เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 392 หน้าแหก

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 392 หน้าแหก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 392 หน้าแหก

“นี่มันไม่ใช่แล้ว——ซุปตาร์ฉินนายรอเดี๋ยว” ผู้จัดการยกมือขึ้น เขาตกใจกับคำว่า “อันดับหนึ่ง” จากนั้นก็เปิดเวยป๋อ “ดูเหมือนว่าไม่ต้องฉายตอนที่สองก่อนกำหนดแล้ว”

ผู้จัดการตกตะลึงพรึงเพริดไปกับเนื้อหาในฮอตเสิร์ช

สามอันดับแรกในการค้นหายอดนิยมเห็นได้ว่า “ระเบิด” ในเวลาต่อมา——

(ราชาหน้าใหม่ม.เมืองหลวง)

(ฉินหร่าน อันดับหนึ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัย)

(เวยป๋อออฟฟิเชียลมหาวิทยาลัยเมืองหลวง)

ผู้จัดการไม่ได้อ่านคำค้นหาแรก

เขากดเข้าไปที่หัวข้อที่สองที่มีชื่อฉินหร่านพ่วงมาด้วย

ฮอตเสิร์ชหัวข้อที่สองมีต้นฉบับมาจากเจ้าของเวยป๋อคนหนึ่งที่อยู่ในวงการบันเทิง——

(เจ้าของเวยป๋อไม่สืบคงไม่รู้ แต่พอสืบก็ถึงได้รู้ว่าอันดับหนึ่งของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีนี้น่ากลัวมากขนาดไหน ไม่ต้องพูดอะไรมาก พวกเธอดูรูปกันเอาเอง ปีนี้เป็นฝันร้ายของผู้เข้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบคณิตศาสตร์ของโหวเต๋อหลงหรือจะเป็นกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ ผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยน่าจะจำได้ว่ามีคนที่เหิมเกริมโดยการทำคะแนนเต็มหมดทุกวิชา… (รูปภาพ)(รูปภาพ)(รูปภาพ))

รูปแรกคือคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของฉินหร่าน

รูปที่สองคือคะแนนสอบเฉลี่ยของทั้งประเทศ

รูปที่สามคือผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่งของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ถูกกล่าวถึงในเวยป๋อเมื่อเดือนมิถุนายน

ผู้จัดการไม่ได้อ่านความคิดเห็น เขาจ้องรูปพวกนี้ตาค้าง

พลันนึกไปถึงเรื่องที่พนักงานในสตูดิโอพูด จากนั้นก็กดเข้าไปที่ฮอตเสิร์ชหัวข้อที่หนึ่งกับที่สาม

ราชาหน้าใหม่ม.เมืองหลวง

วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของฉินหร่านในมหาวิทยาลัยเมืองหลวง

นอกจากนี้ยังมีใบรับรองที่พวกเด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเอาออกมาโชว์

“มันเป็นยังไงกันแน่ครับ?” พ่อบ้านฉินที่อยู่อีกด้านร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว

ผู้จัดการร้อง “เอ๊ะ” จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ มองไปทางฉินซิวเฉิน ในที่สุดก็ผ่อนคลายลง “ซุปตาร์ฉิน คำชี้แจงไม่ต้องแล้ว รายการก็ไม่ต้องลงแล้ว ดูเหมือนเรื่องจะคลี่คลายได้แล้ว ก็แค่…ดังไปหน่อย”

“หลานสาวนาย…นายดูในเวยป๋อเองเถอะ…”

ไม่จำเป็นต้องให้ผู้จัดการเตือน ฉินซิวเฉินหยิบโทรศัพท์ออกมาตั้งนานแล้ว

พ่อบ้านฉินได้ยินดังนั้นก็ก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดเวยป๋อ

ส่วนฉินฮั่นชิวกำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารอยู่ในห้องครัวตลอด

ตอนที่เขาเดินออกมาเอาต้นหอม

ก็เห็นทั้งสามคนทั้งยืนทั้งนั่งอยู่ริมโต๊ะราวกับก้อนหิน

ฉินฮั่นชิวถือต้นหอมโบกมือให้ผู้จัดการ “ตอนเที่ยงอยู่ทานข้าวด้วยกันสิ คุณกินเผ็ดไหม?”

ผู้จัดการพยักหน้าทื่อๆ โดยไม่รู้ตัว

ฉินฮั่นชิวจึงรีบเดินไปที่ครัวเพื่อเตรียมทำอาหารเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง ดูเหมือนจะมีความสุขมาก

“คุณฉิน” ผู้จัดการได้สติภายในเวลาไม่กี่นาที เขามองไปทางฉินฮั่นชิวอย่างเงียบๆ “หลานสาวคุณสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยคะแนนอันดับหนึ่งของประเทศหรอ?”

ฉินฮั่นชิวได้ยินดังนั้นก็ยังคงหัวเราะด้วยท่าทางซื่อๆ ไม่ได้มีท่าทีแปลกใจเลย “ใช่แล้ว ทำไมเหรอ? ปีนี้ผู้ว่าการเมืองหนิงไห่ได้มอบเงินรางวัลให้ตั้งสองหมื่นหยวน เธอยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงได้ด้วยแน่ะ”

ผู้จัดการ “…” ตอนนี้เขาหมดปัญญาจะมองหน้าตาใสซื่อของฉินฮั่นชิวแล้ว

ส่วนคำสำคัญคือเงินสองหมื่นกับมหาวิทยาลัยเมืองหลวงงั้นเหรอ?

ใช่ ไม่ผิด เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงได้ แต่คุณช่วยเพิ่มคำว่า “อันดับหนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย”หน่อยไหม?

พ่อบ้านฉินถือโทรศัพท์ด้วยนิ้วที่สั่นระริกพลางเงยหน้ามองฉินฮั่นชิวด้วยความตกใจ อ้าปากพะงาบ

พ่อบ้านฉินสายตายาวเล็กน้อย แต่เขาอ่านเวยป๋อได้อย่างชัดเจน

เดิมทีเขายังคิดว่าคนที่ฉลาดที่สุดในสายเลือดตระกูลฉินรุ่นนี้คือฉินหลิงผู้มีความสามารถพิเศษด้านคอมพิวเตอร์ แต่เมื่ออ่านเวยป๋อเสร็จ เขาก็เพิ่งค้นพบว่าคนที่ฉลาดที่สุดในตระกูลฉินน่าจะเป็นฉินหร่านที่เรียนภาควิชาฟิสิกส์มหาวิทยาลัยเมืองหลวงถึงจะถูก…

ตราบใดที่เธอยินยอม การที่เธอจะได้เข้าสถาบันวิจัยภายใต้สถานการณ์นี้ก็มีปัญหาแค่เรื่องเวลาเท่านั้น…

ตอนนี้ฉินฮั่นชิวไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้จัดการและคนอื่นๆ ได้เลย ทันใดนั้นเขาก็ยืนตัวตรงด้วยความเคร่งเครียด “แย่แล้ว! ฉันลืมใส่เก๋ากี้ลงไปในซุป!”

ขณะที่พูดก็ไม่ได้สนใจคนในห้องโถง รีบถือต้นหอมวิ่งเข้าไปในครัวและเติมเก๋ากี้ลงไปในซุป

เมื่อมองไปที่ด้านหลังของฉินฮั่นชิว พ่อบ้านฉินก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนที่ดูทีวีเมื่อคืน ฉินฮั่นชิวถึงได้ดูนิ่งเงียบเมื่อฉินซิวเฉินบอกว่าไม่มีการสร้างภาพ

“นายยังโอเคไหม?” หลังจากนั้นไม่นาน ผู้จัดการก็หันไปมองฉินซิวเฉิน

แน่นอนว่าฉินซิวเฉินอาการไม่ค่อยดี…

เขาขยับโทรศัพท์แล้วตอบ “อือ” เมื่อได้ยินที่ผู้จัดการถาม

ล็อกอินเข้าเวยป๋อตัวเองและยังไล่กดไลค์ออฟฟิเชียลมหาวิทยาลัยเมืองหลวงรวมไปถึงเด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงทีละคน

เวยป๋อเหล่านี้โผล่มาที่หน้าแรกของเวยป๋อเขาทันที

หลังจากทำเรื่องพวกนี้เสร็จ ฉินซิวเฉินก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เขาเปิดเวยป๋อไป๋เทียนเทียนแล้วยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “จัดการไป๋เทียนเทียนหน่อย”

ก่อนหน้านี้ไป๋เทียนเทียนทำเรื่องที่น่าหัวเราะในรายการไม่น้อย แน่นอนว่าซุปตาร์ฉินกับควีนจิ่งและคนอื่นๆ ไม่ได้ถือสาหาความกับเธอ หลังจากกลับมาแล้วไป๋เทียนเทียนก็ถูกยกเลิกสัญญา งานก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

ตอนนี้ไป๋เทียนเทียนยังใจกล้ามาก เกาะกระแสยังไม่พอ เธอยังเหยียบตำแหน่งฉินหร่าน

จุดนี้ทำให้ซุปตาร์ฉินโมโหอย่างถึงที่สุด

**

ทางด้านไป๋เทียนเทียน

ทันทีที่เธอโพสต์เวยป๋อ ความนิยมก็สูงขึ้น ตอนแรกล้วนเป็นความคิดเห็นปลอบใจเธอ

แต่พอผ่านไปครึ่งชั่วโมง ไป๋เทียนเทียนก็พบว่าความคิดเห็นเริ่มไม่ปกติ

ลักษณะความคิดเห็นเปลี่ยนไป

ประโยคนั้นที่เธอโพสต์ : (ขอบคุณทุกคน)

ชาวเน็ตเดากันว่าเธอถูกทีมรายการบังคับสร้างภาพให้ฉินหร่าน ก่อนหน้านี้มีหลายคนที่คับแค้นใจและสงสารเธอเพราะโพสต์นี้ในเวยป๋อ แต่ตอนนี้พวกเขากลับโมโหที่โดนปั่นหัว

ไป๋เทียนเทียนเห็นจำนวนผู้ติดตามลดลงอย่างรวดเร็ว เธอจึงถือโอกาสเปิดดูฮอตเสิร์ช

เริ่มกระวนกระวายใจ

ขณะนี้ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมากะทันหัน

พอเห็นว่าเป็นผู้จัดการก็รีบรับสาย

ทางฝั่งผู้จัดการตะคอกออกมาว่า “ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าเกาะกระแสพอหอมปากหอมคอก็พอ เธอเห็นว่าซุปตาร์ฉินกับทีมรายการเป็นคนใจดีหรือไง? เธอทำตัวเองจนกลายมาเป็นสภาพแบบนี้ก็พอแล้ว ทำไมต้องลากพวกเราไปด้วย? พวกชาวเน็ตก็แค่โจมตีเธอ แต่ซุปตาร์ฉินกับบริษัทตระกูลเจียงยังรอจัดการเธออยู่ข้างหลัง เราเล่นเกมกันจบแล้ว ตอนนี้ก็ดีแล้วนี่ บรรลุเป้าหมายเธอแล้ว เธอดังแล้ว ดังได้สำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง ? !”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ 392 หน้าแหก

Now you are reading เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ Chapter 392 หน้าแหก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 392 หน้าแหก

“นี่มันไม่ใช่แล้ว——ซุปตาร์ฉินนายรอเดี๋ยว” ผู้จัดการยกมือขึ้น เขาตกใจกับคำว่า “อันดับหนึ่ง” จากนั้นก็เปิดเวยป๋อ “ดูเหมือนว่าไม่ต้องฉายตอนที่สองก่อนกำหนดแล้ว”

ผู้จัดการตกตะลึงพรึงเพริดไปกับเนื้อหาในฮอตเสิร์ช

สามอันดับแรกในการค้นหายอดนิยมเห็นได้ว่า “ระเบิด” ในเวลาต่อมา——

(ราชาหน้าใหม่ม.เมืองหลวง)

(ฉินหร่าน อันดับหนึ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัย)

(เวยป๋อออฟฟิเชียลมหาวิทยาลัยเมืองหลวง)

ผู้จัดการไม่ได้อ่านคำค้นหาแรก

เขากดเข้าไปที่หัวข้อที่สองที่มีชื่อฉินหร่านพ่วงมาด้วย

ฮอตเสิร์ชหัวข้อที่สองมีต้นฉบับมาจากเจ้าของเวยป๋อคนหนึ่งที่อยู่ในวงการบันเทิง——

(เจ้าของเวยป๋อไม่สืบคงไม่รู้ แต่พอสืบก็ถึงได้รู้ว่าอันดับหนึ่งของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีนี้น่ากลัวมากขนาดไหน ไม่ต้องพูดอะไรมาก พวกเธอดูรูปกันเอาเอง ปีนี้เป็นฝันร้ายของผู้เข้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบคณิตศาสตร์ของโหวเต๋อหลงหรือจะเป็นกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ ผู้สอบเข้ามหาวิทยาลัยน่าจะจำได้ว่ามีคนที่เหิมเกริมโดยการทำคะแนนเต็มหมดทุกวิชา… (รูปภาพ)(รูปภาพ)(รูปภาพ))

รูปแรกคือคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของฉินหร่าน

รูปที่สองคือคะแนนสอบเฉลี่ยของทั้งประเทศ

รูปที่สามคือผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่งของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ถูกกล่าวถึงในเวยป๋อเมื่อเดือนมิถุนายน

ผู้จัดการไม่ได้อ่านความคิดเห็น เขาจ้องรูปพวกนี้ตาค้าง

พลันนึกไปถึงเรื่องที่พนักงานในสตูดิโอพูด จากนั้นก็กดเข้าไปที่ฮอตเสิร์ชหัวข้อที่หนึ่งกับที่สาม

ราชาหน้าใหม่ม.เมืองหลวง

วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของฉินหร่านในมหาวิทยาลัยเมืองหลวง

นอกจากนี้ยังมีใบรับรองที่พวกเด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเอาออกมาโชว์

“มันเป็นยังไงกันแน่ครับ?” พ่อบ้านฉินที่อยู่อีกด้านร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว

ผู้จัดการร้อง “เอ๊ะ” จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึกๆ มองไปทางฉินซิวเฉิน ในที่สุดก็ผ่อนคลายลง “ซุปตาร์ฉิน คำชี้แจงไม่ต้องแล้ว รายการก็ไม่ต้องลงแล้ว ดูเหมือนเรื่องจะคลี่คลายได้แล้ว ก็แค่…ดังไปหน่อย”

“หลานสาวนาย…นายดูในเวยป๋อเองเถอะ…”

ไม่จำเป็นต้องให้ผู้จัดการเตือน ฉินซิวเฉินหยิบโทรศัพท์ออกมาตั้งนานแล้ว

พ่อบ้านฉินได้ยินดังนั้นก็ก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดเวยป๋อ

ส่วนฉินฮั่นชิวกำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารอยู่ในห้องครัวตลอด

ตอนที่เขาเดินออกมาเอาต้นหอม

ก็เห็นทั้งสามคนทั้งยืนทั้งนั่งอยู่ริมโต๊ะราวกับก้อนหิน

ฉินฮั่นชิวถือต้นหอมโบกมือให้ผู้จัดการ “ตอนเที่ยงอยู่ทานข้าวด้วยกันสิ คุณกินเผ็ดไหม?”

ผู้จัดการพยักหน้าทื่อๆ โดยไม่รู้ตัว

ฉินฮั่นชิวจึงรีบเดินไปที่ครัวเพื่อเตรียมทำอาหารเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง ดูเหมือนจะมีความสุขมาก

“คุณฉิน” ผู้จัดการได้สติภายในเวลาไม่กี่นาที เขามองไปทางฉินฮั่นชิวอย่างเงียบๆ “หลานสาวคุณสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยคะแนนอันดับหนึ่งของประเทศหรอ?”

ฉินฮั่นชิวได้ยินดังนั้นก็ยังคงหัวเราะด้วยท่าทางซื่อๆ ไม่ได้มีท่าทีแปลกใจเลย “ใช่แล้ว ทำไมเหรอ? ปีนี้ผู้ว่าการเมืองหนิงไห่ได้มอบเงินรางวัลให้ตั้งสองหมื่นหยวน เธอยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงได้ด้วยแน่ะ”

ผู้จัดการ “…” ตอนนี้เขาหมดปัญญาจะมองหน้าตาใสซื่อของฉินฮั่นชิวแล้ว

ส่วนคำสำคัญคือเงินสองหมื่นกับมหาวิทยาลัยเมืองหลวงงั้นเหรอ?

ใช่ ไม่ผิด เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมืองหลวงได้ แต่คุณช่วยเพิ่มคำว่า “อันดับหนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย”หน่อยไหม?

พ่อบ้านฉินถือโทรศัพท์ด้วยนิ้วที่สั่นระริกพลางเงยหน้ามองฉินฮั่นชิวด้วยความตกใจ อ้าปากพะงาบ

พ่อบ้านฉินสายตายาวเล็กน้อย แต่เขาอ่านเวยป๋อได้อย่างชัดเจน

เดิมทีเขายังคิดว่าคนที่ฉลาดที่สุดในสายเลือดตระกูลฉินรุ่นนี้คือฉินหลิงผู้มีความสามารถพิเศษด้านคอมพิวเตอร์ แต่เมื่ออ่านเวยป๋อเสร็จ เขาก็เพิ่งค้นพบว่าคนที่ฉลาดที่สุดในตระกูลฉินน่าจะเป็นฉินหร่านที่เรียนภาควิชาฟิสิกส์มหาวิทยาลัยเมืองหลวงถึงจะถูก…

ตราบใดที่เธอยินยอม การที่เธอจะได้เข้าสถาบันวิจัยภายใต้สถานการณ์นี้ก็มีปัญหาแค่เรื่องเวลาเท่านั้น…

ตอนนี้ฉินฮั่นชิวไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้จัดการและคนอื่นๆ ได้เลย ทันใดนั้นเขาก็ยืนตัวตรงด้วยความเคร่งเครียด “แย่แล้ว! ฉันลืมใส่เก๋ากี้ลงไปในซุป!”

ขณะที่พูดก็ไม่ได้สนใจคนในห้องโถง รีบถือต้นหอมวิ่งเข้าไปในครัวและเติมเก๋ากี้ลงไปในซุป

เมื่อมองไปที่ด้านหลังของฉินฮั่นชิว พ่อบ้านฉินก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนที่ดูทีวีเมื่อคืน ฉินฮั่นชิวถึงได้ดูนิ่งเงียบเมื่อฉินซิวเฉินบอกว่าไม่มีการสร้างภาพ

“นายยังโอเคไหม?” หลังจากนั้นไม่นาน ผู้จัดการก็หันไปมองฉินซิวเฉิน

แน่นอนว่าฉินซิวเฉินอาการไม่ค่อยดี…

เขาขยับโทรศัพท์แล้วตอบ “อือ” เมื่อได้ยินที่ผู้จัดการถาม

ล็อกอินเข้าเวยป๋อตัวเองและยังไล่กดไลค์ออฟฟิเชียลมหาวิทยาลัยเมืองหลวงรวมไปถึงเด็กเรียนมหาวิทยาลัยเมืองหลวงทีละคน

เวยป๋อเหล่านี้โผล่มาที่หน้าแรกของเวยป๋อเขาทันที

หลังจากทำเรื่องพวกนี้เสร็จ ฉินซิวเฉินก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เขาเปิดเวยป๋อไป๋เทียนเทียนแล้วยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “จัดการไป๋เทียนเทียนหน่อย”

ก่อนหน้านี้ไป๋เทียนเทียนทำเรื่องที่น่าหัวเราะในรายการไม่น้อย แน่นอนว่าซุปตาร์ฉินกับควีนจิ่งและคนอื่นๆ ไม่ได้ถือสาหาความกับเธอ หลังจากกลับมาแล้วไป๋เทียนเทียนก็ถูกยกเลิกสัญญา งานก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

ตอนนี้ไป๋เทียนเทียนยังใจกล้ามาก เกาะกระแสยังไม่พอ เธอยังเหยียบตำแหน่งฉินหร่าน

จุดนี้ทำให้ซุปตาร์ฉินโมโหอย่างถึงที่สุด

**

ทางด้านไป๋เทียนเทียน

ทันทีที่เธอโพสต์เวยป๋อ ความนิยมก็สูงขึ้น ตอนแรกล้วนเป็นความคิดเห็นปลอบใจเธอ

แต่พอผ่านไปครึ่งชั่วโมง ไป๋เทียนเทียนก็พบว่าความคิดเห็นเริ่มไม่ปกติ

ลักษณะความคิดเห็นเปลี่ยนไป

ประโยคนั้นที่เธอโพสต์ : (ขอบคุณทุกคน)

ชาวเน็ตเดากันว่าเธอถูกทีมรายการบังคับสร้างภาพให้ฉินหร่าน ก่อนหน้านี้มีหลายคนที่คับแค้นใจและสงสารเธอเพราะโพสต์นี้ในเวยป๋อ แต่ตอนนี้พวกเขากลับโมโหที่โดนปั่นหัว

ไป๋เทียนเทียนเห็นจำนวนผู้ติดตามลดลงอย่างรวดเร็ว เธอจึงถือโอกาสเปิดดูฮอตเสิร์ช

เริ่มกระวนกระวายใจ

ขณะนี้ โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมากะทันหัน

พอเห็นว่าเป็นผู้จัดการก็รีบรับสาย

ทางฝั่งผู้จัดการตะคอกออกมาว่า “ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าเกาะกระแสพอหอมปากหอมคอก็พอ เธอเห็นว่าซุปตาร์ฉินกับทีมรายการเป็นคนใจดีหรือไง? เธอทำตัวเองจนกลายมาเป็นสภาพแบบนี้ก็พอแล้ว ทำไมต้องลากพวกเราไปด้วย? พวกชาวเน็ตก็แค่โจมตีเธอ แต่ซุปตาร์ฉินกับบริษัทตระกูลเจียงยังรอจัดการเธออยู่ข้างหลัง เราเล่นเกมกันจบแล้ว ตอนนี้ก็ดีแล้วนี่ บรรลุเป้าหมายเธอแล้ว เธอดังแล้ว ดังได้สำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง ? !”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+