จอมนักรบทรงเกียรติยศ 269 คนลามก คุณเป็นคนน่ารังเกียจ

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 269 คนลามก คุณเป็นคนน่ารังเกียจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฟางเหยียนที่นั่งอยู่ในรถยนต์ไม่ขยับเลย ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็พูดไม่กี่ประโยค จู่ๆฟางเหยียนก็ถอนหายใจ เขาเปิดประตูและลงจากรถ ในเวลานี้ ทั้งสองคนจึงมองเห็นร่างกายของเขาได้อย่างชัดเจน เขามีรูปร่างที่ผอมบาง ถึงแม้เขาจะสูงหนึ่งร้อยเจ็บสิบห้าเซนติเมตร แต่ร่างกายเขาผอมบางมากจนเห็นแต่กระดูก สีหน้าของเขาขาวซีด มองดูแล้วเหมือนคนป่วย

เหลียงเจิ้งกล้ารับประกัน ถ้าเขาไม่มีบอดี้การ์ดคนนี้อยู่ข้างกาย เขาสามารถฆ่าผู้ชายที่ผอมบางคนนี้ด้วยหมัดเดียว

หลังจากที่เขาลงจากรถ เขาใช้สายตาที่หยิ่งยโสเหลือบมองไปรอบๆ มองเห็นคนพวกนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นและมองเทียนขุย แต่เทียนขุยไม่กล้าสบตากับเขา รีบก้มหน้าทันที ถามด้วยความเคารพ:“จอมพลโผ้จวิน ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า?ต้องฆ่าปิดปากไหม?”

ฆ่าปิดปาก?!ฆ่าคน?พวกเขาสองคนพูดแบบนี้จริงๆเหรอ?พวกเขาเป็นนักฆ่าเหรอ?

พวกเขารู้สึกถึงอันตรายทันที ความรู้สึกแบบนี้เหลียงเจิ้งไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ถังยู่ที่เคยอยู่กับทั้งสองคนมาแล้ว เธอไม่ได้รู้สึกกลัวและรีบพูดขึ้นมาทันที:“เฮ้ย คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นลูกคนรวยของหนานหลิง ถ้าพวกคุณฆ่าพวกเขาจริงๆ พวกคุณจะตกเป็นเป้าหมายของผู้มีอำนาจในหนานหลิงและพวกคุณจะกลายเป็นนักโทษของหนานหลิง

“อ้อ?”ฟางเหยียนเงยหน้าและมองไปที่ถังยู่ เมื่อดวงตาคู่นั้นจ้องมองที่ใบหน้าของถังยู่ ถังยู่ก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมาทันที มันแปลกมากๆ ทำไมตัวเองถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้

นักโทษ ฟางเหยียนไม่เคยได้ยินมีคนพูดว่าเขาเป็นนักโทษ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นนักโทษของประเทศหวาแล้ว!

ฟางเหยียนพูดด้วยสีหน้าปกติว่า:“ฉันไม่ฆ่าพวกเขา ไม่ใช่เพราะกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นนักโทษ ตอนนี้ถ้าฉันสั่งให้ฆ่าพวกเขา ก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าฉันเป็นนักโทษ!”

เขาเป็นเทพแห่งสงครามของประเทศหวา ฆ่าพวกเศษสวะไม่กี่คน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเขาอยู่แล้ว

ถังยู่ไม่พูดออกมา แต่คิดในใจว่าเขากำลังขี้โม้อยู่!ในสายตาของเธอ ฟางเหยียนก็เป็นแค่คนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเก่ง ถ้าไม่มีบอดี้การ์ดคนนั้น เขาก็คงไม่กล้าอวดเก่งขนาดนี้

จากนั้น เขามองเหลียงเจิ้งด้วยสายตาที่ดูถูก และถามเขาทีละคำ:“เมื่อสักครู่คุณพูดอะไร?”

เหลียงเจิ้งสำลักคำพูด เขาไม่ได้กลัวชายผอมบางที่ใส่เสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์ แต่เขากลัวบอดี้การ์ดคนนั้น ดังนั้นเขาจึงกะพริบตาและพูดอย่างลังเล:“ฉันๆๆ ฉันเป็นลูกชายของเหลียงจง คุณๆๆห้ามทำร้ายฉัน ถ้าพวกคุณกล้าทำร้ายฉัน ฉันจะให้พ่อของฉันไปแก้แค้นพวกคุณ รู้จักชื่อของพ่อฉันหรือยัง?เขาเป็นเศรษฐีอันดับสองของภาคตะวันออกเฉียงใต้”

นี่มันเป็นพฤติกรรมของลูกคนรวยจริงๆ เจอคนที่อ่อนแอกว่าก็รังคุณ เจอคนที่แข็งแกร่งกว่าก็ใช้บารมีพ่อของตัวเอง

น่าสงสารเด็กที่มีฐานะยากจนจริงๆ จะเปรียบเทียบอะไรกับลูกคนรวยพวกนี้ก็เทียบไม่ได้จริงๆ

ฟางเหยียนไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้น แต่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“คุณเป็นลูกของใคร มันไม่สำคัญ สำหรับฉันมันก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่ฉันพูดมันไม่ใช่ประโยคนี้ แต่เป็นประโยคที่คุณพูดในตอนแรก ถ้าคุณจำไม่ได้ ฉันจะเตือนคุณ!คุณบอกว่าถ้าจัดการเขาไม่ได้ จากนี้ไปคุณจะไม่ปรากฏตัวบนถนนเส้นนี้อีก ใช่ไหม?”

ใบหน้าของเหลียงเจิ้งเย็นชาขึ้นมาทันที เขาหมดคำพูด ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง และไม่รู้ว่าตัวเองควรเอ่ยปากพูดอะไรด้วย

เขาอยากจะยอมแพ้ เพราะบอดี้การ์ดของเขาเก่งเกินไป แต่เขาไม่ยอมแพ้ เพราะผู้หญิงที่เขาชอบอยู่ตรงนี้

เขาไม่มีทางเลือกจึงกัดฟันและพูดว่า:“พ่อของฉันคือเหลียงจง คุณห้ามทำร้ายฉัน!”

ไม่มีทางเลือก ตอนนี้เขาต้องใช้บารมีพ่อของตัวเอง!เขาหวังว่าบารมีของพ่อจะสามารถช่วยเขาไว้ได้

เหลียงจงคือคนที่คุกเข่าต่อหน้าเย่ชิงหยู่ ขอร้องให้ฟางเหยียนช่วยยกเลิกคำสั่งหยุดดำเนินกิจการของบริษัทเขา!ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวเศรษฐกิจของหนานหลิงพังพินาศ และเห็นว่าเหลียงจงมาขอโทษด้วยความจริงใจ ตอนนี้ธุรกิจของเหลียงจงก็คงล่มสลายไปแล้ว

ถ้ารู้ว่าเหลียงจงมีลูกชายแบบนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องให้เขาฟื้นฟูบริษัทอีก รอจนบริษัทของเขาล้มละลาย จากนี้ไปลูกชายของเขาก็จะได้สัมผัสความรู้สึกที่ตกจากสวรรค์ลงสู่นรก

“ยังไง? คุณยังอยากต่อยฉันเหรอ?ตอนนี้เหลือคุณแค่คนเดียว ถ้าคุณกล้าต่อยฉัน ฉันไม่รังเกียจที่จะให้บอดี้การ์ดของฉันหักกระดูกของคุณ!”ฟางเหยียนจ้องไปที่ดวงตาของเหลียงเจิ้ง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา

เหลียงเจิ้งกลืนน้ำลายตัวเอง และมีหยาดเหงื่อไหลลงแก้มของเขาอย่างเงียบๆ เขาตัวสั่นและเหลือบมองคนที่ล้มระเนระนาดอยู่ที่พื้น ปกติคนพวกนี้ต่างเป็นคนโหดเหี้ยม ไอ้เสือเคยอยู่แก๊งมาเฟีย อานเยว่เคยฟันแทงคนมาแล้วหลายสิบคน ตอนนี้พวกเขาโดนทำร้ายจนล้มลงไปนอนกับพื้น ถ้าเขาลงมือ ก็คงไม่มีประโยชน์!

เขารีบพูดทันที:“ฉัน ฉัน ฉันไม่สู้!แต่พวกคุณก็ห้ามทำร้ายฉัน”

ฟางเหยียนยิ้มอย่างเย็นชา เดินไปข้างหน้าเหลียงเจิ้งอย่างช้าๆทีละก้าวๆ เหลียงเจิ้งมองฟางเหยียนที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา เขารู้สึกกลัวและชาไปทั้งตัว เขาไม่ได้กลัวฟางเหยียน แต่กลัวบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังฟางเหยียน

ถ้ามีฟางเหยียนเพียงแค่คนเดียว เขาไม่กลัวอยู่แล้ว

ฟางเหยียนเดินมาอยู่หน้าเขา ยกมือขึ้นแล้วตบที่ไหล่ของเขาเบาๆและพูด:“จำคำพูดที่คุณเคยพูดไว้ ถ้าฉันเห็นแก๊งท่านชายบนถนนเส้นนี้อีก ฉันจะทำให้พวกคุณหายไปจากโลกนี้

เขาชี้ไปที่ลูกน้องของเหลียงเจิ้งที่นอนระเนระนาดอยู่ที่พื้น เพื่อเป็นการเตือนเหลียงเจิ้ง

“กลับไปบอกพ่อของคุณเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถ้าพ่อของคุณคิดว่าฉันทำไม่ถูก ก็ให้เขามาหาฉัน ฉันอยู่ที่รีสอร์ทหยูฉวน!”

หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปด้านหน้าถังยู่ เดิมทีถังยู่ยังนึกว่าผู้ชายคนนี้อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเก่ง แต่เมื่อเขายืนอยู่ตรงนั้น เขาดูเป็นคนที่น่าเกรงขามมากๆ ความรู้สึกนี้ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง และใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาทันที

เดิมทีเธอก็เป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ ในเวลานี้ใบหน้าของเธอก็แดงก่ำ เธอดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ฟางเหยียนหัวเราะออกมาและยกมือขึ้นมาจับแก้มของเธอเบาๆ ถังยู่รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต มือข้างนั้นเป็นของศพหรือเปล่า?เพราะมือที่สัมผัสใบหน้าของเธอมันเย็นมากๆ ทำไมมือข้างนั้นถึงไม่อุ่นเลย !ทันใดนั้น เธอก็ตกใจมากๆ รีบถอยหลังไปหนึ่งก้าว และถาม:“คุณๆๆ คุณจะทำอะไร?”

เมื่อเห็นการกระทำของฟางเหยียน เหลียงเจิ้งก็โกรธมากๆ แต่เขาไม่กล้าพูดอะไร ทำได้เพียงยืนจ้องฟางเหยียน ลวนลามผู้หญิงของตัวเอง เขาไม่มีทางเลือก เพราะเขาสู้บอดี้การ์ดของคนนั้นไม่ไหว ถ้าเขากล้าเข้าไปก็คงโดนทำร้ายแน่นอน

รู้ทันเหตุการณ์ รู้จักประมาณตน ไม่ทำอะไรเกินตัว นี่คือหลักความเป็นจริงที่เหลียงเจิ้งเข้าใจดี

ฟางเหยียนถูมือตัวเองที่สัมผัสโดนแก้มของถังยู่ จากนั้นเขาก็สะบัดมือและพูด:“ถังยู่ คุณเป็นตลก ฉันจะจำคุณไว้ ฉันรู้จักคนๆหนึ่ง เขาก็ชื่อถังยู่เหมือนกัน แต่เขาไม่เหมือนคุณเลย”

หลังจากพูดจบ เขาก็ดูมือที่สัมผัสแก้มของถังยู่อีกครั้ง จากนั้นก็เอามือขึ้นมาดมและพูด:“มันเป็นกลิ่นของผิวพรรณคุณ?หรือว่าเป็นกลิ่นของเครื่องสำอาง?”

เมื่อเห็นการกระทำของเขา ถังยู่อายจนหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าแดงก่ำของถังยู่ยิ่งทำให้เธอสวยมากขึ้น เธอขมิบริมฝีปากและพูด:“คนลามก! คุณเป็นคนน่ารังเกียจ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด