ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 281 หัดเอาอย่างนายเธอซะบ้าง / 282 คนหลอกลวง

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 281 หัดเอาอย่างนายเธอซะบ้าง / 282 คนหลอกลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 281 หัดเอาอย่างนายเธอซะบ้าง

 

 

“นายว่าไงนะ พี่ป๋อก่อเรื่อง? แล้วอะไรต่อนะ ประโยคหลังฉันฟังไม่ค่อยถนัด”

 

 

“…”

 

 

ในทันใดนั้นอินรุ่ยเจวี๋ยก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบ

 

 

“รุ่ยเจวี๋ย นายไปเอากระเทียมในครัวมาหนึ่งกิโล” เสียงไร้อารมณ์ของป๋อจิ่งชวนได้ดังขึ้น

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเอ่ยถามขึ้นอย่างรักชีวิต “กระเทียม? เอามาทำอะไร”

 

 

“ไปเอามา” ป๋อจิ่งชวนเอ่ยเสียงเข้มขึ้น

 

 

“เชอะ!”

 

 

เฉินฝานซิงเองก็สงสัย “เอากระเทียมมาทำอะไร”

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่พูดจา แต่กลับนำลิ้นจี่ที่ปอกเสร็จแล้วป้อนเข้าปากเธอไป

 

 

สิบนาทีหลังจากนั้น…

 

 

“พี่ป๋อ ได้กระเทียมมาแล้ว!”

 

 

“อืม กินซะ”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเหวอไป “…ว่าไงนะ”

 

 

ป๋อจิ่งชวนตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “กินมัน”

 

 

“ทำไมอะ ผมไม่เอาด้วยหรอก ปากเหม็นกระเทียมแบบนั้นผมจะเอาหน้าที่ไหนไปสู้เขา”

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่พูดอะไรออกมาอีก เหลียงซู่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็หลุดขำออกมาเบาๆ

 

 

“เพราะฉะนั้นนะคุณชายอิน คราวหน้าคราวหลังอย่าได้คิดจะไปผายปอดให้ใครเขาอีกเชียว”

 

 

“…”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยปลงตก

 

 

นี่ยังคิดไม่ตกเรื่องที่เขาเกือบจะผายปอดให้พี่สะใภ้อีกเรอะ!

 

 

โคตรๆ โคตร…โคตรๆ จะใจร้ายเลย!

 

 

เฉินฝานซิงอดขำออกมาไม่ได้ ยามที่ได้รับสายตาขอความช่วยเหลือจากอินรุ่ยเจวี๋ย

 

 

เอิ่ม…

 

 

ยังไงซะเขาก็เป็นผู้มีพระคุณ นี่จะนับว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณได้รึเปล่านะ

 

 

เธอดึงชายเสื้อของอีกฝ่าย “ป๋อจิ่งชวน…”

 

 

ป๋อจิ่งชวนรู้ดีว่าเธอต้องการอะไร เขาเม้มปากเข้าหากันก่อนจะพูดว่า “เอาเถอะ…กินแค่หัวเดียวก็พอ”

 

 

“…”

 

 

 

 

เธอมองอินรุ่ยเจวี๋ยที่กำลังกินกระเทียมสองกลีบลงไปด้วยความขมขื่นก่อนที่เธอจะกระเถิบไปตรงหน้าป๋อจิ่งชวนแล้วเอ่ยขึ้นว่า

 

 

“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะ”

 

 

ป๋อจิ่งชวนวางแก้วเหล้าในมือลง “ผมไปเป็นเพื่อน”

 

 

เฉินฝานซิงรีบดึงมือเขาไว้อย่างร้อนใจ “ไม่ต้องหรอก”

 

 

เหลียงซู่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งยิ้มขึ้นพลางเอ่ยอย่างใส่ใจ “พี่สะใภ้จะไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม ให้ฉันไปเป็นเพื่อน?”

 

 

เฉินฝานซิงลุกขึ้นพลางทอดสายตามองไปยังลี่ถิงเซินที่นั่งอยู่อีกฝั่งอย่างเงียบงันก่อนจะเคลื่อนสายตามายังร่างของเหลียงซู่เอ๋อร์ เธอยกยิ้มขึ้นจางๆ แล้วตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปคนเดียวได้”

 

 

เหลียงซู่เอ๋อร์ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ ก่อนที่รอยยิ้มอ่อนโยนจะผุดขึ้นบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางตา เธอพยักหน้ารับคำของเฉินฝานซิงเบาๆ จากนั้นจึงหันไปหยิบองุ่นขึ้นมาแตะที่ปากของลี่ถิงเซิน

 

 

ลี่ถิงเซินมองเธอแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้อ้าปากรับ ทั้งยังหยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวนแล้วจุดมันด้วยสีหน้าเรียบเฉย

 

 

เหลียงซู่เอ๋อร์กลับไม่ได้มีท่าทีใดๆ ก่อนจะนำผลองุ่นในมือป้อนใส่ปากตัวเอง

 

 

เฉินฝานซิงกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเสียจนไม่อาจสังเกตเห็นได้ ก่อนที่เธอจะเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องไป

 

 

 

 

เฉินฝานซิงเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงมายังอ่างล้างมือ

 

 

ท้องไส้ที่ปั่นป่วนมาก่อนหน้านี้ค่อยยังชั่วขึ้นบ้างแล้ว ก่อนจะเผลอพ่นลมหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย

 

 

เธอส่องกระจกบานยักษ์พลางยกมือขึ้นจัดทรงผม

 

 

ความกังวลก่อนหน้านี้สลายหายไปจนเกือบหมด

 

 

ในฐานะที่เคยเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสกุลซูอยู่นานปี ใช่ว่าเธอจะไม่สันทัดเรื่องเข้าสังคม

 

 

เธอแค่ไม่ถนัดเข้าสังคมกับคนที่เธอคุ้นเคยและคนที่เธอแคร์

 

 

อย่างเช่นกับวันนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทางว่าจะสร้างความเดือดร้อนอะไรให้ป๋อจิ่งชวนไหม หรือไม่ก็อาจทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าเพื่อนฝูง

 

 

ดีที่นิสัยของอินรุ่ยเจวี๋ยนับว่าไม่เลว เขาไม่เคยทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่วินาทีเดียว

 

 

เธอหันไปหยิบกระดาษออกมาสองแผ่น ยังไม่ทันที่จะได้เช็ดมือ จู่ๆ เงาดำร่างหนึ่งก็ได้ถลันเข้ามาทางประตู พอเข้ามาถึงก็เอาแต่สำรอกออกมาใส่อ่างล้างมือจนหมดไส้หมดพุง

 

 

เฉินฝานซิงก้มลงไปเช็ดมือต่อ ก่อนจะหันไปโยนมันลงถังขยะ เสียงต่อต้านอันไร้เรี่ยวแรงของหญิงสาวคนนั้นดังขึ้นจากทางข้างหลังเธออีกครั้ง “ปล่อยฉันนะ…”

 

 

“คุณเฉียน คุณเมาหนักแล้วนะ เดี๋ยวพี่พาขึ้นไปพักผ่อน”

 

 

“ไม่ ฉันจะกลับบ้าน…คุณแม่ฉันยังรอให้ฉันกลับไป ฉันไม่ค้างข้างนอก…”

 

 

“ก็งานมันยุ่ง ไม่กลับบ้านสักวันสองวันจะเป็นไร ไป พี่จะพาเธอไปพักผ่อน!”

 

 

“ไม่ ประธานฉิน คุณปล่อยฉันนะ…ฉันไม่ไป…ฉันมาทำงานก็จริง ตะ…แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่า…”

 

 

จากเดินชมที่เฉินฝานซิงไม่คิดจะมีเอี่ยวกับเรื่องพรรค์นี้ แต่หลังจากที่เธอได้ยินทุกอย่างแล้ว ความคิดที่จะเดินจากไปก่อนหน้านี้ก็หยุดชะงักไปเสียดื้อๆ

 

 

จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็ดูคุ้นตาอยู่ไม่น้อย

 

 

“ทางที่ดีเธอควรอยู่ให้เป็น หัดเอาอย่างนายเธอซะบ้าง หืม? เพื่อให้ได้งาน แม้แต่ร่างกายก็ยอมแลกได้…พวกเธอมีบ่อเงินบ่อทองดีๆ แบบนี้แล้ว จะมัวเสียเวลาอยู่ทำไม”

 

 

เรียวคิ้วของเฉินฝานซิงผูกเข้าหากันแน่น เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าหญิงสาวที่เมาจนเข่าอ่อน ก่อนที่สีหน้าของเธอจะขุ่นลงไปทันตา!

 

 

 

 

ตอนที่ 282 คนหลอกลวง

 

 

เรียวคิ้วของเฉินฝานซิงผูกเข้าหากันแน่น เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าหญิงสาวที่เมาจนเข่าอ่อน ก่อนที่สีหน้าของเธอจะขุ่นลงไปทันตา!

 

 

 

 

“ปะ อยู่เป็นเพื่อนพี่สักคืน พี่จะได้รีบเซ็นสัญญาให้เธอไง!”

 

 

“ม่ายยย”

 

 

หญิงสาวที่ถูกประธานฉินโอบรัดเอาไว้แน่นพยายามดิ้นหนีด้วยแรงเฮือกสุดท้าย

 

 

“ประธานฉิน…”

 

 

เสียงนุ่มค่อยๆ เอ่ยดังขึ้นจากตรงประตู เฉินฝานซิงเงยหน้าขึ้นมองไปยังหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีฟ้าอ่อน ที่ถูกปรกด้วยเรือนผมสีนิลตรงยาวสลวยพร้อมผมหน้าม้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู 

 

 

“หากคุณต้องการผู้หญิงละก็ พวกผู้หญิงในห้องนั่นก็ตั้งเยอะตั้งแยะ คุณจะเลือกเอาคนไหนก็ได้ จะมาอะไรกันนักหนากับพีอาร์แค่คนเดียว”

 

 

ฝ่าเท้าที่ก้าวออกไปของเฉินฝานซิงเมื่อครู่ชะงักอยู่กับที่

 

 

วันนี้ช่าง ‘บังเอิญ’ อะไรเช่นนี้

 

 

เมื่อตอนกลางวันเพิ่งจะได้เจอกับคนที่เคยเห็นแต่ในทีวีไป ไม่นึกเลยว่าตอนนี้จะได้เจอเข้าอีกคน

 

 

ผู้หญิงข้างกายของ ‘เพื่อนเก่า’ อย่างกู้เจ๋อเหยียน

 

 

เผยเหยาฉือ

 

 

ประธานฉินอย่างฉินปินนิ่งงันไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับเผยเหยาฉือด้วยยิ้มเย็น

 

 

“คุณหนูเผย อย่ายุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่งจะดีกว่า มองตาไว้ตาก็ก็พอแล้ว รีบๆ กลับไปซะ กลับไปหาประธานกู้ อ้อ ไม่สิ…ต้องซุปเปอร์สตาร์กู้ต่างหากล่ะ กลับไปคอยเป็นเด็กดีของเขา”

 

 

หญิงสาวย่นคิ้วเข้าหากัน “ว่าไปประธานฉินเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณเฉียนเป็นพีอาร์ที่เราตั้งใจเชิญมาเป็นพิเศษ ฉันคงยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอที่นี่ไม่ได้”

 

 

ฉินปินเค้นหัวเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจปนเย้าแหย่ “คุณหนูเผย นี่คุณไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจกันแน่”

 

 

“หมายความว่าไง”

 

 

“ต่อให้เรื่องนี้จะจัดการไปเสร็จสรรพแล้ว แต่ในเมื่อประธานกู้รับรู้ คุณเองก็น่าจะรับรู้ ซุปเปอร์สตาร์เฉินถูกพี่สาวตัวเองรังแกที่ห้างไปก็ค่อนข้างสาหัสอยู่…”

 

 

“…” หญิงสาวหน้าซีดลงทันที เธอกัดริมฝีปากแน่นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จา

 

 

ฉินปินเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ได้ข่าวว่าสมัยเรียน คุณเฉินเชียนโหรวคนนั้นเป็นนางฟ้าในมวลมนุษย์ แม้แต่ประธานกู้เองก็เคยหลงจนหัวปักหัวปำมาแล้ว ต่อมาอยู่ในวงการบันเทิงยังเคยมีข่าวด้วยกันอีก หึๆ ถึงยังไงเขาก็คือเจ้าของบริษัทบันเทิงคนหนึ่ง แล้วคุณนึกเหรอว่าเขาจะขาดพีอาร์”

 

 

พูดถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้คนที่โง่ดักดานแค่ไหนก็เข้าใจได้

 

 

ที่จริงแล้วกู้เจ๋อเหยียนไม่ได้ต้องการจะคุยเรื่องสัญญา เขาแค่ต้องการหาโอกาสเอาคืนแทนเฉินเชียนโหรว

 

 

เป็นไปไม่ได้ที่บริษัทของเขาจะไม่มีฝ่ายประชาสัมพันธ์ แต่เขากลับไปหาพีอาร์มาจากนอกบริษัท แถมยังจะเจาะจงเอาคนจากบริษัทซิงเฉินของเฉินฝานซิงซึ่งเป็นคนที่รังแกเฉินเชียนโหรวอีกต่างหาก

 

 

หากคิดให้ดีๆ นี่เป็นการสร้างปัญหาให้กับเฉินฝานซิง

 

 

เพราะรู้อยู่แก่ใจ ฉินปินจึงไม่อาจปล่อยอาหารอันโอชะที่มีคนมาประเคนให้ถึงปากมื้อนี้ไปได้

 

 

น้อมรับอย่างเต็มใจ

 

 

ไฟโทสะได้ลุกฮือขึ้นในอกของเฉินฝานซิง!

 

 

กู้เจ๋อเหยียน ไอ้คนหลอกลวง!

 

 

“คุณหนูเผย เอาเวลาเป็นห่วงคนอื่นไปคิดดีกว่าไหมว่าควรจะดูแลคนของตัวเองยังไง กลับไปเหอะ นะ ผมเองก็จะได้ทำงานของตัวเองต่อ!”

 

 

“ไม่…คุณหนูเผย ช่วยฉันด้วย…”

 

 

“ยอมรับชะตากรรมซะเถอะ คุณเฉียน มานี่ ไปกับผม”

 

 

ฉินปินว่าพลางฉุดกระชากลากถูหญิงสาวในอ้อมแขนออกไปนอกประตู แต่สุดท้ายยังเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าว เสียงกดชัตเตอร์ถ่ายภาพก็ดังขึ้นจากข้างหลัง ตามติดมาด้วยเสียงเย็นที่ดังไล่หลังออกมา  

 

 

“ปล่อยเธอ”

 

 

พวกเขาชะงักนิ่งไปก่อนจะหันไปมองเฉินฝานซิงที่เดินออกมาจากประตูห้องล้างมือที่อยู่ติดกัน จากนั้นเธอจึงเก็บโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋าเล็กๆ ตรงชุดสูท 

 

 

ก่อนที่เธอจะแหงนหน้าขึ้นมองพวกเขา ใบหน้าเกลี้ยงเกลางดงามนั้นอัดแน่นไปด้วยความเย็นยะเยือก ไอเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างกายทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นหนาวสะท้าน

 

 

“เฉียนหมี่ มานี่”

 

 

“ประธานเฉิน!”

 

 

ฉินปินชะงักไป จู่ๆ หญิงสาวในอ้อมแขนก็ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอสลัดตัวออกจากการเกาะกุมของเขา แล้วพุ่งเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินฝานซิง

 

 

เฉินฝานซิงอ้าแขนรับเธอเอาไว้ ก่อนใช้สายตาเย็นเยียบมองผ่านหลังเธอไป

 

 

ไม่รู้เพราะอะไร ยามที่เฉียนหมี่เห็นเฉินฝานซิงปรากฏตัวออกมาเธอถึงได้รู้สึกอุ่นใจขึ้นอย่างน่าประหลาด

 

 

ทั้งๆ ที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันแท้ๆ…

 

 

เมื่อเนื้อนุ่มหอมกรุ่นหลุดออกจากมือไป ฉินปินก็สีหน้าเขียวปั๊ดขึ้นทันควัน “อะไรกัน คุณหนูใหญ่นี่ จะมาเสนอตัวให้ผมแทนเธอเหรอ”

 

 

สีหน้าเธอแข็งกร้าวขึ้นไปอีก แทบจะชั่วอึดใจเดียว เธอยกเท้าขึ้นถีบเข้าที่ท้องของฉินปินเข้าอย่างจัง

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย 281 หัดเอาอย่างนายเธอซะบ้าง / 282 คนหลอกลวง

Now you are reading ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย Chapter 281 หัดเอาอย่างนายเธอซะบ้าง / 282 คนหลอกลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 281 หัดเอาอย่างนายเธอซะบ้าง

 

 

“นายว่าไงนะ พี่ป๋อก่อเรื่อง? แล้วอะไรต่อนะ ประโยคหลังฉันฟังไม่ค่อยถนัด”

 

 

“…”

 

 

ในทันใดนั้นอินรุ่ยเจวี๋ยก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบ

 

 

“รุ่ยเจวี๋ย นายไปเอากระเทียมในครัวมาหนึ่งกิโล” เสียงไร้อารมณ์ของป๋อจิ่งชวนได้ดังขึ้น

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเอ่ยถามขึ้นอย่างรักชีวิต “กระเทียม? เอามาทำอะไร”

 

 

“ไปเอามา” ป๋อจิ่งชวนเอ่ยเสียงเข้มขึ้น

 

 

“เชอะ!”

 

 

เฉินฝานซิงเองก็สงสัย “เอากระเทียมมาทำอะไร”

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่พูดจา แต่กลับนำลิ้นจี่ที่ปอกเสร็จแล้วป้อนเข้าปากเธอไป

 

 

สิบนาทีหลังจากนั้น…

 

 

“พี่ป๋อ ได้กระเทียมมาแล้ว!”

 

 

“อืม กินซะ”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยเหวอไป “…ว่าไงนะ”

 

 

ป๋อจิ่งชวนตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “กินมัน”

 

 

“ทำไมอะ ผมไม่เอาด้วยหรอก ปากเหม็นกระเทียมแบบนั้นผมจะเอาหน้าที่ไหนไปสู้เขา”

 

 

ป๋อจิ่งชวนไม่พูดอะไรออกมาอีก เหลียงซู่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็หลุดขำออกมาเบาๆ

 

 

“เพราะฉะนั้นนะคุณชายอิน คราวหน้าคราวหลังอย่าได้คิดจะไปผายปอดให้ใครเขาอีกเชียว”

 

 

“…”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยปลงตก

 

 

นี่ยังคิดไม่ตกเรื่องที่เขาเกือบจะผายปอดให้พี่สะใภ้อีกเรอะ!

 

 

โคตรๆ โคตร…โคตรๆ จะใจร้ายเลย!

 

 

เฉินฝานซิงอดขำออกมาไม่ได้ ยามที่ได้รับสายตาขอความช่วยเหลือจากอินรุ่ยเจวี๋ย

 

 

เอิ่ม…

 

 

ยังไงซะเขาก็เป็นผู้มีพระคุณ นี่จะนับว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณได้รึเปล่านะ

 

 

เธอดึงชายเสื้อของอีกฝ่าย “ป๋อจิ่งชวน…”

 

 

ป๋อจิ่งชวนรู้ดีว่าเธอต้องการอะไร เขาเม้มปากเข้าหากันก่อนจะพูดว่า “เอาเถอะ…กินแค่หัวเดียวก็พอ”

 

 

“…”

 

 

 

 

เธอมองอินรุ่ยเจวี๋ยที่กำลังกินกระเทียมสองกลีบลงไปด้วยความขมขื่นก่อนที่เธอจะกระเถิบไปตรงหน้าป๋อจิ่งชวนแล้วเอ่ยขึ้นว่า

 

 

“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำหน่อยนะ”

 

 

ป๋อจิ่งชวนวางแก้วเหล้าในมือลง “ผมไปเป็นเพื่อน”

 

 

เฉินฝานซิงรีบดึงมือเขาไว้อย่างร้อนใจ “ไม่ต้องหรอก”

 

 

เหลียงซู่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งยิ้มขึ้นพลางเอ่ยอย่างใส่ใจ “พี่สะใภ้จะไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม ให้ฉันไปเป็นเพื่อน?”

 

 

เฉินฝานซิงลุกขึ้นพลางทอดสายตามองไปยังลี่ถิงเซินที่นั่งอยู่อีกฝั่งอย่างเงียบงันก่อนจะเคลื่อนสายตามายังร่างของเหลียงซู่เอ๋อร์ เธอยกยิ้มขึ้นจางๆ แล้วตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปคนเดียวได้”

 

 

เหลียงซู่เอ๋อร์ก็ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ ก่อนที่รอยยิ้มอ่อนโยนจะผุดขึ้นบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางตา เธอพยักหน้ารับคำของเฉินฝานซิงเบาๆ จากนั้นจึงหันไปหยิบองุ่นขึ้นมาแตะที่ปากของลี่ถิงเซิน

 

 

ลี่ถิงเซินมองเธอแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้อ้าปากรับ ทั้งยังหยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวนแล้วจุดมันด้วยสีหน้าเรียบเฉย

 

 

เหลียงซู่เอ๋อร์กลับไม่ได้มีท่าทีใดๆ ก่อนจะนำผลองุ่นในมือป้อนใส่ปากตัวเอง

 

 

เฉินฝานซิงกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อยเสียจนไม่อาจสังเกตเห็นได้ ก่อนที่เธอจะเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องไป

 

 

 

 

เฉินฝานซิงเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วตรงมายังอ่างล้างมือ

 

 

ท้องไส้ที่ปั่นป่วนมาก่อนหน้านี้ค่อยยังชั่วขึ้นบ้างแล้ว ก่อนจะเผลอพ่นลมหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย

 

 

เธอส่องกระจกบานยักษ์พลางยกมือขึ้นจัดทรงผม

 

 

ความกังวลก่อนหน้านี้สลายหายไปจนเกือบหมด

 

 

ในฐานะที่เคยเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสกุลซูอยู่นานปี ใช่ว่าเธอจะไม่สันทัดเรื่องเข้าสังคม

 

 

เธอแค่ไม่ถนัดเข้าสังคมกับคนที่เธอคุ้นเคยและคนที่เธอแคร์

 

 

อย่างเช่นกับวันนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทางว่าจะสร้างความเดือดร้อนอะไรให้ป๋อจิ่งชวนไหม หรือไม่ก็อาจทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าเพื่อนฝูง

 

 

ดีที่นิสัยของอินรุ่ยเจวี๋ยนับว่าไม่เลว เขาไม่เคยทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่วินาทีเดียว

 

 

เธอหันไปหยิบกระดาษออกมาสองแผ่น ยังไม่ทันที่จะได้เช็ดมือ จู่ๆ เงาดำร่างหนึ่งก็ได้ถลันเข้ามาทางประตู พอเข้ามาถึงก็เอาแต่สำรอกออกมาใส่อ่างล้างมือจนหมดไส้หมดพุง

 

 

เฉินฝานซิงก้มลงไปเช็ดมือต่อ ก่อนจะหันไปโยนมันลงถังขยะ เสียงต่อต้านอันไร้เรี่ยวแรงของหญิงสาวคนนั้นดังขึ้นจากทางข้างหลังเธออีกครั้ง “ปล่อยฉันนะ…”

 

 

“คุณเฉียน คุณเมาหนักแล้วนะ เดี๋ยวพี่พาขึ้นไปพักผ่อน”

 

 

“ไม่ ฉันจะกลับบ้าน…คุณแม่ฉันยังรอให้ฉันกลับไป ฉันไม่ค้างข้างนอก…”

 

 

“ก็งานมันยุ่ง ไม่กลับบ้านสักวันสองวันจะเป็นไร ไป พี่จะพาเธอไปพักผ่อน!”

 

 

“ไม่ ประธานฉิน คุณปล่อยฉันนะ…ฉันไม่ไป…ฉันมาทำงานก็จริง ตะ…แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่า…”

 

 

จากเดินชมที่เฉินฝานซิงไม่คิดจะมีเอี่ยวกับเรื่องพรรค์นี้ แต่หลังจากที่เธอได้ยินทุกอย่างแล้ว ความคิดที่จะเดินจากไปก่อนหน้านี้ก็หยุดชะงักไปเสียดื้อๆ

 

 

จะว่าไปผู้หญิงคนนี้ก็ดูคุ้นตาอยู่ไม่น้อย

 

 

“ทางที่ดีเธอควรอยู่ให้เป็น หัดเอาอย่างนายเธอซะบ้าง หืม? เพื่อให้ได้งาน แม้แต่ร่างกายก็ยอมแลกได้…พวกเธอมีบ่อเงินบ่อทองดีๆ แบบนี้แล้ว จะมัวเสียเวลาอยู่ทำไม”

 

 

เรียวคิ้วของเฉินฝานซิงผูกเข้าหากันแน่น เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าหญิงสาวที่เมาจนเข่าอ่อน ก่อนที่สีหน้าของเธอจะขุ่นลงไปทันตา!

 

 

 

 

ตอนที่ 282 คนหลอกลวง

 

 

เรียวคิ้วของเฉินฝานซิงผูกเข้าหากันแน่น เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าหญิงสาวที่เมาจนเข่าอ่อน ก่อนที่สีหน้าของเธอจะขุ่นลงไปทันตา!

 

 

 

 

“ปะ อยู่เป็นเพื่อนพี่สักคืน พี่จะได้รีบเซ็นสัญญาให้เธอไง!”

 

 

“ม่ายยย”

 

 

หญิงสาวที่ถูกประธานฉินโอบรัดเอาไว้แน่นพยายามดิ้นหนีด้วยแรงเฮือกสุดท้าย

 

 

“ประธานฉิน…”

 

 

เสียงนุ่มค่อยๆ เอ่ยดังขึ้นจากตรงประตู เฉินฝานซิงเงยหน้าขึ้นมองไปยังหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีฟ้าอ่อน ที่ถูกปรกด้วยเรือนผมสีนิลตรงยาวสลวยพร้อมผมหน้าม้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู 

 

 

“หากคุณต้องการผู้หญิงละก็ พวกผู้หญิงในห้องนั่นก็ตั้งเยอะตั้งแยะ คุณจะเลือกเอาคนไหนก็ได้ จะมาอะไรกันนักหนากับพีอาร์แค่คนเดียว”

 

 

ฝ่าเท้าที่ก้าวออกไปของเฉินฝานซิงเมื่อครู่ชะงักอยู่กับที่

 

 

วันนี้ช่าง ‘บังเอิญ’ อะไรเช่นนี้

 

 

เมื่อตอนกลางวันเพิ่งจะได้เจอกับคนที่เคยเห็นแต่ในทีวีไป ไม่นึกเลยว่าตอนนี้จะได้เจอเข้าอีกคน

 

 

ผู้หญิงข้างกายของ ‘เพื่อนเก่า’ อย่างกู้เจ๋อเหยียน

 

 

เผยเหยาฉือ

 

 

ประธานฉินอย่างฉินปินนิ่งงันไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปพูดกับเผยเหยาฉือด้วยยิ้มเย็น

 

 

“คุณหนูเผย อย่ายุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่งจะดีกว่า มองตาไว้ตาก็ก็พอแล้ว รีบๆ กลับไปซะ กลับไปหาประธานกู้ อ้อ ไม่สิ…ต้องซุปเปอร์สตาร์กู้ต่างหากล่ะ กลับไปคอยเป็นเด็กดีของเขา”

 

 

หญิงสาวย่นคิ้วเข้าหากัน “ว่าไปประธานฉินเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณเฉียนเป็นพีอาร์ที่เราตั้งใจเชิญมาเป็นพิเศษ ฉันคงยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอที่นี่ไม่ได้”

 

 

ฉินปินเค้นหัวเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจปนเย้าแหย่ “คุณหนูเผย นี่คุณไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจกันแน่”

 

 

“หมายความว่าไง”

 

 

“ต่อให้เรื่องนี้จะจัดการไปเสร็จสรรพแล้ว แต่ในเมื่อประธานกู้รับรู้ คุณเองก็น่าจะรับรู้ ซุปเปอร์สตาร์เฉินถูกพี่สาวตัวเองรังแกที่ห้างไปก็ค่อนข้างสาหัสอยู่…”

 

 

“…” หญิงสาวหน้าซีดลงทันที เธอกัดริมฝีปากแน่นยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่พูดไม่จา

 

 

ฉินปินเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ได้ข่าวว่าสมัยเรียน คุณเฉินเชียนโหรวคนนั้นเป็นนางฟ้าในมวลมนุษย์ แม้แต่ประธานกู้เองก็เคยหลงจนหัวปักหัวปำมาแล้ว ต่อมาอยู่ในวงการบันเทิงยังเคยมีข่าวด้วยกันอีก หึๆ ถึงยังไงเขาก็คือเจ้าของบริษัทบันเทิงคนหนึ่ง แล้วคุณนึกเหรอว่าเขาจะขาดพีอาร์”

 

 

พูดถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้คนที่โง่ดักดานแค่ไหนก็เข้าใจได้

 

 

ที่จริงแล้วกู้เจ๋อเหยียนไม่ได้ต้องการจะคุยเรื่องสัญญา เขาแค่ต้องการหาโอกาสเอาคืนแทนเฉินเชียนโหรว

 

 

เป็นไปไม่ได้ที่บริษัทของเขาจะไม่มีฝ่ายประชาสัมพันธ์ แต่เขากลับไปหาพีอาร์มาจากนอกบริษัท แถมยังจะเจาะจงเอาคนจากบริษัทซิงเฉินของเฉินฝานซิงซึ่งเป็นคนที่รังแกเฉินเชียนโหรวอีกต่างหาก

 

 

หากคิดให้ดีๆ นี่เป็นการสร้างปัญหาให้กับเฉินฝานซิง

 

 

เพราะรู้อยู่แก่ใจ ฉินปินจึงไม่อาจปล่อยอาหารอันโอชะที่มีคนมาประเคนให้ถึงปากมื้อนี้ไปได้

 

 

น้อมรับอย่างเต็มใจ

 

 

ไฟโทสะได้ลุกฮือขึ้นในอกของเฉินฝานซิง!

 

 

กู้เจ๋อเหยียน ไอ้คนหลอกลวง!

 

 

“คุณหนูเผย เอาเวลาเป็นห่วงคนอื่นไปคิดดีกว่าไหมว่าควรจะดูแลคนของตัวเองยังไง กลับไปเหอะ นะ ผมเองก็จะได้ทำงานของตัวเองต่อ!”

 

 

“ไม่…คุณหนูเผย ช่วยฉันด้วย…”

 

 

“ยอมรับชะตากรรมซะเถอะ คุณเฉียน มานี่ ไปกับผม”

 

 

ฉินปินว่าพลางฉุดกระชากลากถูหญิงสาวในอ้อมแขนออกไปนอกประตู แต่สุดท้ายยังเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าว เสียงกดชัตเตอร์ถ่ายภาพก็ดังขึ้นจากข้างหลัง ตามติดมาด้วยเสียงเย็นที่ดังไล่หลังออกมา  

 

 

“ปล่อยเธอ”

 

 

พวกเขาชะงักนิ่งไปก่อนจะหันไปมองเฉินฝานซิงที่เดินออกมาจากประตูห้องล้างมือที่อยู่ติดกัน จากนั้นเธอจึงเก็บโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋าเล็กๆ ตรงชุดสูท 

 

 

ก่อนที่เธอจะแหงนหน้าขึ้นมองพวกเขา ใบหน้าเกลี้ยงเกลางดงามนั้นอัดแน่นไปด้วยความเย็นยะเยือก ไอเย็นที่แผ่ออกมาจากร่างกายทำเอาคนที่อยู่ตรงนั้นหนาวสะท้าน

 

 

“เฉียนหมี่ มานี่”

 

 

“ประธานเฉิน!”

 

 

ฉินปินชะงักไป จู่ๆ หญิงสาวในอ้อมแขนก็ไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอสลัดตัวออกจากการเกาะกุมของเขา แล้วพุ่งเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเฉินฝานซิง

 

 

เฉินฝานซิงอ้าแขนรับเธอเอาไว้ ก่อนใช้สายตาเย็นเยียบมองผ่านหลังเธอไป

 

 

ไม่รู้เพราะอะไร ยามที่เฉียนหมี่เห็นเฉินฝานซิงปรากฏตัวออกมาเธอถึงได้รู้สึกอุ่นใจขึ้นอย่างน่าประหลาด

 

 

ทั้งๆ ที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันแท้ๆ…

 

 

เมื่อเนื้อนุ่มหอมกรุ่นหลุดออกจากมือไป ฉินปินก็สีหน้าเขียวปั๊ดขึ้นทันควัน “อะไรกัน คุณหนูใหญ่นี่ จะมาเสนอตัวให้ผมแทนเธอเหรอ”

 

 

สีหน้าเธอแข็งกร้าวขึ้นไปอีก แทบจะชั่วอึดใจเดียว เธอยกเท้าขึ้นถีบเข้าที่ท้องของฉินปินเข้าอย่างจัง

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+