แม่ปากร้ายยุค​ 80 686 ชีวิตในคุกของหลินเพ่ย

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 686 ชีวิตในคุกของหลินเพ่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 686 ชีวิต​ใน​คุก​ของ​หลิน​เพ่​ย​

เพียง​ชั่วพริบตา​ วัน​จันทร์​ของ​ต้น​สัปดาห์​ก็​เดินทาง​มาถึง

หลิน​เพ่​ย​ตื่นนอน​เวลา​ตีห้า​ครึ่ง​พร้อมกับ​เพื่อน​นักโทษ​ ก่อน​เข้าไป​ใน​ห้องน้ำ​เพื่อ​ชำระล้าง​ร่างกาย​…

หลิน​เพ่​ย​มีรูปร่าง​ผอมแห้ง​และ​น่าเกลียด​ หล่อน​มัก​ถูก​รังแก​โดย​เพื่อนร่วมห้อง​ขัง​ใน​เรือนจำ​

หล่อน​มีเวลา​เพียง​ครึ่ง​ชั่วโมง​ใน​การ​ทำความสะอาด​ร่างกาย​ เนื่องจาก​นักโทษ​คนอื่น​ ๆ ใช้ห้องน้ำ​เสร็จ​แล้ว​ ดังนั้น​จึงถึงคราว​ของ​หลิน​เพ่​ย​ที่จะ​อาบน้ำ​

ในขณะที่​กำลัง​อาบน้ำ​ หลิน​เพ่​ย​ได้​เหลือบมอง​ตัวเอง​ใน​กระจก​บน​ผนัง​ จากนั้น​ก็​เบือนหน้า​หนี​ด้วย​ความ​คลื่นไส้​

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​พ่อ​ลูก​ตระกูล​ไป๋​หรือ​ผู้ต้องขัง​ที่​ตบ​ตี​หล่อน​อย่าง​รุนแรง​ หรือ​หมอ​ที่​หล่อน​จ้างมาไม่เชี่ยวชาญ​เรื่อง​การ​ทำ​ศัลยกรรม​ ภายใน​หนึ่ง​เดือน​ที่​ถูก​คุมขัง​ ใบ​หน้าที่​ผ่าน​การ​ศัลยกรรม​ทั้งหมด​ของหล่อน​ก็​พัง​ยับ​

จมูก​ของหล่อน​บิดเบี้ยว​ ใบหน้า​ผิดรูป​แปลก​ไป​จาก​ที่​เคย​ อีก​ทั้ง​ยัง​เต็มไปด้วย​รอย​หลุม​สิว​ดุจ​ผิว​ของ​ดวงจันทร์​ ไม่น่ามอง​ยิ่งนัก​

จาก​ที่​น่ารังเกียจ​อยู่​แล้วก็​ทำให้​ยิ่ง​ไม่น่ามอง​มาก​ขึ้นไป​อีก​

คน​ที่​มีจิตใจ​อ่อนแอ​จะรับ​ไม่ได้ที่​ตน​กลายเป็น​แบบนี้​

หลิน​เพ่​ย​เอง​ก็​รับ​ไม่ได้​เช่นกัน​ แต่​หล่อน​อดทน​ได้​

หลัง​ออกจาก​คุก​ หล่อน​จะหาทาง​ทำให้​ตัวเอง​สวย​ขึ้น​ให้ได้​

หล่อน​จะต้อง​กลับมา​งดงาม​เฉิดฉาย​อีกครั้ง​อย่าง​แน่นอน​

หลังจาก​ทำงานหนัก​มาทั้ง​เช้า ในที่สุด​ก็​ได้เวลา​อาหารกลางวัน​

หลิน​เพ่​ย​ลาก​ขา​อัน​ปวด​ระบม​ของหล่อน​เดินตาม​ผู้ต้องขัง​คนอื่น​ ๆ ไป​ยัง​โรงอาหาร​เพื่อ​รับประทาน​อาหารกลางวัน​

วันนี้​เป็นครั้งแรก​ที่​มีหมู​ตุ๋น​เป็น​อาหารกลางวัน​ นักโทษ​ทุกคน​ต่าง​ตื่นเต้น​มาก​

อาหาร​ชั้นดี​เช่นนี้​แม้แต่​นักโทษ​ธรรมดา​ก็​ไม่เคย​ได้​กิน​ นับประสาอะไร​กับ​นักโทษ​ใช้แรงงาน​อย่าง​พวก​หล่อน​

นี่​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ที่​หลิน​เพ่​ย​ได้​กิน​หมู​ตุ๋น​ตั้งแต่​ถูก​คุมขัง​

ระหว่าง​รอ​เข้าแถว​กิน​อาหาร​ หล่อน​ก็​น้ำลายสอ​ไป​กับ​หมู​ตุ๋น​ใน​หม้อ​ใบ​ใหญ่​

เหล่า​แก๊ง​อันธพาล​ใน​คุก​ต่าง​จับจอง​อาหาร​ของ​ตน​ไว้​แล้ว​ เมื่อ​เดินผ่าน​หลิน​เพ่​ย​จึงบอกกล่าว​กับ​หล่อน​ “อย่า​คิด​จะกิน​หมู​ตุ๋น​เด็ดขาด​ เธอ​ต้อง​รู้จัก​ให้เกียรติ​รุ่นพี่​!”

หลัง​กล่าว​จบ​ คน​เหล่านั้น​ก็​จากไป​

ครั้งแรก​ที่​เหล่า​นักโทษ​ได้​กิน​หมู​ตุ๋น​ หลิน​เพ่​ย​ทำได้​เพียง​ดมกลิ่น​ เพราะ​อันธพาล​กลุ่ม​นี้​ไม่อนุญาต​ให้​หล่อน​กิน​

คราวนี้​หล่อน​จะไม่ยอมให้​ใคร​กิน​หมู​ตุ๋น​ของหล่อน​เป็นอันขาด​

ทันทีที่​ได้​หมู​ตุ๋น​มาไว้​ใน​มือ​ หลิน​เพ่​ย​ก็​ยืน​ใกล้​กับ​ผู้คุม​ที่​กำลัง​กินข้าว​ และ​รีบ​สวาปาม​หมู​ตุ๋น​จน​หมด​ราวกับ​สุนัข​เขมือบ​อาจม​

เหล่า​ทรราช​คุก​เห็น​หล่อน​จาก​ระยะไกล​ ใบหน้า​ของ​พวก​หลอน​พลัน​ครึ้ม​ทะมึน​และ​มอง​ไป​ที่​หลิน​เพ่​ยอ​ย่าง​เย็นชา​

แต่​หลิน​เพ่​ย​ก็​ไม่สนใจ​

ผล​ของ​การ​กตัญญู​กับ​คนพาล​ใน​คุก​ก็​เท่ากับ​ไม่กตัญญู​ เพราะ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​โดน​ทุบตี​ทุกวัน​

ดังนั้น​การ​กิน​ดับ​ความหิว​ย่อม​ดีกว่า​ยอม​ทรมาน​ตัวเอง​ให้​หิวโหย​

หลัง​อาหารกลางวัน​ หลิน​เพ่​ย​ก็​อยาก​ไป​ที่​ห้อง​อ่านหนังสือ​เพื่อ​พัก​สัก​หนึ่ง​ชั่วโมง​

ไม่ใช่ว่า​หล่อน​สนใจ​อ่านหนังสือ​ แต่​เป็น​เพราะ​ที่นั่น​มีผู้คุม​รักษา​ความสงบเรียบร้อย​อยู่​ และ​ผู้คุม​เรือนจำ​จะช่วย​ปกป้อง​ไม่ให้​ผู้ใด​ทำร้าย​หล่อน​ได้​

แต่​ก่อนที่จะ​ไป​ถึงห้อง​อ่านหนังสือ​ หล่อน​ก็​ถูก​หญิง​สอง​สามคน​ลาก​ไป​ที่​มุมห้อง​ ปิดปาก​หล่อน​แน่น​ด้วย​เศษผ้า​เน่า​ก่อน​จะทุบตี​และ​เตะ​หล่อน​

คน​เหล่านี้​ล้วน​มีประสบการณ์​ พวก​หล่อน​ทุบตี​เฉพาะ​ส่วน​ของ​ร่างกาย​ภายใต้​เสื้อผ้า​ และ​ไม่จะไม่ทำร้าย​ส่วน​ที่อยู่​นอก​ร่มผ้า​ เช่น​ ใบหน้า​และ​แขน​

จุดประสงค์​ของ​พวก​หล่อน​ก็​คือ​ ไม่ต้องการ​ให้​ผู้คุม​มองเห็น​บาดแผล​บน​ร่างกาย​เหยื่อ​

หลิน​เพ่​ย​ถูก​รังแก​อย่าง​หนัก​ อีก​ฝ่าย​กระแทก​เข้าที่​ท้อง​ ความเจ็บปวด​ที่​เกิดขึ้น​ทำให้​หล่อน​ถึงกับ​เหงื่อ​แตก​

หญิงสาว​เหล่านั้น​ต่อว่า​หล่อน​ “กล้า​ดี​ยังไง​ถึงกิน​หมู​ตุ๋น​ที่​ควรจะเป็น​ของ​ฉัน​ ฉัน​จะทุบ​จนกว่า​หมู​ตุ๋น​จะออก​มาจาก​ท้อง​ของ​แก​! ถ้าพวกเรา​ไม่ได้​กิน​ แกก็ต้อง​ไม่ได้​กิน​!”

หญิง​สอง​คน​ยก​หลิน​เพ่​ย​ขึ้น​จาก​พื้น​ หญิง​อีก​คน​กำลังจะ​ต่อย​ท้อง​หล่อน​ แต่กลับ​มีหญิง​คน​หนึ่ง​วิ่ง​เข้ามา​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​

หล่อน​กล่าว​อย่าง​ลุกลี้ลุกลน​ “หยุด​ก่อน​ พวกเรา​หยุด​ทุบตี​กัน​ก่อน​ ตำรวจ​มาตาม​สอบสวน​หล่อน​ หล่อน​ต้อง​ไป​พบ​พวกเขา​”

เหล่า​แก๊ง​อันธพาล​ปล่อย​หล่อน​ไป​ และ​รู้​ว่า​หลิน​เพ่​ย​จะต้อง​บอก​คนอื่น​ ๆ อย่าง​แน่นอน​ว่า​หล่อน​ถูก​ทุบตี​

จากนั้น​พวก​หล่อน​ก็​ตบหน้า​หลิน​เพ่​ยอ​ย่าง​แรง​ “คืนนี้​ฉัน​จะสั่งสอน​แก​ให้​สาสม!”

หลิน​เพ่​ย​ถูก​พา​ตัว​ไปหา​ผู้คุม​เรือนจำ​โดย​หญิง​ที่​วิ่ง​มาบอกข่าว​

ผู้คุม​พา​หล่อน​ไป​ยัง​ห้องรับแขก​ซึ่งมีตำรวจ​สอง​คน​นั่ง​อยู่​

หลังจากที่​ผู้คุม​ออก​ไป​ ตำรวจ​สอง​นาย​ก็​เริ่ม​สอบปากคำ​หล่อน​

พวกเขา​ให้​หล่อน​อธิบาย​ว่า​หล่อน​นำ​ใคร​มาข่มขืน​ไป๋​ซวง​

หลิน​เพ่​ย​ตื่นตระหนก​ในทันที​

หล่อน​ร่ำไห้​ใน​ใจราวกับ​ทุกอย่าง​กำลังจะ​จบสิ้น​ หาก​ยอม​เปิดเผย​ว่า​ใคร​ข่มขืน​ไป๋​ซวง​ หล่อน​จะไม่ถูก​ยิงเป้า​เหรอ​?

แม้ไม่ถูก​ยิง​ก็​ยัง​ต้อง​โดน​ขัง​คุก​

หลิน​เพ่​ย​บังคับ​ตัวเอง​ให้​สงบ​ลง​

ครอบครัว​ไป๋​ให้สัญญา​กับ​หล่อน​แล้ว​ไม่ใช่เหรอ​ว่า​จะปล่อย​ให้​หล่อน​มีชีวิต​อยู่​หาก​หล่อน​ไม่ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​ไป๋​ซวง​

แล้ว​ทำไม​จู่ ๆ ตำรวจ​ถึงมาสอบสวน​เรื่อง​นี้​? เป็นไปได้​ไหม​ว่า​ตระกูล​ไป๋​กลับคำ​?

แต่​ถึงจะเป็น​แบบ​นั้น​ หล่อน​ก็​ทำลาย​รูปถ่าย​อนาจาร​ของ​ไป๋​ซวง​ไป​หมด​แล้ว​

ครึ่ง​ปี​ผ่าน​ไป​แล้ว​นับตั้งแต่​เหตุการณ์​ข่มขืน​ และ​ไม่มีหลักฐาน​ใด​ ๆ ที่​หลง​เหลืออยู่​บน​ร่างกาย​ของ​ไป๋​ซวง​

ผู้ชาย​ที่​ข่มขืน​ไป๋​ซวง​เป็น​กลุ่ม​อันธพาล​ที่​หล่อน​พบ​ตาม​ถนน​

ขนาด​หล่อน​ยัง​จำหน้าตา​ของ​พวกเขา​ไม่ได้​ นับประสาอะไร​กับ​ไป๋​ซวง​ที่​หมดสติ​ใน​ตอนนั้น​ เป็นไปไม่ได้​ยิ่งกว่า​ที่จะ​รู้​รูปร่างหน้าตา​ของ​พวกเขา​

แม้ว่า​คุณพ่อ​ไป๋​จะมีจดหมาย​สารภาพ​ผิดที่​หล่อน​เขียน​อยู่​ใน​มือ​เขา​ ตราบใดที่​หล่อน​ปฏิเสธ​ที่จะ​ยอมรับ​โดย​บอ​กว่า​ถูก​บังคับ​ให้​เขียน​ลง​ไป​ ก็​ไม่มีใคร​ทำ​อะไร​หล่อน​ได้​

กล่าวอีกนัยหนึ่ง​คือ​ไม่มีหลักฐาน​ว่า​เขา​พบ​คน​ข่มขืน​ไป๋​ซวง​

ที่​ตำรวจ​ซักถาม​หล่อน​เช่นนั้น​ เก้า​ใน​สิบ​ครั้ง​คือ​ต้องการ​หลอกล่อ​ให้​หล่อน​พูดความจริง​

เมื่อ​คิดได้​ดังนี้​ หลิน​เพ่​ย​ก็​สงบ​ลง​

หล่อน​เผย​สีหน้า​ตกใจ​ “ไป๋​ซวง​ถูก​กลุ่ม​ผู้ชาย​ข่มขืน​เหรอ​? ฉัน​ไม่ได้​ทำ​ และ​ไม่รู้เรื่อง​เลย​”

ตำรวจ​จ้องมอง​หล่อน​ “แต่​หลาย​คน​บอ​กว่า​คุณ​ยอมรับ​กับ​พวกเขา​เป็นการ​ส่วนตัว​ว่า​คุณ​ทำ​”

หลิน​เพ่​ย​เผย​แววตา​แน่วแน่​ “หาก​มีหลักฐาน​ก็​เอา​มาแสดง​สิคะ​ อย่า​เอาแต่​กล่าว​หาว่า​ฉัน​เป็น​คน​ทำ​”

ตำรวจ​ทั้งสอง​มองหน้า​กัน​

น่าเสียดาย​ที่​รูปถ่าย​อนาจาร​ของ​ไป๋​ซวง​ถูก​พ่อ​ไป๋​ทำลาย​ไป​แล้ว​เพื่อ​รักษา​ชื่อเสียง​ของ​ไป๋​ซวง​

แม้จะยังมี​จดหมาย​สารภาพ​ผิดที่​หลิน​เพ่​ย​เขียน​ เขา​ก็​เผลอ​ทำ​หาย​ไป​แล้ว​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​ใน​ตอน​ย้ายบ้าน​

เห็นได้ชัด​ว่า​พ่อ​ไป๋​และ​คนอื่น​ ๆ ไม่อาจ​หา​หลักฐาน​ใด​มาแสดง​เพื่อ​เอาผิด​หล่อน​ได้​ และ​ไม่สามารถ​พิสูจน์​ได้​ว่า​หลิน​เพ่​ย​นำ​คน​มาข่มขืน​ไป๋​ซวง​

ตำรวจ​ยังคง​พยายาม​หลอกล่อ​ให้​หลิน​เพ่​ย​สารภาพ​

ความ​รู้เท่าทัน​ต่อ​การ​ล่อลวง​ของ​หลิน​เพ่​ย​นั้น​แข็งแกร่ง​มาก​ และ​จิตใจ​ของหล่อน​ก็​แข็งแกร่ง​มาก​เช่นกัน​

ตำรวจ​สอง​คน​สอบปากคำ​หล่อน​ด้วย​วิธีการ​ทางจิตวิทยา​ แต่​ก็​ไม่อาจ​ล่อลวง​หล่อน​ได้​ พวกเขา​จึงคว้าน้ำเหลว​กลับ​ไป​

แวว​ยินดี​ส่อง​ประกาย​ใน​ดวงตา​ของ​หลิน​เพ่​ย​ หล่อน​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ทันที​

เมื่อ​ถึงสามทุ่ม​ครึ่ง​ ผู้คุม​เรือน​จำได้​ให้ความรู้​ด้าน​อุดมการณ์​ประจำวัน​แก่​นักโทษ​ และ​ขอให้​พวก​หล่อน​กลับ​ไป​ที่​หอพัก​เพื่อ​งีพักผ่อน​

หัวใจ​ของ​หลิน​เพ่​ย​แทบ​กระดอน​ขึ้น​มาจุก​คอหอย​ ยาม​ได้ยิน​คำสั่ง​ “เลิกแถว​!”

หล่อน​รู้​ว่า​ตัวเอง​กำลังจะ​ถูก​ทุบตี​

หลังจาก​ล้างหน้า​ หลิน​เพ่​ย​ก็​นอนลง​บน​เตียง​ของ​ตัวเอง​

เวลา​สี่ทุ่ม​ เรือนจำ​ก็​ปิดไฟ​ตามเวลา​ และ​มีเพียง​ไฟทางเดิน​เท่านั้น​ที่​ส่อง​เข้ามา​ทาง​ประตูรั้ว​เหล็ก​

เสียง​ฝีเท้า​ของ​ผู้คุม​เรือนจำ​ค่อย ๆ​ จางหาย​ไป​ และ​หลิน​เพ่​ย​ก็​ไม่สบายใจ​มากขึ้น​

ใน​หอพัก​มีเสียง​เดิน​แผ่วเบา​

ขณะที่​หลิน​เพ่​ย​กำลังจะ​มองหา​ต้นเสียง​ ทันใดนั้น​ก็​มีคน​นำ​ผ้านวม​มาคลุม​หัว​หล่อน​

คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ทุบตี​หล่อน​บน​เตียง​อย่าง​รุนแรง​ และ​เสียง​กรีดร้อง​ของหล่อน​ก็​ดังก้อง​อยู่​ใน​ผ้านวม​

……

ไม่กี่​วัน​ต่อมา​ คดี​ลอบทำร้าย​หลิน​ม่าย​ก็​ได้รับ​การ​ตัดสิน​

อาการ​บาดเจ็บ​ของ​หลิน​ม่าย​ถูก​ระบุ​ว่า​เป็น​อาการ​บาดเจ็บ​เล็กน้อย​ ดังนั้น​ลวี่กั๋วต้ง​และ​เพื่อน​ของ​เขา​จึงไม่ต้อง​ถูก​จำคุก​

แม้เขา​จะรอดพ้น​จาก​คุก​ แต่​การ​ควบคุมตัว​ทางอาญา​ ค่าปรับ​สำหรับ​การรักษา​ความปลอดภัย​สาธารณะ​ และ​ค่าชดเชย​สำหรับ​ค่ารักษาพยาบาล​ของ​เหยื่อ​ก็​เป็น​สิ่งที่​ขาดไม่ได้​

หลิน​ม่าย​ได้รับ​ค่ารักษาพยาบาล​รวม​หกสิบ​หยวน​จากล​วี่กั๋วต้ง​และ​เพื่อน​ของ​เขา​ เธอ​จึงบริจาค​ให้​กับ​องค์กร​สวัสดิการ​

สิ่งที่​ทำให้​เธอ​เสียใจ​คือ​ เธอ​จงใจเปิดโปง​เรื่อง​ทั้งหมด​เพื่อ​คลี่คลาย​คดี​ที่​ไป๋​ซวง​ถูก​ข่มขืน​ น่าเสียดาย​ที่​หลักฐาน​ไม่เพียงพอ​ ตำรวจ​จึงไม่สามารถ​เอาผิด​หลิน​เพ่​ย​ได้​

ลวี่กั๋วต้ง​ไม่เพียง​ต้อง​ชดเชย​ค่ารักษาพยาบาล​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ต้อง​จ่าย​ค่ารักษาพยาบาล​ของ​เพื่อน​อีก​หลาย​คน​ด้วย​

พวกเขา​ทั้งหมด​ถูก​หลิน​ม่าย​ทุบตี​อย่าง​รุนแรง​ แต่​หลิน​ม่าย​ทำ​ไป​เพราะ​ป้องกันตัว​ จึงไม่จำเป็นต้อง​จ่าย​ค่ารักษาพยาบาล​ให้​กับ​พวกเขา​

ดังนั้น​จึงมีเพียง​ลวี่กั๋วต้ง​เท่านั้น​ที่​ต้อง​จ่าย​ค่ารักษาพยาบาล​ เพราะ​เขา​เป็น​คน​สั่งให้​พวกเขา​โจมตี​หลิน​ม่าย​

ลูกอัณฑะ​ของ​เพื่อน​คน​หนึ่ง​ใน​หมู่​พวกเขา​ถูก​หลิน​ม่าย​เตะ​จน​บาดเจ็บ​ และ​ต้อง​ใช้เงิน​จำนวนมาก​ใน​การรักษา​

ลวี่กั๋วต้ง​ยังคง​ถูก​ควบคุมตัว​ทางอาญา​ แม้ว่า​เขา​จะเป็นอิสระ​ แต่​ก็​ไม่สามารถ​จ่าย​ค่ารักษาพยาบาล​ของ​เพื่อน​หลาย​คน​ได้​ โดย​เฉพาะคน​ที่​ได้รับบาดเจ็บ​ที่​ลูกอัณฑะ​

ในที่สุด​อู่​ผิง​และ​สามีก็​จ่าย​เงิน​ทั้งหมด​แทน​เขา​

ครึ่ง​เดือน​ต่อมา​ ลวี่กั๋วต้ง​ก็​ได้รับ​การปล่อยตัว​ และ​เมื่อ​เขา​กลับ​ถึงบ้าน​ พ่อ​ลวี่​ก็​พยายาม​ใช้ไม้ทุบตี​เขา​

เป็น​เพราะ​เขา​ทำให้​ครอบครัว​สูญเสียเงิน​จำนวนมาก​

และ​เป็น​เพราะ​ลูก​คน​นี้​เช่นกัน​ จึงทำให้​พ่อ​ไป๋​ย้าย​เขา​ไป​แผนก​อื่น​

ไม้เท้า​ของ​พ่อ​ลวี่​กระแทก​ศีรษะ​ของ​ลวี่กั๋วต้ง​ และ​เลือด​ก็​ไหล​ออกมา​ทันที​

แต่​ปัญหา​คือ​หัวหน้าแผนก​นั้น​เป็น​ศัตรู​ตัวฉกาจ​ของ​เขา​ และ​ถือว่า​อาชีพ​ทางการ​ของ​เขา​หาย​ไป​แล้ว​

พ่อ​ลวี่​เกลียด​ลูกชาย​ไร้ประโยชน์​คน​นี้​มาก​จน​อยาก​จะทุบ​เขา​ให้​ตาย​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ท่า​ไม่ดีแล้ว​ อู่​ผิง​ก็​ใช้ร่างกาย​ของหล่อน​ปกป้อง​ลวี่กั๋วต้ง​

ไม้เท้า​ของ​พ่อ​ลวี่​กระแทก​ศีรษะ​หล่อน​จน​เลือด​ไหล​ออกมา​ทันที​

ตั้งแต่นั้นมา​ ลวี่กั๋วต้ง​ก็​ตระหนัก​ว่า​แม่เลี้ยง​ของ​เขา​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​ด้วย​ความจริงใจ​

เขา​ไม่ต่อต้าน​หล่อน​เหมือน​เมื่อก่อน​อีกต่อไป​ คิด​จะเชื่อฟัง​แม่เลี้ยง​ทุกอย่าง​ ยกเว้น​การ​เลิกรา​กับ​ไป๋​ซวง​

ไป๋​ซวง​มาหา​ลวี่กั๋วต้ง​ทัน​ทีหลัง​พ้น​โทษ​ พลาง​ร้องไห้​พร่ำ​บ่นว่า​ตน​ใช้ชีวิต​ลำบาก​แค่​ไหน​ตลอด​ครึ่ง​เดือน​ที่ผ่านมา​

ครึ่ง​เดือน​ที่ผ่านมา​ของ​ไป๋​ซวง​ค่อนข้าง​ลำบาก​

แม้จะได้รับ​เงินชดเชย​สามสิบ​หยวน​จาก​ไป๋​เซี่ย​ แต่​ไป๋​ลู่​ก็​บอก​หลิน​ม่าย​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ใน​วันเดียวกัน​

หาก​แม่ไป๋​มอบ​เงิน​ให้​กับ​ไป๋​ซวง​ หลิน​ม่าย​จะไม่เข้าไป​ยุ่ง​

แต่​หลิน​ม่าย​ไม่ยอม​ให้เงิน​ของ​ไป๋​เซี่ย​กลายเป็น​ของ​ไป๋​ซวง​เด็ดขาด​

เธอ​เดิน​ไป​ที่​ถนน​เพื่อ​หา​นักล้วงกระเป๋า​ ว่าจ้าง​เขา​ด้วย​เงิน​ห้า​หยวน​เพื่อให้​ไป​ล้วงกระเป๋า​ไป๋​ซวง​

นักล้วงกระเป๋า​ไม่เพียง​ขโมย​เงิน​สามสิบ​หยวน​ที่​ไป๋​เซี่ย​ชดเชย​ให้​ไป๋​ซวง​ แต่​ยัง​ขโมย​เงินเก็บ​เล็กน้อย​ของหล่อน​ด้วย​ ตาม​นิสัย​ทั่วไป​ของ​เหล่า​หัวขโมย​

ไป๋​ซวง​กลายเป็น​คน​สิ้นไร้ไม้ตอก​ในทันที​ ดัง​สุนัขจรจัด​ที่​เดิน​เตร่​ไป​ตาม​ถนน​และ​ตรอก​ซอกซอย​ตลอด​ทั้งวัน​ และ​ในไม่ช้า​ก็​กลายเป็น​โสเภณีเพื่อ​หาเลี้ยงชีพ​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ทำ​อะไร​ก็​ได้ผล​อย่างนั้น​ จงใช้ชีวิต​อย่าง​แร้นแค้น​ไป​เถอะ​นะ​สอง​พี่น้อง​บ้าน​หลิน​

หวัง​ว่า​ไอ้​หนุ่ม​นี่​มัน​จะเลิก​ตาถั่ว​และ​ขอ​เลิก​กับ​นัง​งูพิษ​ไป๋​ซวง​ได้​สักที​ ทำ​พ่อ​เสีย​หน้าที่​การงาน​ขนาด​นั้น​ ถ้าไม่ใช่ลูก​ก็​คง​โดน​ตี​ตาย​อะ​

ไหหม่า​(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด