แม่ปากร้ายยุค​ 80 318 ฟางถิงพาเพื่อนมาช่วยอุดหนุน

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 318 ฟางถิงพาเพื่อนมาช่วยอุดหนุน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 318 ฟางถิงพาเพื่อนมาช่วยอุดหนุน

รออยู่สักพักก็ถึงเวลาเจ็ดโมงห้าสิบแปดแล้ว ประตูด้านหลังห้างถึงเวลาเปิดเสียที

หลินม่ายและพนักงานขายของเธอเดินตามพนักงานคนอื่น ๆ เข้าไปในตัวห้าง

พอเดินมาถึงร้านขายเสื้อผ้าบนชั้นสอง หลินม่ายก็เห็นว่าผู้จัดการหยาง ผู้จัดการฝ่ายขายของห้างซือเหมินโข่วได้เตรียมพื้นที่สำหรับเปิดร้านไว้ให้เธอแล้ว ซึ่งเป็นทำเลทองที่ดีที่สุดบนชั้นสอง

รถขนสินค้าของเฉินเฟิงมาถึงพอดี ทันทีที่ประตูด้านหลังของห้างเปิดออก ลูกน้องร่างกายกำยำของเขาก็ยกกล่องสินค้าเข้ามา

หลินม่ายพาพนักงานขายสองสามคนไปช่วยกันแขวนเสื้อผ้า

พนักงานขายหญิงเหล่านี้ต่างก็เคยผ่านงานหนักกันมาแล้วทั้งสิ้น ทันทีที่หลินม่ายออกคำสั่ง พวกหล่อนก็ช่วยกันแขวนเสื้อผ้าและจัดร้านจนเสร็จภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

หลินม่ายเหลียวซ้ายแลขวา รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป

หลังจากคิดทบทวนอยู่พักใหญ่ ที่แท้ก็ขาดสิ่งของสำคัญอย่างหนึ่งไปนี่เอง

คงเป็นการดีกว่าถ้ามีหุ่นจำลองสักตัวต่างนางแบบ สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์ Unique แล้วตั้งโชว์อยู่หน้าร้าน

ลูกค้าส่วนใหญ่คงอยากเห็นว่าเสื้อผ้าสวย ๆ พวกนี้ พออยู่บนตัวคนแล้วจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

หุ่นจำลองจะทำให้ทุกคนสามารถเห็นสรีระร่างกายเมื่อสวมใส่ได้อย่างชัดเจน

หลินม่ายรีบตรงไปหาผู้จัดการหยางทันที ครั้งแรกที่พวกเธอพบหน้ากัน หลินม่ายก็มอบซองอั่งเปาให้อีกฝ่ายแทนคำขอบคุณที่อุตส่าห์จัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้

เมื่อได้รับซองอั่งเปาทันทีที่เริ่มงาน ผู้จัดการหยางก็อารมณ์ดีมาก ตอบกลับเธอด้วยรอยยิ้ม “สมควรแล้ว สมควรแล้ว เราทั้งสองต่างก็เป็นหุ้นส่วนกันนี่คะ”

หลังจากนั้น หลินม่ายก็ร้องขอหุ่นจำลองสองสามตัวอย่างไม่รอช้า

ผู้จัดการหยางอึ้งไปครู่หนึ่ง อดคิดในใจไม่ได้ว่า สาวน้อยคนนี้ฉลาดใช้งานคนเกินไปแล้ว

เธอยื่นอั่งเปาให้ก่อน จากนั้นค่อยร้องขอ แบบนี้หล่อนก็จะไม่สามารถปฏิเสธได้

โชคดีที่ยังมีหุ่นจำลองอีกหลายตัวที่ยังไม่ถูกใช้งานอยู่ในโกดัง ผู้จัดการหยางรีบจัดแจงให้คนไปทำความสะอาดหุ่นจำลองพวกนั้น แล้วส่งให้กับหลินม่าย

หุ่นจำลองที่ได้รับมีทั้งหมดสี่ตัว หลินม่ายเลือกเสื้อผ้าที่มีสไตล์ต่างกันใส่ให้กับหุ่นทั้งสี่

สุดท้ายก็จัดการเอาเสื้อยกทรงหลายร้อยตัวบนรถเข็นที่ยืมมาจากทางห้างขึ้นแขวน ในที่สุดกระบวนการทุกอย่างก็เสร็จสิ้น

ถึงเวลาห้างสรรพสินค้าเปิดทำการแล้ว

หลินม่ายแบ่งหน้าที่ให้พนักงานสาวคนหนึ่งรับผิดชอบขายชุดชั้นใน ส่วนพนักงานสาวอีกสองคนให้ช่วยกันขายเสื้อผ้าแบรนด์ Unique

พนักงานสาวที่ได้รับมอบหมายให้ขายชุดชั้นในกลับยืนทำหน้าแดงด้วยความลำบากใจ

หลินม่ายเห็นแล้วแต่คอยดูอยู่ห่าง ๆ ถึงอีกฝ่ายจะลำบากใจ แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็ต้องทำหน้าที่

ถ้าไม่มีความกล้าแม้แต่จะเสนอขายสินค้า แล้วจะยังมีคุณสมบัติพอจะเป็นพนักงานขายอยู่หรือ?

ห้างสรรพสินค้าเพิ่งจะเปิดทำการได้แค่สิบห้านาที สาว ๆ ทั้งหลายต่างก็กรูกันมาซื้อเสื้อผ้าบนชั้นสอง

ทันทีที่ลูกค้าสาวเหล่านั้นขึ้นไปยังชั้นบน สายตาของพวกเธอก็สะดุดเข้ากับป้ายโปสเตอร์เสื้อผ้าสีสันสวยงามของหลินม่าย

ต่างคนต่างชี้ชวนกันดู ทุกคนต่างชื่นชมความสวยของนางแบบและเสื้อผ้า จากนั้นก็ตรงดิ่งไปที่ร้านเสื้อผ้า Unique อย่างไม่รอช้า

เสื้อผ้าแบรนด์ Unique มีสไตล์ที่ทั้งสวยและทันสมัย ฝีมือการตัดเย็บดี อีกทั้งรูปทรงยังประณีต ทำให้ได้ใจใครหลายคน

ในเรื่องของราคา ราคาอยู่ในระดับที่เทียบเท่ากับเสื้อผ้าที่ผลิตจากโรงงานของรัฐ

แต่รูปแบบเสื้อผ้าที่ผลิตโดยโรงงานของรัฐนั้นคุณภาพไม่ดีเท่า แถมยังล้าสมัยเกินไป ฝีมือการตัดเย็บยิ่งเทียบไม่ติด

โดยเฉพาะกระดุมเสื้อที่มักจะมีตำหนิอยู่เสมอ เป็นเพราะกระดุมถูกเย็บย้ำแค่สองรอบ ทำให้เวลาสวมใส่บนร่างกายแล้วมักจะหล่นหายง่าย

จากการเปรียบเทียบดังกล่าว เสื้อผ้าแบรนด์ Unique ชนะในทุก ๆ ด้าน ลูกค้าพร้อมใจกันเลือกซื้ออย่างไม่ลังเล

ขณะที่บรรดาลูกค้ากำลังเลือกซื้อเสื้อผ้า พนักงานขายในร้านก็หมั่นเดินวนเวียนพร้อมกับแนะนำพวกเธอว่า พวกคุณจะได้รับส่วนลดจำนวนห้าหยวน ถ้ายอดรวมการสั่งซื้อมากกว่าสามสิบเก้าหยวน

ตอนนี้ในร้านเสื้อผ้า Unique ขายเฉพาะเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ในช่วงฤดูร้อน เสื้อที่มีราคาแพงที่สุดในร้านก็มีราคาอยู่ที่สามสิบหยวนเท่านั้น ดังนั้นถ้าต้องการส่วนลดห้าหยวน ก็ต้องซื้อเสื้อสองตัว

ลูกค้าหลายคนต่างเลือกซื้อเสื้อผ้ากันคนละสองตัวเพื่อรับส่วนลดตามคำแนะนำ

กิจการของหลินม่ายขายดีมาก เสื้อยกทรงก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน

ลูกค้าหลายคนที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ในร้าน ต่างก็สะดุดตากับเสื้อยกทรงสีสันสดใสที่สวมอยู่บนตัวหุ่นจำลอง

ลูกค้าสาวที่ขี้อายยังสงวนท่าที ยืนอยู่ในจุดที่ห่างออกไปหนึ่งถึงสองเมตร เอียงคอมองอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

ส่วนลูกค้าสาวที่มั่นใจในตนเองและมีฐานะ ต่างยืนห้อมล้อมหุ่นจำลองตัวนั้นอย่างไม่รู้สึกขวยเขิน ถามราคาจากพนักงานด้วยความสนใจ

ถึงแม้ตอนแรกพนักงานขายที่รับผิดชอบจะเขินอายอยู่บ้าง แต่หลังจากได้รับการฝึกปรืออย่างเข้มงวดจากหลินม่าย ไม่ทันไรก็สวมจิตวิญญาณนักขายมืออาชีพอีกครั้ง

ข่มความอายลงไป ถึงเวลาต้องขายชุดชั้นในแล้ว

หลินม่ายเห็นว่าพนักงานขายทุกคนเริ่มทำงานคล่องกันประมาณหนึ่งแล้ว เธอก็เดินเข้าไปกำชับให้พวกหล่อนผลัดหน้าที่กันมาขายชุดชั้นใน จากนั้นก็เตรียมจะจากไป

ฟางถิงพูดคุยเสียงดังเจี้ยวจ้าว เดินมากับบรรดาสาว ๆ ที่หน้าตาสะสวยและแต่งตัวทันสมัย

ยังไม่ทันเดินมาถึงตัว หล่อนก็ทักทายหลินม่ายจากระยะไกล “ม่ายจื่อ ฉันพาเพื่อนมาช่วยอุดหนุนเธอตามสัญญาแล้ว”

หลินม่ายพูดขอบคุณหล่อนซ้ำ ๆ จากนั้นก็เดินไปบริการลูกค้าสาวกลุ่มนั้นด้วยตัวเอง

เธอเรียกลูกค้าสาวกลุ่มนี้ว่า ‘คนสวย’ ไม่ขาดปาก นั่นทำให้พวกหล่อนรู้สึกชอบใจมาก

จีนแผ่นดินใหญ่ในยุคสมัยนี้ได้รับอิทธิพลต่าง ๆ มาจากทางฮ่องกง ในภาพยนตร์ฮ่องกงหลายเรื่องชอบเขียนบทให้พระเอกเรียกผู้หญิงหน้าตาดีว่า ‘คนสวย’

ไม่แปลกที่สาว ๆ เหล่านี้จะปลื้มใจเป็นพิเศษเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกตัวเองว่าคนสวย!

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หญิงสาวที่มีฐานะทางครอบครัวดีมักจะมีกำลังซื้อสูง

เพื่อนสาวรุ่นน้องของฟางถิงหลายคนเลือกซื้อชุดกระโปรงกันคนละสองสามตัว แถมยังซื้อชุดชั้นในไปอีกจำนวนหนึ่ง

พอเห็นว่าเสื้อยกทรงขายดี หลินม่ายก็โล่งใจ

นับตั้งแต่ที่เธอประสบความล้มเหลวในตอนที่ลากรถเข็นออกไปขายเสื้อยกทรงด้วยตัวเอง เธอกังวลเล็กน้อยว่ามันอาจไม่เป็นที่นิยมจริง ๆ แต่ตอนนี้เธอไม่กังวลอีกต่อไป

หลังจากให้บริการกับกลุ่มเพื่อน ๆ ของฟางถิงแล้ว หลินม่ายก็รีบเดินทางต่อไปที่ห้างสรรพสินค้าเจียงเฉิง

เถาจืออวิ๋นมีความสามารถมากในด้านการออกแบบเสื้อผ้า แต่ทักษะด้านอื่น ๆ ของหล่อนยังอ่อนแอ หลินม่ายแอบห่วงว่าหล่อนอาจรับมือกับงานใหญ่ในวันนี้ไม่ได้

ทันทีที่มาถึงห้างสรรพสินค้าเจียงเฉิง ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ผู้คนจำนวนมากต่างหลั่งไหลเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเจียงเฉิงไม่ขาดสาย ทำให้ภายในห้างค่อนข้างแออัดยัดเยียด

เธอรีบวิ่งขึ้นไปที่โซนขายเสื้อผ้าบนชั้นสองภายในชั่วพริบตาเดียว

ผู้จัดการข่งไม่ได้ใจดีเท่ากับผู้จัดการหยาง เขาจัดสรรพื้นที่ร้านให้เธออยู่ในมุมที่ห่างไกลสายตามากกว่า

โชคดีที่ห้างนี้เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในเจียงเฉิง ลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะจัดวางสินค้าไว้ตรงมุมไหน ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะขายไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น เสื้อผ้าของหลินม่ายยังมีข้อได้เปรียบในทุก ๆ ด้าน ราคายุติธรรม คนจึงแห่ซื้อกันคึกคัก ทำให้ร้านเสื้อผ้า Unique เล็ก ๆ คลาคล่ำไปด้วยผู้คน

ร้านที่ขายเสื้อผ้าซึ่งผลิตจากโรงงานของรัฐดูเงียบเหงาไปถนัดตา ทำให้มองเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน

พนักงานขายเสื้อผ้าจากโรงงานของรัฐต่างชะเง้อคอมองพนักงานขายในร้านเสื้อผ้า Unique ด้วยความอิจฉาที่พวกหล่อนงานยุ่งจนมือพันกันเป็นหนวดปลาหมึก

พลางอดคิดในใจไม่ได้ว่าถ้าพวกหล่อนขายเสื้อผ้าดีเป็นเทน้ำเทท่าแบบนี้บ้าง จะได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นถล่มทลายแค่ไหนกันนะ!

หลินม่ายเดินตรงไปที่ร้านของตัวเอง เห็นว่าเถาจืออวิ๋นกำลังเสนอขายยกทรงด้วยตัวเอง

ภาพจำตอนที่อีกฝ่ายนั่งงอมืองอเท้าอยู่หน้าแผงในตลาดมืดแทบไม่เหลืออยู่ หล่อนทุ่มเทให้กับการขายยกทรงอย่างสุดพลัง

นอกจากความสวยงามของมันแล้ว ยังมีข้อดีในด้านสุขภาพ

หล่อนตบหน้าอกตัวเอง “คุณดูทรวดทรงของฉันสิคะ เห็นหรือเปล่าว่าตรงหน้าอกค่อนข้างเชิดขึ้นและอยู่ทรงเป็นพิเศษ? นั่นเป็นเพราะฉันสวมเสื้อยกทรงเดียวกันกับที่ขายนี่แหละค่ะ มันส่งผลทำให้เราดูโดดเด่นขึ้นมาได้!”

ลูกค้าหลายคนต่างตกตะลึงกับถ้อยคำเสนอขายที่ตรงไปตรงมาของหล่อน แต่เสื้อยกทรงนี้ก็ให้ผลลัพธ์ทางการสวมใส่ที่ดีจริง ๆ หากพวกหล่อนใส่บ้างก็คงสวยไม่แพ้คนขาย

ลูกค้าที่มีฐานะดีตัดสินใจซื้ออย่างไม่ลังเล

ลูกค้าคนอื่น ๆ ที่มีกำลังทรัพย์อยู่ในระดับที่พอใช้จ่าย ถึงพวกหล่อนสนใจซื้อ แต่ก็ลังเลที่จะจ่ายเงินจำนวนมากในคราวเดียว ดังนั้นจึงได้แต่เหลือบมองสองสามหน

ของชิ้นนี้ยังไม่จำเป็นขนาดนั้น เงินในกระเป๋าของพวกเขาสามารถซื้ออย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่าการซื้อเสื้อยกทรง

หลินม่ายยิ้มพลางถามเถาจืออวิ๋น “ทำไมวันนี้พี่ดูกล้าได้กล้าเสียจังล่ะ?”

เถาจืออวิ๋นยิ้มอย่างอาย ๆ “ฉันแค่อายตอนออกไปตั้งแผงขายของข้างนอกเท่านั้นแหละ อยู่ในห้างสรรพสินค้าแบบนี้ฉันก็ไม่กลัวแล้ว”

หลินม่ายบอกให้หล่อนหาพนักงานขายคนอื่นมาทำหน้าที่ขายเสื้อยกทรงแทนบ้าง จากนั้นก็ขอตัวกลับบ้านไปกินอาหารมื้อกลางวัน

เถาจืออวิ๋นลำบากใจเล็กน้อย “สาว ๆ ในร้านไม่มีใครกล้าขายเสื้อยกทรงเลย พอฉันขอความร่วมมือ ทุกคนก็พากันบ่ายเบี่ยง”

“ถ้าอย่างนั้นก็สลับเวรให้พวกหล่อนได้ขายกันอย่างถ้วนหน้าสิ จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง”

หลินม่ายคิดว่าถ้ามอบหมายหน้าที่ขายเสื้อยกทรงให้คนคนเดียว นานไปอาจสร้างความกดดันให้อีกฝ่ายได้ ดังนั้นจึงกำชับให้พนักงานขายทุกคนซึ่งประจำอยู่ที่ห้างซือเหมินโข่วผลัดกันขาย จะได้ไม่มีใครอับอายไปกว่าใคร

เถาจืออวิ๋นตบหน้าผากตัวเองเสียงดัง “ทำไมฉันถึงคิดวิธีนี้ไม่ออกกันนะ?”

หลังจากส่งต่องานให้กับพนักงานขายทั้งสามคนแล้ว เถาจืออวิ๋นก็กลับบ้านพร้อมกับหลินม่าย

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

จับจุดแข็งได้ก็เป็นฝ่ายได้เปรียบล่ะ

ยกทรงที่ดีมันช่วยเรื่องสุขภาพจริงๆ นะคะ ถ้าได้รูปแบบที่พอดีตัวจะไม่ปวดหลังหรือโดนกดทับเลย

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *