แม่ปากร้ายยุค​ 80 687 กลายเป็นโสเภณี

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 687 กลายเป็นโสเภณี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 687 กลายเป็น​โสเภณี

นับตั้งแต่​ถูก​ลอบ​โจมตี​ครั้ง​ล่าสุด​ หลิน​ม่าย​ได้​ว่าจ้าง​คน​ให้​คอย​ติดตาม​ความเคลื่อนไหว​ของ​ไป๋​ซวง​อย่าง​ลับ​ ๆ

ในไม่ช้า​หลิน​ม่าย​ก็​ได้รับ​ข่าว​ว่า​ไป๋​ซวง​กลายเป็น​โสเภณีไป​แล้ว​

ดังนั้น​เธอ​จึงโทร​หา​ตำรวจ​โดยไม่เปิดเผย​ชื่อ​ และ​ตำรวจ​ก็​ติดตาม​เบาะแส​ที่​เธอ​ให้​ทาง​โทรศัพท์​เพื่อ​ปราบปราม​สื่อลามก​และ​จับ​ไป๋​ซวง​ซึ่งเป็น​หญิง​ค้าประเวณี​

ไม่มีอาชญากรรม​ด้าน​การค้าประเวณี​ใน​จีน​มานาน​แล้ว​ และ​การ​ปราบปราม​ก็​สิ้นสุดลง​ ดังนั้น​จึงไม่มีการกวาดล้าง​อีกต่อไป​

แม้ว่า​ไป๋​ซวง​จะถูก​จับกุม​ แต่​ก็​เป็น​เพียง​การ​ละเมิด​ระเบียบสังคม​เท่านั้น​

หลิน​ม่าย​ไม่ต้องการ​ปล่อย​ไป๋​ซวง​ไป​

เธอ​กระจาย​ข่าว​การค้าประเวณี​ของ​ไป๋​ซวง​อย่าง​เงียบงัน​จน​เรื่อง​ถึงหู​มหาวิทยาลัย​เย​ว่​จีที่​หล่อน​เรียน​อยู่​ รวมถึง​ลวี่กั๋วตง​และ​อู่​ผิง​แม่เลี้ยง​ของ​เขา​

มหาวิทยาลัย​เย​ว่​จีที่​ไป๋​ซวง​เข้าเรียน​ได้​ไล่​หล่อน​ออก​ทันที​หลังจาก​สืบหา​ความจริง​

เมื่อ​ลวี่กั๋วตง​ได้ยิน​ข่าว​การค้าประเวณี​ของ​ไป๋​ซวง​ เขา​ก็​ไม่อยาก​เชื่อ​ และ​เชื่อ​ว่า​มีคนอื่น​กระจาย​ข่าวลือ​

ไป๋​ซวง​ผู้บริสุทธิ์​และ​สง่างามเช่นนี้​จะกลายเป็น​โสเภณีได้​อย่างไร​!

สิ่งแรก​ที่​เขา​นึกถึง​ก็​คือ​หลิน​ม่าย​สร้าง​ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​ไป๋​ซวง​ ดังนั้น​เขา​จึงไป​ที่​มหาวิทยาลัย​ของ​หลิน​ม่าย​เพื่อ​ถามอาจารย์​

เมื่อ​ตำรวจ​ได้รับ​คำแนะนำ​จาก​หลิน​ม่าย​เรื่อง​การค้าประเวณี​ คน​ที่​หลิน​ม่าย​ส่งไป​ตรวจสอบ​ไป๋​ซวง​ก็​ทำ​ตามคำแนะนำ​ของ​เธอ​โดย​การแอบ​ถ่ายรูป​ไป๋​ซวง​ยาม​ถูก​ตำรวจ​จับเป็น​จำนวนมาก​

หลิน​ม่าย​ไม่สนใจ​ที่จะ​พูด​อะไร​กับ​ลวี่กั๋วตง​เลย​ เธอ​โยน​รูปถ่าย​ที่​ไม่น่าดู​เหล่านั้น​ใส่หน้า​เขา​แล้ว​จากไป​

ลวี่กั๋วตง​หยิบ​ภาพถ่าย​เหล่านั้น​ขึ้น​มาจาก​พื้น​ ยิ่ง​หยิบ​ขึ้น​มามาก​เท่าไร​ สีหน้า​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​ตกตะลึง​มาก​เท่านั้น​

สิ่งที่​เขา​ชอบ​ตั้ง​แต่ต้น​คือ​ความไร้เดียงสา​และ​ความสง่างาม​ของ​ไป๋​ซวง​ ไม่ใช่รูปร่างหน้าตา​ของหล่อน​

รูปร่างหน้าตา​ของหล่อน​ดู​ธรรมดา​เกินไป​ ชนิด​ที่​ไม่สามารถ​หา​ตัว​พบ​ใน​ยาม​ถูกจับ​ท่ามกลาง​ฝูงชน​

ตัว​หล่อน​ใน​ตอนนี้​ไร้ค่า​แล้ว​ ลวี่กั๋วตง​ไม่อาจ​ยอมรับ​ผู้หญิง​สกปรก​เช่นนี้​ได้​ ดังนั้น​เขา​จึงเลิก​กับ​หล่อน​

อู่​ผิง​ต้องการ​ให้​ลูกเลี้ยง​ของ​ตน​เลิก​กับ​หญิง​แพศยา​อย่าง​ไป๋​ซวง​อยู่แล้ว​ แต่​ไม่ว่า​หล่อน​จะเกลี้ยกล่อม​เขา​มาก​แค่​ไหน​ เขา​ก็​ไม่ฟัง

เมื่อ​ได้ยิน​ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​การค้าประเวณี​ของ​ไป๋​ซวง​ หล่อน​ก็​ไป​ยัง​สถานีตำรวจ​ทันที​เพื่อ​สอบถาม​ และ​มัน​ก็​เป็น​เช่นนั้น​จริง​

อู่​ผิง​มีความสุข​มาก​ และ​ขอ​หลักฐาน​จาก​ตำรวจ​เกี่ยวกับ​การค้าประเวณี​ของ​ไป๋​ซวง​เพื่อ​นำ​กลับมา​ให้​ลวี่กั๋วตง​ดู​ พร้อมทั้ง​พยายาม​เกลี้ยกล่อม​ลวี่กั๋วตง​อย่าง​จริงจัง​ให้​ตัด​การ​ติดต่อ​กับ​ไป๋​ซวง​

ลวี่กั๋วตง​ตัดสินใจ​แล้ว​ แต่​เมื่อ​เห็น​หน้า​หล่อน​ เขา​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​

ไป๋​ซวง​ไม่รู้​เรื่องอื้อฉาว​ใน​การค้าประเวณี​ของ​ตน​ แต่​ลวี่กั๋วตง​และ​แม่ของ​เขา​รู้เรื่อง​นี้​แล้ว​ หลังจาก​การ​ควบคุมตัว​ทางอาญา​สิ้นสุดลง​ หล่อน​ก็​พูดพล่าม​เพื่อ​ขอให้​ลวี่กั๋วตง​ไป​ช้อปปิ้ง​ด้วยกัน​

เหตุผล​ที่​ไป๋​ซวง​มาหา​ลวี่กั๋วตง​อย่าง​โจ๋งครึ่ม​ ก็​เพื่อ​ทำให้​อู่​ผิง​โกรธ​

หล่อน​รู้​ว่า​อู่​ผิง​ไม่ชอบ​ตน​ตั้งแต่​ครั้งแรก​ที่​เห็น​ ดังนั้น​หล่อน​จึงต้องการ​ให้​ลวี่กั๋วตง​เชื่อฟัง​ตน​เพื่อ​ยั่วโมโห​อู่​ผิง​!

แม้ลวี่กั๋วตง​จะรู้สึก​เสียใจ​ต่อ​อู่​ผิง​ แต่​เพราะ​เขา​รัก​ไป๋​ซวง​มาก​ เขา​จึงยอม​เห็น​แม่เลี้ยง​เสียใจ​มากกว่า​ที่จะ​เห็น​ไป๋​ซวง​ร้องไห้​ และ​เขา​ก็​เชื่อฟัง​ไป๋​ซวง​ทุกครั้ง​

แต่​วันนี้​เขา​ไม่ยอม​อีกต่อไป​

เขา​โยน​รูปถ่าย​ไม่น่าดู​ที่​หลิน​ม่าย​มอบให้​ใส่หน้า​ไป๋​ซวง​และ​พูด​อย่าง​เย็นชา​ “ไปให้พ้น​ อย่า​มาหา​ฉัน​อีก​!”

เมื่อ​ไป๋​ซวง​เห็นภาพ​เหล่านั้น​ ตอนแรก​หล่อน​ก็​ตกใจ​มาก​และ​ร้องไห้​อย่าง​สมเพช​

กล่าวว่า​หล่อน​เป็น​โสเภณีก็​เพราะ​ไม่มีทางเลือก​อื่น​ จึงต้อง​ใช้วิธี​นี้​ให้​ลวี่กั๋วต้ง​เห็นใจ​

หาก​ไม่ใช่เพราะ​เขา​ถูก​กักขัง​ หาก​มีอาหาร​และ​เสื้อผ้า​เพียงพอ​ หล่อน​จะกลายเป็น​โสเภณีได้​อย่างไร​!

เธอ​ทำ​สิ่งที่​ไร้ยางอาย​เช่นนี้​โดย​ยังคง​หวัง​ว่า​ผู้คน​จะเข้าใจ​และ​รับรู้​ว่า​เธอ​ทำ​ทั้งหมด​เพราะ​ความจำเป็น​

ลวี่กั๋วตง​ตกตะลึง​ “ทำ​เพราะ​ความจำเป็น​เหรอ​? เธอ​น่ะ​รัก​สบาย​ต่างหาก​! เธอ​ไป​เป็น​พี่เลี้ยง​ให้​คนอื่น​ เก็บกวาด​ข้าง​ถนน​ หรือ​อะไร​ก็​ได้ที่​ไม่ต้อง​อดตาย​ได้​ถมเถ ไม่ใช่เลือก​เป็น​โสเภณี! “

เมื่อ​เห็น​ว่า​ไม่สามารถ​เอา​ชนะใจ​ของ​ลวี่กั๋วตง​กลับคืน​มาได้​ ไป๋​ซวง​ก็​เปลี่ยน​สีหน้า​ทันที​ ชี้หน้า​เขา​พลาง​กล่าว​

“ไม่ว่า​ฉัน​จะเป็น​ยังไง​ในอนาคต​ มัน​ก็​ล้วน​มีสาเหตุ​มาจาก​การ​ที่​นาย​เพิกเฉย​ต่อ​ฉัน​ใน​วันนี้​ ฉัน​จะทำให้​นาย​รู้สึก​ผิด​ไป​ตลอดชีวิต​!”

ลวี่กั๋วตง​รู้สึก​ขบขัน​กับ​คำพูด​ของหล่อน​

คิด​ว่า​คำขู่​เพียงเท่านี้​จะทำให้​เขา​สนับสนุน​การ​เป็น​โสเภณีของหล่อน​เหรอ​?!

เมื่อ​หลิน​ม่าย​เห็น​ว่า​ลวี่กั๋วต้ง​ได้​ทิ้ง​ไป๋​ซวง​ไป​แล้ว​ และ​ไป๋​ซวง​ก็​ไม่อาจ​สร้าง​ปัญหา​ใหญ่​ได้​อีกต่อไป​ เธอ​จึงทิ้ง​เรื่อง​นี้​ไว้​เบื้องหลัง​ หันมา​จดจ่อ​กับ​การเรียน​และ​อาชีพ​ของ​เธอ​

วิศวกรรม​ข้อมูล​อิเล็กทรอนิกส์​เป็นความ​ท้าทาย​อย่าง​มาก​สำหรับ​เธอ​ และ​เป็นเรื่อง​ยาก​มาก​ที่จะ​เรียนรู้​

โชคดี​ที่​เธอ​ได้​พบ​กับ​รุ่นพี่​ชื่อ​ฉือเล่ย​ ด้วย​คำแนะนำ​ของ​เขา​ หลิน​ม่าย​จึงเรียนรู้​ได้​ดีกว่า​เพื่อนร่วมชั้น​

เพียง​พริบตาเดียว​ วัน​เสาร์​ก็​เดินทาง​มาถึงอีก​ครา​ หลัง​เลิกเรียน​ตอนบ่าย​ หลิน​ม่าย​ก็​ไป​ยัง​หอพัก​เพื่อ​เก็บ​กระเป๋า​กลับบ้าน​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ยุ่ง​กับ​งาน​และ​ไม่มีเวลา​ไป​รับ​เธอ​ เธอ​จึงเลือก​ที่จะ​นั่ง​รถบัส​กลับบ้าน​

ตอนนี้​เป็นช่วง​ปลายเดือน​ตุลาคม​แล้ว​ อุณหภูมิ​ใน​ช่วง​เช้าและ​เย็น​ก็​หนาวเหน็บ​อย่าง​มาก​

หลิน​ม่าย​หยิบ​เสื้อ​โค้ท​ของ​เธอ​และ​ออกจาก​หอพัก​

เมื่อ​ผ่าน​หอพัก​ที่​หลูเชวี่ย​และ​สวี​ชิงห​ยา​อาศัย​อยู่​ เธอ​ก็​ได้ยิน​สวี​ชิงห​ยา​ร้องไห้​มาจาก​ข้างใน​ “เธอ​ดูถูก​ฉัน​ที่​มาจาก​ชนบท​ เธอ​ล้อเลียน​ฉัน​งั้น​เหรอ​?”

หลังจากนั้น​เสียง​ของ​หลูเชวี่ย​ก็​ดัง​ขึ้น​ “ฉัน​ไม่ได้​ล้อเลียน​เธอ​ นี่​คือ​อัลมอนด์​อเมริกัน​ ไม่ใช่แค่​เธอ​ที่​ไม่เคย​กิน​มัน​ แต่​ทุก​คนใน​หอพัก​ก็​ไม่เคย​กิน​เหมือนกัน​ อย่า​คิดมาก​น่า​ ตกลง​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​ไม่ได้​หยุด​ฟัง

ไม่ใช่ว่า​เพราะ​เธอ​ไม่ได้​เป็น​เพื่อนร่วมห้อง​กับ​สวี​ชิงห​ยา​อีกต่อไป​

แต่​เป็น​เพราะ​เธอ​คำนวณ​ถึงสิ่งที่จะ​เกิดขึ้น​หลังจากนี้​ได้​

ไม่ว่า​เธอ​และ​เพื่อนร่วมห้อง​จะอธิบาย​อย่างไร​กับ​องค์การ​นักศึกษา​ โดยเฉพาะ​หลูเชวี่ย​ว่า​พวกเขา​ไม่ได้​แยกตัว​ กีดกัน​ หรือ​ดูถูก​สวี​ชิงห​ยา​ ก็​จะไม่มีใคร​เชื่อ​พวก​เธอ​

ทำได้​เพียง​ปล่อย​ให้​หลูเชวี่ย​สัมผัส​กับ​ความเจ็บปวด​ที่เกิด​จาก​เส้นประสาท​อัน​บอบบาง​ของ​สวี​ชิงห​ยา​

ทันทีที่​ออกจาก​หอพัก​ หลิน​ม่าย​ก็​เห็น​จ้าว​ซั่ว​หยาง​

ชาย​อ้วน​พุงพลุ้ยคน​นี้​กำลัง​ถือ​ช่อดอกไม้​รอ​เธอ​อยู่​ที่​ประตู​หอพัก​

ทุกวันนี้​เขา​ตามติด​เธอ​ตลอดเวลา​ราวกับ​แมลงหวี่​แมลงวัน​ ไม่ว่า​เธอ​จะพยายาม​ขับไล่​มาก​เพียงใด​ก็​ไม่อาจ​กำจัด​ได้​

ทันทีที่​จ้าว​ซั่ว​หยาง​เห็น​เธอ​ เขา​ก็​เดิน​ไปหา​หลิน​ม่าย​

ก่อนที่​เขา​จะทัน​ได้​เข้าใกล้​หลิน​ม่าย​ หลิน​ม่าย​ก็​เตะ​เขา​ล้ม​ลง​กับ​พื้นเสีย​ก่อน​

เป็น​เรื่องสำคัญ​มาก​ที่จะ​ต้อง​มีศิลปะ​การต่อสู้​ที่​ดี​ มิฉะนั้น​จะไม่มีทาง​จัดการ​กับ​พวก​อันธพาล​ประเภท​นี้​ได้​

หลิน​ม่าย​คุกเข่า​ลง​ข้าง ๆ​ จ้าว​ซั่ว​หยาง​และ​เตือน​เขา​ด้วย​เสียงต่ำ​ “หยุด​รบกวน​ฉัน​ ไม่เช่นนั้น​ฉัน​จะรายงาน​นาย​ต่อ​ผู้นำ​มหาวิทยาลัย​ว่า​นาย​พยายาม​ทำร้าย​ฉัน​!”

จ้าว​ซั่ว​หยาง​เช็ด​เลือด​จาก​มุมปาก​ของ​เขา​ “ไป​ฟ้อง​สิ เธอ​มีหลักฐาน​ที่จะ​พิสูจน์​เหรอ​ว่า​ฉัน​ทำ​จริง​ไหม​?”

เมื่อ​เห็น​ท่าทาง​นิ่งเฉย​ของ​หลิน​ม่าย​ เขา​ก็​เยาะเย้ย​พลาง​กล่าว​ “เธอ​คิด​ว่า​ฉัน​คือ​สวี​ชิงห​ยา​ที่​หวาดกลัว​ต่อ​คำขู่​ของ​เธอ​เหรอ​?”

ดวงตา​ของ​หลิน​ม่าย​เต็มไปด้วย​การ​เหน็บแนม​ “หาก​ฉัน​ฟ้อง​นาย​ใน​เรื่อง​การ​ลอบทำร้าย​ไม่ได้​ ฉัน​ก็​จะฟ้อง​นาย​เรื่อง​ที่​พยายาม​ยุ่ง​เกี่ยวกับ​หญิง​ที่​แต่งงาน​แล้ว​!”

จ้าว​ซั่ว​หยาง​ยืน​ขึ้น​จาก​พื้น​ด้วย​ท่าทาง​เย่อหยิ่ง​ “ฟ้อง​ได้​เลย​ ตราบใดที่​มหาวิทยาลัย​กล้า​จัดการ​กับ​ฉัน​ ฉัน​ก็​จะยอมแพ้​ให้​!”

หลิน​ม่าย​ก็​ยืน​ขึ้น​เช่นกัน​ จ้องมอง​ไป​ยัง​ใบหน้า​ปีศาจ​หมู​ของ​เขา​ด้วย​รู้สึก​ขยะแขยง​จน​แทบจะ​อาเจียน​

ห​ลิ​ย​ม่าย​ทราบ​จาก​อินเทอร์เน็ต​ใน​ชีวิต​ที่แล้ว​ว่า​ เขา​มีพื้นฐาน​ครอบครัว​ที่​เข้มแข็ง​

แม้เขา​จะสร้าง​ปัญหา​มาก​เพียงใด​ใน​มหาวิทยาลัย​ เขา​ก็​จะได้รับ​การยกเว้น​โทษ​เพราะ​อำนาจ​ของ​ครอบครัว​ ดังนั้น​เขา​จึงไม่เกรงกลัว​หาก​หลิน​ม่าย​จะฟ้อง​ผู้มีอำนาจ​ใน​มหาวิทยาลัย​

ไม่มีอะไร​ที่​เธอ​สามารถ​ทำได้​ต่อ​ปีศาจ​หมู​ตัว​นี้​จริง ๆ​ เหรอ​?

ใน​ขณะนี้​ เสียง​เบรก​รถ​ก็​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านหลัง​

หลิน​ม่าย​หัน​กลับมา​ และ​เห็น​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก้าว​ลง​จาก​รถจี๊ป​

เขา​มอง​ไป​ยัง​จ้าว​ซั่ว​หยาง​และ​ถามหลิน​ม่าย​ “เกิด​อะไร​ขึ้น​?”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

หมดเคราะห์​แล้ว​นะ​ไอ้​หนุ่ม​ ทีหลัง​อย่า​ไป​คบ​กับ​นัง​งูพิษ​อีก​นะ​

เดี๋ยว​เจอ​พี่​หมอ​แน่​นาย​ปีศาจ​หมู​ บังอาจ​มายุ่ง​กับ​ภรรยา​หมาดๆ​ ของ​เขา​

ไหหม่า​(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด