จอมนักรบทรงเกียรติยศ 262 ถังยู่

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 262 ถังยู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เทียนขุยก็ไม่รู้จะพูดยังไง เมื่อสักครู่ยังบอกว่าไม่ยุ่งเรื่องนี้ แต่ทันใดนั้นเขาก็เตะประตูของอีกฝ่ายจนพัง ยังตะโกนบอกให้ปล่อยตัวผู้หญิงคนนั้นด้วย ไม่ว่าจอมพลโผ้จวินจะทำอะไร ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรคิด คนๆนี้เป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้ถึงสองครั้ง ถ้าไม่มีจอมพลโผ้จวิน เขาคงตายไปนานแล้ว!ตอนนี้จอมพลโผ้จวินจะทำอะไร พูดอะไรก็เป็นคำสั่งหมด

เถ้าแก่อ้วนมองฟางเหยียนตั้งแต่หัวจรดเท้า จากซ้ายไปขวาด้วย เขาคิดว่าเด็กคนนี้แค่แอบอ้างบารมีของผู้อื่นเพื่อข่มขู่เขา

เห็นรูปร่างที่ผอมบางของเขา แค่ลมพัดมาแรงหน่อยก็คงจะปลิดออกไปแล้ว คนอย่างนี้แค่ข่มขู่นิดหน่อยก็คงหนีจนหัวหด!

ดังนั้นเขาจึงหัวเราะอย่างเย็นชาและพูด:“คุณว่างมากใช่ไหมถึงได้มายุ่งเรื่องของฉัน?ฉันเคยบอกคุณแล้วว่าเธอคือน้องสาวของฉัน เธออกหักและอารมณ์ไม่ดี ฉันจะพาน้องสาวของฉันไปพักผ่อน คุณเตะประตูร้านอาหารของฉันจนพัง คุณอยากมีปัญหาใช่ไหม?”

ฟางเหยียนขี้เกียจพูดเรื่องไร้สาระกับเขา เขาใช้น้ำเสียงที่เย็นชาและพูดประโยคนี้เป็นครั้งที่สอง:“ปล่อยผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้!”

เถ้าแก่อ้วนหรี่ตาและมองฟางเหยียนตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูเหมือนคนพวกนี้พูดดีๆไม่ชอบงั้นคงก็ต้องใช้กำลัง ดังนั้นเขาจึงกัดฟันและชี้หน้าฟางเหยียนและตะโกนด้วยความโกรธ:“คุณจงใจหาเรื่องฉันใช่ไหม?”

หลังจากพูดจบ เขาก็ปล่อยผู้หญิงคนนั้นทันที สีหน้าของเขาเคร่งขรึม กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาสั่นไหว จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องครัวและหยิบมีดออกมา!นั้นเป็นมีดที่เขาใช้หันเนื้อสัตว์ มันคมมากๆ สามารถสับกระดูกได้ด้วยมีดเดียว

เขายกมีดขึ้นมาและชี้ไปที่ฟางเหยียน ตะโกนด่า:“ไอ้เด็กเวร ฉันให้เวลาคุณสามวินาที ไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ฉันก็คิดซะว่าไม่เคยเกิดนเรื่องนี้ขึ้น!ไม่งั้น ฉันจะสับคุณแล้วเอาไปเลี้ยงสุนัข!”เถ้าแก่อ้วนกัดฟันตัวเองด้วยความโกรธ และสุดท้ายเขาก็เผยนิสัยของตัวเองออกมา

ฟางเหยียนมองหน้าเถ้าแก่ เขาพูดอย่างไม่สนใจ:“ใช่เหรอ?ถ้าอย่างงั้นฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณจะมีความสามารถนี้หรือเปล่า!”

“หนึ่ง!”

ฟางเหยียนพูดคำนั้นจบก็ตะโกนขึ้นมาทันที การตะโกนของเขาทำให้เถ้าแก่อ้วนสะดุ้งตกใจ ผู้ชายคนนี้ทำบ้าอะไรอยู่?เขาไม่กลัวตายจริงๆเหรอ?หรือว่าเขาเตรียมการมาแล้ว?

“สอง!”

เสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง ฟางเหยียนจ้องมองชายคนนั้นด้วยสายตาเย็นชาและนับเลขต่อ:“สาม!”

สีหน้าของเถ้าแก่อ้วนตกใจจนเหงื่อเย็นเต็มหน้า เขากำมีดในมืออย่างแน่นและด่า:“สวรรค์มีทางคุณไม่เลือก นรกไร้ทางคุณกลับพุ่งเข้ามา วันนี้ฉันจะส่งคุณไปนรก!”

หลังจากพูดจบ เถ้าแก่อ้วนถือมีดและฟันไปที่ฟางเหยียน แต่ฟางเหยียนยืนนิ่งๆและไม่ขยับ

“บ้าเอ๊ย!กลัวจนอึ้งไปเลยสิ?”เถ้าแก้อ้วนคิดอยู่ในใจ จากนั้นมีดในมือของเขาก็ฟันไปที่ร่างกายของฟางเหยียนทันที

ในขณะที่มีดกำลังจะฟันโดนร่างกายของฟางเหยียน ก็ได้ยินเสียงตูมขึ้นมาและการเคลื่อนไหวทั้งหมดก็หยุดลง!

เถ้าแก่อ้วนอึ้งไปเลย มีดที่อยู่ในมือของเขาหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ตอนนี้เขากำลังสบตากับผู้ชายคนนั้นอยู่ ใบหน้าของเขามีแต่รอยยิ้ม นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เถ้าแก่อ้วนกังวลใจและรีบเงยหน้าขึ้นไปดู เห็นมือของผู้ชายคนนั้นจับมีดของเขาด้วยมือเปล่า นี่มันเป็นมีดสับเนื้อและกระดูก ฟันโดนมือของเขายังส่งเสียงออกมาด้วย?นี่มันมือคน หรือว่าเหล็กกันแน่!

“เคร้ง!”สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นก็เกิดขึ้น มีดของเขาถูกหักออกเป็นสองซีกอย่างกะทันหัน และมันถูกหักด้วยมือเปล่า มีดเล่มนี้มีความหนาถึงสามเซนติเมตร เขาใช้มือเปล่าหักมันเป็นสองซีก มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อจริงๆ!

“บัดซบ!”เถ้าแก่อ้วนอุทานด้วยความประหลาดใจ ฟางเหยียนยกเท้าขึ้นมาและเตะไปที่หน้าท้องของเขาทันที หลังจากเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ร่างของเถ้าแก่อ้วนก็ปลิวออกไปเหมือนกับลูกบอล!

ฟางเหยียนเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นอย่างช้าๆ เธอนั่งเอียงๆอยู่บนโต๊ะ และเธอก็มีเสียงอื้อๆอยู่ในลำคอ

ฟางเหยียนไม่ได้คิดมาก เธอรีบอุ้มผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาและเดินออกจากร้านอาหาร!

เถ้าแก่ขดตัวอยู่บนพื้น และทำได้แค่มองผู้หญิงที่กำลังจะเป็นของเขาและตอนนี้ถูกแย่งไปแล้ว!ขณะนี้ เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่เขาสามารถล่วงเกินหรือผิดใจได้!

บนรถยนต์ เทียนขุยจ้องมองที่กระจกมองหลัง ศีรษะของผู้หญิงกำลังซบไหล่ของฟางเหยียนอยู่ เธอพยายามดิ้นรนเป็นครั้งคราว และพึมพำด้วยความทุกข์:“พี่เย่เฟย คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง คุณทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้”

ขณะพูด ผู้หญิงคนนั้นก็ยังใช้มือทุบไปที่หน้าอกของฟางเหยียน แต่ฟางเหยียนก็อดทนรับมันไว้อย่างเงียบๆ

เทียนขุยนิ่งไปชั่วครู่และถามว่า:“จอมพลโผ้จวิน คุณรู้จักเธอหรือเปล่า?”

ฟางเหยียนส่ายหัวและพูด:“ไม่รู้จัก!”

มันยิ่งทำให้เทียนขุยรู้สึกสงสัย ถ้าไม่รู้จักแล้วทำไมถึงยอมให้ผู้หญิงคนนั้นออดอ้อนและซบไหล่ของตัวเองละ ดังนั้นเขาจึงกลืนน้ำลายและพูด:“จอมพลโผ้จวิน มีคำพูดหนึ่งไม่รู้ว่าฉันควรพูดหรือเปล่า!”

“ไม่ควรพูด!”ฟางเหยียนรู้ว่าเทียนขุยต้องการจะพูดอะไร เขาก็พูดคำนั้นออกไปทันที คำพูดนี้ทำให้เทียนขุยปิดปากทันที

ผ่านไปสักพัก เทียนขุยก็ทนไม่ไหวจึงถามว่า:“จอมพลโผ้จวิน พวกเราจะพาเธอไปที่ไหนดี?”

ฟางเหยียนไม่พูดอะไร ในขณะนี้เสียงโทรศัพท์ของผู้หญิงคนนั้นก็ดังขึ้น เธอพยายามขยับตัว จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าออกมา

“ฮัลโล!ใครคะ?”ผู้หญิงถามทางโทรศัพท์ ขณะที่เธอถาม เธอก็ค่อยๆได้สติขึ้นมา สายตาพร่ามัวของเธอก็ค่อยๆชัดเจนมากขึ้น

“ฉันอยู่……”เธอมองไปที่ฟางเหยียน ถึงแม้เธอจะรู้สึกมึนอยู่บ้าง แต่เธอก็เบิกตากว้าง มองฟางเหยียนราวกับว่าเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว

“คุณเป็นใคร?”ผู้หญิงถามด้วยสีหน้างุนงง เธอตื่นมาก็เห็นหน้าคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องรู้สึกตกใจเหมือนกัน!

ฟางเหยียนพูดเบาๆว่า:“ฉันเป็นคนที่ช่วยคุณไว้!”

จู่ๆผู้หญิงก็ผลักตัวเองออกจากร่างกายของฟางเหยียน ขยับไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เธอกลืนน้ำลายตัวเอง และพูดกับคนที่อยู่ในโทรศัพท์ว่า:“ฉันอยู่บนรถเบนซ์คันหนึ่ง ที่นี่น่าจะเป็นเขตหนานซาโจว เหลียงเจิ้งคุณรีบมาช่วยฉันเดี๋ยวนี้!”

หลังจากพูดจบ เธอก็วางสายทันที จากนั้นก็มองฟางเหยียนและพูด:“พวกคุณจะทำอะไรฉัน?เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น?ฉันทานอาหารอยู่ที่ร้านของเถ้าแก่หนิวไม่ใช่เหรอ?”

หลังจากที่เธอพูดประโยคนี้จบ รถยนต์ก็จอดทันที ฟางเหยียนพูด:“พวกเราไม่ทำอะไรคุณแน่นอน เธอลงรถไปเถอะ!รีบบอกให้เพื่อนของคุณมารับคุณได้เลย”

ผู้หญิงแสร้งทำเป็นมองบริเวณโดยรอบและรีบตะโกนพูด:“ไม่ๆๆ คุณทิ้งฉันไว้ในที่เปลี่ยวๆตรงนี้ไม่ได้ คุณไม่กลัวว่าฉันจะเจอคนไม่ดีเหรอ?”

“งั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ เธอรู้เรื่องใช่ไหม?”ฟางเหยียนถามกลับ

ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะและพูด:“ขอบคุณมากๆ ฉันจำเรื่องที่เกิดขึ้นได้แล้ว!”

ตราบใดที่เธอยังไม่เมาจนขาดสติ เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เธอก็สามารถรับรู้ได้

ฟางเหยียนถาม:“คุณจะไปที่ไหน?”

ผู้หญิงยิ้มและพูด:“ช่วยพาฉันไปก่อนได้ไหม ข้างหน้าไม่ไกลก็คือเขตหนานซาโจว ฉันจะไปรอให้เพื่อนมารับที่นั่น คุณคิดว่าไง?”

ฟางเหยียนไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เขาก็เห็นด้วย เทียนขุยพยักหน้าทันที จากนั้นก็ขับรถยนต์ออกไป

“ฉันชื่อถังยู่ แล้วคุณชื่ออะไร?”ผู้หญิงทิ้งความหวาดระแวงและถาม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด