แม่ปากร้ายยุค​ 80 679 ลอบทำร้ายในตอนเช้า

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 679 ลอบทำร้ายในตอนเช้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 679 ลอบทำร้าย​ใน​ตอนเช้า​

สวี​ชิงห​ยา​ร้องไห้​ใน​หอพัก​ทั้ง​กลางวัน​และ​กลางคืน​ราวกับว่า​คน​ทั้ง​หอพัก​กำลัง​กลั่นแกล้ง​หล่อน​

หลาย​คน​ถามเธอ​ว่า​ทำไม​หล่อน​ถึงเอาแต่​ร้องไห้​ แต่​หล่อน​ก็​ไม่ได้​อธิบาย​ เพียง​ร่ำไห้​อยู่​อย่างนั้น​ไม่หยุดหย่อน​

นักศึกษา​หลาย​จึงเริ่ม​เชื่อ​ว่า​หลิน​ม่าย​และ​คนอื่น​ ๆ กลั่นแกล้ง​สวี​ชิงห​ยา​

นักศึกษา​บางคน​ที่​ประพฤติ​ตัว​ราวกับ​นัก​ผดุง​ความยุติธรรม​ต่าง​ต่อว่า​หลิน​ม่าย​และ​เพื่อนร่วมห้อง​

พวกเขา​รายงาน​ต่อ​องค์การ​นักศึกษา​พร้อม​ขอให้​ให้​เจ้าหน้าที่​องค์การ​ตำหนิ​หลิน​ม่าย​และ​คนอื่น​ ๆ

เหล่า​เพื่อนร่วมห้อง​รู้สึก​ไม่พอใจ​อย่าง​มาก​จึงตัดสินใจ​ร้องขอ​อาจารย์ที่ปรึกษา​เปลี่ยน​หอพัก​

หลิน​ม่าย​เอง​ก็​ทำ​แบบ​เดียวกัน​

เธอ​ไม่อยาก​เผชิญหน้า​กับ​คน​ที่​เอาแต่​ให้ร้าย​ผู้อื่น​และ​ปล่อย​พลัง​ด้าน​ลบ​ทุกวัน​

ที่ปรึกษา​ได้รับ​คำร้อง​และ​รายงาน​ต่อ​ผู้บังคับบัญชา​ หลัง​ได้รับ​การอนุมัติ​ พวกเขา​ก็​จัด​หอพัก​ให้​กับ​ทั้ง​เจ็ด​คน​

สวี​ชิงห​ยา​ร้องไห้​เสียใจ​มากยิ่งขึ้น​ รู้สึก​ว่า​แม้แต่​มหาวิทยาลัย​ก็​ยัง​เลือก​ปฏิบัติ​ต่อ​หล่อน​

มหาวิทยาลัย​ไม่มีทางเลือก​อื่น​นอกจาก​เอ่ย​ถามความสมัครใจ​นักศึกษา​ที่​เต็มใจ​พัก​ร่วม​หอพัก​เดียวกัน​กับ​สวี​ชิงห​ยา​

เพื่อนร่วมชั้น​ที่​เห็นอกเห็นใจ​สวี​ชิงห​ยา​ต่าง​ยก​มือขึ้น​ทีละ​คน​เพื่อ​แสดง​ความเต็มใจ​ที่จะ​อยู่​หอพัก​เดียวกัน​กับ​หล่อน​

โดยเฉพาะ​หลูเชวี่ย​ ยก​มือขึ้น​สูงสุด​ราวกับ​จะสามารถ​ทะลุ​ท้องฟ้า​ได้​

มหาวิทยาลัย​พิจารณา​ว่า​หลูเชวี่ย​เป็น​เจ้าหน้าที่​ของ​องค์การ​นักเรียน​ หล่อน​มีสติสัมปชัญญะ​สูงและ​สามารถ​ดูแล​ผู้อื่น​ได้​ ดังนั้น​พวกเขา​จึงให้​สวี​ชิงห​ยา​ย้าย​ไป​ที่​หอพัก​ของ​หลูเชวี่ย​

ส่วน​รูม​เมท​เดิม​ของ​หลูเชวี่ย​จะต้อง​กลายเป็น​รูม​เมท​ของ​หลิน​ม่าย​

ทุกคน​กลายเป็น​รูม​เมท​ที่​ดี​ต่อกัน​อย่าง​รวดเร็ว​

ในที่สุด​ทุกอย่าง​ก็​จบ​ลง​ด้วยดี​ และ​วัน​เสาร์​ก็​เดินทาง​มาถึงอย่าง​รวดเร็ว​

หลิน​ม่าย​ลืมตา​ตื่น​ตั้งแต่​หก​โมงเช้าตามปกติ​ จากนั้น​เธอ​จึงเดินทาง​ไป​ยัง​ร้าน​ซาลาเปา​เพื่อ​ปรับปรุง​สูตร​ไส้

เวลา​หก​โมงเช้าแห่ง​เมืองหลวง​ใน​เดือน​ตุลาคม​ไม่สว่าง​นัก​ มีเงามืด​อยู่​ทุกที่​ และ​มีคนเดินถนน​เพียง​ไม่กี่​คน​

หลิน​ม่าย​สวม​ชุด​วอร์ม​และ​วิ่ง​ออกจาก​ประตู​มหาวิทยาลัย​

หลังจาก​ปรับ​สูตร​ไส้ซาลาเปา​ใน​ทุกวัน​จน​เสร็จสิ้น​ เธอ​ก็​มักจะ​ไป​วิ่ง​ออกกำลังกาย​

ไม่นาน​หลังจากที่​เธอ​วิ่ง​ออกจาก​ประตู​มหาวิทยาลัย​ เงาดำ​มากมาย​ก็​โอบล้อม​เธอ​ราวกับ​สายฟ้า​

หลิน​ม่าย​ระมัดระวัง​ตัว​ทันที​

ทันทีที่​เหล่า​ชายหนุ่ม​สวมหน้ากาก​มาถึง พวกเขา​ก็​โจมตี​หลิน​ม่าย​อย่าง​กะทันหัน​

หลิน​ม่าย​ตระหนัก​ได้​ทันที​ว่า​ตน​ได้​พบ​กับ​พวก​อันธพาล​ จึงเริ่ม​การต่อสู้​แบบ​เอาเป็นเอาตาย​กับ​พวกเขา​ทันที​

แม้ว่า​จะมีคู่ต่อสู้​หก​คน​ แต่​หลิน​ม่าย​ก็​ไร้​ความปรานี​ เธอ​โจมตี​ร่างกาย​ส่วนล่าง​ของ​คน​เหล่านั้น​อย่าง​สุด​แรง​

ใน​เวลา​เพียง​สิบ​นาที​ ชายหนุ่ม​ทั้ง​หก​คน​ที่​โจมตี​เธอ​ต่าง​นอน​กลิ้ง​และ​ร้อง​โหยหวน​พลาง​เอา​มือ​กุม​เป้ากางเกง​ไว้​

การกระทำ​ของ​พวกเขา​ดึงดูด​ผู้คน​ที่​เดินผ่าน​ไปมา​ คน​เหล่านั้น​มอง​เหตุการณ์​ตรงหน้า​ด้วย​ความประหลาดใจ​

หลิน​ม่าย​ขอความช่วยเหลือ​โดย​หวัง​ว่า​พวกเขา​จะโทร​หา​เจ้าหน้าที่​รักษา​ความปลอดภัย​ของ​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ และ​บอ​กว่า​นักเรียน​ของ​พวกเขา​ถูก​โจมตี​โดย​พวก​อันธพาล​สวมหน้ากาก​ซึ่งไม่ทราบ​ที่มา​

ผู้สูงอายุ​ที่​เดินผ่าน​ไปมา​ยังคง​ลังเล​เล็กน้อย​ แต่​นักเรียน​มัธยมปลาย​หลาย​คน​วิ่ง​ไป​บอก​เจ้าหน้าที่​รักษา​ความปลอดภัย​ที่​ประตู​มหาวิทยาลัย​ชิงหวา​ว่า​เกิด​อันตราย​ต่อ​หลิน​ม่าย​

ทันใดนั้น​ เจ้าหน้าที่​รักษา​ความปลอดภัย​หลาย​คน​ก็​วิ่ง​เข้ามา​ควบคุม​พวก​อันธพาล​สวมหน้ากาก​ทั้ง​หก​บน​พื้น​ และ​ส่งพวกเขา​ไป​ยัง​สถานีตำรวจ​พร้อมกับ​หลิน​ม่าย​

เมื่อ​ไป​ถึงสถานีตำรวจ​ อันธพาล​ห้า​ใน​หก​คน​นั้น​ก็​ทน​แรงกดดัน​ไม่ไหว​และ​ให้การ​รับสารภาพ​

ทั้ง​ห้า​คน​ชี้ไป​ยัง​ชาย​ที่​เอาแต่​ปิดปาก​และ​ไม่พูด​อะไร​ “ลวี่กั๋วต้ง​เป็น​คน​ขอให้​เรา​แอบ​ลักพาตัว​หญิงสาว​ที่​ชื่อ​หลิน​ม่าย​และ​ลาก​เธอ​ไป​ยัง​ที่​ที่​ไม่มีใคร​อยู่​เพื่อ​สอน​บทเรียน​ให้​เธอ​”

จากนั้น​ตำรวจ​ก็​ถามล​วี่กั๋วต้ง​ว่า​ทำไม​เขา​ถึงลักพาตัว​และ​พยายาม​สอน​บทเรียน​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​

เมื่อ​เรื่อง​นี้​มาถึงจุด​นี้​แล้ว​ ลวี่กั๋วต้ง​ทำได้​เพียง​พยายาม​สารภาพ​และ​อธิบาย​รายละเอียด​ทั้งหมด​ให้​ตำรวจ​ฟังเพื่อ​ร้องขอ​การผ่อนปรน​โทษ​

เขา​บอ​กว่า​โกรธแค้น​ที่​หลิน​ม่าย​ใช้อุบาย​ใน​การถ่ายภาพ​อนาจาร​ไป๋​ซวง ​ ดังนั้น​เขา​จึงสั่งให้​เหล่า​ชาย​นิรนาม​มาสอน​บทเรียน​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​เพื่อ​ระบาย​ความโกรธ​ใน​ใจ

หลิน​ม่าย​ถ่ายภาพ​อนาจาร​ของ​ไป๋​ซวง​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กัน​?

ขณะที่​ตำรวจ​ออกหมายเรียก​ไป๋​ซวง​ พวกเขา​ก็​ทำการ​สอบปากคำ​หลิน​ม่าย​ด้วย​

หลิน​ม่าย​รู้สึก​ประหลาดใจ​ “ฉัน​ถ่ายภาพ​ไม่เหมาะสม​ของ​ไป๋​ซวง​งั้น​เหรอ​คะ​? ทำไม​ฉัน​ถึงไม่รู้​เลย​? เรื่อง​นี้​เกิดขึ้น​เมื่อไหร่​คะ​?”

ตำรวจ​กล่าว​ด้วย​ความสุภาพ​ “มัน​เกิดขึ้น​เมื่อ​เดือน​มีนาคม​ปี​ที่แล้ว​ หาก​คุณ​บอก​ว่าไม่ได้​ทำ​ คุณ​มีพยาน​ไหม​ครับ​?”

“ฉัน​มีพยาน​ค่ะ​ และ​มีหลาย​คน​ด้วย​” หลิน​ม่าย​กล่าว​ “เมื่อ​เดือน​มีนาคม​ที่ผ่านมา​เป็น​วันที่​ฉัน​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​ ในเวลานั้น​ฉัน​อยู่​ที่​เจียง​เฉิงตลอด​เพราะ​ต้อง​เตรียมตัว​สอบ​เข้า​วิทยาลัย​และ​ทำ​ธุรกิจ​ในเวลาเดียวกัน​ ดังนั้น​ฉัน​ไม่มีเวลา​มาปักกิ่ง​เพื่อ​ถ่ายรูป​อนาจาร​ของ​ไป๋​ซวง​หรอก​ค่ะ​ หาก​จะถามหา​พยาน​ ถ้าคุณ​ไป​ที่​เจียง​เฉิงเพื่อ​รวบรวม​หลักฐาน​ คุณ​ก็​สามารถ​หา​พยาน​ได้​มาก​เท่าที่​ต้องการ​เลย​ค่ะ​ ทั้ง​ครู​และ​เพื่อนร่วมชั้น​ที่​มหาวิทยาลัย​ ตลอดจน​เพื่อนบ้าน​ใน​ละแวก​นั้น​ ทุกคน​สามารถ​เป็น​พยาน​ให้​ฉัน​ได้​”

ตำรวจ​สอง​คน​ที่​รับผิดชอบ​การ​สอบสวน​กระพริบตา​

หาก​สิ่งที่​หลิน​ม่าย​พูด​เป็น​ความจริง​ทั้งหมด​ แสดงว่า​ลวี่กั๋วต้ง​กำลัง​โกหก​

ในเวลานี้​หลิน​ม่าย​ได้​ให้​เบาะแส​ใหม่​

ว่า​กัน​ว่า​พี่สาว​ของ​ไป๋​ซวง​หา​ผู้ชาย​มากกว่า​สิบ​คน​มาเพื่อ​ข่มขืน​ไป๋​ซวง​และ​ถ่ายรูป​อนาจาร​ของหล่อน​

เป็นไปได้​ไหม​ว่า​ลวี่กั๋วต้ง​เข้าใจผิด​ คิด​ว่า​เธอ​ชื่อ​หลิน​เพ่​ย​

แม้พวก​เธอ​ทั้งสอง​จะมีนามสกุล​หลิน​ แต่​ชื่อ​ของ​พวก​เธอ​ก็​แตก​ต่างกัน​อย่าง​มาก​ เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะฟังผิด​

หลิน​ม่าย​จึงมีเหตุผล​จงใจดึง​เรื่องอื้อฉาว​เกี่ยวกับ​ไป๋​ซวง​ออกมา​

เพราะ​การ​ที่​เธอ​ถูก​โจมตี​ใน​ครั้งนี้​ ไป๋​ซวง​อาจ​เป็น​ผู้อยู่เบื้องหลัง​ ดังนั้น​เธอ​จึงต้อง​ต่อสู้​กลับ​

การ​โต้กลับ​ที่​ดี​ที่สุด​คือ​การ​บอก​ให้​ทุกคน​รู้​ว่า​มีคนวางแผน​ทำลาย​ไป๋​ซวง​ โดย​ทำ​การข่มขืน​และ​ถ่ายรูป​อนาจาร​ของหล่อน​

เรื่อง​นี้​ไม่เพียง​จะทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​เธอ​เท่านั้น​ แต่​ยัง​อาจ​ทำให้​ลวี่กั๋วต้ง​ทิ้ง​หล่อน​ไป​อีกด้วย​

ใน​ท้ายที่สุด​แล้วก็​คง​มีชาย​เพียง​ไม่กี่​คนใน​โลก​ที่​สามารถ​ยอมรับ​หญิง​ที่​เคย​ผ่าน​ชาย​มานับ​สิบ​คน​ได้​

แต่​นั้น​ก็​ไม่ได้​หมายความว่า​จะไม่มีชาย​ใด​ยอม​รับได้​เลย​

ตัวอย่างเช่น​อู๋​เสี่ยว​เจี๋ยน​ หลิน​เพ่​ย​ทั้ง​ก่น​ด่า​และ​ต่อว่า​เขา​ แต่​เขา​กลับ​ไม่เคย​โกรธ​หรือ​คิด​จะทอดทิ้ง​หล่อน​ไป​

แต่​หาก​เป็น​เธอ​ไป​บอ​กว่า​หลิน​เพ่​ย​พูด​ไม่ดี​กับ​เขา​ เขา​คง​จับ​หัว​เธอ​โขก​กำแพง​ไป​แล้ว​

แม้จะไม่อาจ​มั่นใจ​ได้​ว่า​ชาย​ที่​หลงรัก​ไป๋​ซวง​ด้วย​สุด​หัวใจ​จะทอดทิ้ง​หล่อน​ไป​หลังจาก​ได้รับ​รู้เรื่อง​นี้​ แต่​เธอ​ก็​ต้อง​ลอง​ดูก่อน​

นอกจากนี้​ การ​มีส่วนร่วม​ของ​หลิน​ม่าย​ใน​เหตุการณ์​นี้​มีจุดประสงค์​อื่น​ นั่น​ก็​คือ​เพื่อให้​หลิน​เพ่​ย​ได้รับ​การ​ลงโทษ​ที่​หล่อน​สมควร​ได้รับ​ แทนที่จะ​นั่ง​อยู่​ใน​คุก​เพียง​ไม่กี่​ปี​

ใน​ตอนนั้น​ พ่อ​ไป๋​เต็มใจ​ปล่อย​หลิน​เพ่​ย​ไป​ เพราะ​เขา​กลัว​ว่า​รูปถ่าย​อนาจาร​ของ​ไป๋​ซวง​จะถูก​แพร่กระจาย​

แต่​เธอ​ไม่กลัว​และ​เธอ​กระตือรือร้น​ที่จะ​ทำ​มัน​

นาย​ตำรวจ​ทั้งสอง​ฟังด้วย​สีหน้า​ขึงขัง​ผิดปกติ​

เมื่อ​ตำรวจ​นัด​ตรวจ​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​หลิน​ม่าย​ พวกเขา​ก็​ทำการ​สอบปากคำ​ลวี่กั๋วต้ง​อีกครั้ง​

ตำรวจ​ถามว่า​เขา​รู้จัก​หลิน​เพ่​ย​หรือไม่​ ลวี่กั๋วต้ง​ส่าย​หัว​ด้วย​ความ​สับสน​

ตำรวจ​เรียกตัว​ทุกคน​ที่​รู้เรื่อง​คดีความ​อัปยศอดสู​ของ​ไป๋​ซวง​ตาม​คำบอกเล่า​ของ​หลิน​ม่าย​มาสอบสวน​ นั่น​คือ​ครอบครัว​ของ​พ่อ​ไป๋​

เมื่อ​พ่อ​ไป๋​และ​พี่น้อง​ไป๋​รู้​ว่า​ไป๋​ซวง​ยังคง​ทำตัว​เป็น​ปีศาจ​และ​ต้อง​การทำร้าย​หลิน​ม่าย​ พวกเขา​ทั้งหมด​ก็​เต็มไปด้วย​ความขุ่นเคือง​

ทุกคน​ต่าง​บอกเล่า​เป็น​เสียง​เดียวกัน​ว่า​ ไป๋​ซวง​ถูก​ชาย​นับ​สิบ​ข่มขืน​และ​ถ่ายภาพ​อนาจาร​เก็บ​ไว้​

พ่อ​ไป๋​ยอมรับ​ความผิดพลาด​ของ​เขา​อย่าง​จริงใจ​ เพื่อ​ปกป้อง​ชื่อเสียง​ของ​ไป๋​ซวง​ เขา​จึงรายงาน​เท็จ​และ​แจ้งความ​เท็จ​

ด้วยเหตุนี้​ พ่อ​ไป๋​จึงรายงาน​เท็จ​ต่อ​ตำรวจ​ ซึ่งเป็นเรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้​

นอกจากนี้​ การ​แจ้งความ​เท็จ​ต่อ​ตำรวจ​ไม่ได้​ก่อให้เกิด​ผลกระทบ​ร้ายแรง​ ตามกฎหมาย​ เขา​เพียง​ต้อง​จ่าย​ค่าปรับ​ด้าน​ความปลอดภัย​สาธารณะ​เท่านั้น​

คนธรรมดา​ไม่ค่อย​รู้เรื่อง​กฎหมาย​ แม้แม่ไป๋​จะเป็น​ครู​ หล่อน​ก็​ไม่รู้เรื่อง​กฎหมาย​มาก​นัก​

เมื่อ​ตำรวจ​สอบปากคำ​หล่อน​ สิ่งแรก​ที่​หล่อน​คิด​คือ​ พ่อ​ไป๋​เป็น​ผู้กระทำผิด​

หาก​หล่อน​พูดความจริง​ พ่อ​ไป๋​จะต้อง​รับผิด​ตามกฎหมาย​หรือไม่​?

เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​หล่อน​จึงลอง​เสี่ยง​ดู​และ​เล่า​ความจริง​ทั้งหมด​เกี่ยวกับ​คดี​นี้​ให้​ตำรวจ​ฟัง

หล่อน​ยัง​บอก​อีก​ด้วยว่า​ เพื่อ​ปกป้อง​ชื่อเสียง​ของ​ไป๋​ซวง​ พ่อ​ไป๋​สมรู้ร่วมคิด​กับ​หลิน​เพ่​ย​เพื่อ​บิดเบือน​ความจริง​ของ​คดี​นี้​

เขา​ถอน​แจ้งความ​หลิน​เพ่​ย​ใน​คดี​สั่งให้​ผู้อื่น​ข่มขืน​ไป๋​ซวง​และ​ถ่ายรูป​อนาจาร​ แต่​แจ้งความ​หล่อน​ใน​คดี​ลักทรัพย์​แทน​

เมื่อ​พ่อ​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ ถูก​ตำรวจ​สอบปากคำ​ ไป๋​ซวง​ก็​ถูก​ตำรวจ​สอบปากคำ​เช่นกัน​

ลวี่กั๋วต้ง​พา​ชาย​สอง​สามคน​ไป​ลอบทำร้าย​หลิน​ม่าย​ใน​ตอนเช้า​ และ​ไป๋​ซวง​ก็​รู้เรื่อง​นี้​

แม้ว่า​หล่อน​จะนั่ง​อยู่​ใน​ห้องเรียน​ แต่​หัวใจ​ของหล่อน​ก็​กำลัง​รอ​ข่าวดี​จากล​วี่กั๋วต้ง​

ลวี่กั๋วต้ง​กล่าวว่า​เขา​จะไม่เพียง​ทุบตี​หลิน​ม่าย​อย่าง​รุนแรง​เท่านั้น​ แต่​ยัง​จะถ่ายรูป​อนาจาร​เธอ​ด้วย​

หลังจาก​ถ่ายรูป​อนาจาร​แล้ว​ เขา​จะขู่​ให้​เธอ​ไป​กราบ​ไป๋​ซวง​เพื่อ​ยอมรับ​ความผิดพลาด​ของ​ตัวเอง​

เมื่อ​ไป๋​ซวง​คิด​ว่า​รูปถ่าย​ที่​ไม่เหมาะสม​ของ​หลิน​ม่าย​จะตก​อยู่​ใน​มือ​ของ​ตน​ หล่อน​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​แสดง​รอยยิ้ม​ที่​ชั่วร้าย​

แต่​หล่อน​ไม่คาดคิด​ว่า​แทนที่จะ​ได้รับ​ข่าวดี​จาก​ลวี่กั๋วต้ง​ ตน​กลับ​ได้รับ​หมายเรียก​จาก​ตำรวจ​แทน​ ซึ่งเรื่อง​นี้​ทำให้​หล่อน​ตื่นตระหนก​เป็นอย่างมาก​

เมื่อ​มาถึงสถานีตำรวจ​ ตำรวจ​ได้​สอบปากคำ​ว่า​หล่อน​สนับสนุน​ให้​ลวี่กั๋วต้ง​นำ​คน​มาลอบทำร้าย​หลิน​ม่าย​หรือไม่​ แต่​ไป๋​ซวง​ปฏิเสธ​อย่าง​เด็ดขาด​

หล่อน​บอกกล่าว​ต่อ​ตำรวจ​ว่า​ ตน​เพียง​เล่าเรื่อง​ที่​พ่อ​ไป๋​ต้องการ​หย่าร้าง​กับ​แม่ไป๋​เพราะ​เห็นแก่​หลิน​ม่าย​ให้​กับ​ลวี่กั๋วต้ง​ฟัง

ลวี่กั๋วต้ง​รู้สึก​โกรธ​มาก​เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ และ​บอ​กว่า​จะยืนหยัด​เพื่อ​หล่อน​

หล่อน​คิด​ว่า​ลวี่กั๋วต้ง​เพียง​พูดเล่น​ ไม่ได้​จริงจัง​อะไร​ ไม่คิด​ว่า​เขา​จะทำ​แบบนี้​

ไป๋​ซวง​ร้องไห้​อย่าง​ขมขื่น​ หล่อน​เสียใจ​ที่​ตน​ไม่ได้​พยายาม​อย่าง​เต็มที่​เพื่อ​ห้ามปราม​ลวี่กั๋วต้ง​ในเวลานั้น​ จึงทำให้เกิด​หายนะ​ครั้ง​ใหญ่​เช่นนี้​

ตำรวจ​เล่า​คำสารภาพ​ของ​ไป๋​ซวง​ต่อ​ลวี่กั๋วต้ง​

ลวี่กั๋วต้ง​มีสีหน้าบูดบึ้ง​ใน​ตอนแรก​ แต่​เขา​ก็​สงบสติอารมณ์​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​

เขา​ยอมรับ​กับ​ตำรวจ​ว่า​ คำให้การ​ก่อนหน้านี้​ของ​เขา​เป็น​เท็จ​ทั้งหมด​

ไป๋​ซวง​ไม่เคย​สนับสนุน​ให้​เขา​ลอบทำร้าย​หลิน​ม่าย​ ทุกอย่าง​เป็น​ความคิด​ของ​เขา​เอง​

เหตุผล​ที่​เขา​ต้อง​การสอน​บทเรียน​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​ เพราะ​เขา​เห็น​ว่า​ตั้งแต่​หลิน​ม่าย​กลับ​มายัง​บ้าน​ตระกูล​ไป๋​ ชีวิต​ของ​ไป๋​ซวง​ก็​แย่​ลง​ทุกวัน​

เขา​และ​ไป๋​ซวง​เป็น​เหมย​เขียว​ม้าไม้ไผ่​มาตั้งแต่​เด็ก​ เขา​ทน​ไม่ได้ที่​เห็น​หล่อน​อยู่​ด้วย​ความ​ลำบากใจ​ ดังนั้น​จึงคิด​จะยืนหยัด​เพื่อ​หล่อน​

นอกจากนี้​ วันที่​ 9 ตุลาคม​ยัง​เป็น​วันเกิด​ของ​ไป๋​ซวง​ แม้ว่า​วันเกิด​ของหล่อน​จะผ่าน​มาหลาย​วัน​แล้ว​ เขา​ก็​ยัง​ต้องการ​จะสั่งสอน​หลิน​ม่าย​

นับว่า​เป็นการ​ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว​ ไม่เพียง​ถือเป็น​ของขวัญ​ให้​กับ​ไป๋​ซวง​ แต่​ยัง​เป็นการ​ช่วยเหลือ​หล่อน​ด้วย​

เมื่อ​ลวี่กั๋วต้ง​รับผิด​ ไป๋​ซวง​ก็​เดิน​ออกจาก​สถานีตำรวจ​โดย​ไม่ได้​รับโทษ​ได้​เลย​

ณ ประตู​สถานีตำรวจ​ หล่อน​พบ​แม่ไป๋​ พ่อ​ไป๋​ และ​คนอื่น​ ๆ

เมื่อ​แม่ไป๋​เห็น​ว่า​พ่อ​ไป๋​ยืน​อยู่​กับ​ลูก​ ๆ ทั้งหลาย​โดย​ไม่ได้​รับโทษ​ใด​ หล่อน​ก็​รับ​ไม่ได้​

แม่ไป๋​หันไป​ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ​ที่​เพิ่ง​สอบปากคำ​หล่อน​พลาง​ชี้ไป​ยัง​พ่อ​ไป๋​ “ทำไม​เขา​ไม่ถูกจับ​ใน​ข้อหา​แจ้งความ​เท็จ​ล่ะ​คะ​?”

ตำรวจ​อธิบาย​เหตุผล​กับ​หล่อน​อย่าง​อดทน​ แต่​แม่ไป๋​ก็​ยังคง​ไม่พอใจ​

พ่อ​ไป๋​และ​ลูก​ ๆ ของ​เขา​เผย​ท่าทาง​เย็นชา​ นี่​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ที่​แม่ไป๋​ต้องการ​ทำลาย​พ่อ​ไป๋​

ขณะที่​คน​ทั้งสอง​กลุ่ม​ออก​ไป​พร้อมกัน​ ตำรวจ​คน​หนึ่ง​ก็​หยุด​ไป๋​ซวง​ทันที​ “อย่า​เพิ่ง​ไป​ เรา​มีอะไร​ต้อง​คุย​กับ​คุณ​อีก​สักนิด​ครับ​”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ดี​ที่​หลิน​ม่าย​ฝึก​ศิลปะ​ป้องกันตัว​ไว้​ ไม่งั้น​คง​เสร็จ​นัง​งูพิษ​นี่​แน่​

ขอให้​มีจุด​เปลี่ยน​สักที​เถอะ​ ใครก็ได้​ทุบ​นัง​งูพิษ​นี่​ให้​แบ​นที​

ไหหม่า​(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด