แม่ปากร้ายยุค​ 80 45 กลิ่นหอมของฤดูหนาว

Now you are reading แม่ปากร้ายยุค​ 80 Chapter 45 กลิ่นหอมของฤดูหนาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 45 กลิ่นหอมของฤดูหนาว

ดวงตาของโต้วโต้วกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวสื่อว่าหล่อนมีความสุข หล่อนแกะเปลือกลูกอมออกอีกเม็ดและยื่นให้คุณปู่ฟาง

คุณปู่ฟางรับมาและหยิบใส่ปาก

โต้วโต้วถาม “คุณปู่ หวานมั้ยคะ?”

คุณปู่ฟางพยักหน้า พูดพร้อมกับรอยยิ้มฉีกกว้าง “หวานจ๊ะ ลูกอมที่โต้วโต้วให้ปู่จะไม่หวานได้ยังไง”

โต้วโต้วมีความสุขมาก ผละออกจากอ้อมกอดของคุณย่า และแกะเปลือกลูกอมชิ้นใหม่ให้หลินม่ายได้ลิ้มลองรสชาติ

โต้วโต้วหยิบลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวขึ้นมาอีกเม็ดหนึ่ง จ้องไปที่ฟางจั๋วหรานครู่หนึ่ง แกะเปลือกลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวและเตรียมจะป้อนให้กับเขาต่อหน้าทุกคน

ฟางจั๋วหรานยังคงรอคอยให้โต้วโต้วป้อนลูกอมให้ ทว่าอีกฝ่ายกลับลูบคางอย่างไม่สบายใจ

หลินม่ายนั่งลงและถามโต้วโต้วด้วยความมึนงง “ทำไมไม่ป้อนลูกอมให้คุณอาล่ะ? คุณอาอุตส่าห์พาหนูกลับมาบ้านนะ”

โต้วโต้วหยิบลูกอมรสนมตรากระต่ายอีกเม็ดในกระเป๋าขึ้นมาอย่างเนียมอาย และยัดใส่มือของหลินม่าย พูดกระซิบ “แม่คะ ช่วยหนูป้อนให้คุณอาหน่อย”

จากนั้นเด็กหญิงก็ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังคุณปู่ฟางด้วยความเขินอาย ยื่นศีรษะออกมามองฟางจั๋วหราน

ผู้เฒ่าทั้งสองหัวเราะขบขัน “โต้วโต้วกลัวจั๋วหรานน่ะ”

คุณปู่ฟางดึงโต้วโต้วออกมาจากทางด้านหลัง จับเจ้าตัวน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน และชี้นิ้วไปทางฟางจั๋วหราน “คุณอาเป็นคนดี หลานไม่ต้องกลัวไป”

เมื่อนึกถึงวิธีการที่ฟางจั๋วหรานไล่ตามโจร โต้วโต้วก็ยังคงปฏิเสธที่จะเข้าใกล้เขา

หลินม่ายลุกขึ้นยืน ยิ้มและส่งลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวของโต้วโต้วให้ฟางจั๋วหราน

ฟางจั๋วหรานรับมันมาด้วยรอยยิ้ม ลอกเปลือกที่ห่อหุ้มลูกอมออก และหยิบลูกอมรสนมตรากระต่ายขาวใส่เข้าปาก ก่อนจะหันไปลูบหัวเล็ก ๆ ของโต้วโต้ว “ขอบใจสำหรับลูกอมนะ หวานมากเลย”

โต้วโต้วส่งยิ้มให้เขาอย่างเนียมอาย

หลินม่ายหยิบเสื้อคลุมขนสัตว์ กางกงขนสัตว์ ถึงเท้าและรองเท้าผ้าฝ้ายออกมาให้คู่สามีภรรยาเฒ่าลองใส่

แม้ผู้เฒ่าทั้งสองจะบอกว่าเปลืองเงิน แต่ร่างกายของพวกเขากลับซื่อตรง เมื่อพวกเขาได้ลองสวมใส่ พวกเขาดีใจมากที่ใส่มันได้พอดี

ดวงตาของฟางจั๋วหรานกวาดมองหลินม่าย ลูกสาวและทั้งสองเฒ่าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

หลินม่ายกับลูกสาวแต่งตัวโทรมมาก ทว่าเธอกลับไม่ลังเลที่จะเงินซื้อของให้กับคุณปู่คุณย่าของเขา

คุณย่าฟางสัมผัสเสื้อคลุมขนสัตว์บนร่างกายของตน และพูดกับหลินม่ายว่า “พวกเราก็แก่เฒ่ากันแล้ว จะใส่เสื้อผ้าดี ๆ แบบนี้ไปทำไม ไหนจะเสื้อนวมขนเป็ดเอย เสื้อคลุมขนสัตว์เอย เอาไว้ฉันจะซื้อให้เธอกับโต้วโต้วบ้าง”

หลังจากนั้นฟางจั๋วหรานจึงรู้ว่าคู่สามีภรรยาเฒ่าไม่ได้สวมใส่เสื้อคลุมผ้าเรยอน แต่เป็นเสื้อนวมขนเป็ด เขาจึงอดไม่ได้ที่จะชำเลืองตามองหลินม่าย

หลินม่ายวางของขวัญทั้งหมดที่เธอซื้อให้คู่สามีภรรยาเฒ่าไว้บนโต๊ะอาหาร ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ฉันซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ตัวเองกับโต้วโต้วเหมือนกันค่ะ”

โต้วโต้วรีบพูด “แม่คะ หนูก็อยากใสเสื้อตัวใหม่เหมือนกัน”

หลินม่ายลูบหัวเธอ “หลังจากกินข้าวคืนส่งท้ายปีเก่าและอาบน้ำเสร็จแล้ว ลูกค่อยเปลี่ยนชุดใหม่ได้จ๊ะ”

คุณปู่กับคุณย่าฟางรีบถอดชุดตัวใหม่ออก “ตอนนี้คุณปู่กับคุณย่าแค่ลองชุด ค่อยใส่ตอนกลางคืนอีกที”

โต้วโต้วเงียบลง

ฟางจั๋วหรานหยิบของขวัญเขาที่ซื้อออกมาจากกระเป๋าเป้เดนิม และส่งให้ผู้เฒ่าทั้งสอง มีเสื้อผ้าและอาหารมากมายจนผู้เฒ่าทั้งสองรู้สึกสุขใจ

คุณย่าฟางรับของขวัญที่ฟางจั๋วหรานซื้อมาให้ และพูดอย่างขุ่นเคืองขณะกอดครีมทาผิวทั้งสองกล่องเอาไว้ในอ้อมแขน “ครั้งที่แล้วหลานให้ม่ายจื่อเอาครีมทามือน้ำมันหอยสองกล่องกับไป่เชวี่ยหลิง*(1)สองกล่องมาให้ยังใช้ไม่หมดเลย นี่หลานซื้อมาอีกแล้วหรือ ย่าไม่ใช่สาววัยแรกแย้มสักหน่อย ทำไมต้องมานั่งบำรุงหน้าเยอะนัก”

ฟางจั๋วหรานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจแจ่มแจ้ง เหลือบมองหลินม่าย และพูดกับคุณย่าฟางว่า “ถ้าคุณย่าไม่ใช้ก็ให้คุณปู่ใช้ก็ได้ครับ”

คุณย่าฟางกลอกตาและพูดว่า “ตาเฒ่านั้นใช้อะไรเป็นซะทีไหน!”

ก่อนจะยัดกล่องครีมใส่อ้อมแขนของหลินม่าย “เธอเอาไปใช้สิ”

“เอ่อ…” หลินม่ายทำตัวไม่ถูก

นี่คือการตอบแทนบุญคุณของฟางจั๋วหรานที่มีให้แก่คุณย่าฟาง มันคงไม่ดีหากเธอรับครีมมา

ฟางจั๋วหรานพูดอย่างเอื้ออารี “ในเมื่อคุณย่าให้คุณ คุณก็รับไปเถอะครับ”

จากนั้นหลินม่ายก็ยัดครีมทาผิวใส่ลงไปในกระเป๋า

คุณปู่ฟางยิ้มแย้มขณะถือกล่องพลาสติกที่บรรจุเนื้อวัวดิบกับผ้าขี้ริ้ววัวดิบหลายชิ้น “นี่ดีมากเลยนะ เหมาะสำหรับอาหารค่ำในวันส่งท้ายปีเก่า”

หลินม่ายรีบถอดผ้าพันคอและส่งคืนให้ฟางจั๋วหราน พับแขนเสื้อขึ้นเพื่อาสาที่จะเตรียมอาหารในคืนวันส่งท้ายปีเก่า

คุณย่าฟางไม่ได้เกรงใจเธอมากนัก และปฏิบัติต่อเธอราวกับหลานสาวคนหนึ่ง

วัตถุดิบในครัวมีเยอะมาก ความอุดมสมบูรณ์ทางวัตถุดิบทำให้การทำอาหารอันแสนอร่อยไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

เมื่อสักครู่นี้คุณปู่ฟางบอกว่าเขาอยากจะกินเนื้อวัวกับผ้าขี้ริ้ววัวเป็นอาหารค่ำในคืนส่งท้ายปีเก่า ดังนั้นเนื้อวัวตุ๋นกับผ้าขี้ริ้วตุ๋นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ขณะที่หลินม่ายกำลังเตรียมน้ำเกลือ คุณย่าฟางก็เดินเข้ามาพร้อมกับผ้าขนหนู

หลินม่ายถาม “คุณย่าจะล้างหน้าเหรอคะ เดี๋ยวฉันตักน้ำให้” หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบกะละมังขึ้นมาและตักน้ำใส่

คุณย่าฟางส่ายหัว “ไม่ได้อยากล้างหน้าหรอก แต่จะเอาไปเช็ดหน้าจั๋วหรานน่ะ โต้วโต้วข่วนหน้าเขาจนเป็นรอย จะปิดไว้ก็ไม่ได้ พรุ่งนี้แขกเห็นคงถามกันน่าดู”

คุณย่าฟางหยิบกะละมังน้ำเย็นที่หลินม่ายเตรียมไว้ให้ จุ่มผ้าขนหนูลงไปในกะละมังและหยิบขึ้นมา

เสียงไพเราะราวกับหยกกระทบกันของฟางจั๋วหรานดังลอดออกมาจากห้องโถง “โต้วโต้ว หลานบอกว่าจะเช็ดหน้าให้อาไม่ใช่เหรอ”

โต้วโต้วประหม่าจนไม่กล้าพูดอะไรออกไป

ครี่งชั่วโมงต่อมา โต้วโต้วรีบวิ่งมาลากหลินม่ายให้ไปที่ห้องโถง “แม่คะ ช่วยหนูเช็ดหน้าคุณอาหน่อย หนูกลัวคุณอา…”

หลินม่ายผู้ถูกดึงไปด้านหน้าฟางจั๋วหรานจึงต้องคอยเช็ดหน้าให้ฟางจั๋วหรานแทนเจ้าตัวเล็ก

เธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากแก้ปัญหาที่ลูกสาวก่อเอาไว้

เดิมทีมันเป็นการเช็ดหน้าทั่วไป และหลินม่ายไม่ได้รู้อะไร

ทว่าความใกล้ชิดที่มากเกินไปทำให้ทั้งสองเริ่มหายใจติดขัด เธอรู้สึกอายเล็กน้อยขณะที่ใบหน้าร้อนฉ่าขึ้น

ฟางจั๋วหรานมองดูใบหน้าของเธอ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าสัดส่วนใบหน้าของเธองดงามมาก ถ้าไม่ติดว่าคล้ำไปหน่อย เธอคงจะกลายเป็นหญิงสาวแสนสวยที่ได้รับความรักจากทุกคน สวยงามดั่งดอกไม้ที่บานสะพรั่ง

ทันใดนั้นเขาก็ได้กลิ่นหอมที่เคยสัมผัสบนรถบัส มันทั้งรู้สึกสดชื่นและชวนน่าหลงใหล

เขามองดูสาวงามผิวคล้ำที่อยู่ตรงหน้าด้วยความลุ่มหลง

หลินม่ายที่เคอะเขินเล็กน้อยรู้สึกเขินมากขึ้นเมื่อถูกอีกฝ่ายจ้องมองอย่างไม่ลดละ

เมื่อเช็ดหน้าให้ฟางจั๋วหรานเสร็จ เธอก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องครัวทันที

หลังจากเตรียมน้ำเกลือและปรุงอาหารบนเตาแล้ว หลินม่ายก็กำลังจะทำความสะอาดผ้าขี้ริ้ววัวและวัตถุดิบต่าง ๆ

ฟางจั๋วหรานเดินเข้ามาและแย่งวัตถุดิบออกมาจากมือเธอ “น้ำในฤดูหนาวเย็นเฉียบออกขนาดนี้ ผมล้างให้เองครับ”

หลินม่ายไม่ได้ขัดขวางเขา และไปเตรียมอาหารจากอื่นต่อ

ฟางจั๋วหรานกลับมาหลังจากล้างวัตถุดิบเสร็จ เขาวางวัตถุดิบที่ล้างสะอาดแล้วลงหลังจากเห็นว่าเธอเริ่มทำอาหาร การนั่งอยู่หน้าเตาถ่านและจุดไฟเป็นไปอย่างธรรมชาติ

หลินม่ายส่งยิ้มให้เขา และหันไปปรุงอาหารต่อ

ฟางจั๋วหรานมองดูเธอ ภายใต้แสงไฟสลัวจากตะเกียงน้ำมันทำให้เธอดูสวยงามแม้ในยามจดจ่ออยู่กับการทำอาหาร

เนื่องจากอาหารที่ตุ๋นเครื่องพะโล้อย่างหมูตงพอ*(2) หมูนึ่งข้าวคั่ว และเคาหยก*(3) ต้องใช้เวลาในการทำนาน หลินม่ายจึงยุ่งอยู่ในครัวเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงก่อนที่จะเตรียมอาหารค่ำในคืนวันส่งท้ายปีเก่าเสร็จ

สำหรับอาหารค่ำในคืนส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมา มีเพียงคุณปู่ฟางเท่านั้นที่จุดประทัดอยู่ที่หน้าประตู ส่วนคุณย่าฟางจะเตรียมอาหารค่ำในคืนส่งท้ายปีเก่าอยู่ในครัว

แต่ปีนี้มีฟางจั๋วหรานอยู่ด้วย หน้าที่ในการจุดประทัดจึงตกมาเป็นของเขา ในขณะที่คนอื่น ๆ มีหน้าที่นั่งดู

เพื่อนชาวบ้านที่ออกมาจุดประทัดในวันส่งท้ายปีเก่า พูดทักทายคุณปู่และคุณย่าฟางว่า “ปีใหม่ปีนี้หลานชายคนโตกลับมาหาด้วยสินะครับ”

คุณปู่และคุณย่าฟางต่างตอบรับอย่างภาคภูมิใจ

……………………………………………………………………………………………………………………….

*(1) ไป่เชวี่ยหลิง คือ ชื่อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยเรื่องการชะลอวัย

*(2) หมูตงพอ คือ เนื้อหมูตุ๋นราดน้ำแดง

*(3) เคาหยก คือ อาหารกวางตุ้งชนิดหนึ่ง ใช้หมูสามชั้นมาตุ๋นกับผัดกาดดองเค็ม

สารจากผู้แปล

โต้วโต้ว หนูกลัวคุณอาตรงไหนคะ คุณอาออกจะหล่อ

เรือแรงมากเลยค่ะ ลูกเรือคุณหมอยังอยู่บนเรือไหมคะ ไม่ใช่ว่าตกน้ำไปแล้วนะคะ ๕๕๕

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *