ายังอายุ 40 ปี”

ล้วนซูบิน ไม่เคยมีประสบการณ์การดูแลแบบนี้มาก่อน เธอยิ้ม:“ หนูต้องเหนื่อยแน่ๆ นั่งลงและมีน้ำ น้าจะชงชาให้”

ต้าหลินเหม่ย ตอบว่า:“ หนูไม่เหนื่อยหรอก หนูยังต้องนวดขาของคุณอีกนะ”

จ้วงจือที่ไม่ได้ทำงานอะไร เขาหยิบไม้กวาดและที่ตักขยะและเริ่มทำความสะอาดบ้าน

ดงซูบินสงสัยว่าทำไมทั้งสองจึงพยายามอย่างหนักที่จะทำให้เขาพอใจในวันนี้ ทำไมพวกเขาถึงได้นำของขวัญมากมายมา เขาจำได้ว่า ต้าหลินเหม่ยบอกว่าเธอต้องการความช่วยเหลือทางโทรศัพท์และตัดสินใจปล่อยให้พวกเขามาอย่างไรก็ตามแม่ของเขาทำงานหนักมาเกือบตลอดชีวิตและในที่สุดเขาก็สามารถปล่อยให้เธอมีความสุขกับชีวิตได้

ล้วนซูบินรู้สึกดีจากการนวดของต้าหลินเหม่ย ไม่เพียงแค่ไหล่ของเธอรู้สึกดี แต่ภายในใจของเธอก็รู้สึกดีด้วย ในที่สุดเธอก็เชื่อว่าลูกชายของเธอได้กลายเป็นข้าราชการเต็มตัว ผู้คนนำของขวัญมาให้เขาและเทน้ำและชา ใครบางคนกำลังช่วยเขาห่อเกี๊ยวนวดไหล่ของเธอและหนึ่งในนั้นคือกำลังกวาดพื้น ครอบครัวของพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์การดูแลแบบนี้มาก่อน ลูกชายของฉันมีความสามารถจริงๆ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

เกาแพนเหว่ยเดินออกจากครัวยิ้ม “ หัวหน้าซูบิน,คุณน้า, ฉันห่อเกี๊ยวทั้งหมดแล้ว”

ล้วนซูบินรู้สึกขอโทษ “ขอบคุณ. มาแล้วมีผลไม้บ้าง” เธอมองไปที่ต้าหลินเหม่ย ซึ่งยังนวดเท้าของเธออยู่ “ สาวน้อยเธอต้องเหนื่อยแน่ๆ เธอสามารถหยุดการนวดได้ทันทีเลนะ จะได้พักสมองบ้าง ฉันจะเตรียมอาหารกลางวันให้พวกเธอทุกคนก่อน”

เกาแพนเหว่ยตอบกลับอย่างรวดเร็ว:“ ไม่เป็นไรหรอกครับ หากไม่มีอะไรให้ผมช่วยแล้วผมจะขอตัวกลับก่อนนะครับ “

ต้าหลินเหม่ยมองไปที่ เกาแพนเหว่ยและพูดว่า:“ เดี๋ยวพวกเราก็จะกลับแล้ว”

ล้วนซูบินดีใจมากที่รู้ว่าลูกชายของเธอได้รับการเลื่อนตำแหน่งและไม่ต้องการให้พวกเขากลับไป “ มันเป็นเวลาอาหารกลางวันเร็ว ๆ นี้ พวกเธอพักที่นี่เพื่อทานอาหารกลางวัน ฉันจะเตรียมอาหารสองสามจานเท่านั้นแหละ”

เกาแพนเหว่ย, ต้าหลินเหม่ย และ จ้วงจือ มองไปที่ดงซูบิน พวกเขาทั้งหมดต้องการอยู่ต่อ มันไม่เกี่ยวกับอาหารกลางวัน มันเกี่ยวกับท่าทางของเขา มีเพียงผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของหัวหน้าเท่านั้นที่สามารถเชิญให้รับประทานอาหารกับสมาชิกครอบครัวของหัวหน้า นอกจากนี้วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าของตรุษจีน หากพวกเขาสามารถรับประทานอาหารกับหัวหน้าและครอบครัวของเขาในวันนี้นั่นหมายความว่าพวกเขาจะเป็นลูกน้องที่ไว้ใจได้ของดงซูบิน

ดงซูบินโบกมือของเขา “ หากคุณทุกคนมีเรื่องสำคัญที่ต้อไปร่วมงานกับที่บ้าน มันเป็นปีใหม่และครอบครัวก็มีความสำคัญมากกว่า หากคุณทุกคนไม่มีอะไรสำคัญก็พักทานอาหารกลางวันร่วมกัน พวกเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันกับฉันอยู่แล้ว” หลังจากพูดแบบนี้ดงซูบินรู้สึกดีมาก เขารู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนหัวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ

ล้วนซูบินก็รู้สึกภูมิใจในตัวของลูกชายของเธอเมื่อเธอเห็นว่าลูกชายของเธอทำตัวเหมือนหัวหน้าระดับสูง

เกาแพนเหว่ยก็มีความสุขเมื่อเขาได้ยินดงซูบินกล่าวว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน เขารู้ว่าหัวหน้าซูบินเคยไม่พอใจเขา แต่หลังจากนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว “แล้ว …… ให้ผมช่วยคุณน้าล้างผัก “

ต้าหลินเหม่ย ยังกล่าวอีกว่า:“ ฉันจะช่วยทำอาหาร”

จ้วงจือเสริม:“ ผม……ผมจะช่วยด้วย”

เกี๊ยวสำหรับมื้อเย็นและพวกเขาเตรียมอาหารง่าย ๆ สำหรับมื้อกลางวัน

หลังอาหารกลางวัน เกาแพนเหว่ย ช่วย ล้วยซูบินล้างจานก่อนออกจากห้องไป คราวนี้ล้วนซูบินไม่ได้ห้ามให้เขากลับแต่อย่างใด เธอรู้ว่าทุกคนไม่ว่างในช่วงเวลานี้ แต่ ต้าหลินเหม่ย และ จ้วงจจือไม่ได้ไปไหน หลังจากเกาแพนเหว่ยก้าวออกจากอพาร์ทเมนต์จ้วงจือและต้าหลินเหม่ยดูเหมือนจะเก็บอะไรบางอย่างไว้ ต้าหลินเหม่ยไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีและเธอก็นวดต่อไปที่ขาของล้วนซูบิน

ล้วนซูบินเองก ยังสามารถมองออกได้ว่าพวกเขามีบางสิ่งที่จะต้องพูดกับดงซูบิน “ เธออยากถามอะไรลูกชายฉันหรอ”

ต้าหลินเหม่ยล้างคอของเธออย่างน่าอาย:“ ใช่…. เรา……เราต้องการความช่วยเหลือจากหัวหน้าซูบิน แต่มันก็น่าอายที่จะถาม เราไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้ในช่วงตรุษจีน” ในช่วงปีใหม่ผู้คนจะแลกเปลี่ยนของขวัญและพวกเขาจะขอความช่วยเหลือน้อยมากเว้นแต่จะเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก

ดงซูบินหัวเราะ “มันคืออะไร?”

ต้าหลินเหม่ยมองดูซวงกวางแล้วเขาก็หน้าแดง เขารออยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรเลย เขาส่งสัญญาณให้ ต้าหลินเหม่ยด้วยตาของเขา ต้าหลินเหม่ยจ้องที่เขาด้วยความโกรธและบอกกับดงซูบิน “ หัวหน้าซูบิน จ้วงจือและฉันกำลังคบกันและเราไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในแผนกเดียวกัน แต่เนื่องจากการขาดแคลนกำลังคนเราจึงไม่ได้แยกจากกัน แต่ผู้อำนวยการหลี่ชิงมองหาจ้วงจือเมื่อวานนี้ เขาต้องการโอนจ้วงจือไปยังคณะกรรมการฝ่ายตรวจสอบวินัย”

ดงซูบินได้ยินสิ่งนี้ คณะกรรมการเพื่อการตรวจสอบวินัย? ดี. อย่างน้อยก็ยังดีกว่าฝ่ายคลัง

ต้าหลินเหม่ยมองที่ดงซูบินและกล่าวว่า:“ คุณก็น่าจะรู้ดีเกี่ยวกับงานที่คณะกรรมการตรวจสอบวินัย……ฉันกลัว……”

ดงซูบิน หัวเราะ “ตกลง. ฉันรู้แล้ว. แค่พูดว่าเธฮต้องการให้เขาไปแผนกไหน”

ล้วยซูบิน ตกตะลึง สิ่งนี้หมายความว่า? ลูกชายของเธอสามารถเลือกแผนกเพื่อถ่ายโอนผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาได้? เขามีสิทธิ์นี้ไหม

จ้วงจือเปิดปากของเขาในที่สุด “ ฉันคิดว่างานของแผนกการเมือง……ผิดๆ……ถ้าเป็นไปได้……” แผนกการเมืองเป็นแผนกยอดนิยมในสาขา งานของพวกเขาคือสังเกตและตรวจสอบการทำงานของพนักงานในสาขา ทุกคนต้องการโอนที่นั่น แต่มันยากที่จะเข้าไป

ดงซูบินคิดอยู่พักหนึ่งแล้วตอบว่า:“ โอเค ฉันจะช่วยเธอทั้งสอง ถามคำถามหลังจากตรุษจีน สิ่งนี้ไม่น่าจะเป็นปัญหา” ตอนนี้เขาสนิทกับหัวหน้ามากแล้วและนี่เป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ

ต้าหลินเหม่ย และ จ้วงจือแสดงความปิติยินดีออกมาทันใด พวกเขาขอบคุณดงซูบินอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่พวกเขาจะจากไปดงซูบินจะดูของขวัญที่พวกเขาซื้อและพูดว่า:“ ฉันจะเก็บผลไม้จีนไว้ นำบุหรี่กลับไป”

ต้าหลินเหม่ย พูดอย่างรวดเร็ว:“ หัวหน้าซูบินคุณช่วยจ้วงจือไว้มากเลย เรา……”

ดงซูบินโบกมือของเขา “ นี่เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ฉันไม่สูบบุหรี่ นำบุหรี่เหล่านี้กลับไปหาผู้อาวุโสในครอบครัวของเธอ โอ้รอซักครู่” ดงซูบินเปิดตู้แล้วหยิบขวดเหล้า ออกมา เขายิ้มและมอบให้จ้วงจื้อ “ นี่คือของขวัญจากคนอื่น ฉันเป็นคนที่ไม่ดื่มด้วย นำสิ่งนี้กลับไปพร้อมกับพวกนายด้วย” ตอนที่ดงซูบินไม่ใช่หัวหน้าเขาหวังว่าจะได้รับของขวัญ แต่หลังจากที่เขากลายเป็นหัวหน้าเขาเริ่มสงสัยว่าจะทำอย่างไรกับของขวัญทั้งหมดที่เขาได้รับ

ต้าหลินเหม่ย ตอบว่า:“ หัวหน้าซูบิน……”

“ แค่รับไป กลับไปและสนุกกับวันหยุดก็พอแล้ว”

ล้วนซูบิน มองขวดเหล่ายี่ห้อเหมาไถ่ นั้น แม้ว่าเธอจะทนไม่ได้ที่จะส่งขวดนั้นออกไปแต่เธอก็เสริมว่า:“ เอาไปเถอะซูบินไม่ดื่ม”

“ เอ่อ……ขอบคุณหน้าหน้าซูบินมากๆเลย ครับ/ค่ะ” ทั้งคู่หยิบขวดจากดงซูบินแล้วออกไป

หลังจากออกจากอาคารอพาร์ตเมนต์ของ ดงซูบินแล้วต้าหลินเหม่ย มองขวดเหล้าเหมาไถ่ และพูดว่า:“ พวกเรามาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าดงซูบินแต่เขาไม่รับของขวัญของเรา แต่เราเป็นคนที่กลับไปพร้อมกับของขวัญแทน……”

จ้วงจือกล่าวว่า“ ซูบินนั้นเป็นคนดี”

ต้าหลินเหม่ย ถอนหายใจ “ใช่. ฉันไม่เคยพบหัวหน้าที่ดีเช่นนี้มาก่อน ฉันไม่รู้ว่าเขาปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร แต่เขาดูแลลูกน้องของเขาจริงๆ ฉันยังจำเวลานั้นได้ที่ฉางจี้แกล้งหัวหน้าซูบิน พี่จ้วงและฉัน หากหัวหน้าซูบินไม่ยอมรับความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อเหตุการณ์นั้นพี่จ้วงและฉันก็จะเดือดร้อน เราจะหาหัวหน้าดีๆอย่างงี้ได้จากไหนได้อีก?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+