แม่ปากร้ายยุค​ 80 552 เตรียมการก่อนไปต่างประเทศ

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 552 เตรียมการก่อนไปต่างประเทศ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 552 เตรียมการก่อนไปต่างประเทศ

ทันทีที่เถาจืออวิ๋นทำเสื้อผ้าตัวอย่างเสร็จ หลินม่ายก็เอาเสื้อผ้าตัวอย่างพวกนั้นและหมวกคอลแลกชั่นใหม่ที่วางจำหน่ายของไป๋เหอโถวซื่อไปที่จิ่วเจียงทันที

แม้ว่าครั้งนี้จะไม่ได้พกเงินสดมากมาย แต่เฉินเฟิงก็ยังส่งลูกน้องสองคนมาเป็นบอดี้การ์ดให้เธอ

เด็กสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งเดินทางข้างนอกตามลำพัง ไม่ว่าใครก็ไม่วางใจทั้งนั้น

หลินม่ายรู้สึกถึงความเร่งด่วนในการเรียนศิลปะการต่อสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

หากเธอเก่งกาจขนาดนั้นเหมือนกับเคอจื่อฉิงก็สบายไปแล้ว ออกไปข้างนอกไม่ต้องพกบอดี้การ์ด รู้สึกเป็นอิสระได้ยิ่งกว่าเดิม

เมื่อจางอวี้ได้ยินว่าครั้งนี้หลินม่ายมาถึงจิ่วเจียงเพื่อขอให้หล่อนถ่ายโฆษณาให้Unique ก็ดีใจอย่างมาก

การถ่ายโฆษณาให้Uniqueคราวก่อน ทำให้หล่อนโด่งดังขึ้นมาในชั่วข้ามคืน

สตูดิโอภาพยนตร์ที่ต้องการยืมตัวหล่อนไปเป็นนักแสดงนำหญิงก็มีหลายที่

ในสมัยนี้ไม่มีการถ่ายภาพยนตร์จากนายทุน มีแต่สตูดิโอภาพยนตร์ของรัฐ

สตูดิโอภาพยนตร์ของรัฐทั่วประเทศเองก็มีเป็นสิบกว่าแห่ง ทุกๆ ปีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ถ่ายทำต่างก็มีการวางแผน แถมยังมีตั้งสิบกว่าเรื่อง

นอกจากดาราดังรุ่นพี่อย่างพานอวี่หงและหลิวเหม่ยชิ่งที่สามารถถ่ายภาพยนตร์ได้ปีละหนึ่งถึงสองเรื่องแล้ว นักแสดงคนอื่นๆ ที่ไม่รู้ว่ายอดเยี่ยมแค่ไหนก็ได้แต่นั่งแกร่วไม่มีงานทำเท่านั้น

เมื่อดาราเด็กอย่างจางอวี้ได้รับความโปรดปรานจากสตูดิโอภาพยนตร์มากมายขนาดนี้แล้ว ทุกวันยามหลับหล่อนก็มักจะละเมอยิ้มออกมา

ดังนั้นหล่อนจึงทุ่มเทใจให้กับการถ่ายโฆษณาให้หลินม่ายเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังไม่ต้องการเงินด้วย

ให้หล่อนถ่ายฟรีๆ ไปครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงหลินม่ายก็จะไม่ยอมให้หล่อนถ่ายฟรีอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นมโนธรรมของเธอคงทนไม่ได้

เธอให้ซองแดงอีกฝ่ายเป็นเงินสามพันหยวน แล้วให้กองถ่ายไปอีกห้าพันหยวนเป็นค่าบริการ เมื่อนั้นจึงนำโฆษณาที่ช่างกล้องของกองถ่ายช่วยถ่ายให้กลับมาที่เมืองเจียงเฉิง

ประสิทธิภาพการทำงานของซุนอวิ้นหงไม่เลวทีเดียว ไม่เพียงตีพิมพ์เรื่องกิจกรรมชิงรางวัลของUniqueลงบนหนังสือพิมพ์ที่มียอดขายมากที่สุดของเจียงเฉิงเท่านั้น ยังติดต่อกับพนักงานที่ประจำอยู่ที่กว่างโจว เซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง ให้พวกเขาตีพิมพ์เรื่องกิจกรรมชิงรางวัลของUniqueลงหนังสือพิมพ์ที่มายอดขายมากที่สุดในท้องที่นั้นอีกด้วย

แม้ว่าจะเพียงแค่ตีพิมพ์เรื่องกิจกรรมชิงรางวัลของเสื้อผ้าUniqueลงบนหนังสือพิมพ์ของเมืองทั้ง4เมืองเท่านั้น แต่ก็เพียงพอที่จะพัดกระพือลมพายุไปทั่วทั้งประเทศได้แล้ว

ไม่ต้องพูดถึงกระแสตอบรับของกว่างโจวเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งเลย เพียงแค่อิทธิพลต่อภูมิภาคตอนกลางของเมืองเจียงเฉิงที่เป็นทางสู่มณฑลทั้งเก้าก็ยิ่งใหญ่จนยากที่จะจินตนาการได้แล้ว

เธอแทบจะสามารถครอบคลุมได้ทั้งตอนกลาง อีกทั้งยังยื่นขยายไปถึงเมืองทางตอนเหนือเช่นเหอหนานอีกด้วย

ยิ่งบวกกับเงินรางวัลที่สูงลิ่ว ก็แทบจะดึงดูสายตาของประชาชนทั้งประเทศมาได้แล้ว

ผู้คนที่ร่วมกิจกรรมชิงรางวัลนั้นมากมายนับไม่ถ้วน จนสายด่วนหลายสายของโรงงานเสื้อผ้ามีสายโทรเข้ามาจนแทบระเบิด

จดหมายที่ส่งมานั้นมากมายเสียยิ่งกว่าหิมะของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในหน้าหนาวเสียอีก

ฝ่ายประชาสัมพันธ์คัดเลือกกันทั้งวันทั้งคืน ในที่สุดก็กำหนดชื่อใหม่ได้ก่อนที่หลินม่ายจะออกเดินทางสองวัน นั่นก็คือจิ่นซิ่ว(1)

ชื่อนี้ฟังไปแล้วดูธรรมดา แต่ก็พูดได้ติดปาก นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยความเป็นจีน

หลินม่ายได้ส่งโฆษณาที่จางอวี้ถ่ายให้Unique ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นแบรนด์จิ่นซิ่วไปถึงปักกิ่งด้วยช่องทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษนานแล้ว

เมื่อเสื้อผ้ากำหนดชื่อเรียกใหม่ได้แล้ว เธอก็ได้แจ้งให้ทางพนักงานติดต่อกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กลาง(CCTV) ให้ออกอากาศโฆษณาใหม่ทันที

หลินม่ายได้เปิดช่องทางของCCTVไว้เรียบร้อยแล้ว บวกกับโฆษณาของUniqueที่ออกอากาศครั้งมีผลตอบรับดีเยี่ยม

ดังนั้นเมื่อพนักงานของหลินม่ายไปถึง ผู้อำนวยการหยิ่นก็เซ็นสัญญากับเขาโดยทันที

ในคืนก่อนที่หลินม่ายและฟางจั๋วหรานจะออกเดินทางไปอเมริกา CCTVก็ได้ออกอากาศโฆษณาชุดฤดูหนาวของเสื้อผ้าจิ่นซิ่ว

คำโฆษณาในครั้งนี้เปลี่ยนไปเป็น :เสื้อผ้าจิ่นซิ่ว ชีวิตอันงดงาม มาร่วมสร้างดินแดนอันงดงามไปด้วยกัน

ในเมื่อคนหนุ่มสาวในยุคนี้มีอุดมคติอันยิ่งใหญ่ในการฟื้นฟูมาตุภูมิ เช่นนั้นก็จับจุดจิตวิทยาของพวกเขา ขายความรักชาติเสียเลย

หลินม่ายนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ ดูโฆษณาของเสื้อผ้าจิ่นซิ่วอยู่หลายครั้งด้วยความเพลิดเพลิน

เมื่อถึงวันออกเดินทาง หลังจากคำนึงถึงสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าเจียงเฉิงของอเมริกาแล้ว หลินม่ายจึงตั้งใจเอาเสื้อโค้ทผ้าสักหลาดตัวสั้นคอลแลกชั่นใหม่ของเสื้อผ้าจิ่นซิ่วไปสองตัว และบนตัวก็สวมสูทขนสัตว์ชุดหนึ่ง

ที่ด่านศุลกากรของประเทศตัวเอง หลินม่ายและฟางจั๋วหรานพร้อมด้วยทนายทอมทั้งสามคนผ่านไปโดยที่ไม่เจอการกลั่นแกล้งรังแกเลยแม้แต่น้อย

กระทั่งมาถึงด่านศุลกากรของประเทศอเมริกา แม้ว่าพวกเขาจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัย แต่หลินม่ายกลับเห็นนักท่องเที่ยวที่มีหน้าตาแบบเอเชียหลายคนถูกกลั่นแกล้งกับตา

เหตุผลที่กลั่นแกล้งกัน ก็แต่เพราะเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนจีน

หลินม่ายเห็นกับตาเช่นนั้น ในใจก็รู้สึกผสมปนเปยากจะอธิบาย

นี่เป็นเพราะประเทศไม่มีกำลัง เมื่อประชาชนไปที่ประเทศของคนอื่นจึงถูกรังแก

แม้จะรู้ดีว่าเมื่อผ่านไปอีกไม่กี่สิบปี ประเทศชาติก็จะมีอำนาจยิ่งใหญ่ขึ้นมา สถานการณ์เช่นนี้ก็จะไม่ค่อยมีให้เห็นอีก แต่หลินม่ายก็ยังรู้สึกอึดอัดกลัดกลุ้มอยู่ในใจ

หลินม่ายและฟางจั๋วหรานไปอเมริกาครั้งนี้เพื่อจัดการเรื่องงานศพและรับสืบทอดมรดกอันมหาศาลของคุณยายฟางจั๋วหราน

มรดกมหาศาลนี้ รวมถึงเครื่องประดับเพชรพลอยที่เก็บไว้ในธนาคารสวิส สินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย อสังหาริมทรัพย์ โรงกลั่นเหล้าองุ่นและบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก

รวมๆ กันแล้วเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ

แม้ว่าจะไม่ได้รับการจัดอันดับเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ของอเมริกา แต่ก็รวยมากอย่างแน่นอน

ลำพังแค่โรงกลั่นไวน์ฝรั่งเศสเมิ่งอวี๋บนพื้นที่ 8 เฮกตาร์(2)ที่คุณยายเก็บไว้ให้ฟางจั๋วหรานก็มีมูลค่ากว่าสี่สิบล้านดอลลาร์แล้ว

ว่ากันว่าโรงกลั่นไวน์แห่งนั้นมีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ซึ่งเคยเป็นที่ดินส่วนพระองค์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ว่าไปแล้วก็ยังคงเป็นทรัพย์สินของราชวงศ์ โดยไวน์แดงที่ผลิตออกมานั้นติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก

คืนวันที่หลินม่ายและฟางจั๋วหรานมาถึงอเมริกา “ผู้รับมอบอำนาจแทน” ไม่กี่คนของคุณยายก็ตั้งใจจัดปาร์ตี้ขึ้นมาให้พวกเขา พูดง่ายๆ ก็คืองานเลี้ยงต้อนรับนั่นเอง

เพื่อให้ฟางจั๋วหรานและหลินม่ายเข้าร่วมปาร์ตี้ได้อย่างสมภาคภูมิ เหล่าผู้รับมอบอำนาจจึงได้ให้ผู้จัดการของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งส่งสินค้ามาให้ถึงที่ เพื่อให้หลินม่ายกับฟางจั๋วหรานได้เลือกสินค้าต่างๆ นาๆ ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงเครื่องสำอางด้วยตัวเอง

เมื่อมองสิ่งสวยงามที่มากมายจนละลานตาตรงหน้า หลินม่ายที่ต่อให้ในชาติที่แล้วจะมีรายได้กี่สิบล้านก็ต้องตกตะลึงพรึงเพริด

ที่แท้คนรวยที่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายนั้นสามารถฟุ่มเฟือยได้ถึงขนาดนี้เชียว ถึงกับย้ายห้างสรรพสินค้ามาไว้ในบ้านเลย

หลินม่ายกับฟางจั๋วหรานต่างก็ไม่ใช่คนจำพวกละโมบโลภมาก ทั้งสองจึงเลือกเพียงเครื่องแต่งกายตั้งแต่หัวจรดเท้าเพียงชุดเดียวเท่านั้น

หากไม่ใช่เพื่อการเข้าร่วมปาร์ตี้แล้ว พวกเขาก็ไม่อยากได้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายพวกนี้เลยแม้แต่ชุดเดียว

หนึ่งในผู้รับมอบอำนาจนั้น คุณลุงหนึ่งที่ชื่อหลี่อี้หนานพูดกับพวกเขาด้วยรอยยิ้มตาหยี ว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้พวกเขาไม่ได้เป็นคนจ่าย แต่จะถูกหักออกจากกองมรดกที่ฟางจั๋วหรานกำลังจะได้รับ ให้พวกเขาไม่ต้องประหยัด การรักษาเกียรติสำคัญกว่า

หลินม่ายและฟางจั๋วหรานจึงฝืนใจเลือกมาอีกชุดหนึ่งอย่างไม่เต็มใจ

ในงานปาร์ตี้นั้น ลุงหงเจี้ยนฉีผู้เคยเป็นมือขวาของคุณยายบอกกับพวกเขาทั้งสอง ว่าไวน์แดงของโรงกลั่นไวน์เมิ่งอวี๋มีจำหน่ายในอเมริกาและทั่วยุโรป ทุกๆ ปีสามารถทำกำไรได้ราวสิบล้านดอลลาร์

หลินม่ายจิบไวน์แดงของโรงกลั่นไวน์เมิ่งอวี๋ สมชื่อที่เป็นไวน์แดงติดอันดับ 1 ใน 10 จากทั่วโลก กลมกล่อมหอมจรุงใจ รสชาติดีอย่างที่คิด

แม้แต่คนที่ไม่ชอบดื่มเหล้าที่สุดอย่างเธอก็ยังดื่มไปหลายขวด

ขณะที่ดื่มอยู่รู้สึกว่าช่างอร่อยมาก เมื่อดื่มหมดแล้วก็รู้สึกร้อนผ่าวเล็กน้อย

คงจะเป็นเพราะตนดื่มเหล้าไม่เก่งเอาเสียเลยละมั้ง

หลินม่ายหาที่นั่งนั่งลง

ฟางจั๋วหรานถูกสาวผมบลอนด์ตาฟ้าสองสามคนมาพัวพัน

เขาส่ายแหวนหมั้นที่นิ้วกลางข้างซ้ายพร้อมกับยิ้มบางๆ สื่อว่าตนนั้นมีเจ้าของแล้ว

สาวผมทองที่เผยเนินอกเปลือยหลังคนหนึ่งพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่หมั้นเท่านั้นเอง ไม่ใช่แต่งงานเสียหน่อย”

ฟางจั๋วหรานพูดอย่างจริงจัง “ที่ประเทศจีนของเรา การหมั้นก็ใกล้เคียงกับการแต่งงานแล้วครับ”

พูดจบ เขาก็ทิ้งกลุ่มสาวสวยคนขาวเหล่านั้นมาข้างกายหลินม่าย แล้วถามว่าเธอรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า

หลินม่ายส่ายหน้าเบาๆ บอกว่าเธอไม่ได้ไม่สบายตรงไหน เพียงแค่เมาไวน์นิดหน่อยเท่านั้น

ปาร์ตี้นี้ดำเนินไปถึงเวลาสี่ทุ่มจึงสิ้นสุดลง

ฟางจั๋วหรานประคองหลินม่ายจะเมามายเล็กน้อยกลับไปยังคฤหาสน์ใหญ่อันหรูหราในนิวยอร์กของคุณยาย

เมื่อได้พักผ่อนอย่างเต็มที่คืนหนึ่งแล้ว วันรุ่งขึ้น หลินม่ายก็ตามฟางจั๋วหรานไปปัดกวาดทำความสะอาดสุสานของคุณยายพร้อมด้วยหลี่อี้หนานและกลุ่มผู้อาวุโส

ได้ฟังพวกเขาเล่าถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้ดิ้นรนของคุณยายและสามีของท่านในตอนที่มาถึงอเมริกา

คุณตานิสัยซื่อตรงเกินไป หากไม่ได้คุณยายที่มีคุณสมบัติดีกว่า ทรัพย์สมบัติมากมายที่เขาสองสามีภรรยานำมาจากประเทศตนก็คงถูกหมาป่าชั่วร้ายช่วงชิงไปนานแล้ว

หมาป่าพวกนั้นมีทั้งพวกคนขาวและเพื่อนร่วมชาติไม่น้อย

อเมริกาเมื่อหลายปีก่อนนั้น เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าคุณยายจะตั้งท้องลูกๆ สักกี่คนก็ล้วนไม่อาจรั้งไว้ได้ นอกจากนี้ยังสูญเสียความสามารถในการตั้งครรภ์ไปอีก

ยังดีที่คุณตาไม่ได้ปฏิบัติกับท่านแย่ๆ ในชาตินี้ของท่านจึงยังนับว่าได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

เพียงแต่คุณตาได้จากไปเสียก่อน ทิ้งให้ท่านอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพังอยู่หลายปี

ฟางจั๋วหรานถาม “ตอนที่คุณยายจากไป ท่านเจ็บปวดหรือเปล่าครับ?”

ลุงคนหนึ่งพูดขึ้น “ตามที่น้าเหมยของเธอบอก ท่านจากไปอย่างไม่ได้เจ็บปวดนัก ตะโกนขึ้นมาว่าเจ็บหน้าอกอยู่สองสามครั้ง ไม่ทันรอให้น้าเหมยโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล ก็จากไปเสียแล้ว”

ฟางจั๋วหรานได้ยินดังนั้น ในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาก

เมื่อปัดกวาดหลุมศพเสร็จกลับมาที่บ้าน

เมื่อรถขับเข้ามาในเขตเมือง ฟางจั๋วหรานก็ให้คนขับหยุดรถ

เขากับหลินม่ายลงจากรถ แล้วให้คนขับกลับไปที่บ้านก่อน พวกเขาสองคนจะค่อยๆ เดินกลับกัน

ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยงแล้ว ควรจะกินข้าวเที่ยงกันได้แล้ว ฟางจั๋วหรานอยากเลือกภัตตาคารอาหารตะวันตกสักร้านกินให้เต็มคราบสักมื้อ

หลินม่ายไม่ค่อยชอบกินอาหารตะวันตกนัก เธออยากชิมอาหารจีนที่ประเทศอเมริกาในยุคนี้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร

แต่ด้วยท่าทางของฟางจั๋วหรานที่ดูอยากกินมาก เธอจึงเข้ามาให้ภัตตาคารอาหารตะวันตกที่ค่อนข้างหรูหราร้านหนึ่งด้วยกันกับเขา

ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินเข้ามาในภัตตาคารแห่งนั้น ฝีเท้าของฟางจั๋วหรานก็สะดุดไปเล็กน้อย ดวงตาจดใจอยู่กับสถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ตรงหน้า

หลินม่ายค่อนข้างความรู้สึกไว เธอสังเกตถึงความผิดปกติได้ในทันที

เธอมองตามสายตาของเขาไปอย่างประหลาดใจ เบื้องหน้านั้นนอกจากบริกรคนขาวคนหนึ่งและโต๊ะเก้าอี้ไม่กี่ตัว ก็ไม่มีอะไรแล้ว

เธอถาม “คุณกำลังมองอะไรอยู่น่ะ?”

ฟางจั๋วหรานดึงสายตากลับมา “ดูเหมือนว่าผมจะเห็นกู้ม่านชือเลย”

หลินม่ายอึ้งไปเล็กน้อย “กู้ม่านชือคือใครคะ?”

เมื่อพูดออกไปแล้ว เธอก็พลันนึกขึ้นมาได้ เบิกตากว้างพลางถาม “แฟนเก่าของคุณเหรอ?”

ฟางจั๋วหรานพยักหน้าอย่างไม่สะทกสะท้าน

แม้ว่าในชาติก่อนหลินม่ายจะไม่เคยคุยเรื่องความรักอย่างจริงจังมาก่อน แม้แต่การแต่งงานก็ยังแต่งแค่ในนาม

แต่เธอเองก็เคยได้ยินพวกเพื่อนผู้หญิงพูดกันว่า ถ้าหากผู้ชายปิดบังเรื่องการพบกันอีกครั้งของเขากับแฟนเก่าโดยไม่ยอมบอกคุณล่ะก็ 80-90%แสดงว่าในใจยังมีแฟนเก่าอยู่และยังคิดที่จะนอกใจด้วย

ฟางจั๋วหรานพบกับแฟนเก่าโดยบังเอิญ แต่กลับบอกเธออย่างตรงไปตรงมา คงจะไม่ได้มีความคิดที่จะสานสัมพันธ์กับแฟนเก่าของเขาอีกครั้งหรอก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในใจของเธอก็สงบลงเล็กน้อย

เมื่อชาติก่อนเธอเคยได้รับความเจ็บปวดจากความรักอย่างแสนสาหัส แค่ถูกหลอกยังว่าไปอย่าง สุดท้ายแม้แต่ชีวิตก็หล่นหายไป

ในชาตินี้ เธอต้องการเพียงหาใครสักคนที่ทุ่มเทให้เธอสุดหัวใจ ไม่หลอกลวงเธอและอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิต

เธอหวังว่าฟางจั๋วหรานจะเป็นคนคนนั้น

………………………………………………………………………………………………………………………….

(1)จิ่นซิ่ว (锦绣) แปลว่า สิ่งทอที่งดงามแพรวพราว

(2)เฮกตาร์ คือหน่วยมาตราวัดพื้นที่ที่มีขนาดพื้นที่เท่ากับ10,000 ตารางเมตร

สารจากผู้แปล

ฝั่งคุณยายของพี่หมอทำกิจการอะไรเนี่ยคะ ทำไมถึงรวยอภิมหารวยขนาดนี้ ที่พูดนี่ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ อยากมีโมเมนต์รวยแบบแบงค์พันก็แค่เศษเหรียญบ้าง

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *