ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 279 คืนนี้เราฮิตดื่มนมกัน / 280 เขายังกินอาหารสุนัขได้อีกสักมื้อ

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 279 คืนนี้เราฮิตดื่มนมกัน / 280 เขายังกินอาหารสุนัขได้อีกสักมื้อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 279 คืนนี้เราฮิตดื่มนมกัน  

 

 

เฉินฝานซิงพยักหน้ารับอย่างเรียบเฉย “คุณชายอินเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้”  

 

 

คิ้วสีหมึกขมวดเข้าหากัน ความขุ่นมัวก่อเกิดขึ้นในแววตาขอเขา “ผู้มีพระคุณอะไร”  

 

 

อีกด้านหนึ่ง ลี่ถิงเซินได้มองมายังป๋อจิ่งชวนด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ก่อนจะยกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยว่า “หรือว่าผู้หญิงที่ตกน้ำจากดาดฟ้าเรือในวันนั้นคือเธอเหรอ”  

 

 

สายตาของป๋อจิ่งชวนเคลื่อนไปหยุดที่ลี่ถิงเซิน  

 

 

ก้านบุหรี่ในมือมอดไปเกือบครึ่ง ระหว่างนั้นเขาไม่ได้สูบอีก ทว่ากลับลุกขึ้นขยี้บุหรี่ลงกับโต๊ะก่อนจะยกยิ้มขึ้นสามส่วน แล้วเอ่ยอย่างเป็นธรรมชาติว่า  

 

 

“เดือนก่อนรุ่ยเจวี๋ยช่วยชีวิตผู้หญิงที่ว่ายน้ำไม่เป็นไว้ได้คนหนึ่ง ได้ยินมาว่าตอนนั้นเธออาการน่าเป็นห่วงมาก น่าเป็นห่วงจนถึงขั้นต้องผายปอด”  

 

 

ฝายปอด…  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเกร็งไปทั้งแผ่นหลัง ลมทมิฬแผดเสียงหวีดหวิวพัดผ่านเข้ามา  

 

 

เฉินฝานซิงเองก็รับรู้ได้ถึงไอเย็นของอากาศที่เข้ามาสัมผัสตัวเธอ ก่อนจะหันหน้ามองชายหนุ่ม  

 

 

ใบหน้าของเขาราวกับน้ำค้างแข็งที่เย็นเยียบดังโลหะ  

 

 

ห้องวีไอพีกลายเป็นอุโมงค์น้ำแข็งไปในชั่วพริบตา ทำเอาทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตัวเกร็งกันไปตามๆ กัน  

 

 

เฉินฝานซิงเม้มปากเข้าหากันก่อนที่ริมผีปากบางจะโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “เขาช่วยฉันไว้นะ ทำไมทำหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเขาอย่างนั้นล่ะ ฉันควรต้องขอบคุณเขา”  

 

 

“ขอบคุณ?”  

 

 

สีหน้าของป๋อจิ่งชวนดูไม่ค่อยดีนัก แฟนเขาถูกแต๊ะอั๋งแบบนี้ เขายังต้องขอบคุณอีกเหรอ  

 

 

“ได้ ผมจะขอบคุณเขาก่อน”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมาเสียดื้อๆ  

 

 

รู้จักกับพี่ป๋อมานานขนาดนี้ ทำไม่เขาจะฟังไม่ออกว่าป๋อจิ่งชวนหมายความว่าอย่างไร  

 

 

นี่มันเป็นการเจรจากันก่อนจะเปิดศึกชัดๆ  

 

 

เขารีบส่ายหน้าอย่างร้อนใจ “ไม่ๆ พี่ป๋อ ผมไม่ได้…”   

 

 

“ไม่ได้อะไร?”  

 

 

“คนที่ผายปอดให้พี่สะใภ้ตอนนั้นไม่ใช่ผม ผมก็แค่โดดลงไปช่วยเธอขึ้นมา ตอนนั้นมันฉุกละหุกมาก อันที่จริงผมก็กะจะผายปอดให้เธออยู่เหมือนกัน แต่สวี่ชิงจือที่อยู่ข้างๆ เธอทำ เธอเป็นคนทำ!”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยว่าพลางลุกขึ้นมานั่งข้างๆ  

 

 

พาตัวเองให้ห่างออกมาจากเฉินฝานซิง  

 

 

เขาดูออกว่าตอนนี้พี่ป๋อของเขากำลังเอาจริง!  

 

 

ได้ฟังอินรุ่ยเจวี๋ยเอ่ยเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็ค่อยดูอ่อนลง  

 

 

จากนั้นเขาก็ได้หันไปมองเฉินฝานซิงแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นชา “จริงเหรอ”  

 

 

เธอไหวไหล่แล้วตอบไปว่า “ไม่รู้สิ ก็ตอนนั้นฉันไม่รู้สึกตัว”  

 

 

สีหน้าของป๋อจ่งชวนเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเก่า  

 

 

หัวของอินรุ่ยเจวี๋ยแทบระเบิดอยู่แล้ว “ไม่ใช่ผม ยังไงก็ไม่ใช่ผม สวี่ชิงจือไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยรึไง ไม่ใช่ผมจริงๆ นะ ไม่เชื่อจะถามเธอตอนนี้เลยก็ได้นะ!”  

 

 

เฉินฝานซิงพยักหน้าพลางครุ่นคิด “พอคุณพูดแบบนั้นแล้ว เหมือนฉันจะจำได้ว่าตอนที่เพิ่งจะลืมตาขึ้นมา ฉันเหมือนจะเห็นหน้าของชิงจือ…”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ “คุณจำไม่ผิดแน่! เป็นเธอจริงๆ!”  

 

 

ป๋อจิ่งชวนมองเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงขุ่น “สวี่ชิงจือก็ไม่ได้”  

 

 

“…”  

 

 

“…”  

 

 

“…”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมาพุดเดิ้ลที่เพิ่งจะได้พบโลกใหม่อย่างไรอย่างนั้น  

 

 

กว่าจะรอดชีวิตมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ แต่กลับต้องมาเกือบตายเพราะกระอักน้ำส้มสายชู!  

 

 

พี่ป๋อของเขา กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วเหรอ?  

 

 

ประตูใหญ่แห่งโลกใบใหม่ถูกเปิดออกในค่ำคืนนี้ อีกทั้งเขาก็รับรู้ได้ในเวลาเดียวกันว่า โลกใบใหม่ใบนี้ไม่ใช่จะเข้าไปยุ่งได้ง่ายๆ!  

 

 

“เอาละ บุญคุณที่คุณชายอินได้ช่วยฉันเอาไว้ควรได้รับการตอบแทน ฉันดื่มให้คุณแก้วหนึ่งค่ะ”  

 

 

เธอว่าพลาง กวาดตาไปมองแก้วเปล่าที่ว่างอยู่บนโต๊ะชาและคิดจะหยิบมันขึ้นมา ทว่าน้ำนมสีขาวกลับค่อยๆ ถูกเทลงในแก้วสีใสใบนั้น  

 

 

ป๋อจิ่งชวนนำกล่องนมวางไว้อีกทาง ก่อนจะลงมือหยิบแก้วใบนั้นยื่นให้เธอด้วยตัวเอง  

 

 

“ตอบแทนสิ”  

 

 

เฉินฝานซิงขัดเขินเล็กน้อย “นี่มันดูไม่ค่อยจริงใจเลยไม่ใช่เหรอ”  

 

 

ป๋อจิ่งชวนกวาดตามองอินรุ่ยเจวี๋ยอย่างเยือกเย็นวูบหนึ่ง อินรุ่ยเจวี๋ยจึงรีบตอบขึ้นทันที “ไม่เลยๆ คืนนี้เราฮิตดื่มนมกัน! นมนี่แหละจริงใจสุดๆ แล้ว!”  

 

 

   

 

 

ตอนที่ 280 เขายังกินอาหารสุนัขได้อีกสักมื้อ  

 

 

สิ้นคำของอินรุ่ยเจวี๋ย เสียงดังจ๊อกๆ จ๊อกๆ ก็แว่วขึ้น เครื่องดื่มมึนเมาในแก้วของทุกคนกลายเป็นสีขาวน้ำนม  

 

 

กลิ่นหอมของนมได้ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องกว้าง  

 

 

เฉินฝานซิงรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาจงใจทำเช่นนั้น เธออดขำเสียงทุ้มออกมาไม่ได้  

 

 

คนพวกนี้…  

 

 

เธอยังนึกอยู่เลยว่าเพื่อนๆ ของป๋อจิ่งชวนจะสุขุมกันแค่ไหน  

 

 

นึกไม่ถึงเลยว่าจะน่าสนใจได้ขนาดนี้  

 

 

“ยังไงก็นะ พระคุณครั้งนี้ ฉันซึ้งใจสุดๆ”  

 

 

“ได้ช่วยว่าที่พี่สะใภ้ไว้ ถือเป็นเกียรติมากครับ”  

 

 

แก้วทั้งสองกระทบกันเกิดเสียงดัง  กริ๊ก  น้ำนมสีขาวกลิ้งกลอกไปทั่วขอบแก้ว  

 

 

มือทั้งสองข้างของอินรุ่ยเจวี๋ยถือแก้วนมพลางมองลงไปยังของเหลวที่อยู่ในแก้วแล้วกระดกกลืนมันลงไปอึกหนึ่ง  

 

 

เขาช่างไม่เข้าใจโลกของผู้ใหญ่เอาซะเลย  

 

 

เขาตีหน้าเซ็งราวกับปลงชีวิตก่อนจะเงยหน้ากระดกนมทุกหยดในแก้วนั้นลงท้องไป  

 

 

เฉินฝานซิงเองก็ดื่มมันลงไปจนไม่เหลือซักหยด เพื่อแสดงถึงความซาบซึ้งในพระคุณของตนอย่างเต็มที่  

 

 

“ทดแทนเสร็จแล้ว?”  

 

 

ในตอนนั้น เสียงเย็นของป๋อจิ่งชวนก็ดังขึ้น ทำเอาอินรุ่ยเจวี๋ยคอหดตัวเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง  

 

 

นี่…อย่าบอกนะว่าพี่ป๋อยังไม่ปล่อยเขาไป  

 

 

เขามองอีกฝ่ายหนึ่งหน้าตาตื่น “พ…พี่ป๋อ ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องทดทงทดแทนอะไรทั้งนั้น ได้ช่วยชีวิตพี่สะใภ้เอาไว้นับเป็นโชคดีในชีวิตผมแล้วครับ!”  

 

 

“เหรอ”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยรีบพยักหน้าตอบหงึกหงัก “ใช่ๆ จริงแท้และแน่นอนครับ!”   

 

 

สายตาของป๋อจิ่งชวนค่อยๆ เบนไปหยุดที่ริมฝีปากของเฉินฝานซิง ก่อนยกมือขึ้นเช็ดคราบนมที่ติดอยู่บนริมฝีปากแผ่วเบา  

 

 

การกระทำที่เรียบง่าย กลับกลายเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอในค่ำคืนนี้ แม้เธอจะอยู่ในสถานการณ์ที่มีผู้คนมากมายเช่นนี้ ก็ไม่อาจควบคุมใบหน้าไม่ให้เห่อร้อนขึ้นมาได้  

 

 

เห็นเธอมีท่าทีเหนียมอายเช่นนี้ ริมฝีปากของป๋อจิ่งชวนก็ได้ยกยิ้มขึ้นอย่างเปิดเผย  

 

 

นี่พี่ป๋อเขา…ยิ้มงั้นเหรอ  

 

 

จู่ๆ ใบหน้าที่เป็นดั่งธารน้ำแข็งพันปี บัดนี้ได้มีบัวหิมะผุดออกมาแล้ว?  

 

 

จู่ๆ อินรุ่ยเจวี๋ยที่อยู่ใกล้ทั้งคู่มากที่สุดก็ถูกอาหารสุนัขยัดเข้าปากไปเต็มๆ คำ โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว  

 

 

“เออะ…”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเผลอระเบิดเสียงเรอออกมาอย่างห้ามไม่ได้  

 

 

แม่งเอ๊ย!  

 

 

กลิ่นนมคลุ้งไปทั้งปากเลย!  

 

 

จู่ๆ รอยยิ้มกริ่มบนดวงตาของป๋อจิ่งชวนก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งก่อนจะตวัดไปมองอินรุ่ยเจวี๋ย  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยยกมือขึ้นอุดปากตัวเองเอาไว้ ก่อนที่เขาจะขำเจื่อนๆ ให้ป๋อจิ่งชวน  

 

 

เวรกรรม นี่คงเป็นเพราะเขาดื่มนมเร็วเกินไป  

 

 

ไม่ใช่เพราะอิ่มอาหารสุนัข!  

 

 

แค่ไม่ให้เขาดื่มนมเพิ่มอีก เขาก็คิดว่าตัวเองยังกินอาหารสุนัข[1]นี้ได้อีกสักมื้อ!  

 

 

“พี่สะใภ้ ผมดื่มให้พี่แก้วนึง ของผมหมดแก้ว ส่วนพี่ตามอัธยาศัยก็พอ”  

 

 

“พี่สะใภ้ ผมดื่มให้พี่ ผมหมดแก้ว เชิญพี่ดื่มตามอัธยาศัย…”  

 

 

“พี่สะใภ้…เชิญดื่มตามอัธยาศัยครับ…”  

 

 

คนในห้องนั้นที่ไม่ได้สนิทสนมกับเฉินฝานซิงก็ได้ทยอยกันเข้ามาดื่มให้เกียรติกับเธอไม่ขาดสาย ต่างก็ไม่ได้ขอให้เธอดื่มจนหมดแก้ว เธอเองก็ไม่ได้เคร่งอีกต่อไป ทุกๆ ครั้งเธอจึงทำเพียงแค่จิบพอเป็นมารยาทเท่านั้น  

 

 

แต่พวกเขาก็ยังคงดีใจกันยกใหญ่ เพราะถึงยังไง ‘เหล้า’ ที่พวกเขาดื่มให้ก็มีเสียงตอบรับกลับมาทุกครั้ง!  

 

 

“มาๆ มา วันนี้เป็นวันดี ไม่เมา เอ่อ…ไม่อืดไม่กลับ”  

 

 

ไม่อืดไม่กลับทวดแกสิ!  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยอยากจะถีบไอ้คนที่พูดคำนั้นให้สักป้าบ!  

 

 

ไอ้พวกเฒ่าทารกนี่จะดื่มนมกันจนหัวราน้ำเลยรึไง  

 

 

เขาหันไปมองลี่ถิงเซินที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอีกฝั่ง เขาคิดว่าหมอนั่นคงไม่เห็นดีเห็นงามไปกับพี่ป๋อด้วย  

 

 

แต่งามไส้เอ๊ย ตรงหน้าของเหลียงซู่เอ๋อร์กับหมอนั่นดันมีแก้วนมสีขาวจั๊วะตั้งอยู่จริงๆ  

 

 

“นายดื่มแล้ว?” เขาถามลี่ถิงเซิน  

 

 

“ทำไมจะไม่ดื่ม” ลี่ถิงเซินทำหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ก่อนจะลดสายตาลงไปมองแก้วเหล้าบนโต๊ะ  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยจินตนาการภาพลี่ถิงเซินดื่มนมไม่ออกเลยจริงๆ เขาก้าวเข้าไปใกล้ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า “นายก็เตือนๆ พี่ป๋อแกบ้าง มีอย่างที่ไหนมาที่แบบนี้จะให้ดื่มแค่นมอย่างเดียว เดี๋ยวตอนคิดเงินมีหวังได้อายเขาตาย!”  

 

 

“ฉันว่าก็ไม่เลวนะ นม…มีประโยชน์ แถมยังประหยัดอีกต่างหาก”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยกัดฟันกรอด  

 

 

คำว่า ‘ประหยัด’ สองคำที่หลุดออกมาจากปากเขามันฟังดูปลอมซะยิ่งกว่าปลอม!  

 

 

ทีตอนที่ผลาญเงินให้ผู้หญิงที่นั่งข้างๆ นั่นเขาเคยเห็นค่าของเงินซะที่ไหน  

 

 

“นายจะขัดใจฉันให้ได้ทุกครั้งเลยใช่ไหม ต่อให้พี่ป๋อจะก่อเรื่องยังไงนายก็ไม่สน นายเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกคน?”  

 

 

ลี่ถิงเซินค่อยๆ เบนสายตาไปมองเขาช้าๆ น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นเย็นชายิ่งกว่าครั้งไหนๆ  

 

 

“นายว่าไงนะ พี่ป๋อก่อเรื่อง? แล้วอะไรต่อนะ ประโยคหลังฉันฟังไม่ค่อยถนัด”  

 

 

   

 

 

 

 

 

[1] กินอาหารสุนัข หมายถึงการเห็นคู่รักสวีทกันต่อหน้า  

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 279 คืนนี้เราฮิตดื่มนมกัน / 280 เขายังกินอาหารสุนัขได้อีกสักมื้อ

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 279 คืนนี้เราฮิตดื่มนมกัน / 280 เขายังกินอาหารสุนัขได้อีกสักมื้อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 279 คืนนี้เราฮิตดื่มนมกัน  

 

 

เฉินฝานซิงพยักหน้ารับอย่างเรียบเฉย “คุณชายอินเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้”  

 

 

คิ้วสีหมึกขมวดเข้าหากัน ความขุ่นมัวก่อเกิดขึ้นในแววตาขอเขา “ผู้มีพระคุณอะไร”  

 

 

อีกด้านหนึ่ง ลี่ถิงเซินได้มองมายังป๋อจิ่งชวนด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ก่อนจะยกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยว่า “หรือว่าผู้หญิงที่ตกน้ำจากดาดฟ้าเรือในวันนั้นคือเธอเหรอ”  

 

 

สายตาของป๋อจิ่งชวนเคลื่อนไปหยุดที่ลี่ถิงเซิน  

 

 

ก้านบุหรี่ในมือมอดไปเกือบครึ่ง ระหว่างนั้นเขาไม่ได้สูบอีก ทว่ากลับลุกขึ้นขยี้บุหรี่ลงกับโต๊ะก่อนจะยกยิ้มขึ้นสามส่วน แล้วเอ่ยอย่างเป็นธรรมชาติว่า  

 

 

“เดือนก่อนรุ่ยเจวี๋ยช่วยชีวิตผู้หญิงที่ว่ายน้ำไม่เป็นไว้ได้คนหนึ่ง ได้ยินมาว่าตอนนั้นเธออาการน่าเป็นห่วงมาก น่าเป็นห่วงจนถึงขั้นต้องผายปอด”  

 

 

ฝายปอด…  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเกร็งไปทั้งแผ่นหลัง ลมทมิฬแผดเสียงหวีดหวิวพัดผ่านเข้ามา  

 

 

เฉินฝานซิงเองก็รับรู้ได้ถึงไอเย็นของอากาศที่เข้ามาสัมผัสตัวเธอ ก่อนจะหันหน้ามองชายหนุ่ม  

 

 

ใบหน้าของเขาราวกับน้ำค้างแข็งที่เย็นเยียบดังโลหะ  

 

 

ห้องวีไอพีกลายเป็นอุโมงค์น้ำแข็งไปในชั่วพริบตา ทำเอาทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตัวเกร็งกันไปตามๆ กัน  

 

 

เฉินฝานซิงเม้มปากเข้าหากันก่อนที่ริมผีปากบางจะโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “เขาช่วยฉันไว้นะ ทำไมทำหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเขาอย่างนั้นล่ะ ฉันควรต้องขอบคุณเขา”  

 

 

“ขอบคุณ?”  

 

 

สีหน้าของป๋อจิ่งชวนดูไม่ค่อยดีนัก แฟนเขาถูกแต๊ะอั๋งแบบนี้ เขายังต้องขอบคุณอีกเหรอ  

 

 

“ได้ ผมจะขอบคุณเขาก่อน”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมาเสียดื้อๆ  

 

 

รู้จักกับพี่ป๋อมานานขนาดนี้ ทำไม่เขาจะฟังไม่ออกว่าป๋อจิ่งชวนหมายความว่าอย่างไร  

 

 

นี่มันเป็นการเจรจากันก่อนจะเปิดศึกชัดๆ  

 

 

เขารีบส่ายหน้าอย่างร้อนใจ “ไม่ๆ พี่ป๋อ ผมไม่ได้…”   

 

 

“ไม่ได้อะไร?”  

 

 

“คนที่ผายปอดให้พี่สะใภ้ตอนนั้นไม่ใช่ผม ผมก็แค่โดดลงไปช่วยเธอขึ้นมา ตอนนั้นมันฉุกละหุกมาก อันที่จริงผมก็กะจะผายปอดให้เธออยู่เหมือนกัน แต่สวี่ชิงจือที่อยู่ข้างๆ เธอทำ เธอเป็นคนทำ!”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยว่าพลางลุกขึ้นมานั่งข้างๆ  

 

 

พาตัวเองให้ห่างออกมาจากเฉินฝานซิง  

 

 

เขาดูออกว่าตอนนี้พี่ป๋อของเขากำลังเอาจริง!  

 

 

ได้ฟังอินรุ่ยเจวี๋ยเอ่ยเช่นนั้น สีหน้าของเขาก็ค่อยดูอ่อนลง  

 

 

จากนั้นเขาก็ได้หันไปมองเฉินฝานซิงแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นชา “จริงเหรอ”  

 

 

เธอไหวไหล่แล้วตอบไปว่า “ไม่รู้สิ ก็ตอนนั้นฉันไม่รู้สึกตัว”  

 

 

สีหน้าของป๋อจ่งชวนเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเก่า  

 

 

หัวของอินรุ่ยเจวี๋ยแทบระเบิดอยู่แล้ว “ไม่ใช่ผม ยังไงก็ไม่ใช่ผม สวี่ชิงจือไม่เคยพูดเรื่องนี้เลยรึไง ไม่ใช่ผมจริงๆ นะ ไม่เชื่อจะถามเธอตอนนี้เลยก็ได้นะ!”  

 

 

เฉินฝานซิงพยักหน้าพลางครุ่นคิด “พอคุณพูดแบบนั้นแล้ว เหมือนฉันจะจำได้ว่าตอนที่เพิ่งจะลืมตาขึ้นมา ฉันเหมือนจะเห็นหน้าของชิงจือ…”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ “คุณจำไม่ผิดแน่! เป็นเธอจริงๆ!”  

 

 

ป๋อจิ่งชวนมองเธอก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงขุ่น “สวี่ชิงจือก็ไม่ได้”  

 

 

“…”  

 

 

“…”  

 

 

“…”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมาพุดเดิ้ลที่เพิ่งจะได้พบโลกใหม่อย่างไรอย่างนั้น  

 

 

กว่าจะรอดชีวิตมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ แต่กลับต้องมาเกือบตายเพราะกระอักน้ำส้มสายชู!  

 

 

พี่ป๋อของเขา กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วเหรอ?  

 

 

ประตูใหญ่แห่งโลกใบใหม่ถูกเปิดออกในค่ำคืนนี้ อีกทั้งเขาก็รับรู้ได้ในเวลาเดียวกันว่า โลกใบใหม่ใบนี้ไม่ใช่จะเข้าไปยุ่งได้ง่ายๆ!  

 

 

“เอาละ บุญคุณที่คุณชายอินได้ช่วยฉันเอาไว้ควรได้รับการตอบแทน ฉันดื่มให้คุณแก้วหนึ่งค่ะ”  

 

 

เธอว่าพลาง กวาดตาไปมองแก้วเปล่าที่ว่างอยู่บนโต๊ะชาและคิดจะหยิบมันขึ้นมา ทว่าน้ำนมสีขาวกลับค่อยๆ ถูกเทลงในแก้วสีใสใบนั้น  

 

 

ป๋อจิ่งชวนนำกล่องนมวางไว้อีกทาง ก่อนจะลงมือหยิบแก้วใบนั้นยื่นให้เธอด้วยตัวเอง  

 

 

“ตอบแทนสิ”  

 

 

เฉินฝานซิงขัดเขินเล็กน้อย “นี่มันดูไม่ค่อยจริงใจเลยไม่ใช่เหรอ”  

 

 

ป๋อจิ่งชวนกวาดตามองอินรุ่ยเจวี๋ยอย่างเยือกเย็นวูบหนึ่ง อินรุ่ยเจวี๋ยจึงรีบตอบขึ้นทันที “ไม่เลยๆ คืนนี้เราฮิตดื่มนมกัน! นมนี่แหละจริงใจสุดๆ แล้ว!”  

 

 

   

 

 

ตอนที่ 280 เขายังกินอาหารสุนัขได้อีกสักมื้อ  

 

 

สิ้นคำของอินรุ่ยเจวี๋ย เสียงดังจ๊อกๆ จ๊อกๆ ก็แว่วขึ้น เครื่องดื่มมึนเมาในแก้วของทุกคนกลายเป็นสีขาวน้ำนม  

 

 

กลิ่นหอมของนมได้ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องกว้าง  

 

 

เฉินฝานซิงรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาจงใจทำเช่นนั้น เธออดขำเสียงทุ้มออกมาไม่ได้  

 

 

คนพวกนี้…  

 

 

เธอยังนึกอยู่เลยว่าเพื่อนๆ ของป๋อจิ่งชวนจะสุขุมกันแค่ไหน  

 

 

นึกไม่ถึงเลยว่าจะน่าสนใจได้ขนาดนี้  

 

 

“ยังไงก็นะ พระคุณครั้งนี้ ฉันซึ้งใจสุดๆ”  

 

 

“ได้ช่วยว่าที่พี่สะใภ้ไว้ ถือเป็นเกียรติมากครับ”  

 

 

แก้วทั้งสองกระทบกันเกิดเสียงดัง  กริ๊ก  น้ำนมสีขาวกลิ้งกลอกไปทั่วขอบแก้ว  

 

 

มือทั้งสองข้างของอินรุ่ยเจวี๋ยถือแก้วนมพลางมองลงไปยังของเหลวที่อยู่ในแก้วแล้วกระดกกลืนมันลงไปอึกหนึ่ง  

 

 

เขาช่างไม่เข้าใจโลกของผู้ใหญ่เอาซะเลย  

 

 

เขาตีหน้าเซ็งราวกับปลงชีวิตก่อนจะเงยหน้ากระดกนมทุกหยดในแก้วนั้นลงท้องไป  

 

 

เฉินฝานซิงเองก็ดื่มมันลงไปจนไม่เหลือซักหยด เพื่อแสดงถึงความซาบซึ้งในพระคุณของตนอย่างเต็มที่  

 

 

“ทดแทนเสร็จแล้ว?”  

 

 

ในตอนนั้น เสียงเย็นของป๋อจิ่งชวนก็ดังขึ้น ทำเอาอินรุ่ยเจวี๋ยคอหดตัวเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง  

 

 

นี่…อย่าบอกนะว่าพี่ป๋อยังไม่ปล่อยเขาไป  

 

 

เขามองอีกฝ่ายหนึ่งหน้าตาตื่น “พ…พี่ป๋อ ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องทดทงทดแทนอะไรทั้งนั้น ได้ช่วยชีวิตพี่สะใภ้เอาไว้นับเป็นโชคดีในชีวิตผมแล้วครับ!”  

 

 

“เหรอ”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยรีบพยักหน้าตอบหงึกหงัก “ใช่ๆ จริงแท้และแน่นอนครับ!”   

 

 

สายตาของป๋อจิ่งชวนค่อยๆ เบนไปหยุดที่ริมฝีปากของเฉินฝานซิง ก่อนยกมือขึ้นเช็ดคราบนมที่ติดอยู่บนริมฝีปากแผ่วเบา  

 

 

การกระทำที่เรียบง่าย กลับกลายเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอในค่ำคืนนี้ แม้เธอจะอยู่ในสถานการณ์ที่มีผู้คนมากมายเช่นนี้ ก็ไม่อาจควบคุมใบหน้าไม่ให้เห่อร้อนขึ้นมาได้  

 

 

เห็นเธอมีท่าทีเหนียมอายเช่นนี้ ริมฝีปากของป๋อจิ่งชวนก็ได้ยกยิ้มขึ้นอย่างเปิดเผย  

 

 

นี่พี่ป๋อเขา…ยิ้มงั้นเหรอ  

 

 

จู่ๆ ใบหน้าที่เป็นดั่งธารน้ำแข็งพันปี บัดนี้ได้มีบัวหิมะผุดออกมาแล้ว?  

 

 

จู่ๆ อินรุ่ยเจวี๋ยที่อยู่ใกล้ทั้งคู่มากที่สุดก็ถูกอาหารสุนัขยัดเข้าปากไปเต็มๆ คำ โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว  

 

 

“เออะ…”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเผลอระเบิดเสียงเรอออกมาอย่างห้ามไม่ได้  

 

 

แม่งเอ๊ย!  

 

 

กลิ่นนมคลุ้งไปทั้งปากเลย!  

 

 

จู่ๆ รอยยิ้มกริ่มบนดวงตาของป๋อจิ่งชวนก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งก่อนจะตวัดไปมองอินรุ่ยเจวี๋ย  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยยกมือขึ้นอุดปากตัวเองเอาไว้ ก่อนที่เขาจะขำเจื่อนๆ ให้ป๋อจิ่งชวน  

 

 

เวรกรรม นี่คงเป็นเพราะเขาดื่มนมเร็วเกินไป  

 

 

ไม่ใช่เพราะอิ่มอาหารสุนัข!  

 

 

แค่ไม่ให้เขาดื่มนมเพิ่มอีก เขาก็คิดว่าตัวเองยังกินอาหารสุนัข[1]นี้ได้อีกสักมื้อ!  

 

 

“พี่สะใภ้ ผมดื่มให้พี่แก้วนึง ของผมหมดแก้ว ส่วนพี่ตามอัธยาศัยก็พอ”  

 

 

“พี่สะใภ้ ผมดื่มให้พี่ ผมหมดแก้ว เชิญพี่ดื่มตามอัธยาศัย…”  

 

 

“พี่สะใภ้…เชิญดื่มตามอัธยาศัยครับ…”  

 

 

คนในห้องนั้นที่ไม่ได้สนิทสนมกับเฉินฝานซิงก็ได้ทยอยกันเข้ามาดื่มให้เกียรติกับเธอไม่ขาดสาย ต่างก็ไม่ได้ขอให้เธอดื่มจนหมดแก้ว เธอเองก็ไม่ได้เคร่งอีกต่อไป ทุกๆ ครั้งเธอจึงทำเพียงแค่จิบพอเป็นมารยาทเท่านั้น  

 

 

แต่พวกเขาก็ยังคงดีใจกันยกใหญ่ เพราะถึงยังไง ‘เหล้า’ ที่พวกเขาดื่มให้ก็มีเสียงตอบรับกลับมาทุกครั้ง!  

 

 

“มาๆ มา วันนี้เป็นวันดี ไม่เมา เอ่อ…ไม่อืดไม่กลับ”  

 

 

ไม่อืดไม่กลับทวดแกสิ!  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยอยากจะถีบไอ้คนที่พูดคำนั้นให้สักป้าบ!  

 

 

ไอ้พวกเฒ่าทารกนี่จะดื่มนมกันจนหัวราน้ำเลยรึไง  

 

 

เขาหันไปมองลี่ถิงเซินที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอีกฝั่ง เขาคิดว่าหมอนั่นคงไม่เห็นดีเห็นงามไปกับพี่ป๋อด้วย  

 

 

แต่งามไส้เอ๊ย ตรงหน้าของเหลียงซู่เอ๋อร์กับหมอนั่นดันมีแก้วนมสีขาวจั๊วะตั้งอยู่จริงๆ  

 

 

“นายดื่มแล้ว?” เขาถามลี่ถิงเซิน  

 

 

“ทำไมจะไม่ดื่ม” ลี่ถิงเซินทำหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ก่อนจะลดสายตาลงไปมองแก้วเหล้าบนโต๊ะ  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยจินตนาการภาพลี่ถิงเซินดื่มนมไม่ออกเลยจริงๆ เขาก้าวเข้าไปใกล้ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงต่ำว่า “นายก็เตือนๆ พี่ป๋อแกบ้าง มีอย่างที่ไหนมาที่แบบนี้จะให้ดื่มแค่นมอย่างเดียว เดี๋ยวตอนคิดเงินมีหวังได้อายเขาตาย!”  

 

 

“ฉันว่าก็ไม่เลวนะ นม…มีประโยชน์ แถมยังประหยัดอีกต่างหาก”  

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยกัดฟันกรอด  

 

 

คำว่า ‘ประหยัด’ สองคำที่หลุดออกมาจากปากเขามันฟังดูปลอมซะยิ่งกว่าปลอม!  

 

 

ทีตอนที่ผลาญเงินให้ผู้หญิงที่นั่งข้างๆ นั่นเขาเคยเห็นค่าของเงินซะที่ไหน  

 

 

“นายจะขัดใจฉันให้ได้ทุกครั้งเลยใช่ไหม ต่อให้พี่ป๋อจะก่อเรื่องยังไงนายก็ไม่สน นายเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกคน?”  

 

 

ลี่ถิงเซินค่อยๆ เบนสายตาไปมองเขาช้าๆ น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นเย็นชายิ่งกว่าครั้งไหนๆ  

 

 

“นายว่าไงนะ พี่ป๋อก่อเรื่อง? แล้วอะไรต่อนะ ประโยคหลังฉันฟังไม่ค่อยถนัด”  

 

 

   

 

 

 

 

 

[1] กินอาหารสุนัข หมายถึงการเห็นคู่รักสวีทกันต่อหน้า  

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+