แม่ปากร้ายยุค​ 80 540 ทวงสินสอดคืน

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 540 ทวงสินสอดคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 540 ทวงสินสอดคืน

วันนี้ตระกูลเตียวกินอาหารมื้อเย็นกันค่ำมืด บ้านอื่น ๆ ในหมู่บ้านเดียวกันต่างก็กินอาหารมื้อเย็นกันเสร็จนานแล้ว แต่บ้านของพวกเขาเพิ่งจะก่อเตาไฟ

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง อาหารมื้อเย็นก็พร้อมสรรพ

สมาชิกในครอบครัวนั่งล้อมโต๊ะกินอาหาร

พ่อเตียวหยิบชามข้าวขึ้นมาแล้วตักเข้าปากไปสองสามคำ หันไปดุภรรยาและลูกชายด้วยความโกรธ “นังแพศยานั่นหนีไปก็ดีแล้ว พวกเธอสองคนยังจะตามหาหล่อนอีกทำไม! จากนี้เราต้องไปหาตระกูลหลินเพื่อทวงค่าสินสอดคืน! พวกเขาย้อมแมวยกนังสำส่อนนั่นมาแต่งกับลี่หมิน ครอบครัวของเราได้รับความอัปยศแค่ไหน!”

เขาออกไปทำไร่ไถนาตลอดทั้งช่วงบ่าย กลับมาทั้งทีก็ไม่มีอาหารร้อน ๆ เตรียมไว้ให้

นอกจากนี้ยังต้องตกใจเมื่อได้ยินข่าวร้ายว่าลูกสะใภ้ที่ครอบครัวตัวเองยอมจ่ายค่าสินสอดด้วยราคาที่สูงลิ่วเป็นนังสำส่อนที่ผ่านมือชายอื่นมาแล้ว แถมตอนนี้หล่อนยังมาหนีไป ทำให้พ่อเตียวตื่นตระหนกมาก

ขณะที่พ่อเตียวกำลังพูดพล่ามเรื่องต่าง ๆ อยู่นั้น ฉับพลันสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ก่อนจะคล้ำเข้มราวกับพายุก่อตัว ทำให้ผู้คนที่พบเห็นอกสั่นขวัญแขวน

พ่อเตียวขว้างชามและตะเกียบลงบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะตวาดเสียงดัง “นังผู้หญิงสำส่อน กล้าดียังไงถึงกลับมาที่นี่! ฉันจะหักขาแกซะ ดูซิว่าวันหลังยังคิดจะออกไปทำตัวร่านอีกไหม!”

หลังจากพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นไปคว้าจอบที่พิงอยู่หลังประตูห้องโถง แล้วพุ่งตัวไปหาหญิงสาวผู้มีจมูกฟกช้ำใบหน้าบวมเป่งที่ยืนอยู่หน้าประตูลานบ้าน

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลินเพ่ย

เมื่อกี้นี้หล่อนได้เกิดใหม่

เกิดใหม่พร้อมกับความทรงจำในชาติที่แล้วของตัวเอง

ชาติที่แล้วหล่อนกับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอาศัยประโยชน์จากความรักที่หลินม่ายมีต่ออู๋เสี่ยวเจี๋ยนของ รวมหัวกันใช้คนโง่เง่าอย่างเธอเป็นเครื่องมือเพื่อรายได้ให้กับพวกเขา

ชาติที่แล้วหล่อนกดขี่หลินม่ายเพื่อให้ตัวเองได้ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่ไม่ต่างจากคนรวยทั่วไป กินอาหารชั้นเลิศ สวมเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ มีเครื่องประดับราคาแพงชิ้นไหนที่หล่อนไม่เคยสวมใส่บ้าง?

แต่ทำไมชาติปัจจุบันหล่อนถึงตกอยู่ในสภาพตกต่ำแบบนี้ หล่อนถูกพ่อแม่แท้ ๆ บังคับให้ไปแต่งงานกับชายชาวเขา เพียงเพื่อหวังเอาตัวหล่อนไปแลกกับเงินค่าสินสอดที่พวกเขาจะได้รับ!

ทุกอย่างมันผิดพลาดไปหมด มันไม่ควรลงเอยแบบนี้สิ

ถึงนังหลินม่ายจะถูกพ่อแม่ตัวเองปฏิบัติอย่างเลวร้ายแค่ไหน แต่เธอก็ยังมีความกตัญญูต่อพวกเขา

นอกจากหลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาจะอาศัยอยู่ที่วิลล่าหลังใหญ่ในชนบทแล้ว พวกเขายังมีเงินจ้างแม่บ้านให้มาคอยดูแลปรนนิบัติตัวเองอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้หลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาจึงรักหล่อนมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง แม้แต่หลินสงซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวยังไม่ได้รับความโปรดปรานเท่า

ถ้าหล่อนไม่ใช้มารยาควบคุมอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและภรรยาจอมปลอมผู้โง่เง่าเต่าตุ่นของเขา ผู้เฒ่าสองสามีภรรยาจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้อย่างไร?

แต่ทำไมทุกอย่างในชาตินี้ถึงได้กลับตาลปัตรไปหมด จู่ ๆ หลินม่ายก็ตาสว่างในวันแต่งงานของตัวเอง และไม่ยอมตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอีกต่อไป

นี่มันหมายความว่าอย่างไร? อย่าบอกนะว่านังตัวแสบนั่นก็เกิดใหม่ด้วยเหมือนกัน?

ไม่อย่างนั้นจะอธิบายเรื่องที่หล่อนกับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนถูกนังตัวแสบนั่นล้างแค้นในชาตินี้ได้ยังไง!

ถึงจะพอจับทางได้แล้วว่าหลินม่ายอาจจะเกิดใหม่ แต่หลินเพ่ยก็ไม่ได้วางแผนที่จะจัดการกับเธอเป็นรายแรก

เหตุผลหลักคือหล่อนไม่รู้ว่าควรจะจัดการเธออย่างไรดี ก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายมาจัดการกับศัตรูที่อยู่ตรงหน้าแทน

ชาติที่แล้วหล่อนเคยมีชีวิตที่สวยหรูงามและสุขสบายเป็นอย่างยิ่ง พอมาชาตินี้หล่อนกลับถูกผู้ชายบ้านนอกทุบตีจนถึงแก่ความตาย!

จะให้หล่อนทนรับความจริงได้อย่างไรกัน?

หลังจากหลินเพ่ยเกิดใหม่ สิ่งแรกที่หล่อนคิดจะทำคือกลับไปชำระบัญชีกับเตียวลี่หมินและแม่ของเขา

พวกเขาจะทุบตีหล่อนให้ตายแล้วโยนศพหล่อนทิ้งไว้ในป่าลึกก็ช่างเถอะ แต่พวกเขากลับคาดหวังให้หมาป่ามากัดกินศพหล่อนอีก ช่างโหดร้ายเกินไปแล้ว!

หล่อนต้องการทำให้เตียวลี่หมินและแม่ของเขาตกใจจนสุดขีด จากนั้นก็ข่มขู่แบล็กเมล์พวกเขา แล้วเอาเงินก้อนหนึ่งไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สวยหรูดังเดิม

ไม่คาดคิดว่าหล่อนอุตส่าห์มาปรากฏตัวอยู่หน้าประตูบ้านตระกูลเตียวด้วยสภาพสยดสยอง คนแรกที่มีปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อเห็นว่าหล่อนฟื้นจากความตายไม่ใช่สองแม่ลูกคู่นั้น แต่เป็นจอบของพ่อสามีหล่อน

ถ้าถูกจอบเล่มนี้เฉาะลงกลางกบาล คราวนี้หล่อนคงตายจริง ๆ แน่

หลินเพ่ยตกใจกลัวมากจนประสาทสัมผัสทั้งห้าไม่ทำงาน ทันใดนั้นก็กรีดร้อง “ฆ่าคน เขากำลังจะฆ่าคนแล้ว!”

เสียงกรีดร้องโหยหวนของหล่อนแหวกทะลุท้องฟ้ายามค่ำคืนราวกับเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศ

ชาวบ้านหลายคนรีบวิ่งกรูกันออกมาจากบ้านทันที เมื่อเห็นว่าพ่อเตียวกำลังวิ่งไล่หลินเพ่ยโดยที่ใช้จอบเป็นอาวุธ พวกเขาทั้งหมดก็ไม่อยากให้ความสนใจเรื่องของครอบครัวอื่นอีก

ผู้หญิงสำส่อนคนนี้น่าขยะแขยงเกินไป หล่อนเคยรีดไถเงินจากผู้ชายโดยการหลับนอนกับเขามาแล้ว

ในสายตาของชาวบ้าน หลินเพ่ยคือดาวหายนะ ตายเร็วตายช้าก็ไม่สำคัญ

แต่ยุคนี้มีการปฏิรูปสังคมใหม่ ต่อให้หลินเพ่ยจะสมควรตายแค่ไหน ก็ต้องให้ทางตำรวจเป็นผู้ตัดสิน

การใช้กำลังตัดสินต่างศาลเตี้ยอย่างที่พ่อเตียวกำลังทำอยู่ในตอนนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะแค่ทำร้ายร่างกายหรือทำให้หลินเพ่ยพิการก็ตาม เขาต้องได้รับโทษทางกฎหมายทั้งสิ้น

ชาวบ้านฉุกคิดดังนั้นแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปห้ามพ่อเตียว ช่วยกันแย่งจอบในมือเขาออกไป

จากนั้นก็แนะนำเขาว่าอย่าได้หุนหันพลันแล่น มันไม่คุ้มกันเลยถ้าเขาจะต้องติดคุกเพราะผู้หญิงสำส่อนคนนี้

ทันทีที่แม่เตียวและเตี่ยวลี่หมินเห็นหลินเพ่ย ไม่มีใครหวาดกลัวหล่อนเลยสักนิด

พวกเขาไม่คิดว่าหลินเพ่ยจะฟื้นคืนชีพจากความตาย แต่คิดว่าก่อนหน้านี้หลินเพ่ยแค่แกล้งทำเป็นกลั้นหายใจและนอนนิ่งเพื่อให้พวกเขาตายใจเท่านั้น

ในขณะที่พ่อเตียววิ่งไล่ฆ่าหลินเพ่ยด้วยจอบ สองแม่ลูกก็วิ่งตามเขาออกไปเช่นเดียวกัน

เมื่อเห็นว่าพ่อเตียวถูกชาวบ้านช่วยกันห้ามปรามไว้ พวกเขาก็โล่งใจมาก

ในเมื่อหลินเพ่ยยังไม่ตายก็ดี พวกเขาไม่ต้องการให้พ่อเตียวทุบตีหล่อนจนตายแล้วต้องชดใช้ด้วยชีวิต เพราะมันไม่คุ้มค่ากันเลย

ทางด้านพ่อเตียว ถึงเขาจะรู้ว่าตัวเองทำผิดที่คิดจะไล่ทุบตีหลินเพ่ยให้ตาย แต่เขาก็ไม่สามารถระงับความโกรธเอาไว้ได้

เขาอุตส่าห์จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อแต่งสะใภ้เข้าบ้าน แต่มารู้ความจริงว่าหล่อนไม่บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็อดคับแค้นใจไม่ได้

ชาวบ้านบางคนเสนอขอให้ครอบครัวของพวกเขาไปที่บ้านตระกูลหลินเพื่อทวงค่าสินสอดคืน

พ่อเตียวไม่สนใจกินข้าวอีกต่อไป รีบพาภรรยากับเตียวลี่หมินไปบุกบ้านตระกูลหลินเพื่อทวงคืนค่าสินสอด ปล่อยให้ลูกชายคนเล็กกับลูกสาวอีกสองคนอยู่เฝ้าบ้าน

ชาวบ้านหลายคนที่ไม่มีอะไรทำก็ติดตามพวกเขาไปดูความตื่นเต้น ช่วยสนับสนุนตระกูลเตียวอีกแรง

พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นเพื่อนร่วมหมู่บ้าน มีอะไรที่ช่วยได้ก็ต้องช่วยเหลือกัน

เรื่องดี ๆ ไม่ค่อยเป็นข่าว เรื่องแย่ ๆ กลับดังไปไกลเป็นพันลี้

หลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาของเขาเองก็รู้เช่นกันว่าหลินเพ่ยเคยไปล่อลวงผู้ชายที่แต่งงานแล้วและขูดรีดเงินจากเขา ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านด้วยความอับอาย

เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยหลินเพ่ยเรียนมัธยม ยังไม่ทันแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาหล่อนก็ทำตัวแบบนั้นเสียแล้ว คนนอกจะคิดอย่างไรน่ะหรือ? คงไม่พ้นคิดว่าพวกเขาสองสามีภรรยาไม่ยอมอบรมสั่งสอนหล่อนน่ะสิ

ถ้าเรื่องฉาวที่ว่าเกิดขึ้นหลังจากหลินเพ่ยแต่งงานแล้ว พวกเขาคงไม่รู้สึกขายหน้าเท่านี้

เนื่องจากพวกเขาสามารถใช้ข้ออ้างได้ว่าเตียวลี่หมินปฏิบัติต่อหลินเพ่ยอย่างเลวร้าย ทำให้หล่อนคิดนอกใจเขา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาทั้งคู่เลย

ในขณะที่หลินเจี้ยนกั๋วและภรรยากำลังดุด่าสาปแช่งหลินเพ่ยอยู่ในใจ พวกเขาก็ได้ยินเสียงคนมาทุบประตูลานบ้านตัวเองอย่างเร่งรีบ ตะโกนด้วยน้ำเสียงก้าวร้าว “เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

ทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความตกตะลึง ถึงจะไม่รู้ว่าผู้มาเยือนคือใคร แต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญคนนั้นต้องไม่ได้มาดีแน่

ทั้งสองไม่กล้าเปิดประตู ดังนั้นซุนกุ้ยเซียงจึงหันไปโก่งคอเรียกให้หลินสงเป็นคนไปเปิดประตูแทน

หลินสงกำลังจะเดินไปเปิดประตู แต่ถูกเติ้งซิ่วจือห้ามปรามไว้ “อย่าเปิดประตูเชียวนะ บางทีน้องสาวคนโตของคุณอาจมีปัญหาก็ได้ ถ้าคุณไปเปิดประตูให้เธอ คุณไม่กลัวโดนเหมารวมว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดหรอกเหรอ?”

ดังนั้นหลินสงจึงยืนนิ่ง

ซุนกุ้ยเซียงโก่งคอเรียกเป็นเวลานาน แต่เมื่อเห็นว่าหลินสงไม่มีการตอบสนองใด ๆ หล่อนจึงเอาแต่สาปแช่งเขา แล้วออกไปเปิดประตูเอง

ทันทีที่ประตูลานบ้านเปิดออก พ่อเตียวก็ฟาดฝ่ามือตบหล่อนเสียงดัง “ยายแก่ตายยาก แกกล้าดียังไงถึงเอาลูกสาวสำส่อนของตัวเองมาแต่งงานกับลูกชายฉัน! คืนเงินค่าสินสอดมาซะ ไม่งั้นเราสองคนได้เห็นดีกันแน่!”

พอซุนกุ้ยเซียงถูกตบ หล่อนก็ยกมือปิดบังซีกหน้าครึ่งหนึ่งของตัวเองที่ถูกตบตี เถียงกลับคอเป็นเอ็น “ลูกสาวฉันสำส่อนแล้วยังไง ทำอย่างกับว่าลูกชายของตัวเองมีน้ำยามากนักแหละ ต่อให้เขาจะออกไปซื้อกิน ก็ยังต้องเสียเงินหลายหยวน เงินค่าสินสอดของพวกคุณเพียงพอกับค่าตัวของหญิงบริการคนไหนบ้าง? ยังหน้าไม่อายมาทวงเงินค่าสินสอดคืนจากฉันอีก กล้าดียังไงกัน!”

สมาชิกสามคนจากตระกูลเตียวรวมถึงชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่มาจากหมู่บ้านเดียวกันถึงกับพูดไม่ออก เมื่อได้ยินเหตุผลที่ไร้เหตุผลจากปากซุนกุ้ยเซียง

ในเมื่อเจรจากันไม่ได้ อย่างนั้นก็ใช้กำลังกันไปเลย

เกิดฝุ่นตลบฟุ้งกระจายระหว่างการต่อสู้ของสองครอบครัว ชาวบ้านที่อยู่โดยรอบก็ไม่สามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้

ผลลัพธ์ของการต่อสู้พัวพันกัน ทำให้หลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาของเขาถูกเตียวลี่หมินและพ่อแม่ของเขาผลักลงไปกองกับพื้นแล้วรุมทำร้ายอย่างรุนแรง

หลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาตะโกนเรียกลูกชายและลูกสะใภ้อย่างสิ้นหวัง ขอให้พวกเขาเข้ามาช่วย

ถ้ามีกำลังเพิ่มอีกสองคน สถานการณ์ก็อาจพลิกกลับได้

ถึงอย่างไรหลินสงก็ได้รับการเลี้ยงดูจากหลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาของเขาเป็นอย่างดีมาจนเติบใหญ่ เขาไม่สามารถทนเห็นพ่อแม่ของตัวเองถูกคนอื่นทุบตีได้

เขาไม่ยอมเชื่อฟังการขัดขวางของเติ้งซิ่วจืออีกต่อไป เข้าร่วมศึกระหว่างสองครอบครัวทันที

สถานการณ์พลิกกลับดังคาด สมาชิกสามคนจากครอบครัวของเตียวลี่หมิน ถูกสมาชิกสามคนจากตระกูลหลินเอาชนะจนได้

ตระกูลเตียวมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน ชาวบ้านที่ตามมาเห็นว่าครอบครัวของพวกเขากำลังจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ดังนั้นใครบางคนจึงแอบไปที่โรงพักเพื่อแจ้งความ

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง พวกเขาสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วตัดสินลงโทษทั้งสองฝ่าย ห้ามไม่ให้พวกเขาต่อสู้หรือใช้กำลังต่อกันอีก ถ้าไม่เชื่อฟังทุกคนจะโดนจับไปภาคทัณฑ์ที่โรงพักเป็นเวลาครึ่งเดือน

ในที่สุดเรื่องน่าขันนี้ก็จบลง

ถึงอย่างนั้นหลินเจี้ยนกั๋วและภรรยาก็ยังคงไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง หลินเพ่ยสร้างปัญหาเอาไว้มากมายขนาดนี้ แต่หล่อนกลับหนีหายเอาตัวรอด ทิ้งเรื่องวุ่นวายไว้ให้พวกเขาตามเช็ดตามล้าง

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ยัยเพ่ยนี่ดาวหายนะตายยากจริงๆ ใครกันหนอจะเป็นคู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อกับหล่อนได้

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *