แม่ปากร้ายยุค​ 80 676 ให้กำลังใจลวี่กั๋วต้ง

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 676 ให้กำลังใจลวี่กั๋วต้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 676 ให้กำลังใจ​ลวี่กั๋วต้ง​

คู่​หนุ่มสาว​ไป​ยัง​ห้างสรรพสินค้า​เพื่อ​ซื้อ​ของขวัญ​ จากนั้น​กลับ​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​พ่อ​ไป๋​

ซึ่งที่นี่​ไม่มีแม่ไป๋​และ​ไป๋​ซวง​

มีเพียง​พ่อ​ไป๋​ สอง​พี่น้อง​ไป๋​เซี่ย​และ​ไป๋​ลู่​ ครอบครัว​ของ​ไป๋​เหยียน​ และ​คู่สามีภรรยา​อาวุโส​อย่าง​ปู่​ไป๋​ บรรยากาศ​โดยรวม​ค่อนข้าง​กลมกลืน​และ​สมานฉันท์​

ไป๋​เหยียน​ลงมือ​ทำอาหาร​ หยาง​จิ้น​จึงลุก​ไป​ช่วยเหลือ​ ทั้งสอง​ทำอาหาร​แสน​อร่อย​สำหรับ​หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​

ผู้​ที่​แม่ไป๋​ควร​เอา​เป็น​แบบอย่าง​มาก​ที่สุด​คือ​ไป๋​เหยียน​พี่สาว​คนโต​ของ​ตระกูล​

ทุกคน​รับประทาน​อาหาร​และ​พูดคุย​กัน​อย่าง​มีความสุข​

พ่อ​ไป๋​บอ​กว่า​หลิน​ม่าย​มีอายุ​ใน​ทะเบียนบ้าน​เกือบ​ยี่สิบ​ปี​แล้ว​ ซึ่งบรรลุนิติภาวะ​ที่จะ​จดทะเบียนสมรส​

เขา​เตือน​ฟางจั๋ว​หรา​น​ว่า​อย่า​ลืม​ขอรับ​ใบรับรอง​กับ​หลิน​ม่าย​

การ​ขอ​ทะเบียนสมรส​ใน​ยุค​นี้​เข้มงวด​น้อยกว่า​ใน​ทศวรรษ​ต่อมา​มาก​

ตราบใดที่​บรรลุนิติภาวะ​สำหรับ​การ​แต่งงาน​ ย่อม​เป็นไปได้​ที่จะ​ไว้วางใจ​ให้​คนอื่น​ดำเนินการ​แทน​

ฟางจั๋ว​หรา​นก​ล่า​ว​ “ผม​ได้​ขอให้​หัวหน้า​คน​ก่อน​ช่วยเหลือ​ผม​และ​หลิน​ม่าน​ยื่น​ขอ​ทะเบียนสมรส​แล้ว​ หลังจาก​วันที่​เก้า​ หัวหน้า​จะส่งทะเบียนสมรส​มาให้​เรา​”

ได้ยิน​แบบ​นั้น​พ่อ​ไป๋​ก็​โล่งใจ​

หลัง​รับประทาน​อาหารกลางวัน​และ​พูดคุย​กัน​สักพัก​ หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​ขับรถ​กลับบ้าน​

ตั้งแต่​ที่​แม่ไป๋​และ​พ่อ​ไป๋​หย่ากัน​ แม่ไป๋​เลี้ยงดู​คน​สอง​คน​ด้วย​เงินเดือน​ของ​ตน​คนเดียว​และ​ต้อง​จ่าย​ค่า​เช่าบ้าน​อีกด้วย​ ส่งผล​ให้​ชีวิต​ของ​ไป๋​ซวง​ไม่ดี​เหมือน​เมื่อก่อน​ ซึ่งทำให้​หล่อน​หดหู่ใจ​อย่าง​มาก​

ลวี่กั๋วต้ง​แฟน​ของหล่อน​ที่​คบหา​กัน​มาตั้งแต่​ยัง​เด็ก​ ขอให้​ออก​ไป​ซื้อ​ของ​ด้วยกัน​ หล่อน​จึงออก​ไป​

พูด​ตามตรง​ก็​คือ​ ทุกวันนี้​ลวี่กั๋วต้ง​ยัง​เต็มใจ​ที่จะ​คบหา​กับ​หล่อน​ ไม่ว่า​มัน​จะเป็น​รูปแบบ​ไหน​ ไป๋​ซวง​ก็​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​มาก​

ตั้งแต่​เรื่องอื้อฉาว​ของหล่อน​แพร่​ออก​ไป​ เพื่อนร่วมชั้น​หลาย​คน​เริ่ม​ไม่พูดคุย​กับ​หล่อน​อีก​

บางครั้ง​ที่​บังเอิญ​เจอกัน​บน​ถนน​ ไม่เพียง​ไม่ทักทาย​หล่อน​เท่านั้น​ แต่​ยัง​ชี้นิ้ว​มาทาง​หล่อน​พร้อม​กระซิบกระซาบ​ การ​ถูก​จ้องมอง​อย่าง​เหยียดหยาม​เช่นนี้​ทำให้​หล่อน​ลืม​ไม่ลง​ไป​ตลอดชีวิต​

ไป๋​ซวง​รู้สึก​เสียศูนย์​อย่าง​มาก​

ทำไม​เพื่อนร่วมชั้น​เหล่านี้​ถึงดูถูก​หล่อน​ ถ้าพบ​เจอ​สิ่งเดียวกัน​กับ​ที่​เธอ​เผชิญหน้า​ พวกเขา​อาจ​ทำ​ยิ่งกว่า​หล่อน​ก็ได้​!

ทั้งสอง​เดิน​เคียงข้าง​กัน​ไป​ตาม​ถนนหนทาง​ ไป๋​ซวง​ถาม “คุณป้า​ยัง​ให้​นาย​ไป​ไหน​มาไหน​กับ​ฉัน​ด้วย​เหรอ​?”

ลวี่กั๋วต้ง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​ตอบ​ว่า​ “เปล่า​หรอก​ แต่​ฉัน​ไม่ฟังหล่อน​อยู่แล้ว​”

ไป๋​ซวง​รีบ​ผลัก​เขา​และ​พูดว่า​ “นาย​แอบ​มาหา​ฉัน​เป็นการ​ส่วนตัว​ รีบ​กลับ​ไป​เลย​นะ​ อย่า​ทำให้​คุณป้า​โกรธ​ คุณป้า​เป็น​คนดี​ เพียงแต่​หล่อน​เข้มงวด​กับ​นาย​ไป​หน่อย​ แต่​นี่​ก็​แสดงว่า​หล่อน​รัก​นาย​จริงๆ​ ถ้าหล่อน​ไม่รัก​นาย​ หล่อน​คง​ไม่ตี​สั่งสอน​นาย​โดย​ไม่สนใจ​ว่า​จะถูก​กล่าว​หาว่า​เป็น​แม่เลี้ยง​ใจร้าย​ อีก​อย่าง​หล่อน​เอา​เวลา​มากมาย​เหล่านี้​ไป​สั่งสอน​ลูกชาย​ตัวเอง​ดีกว่า​ไม่ใช่เหรอ​? นั่น​หมายความว่า​หล่อน​ให้ความสำคัญ​กับ​นาย​เหมือนกับ​ลูกชาย​แท้ๆ​ ของ​ตัวเอง​ นาย​ควรจะ​ขอบคุณ​หล่อน​นะ​”

แม่ของ​ลวี่กั๋วต้ง​เป็น​แม่เลี้ยง​ หล่อน​เป็น​คน​ติด​ดิน​และ​ไม่สนใจ​สิ่งใด​มาก​

หล่อน​ต้องการ​เลี้ยงดู​สั่งสอน​ลูก​ทั้งสอง​ให้​มีความสามารถ​อย่าง​เต็มที่​ ไม่ว่า​จะเป็น​ลูก​ของ​ตัวเอง​หรือ​ลูกติด​จาก​ภรรยาเก่า​ของ​สามีที่​ทิ้ง​ไป​

ลูกชาย​ของ​แม่เลี้ยง​ลวี่กั๋วต้ง​เชื่อฟัง​มากกว่า​ หล่อน​จึงให้ความสนใจ​เขา​น้อยลง​

ส่วน​ลวี่กั๋วต้ง​เป็น​คน​ดื้อรั้น​มาก​ ดังนั้น​แม่เลี้ยง​จึงมัก​ทุบตี​สั่งสอน​เขา​บ่อยครั้ง​

ลวี่กั๋วต้ง​คิด​ว่า​แม่เลี้ยง​รัก​พวกเขา​ไม่เท่ากัน​ และ​รู้สึก​ไม่ชอบ​หน้า​แม่เลี้ยง​

เมื่อ​ไป๋​ซวง​ดุ​เขา​เรื่อง​นี้​ ลวี่กั๋วต้ง​ก็​ยิ่ง​ไม่พอใจ​แม่เลี้ยง​ของ​ตัวเอง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

เขา​ตะคอก​ด้วย​ความ​เย็นชา​ “ขอบคุณ​เหรอ​ เหอะ​ๆ!”

ไป๋​ซว​งอด​ไม่ได้​ที่จะ​ยก​ยิ้มมุมปาก​ด้วย​ความภูมิใจ​

หล่อน​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​มีทักษะ​ใน​การ​พูด​อย่าง​มาก​ พูด​ไป​เพียง​ไม่กี่​คำ​ก็​สามารถ​กระตุ้น​ความเกลียดชัง​ของ​ลวี่กั๋วต้ง​ที่​มีต่อ​แม่เลี้ยง​ได้​แล้ว​

นัง​ผู้หญิง​แก่​นั่น​เป็น​ใคร​ถึงมาสั่งห้ามไม่ให้​ลวี่กั๋วต้ง​คบหา​กับ​หล่อน​!

ทั้งสอง​เดิน​เคียงข้าง​กัน​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ จู่ๆ ลวี่กั๋วต้ง​ก็​ยก​มือขึ้น​ชี้นิ้ว​ “ดู​สิ ลูกสาว​แท้ๆ​ ของ​พ่อแม่​เธอ​นี่​”

พ่อ​ของ​ลวี่กั๋วต้ง​และ​พ่อ​ไป๋​เป็น​เพื่อนร่วมงาน​กัน​ ซึ่งเป็น​ความสัมพันธ์​แบบ​หัวหน้า​และ​ลูกน้อง​

มิตรภาพ​ระหว่าง​ทั้งสอง​ถือว่า​ไม่เลวร้าย​ ดังนั้น​พ่อ​ไป๋​จึงเชิญพ่อ​ลวี่​มางานแต่งงาน​ของ​ลูกสาว​ตัวเอง​

ดังนั้น​ลวี่กั๋วต้ง​จึงตาม​พ่อแม่​มางานแต่งงาน​ของ​หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ด้วย​ และ​เคย​ได้​เห็น​หลิน​ม่าย​มาก่อน​

ครั้งแรก​ที่​เขา​ได้​เห็น​หลิน​ม่าย​ มัน​ทำให้​เขา​ตกใจ​ไม่น้อย​

ใน​วัน​แต่งงาน​ หลิน​ม่าย​แต่งหน้า​อย่าง​ประณีต​ดู​มีเสน่ห์​ดึงดูด​มาก​

แม้วันนี้​หลิน​ม่าย​จะไม่ได้​แต่งหน้า​ แต่​เธอ​ยังคง​ดู​สวย​เหมือนเดิม​

ไป๋​ซวง​หัน​มองตาม​นิ้ว​ของ​ลวี่กั๋วต้ง​ แล้วก็​เห็น​หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​จอด​รถ​และ​ลงมา​ซื้อ​ผลไม้​ที่​ร้านค้า​ข้าง​ถนน​

เมื่อ​ดู​เสื้อผ้า​ที่​หลิน​ม่าย​สวมใส่​ และ​สิ่งที่​ตัวเอง​สวมใส่​ จากนั้น​ก็​ไล่​ดู​เครื่องประดับ​พลาง​เปรียบเทียบ​ระหว่าง​หลิน​ม่าย​และ​ตัวเอง​ ไป๋​ซวง​พลัน​รู้สึก​ว่า​ไม่ยุติธรรม​เลย​

หล่อน​ลอบ​กัดฟัน​ด้วย​ความโกรธ​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​หลิน​ม่าย​ หล่อน​จะตกต่ำ​ได้​ถึงขนาด​นี้​หรือ​?

หล่อน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​โพล่ง​ออก​ด้วย​ความเกลียดชัง​อย่าง​สุดซึ้ง​ “ไร้ยางอาย​ ไร้ยางอาย​จริงๆ​ อย่าง​หล่อน​ก็​รู้​แค่​วิธีใช้​เงิน​ของ​ผู้ชาย​!”

ลวี่กั๋วต้ง​มอง​หล่อน​ด้วย​ความประหลาดใจ​

หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เป็น​สามีภรรยา​กัน​ จึงไม่ใช่เรื่อง​แปลกที่​ภรรยา​จะใช้จ่าย​ด้วย​เงิน​สามี

ยิ่งไปกว่านั้น​พวกเขา​แค่​ซื้อ​ผลไม้​ ผลไม้​พวก​นั้น​คง​ไม่ได้​มีราคาแพง​ อย่าง​น้อย​ก็​ไม่แพง​เท่า​กล่อง​แป้ง​เค้ก​ที่​เขา​ซื้อ​ให้​ไป๋​ซวง​

แต่​ไป๋​ซวง​กลับ​ใช้เหตุการณ์​นี้​โจมตี​หลิน​ม่าย​อย่าง​ไร้เหตุผล​

เมื่อ​นึกถึง​ข่าวลือ​เกี่ยวกับ​ไป๋​ซวง​ที่​พยายาม​ขัดขวาง​หลิน​ม่าย​ไม่ให้​เจอ​กับ​ตระกูล​ไป๋​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ลวี่กั๋วต้​งอด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​เกลี้ยกล่อม​ “ซวงเอ๋อร์​ ฉัน​รู้​ว่าการ​กลับ​มายัง​ตระกูล​ไป๋​ของ​หลิน​ม่าย​มีอิทธิพล​กับ​เธอ​มาก​ แต่​นี่​มัน​ก็​เป็น​บ้าน​ของ​เธอ​เหมือนกัน​”

ไป๋​ซวง​สังเกตเห็น​เล่ห์เหลี่ยม​ของ​เขา​ได้​ทันที​

เธอ​กลอกตา​และ​จงใจกล่าว​คำ​ด้วย​ความลังเล​ “ฉัน​ไม่ได้​ไม่มีความสุข​ที่​หล่อน​กลับ​มายัง​ตระกูล​ไป๋​ แต่​เพราะว่า​… เพราะ​…”

“เพราะอะไร​?” ลวี่กั๋วต้ง​ถามขึ้น​ด้วย​ความสงสัย​

ไป๋​ซงถามกลับ​ด้วย​ความลังเล​ “นาย​จำช่วง​สอง​ถึงสามเดือนก่อน​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย​ได้​ไหม​ ที่​ฉัน​ขอให้​นาย​จัดการ​กับ​คนเลว​”

“จำได้​สิ ทำไม​จะจำไม่ได้​ล่ะ​” ลวี่กั๋วต้ง​พยักหน้า​รับ​ “เธอ​บอก​ฉัน​ว่า​จะพา​คนเลว​คน​นั้น​ไป​ที่​โรงแรม​เพื่อ​มอมเหล้า​ ให้​ฉัน​พา​พี่น้อง​สัก​สอง​ถึงสามคน​ลาก​ไอ้​เลว​นั่น​ไป​นอกเมือง​เพื่อ​สั่งสอน​ให้​หนัก​ เพื่อ​ที่​มัน​จะได้​ไม่กล้า​มายุ่ง​เกี่ยวกับ​เธอ​อีก​ในอนาคต​ แต่​เธอ​กลับ​ออก​ไป​ก่อน​โดย​ไม่ได้​กินข้าว​กับ​ไอ้​เลว​คน​นั้น​จน​เสร็จ​ ต่อมา​พอ​ฉัน​ถามเธอ​ เธอ​บอ​กว่า​ถูก​ไอ้​เลว​คน​นั้น​ลักพาตัว​ไป​ และ​เธอ​หนี​ออกมา​ได้​ระหว่างทาง​”

ไป๋​ซวง​เริ่ม​บีบน้ำตา​ออกมา​ “ฉัน​ไม่ได้​หนี​ ฉัน​โกหก​นาย​ เพราะ​เกรง​ว่า​นาย​จะเป็นกังวล​~”

ลวี่กั๋วต้ง​รู้สึก​ประหม่า​ขึ้น​มาอย่าง​กะทันหัน​ “แล้ว​เกิด​อะไร​ขึ้น​ระหว่าง​เธอ​กับ​คนเลว​นั่น​?”

ไป๋​ซวง​ยิ่ง​ร้องไห้​หนัก​ขึ้น​ “ฉัน​ถูก​แอบ​ถ่ายภาพ​อนาจาร​ และ​คนเลว​นั่น​ก็​คือ​หลิน​ม่าย​ ตอนนี้​นาย​เข้าใจ​แล้ว​หรือยัง​ว่า​ทำไม​ฉัน​ถึงได้​เกลียดชัง​หล่อน​นัก​”

ลวี่กั๋วต้ง​กัดฟัน​กรอด​ “ไม่คาดคิด​เลย​ว่า​หลิน​ม่าย​ที่​ดู​สวยงาม​ภายนอก​ แต่กลับ​มีจิตใจ​เลวทราม​ถึงขนาด​นี้​!”

ไป๋​ซวง​ลอบ​กัดฟัน​ด้วย​ความโกรธ​เมื่อ​ได้ยิน​ลวี่กั๋วต้งชม​ว่า​อีก​ฝ่าย​สวย​

หล่อน​กล่าว​ออกมา​ด้วย​ท่าทาง​น่าเวทนา​ “กั๋วต้ง​ นาย​ต้อง​ช่วย​ฉัน​แก้แค้น​นะ​”

ลวี่กั๋วต้ง​พยักหน้า​รับคำ​ “อย่า​ห่วง​เลย​ ฉัน​จะช่วย​เธอ​เอง​!”

ใน​พริบตา​ก็​เป็น​วันหยุด​สุดท้าย​ของ​วัน​ชาติ​ วันนี้​ฟางเว่ยกั๋ว​และ​คนอื่นๆ​ เดินทาง​ออกจาก​เมืองหลวง​เพื่อ​กลับ​ไป​ยัง​เมือง​เจียง​เฉิน​

หลังจาก​รับประทาน​อาหารเช้า​ ฟางจั๋ว​หรา​น​และ​ภรรยา​ออกมา​ส่งฟางเว่ยกั๋ว​และ​คนอื่นๆ​ กลับ​เมือง​เจียง​เฉิงที่​สนามบิน​

จู่ๆ ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​กระซิบ​กับ​ฟางเว่ยกั๋ว​ว่า​ “ขอบคุณ​นะ​ครับ​พ่อ​”

ฟางเว่ยกั๋ว​รู้สึก​สับสน​เล็กน้อย​ “ขอบ​คุณพ่อ​เรื่อง​อะไร​?”

“ที่​ช่วย​รับ​น้ำ​โค้ก​แทน​ผม​ใน​วัน​แต่งงาน​”

หาก​กู้​ม่าน​ซือ​สาด​น้ำกรด​แทน​น้ำ​โค้ก​ใน​วันนั้น​ ผล​ที่​ตามมา​คง​เป็น​หายนะ​

จนถึง​ทุกวันนี้​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ยัง​รู้สึก​หวาดหวั่น​อยู่​ใน​ใจเมื่อ​นึกถึง​เรื่องราว​คราว​นั้น​

ไม่ใช่ว่า​เขา​กลัว​ที่​น้ำ​โค้ก​กระเด็น​ใส่หลัง​ของ​ฟางเว่ยกั๋ว​ แต่​ถ้ามัน​เป็น​น้ำกรด​ขึ้น​มาจริงๆ​ ฟางเว่ยกั๋ว​จะได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​

ฟางเว่ยกั๋ว​เผย​ยิ้ม​และ​ตบ​ไหล่​ฟางจั๋ว​หรา​น​ “พ่อ​เป็น​พ่อ​ของ​ลูก​ เพราะ​งั้น​ไม่ต้อง​ขอบคุณ​สิ่งที่​พ่อ​ทำให้​ลูก​หรอก​”

จากนั้น​ เขา​เดิน​เข้าไป​ยัง​ช่อง​รักษา​ความปลอดภัย​ของ​สนามบิน​พร้อมกับ​ฟางเว่ยห​มิน​และ​คนอื่นๆ​

หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​นร​อก​ระ​ทั่ง​พวก​ฟางเว่ยกั๋ว​และ​คนอื่นๆ​ เดิน​ห่าง​ออก​ไป​จน​ลับสายตา​

เมื่อ​ทั้งสอง​กลับ​มาถึงบ้าน​ ทันทีที่​เดิน​เข้าไป​ยัง​ห้องนั่งเล่น​ ปู่​ฟาง ย่า​ฟาง และ​โต้​ว​โต้​ว​ก็​ร่วม​ร้องเพลง​วันเกิด​ให้​หลิน​ม่าย​ “สุขสันต์วันเกิด​แด่​คุณ​ สุขสันต์วันเกิด​แด่​คุณ​…”

หลิน​ม่าย​รู้สึก​สับสน​เล็กน้อย​ “วันเกิด​ของ​ฉัน​ยังอีก​สอง​วัน​ ทำไม​ถึงรีบ​ฉลอง​วันเกิด​ตั้งแต่​วันนี้​ล่ะ​?”

คุณย่า​ฟางพูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ “วันเกิด​ของ​เธอ​ไม่ตรง​กับ​วันหยุด​ และ​เธอ​จะต้อง​ไป​เรียน​ เรา​จึงฉลอง​วันเกิด​ให้​เธอ​วันนั้น​ไม่ได้​ ย่า​และ​ปู่​จึงตัดสินใจ​ว่า​จะฉลอง​วันเกิด​ล่วงหน้า​ให้​เธอ​ล่วงหน้า​ นี่​เป็น​วันเกิด​ปี​แรก​ตั้งแต่​เธอ​แต่งงาน​เข้ามา​อยู่​ใน​ครอบครัว​ฟางของ​เรา​”

หลิน​ม่าย​รู้สึก​อบอุ่น​ใน​หัวใจ​เมื่อ​ได้​รับฟัง​

ทุกคน​กิน​เค้ก​วันเกิด​ด้วยกัน​อย่าง​มีความสุข​ และ​จัด​งานเลี้ยง​เล็ก​ๆ ใน​ครอบครัว​

หลิน​ม่าย​กิน​จน​อิ่ม​และ​รู้สึก​หนังตา​ที่​หนักอึ้ง​

ใน​ช่วง​สอง​ถึงสามคืน​ที่ผ่านมา​ เธอ​ใช้พลังงาน​มากเกินไป​

เธอ​จึงเดิน​กลับ​ไป​นอน​ที่​ห้อง​ แต่​หลังจาก​นอน​ได้​ไม่นาน​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​เข้า​มาหา​และ​ปลุก​เธอ​ให้​ตื่น​

หลิน​ม่าย​ยังคง​หลับตา​และ​ยกมือ​ปัด​ป้อง​เขา​ออก​ไป​ “จั๋ว​หรา​น​ อย่า​กวน​ได้​ไหม​ ให้​ฉัน​ได้​นอนหลับ​เถอะ​”

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​ท่าทาง​แสน​ขี้เกียจ​ของ​ภรรยา​ เธอ​ช่างมีเสน่ห์​อย่าง​มาก​ ไม่ว่า​จะมอง​มุมไหน​ก็​ดู​น่ารัก​น่า​ทะนุถนอม​

เขา​ก้มลง​จูบ​หน้าผาก​ของ​เธอ​ “ผม​ไม่ได้​ตั้งใจ​จะมากวน​ แต่​ผม​มีของขวัญ​วันเกิด​มาให้​คุณ​”

หลิน​ม่าย​ลืมตา​ขึ้น​ทันที​ “ของขวัญ​วันเกิด​อะไร​หรือ​?”

ใบรับรอง​อสังหาริมทรัพย์​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​สายตา​ของ​เธอ​

มัน​เป็น​ใบรับรอง​อสังหาริมทรัพย์​ใน​ฮ่องกง​

หลิน​ม่าย​รับ​ใบรับรอง​อสังหาริมทรัพย์​มาด้วย​ความสนใจ​และ​นั่ง​อ่าน​รายละเอียด​

หลังจากนั้น​เธอ​ก็​ต้อง​สะดุ้ง​ตกใจ​

ใบรับรอง​อสังหาริมทรัพย์​นี้​เป็น​ระดับ​กลาง​ของ​ฮ่องกง​ เป็น​ใบรับรอง​วิลล่า​ขนาดใหญ่​ที่​มีพื้นที่​มากกว่า​ 600 ตารางเมตร​

หน่วย​ที่​คน​ฮ่องกง​ใช้ใน​การคำนวณ​พื้นที่​ของ​บ้าน​คือ​ตารางเมตร​ของ​ฮ่องกง​ หลิน​ม่าย​ต้อง​ทำการ​แปลง​หน่วย​ใน​ใจ ซึ่งคำนวณ​ผลลัพธ์​ได้​มากกว่า​ 600 ตารางเมตร​จีน​

ใน​ฐานะ​คนใน​พื้นที่​ เธอ​จึงไม่คุ้นเคย​กับ​หน่วย​การคำนวณ​ของ​ฮ่องกง​

นี่​คือ​บ้าน​ใน​ละแวก​คนรวย​ และ​มีทัศนียภาพ​ที่​งดงาม​อย่าง​ไร้ขีดจำกัด​

หลิน​ม่าย​ถามด้วย​ความประหลาดใจ​ “คุณ​ซื้อ​วิลล่า​หลัง​นี้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ ทำไม​ฉัน​ไม่รู้เรื่อง​เลย​?”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เธอ​แผ่วเบา​ “ถ้าผม​บอก​ก่อน​ แล้​วจะ​ทำให้​คุณ​ประหลาดใจ​ได้​ยังไง​ล่ะ​ คราว​ก่อนที่​ไป​ฮ่องกง​เพื่อ​ซื้อ​อุปกรณ์​จัด​งานแต่งงาน​ ผม​แอบ​ซื้อ​มัน​ไว้​ตอนที่​คุณ​ไป​ประมูล​บริษัท​รับเหมา​ก่อสร้าง​ คุณ​ชอบ​มัน​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​กอด​ใบรับรอง​อสังหาริมทรัพย์​ไว้​ที่​หน้าอก​และ​พยักหน้า​อย่าง​แรง​ “ชอบ​สิ ชอบ​มาก​เลย​!”

ฟางจั๋ว​หรา​น​โน้มตัว​กระซิบ​ข้าง​หู​หญิงสาว​ “แล้ว​คืนนี้​คุณ​จะตอบแทน​ผม​อย่างไร​ดี​?”

หลิน​ม่าย​ยัด​ใบรับรอง​อสังหาริมทรัพย์​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ของ​ชายหนุ่ม​และ​พูดว่า​ “ฉัน​ไม่ต้อง​การบ้าน​หลัง​นี้​” จากนั้น​เธอ​ล้ม​ตัว​นอน​อีกครั้ง​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ถามด้วย​ความขบขัน​ “คุณ​ไม่ต้องการ​วิลล่า​ราคาแพง​หลัง​นี้​แล้ว​จริง​หรือ​?”

หลิน​ม่าย​คลุมโปง​ด้วย​ผ้านวม​และ​ตอบ​ไป​ว่า​ “ฉัน​ไม่ต้อง​การบ้าน​หลัง​ใหญ่​ราคาแพง​ การ​นอน​คือ​สิ่งสำคัญ​ที่สุด​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ยัด​ใบรับรอง​อสังหาริมทรัพย์​ไว้​ใต้​ผ้านวม​ “บ้าน​นี้​เป็น​ของ​คุณ​ ไม่ว่า​คุณ​จะตอบแทน​ผม​หรือไม่​ มัน​ก็​ยัง​เป็น​ของ​คุณ​”

หลิน​ม่าย​หลับตา​พริ้ม​ กอด​ใบรับรอง​อสังหาริมทรัพย์​ไว้​ใน​อ้อม​อก​และ​ผล็อย​หลับ​ไป​

วัน​แรก​หลังจาก​วันหยุด​ ฟางจั๋ว​หรา​น​ขับรถ​มาส่งหลิน​ม่าย​ไป​มหาวิทยาลัย​ด้วยตัวเอง​

พอ​ผ่าน​ร้าน​ซาลาเปา​หน้า​มหาวิทยาลัย​ หลิน​ม่าย​ก็​เข้าไป​ข้างใน​และ​พบ​ว่า​มัน​เปิดไฟ​สว่าง​ไป​ทั้ง​ร้าน​

ลูกจ้าง​ทั้งสอง​คน​ทำงาน​อย่าง​ขะมักเขม้น​

หลิน​ม่าย​ขอให้​ฟางจั๋ว​หรา​น​หยุด​รถ​ เธอ​ต้องการ​เข้า​ร้าน​ไป​เตรียม​หมูสับ​ หลัง​เวลา​ผ่าน​ไป​ไม่ถึงสิบ​นาที​ เธอ​ก็​เดิน​กลับมา​ที่​รถ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ขับรถ​ต่อไป​ “คุณ​ลืม​ไป​แล้ว​หรือว่า​ตัวเอง​เป็น​เถ้าแก่​ของ​ร้าน​? แม้จะเปิดร้าน​ขนาดเล็ก​ แต่​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ลงมือทำ​ด้วยตัวเอง​ ปล่อย​ให้​ลูกน้อง​ของ​คุณ​รับผิดชอบ​งาน​ของ​ร้าน​ทั้งหมด​เถอะ​ ส่วน​คุณ​ตั้งใจ​เล่าเรียน​ก็​พอ​”

หลิน​ม่าย​พยักหน้า​ “ฉัน​แค่​เป็นห่วง​เล็กน้อย​ จึงรอ​จนกว่า​พี่​ฉาย​อวิ๋น​จัดการ​ทั้งหมด​เรียบร้อย​แล้ว​ จากนั้น​นำ​ไป​ใส่ให้​เครื่อง​บรรจุ​ แล้วจึง​ปล่อย​ให้​พวกเขา​จัดการ​ส่วนที่เหลือ​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​

หลิน​ม่าย​ลง​จาก​รถ​ที่​หน้า​ประตู​มหาวิทยาลัย​และ​ต้องการ​ยก​จักรยาน​ออกจาก​ท้าย​รถ​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ดึง​เธอ​ไป​ด้าน​ข้าง​พร้อม​พูดว่า​ “ผม​ทำให้​เอง​”

จากนั้น​เขา​ยก​จักรยาน​ออกมา​วาง​ลง​บน​พื้น​

หลิน​ม่าย​คร่อม​จักรยาน​และ​กำลังจะ​ปั่น​เข้าไป​ใน​มหาวิทยาลัย​

ฟางจั๋ว​หรา​น​หยุด​เธอ​ไว้​ก่อน​และ​ชี้นิ้ว​ไป​ยัง​แก้ม​ของ​ตัวเอง​

หลิน​ม่าย​เข้าใจ​ความหมาย​ได้​ทันที​

หลัง​มอง​ไป​รอบ​ๆ จน​แน่ใจ​ว่า​ไม่มีใคร​อื่น​ จากนั้น​จึงหอม​แก้ม​ฟางจั๋ว​หรา​นอ​ย่าง​รวดเร็ว​และ​รีบ​ขี่​จักรยาน​ออก​ไป​

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​ร่าง​บาง​ที่​ขี่​จักรยาน​ต้าน​สายลม​และ​คิด​ว่า​ช่างงดงาม​ยิ่งนัก​ เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เผย​ยิ้ม​อย่าง​อารมณ์ดี​

หลิน​ม่าย​มาถึงมหาวิทยาลัย​ราว​หก​นาฬิกา​สามสิบ​นาที​ มัน​ยัง​เช้าเกินไป​ เธอ​จึงตรง​ไป​ที่​หอพัก​ก่อน​

ในเวลานี้​นักเรียน​หลาย​คนใน​หอพัก​ตื่น​แล้ว​ และ​บางคน​กำลัง​เดิน​อยู่​ตาม​ทางเดิน​

เมื่อ​ทุกคน​เห็น​หลิน​ม่าย​ ก็​โบกมือ​ทักทาย​อย่าง​อารมณ์ดี​ “เจ้าสาว​มาแล้ว​ เจ้าสาว​มาแล้ว​!”

หลิน​ม่าย​ไม่ได้​สนใจ​ว่า​จะรู้จัก​คน​เหล่านี้​หรือไม่​ แต่​ด้วย​ลูกอม​เต็ม​กำมือ​ ในที่สุด​เธอ​ก็​ฝ่าวงล้อม​ของ​ทุก​คนจน​มาถึงห้องพัก​ตัวเอง​

แม้ว่า​เพื่อนร่วมห้อง​ทั้ง​หก​คน​ที่​เป็น​เพื่อนเจ้าสาว​ใน​งานแต่งงาน​จะได้รับ​ซอง​แดง​ซอง​หนา​และ​ขนม​งานแต่ง​จำนวนมาก​หลังจาก​งานแต่งงาน​สิ้นสุดลง​ใน​วันนั้น​ แต่​หลิน​ม่าย​ยังคง​นำ​ขนม​มาแจกจ่าย​ให้​พวก​เธอ​เพิ่มเติม​อีก​

เมื่อ​ให้​ขนม​งานแต่งงาน​กับ​สวี​ชิงห​ยา​ ไม่เพียง​อีก​ฝ่าย​จะปฏิเสธ​น้ำใจ​ แต่​ยัง​ถามทั้ง​น้ำตา​ว่า​ “หลิน​ม่าย​ เธอ​ไม่พอใจ​อะไร​ใน​ตัว​ฉัน​หรือเปล่า​?”

มาแนว​นี้​อีกแล้ว​!

ใบหน้า​ของ​หลิน​ม่าย​บูดบึ้ง​ทันใด​ “ฉัน​มีตารางเรียน​ที่​หนักหนา​และ​ยัง​ต้อง​คอย​ดูแล​สามี ฉัน​ไม่มีเวลา​มาจับผิด​หรือ​หาเรื่อง​เธอ​หรอก​ แต่​เธอ​เอาแต่​หาเรื่อง​ใส่ตัวเอง​แบบนี้​ตลอด​!”

“เธอ​ดู​มีปัญหา​กับ​ฉัน​จริงๆ​ ใน​ห้อง​มีรูม​เมท​เจ็ด​คน​ เธอ​เชิญทุกคน​ไปเป็นเพื่อน​เจ้าสาว​ แต่​ยกเว้น​ฉัน​คนเดียว​”

หลิน​ม่าย​ไม่สามารถ​อดกลั้น​ได้​อีกต่อไป​ “ก็ได้​ ฉัน​มีปัญหา​กับ​เธอ​ งั้น​ก็​อย่า​มาคุย​กับ​ฉัน​อีก​ ฉัน​เหนื่อย​”

และ​เธอ​ก็​ไม่คิด​ให้​ขนม​งานแต่งงาน​กับ​สวี​ชิงห​ยา​ด้วย​เช่นกัน​

เธอ​โยน​ขนม​ที่​เหลือ​เข้าไป​ใน​ตู้​และ​ปิดล็อก​ จากนั้น​เดิน​ออกจาก​ห้อง​พร้อมกับ​รูม​เมท​คนอื่น​เพื่อ​เตรียมตัว​ไป​ยัง​ห้องเรียน​คาบ​เช้า แต่​ก่อนหน้า​นั้น​พวก​เธอ​จะไป​ที่​โรงอาหาร​เพื่อ​กิน​อาหารเช้า​ก่อน​

สวี​ชิงห​ยา​ถามขึ้น​ด้วย​ความไม่พอใจ​จาก​ด้านหลัง​ “ทำไม​ต้อง​ล็อก​ประตู​ตู้​ด้วย​ เธอ​กลัว​ว่า​ฉัน​จะขโมย​ของ​ของ​เธอ​งั้น​เหรอ​?”

หลิน​ม่าย​แทบ​ระเบิด​โทสะ​ทันที​

เธอ​หันกลับ​ไป​พูด​ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ “เธอ​อยาก​คิด​ยังไง​ก็​เชิญ แต่​อย่า​มาพูด​กับ​ฉัน​อีก​ ฉัน​รังเกียจ​ที่จะ​ได้ยิน​เสียง​ของ​เธอ​”

สวี​ชิงห​ยา​โกรธเคือง​มาก​จน​กลั้น​น้ำตา​ไม่ได้​ รีบ​วิ่ง​ออกจาก​ห้องนอน​ทันที​

เถียน​เฟิน​มอง​ตามหลัง​หญิงสาว​พลาง​โคลง​ศีรษะ​ “หล่อน​ต้อง​ไปหา​คุณป้า​เพื่อ​ฟ้อง​ว่า​ถูก​เธอ​กลั่นแกล้ง​แน่ๆ​”

หลิน​ม่าย​ไม่สนใจ​ “อยาก​ฟ้อง​ก็​ฟ้อง​สิ! ฉัน​สงสัย​มาตลอด​ว่า​ทำไม​คนอื่น​ถึงปฏิบัติ​กับ​หล่อน​ไม่ดี​นัก​ ตอนนี้​ฉัน​เริ่ม​เข้าใจ​แล้ว​”

กัว​เซี่ยงหง​หัน​มอง​เธอ​ด้วย​ดวงตา​สดใส​ “ดู​เธอ​สิ เจ้าเล่ห์​ชะมัด​ เธอ​มีบ้าน​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ เลย​หนี​กลับบ้าน​ใน​วันหยุด​ได้​ เรา​ทุกคน​ล้วน​มาจาก​ต่างจังหวัด​ เดินทาง​กลับบ้าน​ไม่ได้​ช่วง​วันหยุด​ ดังนั้น​จึงจำใจต้อง​อยู่​ใน​หอพัก​ ทนทุกข์ทรมาน​กับ​ความ​ประสาทเสีย​ของ​สวี​ชิงห​ยา​ ไม่ว่า​เรา​จะทำ​อะไร​ ถ้าเรา​ไม่ใส่ใจหล่อน​หรือไม่​ให้ความสำคัญ​กับ​หล่อน​เป็น​อันดับ​แรก​ หล่อน​จะร้องห่มร้องไห้​เหมือน​เรา​ไป​ข่มเหง​ ทำให้​พวกเรา​ปวด​ประสาท​แทบ​เป็นบ้า​!”

เสิ่นอวิ้น​ถาม “พวก​เธอ​ว่า​สวี​ชิงห​ยา​มีอาการป่วย​ทางจิต​หรือเปล่า​?”

หลิน​ม่าย​พูด​ด้วย​ความ​เหยียดหยาม​อยู่​ใน​ใจ “หล่อน​เป็น​คน​โรคจิต​ของแท้​เลย​แหละ​ ชอบ​เอา​ตัวเอง​เป็น​ศูนย์กลาง​ให้​คนอื่น​คอย​วนเวียน​อยู่​รอบ​ๆ”

แต่​เธอ​ไม่ได้​พูด​คำ​นั้น​ออก​ไป​

เธอ​เป็น​เหมือน​ป้า​แก่ๆ​ ที่​สามารถ​มอง​ทะลุ​ผ่าน​หัวใจ​ของ​ผู้คน​ได้​ แต่​เด็กสาว​เหล่านี้​แตกต่าง​จาก​เธอ​

หาก​เธอ​พูด​สิ่งที่อยู่​ใน​ใจ เพื่อนร่วมห้อง​เหล่านี้​ไม่เพียง​ไม่เห็นด้วย​ แต่​อาจ​คิด​ว่า​ตัว​เธอ​นั้น​เลือดเย็น​ที่​กล้า​พูด​คำ​พวก​นั้น​ออกมา​

เมื่อ​กลุ่ม​พวก​เธอ​เดินลง​ไป​ชั้นล่าง​ เห็น​ป้า​แม่บ้าน​ดุด่า​สวี​ชิงห​ยา​ที่​มีท่าที​กระวนกระวาย​

“นักเรียน​ที่​รับ​เข้ามา​เรียน​ใน​มหาวิทยาลัย​นี้​ล้วน​เป็น​เยาวชน​ที่​ยอดเยี่ยม​ แต่​คงจะ​ยกเว้น​เธอ​สินะ​? ไม่ยอม​ตั้งใจ​เรียน​ แล้ว​มัวแต่​มาฟ้อง​ได้​ทุกวี่ทุกวัน​ เธอ​มาฟ้อง​เรื่อง​รูม​เมท​คน​นั้น​ใน​วันนี้​ วันพรุ่งนี้​ก็​คง​มาฟ้อง​เรื่อง​รูม​เมท​อีก​คน​ ทุกครั้งที่​ฉัน​ไป​ตรวจสอบ​ ฉัน​พบ​ว่า​เธอ​สร้าง​ปัญหา​โดย​ไม่มีเหตุผล​ตลอด​ ครั้งนี้​เธอ​มาฟ้อง​ว่า​เพื่อนร่วมห้อง​ปฏิบัติ​กับ​เธอ​เหมือน​ขโมย​และ​จงใจล็อก​ประตู​ตู้​ เด็ก​คน​นั้น​ไม่มีสิทธิ์​ล็อก​ประตู​หรือ​ยังไง​? ถ้าเธอ​สงสัย​ว่า​เด็ก​คน​นั้น​เป็น​ขโมย​ เธอ​จะไม่ล็อก​ประตู​เหรอ​? แล้ว​เพื่อนร่วมห้อง​ของ​เธอ​ยังมี​อีก​ตั้ง​หก​คน​ ทำไม​พวกเขา​ถึงไม่คิด​แบบ​เดียวกัน​นี้​ล่ะ​?”

สวี​ชิงห​ยา​สะอื้น​ไห้​ “สภาพ​ครอบครัว​ของ​พวก​หล่อน​ทั้ง​หก​คน​ไม่ได้​เลวร้าย​ มีเพียง​ครอบครัว​หนู​เท่านั้น​ที่​ยากจน​ และ​หลิน​ม่าย​จงใจล็อก​ประตู​ตู้​เพราะ​คิด​ว่า​หนู​เป็น​ขโมย​”

ใบหน้า​ของ​ป้า​ผู้ดูแล​หอพัก​บิดเบี้ยว​น่าเกลียด​ “ถ้าใจเธอ​สกปรก​ ก็​อย่า​เหมา​รวม​ว่า​คนอื่น​จะมีจิตใจ​สกปรก​ไป​ด้วย​ เข้าใจ​ไหม​?”

เมื่อ​หลิน​ม่าย​และ​คนอื่นๆ​ เดิน​ออกจาก​หอพัก​ ทุกคน​ต่าง​ก็​โล่งใจ​และ​พูด​เป็น​เสียง​เดียวกัน​ว่า​ “ป้า​แม่บ้าน​พูด​ได้​ดีมาก​!”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สาร​จาก​ผู้แปล​

ไอ้​หนุ่ม​ อย่า​ไป​หลงเชื่อ​นัง​งูพิษ​นี่​ ทิ้ง​แล้​วหา​คน​ใหม่​เถอะ​ ขอ​เตือน​ด้วย​ความหวังดี​

ชิงห​ยา​นี่​ควร​พบ​จิตแพทย์​ด่วน​ๆ ค่ะ​ แค่​อ่าน​บท​นาง​ก็​ปวด​ประสาท​แล้ว​

ไหหม่า​(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด