ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร / 450 ขำพรืด

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร / 450 ขำพรืด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร

ในขณะเดียวกันนั้น ค้อนประธานซึ่งทำหน้าที่พิพากษาว่าท่านประธานสูงสุดเป็นเกย์กำลังเคาะดังปึงปังอยู่ในห้องสนทนาของบริษัทสมาคมสกุลป๋อ

มีทั้งรูปทั้งวีดีโอ!

ท่านประธานแย่งหนุ่มหน้าขาวมาจากอ้อมใจของสาวต่างชาติอย่างโต้งๆ ด้านล่างบริษัท

ประโยคที่ทรงอำนาจและเผด็จการอย่าง ‘เขาเป็นของฉัน’ กลายเป็นวลีรักยอดฮิตในบริษัทตอนนี้

ในที่สุดเทพบุตรสมบัติชาติก็ไม่ได้ถูกสาวต่างชาติหยิบยื่นยาพิษมาให้ มันควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี ทว่าสาวๆ ทั้งบริษัทกลับดูไม่ค่อยจะเบิกบานนัก

“โอย สมัยนี้ถ้าไม่ใช่เพศเดียวกันจะรักกันไม่ได้แล้วรึยังไงกันนะ”

“ผู้ชายดีๆ ก็เป็นเกย์กันหมด ช่างน่าสมเพชบุปผาหยกที่ใครเห็นใครก็รักอย่างฉัน…จนป่านนี้แล้วยังไม่มีแฟนดีๆ กับเขาสักคนเลย”

“เฮ้อ สงสารก็แต่ผู้ช่วยอวี๋ของพวกเรา เจ้าดอกเบญจมาศทิ้งกลีบระทมลงเกลื่อน​พื้น[1] ต้องมาโดนบอสสลัดทิ้งไปแบบนี้…”

“ฉันคงต้องลบ CP การ์ตูนและก็นิยายสิบแปดบวกของท่านประธานและผู้ช่วยอวี๋ทิ้ง ขืนยังอ่านต่อไปตอนนี้คงช้ำใจแย่!”

“เฮ้อ ช่างน่าสงสารจริงๆ เลยน้า ฉันจะเอาของว่างไปให้ผู้ช่วยอวี๋ ถึงจะปลอบโยนดอกเบญจมาศไม่ได้ ก็ปลอบขวัญหัวใจของเขาสักหน่อย…”

“โธ่ ใครว่าปลอบโยนดอกเบญจมาศไม่ได้กันล่ะ ฉันจะเอาน้ำเก๊กฮวยไปให้ผู้ช่วยอวี๋ เขาบอกว่ากินส่วนไหนก็บำรุงส่วนนั้นไม่ใช่เหรอ รอให้ดอกเบญจมาศซ่อมแซมเสร็จแล้ว เขาก็จะกลับมาเป็นเคะที่เพอร์เฟคอีกครั้ง!”

“ฟู่ว จริงเหรอเนี่ย งั้นฉันก็จะสั่งน้ำเก๊กฮวยในเน็ตมาด้วย ว้าว แถมโกจิเบอร์รี่ด้วย งั้นฉันเอาสองชุดเลย!”

“แถมโกจิเบอร์รี่? ส่งต่อมาทางนี้เลย ฉันก็อยากได้บ้างสักชุด ดอกเบญจมาศให้ผู้ช่วยอวี๋ ส่วนโกจิเบอร์รี่ฉันกินเอง!”

“…”

เสียงลือเสียงเล่าอ้างแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ของอวี๋ซงตกน้ำจนเสียไปในขณะที่เยี่ยมชมงาน เขาจึงถือโอกาสในขณะที่ว่างอยู่นั้น รีบออกไปถอยโทรศัพท์เครื่องใหม่พร้อมซิมการ์ด

หลังจากที่กลับถึงบริษัทแล้ว ใครต่อใครก็ต่างมองมายังเขาด้วยสีหน้าเห็นใจและสิ้นหวัง

ก่อนจะผลัดกันเข้ามายื่นขนมให้เขาพร้อมทั้งคำปลอบใจเป็นระยะๆ

มีทั้ง คิดให้ดีๆ นะ ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทรา? ไม่ต้องเศร้านะ อย่าเสียใจไปเลย ตอนจบไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเคยครอบครอง…

ข้อความปลอบโยนชวนสับสนนี้เล่นเอาเขางงเป็นไก่ตาแตก เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานของตัวเอง โต๊ะทำงานของเขาก็มีขนมกองกันอยู่เต็มโต๊ะ พอลองสำรวจดูดีๆ แล้ว ของทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่ช่วยดับร้อนอย่างน้ำเก๊กฮวยและอาจจะมีโกจิเบอร์รี่อยู่บ้างประปราย

“น…นี่มันเรื่องอะไรกัน”

เขามองเพื่อร่วมงานในบริษัทเดียวกับตัวเองหน้าเหวอ แต่ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมงานแต่ล่ะคนก็ส่งสายตาเห็นใจมายังถุงน้ำเก๊กฮวยถุงหนึ่งที่ตั้งอยู่บน ‘ของแทนคำปลอบใจ’ ที่กองกันอยู่บนโต๊ะของเขาเป็นเทือกเขาเหล่ากา

“สู้ๆ! เริ่มต้นใหม่!”

สีหน้าเดิมของอวี๋ซงที่นับว่าเย็นชา บัดนี้ได้กระจุกรวมกันเป็นจีบซาลาเปา!

เขารวบของทุกอย่างลงในกระเช้าของว่าง กอดมันเอาไว้พลางลองเข้าไปดูในห้องสนทนาของบริษัท

ห้องสนทนาปรากฏให้เห็นกระทู้หนึ่งที่ล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก โดยมีหัวข้อกระทู้ว่า…

[เมนูมื้อกลางวันในโรงอาหารวันนี้!]

เมื่อเห็นกระทู้นี้ อวี๋ซงก็รู้ได้ทันทีว่าบริษัทอาจจะมีเรื่องให้ซุบซิบกันอีกแล้ว

ในโรงอาหารบริษัทวันๆ ทำอะไรกันบ้าง คนอื่นสน แต่คุณผู้ชายไม่เคยคิดจะสน!

ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กระทู้เมนูอาหารกลางวันจะถูกเปิดใช้งานอยู่ด้านบนสุด

มีกับข้าวในบริษัทดี นอกจากเรื่องานแล้ว พนักงานในบริษัทก็นึกถึงแต่เรื่องกิน

กดเปิดกระทู้…

เปิดออกมาดูในตอนแรก มันก็เป็นเมนูอาหารเที่ยงจริงๆ

แต่พอดูลงไปเรื่อยกลับเริ่มมีบางอย่างเปลี่ยนไป

จนกระทั่งท้ายที่สุด จู่ๆ ความคิดอยากจะตายก็ผุดเข้ามาในหัว!

ทำไมชีวิตของเขาถึงได้ลำบากยากเข็ญถึงเพียงนี้!

นี่เขายังอยากจะมีแฟนอยู่นะ!

[1] เจ้าดอกเบญจมาศทิ้งกลีบระทมลงเกลื่อน​พื้น เป็นเนื้อร้องท่อนหนึ่งในเพลง ‘菊花台’

ตอนที่ 450 ขำพรืด

เขายังอยากจะมีแฟนอยู่นะ!

ตอนนี้ยังจะมีสาวๆ ในบริษัทคนไหนกล้ารับเขาไว้พิจารณาอีกบ้างเนี่ย!

คุณผู้ชาย คุณทำผมลำบากซะแล้ว!

ความสุขอีกครึ่งชีวิตที่เหลือของผม…

อวี๋ซงน้ำตาตกใน การเข้าใจผิดอันใหญ่หลวงนี้ เขาจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างไร

เขาหันมองเพื่อนร่วมงาน ก่อนยกมือขึ้นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ผมสาบานได้ ว่านอกเหนือจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว ผมกับคุณผู้ชาย เราไม่เคยมีความสัมพันธ์อื่นกันอีก แม้แต่สักนิดก็ไม่มี จิ๊ดเดียวก็ไม่มี!”

“พรืดดด”

“พรืดดด”

กลุ่มเพื่อนร่วมงานขำพรืดกันออกมา!

อวี๋ซง “…”

เฉินฝานซิงเริ่มมีเรื่องให้วุ่นขึ้นมาอีกแล้ว งานบริษัทที่ต้องเตรียมเธอก็เตรียมจนเกือบจะพร้อมแล้ว แต่ปัญหาใหญ่ก็คือศิลปินของเธอน้อยเกินไป

ไม่ใช่ในนามของบริษัทใหญ่อย่างซิงเฉินกั๋วจี้ แต่เมื่อพูดถึงบริษัทโมเดลลิ่งเล็กๆ แล้ว นี่เป็นปัญหาที่น่าขันที่สุด

เป็นบริษัทโมเดลลิ่งแต่กลับไม่มีศิลปิน รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น

คนในบริษัทก็ต่างเสนอทั้งญาติสนิทมิตรสหายของตัวเองกันเข้ามา แต่ก็ใช่ไม่ได้สักคน

ทำเอาเฉินฝานซิงหัวเสียเพราะเรื่องนี้

คำว่า ‘ยอมมีน้อยดีกว่าด้อยคุณภาพ’ เล่นเอาคนทุกแผนกทั้งบริษัทต้องใจสั่นกันไปตามๆ กัน

ทว่าว่าบริษัทก็อยู่ในจุดที่เรียกว่าซบเซามาโดยตลอด ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างก็ทนไม่ไหว จึงพากันร้องขอให้เฉินฝานซิงเปลี่ยนกลับมาเป็นระบบการทำงานแบบเดิม

แน่นอนว่าในบริษัทนี้ไม่อาจจะฟังเสียงของเฉินฝานซิงคนเดียวได้ เพื่อเป็นการปลอบขวัญผู้บริหารระดับสูงทุกคน เฉินฝานซิงจึงยอมถอยลงมาก้าวหนึ่ง

โดยจะรับเพียงโฆษณาจากศิลปินเท่านั้น ไม่ผูกสัมพันธ์และไม่ทำสัญญากับบริษัทอื่นใด

เมื่อเห็นเฉินฝานซิงยอมถอยไปก้าวหนึ่ง ผู้บริหารระดับสูงต่างก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เฉินฝานซิงเองก็คอยกระตุ้นให้เอเจนซี่คนอื่นๆ ในบริษัทมองหาศิลปินที่มีเงื่อนไขน่าสนใจและดูมีอนาคต อีกทั้งยังต้องคอยติดตามรายการเดบิวท์อยู่ตลอดเวลา

ภายใต้ความยุ่งจนหัวหมุน เธอยังต้องเตรียมสูตรน้ำหอมที่จะต้องใช้ในการแข่งขันระดับนานาชาติ

การทำงานหนักของเธอ คล้ายกับได้ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ยังทำงานในสกุลซู ทุกๆ วันนอกจากทำงาน ทำโอที กินอาหารและเข้านอน เธอก็แทบจะไม่มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นอีก

ป๋อจิ่งชวนเองช่วงนี้ก็ถูกงานรัดตัว แต่แม้จะอยู่ในฐานะประธานสูงสุดของสมาคมสกุลป๋อทั่วทุกมุมโลก ก็ยังยุ่งได้ไม่เท่าเฉินฝานซิง

ตั้งแต่กลับมาจากบริษัทเขาครั้งก่อน แม้ว่าทั้งคู่จะพักอยู่ในคอนโดเดียวกัน แต่โอกาสที่ทั้งสองจะได้เจอหน้ากันช่างร่อยหรอ

ครั้งหนึ่งหลังจากที่ป๋อจิ่งชวนเลิกงานเขาก็ตรงมารอเธอที่ห้องเลย แต่ผลสุดท้าย เขารอเธอจนถึงสี่ทุ่มเธอก็ยังไม่กลับ

แค่คิดอยากจะมาคิดบัญชีกับเธอเสียหน่อย แต่สภาพอ่อนล้าเช่นนั้น กลับทำเอาไฟโทสะของป๋อจิ่งชวนดับวูบลงภายในคืนเดียว

ทำได้เพียงกอดเธอจนหลับไปโดยไม่คิดจะล่วงเกิน

แม้ว่าจะเจอกันได้ตอนกลางคืน แต่ก็กลับให้รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอกันนานเป็นปี!

เมื่อลองคิดอย่างถ้วนถี่ เอาจริงๆ แล้วมันก็เพิ่งจะผ่านไปได้ห้าวันเท่านั้นเอง

และในขณะที่เฉินฝานซิงกำลังวิ่งวุ่นอยู่กับงานทั้งสองทางจนแทบสิ้นใจ แม้แต่เวลาจะอี๋อ๋อกับคนรักก็แทบจะไม่มี…

จู่ๆ เฉินเชียนโหรวก็กลับมาฮอตอีกครั้ง!

ซิงเกิลแรกถูกปล่อยออกสู่สายตาชาวโลก!

ทั้งลิสต์เพลงใหม่ ลิสต์ที่ขึ้นอันดับอย่างรวดเร็ว ลิสต์ยอดนิยม ลิสต์ในประเทศของตามรายการเพลงฮิต ในทุกแพลตฟอร์มดนตรีใหญ่ๆ พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับแรกของทุกรายการภายในเวลาแค่วันเดียว!

เป็นพลังที่รวดเร็วและรุนแรงจนไม่อาจหยุดยั้ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร / 450 ขำพรืด

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร / 450 ขำพรืด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร

ในขณะเดียวกันนั้น ค้อนประธานซึ่งทำหน้าที่พิพากษาว่าท่านประธานสูงสุดเป็นเกย์กำลังเคาะดังปึงปังอยู่ในห้องสนทนาของบริษัทสมาคมสกุลป๋อ

มีทั้งรูปทั้งวีดีโอ!

ท่านประธานแย่งหนุ่มหน้าขาวมาจากอ้อมใจของสาวต่างชาติอย่างโต้งๆ ด้านล่างบริษัท

ประโยคที่ทรงอำนาจและเผด็จการอย่าง ‘เขาเป็นของฉัน’ กลายเป็นวลีรักยอดฮิตในบริษัทตอนนี้

ในที่สุดเทพบุตรสมบัติชาติก็ไม่ได้ถูกสาวต่างชาติหยิบยื่นยาพิษมาให้ มันควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี ทว่าสาวๆ ทั้งบริษัทกลับดูไม่ค่อยจะเบิกบานนัก

“โอย สมัยนี้ถ้าไม่ใช่เพศเดียวกันจะรักกันไม่ได้แล้วรึยังไงกันนะ”

“ผู้ชายดีๆ ก็เป็นเกย์กันหมด ช่างน่าสมเพชบุปผาหยกที่ใครเห็นใครก็รักอย่างฉัน…จนป่านนี้แล้วยังไม่มีแฟนดีๆ กับเขาสักคนเลย”

“เฮ้อ สงสารก็แต่ผู้ช่วยอวี๋ของพวกเรา เจ้าดอกเบญจมาศทิ้งกลีบระทมลงเกลื่อน​พื้น[1] ต้องมาโดนบอสสลัดทิ้งไปแบบนี้…”

“ฉันคงต้องลบ CP การ์ตูนและก็นิยายสิบแปดบวกของท่านประธานและผู้ช่วยอวี๋ทิ้ง ขืนยังอ่านต่อไปตอนนี้คงช้ำใจแย่!”

“เฮ้อ ช่างน่าสงสารจริงๆ เลยน้า ฉันจะเอาของว่างไปให้ผู้ช่วยอวี๋ ถึงจะปลอบโยนดอกเบญจมาศไม่ได้ ก็ปลอบขวัญหัวใจของเขาสักหน่อย…”

“โธ่ ใครว่าปลอบโยนดอกเบญจมาศไม่ได้กันล่ะ ฉันจะเอาน้ำเก๊กฮวยไปให้ผู้ช่วยอวี๋ เขาบอกว่ากินส่วนไหนก็บำรุงส่วนนั้นไม่ใช่เหรอ รอให้ดอกเบญจมาศซ่อมแซมเสร็จแล้ว เขาก็จะกลับมาเป็นเคะที่เพอร์เฟคอีกครั้ง!”

“ฟู่ว จริงเหรอเนี่ย งั้นฉันก็จะสั่งน้ำเก๊กฮวยในเน็ตมาด้วย ว้าว แถมโกจิเบอร์รี่ด้วย งั้นฉันเอาสองชุดเลย!”

“แถมโกจิเบอร์รี่? ส่งต่อมาทางนี้เลย ฉันก็อยากได้บ้างสักชุด ดอกเบญจมาศให้ผู้ช่วยอวี๋ ส่วนโกจิเบอร์รี่ฉันกินเอง!”

“…”

เสียงลือเสียงเล่าอ้างแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ของอวี๋ซงตกน้ำจนเสียไปในขณะที่เยี่ยมชมงาน เขาจึงถือโอกาสในขณะที่ว่างอยู่นั้น รีบออกไปถอยโทรศัพท์เครื่องใหม่พร้อมซิมการ์ด

หลังจากที่กลับถึงบริษัทแล้ว ใครต่อใครก็ต่างมองมายังเขาด้วยสีหน้าเห็นใจและสิ้นหวัง

ก่อนจะผลัดกันเข้ามายื่นขนมให้เขาพร้อมทั้งคำปลอบใจเป็นระยะๆ

มีทั้ง คิดให้ดีๆ นะ ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทรา? ไม่ต้องเศร้านะ อย่าเสียใจไปเลย ตอนจบไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเคยครอบครอง…

ข้อความปลอบโยนชวนสับสนนี้เล่นเอาเขางงเป็นไก่ตาแตก เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานของตัวเอง โต๊ะทำงานของเขาก็มีขนมกองกันอยู่เต็มโต๊ะ พอลองสำรวจดูดีๆ แล้ว ของทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่ช่วยดับร้อนอย่างน้ำเก๊กฮวยและอาจจะมีโกจิเบอร์รี่อยู่บ้างประปราย

“น…นี่มันเรื่องอะไรกัน”

เขามองเพื่อร่วมงานในบริษัทเดียวกับตัวเองหน้าเหวอ แต่ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมงานแต่ล่ะคนก็ส่งสายตาเห็นใจมายังถุงน้ำเก๊กฮวยถุงหนึ่งที่ตั้งอยู่บน ‘ของแทนคำปลอบใจ’ ที่กองกันอยู่บนโต๊ะของเขาเป็นเทือกเขาเหล่ากา

“สู้ๆ! เริ่มต้นใหม่!”

สีหน้าเดิมของอวี๋ซงที่นับว่าเย็นชา บัดนี้ได้กระจุกรวมกันเป็นจีบซาลาเปา!

เขารวบของทุกอย่างลงในกระเช้าของว่าง กอดมันเอาไว้พลางลองเข้าไปดูในห้องสนทนาของบริษัท

ห้องสนทนาปรากฏให้เห็นกระทู้หนึ่งที่ล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก โดยมีหัวข้อกระทู้ว่า…

[เมนูมื้อกลางวันในโรงอาหารวันนี้!]

เมื่อเห็นกระทู้นี้ อวี๋ซงก็รู้ได้ทันทีว่าบริษัทอาจจะมีเรื่องให้ซุบซิบกันอีกแล้ว

ในโรงอาหารบริษัทวันๆ ทำอะไรกันบ้าง คนอื่นสน แต่คุณผู้ชายไม่เคยคิดจะสน!

ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กระทู้เมนูอาหารกลางวันจะถูกเปิดใช้งานอยู่ด้านบนสุด

มีกับข้าวในบริษัทดี นอกจากเรื่องานแล้ว พนักงานในบริษัทก็นึกถึงแต่เรื่องกิน

กดเปิดกระทู้…

เปิดออกมาดูในตอนแรก มันก็เป็นเมนูอาหารเที่ยงจริงๆ

แต่พอดูลงไปเรื่อยกลับเริ่มมีบางอย่างเปลี่ยนไป

จนกระทั่งท้ายที่สุด จู่ๆ ความคิดอยากจะตายก็ผุดเข้ามาในหัว!

ทำไมชีวิตของเขาถึงได้ลำบากยากเข็ญถึงเพียงนี้!

นี่เขายังอยากจะมีแฟนอยู่นะ!

[1] เจ้าดอกเบญจมาศทิ้งกลีบระทมลงเกลื่อน​พื้น เป็นเนื้อร้องท่อนหนึ่งในเพลง ‘菊花台’

ตอนที่ 450 ขำพรืด

เขายังอยากจะมีแฟนอยู่นะ!

ตอนนี้ยังจะมีสาวๆ ในบริษัทคนไหนกล้ารับเขาไว้พิจารณาอีกบ้างเนี่ย!

คุณผู้ชาย คุณทำผมลำบากซะแล้ว!

ความสุขอีกครึ่งชีวิตที่เหลือของผม…

อวี๋ซงน้ำตาตกใน การเข้าใจผิดอันใหญ่หลวงนี้ เขาจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างไร

เขาหันมองเพื่อนร่วมงาน ก่อนยกมือขึ้นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ผมสาบานได้ ว่านอกเหนือจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว ผมกับคุณผู้ชาย เราไม่เคยมีความสัมพันธ์อื่นกันอีก แม้แต่สักนิดก็ไม่มี จิ๊ดเดียวก็ไม่มี!”

“พรืดดด”

“พรืดดด”

กลุ่มเพื่อนร่วมงานขำพรืดกันออกมา!

อวี๋ซง “…”

เฉินฝานซิงเริ่มมีเรื่องให้วุ่นขึ้นมาอีกแล้ว งานบริษัทที่ต้องเตรียมเธอก็เตรียมจนเกือบจะพร้อมแล้ว แต่ปัญหาใหญ่ก็คือศิลปินของเธอน้อยเกินไป

ไม่ใช่ในนามของบริษัทใหญ่อย่างซิงเฉินกั๋วจี้ แต่เมื่อพูดถึงบริษัทโมเดลลิ่งเล็กๆ แล้ว นี่เป็นปัญหาที่น่าขันที่สุด

เป็นบริษัทโมเดลลิ่งแต่กลับไม่มีศิลปิน รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น

คนในบริษัทก็ต่างเสนอทั้งญาติสนิทมิตรสหายของตัวเองกันเข้ามา แต่ก็ใช่ไม่ได้สักคน

ทำเอาเฉินฝานซิงหัวเสียเพราะเรื่องนี้

คำว่า ‘ยอมมีน้อยดีกว่าด้อยคุณภาพ’ เล่นเอาคนทุกแผนกทั้งบริษัทต้องใจสั่นกันไปตามๆ กัน

ทว่าว่าบริษัทก็อยู่ในจุดที่เรียกว่าซบเซามาโดยตลอด ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างก็ทนไม่ไหว จึงพากันร้องขอให้เฉินฝานซิงเปลี่ยนกลับมาเป็นระบบการทำงานแบบเดิม

แน่นอนว่าในบริษัทนี้ไม่อาจจะฟังเสียงของเฉินฝานซิงคนเดียวได้ เพื่อเป็นการปลอบขวัญผู้บริหารระดับสูงทุกคน เฉินฝานซิงจึงยอมถอยลงมาก้าวหนึ่ง

โดยจะรับเพียงโฆษณาจากศิลปินเท่านั้น ไม่ผูกสัมพันธ์และไม่ทำสัญญากับบริษัทอื่นใด

เมื่อเห็นเฉินฝานซิงยอมถอยไปก้าวหนึ่ง ผู้บริหารระดับสูงต่างก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เฉินฝานซิงเองก็คอยกระตุ้นให้เอเจนซี่คนอื่นๆ ในบริษัทมองหาศิลปินที่มีเงื่อนไขน่าสนใจและดูมีอนาคต อีกทั้งยังต้องคอยติดตามรายการเดบิวท์อยู่ตลอดเวลา

ภายใต้ความยุ่งจนหัวหมุน เธอยังต้องเตรียมสูตรน้ำหอมที่จะต้องใช้ในการแข่งขันระดับนานาชาติ

การทำงานหนักของเธอ คล้ายกับได้ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ยังทำงานในสกุลซู ทุกๆ วันนอกจากทำงาน ทำโอที กินอาหารและเข้านอน เธอก็แทบจะไม่มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นอีก

ป๋อจิ่งชวนเองช่วงนี้ก็ถูกงานรัดตัว แต่แม้จะอยู่ในฐานะประธานสูงสุดของสมาคมสกุลป๋อทั่วทุกมุมโลก ก็ยังยุ่งได้ไม่เท่าเฉินฝานซิง

ตั้งแต่กลับมาจากบริษัทเขาครั้งก่อน แม้ว่าทั้งคู่จะพักอยู่ในคอนโดเดียวกัน แต่โอกาสที่ทั้งสองจะได้เจอหน้ากันช่างร่อยหรอ

ครั้งหนึ่งหลังจากที่ป๋อจิ่งชวนเลิกงานเขาก็ตรงมารอเธอที่ห้องเลย แต่ผลสุดท้าย เขารอเธอจนถึงสี่ทุ่มเธอก็ยังไม่กลับ

แค่คิดอยากจะมาคิดบัญชีกับเธอเสียหน่อย แต่สภาพอ่อนล้าเช่นนั้น กลับทำเอาไฟโทสะของป๋อจิ่งชวนดับวูบลงภายในคืนเดียว

ทำได้เพียงกอดเธอจนหลับไปโดยไม่คิดจะล่วงเกิน

แม้ว่าจะเจอกันได้ตอนกลางคืน แต่ก็กลับให้รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอกันนานเป็นปี!

เมื่อลองคิดอย่างถ้วนถี่ เอาจริงๆ แล้วมันก็เพิ่งจะผ่านไปได้ห้าวันเท่านั้นเอง

และในขณะที่เฉินฝานซิงกำลังวิ่งวุ่นอยู่กับงานทั้งสองทางจนแทบสิ้นใจ แม้แต่เวลาจะอี๋อ๋อกับคนรักก็แทบจะไม่มี…

จู่ๆ เฉินเชียนโหรวก็กลับมาฮอตอีกครั้ง!

ซิงเกิลแรกถูกปล่อยออกสู่สายตาชาวโลก!

ทั้งลิสต์เพลงใหม่ ลิสต์ที่ขึ้นอันดับอย่างรวดเร็ว ลิสต์ยอดนิยม ลิสต์ในประเทศของตามรายการเพลงฮิต ในทุกแพลตฟอร์มดนตรีใหญ่ๆ พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับแรกของทุกรายการภายในเวลาแค่วันเดียว!

เป็นพลังที่รวดเร็วและรุนแรงจนไม่อาจหยุดยั้ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร / 450 ขำพรืด

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร / 450 ขำพรืด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร

ในขณะเดียวกันนั้น ค้อนประธานซึ่งทำหน้าที่พิพากษาว่าท่านประธานสูงสุดเป็นเกย์กำลังเคาะดังปึงปังอยู่ในห้องสนทนาของบริษัทสมาคมสกุลป๋อ

มีทั้งรูปทั้งวีดีโอ!

ท่านประธานแย่งหนุ่มหน้าขาวมาจากอ้อมใจของสาวต่างชาติอย่างโต้งๆ ด้านล่างบริษัท

ประโยคที่ทรงอำนาจและเผด็จการอย่าง ‘เขาเป็นของฉัน’ กลายเป็นวลีรักยอดฮิตในบริษัทตอนนี้

ในที่สุดเทพบุตรสมบัติชาติก็ไม่ได้ถูกสาวต่างชาติหยิบยื่นยาพิษมาให้ มันควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี ทว่าสาวๆ ทั้งบริษัทกลับดูไม่ค่อยจะเบิกบานนัก

“โอย สมัยนี้ถ้าไม่ใช่เพศเดียวกันจะรักกันไม่ได้แล้วรึยังไงกันนะ”

“ผู้ชายดีๆ ก็เป็นเกย์กันหมด ช่างน่าสมเพชบุปผาหยกที่ใครเห็นใครก็รักอย่างฉัน…จนป่านนี้แล้วยังไม่มีแฟนดีๆ กับเขาสักคนเลย”

“เฮ้อ สงสารก็แต่ผู้ช่วยอวี๋ของพวกเรา เจ้าดอกเบญจมาศทิ้งกลีบระทมลงเกลื่อน​พื้น[1] ต้องมาโดนบอสสลัดทิ้งไปแบบนี้…”

“ฉันคงต้องลบ CP การ์ตูนและก็นิยายสิบแปดบวกของท่านประธานและผู้ช่วยอวี๋ทิ้ง ขืนยังอ่านต่อไปตอนนี้คงช้ำใจแย่!”

“เฮ้อ ช่างน่าสงสารจริงๆ เลยน้า ฉันจะเอาของว่างไปให้ผู้ช่วยอวี๋ ถึงจะปลอบโยนดอกเบญจมาศไม่ได้ ก็ปลอบขวัญหัวใจของเขาสักหน่อย…”

“โธ่ ใครว่าปลอบโยนดอกเบญจมาศไม่ได้กันล่ะ ฉันจะเอาน้ำเก๊กฮวยไปให้ผู้ช่วยอวี๋ เขาบอกว่ากินส่วนไหนก็บำรุงส่วนนั้นไม่ใช่เหรอ รอให้ดอกเบญจมาศซ่อมแซมเสร็จแล้ว เขาก็จะกลับมาเป็นเคะที่เพอร์เฟคอีกครั้ง!”

“ฟู่ว จริงเหรอเนี่ย งั้นฉันก็จะสั่งน้ำเก๊กฮวยในเน็ตมาด้วย ว้าว แถมโกจิเบอร์รี่ด้วย งั้นฉันเอาสองชุดเลย!”

“แถมโกจิเบอร์รี่? ส่งต่อมาทางนี้เลย ฉันก็อยากได้บ้างสักชุด ดอกเบญจมาศให้ผู้ช่วยอวี๋ ส่วนโกจิเบอร์รี่ฉันกินเอง!”

“…”

เสียงลือเสียงเล่าอ้างแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ของอวี๋ซงตกน้ำจนเสียไปในขณะที่เยี่ยมชมงาน เขาจึงถือโอกาสในขณะที่ว่างอยู่นั้น รีบออกไปถอยโทรศัพท์เครื่องใหม่พร้อมซิมการ์ด

หลังจากที่กลับถึงบริษัทแล้ว ใครต่อใครก็ต่างมองมายังเขาด้วยสีหน้าเห็นใจและสิ้นหวัง

ก่อนจะผลัดกันเข้ามายื่นขนมให้เขาพร้อมทั้งคำปลอบใจเป็นระยะๆ

มีทั้ง คิดให้ดีๆ นะ ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทรา? ไม่ต้องเศร้านะ อย่าเสียใจไปเลย ตอนจบไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเคยครอบครอง…

ข้อความปลอบโยนชวนสับสนนี้เล่นเอาเขางงเป็นไก่ตาแตก เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานของตัวเอง โต๊ะทำงานของเขาก็มีขนมกองกันอยู่เต็มโต๊ะ พอลองสำรวจดูดีๆ แล้ว ของทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่ช่วยดับร้อนอย่างน้ำเก๊กฮวยและอาจจะมีโกจิเบอร์รี่อยู่บ้างประปราย

“น…นี่มันเรื่องอะไรกัน”

เขามองเพื่อร่วมงานในบริษัทเดียวกับตัวเองหน้าเหวอ แต่ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมงานแต่ล่ะคนก็ส่งสายตาเห็นใจมายังถุงน้ำเก๊กฮวยถุงหนึ่งที่ตั้งอยู่บน ‘ของแทนคำปลอบใจ’ ที่กองกันอยู่บนโต๊ะของเขาเป็นเทือกเขาเหล่ากา

“สู้ๆ! เริ่มต้นใหม่!”

สีหน้าเดิมของอวี๋ซงที่นับว่าเย็นชา บัดนี้ได้กระจุกรวมกันเป็นจีบซาลาเปา!

เขารวบของทุกอย่างลงในกระเช้าของว่าง กอดมันเอาไว้พลางลองเข้าไปดูในห้องสนทนาของบริษัท

ห้องสนทนาปรากฏให้เห็นกระทู้หนึ่งที่ล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก โดยมีหัวข้อกระทู้ว่า…

[เมนูมื้อกลางวันในโรงอาหารวันนี้!]

เมื่อเห็นกระทู้นี้ อวี๋ซงก็รู้ได้ทันทีว่าบริษัทอาจจะมีเรื่องให้ซุบซิบกันอีกแล้ว

ในโรงอาหารบริษัทวันๆ ทำอะไรกันบ้าง คนอื่นสน แต่คุณผู้ชายไม่เคยคิดจะสน!

ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กระทู้เมนูอาหารกลางวันจะถูกเปิดใช้งานอยู่ด้านบนสุด

มีกับข้าวในบริษัทดี นอกจากเรื่องานแล้ว พนักงานในบริษัทก็นึกถึงแต่เรื่องกิน

กดเปิดกระทู้…

เปิดออกมาดูในตอนแรก มันก็เป็นเมนูอาหารเที่ยงจริงๆ

แต่พอดูลงไปเรื่อยกลับเริ่มมีบางอย่างเปลี่ยนไป

จนกระทั่งท้ายที่สุด จู่ๆ ความคิดอยากจะตายก็ผุดเข้ามาในหัว!

ทำไมชีวิตของเขาถึงได้ลำบากยากเข็ญถึงเพียงนี้!

นี่เขายังอยากจะมีแฟนอยู่นะ!

[1] เจ้าดอกเบญจมาศทิ้งกลีบระทมลงเกลื่อน​พื้น เป็นเนื้อร้องท่อนหนึ่งในเพลง ‘菊花台’

ตอนที่ 450 ขำพรืด

เขายังอยากจะมีแฟนอยู่นะ!

ตอนนี้ยังจะมีสาวๆ ในบริษัทคนไหนกล้ารับเขาไว้พิจารณาอีกบ้างเนี่ย!

คุณผู้ชาย คุณทำผมลำบากซะแล้ว!

ความสุขอีกครึ่งชีวิตที่เหลือของผม…

อวี๋ซงน้ำตาตกใน การเข้าใจผิดอันใหญ่หลวงนี้ เขาจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างไร

เขาหันมองเพื่อนร่วมงาน ก่อนยกมือขึ้นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ผมสาบานได้ ว่านอกเหนือจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว ผมกับคุณผู้ชาย เราไม่เคยมีความสัมพันธ์อื่นกันอีก แม้แต่สักนิดก็ไม่มี จิ๊ดเดียวก็ไม่มี!”

“พรืดดด”

“พรืดดด”

กลุ่มเพื่อนร่วมงานขำพรืดกันออกมา!

อวี๋ซง “…”

เฉินฝานซิงเริ่มมีเรื่องให้วุ่นขึ้นมาอีกแล้ว งานบริษัทที่ต้องเตรียมเธอก็เตรียมจนเกือบจะพร้อมแล้ว แต่ปัญหาใหญ่ก็คือศิลปินของเธอน้อยเกินไป

ไม่ใช่ในนามของบริษัทใหญ่อย่างซิงเฉินกั๋วจี้ แต่เมื่อพูดถึงบริษัทโมเดลลิ่งเล็กๆ แล้ว นี่เป็นปัญหาที่น่าขันที่สุด

เป็นบริษัทโมเดลลิ่งแต่กลับไม่มีศิลปิน รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น

คนในบริษัทก็ต่างเสนอทั้งญาติสนิทมิตรสหายของตัวเองกันเข้ามา แต่ก็ใช่ไม่ได้สักคน

ทำเอาเฉินฝานซิงหัวเสียเพราะเรื่องนี้

คำว่า ‘ยอมมีน้อยดีกว่าด้อยคุณภาพ’ เล่นเอาคนทุกแผนกทั้งบริษัทต้องใจสั่นกันไปตามๆ กัน

ทว่าว่าบริษัทก็อยู่ในจุดที่เรียกว่าซบเซามาโดยตลอด ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างก็ทนไม่ไหว จึงพากันร้องขอให้เฉินฝานซิงเปลี่ยนกลับมาเป็นระบบการทำงานแบบเดิม

แน่นอนว่าในบริษัทนี้ไม่อาจจะฟังเสียงของเฉินฝานซิงคนเดียวได้ เพื่อเป็นการปลอบขวัญผู้บริหารระดับสูงทุกคน เฉินฝานซิงจึงยอมถอยลงมาก้าวหนึ่ง

โดยจะรับเพียงโฆษณาจากศิลปินเท่านั้น ไม่ผูกสัมพันธ์และไม่ทำสัญญากับบริษัทอื่นใด

เมื่อเห็นเฉินฝานซิงยอมถอยไปก้าวหนึ่ง ผู้บริหารระดับสูงต่างก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เฉินฝานซิงเองก็คอยกระตุ้นให้เอเจนซี่คนอื่นๆ ในบริษัทมองหาศิลปินที่มีเงื่อนไขน่าสนใจและดูมีอนาคต อีกทั้งยังต้องคอยติดตามรายการเดบิวท์อยู่ตลอดเวลา

ภายใต้ความยุ่งจนหัวหมุน เธอยังต้องเตรียมสูตรน้ำหอมที่จะต้องใช้ในการแข่งขันระดับนานาชาติ

การทำงานหนักของเธอ คล้ายกับได้ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ยังทำงานในสกุลซู ทุกๆ วันนอกจากทำงาน ทำโอที กินอาหารและเข้านอน เธอก็แทบจะไม่มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นอีก

ป๋อจิ่งชวนเองช่วงนี้ก็ถูกงานรัดตัว แต่แม้จะอยู่ในฐานะประธานสูงสุดของสมาคมสกุลป๋อทั่วทุกมุมโลก ก็ยังยุ่งได้ไม่เท่าเฉินฝานซิง

ตั้งแต่กลับมาจากบริษัทเขาครั้งก่อน แม้ว่าทั้งคู่จะพักอยู่ในคอนโดเดียวกัน แต่โอกาสที่ทั้งสองจะได้เจอหน้ากันช่างร่อยหรอ

ครั้งหนึ่งหลังจากที่ป๋อจิ่งชวนเลิกงานเขาก็ตรงมารอเธอที่ห้องเลย แต่ผลสุดท้าย เขารอเธอจนถึงสี่ทุ่มเธอก็ยังไม่กลับ

แค่คิดอยากจะมาคิดบัญชีกับเธอเสียหน่อย แต่สภาพอ่อนล้าเช่นนั้น กลับทำเอาไฟโทสะของป๋อจิ่งชวนดับวูบลงภายในคืนเดียว

ทำได้เพียงกอดเธอจนหลับไปโดยไม่คิดจะล่วงเกิน

แม้ว่าจะเจอกันได้ตอนกลางคืน แต่ก็กลับให้รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอกันนานเป็นปี!

เมื่อลองคิดอย่างถ้วนถี่ เอาจริงๆ แล้วมันก็เพิ่งจะผ่านไปได้ห้าวันเท่านั้นเอง

และในขณะที่เฉินฝานซิงกำลังวิ่งวุ่นอยู่กับงานทั้งสองทางจนแทบสิ้นใจ แม้แต่เวลาจะอี๋อ๋อกับคนรักก็แทบจะไม่มี…

จู่ๆ เฉินเชียนโหรวก็กลับมาฮอตอีกครั้ง!

ซิงเกิลแรกถูกปล่อยออกสู่สายตาชาวโลก!

ทั้งลิสต์เพลงใหม่ ลิสต์ที่ขึ้นอันดับอย่างรวดเร็ว ลิสต์ยอดนิยม ลิสต์ในประเทศของตามรายการเพลงฮิต ในทุกแพลตฟอร์มดนตรีใหญ่ๆ พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับแรกของทุกรายการภายในเวลาแค่วันเดียว!

เป็นพลังที่รวดเร็วและรุนแรงจนไม่อาจหยุดยั้ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร / 450 ขำพรืด

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร / 450 ขำพรืด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 449 ผู้ช่วยอวี๋ที่น่าสงสาร

ในขณะเดียวกันนั้น ค้อนประธานซึ่งทำหน้าที่พิพากษาว่าท่านประธานสูงสุดเป็นเกย์กำลังเคาะดังปึงปังอยู่ในห้องสนทนาของบริษัทสมาคมสกุลป๋อ

มีทั้งรูปทั้งวีดีโอ!

ท่านประธานแย่งหนุ่มหน้าขาวมาจากอ้อมใจของสาวต่างชาติอย่างโต้งๆ ด้านล่างบริษัท

ประโยคที่ทรงอำนาจและเผด็จการอย่าง ‘เขาเป็นของฉัน’ กลายเป็นวลีรักยอดฮิตในบริษัทตอนนี้

ในที่สุดเทพบุตรสมบัติชาติก็ไม่ได้ถูกสาวต่างชาติหยิบยื่นยาพิษมาให้ มันควรจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี ทว่าสาวๆ ทั้งบริษัทกลับดูไม่ค่อยจะเบิกบานนัก

“โอย สมัยนี้ถ้าไม่ใช่เพศเดียวกันจะรักกันไม่ได้แล้วรึยังไงกันนะ”

“ผู้ชายดีๆ ก็เป็นเกย์กันหมด ช่างน่าสมเพชบุปผาหยกที่ใครเห็นใครก็รักอย่างฉัน…จนป่านนี้แล้วยังไม่มีแฟนดีๆ กับเขาสักคนเลย”

“เฮ้อ สงสารก็แต่ผู้ช่วยอวี๋ของพวกเรา เจ้าดอกเบญจมาศทิ้งกลีบระทมลงเกลื่อน​พื้น[1] ต้องมาโดนบอสสลัดทิ้งไปแบบนี้…”

“ฉันคงต้องลบ CP การ์ตูนและก็นิยายสิบแปดบวกของท่านประธานและผู้ช่วยอวี๋ทิ้ง ขืนยังอ่านต่อไปตอนนี้คงช้ำใจแย่!”

“เฮ้อ ช่างน่าสงสารจริงๆ เลยน้า ฉันจะเอาของว่างไปให้ผู้ช่วยอวี๋ ถึงจะปลอบโยนดอกเบญจมาศไม่ได้ ก็ปลอบขวัญหัวใจของเขาสักหน่อย…”

“โธ่ ใครว่าปลอบโยนดอกเบญจมาศไม่ได้กันล่ะ ฉันจะเอาน้ำเก๊กฮวยไปให้ผู้ช่วยอวี๋ เขาบอกว่ากินส่วนไหนก็บำรุงส่วนนั้นไม่ใช่เหรอ รอให้ดอกเบญจมาศซ่อมแซมเสร็จแล้ว เขาก็จะกลับมาเป็นเคะที่เพอร์เฟคอีกครั้ง!”

“ฟู่ว จริงเหรอเนี่ย งั้นฉันก็จะสั่งน้ำเก๊กฮวยในเน็ตมาด้วย ว้าว แถมโกจิเบอร์รี่ด้วย งั้นฉันเอาสองชุดเลย!”

“แถมโกจิเบอร์รี่? ส่งต่อมาทางนี้เลย ฉันก็อยากได้บ้างสักชุด ดอกเบญจมาศให้ผู้ช่วยอวี๋ ส่วนโกจิเบอร์รี่ฉันกินเอง!”

“…”

เสียงลือเสียงเล่าอ้างแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ของอวี๋ซงตกน้ำจนเสียไปในขณะที่เยี่ยมชมงาน เขาจึงถือโอกาสในขณะที่ว่างอยู่นั้น รีบออกไปถอยโทรศัพท์เครื่องใหม่พร้อมซิมการ์ด

หลังจากที่กลับถึงบริษัทแล้ว ใครต่อใครก็ต่างมองมายังเขาด้วยสีหน้าเห็นใจและสิ้นหวัง

ก่อนจะผลัดกันเข้ามายื่นขนมให้เขาพร้อมทั้งคำปลอบใจเป็นระยะๆ

มีทั้ง คิดให้ดีๆ นะ ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทรา? ไม่ต้องเศร้านะ อย่าเสียใจไปเลย ตอนจบไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเคยครอบครอง…

ข้อความปลอบโยนชวนสับสนนี้เล่นเอาเขางงเป็นไก่ตาแตก เมื่อกลับมาถึงห้องทำงานของตัวเอง โต๊ะทำงานของเขาก็มีขนมกองกันอยู่เต็มโต๊ะ พอลองสำรวจดูดีๆ แล้ว ของทั้งหมดล้วนแต่เป็นสิ่งที่ช่วยดับร้อนอย่างน้ำเก๊กฮวยและอาจจะมีโกจิเบอร์รี่อยู่บ้างประปราย

“น…นี่มันเรื่องอะไรกัน”

เขามองเพื่อร่วมงานในบริษัทเดียวกับตัวเองหน้าเหวอ แต่ขณะเดียวกันเพื่อนร่วมงานแต่ล่ะคนก็ส่งสายตาเห็นใจมายังถุงน้ำเก๊กฮวยถุงหนึ่งที่ตั้งอยู่บน ‘ของแทนคำปลอบใจ’ ที่กองกันอยู่บนโต๊ะของเขาเป็นเทือกเขาเหล่ากา

“สู้ๆ! เริ่มต้นใหม่!”

สีหน้าเดิมของอวี๋ซงที่นับว่าเย็นชา บัดนี้ได้กระจุกรวมกันเป็นจีบซาลาเปา!

เขารวบของทุกอย่างลงในกระเช้าของว่าง กอดมันเอาไว้พลางลองเข้าไปดูในห้องสนทนาของบริษัท

ห้องสนทนาปรากฏให้เห็นกระทู้หนึ่งที่ล่อตาล่อใจเป็นอย่างมาก โดยมีหัวข้อกระทู้ว่า…

[เมนูมื้อกลางวันในโรงอาหารวันนี้!]

เมื่อเห็นกระทู้นี้ อวี๋ซงก็รู้ได้ทันทีว่าบริษัทอาจจะมีเรื่องให้ซุบซิบกันอีกแล้ว

ในโรงอาหารบริษัทวันๆ ทำอะไรกันบ้าง คนอื่นสน แต่คุณผู้ชายไม่เคยคิดจะสน!

ยิ่งไปกว่านั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่กระทู้เมนูอาหารกลางวันจะถูกเปิดใช้งานอยู่ด้านบนสุด

มีกับข้าวในบริษัทดี นอกจากเรื่องานแล้ว พนักงานในบริษัทก็นึกถึงแต่เรื่องกิน

กดเปิดกระทู้…

เปิดออกมาดูในตอนแรก มันก็เป็นเมนูอาหารเที่ยงจริงๆ

แต่พอดูลงไปเรื่อยกลับเริ่มมีบางอย่างเปลี่ยนไป

จนกระทั่งท้ายที่สุด จู่ๆ ความคิดอยากจะตายก็ผุดเข้ามาในหัว!

ทำไมชีวิตของเขาถึงได้ลำบากยากเข็ญถึงเพียงนี้!

นี่เขายังอยากจะมีแฟนอยู่นะ!

[1] เจ้าดอกเบญจมาศทิ้งกลีบระทมลงเกลื่อน​พื้น เป็นเนื้อร้องท่อนหนึ่งในเพลง ‘菊花台’

ตอนที่ 450 ขำพรืด

เขายังอยากจะมีแฟนอยู่นะ!

ตอนนี้ยังจะมีสาวๆ ในบริษัทคนไหนกล้ารับเขาไว้พิจารณาอีกบ้างเนี่ย!

คุณผู้ชาย คุณทำผมลำบากซะแล้ว!

ความสุขอีกครึ่งชีวิตที่เหลือของผม…

อวี๋ซงน้ำตาตกใน การเข้าใจผิดอันใหญ่หลวงนี้ เขาจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้อย่างไร

เขาหันมองเพื่อนร่วมงาน ก่อนยกมือขึ้นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ผมสาบานได้ ว่านอกเหนือจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาแล้ว ผมกับคุณผู้ชาย เราไม่เคยมีความสัมพันธ์อื่นกันอีก แม้แต่สักนิดก็ไม่มี จิ๊ดเดียวก็ไม่มี!”

“พรืดดด”

“พรืดดด”

กลุ่มเพื่อนร่วมงานขำพรืดกันออกมา!

อวี๋ซง “…”

เฉินฝานซิงเริ่มมีเรื่องให้วุ่นขึ้นมาอีกแล้ว งานบริษัทที่ต้องเตรียมเธอก็เตรียมจนเกือบจะพร้อมแล้ว แต่ปัญหาใหญ่ก็คือศิลปินของเธอน้อยเกินไป

ไม่ใช่ในนามของบริษัทใหญ่อย่างซิงเฉินกั๋วจี้ แต่เมื่อพูดถึงบริษัทโมเดลลิ่งเล็กๆ แล้ว นี่เป็นปัญหาที่น่าขันที่สุด

เป็นบริษัทโมเดลลิ่งแต่กลับไม่มีศิลปิน รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น

คนในบริษัทก็ต่างเสนอทั้งญาติสนิทมิตรสหายของตัวเองกันเข้ามา แต่ก็ใช่ไม่ได้สักคน

ทำเอาเฉินฝานซิงหัวเสียเพราะเรื่องนี้

คำว่า ‘ยอมมีน้อยดีกว่าด้อยคุณภาพ’ เล่นเอาคนทุกแผนกทั้งบริษัทต้องใจสั่นกันไปตามๆ กัน

ทว่าว่าบริษัทก็อยู่ในจุดที่เรียกว่าซบเซามาโดยตลอด ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างก็ทนไม่ไหว จึงพากันร้องขอให้เฉินฝานซิงเปลี่ยนกลับมาเป็นระบบการทำงานแบบเดิม

แน่นอนว่าในบริษัทนี้ไม่อาจจะฟังเสียงของเฉินฝานซิงคนเดียวได้ เพื่อเป็นการปลอบขวัญผู้บริหารระดับสูงทุกคน เฉินฝานซิงจึงยอมถอยลงมาก้าวหนึ่ง

โดยจะรับเพียงโฆษณาจากศิลปินเท่านั้น ไม่ผูกสัมพันธ์และไม่ทำสัญญากับบริษัทอื่นใด

เมื่อเห็นเฉินฝานซิงยอมถอยไปก้าวหนึ่ง ผู้บริหารระดับสูงต่างก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก

เฉินฝานซิงเองก็คอยกระตุ้นให้เอเจนซี่คนอื่นๆ ในบริษัทมองหาศิลปินที่มีเงื่อนไขน่าสนใจและดูมีอนาคต อีกทั้งยังต้องคอยติดตามรายการเดบิวท์อยู่ตลอดเวลา

ภายใต้ความยุ่งจนหัวหมุน เธอยังต้องเตรียมสูตรน้ำหอมที่จะต้องใช้ในการแข่งขันระดับนานาชาติ

การทำงานหนักของเธอ คล้ายกับได้ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ยังทำงานในสกุลซู ทุกๆ วันนอกจากทำงาน ทำโอที กินอาหารและเข้านอน เธอก็แทบจะไม่มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นอีก

ป๋อจิ่งชวนเองช่วงนี้ก็ถูกงานรัดตัว แต่แม้จะอยู่ในฐานะประธานสูงสุดของสมาคมสกุลป๋อทั่วทุกมุมโลก ก็ยังยุ่งได้ไม่เท่าเฉินฝานซิง

ตั้งแต่กลับมาจากบริษัทเขาครั้งก่อน แม้ว่าทั้งคู่จะพักอยู่ในคอนโดเดียวกัน แต่โอกาสที่ทั้งสองจะได้เจอหน้ากันช่างร่อยหรอ

ครั้งหนึ่งหลังจากที่ป๋อจิ่งชวนเลิกงานเขาก็ตรงมารอเธอที่ห้องเลย แต่ผลสุดท้าย เขารอเธอจนถึงสี่ทุ่มเธอก็ยังไม่กลับ

แค่คิดอยากจะมาคิดบัญชีกับเธอเสียหน่อย แต่สภาพอ่อนล้าเช่นนั้น กลับทำเอาไฟโทสะของป๋อจิ่งชวนดับวูบลงภายในคืนเดียว

ทำได้เพียงกอดเธอจนหลับไปโดยไม่คิดจะล่วงเกิน

แม้ว่าจะเจอกันได้ตอนกลางคืน แต่ก็กลับให้รู้สึกเหมือนไม่ได้เจอกันนานเป็นปี!

เมื่อลองคิดอย่างถ้วนถี่ เอาจริงๆ แล้วมันก็เพิ่งจะผ่านไปได้ห้าวันเท่านั้นเอง

และในขณะที่เฉินฝานซิงกำลังวิ่งวุ่นอยู่กับงานทั้งสองทางจนแทบสิ้นใจ แม้แต่เวลาจะอี๋อ๋อกับคนรักก็แทบจะไม่มี…

จู่ๆ เฉินเชียนโหรวก็กลับมาฮอตอีกครั้ง!

ซิงเกิลแรกถูกปล่อยออกสู่สายตาชาวโลก!

ทั้งลิสต์เพลงใหม่ ลิสต์ที่ขึ้นอันดับอย่างรวดเร็ว ลิสต์ยอดนิยม ลิสต์ในประเทศของตามรายการเพลงฮิต ในทุกแพลตฟอร์มดนตรีใหญ่ๆ พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับแรกของทุกรายการภายในเวลาแค่วันเดียว!

เป็นพลังที่รวดเร็วและรุนแรงจนไม่อาจหยุดยั้ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+