POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) 107

Now you are reading POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) Chapter 107 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 107 ชัยชนะครั้งที่สอง!

ผู้แปล loop

ณ สำนักงานกิจการทั่วไป

ฉางจ้วง, ต้าหลินเหม่ย, พี่หยางและคนอื่น ๆ กำลังมีความสุขกับดงซูบิน เพราะขนาดตอนที่พวกเขามีปัญหากับโจวเกาเขาก็ยังพยายามที่จะยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อปกป้องพวกเขา ถ้าดงซูบินไม่ทำเช่นนั้นต้าหลินเหม่ยและฉางจ้วงคงโดนโจวเกาเล่นงานจนไม่เหลือชิ้นดีแน่ๆ แต่เมื่อเขาเห็นดงซูบินรับผิดเรื่องนี้แทนทั้งสองเขาก็พุ่งเป้าไปที่ดงซูบินทันที ทุกคนในสำนักงานรู้ดีว่าโจวเกานั้นพยายามที่จะกำจัดดงซูบินโดยเสนอชื่อฉางจี้ให้เข้าไปอบรมการเป็นผู้บริหารในครั้งนี้ นี่เป็นผลจากการที่ดงซูบินพยายามปิดบังความผิดให้พวดเขาสองคน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ร้องขอสิ่งนั้นจากดงซูบินเลยแต่พวกเขาก็รู้สึกชอบคุณ

คุณจะหาผู้นำที่ปกป้องลูกน้องได้ดีขขนาดนี้ได้จากที่ไหนกัน?

“ หัวหน้าซูบินขอแสดงความยินดีด้วย ารฝึกอบรมจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ไม่หรอค่ะหัวหน้า? ดงซูบินพยายามตอบคำถามอย่างสุขุม “ใช่แล้ว. พรุ่งนี้เป็นวันที่จะรายงานและหลักสูตรจะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์นะ”

ต้าหลินเหม่ยกล่าวอย่างร่าเริง:“ หัวหน้าซูบิน หัวหน้ามีฉายา ก่อนหน้านี้ไปคุยกับเหล่าสาวๆมาและได้ยินหลาย ๆ คนเรียกหัวหน้าดงซูบินว่าเทพเจ้า! “

” เทพเจ้าอย่างงั้นหรอ? “ ใครเป็นคนแพร่กระจายฉายนี้ออกมา?”

“ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่าทุกคนเรียกหาฉายาของหัวหน้ากันใหญ่เลย “จริงๆแล้วต้าหลินเหม่ยเองนั้นแหละที่เป็นคนที่ตั้งฉายานี้และกระจายข่าวให้ไปทั่วสาขา

ส่วนเกาแพนเหว่ยก็ยังพยายามที่จะประจบประแจงอยู่เช่นเดิม“ หัวหน้าดงหัวหน้าโชคดีมากๆเลยนะครับ ตอนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลิวไม่ได้นำยามาไปด้วย หัวก็เตรียมยาไปด้วยพอดี แม้แต่สวรรค์ก็ช่วยเหลือหัวหน้า จริงแล้วหลักสูตรการฝึกอบรมในครั้งนี้มันเหมาะกับหัวหน้าซูบินอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว  ฉางจี้นั้นไม่แม้แต่จะมีคุณสมบัตเหมาะสมตรงไหนเลยด้วยซ้ำ?” เกาแพนเหว่ยเองก็ไม่ชอบหน้าฉางจี้เช่นกัน เพราะเขาเป็นคนที่ชอบทำตัวหยิ่งพยองอยู่ตลอดเวลา แต่เขากับถูกดงซูบินที่พึงย้ายเข้ามาใหม่ ปฏิเสธที่จะมาเป็นลูกน้องเขา นอกจากนี้เมื่อตอนที่พวกเขาแข่งขันกันเพื่อเป็นรองหัวหน้าเกาแพนเห่วยก็เลิกคุยกับฉางจี้ เพราะเขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะเป็นคนประเภทเดียวกับฉางจี้แต่เขาก็จะไม่ยอมรับฉางจี้เช่นกัน

ในตอนนี้เขามั่นใจที่จะวางเดิมพันไว้กับดงซูบินในท้ายที่สุดหัวหน้าซูบินก็จะกลับมาลงสนามในนาทีสุดท้ายเสมอ

เขาแค่หวังว่าดงซูบินจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้

ตอนนี้ดงซูบินได้แต่หัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมา เขามองไปรอบ ๆ สำนักงานก่อนที่จะพูดว่า:“ ฉางจี้อยู่ที่ไหน?”

จ้วงจือเข้าจึงได้ตอบว่า:“ เมื่อเขารู้ข่าวว่าเขาโดนถอดชื่อจากการอบรมเขาก็วิ่งออกจากสำนักงานไปเลย”

ต้าหลินเหม่ยพูดเสริมขึ้นมาว่า:“ เขาน่าจะไปที่ห้องผู้ว่าการทางการเมืองโจว แน่ๆเลยล่ะ”

“ ชั่งน่าสมเพศจริงๆเลย……เฮ้อ…….” พี่หยางพูดขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจใคร

ในขณะนั้นมีเสียงฝีเท้าที่หนักหน่วงดังขึ้นมาและ ฉางจี้ที่ดูท่าทางจะโกรธจัดเดินเข้าไปในสำนักงานของผู้ว่าการทางการเมืองโจว หลังจากเขาได้ยินข่าวที่ว่าชื่อของเขาในการอบรมถูกแทนที่โดยดงซูบิน แต่โจวเองก็กำลังโมโหอยู่เช่นกันและเมื่อเขาได้ยินฉางจี้ถามเขาถึงเรื่องนี้ เขาก็ไล่ฉางจี้ออกไปจากห้องทำงานของเขา

ทั้งที่ฉางจี้กำลังจะเข้าอบรมและได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองหัวหน้าแผนกหลังการฝึกอบรม แต่ทันใดนั้นเขาก็ถูกถอนชื่อออกและถูกแทนด้วยดงซูบิน ตอนนี้เขาโมโหมาก แต่ทำได้แค่โกรธลุงของเขา โจวเกาอยู่ในใจเพียงเท่านั้น!

เมื่อดงซูบินเห็นเขาและดงซูบินจึงพูดว่า:“ ใบลาของนายไม่ได้รับการอนุมัติกลับมาทำงานในวันจันทร์ตามปกติด้วย”

ฉางจี้ได้แต่จ้องไปที่ดงซูบินและคิดในใจว่า ‘ฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่!’

ที่จริงแล้วแม้แต่ดงซูบินเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเข้าการฝึกอบรมในครั้งนี้ เขาแค่มีความตั้งใจ คือหยุดยั้งฉางจี้ไม่ให้เข้าร่วมการฝึกอบรมและเขาไม่ต้องการให้ฉางจี้มีโอกาสที่จะได้มาเป็นหัวหน้าของเขา ในฐานะเจ้าหน้าที่ทั่วไปมันเป็นการยากมากสำหรับที่จะเป็นหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไป แต่เพราะการที่ฉางจี้ไม่ได้ถูกส่งตัวไปกับเป็นเขาเองที่ได้ไป ด้วยประสบการณ์ในการเข้าร่วมการฝึกอบรมนี้ดงซูบินจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกอย่างแน่นอน จากคำขอเพียงคำเดียวของเขาที่ขอหยานเหลียงทำให้เขาอาจจะได้รับประโยชน์ในครั้งนี้มหาศาลเขาอาจจะได้เลื่อนตำแหน่งจากรองหัวหน้าส่วนงานขึ้นเป็นรองหัวหน้ากองก็เป็นได้!

กลับมาที่ห้องทำงานของเขาเองดงซูบินได้โทรไปหาผู้อำนวยการหลี่ชิง เพราะเมื่อสองสัปดาห์ หลี่ชิงในตอนนั้นกำลังคิดว่าจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไปถ้าฉางจี้ได้รับการอบรมและไปดำรงตำแหน่งในฐานะรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทั่วไป เพราะเขาคงไม่มีความสุขถ้าเห็นว่าดงซูบินอาจจะถูกกลั่นแกล้งจากฉางจี้เมื่อฉางจี้ได้รับตำแหน่ง แต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เขาก็กระแทกโต๊ะของเขาและชมดงซูบินที่ทำผลงานออกมาได้ดีขนาดนี้! หลี่ชิงชมดงซูบินทางโทรศัพท์และได้รับใบอนุญาตลาพัก หลังจากวางสาย เสียวหยานก็โทรหาเขา เธอไม่ได้พูดอะไรมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้

ดงซูบินเองก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่ารองหัวหน้าของสาขาเขตอย่างเสียวหยานก็ยังคงเป็นห่วงเขาอยู่

เมื่อหมดวัน

ดงซูบินค่อยๆเดินออกจากสำนักงาน ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความปิติยินดี

ในระหว่างที่เขาออกมาที่ทางเดินดงซูบินผู้ซึ่งได้กลายเป็นคนสำคัญที่มีส่วนช่วยในการรักษาสำนักงานสาขาไว้จากคนที่ไม่เหมาะสมที่จะมาเป็นหัวหน้าคนใหม่ต่างก็อยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่และหัวหน้าของทุกส่วนงานที่ซ่อนตัวอยู่ ‘หัวหน้าซูบินกลับมาได้อีกครั้งแล้วเขาได้ช่วยปกป้องอาชีพของหัวหน้าหยานและชีวิตของรัฐมนตรีหลิวไว้ นอกจากนี้เขายังได้เข้าอบรมการเป็นผู้บริหารที่น้อยคนนักจะเข้าไปได้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของเครดิตที่เขาได้รับแต่เป็นการกระทำที่หัวหน้าซูบินตบหน้าโจวเกาเข้าอย่างจัง โดยใช้การฝึกอบรมเป็นเครื่องมือทำให้เขาเสียหน้า แค้นในครั้งนี้ต้องได้รับการเอาคืนแน่ๆ หัวหน้าหยานเหลียงเองก็จะย้ายออกไปในวันจันทร์แล้ว หลังจากนั้นโจวเกาจะปลดหัวหน้าซูบินออกจากราชการหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องมาติดตามกัน!’

ดงซูบินเองก็รู้ว่าโจวเกาจะต้องมาแก้แค้นเขาในไม่ช้า แต่เขาก็ไม่สนเรื่องนั้นหรอก

‘โอ้ผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือของเขาอย่างฉางจี้ได้ตั้งใจเปลี่ยนเอกสารการประชุมซึ่งเหมือนเป็นการดูหมิ่นเขา แต่เขากับระบายความโกรธนั้นมาหาฉัน เมื่อเขามีปัญหากับฉันและยังพยายามที่จะช่วยผลักดันฉางจี้ให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งแต่มันก็ไร้ประโยชน์สิ้นดีใช่ไหม? สงสัยทั้งสองคงจะหูหนวกหรือเปล่า? ทั้งสองกำลังทำผิดกฎหมายอยู่แล้วฉันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรอ? การที่เขากล่าวหาในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ เวนเอ๋ย! ทำไมฉันต้องถูกตำหนิด้วยเรื่องพวกนี้ด้วย’ตั้งแต่โจวเกาเริ่มเรื่องนี้ขึ้น หลังจากนั้น ฉันจะคว้าหลักสูตรฝึกอบรมที่เขาเป็นคนเปิดมันขึ้นมาเอง! ใครขอให้เขาไม่มีเหตุผลอย่างนั้นเหรอ? ใครขอให้เขาบังคับให้ฉันต้องรับผิดชอบก่อนที่เขาจะตรวจสอบเหตุการณ์เหล่านี้ให้ดีก่อนอย่างงั้นหรอ? เขาเองนั้นแหละที่เป็นคนเริ่มเรื่องนี้ทั้งหมด เขาจะโทษใครได้’ ดงซูบินเป็นคนที่เกลียดการถูกกล่าวหามาก เขาโกรธมากโดยเฉพาะฉางจี้ และ โจวเกาเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเขา ในตอนนี้เขาแค่อยากได้รับประสบการณ์ในการเข้าร่วมการฝึกอบรมมาก่อน

เจ้าหน้าที่สำหนักงานของเขาได้รับการจัดอันดับว่าจะใกล้ชิดกับหัวหน้าได้มากแค่ไหน นั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติต่อรองหัวหน้าแผนกและหัวหน้าแผนกหรือป่าว?

‘มันเหมือนกับว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลก!’

‘แต่……มันก็ไม่ใช้เรื่องตลกเลย!’

ในระหว่างการคัดเลือกตำแหน่งหัวหน้าส่วนรองในการประชุมคณะกรรมการพรรคมัน ดงซูบินเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถต่อต้านโจวเกาได้ เขาดึงเสียวหยาน, หยานจิงหงษ์ และ หลิวหัวให้มาอยู่ข้างของเขาและก็ชนะในที่สุด คราวนี้เองก็เป็นดงซูบินที่จะต่อต้านโจวเกาสำหรับการเปิดหลักสูตรการฝึกอบรมผู้บริหาร เพราะดงซูบินได้ช่วยชีวิตหัวหน้าของหยานและหัวหน้าหยานเองก็ต้องช่วยเขา ในท้ายที่สุดดงซูบินก็กลับมาชนะโจวเกาอีกครั้ง

ดงซูบินรองหัวหน้าตัวเล็กคนนี้ที่ชนะหัวหน้าเจ้าหน้าที่ระดับสูง มาถึงสองครั้งแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) 107

Now you are reading POWER AND WEALTH (พลังและความมั่งคั่ง) Chapter 107 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 107 ชัยชนะครั้งที่สอง!

ผู้แปล loop

ณ สำนักงานกิจการทั่วไป

ฉางจ้วง, ต้าหลินเหม่ย, พี่หยางและคนอื่น ๆ กำลังมีความสุขกับดงซูบิน เพราะขนาดตอนที่พวกเขามีปัญหากับโจวเกาเขาก็ยังพยายามที่จะยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อปกป้องพวกเขา ถ้าดงซูบินไม่ทำเช่นนั้นต้าหลินเหม่ยและฉางจ้วงคงโดนโจวเกาเล่นงานจนไม่เหลือชิ้นดีแน่ๆ แต่เมื่อเขาเห็นดงซูบินรับผิดเรื่องนี้แทนทั้งสองเขาก็พุ่งเป้าไปที่ดงซูบินทันที ทุกคนในสำนักงานรู้ดีว่าโจวเกานั้นพยายามที่จะกำจัดดงซูบินโดยเสนอชื่อฉางจี้ให้เข้าไปอบรมการเป็นผู้บริหารในครั้งนี้ นี่เป็นผลจากการที่ดงซูบินพยายามปิดบังความผิดให้พวดเขาสองคน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ร้องขอสิ่งนั้นจากดงซูบินเลยแต่พวกเขาก็รู้สึกชอบคุณ

คุณจะหาผู้นำที่ปกป้องลูกน้องได้ดีขขนาดนี้ได้จากที่ไหนกัน?

“ หัวหน้าซูบินขอแสดงความยินดีด้วย ารฝึกอบรมจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ไม่หรอค่ะหัวหน้า? ดงซูบินพยายามตอบคำถามอย่างสุขุม “ใช่แล้ว. พรุ่งนี้เป็นวันที่จะรายงานและหลักสูตรจะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์นะ”

ต้าหลินเหม่ยกล่าวอย่างร่าเริง:“ หัวหน้าซูบิน หัวหน้ามีฉายา ก่อนหน้านี้ไปคุยกับเหล่าสาวๆมาและได้ยินหลาย ๆ คนเรียกหัวหน้าดงซูบินว่าเทพเจ้า! “

” เทพเจ้าอย่างงั้นหรอ? “ ใครเป็นคนแพร่กระจายฉายนี้ออกมา?”

“ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่าฮ่าฮ่าทุกคนเรียกหาฉายาของหัวหน้ากันใหญ่เลย “จริงๆแล้วต้าหลินเหม่ยเองนั้นแหละที่เป็นคนที่ตั้งฉายานี้และกระจายข่าวให้ไปทั่วสาขา

ส่วนเกาแพนเหว่ยก็ยังพยายามที่จะประจบประแจงอยู่เช่นเดิม“ หัวหน้าดงหัวหน้าโชคดีมากๆเลยนะครับ ตอนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหลิวไม่ได้นำยามาไปด้วย หัวก็เตรียมยาไปด้วยพอดี แม้แต่สวรรค์ก็ช่วยเหลือหัวหน้า จริงแล้วหลักสูตรการฝึกอบรมในครั้งนี้มันเหมาะกับหัวหน้าซูบินอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว  ฉางจี้นั้นไม่แม้แต่จะมีคุณสมบัตเหมาะสมตรงไหนเลยด้วยซ้ำ?” เกาแพนเหว่ยเองก็ไม่ชอบหน้าฉางจี้เช่นกัน เพราะเขาเป็นคนที่ชอบทำตัวหยิ่งพยองอยู่ตลอดเวลา แต่เขากับถูกดงซูบินที่พึงย้ายเข้ามาใหม่ ปฏิเสธที่จะมาเป็นลูกน้องเขา นอกจากนี้เมื่อตอนที่พวกเขาแข่งขันกันเพื่อเป็นรองหัวหน้าเกาแพนเห่วยก็เลิกคุยกับฉางจี้ เพราะเขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะเป็นคนประเภทเดียวกับฉางจี้แต่เขาก็จะไม่ยอมรับฉางจี้เช่นกัน

ในตอนนี้เขามั่นใจที่จะวางเดิมพันไว้กับดงซูบินในท้ายที่สุดหัวหน้าซูบินก็จะกลับมาลงสนามในนาทีสุดท้ายเสมอ

เขาแค่หวังว่าดงซูบินจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้

ตอนนี้ดงซูบินได้แต่หัวเราะแล้วส่ายหน้าไปมา เขามองไปรอบ ๆ สำนักงานก่อนที่จะพูดว่า:“ ฉางจี้อยู่ที่ไหน?”

จ้วงจือเข้าจึงได้ตอบว่า:“ เมื่อเขารู้ข่าวว่าเขาโดนถอดชื่อจากการอบรมเขาก็วิ่งออกจากสำนักงานไปเลย”

ต้าหลินเหม่ยพูดเสริมขึ้นมาว่า:“ เขาน่าจะไปที่ห้องผู้ว่าการทางการเมืองโจว แน่ๆเลยล่ะ”

“ ชั่งน่าสมเพศจริงๆเลย……เฮ้อ…….” พี่หยางพูดขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจใคร

ในขณะนั้นมีเสียงฝีเท้าที่หนักหน่วงดังขึ้นมาและ ฉางจี้ที่ดูท่าทางจะโกรธจัดเดินเข้าไปในสำนักงานของผู้ว่าการทางการเมืองโจว หลังจากเขาได้ยินข่าวที่ว่าชื่อของเขาในการอบรมถูกแทนที่โดยดงซูบิน แต่โจวเองก็กำลังโมโหอยู่เช่นกันและเมื่อเขาได้ยินฉางจี้ถามเขาถึงเรื่องนี้ เขาก็ไล่ฉางจี้ออกไปจากห้องทำงานของเขา

ทั้งที่ฉางจี้กำลังจะเข้าอบรมและได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองหัวหน้าแผนกหลังการฝึกอบรม แต่ทันใดนั้นเขาก็ถูกถอนชื่อออกและถูกแทนด้วยดงซูบิน ตอนนี้เขาโมโหมาก แต่ทำได้แค่โกรธลุงของเขา โจวเกาอยู่ในใจเพียงเท่านั้น!

เมื่อดงซูบินเห็นเขาและดงซูบินจึงพูดว่า:“ ใบลาของนายไม่ได้รับการอนุมัติกลับมาทำงานในวันจันทร์ตามปกติด้วย”

ฉางจี้ได้แต่จ้องไปที่ดงซูบินและคิดในใจว่า ‘ฉันจะไม่ปล่อยนายไว้แน่!’

ที่จริงแล้วแม้แต่ดงซูบินเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเข้าการฝึกอบรมในครั้งนี้ เขาแค่มีความตั้งใจ คือหยุดยั้งฉางจี้ไม่ให้เข้าร่วมการฝึกอบรมและเขาไม่ต้องการให้ฉางจี้มีโอกาสที่จะได้มาเป็นหัวหน้าของเขา ในฐานะเจ้าหน้าที่ทั่วไปมันเป็นการยากมากสำหรับที่จะเป็นหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไป แต่เพราะการที่ฉางจี้ไม่ได้ถูกส่งตัวไปกับเป็นเขาเองที่ได้ไป ด้วยประสบการณ์ในการเข้าร่วมการฝึกอบรมนี้ดงซูบินจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกอย่างแน่นอน จากคำขอเพียงคำเดียวของเขาที่ขอหยานเหลียงทำให้เขาอาจจะได้รับประโยชน์ในครั้งนี้มหาศาลเขาอาจจะได้เลื่อนตำแหน่งจากรองหัวหน้าส่วนงานขึ้นเป็นรองหัวหน้ากองก็เป็นได้!

กลับมาที่ห้องทำงานของเขาเองดงซูบินได้โทรไปหาผู้อำนวยการหลี่ชิง เพราะเมื่อสองสัปดาห์ หลี่ชิงในตอนนั้นกำลังคิดว่าจะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานกิจการทั่วไปถ้าฉางจี้ได้รับการอบรมและไปดำรงตำแหน่งในฐานะรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทั่วไป เพราะเขาคงไม่มีความสุขถ้าเห็นว่าดงซูบินอาจจะถูกกลั่นแกล้งจากฉางจี้เมื่อฉางจี้ได้รับตำแหน่ง แต่เมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เขาก็กระแทกโต๊ะของเขาและชมดงซูบินที่ทำผลงานออกมาได้ดีขนาดนี้! หลี่ชิงชมดงซูบินทางโทรศัพท์และได้รับใบอนุญาตลาพัก หลังจากวางสาย เสียวหยานก็โทรหาเขา เธอไม่ได้พูดอะไรมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้

ดงซูบินเองก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่ารองหัวหน้าของสาขาเขตอย่างเสียวหยานก็ยังคงเป็นห่วงเขาอยู่

เมื่อหมดวัน

ดงซูบินค่อยๆเดินออกจากสำนักงาน ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความปิติยินดี

ในระหว่างที่เขาออกมาที่ทางเดินดงซูบินผู้ซึ่งได้กลายเป็นคนสำคัญที่มีส่วนช่วยในการรักษาสำนักงานสาขาไว้จากคนที่ไม่เหมาะสมที่จะมาเป็นหัวหน้าคนใหม่ต่างก็อยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่และหัวหน้าของทุกส่วนงานที่ซ่อนตัวอยู่ ‘หัวหน้าซูบินกลับมาได้อีกครั้งแล้วเขาได้ช่วยปกป้องอาชีพของหัวหน้าหยานและชีวิตของรัฐมนตรีหลิวไว้ นอกจากนี้เขายังได้เข้าอบรมการเป็นผู้บริหารที่น้อยคนนักจะเข้าไปได้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของเครดิตที่เขาได้รับแต่เป็นการกระทำที่หัวหน้าซูบินตบหน้าโจวเกาเข้าอย่างจัง โดยใช้การฝึกอบรมเป็นเครื่องมือทำให้เขาเสียหน้า แค้นในครั้งนี้ต้องได้รับการเอาคืนแน่ๆ หัวหน้าหยานเหลียงเองก็จะย้ายออกไปในวันจันทร์แล้ว หลังจากนั้นโจวเกาจะปลดหัวหน้าซูบินออกจากราชการหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องมาติดตามกัน!’

ดงซูบินเองก็รู้ว่าโจวเกาจะต้องมาแก้แค้นเขาในไม่ช้า แต่เขาก็ไม่สนเรื่องนั้นหรอก

‘โอ้ผู้ช่วยที่น่าเชื่อถือของเขาอย่างฉางจี้ได้ตั้งใจเปลี่ยนเอกสารการประชุมซึ่งเหมือนเป็นการดูหมิ่นเขา แต่เขากับระบายความโกรธนั้นมาหาฉัน เมื่อเขามีปัญหากับฉันและยังพยายามที่จะช่วยผลักดันฉางจี้ให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งแต่มันก็ไร้ประโยชน์สิ้นดีใช่ไหม? สงสัยทั้งสองคงจะหูหนวกหรือเปล่า? ทั้งสองกำลังทำผิดกฎหมายอยู่แล้วฉันเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหรอ? การที่เขากล่าวหาในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ เวนเอ๋ย! ทำไมฉันต้องถูกตำหนิด้วยเรื่องพวกนี้ด้วย’ตั้งแต่โจวเกาเริ่มเรื่องนี้ขึ้น หลังจากนั้น ฉันจะคว้าหลักสูตรฝึกอบรมที่เขาเป็นคนเปิดมันขึ้นมาเอง! ใครขอให้เขาไม่มีเหตุผลอย่างนั้นเหรอ? ใครขอให้เขาบังคับให้ฉันต้องรับผิดชอบก่อนที่เขาจะตรวจสอบเหตุการณ์เหล่านี้ให้ดีก่อนอย่างงั้นหรอ? เขาเองนั้นแหละที่เป็นคนเริ่มเรื่องนี้ทั้งหมด เขาจะโทษใครได้’ ดงซูบินเป็นคนที่เกลียดการถูกกล่าวหามาก เขาโกรธมากโดยเฉพาะฉางจี้ และ โจวเกาเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเขา ในตอนนี้เขาแค่อยากได้รับประสบการณ์ในการเข้าร่วมการฝึกอบรมมาก่อน

เจ้าหน้าที่สำหนักงานของเขาได้รับการจัดอันดับว่าจะใกล้ชิดกับหัวหน้าได้มากแค่ไหน นั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติต่อรองหัวหน้าแผนกและหัวหน้าแผนกหรือป่าว?

‘มันเหมือนกับว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตลก!’

‘แต่……มันก็ไม่ใช้เรื่องตลกเลย!’

ในระหว่างการคัดเลือกตำแหน่งหัวหน้าส่วนรองในการประชุมคณะกรรมการพรรคมัน ดงซูบินเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถต่อต้านโจวเกาได้ เขาดึงเสียวหยาน, หยานจิงหงษ์ และ หลิวหัวให้มาอยู่ข้างของเขาและก็ชนะในที่สุด คราวนี้เองก็เป็นดงซูบินที่จะต่อต้านโจวเกาสำหรับการเปิดหลักสูตรการฝึกอบรมผู้บริหาร เพราะดงซูบินได้ช่วยชีวิตหัวหน้าของหยานและหัวหน้าหยานเองก็ต้องช่วยเขา ในท้ายที่สุดดงซูบินก็กลับมาชนะโจวเกาอีกครั้ง

ดงซูบินรองหัวหน้าตัวเล็กคนนี้ที่ชนะหัวหน้าเจ้าหน้าที่ระดับสูง มาถึงสองครั้งแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+