ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 15 ใจที่ลำเอียงและมืดบอดอันตรายที่สุด

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 15 ใจที่ลำเอียงและมืดบอดอันตรายที่สุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เฉินฝานซิงสาดคำจิกกัดออกมาไม่ปิดบัง ทำเอาหน้าของเจียงหรงหรงเจื่อนลงอีกครั้ง  

 

 

“เรื่องครั้งนี้เป็นความดีความชอบของเชียนโหรวที่ไม่เอาเรื่องที่แกผลักเธอตกน้ำแพร่งพรายให้ใครรู้!”  

 

 

“เรื่องระหว่างเธอกับซูเหิงน่ะ พวกเข้าเหมาะสมกันมาก ใจตรงกัน เข้าอกเข้าใจกัน เธอทำสำเร็จแล้ว หัวใจของซูเหิงไม่ได้อยู่ที่เธออีกต่อไปแล้ว แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน เธอน่าจะรู้ความหมายของมันนี้ดี”  

 

 

ความหนาวเหน็บในใจเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เย็นจนเธอคิดไม่ถึงว่าความเจ็บปวดจะผุดขึ้นกลางหัวใจที่ด้านชาไปตั้งนานแล้วได้อีกครั้งหนึ่ง  

 

 

เธอผลักเฉินเชียนโหรวตกน้ำ?  

 

 

เฉินเชียนโหรวกับซูเหิงรักกันเหมาะสมกัน?  

 

 

เหอะ ช่างน่าขัน!  

 

 

ความน่ากลัวของการที่มีดวงตาที่มืดบอดคือมันสามารถการทำให้ใครสักคนมีจิตใจทำเอียงได้  

 

 

เฉินฝานซิงไม่อยากเสียเวลาเสวนากับคนพวกนี้แม้แต่คำเดียว นอกจากไม่เปลืองน้ำลายแล้วและน่าจะทำให้อุ่นใจได้กว่ามาก  

 

 

เข้าเริ่มลงมือจับช้อนไม้ขึ้นมาอย่างใจเย็นป้อนโจ๊กเข้าปากด้วยท่าทีสงบและสง่างาม  

 

 

เห็นเฉินฝานซิงท่าทีเรียบเฉย สีหน้าทั้งคนสามก็ไม่สบอารมณ์เอาอย่างมาก เจียงหรงหรงมองเธออีกครั้งพร้อมทั้งกวาดตาไปมองของที่อยู่บนชั้นวาง  

 

 

หัวคิ้วเลิกขึ้น เสียงเย็นพูดทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค “พักผ่อนเถอะ” สิ้นประโยคสั้นๆ เธอก็หมุนตัวจากไป  

 

 

ทั้งสามคนเดินออกจากห้องคนไข้มาอยู่ที่ทางเดินของโรงพยาบาล เจียงหรงหรงกล่าวกับเฉินเต๋อฝานและหยางลี่เวยที่เดินตามหลังมาว่า:  

 

 

“ไปซื้อโจ๊กของหรูอี้ซวนมาให้เชียนโหรวสักชุดนึง อะไรที่มันมีเชียนโหรวจะไม่มีได้ยังไง พวกแกคิดอะไรกันอยู่!”  

 

 

“หรูอี้ซวน?”  

 

 

เฉินเต๋อฝานและหยางลี่เวยนึกเอะใจ พวกเขาสั่งให้คนไปซื้อโจ๊กที่หรูอี้ซวนให้เฉินฝานซิงตั้งแต่เมื่อไหร่  

 

 

เจียงหรงหรงถูกอกถูกใจอาหารของหรูอี้ซวนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร บางครั้งก็ใช้ให้คนรับใช้ไปซื้อมาให้ตั้งแต่เช้าตรู่ก็ยังไม่ได้กลับมาสักชุด  

 

 

โจ๊กที่เฉินฝานซิงกินอยู่เป็นโจ๊กของหรูอี้ซิง?  

 

 

ใครเป็นคนไปซื้อมา  

 

 

ซูเหิง?  

 

 

แต่ว่าเขาคอยเฝ้าเชียนโหรวอยู่ในห้องไม่ห่าง?  

 

 

ต่อให้เป็นเขาจริงๆ ก็ไม่มีทางที่จะซื้อกลับมาให้เฉินฝานซิงแค่ชุดเดียว?  

 

 

งั้นก็เหลือแค่ตัวเธอเองคนเดียวแล้ว?  

 

 

ไม่ทำร้ายตัวเองแต่เสวยสุขเก่งเชียวนะ!  

 

 

“ค่ะคุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่เองก็ชอบกินโจ๊กเหมือนกัน เดี๋ยวจะสั่งให้พวกนั้นสั่งมาเผื่อให้อีกชุดนะคะ”  

 

 

หยางลี่เวยพูดอย่างนุ่มนวล ทำให้เจียงหรงหรงพอใจไม่น้อย  

 

 

“กลับกันเถอะ”  

 

 

–  

 

 

ห้องไพรเวทชั้นสามของหรูอี้ซวน  

 

 

อวี๋ซงกลับมายืนอยู่ตรงหน้าของป๋อจิ่งชวนอีกครั้ง  

 

 

เขารายงานเรื่องที่เขาเจอกับเจียงหรงหรง เฉินเต๋อฝาน หยางลี่เวยโดยบังเอิญให้ป๋อจิ่งชวนฟังอย่างละเอียด  

 

 

จริงๆ แล้วเรื่องราวเกี่ยวกับบ้านตระกูลเฉินไม่ได้เป็นความลับมาตั้งนานแล้ว  

 

 

แค่ลองออกปากถามนิดหน่อย ไม่นานข่าวลือต่างๆ ก็หลุดออกมามากมาย  

 

 

ป๋อจิ่งชวนนั่งอยู่บนที่นั่งประธานในห้องที่ได้จองไว้  

 

 

แสงอาทิตย์จากหน้าต่างตัดกับความโดดเด่นโครงหน้าได้รูป ท่วงท่าดูสูงส่งนิ่งสงบและสง่าผ่าเผย  

 

 

เขาพยักหน้ารับนิดๆ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเบาๆ ยกมุมปากขึ้นบางๆ  

 

 

นิ้วเรียวยาวที่วางบนโต๊ะไม้ตัวหนาเคาะขึ้นลงเป็นจังหวะ คัฟลิงค์สีเงินยี่ห้อแพงอันงดงามสะท้อนแสงวิบวับตามการขยับของเขา  

 

 

“นายจะบอกว่าคือเธอถูกคนในบ้านลอยแพ?” เสียงทุ้มต่ำค่อยๆ ดังขึ้น ในนั้นแฝงไปด้วยความเย็นเยียบจนทำให้ซูอวี๋อดที่จะตัวเกร็งไม่ได้  

 

 

“ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นอย่างนั้นนะครับ เชื่อเสียงของคุณเฉินก่อนหน้านี้เองเหมือนว่าจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่…”  

 

 

อวี๋ซงตอบอย่างเคลือบแฝง  

 

 

จริงๆ คำว่าไม่ค่อยดียังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ ถ้าจะให้พูดตรงๆ เลยคงต้องใช้คำว่าฉาวโฉ่  

 

 

แต่เรื่องทุกอย่างก็ไม่เคยมีใครพยานได้มาก่อน เขาจึงไม่อยากให้น้ำหนักกับมันมากนัก  

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่พูดอะไร เพียงแค่หรี่ดวงตาอันเฉียบแหลมให้เรียวเล็กลงเล็กน้อย  

 

 

อวี๋ซงเห็นดังนั้น เขาก็ขยับขากรรไกรอย่างรีบร้อนพลางโค้งตัวลงแล้วพูดว่า “คุณผู้ชายจะให้ผมไปตรวจสอบให้ไหมครับ”  

 

 

“ไม่จำเป็น”  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด