จอมนักรบทรงเกียรติยศ 402 ตื่นตะลึง

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 402 ตื่นตะลึง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ขณะนี้ มีอาจารย์สองคนที่ยังไม่ได้สติกลับมา รอให้อารองซ่งออกไปจากประตูมหาลัยแล้วจริงๆ พวกเขาจึงได้สติกลับมา ทั้งสองเช็ดมือ แล้วกล่าว “น่าแปลกจริงๆ เมื่อกี๊หนาวมากเลยนะ!”

“ใช่ ผมคิดว่ามีแค่ผมที่รับรู้ได้ นึกไม่ถึงว่าคุณก็เป็นเหมือนกัน!”

“ไร้สาระ มันชัดเจนมากเลยนะ? เหมือนกับแรงอาฆาตที่มีในนิยายเลยอะ! ทำให้ใจของคนกลายเป็นความมืดมนที่เยือกเย็น”

ไม่ใช่แค่สองคนเท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงพลังนี้ ความจริงคนที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากล้วนรับรู้ได้ถึงพลังเห็นความเยือกเย็นนี้

ฟางเหยียนไม่สนใจคำพูดของพวกเขา เพียงแค่หันหลังไปอย่างไม่ลังเล แล้วพูดกับศาตราจารย์โจวว่า “ไปกันเถอะ!”

ศาตราจารย์โจวพนักหน้า หันหลังแล้วเดินไป

เดินไปได้ยังไม่ถึงสองก้าว ซ่งหยิงก็ถอนหายใจ แล้วถาม “หลังเลิกเรียนแล้ว ฉันเลี้ยงข้าวอาจารย์ได้มั้ยคะ?”

เมื่อพูดจบเธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงได้พูดเสริมอีกว่า “ถือว่าเป็นการขอบคุณสำหรับครั้งที่แล้วที่คุณได้ช่วยฉันไว้ที่สถานีรถก็แล้วกัน”

ฟางเหยียนครุ่นคิดสักพัก แล้วกล่าว “ดูเวลาของผมก่อนก็แล้วกันนะครับ! วันนี้อาจจะไม่ได้”

ซ่งหยิงส่งเสียงอ๋อออกมา เกิดความผิดหวังเบาๆขึ้นภายในจิตใจ

แต่เธอเหมือนนึกอะไรออก แล้วเตือนฟางเหยียนว่า “อ้อ บางทีอารองของฉันอาจจะ…”

เธอสะอื้น จับแขนของฟางเหยียนแล้วกล่าว “ยังไง คุณก็ระวังตัวหน่อยก็แล้วกันค่ะ”

ฟางเหยียนดูแคลน แล้วกล่าว “ไม่เป็นไร!”

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน มากสุดก็แค่สำหรับคนทั่วไปเท่านั้นแหละ แต่สำหรับจอมพลโผ้จวินแห่งประเทศหวาแล้ว ต่อให้คุณเป็นคนที่เก่งกาจขนาดไหน ก็ต้องถูกจัดการอยู่ดี!

เมื่อเห็นฟางเหยียนสบายๆแบบนี้ ซ่งหยิงก็ถอนหายใจยาวๆ

เมื่อเห็นด้านหลังของฟางเหยียน คิดในใจว่าก่อนกลับบ้านได้ฟังคลาสของเขา ชีวิตการเป็นนักศึกษาของตัวเองก็ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว!

เมื่อนีกถึงจุดนี้ ซ่งหยิงอดินเข้าห้องบรรยายพร้อมกับหลายๆคนอย่างทำอะไรไม่ได้

ในห้องบรรยายเต็มไปด้วยผู้คนแล้ว แทบจะเป็นนักศึกษาของเอกประวัติศาสตร์ทั้งหมด คนที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดคือเหล่าศาตราจารย์ ในห้องบรรยายปฏิบัติตามคำสั่งของศาสตราจารย์โจว เตรียมกล้องวิดีโอและของอื่นๆไว้เรียบร้อยแล้ว รอก็เท่าแต่ฟางเหยียนเข้ามาบรรยาย

ภายใต้การนำของศาสตราจารย์โจว ฟางเหยียนเดินขึ้นบนสแตนด์

“ศาตราจารย์ฟาง! ทำตามความคิดของคุณเลยครับ ไม่ต้องเครียด!” ศาสตราจารย์โจวให้กำลังใจ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่อยู่ด้านล่างเวที ฟางเหยียนไม่รู้สึกเครียดเลยแม้แต่น้อย ศาสตราจารย์โจวก็แค่เตือนก็เท่านั้น

เครียดคืออะไร ฟางเหยียนไม่ค่อยแน่รู้จักสักเท่าไหร่ เขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่ากี่ปีแล้วที่ไม่รู้สึกเครียดมา ด้านหน้าก็แค่นักเรียนร้อยกว่าคนเท่านั้น เขาเคยเผชิญกับทหารต่างชาติที่สายตาดุดันกว่าแสนๆนาย นั่นเป็นคนที่พยายามจะเอาชีวิตของเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่โหดเหี้ยมเหล่านั้นเขาไม่รู้สึกอึดอัดอะไรแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็แค่นักเรียนที่ไม่มีพิษไม่มีภัยร้อยกว่าคน ดังนั้นอารมณ์ของเขาจึงสงบนิ่งที่สุดแล้ว

อาจารย์หลายท่านที่อยู่ด้านล่างเริ่มถกเถียงอย่างกระซิบกระซาบขึ้นมา แสดงความคิดเห็นไม่พอใจต่อฟางเหยียนออกมา

“คนนี้คืออาจารย์ที่เก่งมากที่ศาตราจารย์โจวพูดถึงนั้นเหรอ? ดูท่าทีเขาแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะเก่งอะไรเลย! วัยรุ่นขนาดนั้น แล้วยังดูไม่มีวุฒิภาวะอีก!”

“ใครจะรู้ล่ะ เขาคิดว่าใส่เสื้อเชิ้ตกางเกงยีน ก็จะเหมาะสมกับภาพลักษณ์ของอาจารย์แล้วเหรอ? ตลกจริงๆ”

“ผมไม่คิดว่าคนแบบนี้จะบรรยายคลาสอะไรได้เก่งมากมายขนาดนั้น ศาสตราจารย์โจวจะต้องโม้เกินจริงแล้วแน่นอน”

“ช่างเหอะ พวกเราก็ยอมๆหน่อยละกัน! ถ้าทำผิดต่อศาสตราจารย์โจว บางทีต่อไปอาจจะไม่เป็นสุขก็ได้นะ”

ฟางเหยียนสอดส่องคนที่อยู่ด้านล่าง เตรียมเสียง แล้วเริ่มการบรรยาย

ได้ทำความเข้าใจกับศาสตราจารย์โจวมาแล้วบ้าง เขาบอกว่าคลาสนี้เกี่ยวกับคลองขุดใหญ่สมัยจักรพรรดิสุยหยาง

เมื่อเขาเริ่มการบรรยาย ด้านล่างเวทีมีเสียงดังแปลกๆขึ้น เป็นพวกนักเรียนที่กำลังพูดนินทากระซิบกระซาบกัน ฟางเหยียนไม่เตือนนักเรียนเหล่านั้นเหมือนที่อาจารย์คนอื่นทำ เพียงแต่พูดเสียงให้ดังขึ้น ให้ในห้องบรรยายดังสนั่นไปด้วยเสียงของเขา

เขายิ่งพูดเสียงยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ เนื้อหาที่พูดก็ยิ่งอยู่ยิ่งวิเศษขึ้น ยิ่งอยู่ยิ่งคึกคักขึ้น เขายืนอยู่บนเวที ทิ้งหนังสือไป ใช้วิธีการของตัวเองบรรยายให้นักศึกษาอีกทั้งอาจารย์ทั้งหมดที่อยู่ด้านล่างฟัง

เขารู้ ว่าถ้าไม่บรรยายคลาสนี้ ก็ยากที่จะรับการค้นคว้าหินทิพย์ที่อาจารย์โจวจะให้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงอดทนอุทิศตนบรรยายคลาสประวัติศาสตร์แก่นักศึกษา เล่าความจริงที่เคยเกิดขึ้นมา

ที่สามารถบรรยายได้ขนาดนั้น เป็นเพราะเมื่อก่อนตอนที่ฟางเหยียนเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายได้ค้นคว้าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ นอกจากความรู้ที่มีในหนังสือแล้ว เขายังชอบอ่านบทกวีนิพนธ์ในสมัยโบราณเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงมีความคิดเป็นของตัวเองต่อแต่ล่ะยุคสมัย

เขาบรรยายภูมิหลังอีกทั้งสภาพในตอนนั้นให้ทุกคนฟังได้อย่างเหมือนจริงมาก เหมือนกับตัวเองได้มีชีวิตอยู่ในยุคนั้น วิธีการบรรยายของเขา ดึงดูดนักศึกษาและอาจารย์ที่อยู่ด้านล่างเวทีไว้ได้อย่างสมบูรณ์

อาจารย์พวกนั้นที่กำลังรอเรื่องสนุกอยู่นั้นก็มีความรู้สึกผ่อนคลาย ฟังเขาบรรยาย เหมือนกับได้เห็นภาพในยุคนั้นจริงๆ ทุกๆคำที่เขาพูดออกมา ราวกับมีฉากที่แตกต่างกันออกไปปรากฏขึ้นมา

มีช่างมีพลังจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนใช้วิธีนี้บรรยายคลาสด้วย เนื้อหาที่บรรยายออกมานึกไม่ถึงว่าจะได้ผลลัพธ์แบบนี้ เขาทิ้งบันทึกที่อยู่ตำราไปเลยโดยสิ้นเชิง ฟังคำพูดอีกทั้งความเข้าใจของตัวเองบรรยายให้ทุกคนฟัง

และน้ำเสียงของเขามีแรงดึงดูดมาก ราวกับทุกคนถูกห้อมล้อมไว้ด้วยเสียงของเขาแล้ว

ทั้งห้องบรรยาย เงียบสงบอย่าหาที่เปรียบมิได้ มีเพียงเสียงของเขา สายตากว่าร้อยคู่ที่ตอนแรกไม่แคร์ สงสัย ดูถูกได้กลายมาเป็นความตะลึง ประหลาดใจในตอนนี้ ไม่มีใครคิดว่าคนนี้จะบรรยายคลาสได้ดีขนาดนี้

วิธีการบรรยาของเขา เหมาะกับนักศึกษายุคปัจจุบันสุดๆ มีแรงดึงดูด และหลุดเข้าไปอีกโลกที่อย่างดีเยี่ยม เพียงแค่ตั้งใจฟังไม่กี่ประโยค ก็ทำให้คนจมปลัก ราวกับทุกคนชอบประวัติศาสตร์เข้าให้แล้ว

แม้แต่นักเรียนพวกที่พอเริ่มเรียนประวัติศาสตร์แล้วสัปหงกล้วนตั้งอกตั้งใจขึ้นมา ให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง

เหล่าอาจารย์ที่ซุบซิบกันเมื่อกี๊รีบหยิบปากกาขึ้นมา บันทึกวิธีการสอนของเขาไว้ในสมุดเล่มหนึ่ง วิธีการแบบนี้มันช่างเจ๋ง น่าตื่นตะลึงมากจริงๆ อย่างที่ศาสตราจารย์โจวพูดไว้ ว่าการฟังการบรรยายของเขาคือความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง

ความดึงดูดสุดยอดมาก ไม่เพียงแค่นักศึกษาเท่านั้น แม้แต่อาจารย์เองก็ถูกคลาสของเขาดึงดูดเข้าให้แล้ว คลาสแบบนี้ ไม่ว่าใครฟัง อาจจะมีความคิดและมุมมองใหม่ เกี่ยวกับคลองขุดใหญ่สมัยจักรพรรดิสุยหยางเลยก็ว่าได้

อย่างที่ศาสตราจารย์โจวว่าไว้ อาจารย์ที่ไม่ได้มา จะต้องรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจที่โง่เง่าในวันนี้ วิธีการสอนและวิธีการปฏิบัติแบบนี้เชี่ยวชาญยิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญเสียอีก ปรับทัศนคติใหม่ให้กับอาจารย์ทุกคนโดยสิ้นเชิง

ทุกคนมองฟางเหยียนอย่างมีความหวัง แล้วใช้ปากกาเขียนเรื่องราวต่างๆลงในสมุดอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ วิธีการบรรยายและวิธีการปฏิบัติแบบนี้ ทำให้ผู้เรียนฟังเป็นร้อยรอบก็ไม่เบื่อ ไม่เซ็ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด