แม่ปากร้ายยุค​ 80 402 ขับไล่เวินหงเหมย

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 402 ขับไล่เวินหงเหมย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 402 ขับไล่เวินหงเหมย

ในตอนนั้นเอง กลุ่มคุณป้าที่เตรียมอาหารให้งานแต่งเวินหงเหมยก็นำอาหารพวกนั้นมาให้ และจงใจวางไว้บนกระเป๋าเสื้อผ้าและข้าวของของหล่อน

ทันใดนั้นน้ำแกงร้อนๆ ก็ไหลออกมาเปรอะเปื้อนกระเป๋าเสื้อผ้าเต็มไปหมด

ป้าคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชาว่า “ของบ้านคุณ แม้กระทั่งอาหารของบ้านคุณเรายังเอามาส่งให้ คุณต้องรับเอาไว้นะ อย่าทำเป็นไม่ยอมรับความผิดตัวเองและกล่าวหาคนอื่นมาบอกว่าพวกเราเอาของของบ้านคุณไปเลย!”

เวินหงเหมยเกลียดหล่อนมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากร้องไห้ดังขึ้นและดังขึ้น

พวกคุณป้าฟังหล่อนร้องไห้จนปวดหัว จึงชี้หน้าและพูดว่า “เอาของของเธอไปได้แล้ว! อย่ามาร้องไห้อยู่ที่นี่!”

เหตุผลในการยืนฝั่งยุติธรรมของคุณป้ากลุ่มนี้มีอยู่สองข้อ

สาเหตุแรกคือแต่เดิมพวกหล่อนก็ไม่ชอบคนที่เป็นชู้ทำลายครอบครัวชาวบ้านอยู่แล้ว เห็นเมียน้อยแล้วอยากทุบตีเหมือนหนูท่อให้ไม่สามารถมาวุ่นวายกับพวกหล่อนได้

สาเหตุที่สองคือเถาจืออวิ๋นนำคำสั่งซื้อจากโรงงานมาให้ คนที่บ้านพวกหล่อนได้เข้าไปทำงานในโรงงาน มีงานทำ มีงานทำก็แปลว่ามีเงินเดือนมาไว้ใช้

ทุกคนรู้สึกขอบคุณเถาจืออวิ๋น จึงช่วยระบายความโกรธให้หล่อนเป็นธรรมดา

……

คนยุคนี้ โดยเฉพาะคนในชนบท สิ่งที่กลัวมากที่สุดคือการฟ้องร้อง

แม่หม่าพ่อหม่าที่เอาแต่เอะอะโวยวายต่อหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เมื่อมาถึงสถานีตำรวจก็กลัวจนปัสสาวะแทบราด

เมื่อตำรวจสอบปากคำ พวกเขาก็สารภาพทุกอย่าง

สารภาพกระทั่งแผนการที่พวกเขาเตรียมจะครอบครองบ้านของเถาจืออวิ๋น

แม่หม่าพ่อหม่าสารภาพแล้ว ส่วนหม่าเทายังคิดจะโกหก แต่ตำรวจก็ไม่ฟังคำโกหกของเขา และด้วยเหตุที่ว่าเขาโกหกและอยู่ในบ้านคนอื่นอย่างผิดกฎหมาย จึงตัดสินให้เขาติดคุกสิบวัน

แต่พ่อหม่าแม่หม่าทำตัวดี ตำรวจจึงอบรมพวกเขารอบหนึ่งแล้วปล่อยตัวไป

หม่าเทาได้ทำงานที่โรงงานสิ่งทอหนึ่ง

โรงงานสิ่งทอหนึ่งมีขนาดใหญ่ คนงานเยอะ แต่ประสิทธิภาพไม่ค่อยดี สภาพห้องคับแคบ

อีกทั้งหม่าเทายังทำงานมาแค่ไม่กี่ปี ไม่ได้อยู่ในระดับสูง

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับการจัดสรรห้องให้ พ่อหม่าแม่หม่าเช่าบ้านที่หมู่บ้านในเมืองมาตลอด

เมื่อสัตว์ร้ายทั้งสองถูกปล่อยตัวออกมา จะกลับไปที่บ้านเถาจืออวิ๋นก็ไม่ได้ จึงทำได้เพียงกลับไปที่บ้านเช่าที่หมู่บ้านในเมืองอย่างสิ้นหวัง

หลังไล่เมียน้อยอย่างเวินหงเหมยไปแล้ว คนที่แทะเมล็ดแตงโมอยู่รอบๆ ก็จากไป

หลินม่ายและเถาจืออวิ๋นลงมือเก็บกวาดบ้าน

งานหลักๆ คือดึงริบบิ้นหลากสีที่หม่าเทาใช้ตกแต่งบ้านในวันแต่งงานลงมา และฉีกอักษร 喜 สีแดงตัวใหญ่ออกมาด้วย

จากนั้นทำความสะอาดดีๆ รอบหนึ่ง กำจัดกลิ่นของครอบครัวหม่าเทาและเวินหงเหมยออกไป ไม่อย่างนั้นต้องอยู่แบบขยะแขยง

ทั้งสองคนยังทำความสะอาดกันไม่เสร็จ หัวหน้ากลุ่มรักษาความปลอดภัยก็เดินเข้ามาอย่างเบิกบาน “ข่าวดีๆ ไอ้หม่าเทานั่นโดนตัดสินจำคุกสิบวัน!”

เถาจืออวิ๋นถามถึงเหตุผล แล้วจึงพูดออกมาด้วยความโล่งใจ “สมควร!”

หัวหน้ากลุ่มรักษาความปลอดภัยยังพูดอย่างสุขใจว่า “ไอ้สามีเก่าของคุณติดคุก ต่อไปเขาก็จะเป็นคนที่มีมลทิน ประสิทธิภาพของโรงงานเขาไม่ดี กำลังหาวิธีคัดคนออก สามีเก่าของคุณอาจจะถูกเลิกจ้าง”

เถาจืออวิ๋นพูดอย่างเย็นชา “นั่นเป็นความผิดของเขาเอง”

หลินม่ายยกนาฬิกาขึ้นมาดู เห็นว่าเริ่มสายแล้วจึงกล่าวลาและจากไป

วันนี้เป็นวันที่คุณปู่คุณย่าฟางจะย้ายเข้ามาที่วิลล่าของฟางจั๋วหราน

แม้ฟางจั๋วหรานจะพูดว่าไม่จำเป็นที่เธอต้องไปช่วยย้ายบ้าน แต่ดีร้ายอย่างไรเธอก็ต้องไปดู

เมื่อเธอไปถึงวิลล่าของฟางจั๋วหราน ก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว

ฟางจั๋วหรานทำอาหารขึ้นโต๊ะเสร็จแล้ว รอเธอมากินข้าว

ฟางจั๋วเยวี่ยเห็นหลินม่ายแล้วบ่นออกมา บอกว่าเขาคิดว่าจะได้กินอาหารเที่ยงที่เธอทำเสียอีก แต่เธอกลับมาช้ามาก

พอเขาพูดดังนั้น จึงถูกฟางจั๋วหรานและคุณปู่คุณย่าฟางโจมตีอย่างหนัก

ฟางจั๋วเยวี่ยถูกโจมตีจนไม่เหลืออะไรแล้ว กินข้าวด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

ฟู่เฉียงที่กังวลกับอาการป่วยของพ่อกับแม่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

แม่ฟู่เฉียงหัวเราะตามลูกชายอย่างโง่เง่า

คุณย่าฟางเห็นหลินม่ายมองแม่ของฟู่เฉียงหลายครั้งจึงพูดว่า “เธอดูยุ่งเกินไป ฉันเลยให้ฟู่เฉียงกับแม่มาอยู่บ้านจั๋วหรานด้วย”

คุณปู่ฟางพูดขำๆ กับหลินม่ายว่า “อยู่คนเดียวก็โดดเดี่ยวเกินไป ไม่สู้ย้ายเข้ามาอยู่กับพวกเราดีกว่า”

ฟางจั๋วหรานได้ยินดังนั้น ดวงตาก็เป็นประกายวาววับ

แม้กระทั่งโต้วโต้วยังวิ่งมายืนข้างๆ เขย่ามือของเธอและพูดอย่างเอาแต่ใจว่า “แม่คะ แม่ย้ายมาอยู่กับพวกเราสิคะ”

หลินม่ายเองก็อยากจะย้ายมาอยู่กับพวกเขา

ยังไม่ต้องพูดถึงความสะดวกสบายในการมีสวนรอบๆ วิลล่า เพียงแค่ทุกเช้าตื่นมาได้เห็นฟางจั๋วหรานและคนอื่นๆ ที่นี่ หัวใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่น

แต่เธอยังไม่ได้แต่งงานกับฟางจั๋วหราน ถ้าย้ายเข้ามาก็กลัวว่าจะมีผลกระทบกับฟางจั๋วหราน

ในช่วงปีนี้ผู้คนยังอนุรักษ์นิยมเกินไป

ถ้าคนคนหนึ่งถูกตราหน้าว่าชีวิตมีปัญหา เขาจะหางานและเลื่อนตำแหน่งยาก ดังนั้นจึงต้องปฏิเสธไป

ฟางจั๋วหรานและโต้วโต้วต่างก็ไม่พอใจ

คุณย่าฟางไกล่เกลี่ย “เธอไม่ย้ายมาอยู่ด้วยก็ช่างเถอะ แต่ต้องมากินข้าวด้วยกัน”

หลินม่ายลังเลแล้วตอบว่า “มื้อเที่ยงและมื้อเย็นมากินได้ไม่มีปัญหาค่ะ แต่มื้อเช้าน่าจะ…ยากอยู่”

คุณย่าฟางตอบ “งั้นตอนเที่ยงกับตอนเย็นก็มากินข้าวกับเราที่นี่สิ”

……

หลังจากหลินม่ายจากไป เถาจืออวิ๋นก็ยังคงทำความสะอาดต่อ

หัวหน้ากลุ่มรักษาความปลอดภัยหยิบผ้าขี้ริ้วมาเช็ดหน้าต่างให้หล่อน

เถาจืออวิ๋นเห็นจึงรีบห้าม “หัวหน้าหลูคะ ฉันทำเอง!”

หัวหน้าหลูเช็ดกระจกหน้าต่างอย่างดี “ผมไม่มีอะไรทำ เลยอาสาช่วยคุณทำความสะอาดเอง คุณไม่ต้องเกรงใจ”

เถาจืออวิ๋นเงียบไปพักหนึ่งแล้วตอบว่า “ใกล้เที่ยงแล้ว คุณกลับไปทำกับข้าวให้ลูกๆ ดีไหมคะ?”

ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ภรรยาของหัวหน้าหลูเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เขาจึงต้องเป็นทั้งพ่อทั้งแม่ในการดูแลลูกทั้งหลาย

เถาจืออวิ๋นจึงให้เขากลับไปทำอาหาร

ไม่ควรให้เขามาทำความสะอาดห้องให้หล่อนและปล่อยให้ลูกๆ ของเขาหิวท้องกิ่ว

หัวหน้าหลูหัวเราะแล้วตอบว่า “คุณวางใจเถอะ ลูกๆ ของผมเรียนทำอาหารมาแล้ว พวกเขาไม่หิวหรอก”

เถาจืออวิ๋นพูดไม่ออก ทำได้เพียงปล่อยให้เขาช่วยหล่อนทำความสะอาดบ้าน

หลังจากทำความสะอาดบ้านจนสะอาดแล้ว เถาจืออวิ๋นจึงเก็บของที่เกี่ยวข้องกับไอ้เดรัจฉานหม่าเทายัดลงถุง เตรียมให้คนเอาไปส่งคืนเขา

หัวหน้าหลูก็ช่วยหล่อนเก็บด้วย

ตอนที่ทั้งสองคนเก็บของเสร็จพอดี พี่ชายและพี่สะใภ้ทั้งสองของเถาจืออวิ๋นก็มาถึง

เถาจืออวิ๋นยิ้มและเอ่ยถาม “พวกพี่มาได้ยังไง กลัวฉันเสียเงินเหรอ?”

วันนี้หล่อนจะมาทวงบ้านคืน คนที่บ้านของหล่อนต่างก็รู้เรื่องกันทุกคน

เดิมทีพ่อเถาให้พี่ชายและพี่สะใภ้ทั้งสองมาช่วยหล่อน แต่เถาจืออวิ๋นคัดค้านอย่างหนัก

หล่อนรู้สึกว่าตนเองจัดการได้จึงไม่อยากรบกวนคนที่บ้าน

แม้ว่าคนที่บ้านจะไม่ได้มา แต่ทุกคนก็นั่งไม่ติดที่

เมื่อเห็นว่าเลยเที่ยงไปแล้วน้องสาวยังไม่กลับมาบอกผลที่บ้าน พี่ชายและพี่สะใภ้ที่นั่งไม่อยู่กันแล้วจึงมาหาหล่อน

พี่ใหญ่เถาตอบ “ช้าขนาดนี้เธอยังไม่กลับ พวกเราไม่เป็นห่วงได้เหรอ ก็เลยต้องมาดูนี่ไง”

พี่รองเถาเห็นว่ามีผู้ชายช่วยเถาจืออวิ๋นทำงานอยู่จึงเอ่ยถาม “จืออวิ๋น คุณคนนี้เป็นใคร?”

เถาจืออวิ๋นแนะนำหัวหน้าหลูให้พี่ชายและพี่สะใภ้ของหล่อนรู้จัก

หัวหน้าหลูรู้สึกอายนิดหน่อยจึงพูดกับเถาจืออวิ๋นว่า “ผมไปแล้ว ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็มาหาผมนะ”

เมื่อหัวหน้าหลูจากไป พี่รองเถาก็เอ่ยถามขึ้น “ผู้ชายคนนั้นจะจีบเธอหรือเปล่า?”

ทุกคนจ้องมาที่เถาจืออวิ๋น

เถาจืออวิ๋นเองก็คิดว่าหัวหน้าหลูอาจจะอยากจีบหล่อน

เมื่อกี้ตอนที่ช่วยหล่อนทำงานบ้าน เขาชมว่าลูกๆ ของเขามีเหตุผลและอิสระกันมากอยู่ตลอด

ทำงานบ้านได้ทุกอย่าง เรื่องเรียนก็ไม่ทำให้กังวล

เห็นได้ชัดว่าหากหล่อนแต่งงานกับเขา ลูกๆ ของเขาก็จะไม่ได้ต้องการให้หล่อนไปดูแล

แต่หล่อนไม่กล้าเปิดเผย หล่อนเองก็เขินอายที่จะพูดกับคนที่บ้านว่าเขาจะจีบตน

แล้วถ้าเขาแค่อยากช่วยหล่อนทำงานบ้านจริงๆ ล่ะ

แล้วถ้าหัวหน้าหลูจีบหล่อนจริงๆ หล่อนจะไม่ลำบากใจเพราะความรู้สึกของเขาเหรอ?

เถาจืออวิ๋นหัวเราะ “ไม่ใช่หรอกมั้งคะ”

ทุกคนต่างสงสัยกันมากว่าเถาจืออวิ๋นไล่พวกสารเลวบ้านหม่าออกไปอย่างไร

เถาจืออวิ๋นจึงเล่าให้ทุกคนฟัง

พี่ชายและพี่สะใภ้ต่างชมว่าหล่อนเปลี่ยนไปมาก

เถาจืออวิ๋นยิ้มตอบ “เป็นเพราะหลินม่ายสอนค่ะ หล่อนบอกว่าผู้หญิงต้องเป็นดอกกุหลาบ คือต้องอ่อนโยน ขณะเดียวกันก็ต้องแหลมคม”

พี่สะใภ้ใหญ่ชี้ไปที่ถุงบนพื้นแล้วถามว่า “ในนี้เป็นอะไร?”

“ของของไอ้หม่าเทา ฉันเตรียมจะเอาไปส่งที่โรงงานเขาค่ะ”

พี่สะใภ้รองถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมไม่เอาไปให้พ่อแม่เขาเลยล่ะ?”

“พ่อแม่เขาไร้เหตุผลขนาดนั้น ถ้าเอาไปให้พวกเขาเอง มันจะมีปัญหาอีกถ้าพวกเขาไม่ยอมรับมันไป”

พี่ชายและพี่สะใภ้ทั้งสองพาเถาจืออวิ๋นไปที่หน่วยงานของหม่าเทา

ตอนที่ออกไปก็ต้องผ่านเพื่อนบ้านปากเสีย

สองแม่ลูกรู้อยู่แล้วว่าหม่าเทานอกใจ แต่พวกหล่อนกลับคิดว่าเป็นเถาจืออวิ๋นเป็นคนนอกใจ พูดไม่ดีเกี่ยวกับหล่อนไว้มากมาย

ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างแล้ว สองแม่ลูกนั่นกลัวว่าเถาจืออวิ๋นจะมาหาพวกหล่อนเพื่อเอาคืน จึงไม่กล้าออกมาจากบ้าน

ตอนนี้เที่ยงแล้ว ออกไปข้างนอกก็ไม่ได้เพราะต้องเข้าครัวไปทำอาหารเที่ยง

ไม่คิดเลยว่าเปิดประตูออกมาจะเจอเถาจืออวิ๋นและพี่ชายพี่สะใภ้ทั้งสอง

สองแม่ลูกตกใจจนเกือบปัสสาวะราด คิดว่าเถาจืออวิ๋นพาคนที่บ้านมาคิดบัญชีกับพวกหล่อน ปิดประตูกลับไปเสียงดังปัง

พี่ใหญ่อวิ๋นเห็นแล้วก็งุนงง ถามด้วยความสงสัย “ทำไมเพื่อนบ้านของเธอเป็นแบบนั้น”

เถาจืออวิ๋นตอบเสียงเบา “ใครจะไปรู้ล่ะคะ?”

หล่อนไม่ได้ยกเรื่องที่สองแม่ลูกนั่นใส่ร้ายป้ายสีตนขึ้นมาพูด เพราะไม่อยากให้พี่ชายและพี่สะใภ้ต้องเจ็บปวดใจกับเรื่องที่ผ่านมา

พี่น้องทั้งสามคนเอาข้าวของของหม่าเทาไปฝากไว้กับหัวหน้าเขาและกลับบ้านไปกินข้าวกับพ่อเถาแม่เถา

ฉีฉีไม่ได้เจอแม่มาสองสามวันแล้ว เมื่อเห็นเถาจืออวิ๋นก็มีความสุขมาก เข้าไปกอดหล่อนไม่ปล่อย

พ่อเถาแม่เถาเห็นเถาจืออวิ๋นกลับมาที่บ้านตนก็ดีใจมาก

หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว เถาจืออวิ๋นก็ให้พี่ชายและพี่สะใภ้ทั้งสองช่วยขนของย้ายกลับไปอยู่บ้านตัวเอง

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

พี่หมอหูหางกระดิกใหญ่เลยนะตอนได้ยินคุณย่าอนุญาตให้ม่ายจื่อมาอยู่ด้วย

คุณหัวหน้ารปภ. ตั้งท่าจะจีบเถาจืออวิ๋นหรือเปล่าเนี่ย ทำไมรู้สึกอย่างนั้นกันนะ?

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *