จอมนักรบทรงเกียรติยศ 751 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 751 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อารอง นี่มัน…” ซ่งหยิงหันหน้าไป สีหน้าตกใจคาดไม่ถึงของอารองซ่งอู่ฮุยเองก็ไม่น้อยไปกว่าเธอ

“มังกรละ?” เทียนขุยถาม

แววตาสงสัยหลายคู่มองไปยังซ่งอู่ฮุย ซ่งอู่ฮุยรีบเดินเข้าไป มองไปที่หนังสือโบราณในมือของฟางเหยียน ถามว่า “จอมพลครับ คุณสัมผัสได้ถึงเทพมังกรมั้ยครับ?”

ซ่งอู่ฮุยใช้การสัมผัสถึง ไม่ใช่การเรียกมา!

เขาแสดงออกชัดเจนว่า เทพมังกรไม่สามารถเรียกตัวมาได้ ไม่ใช่เพราะหนังสือโบราณเพลงปลูกมังกรมีปัญหา เขากลัวมากว่าจอมพลจะโมโห ดังนั้นจึงได้ถามออกไปเสียงเบา

ฟางเหยียนคิ้วขมวดเล็กน้อย จ้องมองที่บูชามังกรที่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักนิด เมื่อกี้ที่เป่าขลุ่ยเพลงปลูกมังกร เขาได้ยินเสียงของมังกรอย่างชัดเจน และก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่รุนแรงนั้น

แต่ว่า…..

ทำไมถึงไม่ปรากฏตัว?

ฟางเหยียนพยักหน้า “อืม ฉันได้ยินเสียงของมังกร”

ซ่งอู่ฮุยถอนหายใจยาว เหมือนกับว่าภูเขาออกจากอกมากกว่า ซ่งหัวหลินนั้นยิ่งตรงไปตรงมา พูดอย่างไม่ไว้หน้ากันสักนิดว่า “พ่อครับ นี่มันเวลาไหนแล้ว พ่อยังจะเล่นแง่ แสดงถึงความลึกลับจับต้องไม่ได้ของตัวเองอีกงั้นหรอ?”

มือขวาของซ่งอู่ฮุยยกสูงขึ้น เขาอยากจะสั่งสอนลูกอกตัญญูนี่หนักๆสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ค่อยๆวางมือลง

“จอมพลครับ กระผมสับสนเอง” ซ่งอู่ฮุยแสร้งยิ้ม “จอมพลครับ คำนี้คุณน่าจะเข้าใจดี นั่นก็คือดาวทั้งเก้าเรียงตัวกัน เทพเจ้ามาจุติ ปีศาจอาละวาด ใต้หล้าอลหม่าน เริ่มปรากฏ สำนักต่างๆไม่สงบ มีสำนักมังกร เป็นปฏิปักษ์กับเพลิงเสวน!”

“พ่อครับ พ่อเอาอีกแล้วนะ!” ซ่งหัวหลินส่ายหัวอย่างเอือมระอา

“อารอง คำนี้หมายความว่าไงคะ?” ซ่งหยิงเองก็ถาม

ซ่งอู่ฮุยกำลังจะพูด แต่ฟางเหยียนกลับเอ่ยขึ้นนิ่งๆว่า “เวลาไม่เหมาะสม ดาวทั้งเก้าเรียงตัวกัน เทพเจ้ามาจุติ!”

“จอมพลความคิดรอบคอบจริงๆ กระผมนับถือ”

ฟางเหยียนมองดูที่บูชามังกร เก็บขลุ่ยวิเศษ และพูดว่า “ผู้อาวุโส ชมเกินไปแล้วครับ”

ซ่งอู่ฮุยยิ้ม แสดงออกชัดเจนว่า “จอมพลวางใจได้ครับ สำนักฉิวหลงได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ เพียงแค่ถึงเวลาที่เหมาะสม เทพมังกรก็จะมาปรากฏตัว ก่อนจะถึงตอนนั้น ก็รบกวนจอมพลทำการเสียสละแล้วละครับ”

“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น งั้นผมไม่รบกวนแล้ว แล้วเจอกันอีกครับ” พูดแล้วฟางเหยียนก็มองไปยังเทียนขุย “เทียนขุย ไปกันเถอะ”

ในตอนที่จากไป ฟางเหยียนมองที่บูชามังกรอีกครั้ง แล้วก้าวเดินจากไป

มองดูคนในใจเดินจากไป ซ่งหยิงก็อดไม่ไหว เธอต้องพยายามเพื่อตัวเองอีกครั้ง เพราะเธอรู้ว่าถ้าไม่กล้าหาญพอ ทุกอย่างก็จะกลายเป็นความเสียดายในภายหลัง เธอไม่อยากให้ความเสียดายกลายเป็นความเสียใจจริงๆ เธอจะบ้าคลั่งเพื่อความรักสักครั้งหนึ่ง

“ครูฟาง คุณ คุณจะไปแล้วจริงๆหรอคะ?”

ฟางเหยียนหันหน้าไปพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ซ่งหยิง ฉันเคยบอกกับเธอไปแล้วว่าไม่ถูกต้อง ทำไมจะต้องดื้อดึงไม่ปล่อยละ?”

“รักคนๆหนึ่งผิดงั้นหรอคะ?” ซ่งหยิงน้ำตาไหล น้ำตาใสรินไหลลงตามใบหน้า แต่เธอกลับไม่สนใจสักนิด และพูดต่ออีกว่า “คุณบอกว่าคุณชอบความโดดเดี่ยว ที่จริงแล้วคุณกลัวฉันดูคุณออก คุณกลัวเรือที่เป็นของพวกเรา ล่องลอยไปกลับเข้าท่าไม่ได้ ดังนั้นคุณจึงจงใจที่จะปกป้องฉัน”

“ครูฟางคะ การรักคนหนึ่งไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว ความรักที่คุณมีให้ฉัน ฉันเห็นอยู่ในสายตา ฉันกล้าหาญขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณถึงยังกลัวอยู่ละคะ?”

“ฉันแค่อยากจะบอกกับคุณว่า การที่ได้รักคุณฉันไม่เคยเสียใจเลย ฉันกลัวเพียงแค่ว่าคนที่ฉันรักจะกลายเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย และไม่ได้พบเจอกันอีก”

ซ่งหยิงที่ร้องไห้เสียใจแสดงออกถึงความรักของตัวเองไม่หยุด

ซ่งหัวหลินกำลังอยากจะเอ่ยปากพูด กลับถูกสายตาของซ่งอู่ฮุยถลึงใส่จนหุบปาก “แกแม่งหุบปากไปเลยนะ ถ้าเวลานี้แกทำลายเรื่องดีๆของซ่งหยิง กูก็จะตัดสัมพันธ์พ่อลูกกับแกจริงๆด้วย”

ซ่งหัวหลิน “……”

เห็นได้ชัดว่าซ่งอู่ฮุยรู้จักลูกชายของตัวเองดี

“พ่อครับ พ่อเป็นอะไรไป ชอบไม่ให้โอกาสในการพูดกับผม พ่อป้องกันใครกันเนี่ย ผมเป็นลูกชายของพ่อนะ” ซ่งหัวหลินสีหน้ารังเกียจ แล้วพูดต่ออีกว่า “ผมไม่ได้มีความคิดอย่างนั้น ผมอยากจะพูดว่า ซ่งหยิงโตขึ้นแล้วจริงๆ ถ้าหากว่าเธอสามารถมีความสัมพันธ์ระดับนั้นกับจอมพลได้ สำนักฉิวหลงของพวกเราก็คงจะได้รุ่งโรจน์ขึ้น”

ครั้งนี้ ซ่งอู่ฮุยเข้าใจลูกชายตัวเองผิดไป หลังจากที่ใบหน้าแก่ของเขากระตุกไปทีแล้วก็พูดออกมานิ่งๆว่า “ในที่สุดแกก็ถือว่าคิดได้สักที กูจะได้สบายใจได้แล้ว”

ซ่งหัวหลิน “…..”

ตามมาจากที่ซ่งหยิงสารภาพรักอย่างลึกซึ้ง เธอก็เดินมาถึงตรงหน้าของฟางเหยียนแล้ว จ้องมองฟางเหยียนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา “ครูฟางคะ ฉันรู้ว่าฐานะพวกเราแตกต่างกัน ไม่สามารถคู่ควรกับคุณได้ แต่ฉันไม่อยากเสียใจภายหลัง และกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำว่ารักออกไป ฉันเองก็ไม่ได้บังคับครูฟาง สำหรับฉันแล้ว รักแล้วรักทั้งหมดของคนนั้น รักแบบไม่ต้องการการตอบแทน”

ฟางเหยียนเองก็ไม่ทนแล้ว ความเสน่หาที่ซ่งหยิงมีต่อเขานั้นเป็นแบบหลินถงเลย

“ซ่งหยิง ตอนนี้แค้นของเธอได้ชำระแล้ว สำนักฉิวหลงสงบสุข พ่อของเธอที่อยู่บนฟ้าก็จะสามารถมองเห็นได้ เรื่องความรักไม่ใช่สิ่งที่เธอควรคิดในตอนนี้ ความปรารถนาสุดท้ายที่พ่อของเธอไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ ถ้าหากว่าเธอสามารถทำได้ อย่างนั้นเขาที่อยู่ในปรโลกเองก็คงจะมีความสุข”

“ในเมื่อเธอเรียกฉันว่าครูฟาง งั้นครูก็อยากจะบอกกับเธอว่า พ่อของเธอจะต้องอยากให้เธอนำพาสำนักฉิวหลงไปสู่ความรุ่งโรจน์ครั้งใหม่แน่นอน ฉันไม่อยากให้เรื่องความรักมาขัดขวางการพัฒนาของเธอ ดังนั้นเธอน่าจะเข้าใจใช่มั้ย?”

น้ำตาของซ่งหยิงเหมือนกับเม็ดฝนที่ไม่มีวันหยุด รินไหลลงเรื่อยๆ ทำเอาผู้คนสงสาร

ซ่งหยิงสะอื้นพูดว่า “ครูฟางคะ ที่คุณพูดฉันเข้าใจทั้งหมดค่ะ แต่ว่าความรักที่ฉันมีให้คุณมันห้ามไม่ได้ เหมือนกับน้ำที่ท่วมล้น ฉันกลัวจริงๆว่าถ้าหากคุณไปจากสำนักฉิวหลงแล้ว พวกเราก็จะไม่ได้เจอหน้ากันอีก ฉันไม่อยากให้ความรักของฉันกลายเป็นความเสียดายในภายหลัง”

“ไม่มีทุกอย่างในชีวิตที่จะสมหวัง ผู้ชายที่ดีในโลกมีมากมาย ทำไมจะต้องดื้อรั้นอยู่กับสิ่งนี้”

“รักแล้วไม่สามารถพูดออกไปได้ เก็บซ่อนไว้ในใจแล้วจะมีใครเข้าใจ?”

ฟางเหยียนคิดๆแล้วพูดว่า “ซ่งหยิง ฉันไม่ใช่ที่พักที่ดีที่สุดของเธอ ส่วนเธอก็ไม่ควรดื้อรั้นอยู่กับสิ่งนี้ ปล่อยวางความดื้อดึงในใจ นำพาสำนักฉิวหลงให้ดี ให้มันกลายเป็นความภาคภูมิใจของพ่อเธอ นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่เธอควรทำ”

ความรักไม่ต้องการการตอบแทน ความรักมักจะรักแต่ไม่ได้มา ความรักสามารถทำให้คนกังวลและสามารถทำให้คนเจ็บปวดไปทั้งชีวิต ซ่งหยิงไม่กลัวถูกปฏิเสธ และยิ่งไม่กลัวที่ฟางเหยียนปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า

“คุยกันถึงนี่ก็พอ เธอดูแลตัวเองให้ดีเถอะ”

ซ่งหยิงร้องไห้เสียใจ เธอรู้ดีว่าการจากไปของฟางเหยียนในครั้งนี้ ความรักระหว่างพวกเขาก็จะยิ่งอยู่ยิ่งห่างไกล

“พอแล้ว ซ่งหยิง สิ่งที่พยายามดื้อดึงเอามามันไม่ดีหรอก เหตุผลมากมาย พรหมลิขิตของพวกเธอยังมาไม่ถึง จอมพลพูดถูก สิ่งที่เธอควรทำในตอนนี้คือนำพาสำนักฉิวหลงให้เป็นความภาคภูมิใจของพ่อเธอ ให้มันเป็นความภาคภูมิใจของพ่อเธอ”

ซ่งหยิงมองไปยังซ่งอู่ฮุยสะอื้นพูดว่า “อารองคะ ความรักมันโหดร้ายจริงๆ”

ซ่งอู่ฮุยยิ้มแต่ไม่พูดอะไร

มีสิ่งมากมายบนโลก แต่มีเพียงความรักที่ทำร้ายผู้คนมากที่สุด!

——

หลังจากที่เรื่องสำนักฉิวหลงจบลง ก็ผ่านไปอีกหลายวัน ภายในหลายวันนี้ นอกจากความเคลื่อนไหวการโฆษณาของสำนักฉิวหลงแล้ว พวกเขาก็ได้รับความไว้วางใจจากสำนักฉิวหลงอย่างสำเร็จ เห็นผลได้อย่างชัดเจน

วันนี้ แขกไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งปรากฏตัว คนๆนี้ก็คือชิงตี้ที่หนีออกจากรีสอร์ตหยูฉวน!

เทียนขุยโทษตัวเองจากเรื่องที่ครั้งก่อนชิงตี้หนีไป ดังนั้นการเจอกันในครั้งนี้ เขาจึงไม่ได้พูดอะไรแล้ว และลงมือทันที

การต่อสู้ของทั้งสองทำให้ฟางเหยียนที่อยู่บนสะพานตกใจ เมื่อเห็นฟางเหยียน เธอก็ยิ่งเคลื่อนตัวมายังตรงหน้าของเขา เทียนขุยกำลังจะพุ่งเข้ามา แต่กลับถูกฟางเหยียนห้ามไว้

“จอมพลโผ้จวินครับ ผู้หญิงคนนี้คงจะมีแต่คิดไม่ดีกับคุณนะครับ!”

ฟางเหยียนพูดนิ่งเฉยว่า “ไม่เป็นไร เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบทรงเกียรติยศ 751 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 751 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อารอง นี่มัน…” ซ่งหยิงหันหน้าไป สีหน้าตกใจคาดไม่ถึงของอารองซ่งอู่ฮุยเองก็ไม่น้อยไปกว่าเธอ

“มังกรละ?” เทียนขุยถาม

แววตาสงสัยหลายคู่มองไปยังซ่งอู่ฮุย ซ่งอู่ฮุยรีบเดินเข้าไป มองไปที่หนังสือโบราณในมือของฟางเหยียน ถามว่า “จอมพลครับ คุณสัมผัสได้ถึงเทพมังกรมั้ยครับ?”

ซ่งอู่ฮุยใช้การสัมผัสถึง ไม่ใช่การเรียกมา!

เขาแสดงออกชัดเจนว่า เทพมังกรไม่สามารถเรียกตัวมาได้ ไม่ใช่เพราะหนังสือโบราณเพลงปลูกมังกรมีปัญหา เขากลัวมากว่าจอมพลจะโมโห ดังนั้นจึงได้ถามออกไปเสียงเบา

ฟางเหยียนคิ้วขมวดเล็กน้อย จ้องมองที่บูชามังกรที่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักนิด เมื่อกี้ที่เป่าขลุ่ยเพลงปลูกมังกร เขาได้ยินเสียงของมังกรอย่างชัดเจน และก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่รุนแรงนั้น

แต่ว่า…..

ทำไมถึงไม่ปรากฏตัว?

ฟางเหยียนพยักหน้า “อืม ฉันได้ยินเสียงของมังกร”

ซ่งอู่ฮุยถอนหายใจยาว เหมือนกับว่าภูเขาออกจากอกมากกว่า ซ่งหัวหลินนั้นยิ่งตรงไปตรงมา พูดอย่างไม่ไว้หน้ากันสักนิดว่า “พ่อครับ นี่มันเวลาไหนแล้ว พ่อยังจะเล่นแง่ แสดงถึงความลึกลับจับต้องไม่ได้ของตัวเองอีกงั้นหรอ?”

มือขวาของซ่งอู่ฮุยยกสูงขึ้น เขาอยากจะสั่งสอนลูกอกตัญญูนี่หนักๆสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ค่อยๆวางมือลง

“จอมพลครับ กระผมสับสนเอง” ซ่งอู่ฮุยแสร้งยิ้ม “จอมพลครับ คำนี้คุณน่าจะเข้าใจดี นั่นก็คือดาวทั้งเก้าเรียงตัวกัน เทพเจ้ามาจุติ ปีศาจอาละวาด ใต้หล้าอลหม่าน เริ่มปรากฏ สำนักต่างๆไม่สงบ มีสำนักมังกร เป็นปฏิปักษ์กับเพลิงเสวน!”

“พ่อครับ พ่อเอาอีกแล้วนะ!” ซ่งหัวหลินส่ายหัวอย่างเอือมระอา

“อารอง คำนี้หมายความว่าไงคะ?” ซ่งหยิงเองก็ถาม

ซ่งอู่ฮุยกำลังจะพูด แต่ฟางเหยียนกลับเอ่ยขึ้นนิ่งๆว่า “เวลาไม่เหมาะสม ดาวทั้งเก้าเรียงตัวกัน เทพเจ้ามาจุติ!”

“จอมพลความคิดรอบคอบจริงๆ กระผมนับถือ”

ฟางเหยียนมองดูที่บูชามังกร เก็บขลุ่ยวิเศษ และพูดว่า “ผู้อาวุโส ชมเกินไปแล้วครับ”

ซ่งอู่ฮุยยิ้ม แสดงออกชัดเจนว่า “จอมพลวางใจได้ครับ สำนักฉิวหลงได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ เพียงแค่ถึงเวลาที่เหมาะสม เทพมังกรก็จะมาปรากฏตัว ก่อนจะถึงตอนนั้น ก็รบกวนจอมพลทำการเสียสละแล้วละครับ”

“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น งั้นผมไม่รบกวนแล้ว แล้วเจอกันอีกครับ” พูดแล้วฟางเหยียนก็มองไปยังเทียนขุย “เทียนขุย ไปกันเถอะ”

ในตอนที่จากไป ฟางเหยียนมองที่บูชามังกรอีกครั้ง แล้วก้าวเดินจากไป

มองดูคนในใจเดินจากไป ซ่งหยิงก็อดไม่ไหว เธอต้องพยายามเพื่อตัวเองอีกครั้ง เพราะเธอรู้ว่าถ้าไม่กล้าหาญพอ ทุกอย่างก็จะกลายเป็นความเสียดายในภายหลัง เธอไม่อยากให้ความเสียดายกลายเป็นความเสียใจจริงๆ เธอจะบ้าคลั่งเพื่อความรักสักครั้งหนึ่ง

“ครูฟาง คุณ คุณจะไปแล้วจริงๆหรอคะ?”

ฟางเหยียนหันหน้าไปพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ซ่งหยิง ฉันเคยบอกกับเธอไปแล้วว่าไม่ถูกต้อง ทำไมจะต้องดื้อดึงไม่ปล่อยละ?”

“รักคนๆหนึ่งผิดงั้นหรอคะ?” ซ่งหยิงน้ำตาไหล น้ำตาใสรินไหลลงตามใบหน้า แต่เธอกลับไม่สนใจสักนิด และพูดต่ออีกว่า “คุณบอกว่าคุณชอบความโดดเดี่ยว ที่จริงแล้วคุณกลัวฉันดูคุณออก คุณกลัวเรือที่เป็นของพวกเรา ล่องลอยไปกลับเข้าท่าไม่ได้ ดังนั้นคุณจึงจงใจที่จะปกป้องฉัน”

“ครูฟางคะ การรักคนหนึ่งไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว ความรักที่คุณมีให้ฉัน ฉันเห็นอยู่ในสายตา ฉันกล้าหาญขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณถึงยังกลัวอยู่ละคะ?”

“ฉันแค่อยากจะบอกกับคุณว่า การที่ได้รักคุณฉันไม่เคยเสียใจเลย ฉันกลัวเพียงแค่ว่าคนที่ฉันรักจะกลายเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย และไม่ได้พบเจอกันอีก”

ซ่งหยิงที่ร้องไห้เสียใจแสดงออกถึงความรักของตัวเองไม่หยุด

ซ่งหัวหลินกำลังอยากจะเอ่ยปากพูด กลับถูกสายตาของซ่งอู่ฮุยถลึงใส่จนหุบปาก “แกแม่งหุบปากไปเลยนะ ถ้าเวลานี้แกทำลายเรื่องดีๆของซ่งหยิง กูก็จะตัดสัมพันธ์พ่อลูกกับแกจริงๆด้วย”

ซ่งหัวหลิน “……”

เห็นได้ชัดว่าซ่งอู่ฮุยรู้จักลูกชายของตัวเองดี

“พ่อครับ พ่อเป็นอะไรไป ชอบไม่ให้โอกาสในการพูดกับผม พ่อป้องกันใครกันเนี่ย ผมเป็นลูกชายของพ่อนะ” ซ่งหัวหลินสีหน้ารังเกียจ แล้วพูดต่ออีกว่า “ผมไม่ได้มีความคิดอย่างนั้น ผมอยากจะพูดว่า ซ่งหยิงโตขึ้นแล้วจริงๆ ถ้าหากว่าเธอสามารถมีความสัมพันธ์ระดับนั้นกับจอมพลได้ สำนักฉิวหลงของพวกเราก็คงจะได้รุ่งโรจน์ขึ้น”

ครั้งนี้ ซ่งอู่ฮุยเข้าใจลูกชายตัวเองผิดไป หลังจากที่ใบหน้าแก่ของเขากระตุกไปทีแล้วก็พูดออกมานิ่งๆว่า “ในที่สุดแกก็ถือว่าคิดได้สักที กูจะได้สบายใจได้แล้ว”

ซ่งหัวหลิน “…..”

ตามมาจากที่ซ่งหยิงสารภาพรักอย่างลึกซึ้ง เธอก็เดินมาถึงตรงหน้าของฟางเหยียนแล้ว จ้องมองฟางเหยียนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา “ครูฟางคะ ฉันรู้ว่าฐานะพวกเราแตกต่างกัน ไม่สามารถคู่ควรกับคุณได้ แต่ฉันไม่อยากเสียใจภายหลัง และกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำว่ารักออกไป ฉันเองก็ไม่ได้บังคับครูฟาง สำหรับฉันแล้ว รักแล้วรักทั้งหมดของคนนั้น รักแบบไม่ต้องการการตอบแทน”

ฟางเหยียนเองก็ไม่ทนแล้ว ความเสน่หาที่ซ่งหยิงมีต่อเขานั้นเป็นแบบหลินถงเลย

“ซ่งหยิง ตอนนี้แค้นของเธอได้ชำระแล้ว สำนักฉิวหลงสงบสุข พ่อของเธอที่อยู่บนฟ้าก็จะสามารถมองเห็นได้ เรื่องความรักไม่ใช่สิ่งที่เธอควรคิดในตอนนี้ ความปรารถนาสุดท้ายที่พ่อของเธอไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ ถ้าหากว่าเธอสามารถทำได้ อย่างนั้นเขาที่อยู่ในปรโลกเองก็คงจะมีความสุข”

“ในเมื่อเธอเรียกฉันว่าครูฟาง งั้นครูก็อยากจะบอกกับเธอว่า พ่อของเธอจะต้องอยากให้เธอนำพาสำนักฉิวหลงไปสู่ความรุ่งโรจน์ครั้งใหม่แน่นอน ฉันไม่อยากให้เรื่องความรักมาขัดขวางการพัฒนาของเธอ ดังนั้นเธอน่าจะเข้าใจใช่มั้ย?”

น้ำตาของซ่งหยิงเหมือนกับเม็ดฝนที่ไม่มีวันหยุด รินไหลลงเรื่อยๆ ทำเอาผู้คนสงสาร

ซ่งหยิงสะอื้นพูดว่า “ครูฟางคะ ที่คุณพูดฉันเข้าใจทั้งหมดค่ะ แต่ว่าความรักที่ฉันมีให้คุณมันห้ามไม่ได้ เหมือนกับน้ำที่ท่วมล้น ฉันกลัวจริงๆว่าถ้าหากคุณไปจากสำนักฉิวหลงแล้ว พวกเราก็จะไม่ได้เจอหน้ากันอีก ฉันไม่อยากให้ความรักของฉันกลายเป็นความเสียดายในภายหลัง”

“ไม่มีทุกอย่างในชีวิตที่จะสมหวัง ผู้ชายที่ดีในโลกมีมากมาย ทำไมจะต้องดื้อรั้นอยู่กับสิ่งนี้”

“รักแล้วไม่สามารถพูดออกไปได้ เก็บซ่อนไว้ในใจแล้วจะมีใครเข้าใจ?”

ฟางเหยียนคิดๆแล้วพูดว่า “ซ่งหยิง ฉันไม่ใช่ที่พักที่ดีที่สุดของเธอ ส่วนเธอก็ไม่ควรดื้อรั้นอยู่กับสิ่งนี้ ปล่อยวางความดื้อดึงในใจ นำพาสำนักฉิวหลงให้ดี ให้มันกลายเป็นความภาคภูมิใจของพ่อเธอ นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่เธอควรทำ”

ความรักไม่ต้องการการตอบแทน ความรักมักจะรักแต่ไม่ได้มา ความรักสามารถทำให้คนกังวลและสามารถทำให้คนเจ็บปวดไปทั้งชีวิต ซ่งหยิงไม่กลัวถูกปฏิเสธ และยิ่งไม่กลัวที่ฟางเหยียนปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า

“คุยกันถึงนี่ก็พอ เธอดูแลตัวเองให้ดีเถอะ”

ซ่งหยิงร้องไห้เสียใจ เธอรู้ดีว่าการจากไปของฟางเหยียนในครั้งนี้ ความรักระหว่างพวกเขาก็จะยิ่งอยู่ยิ่งห่างไกล

“พอแล้ว ซ่งหยิง สิ่งที่พยายามดื้อดึงเอามามันไม่ดีหรอก เหตุผลมากมาย พรหมลิขิตของพวกเธอยังมาไม่ถึง จอมพลพูดถูก สิ่งที่เธอควรทำในตอนนี้คือนำพาสำนักฉิวหลงให้เป็นความภาคภูมิใจของพ่อเธอ ให้มันเป็นความภาคภูมิใจของพ่อเธอ”

ซ่งหยิงมองไปยังซ่งอู่ฮุยสะอื้นพูดว่า “อารองคะ ความรักมันโหดร้ายจริงๆ”

ซ่งอู่ฮุยยิ้มแต่ไม่พูดอะไร

มีสิ่งมากมายบนโลก แต่มีเพียงความรักที่ทำร้ายผู้คนมากที่สุด!

——

หลังจากที่เรื่องสำนักฉิวหลงจบลง ก็ผ่านไปอีกหลายวัน ภายในหลายวันนี้ นอกจากความเคลื่อนไหวการโฆษณาของสำนักฉิวหลงแล้ว พวกเขาก็ได้รับความไว้วางใจจากสำนักฉิวหลงอย่างสำเร็จ เห็นผลได้อย่างชัดเจน

วันนี้ แขกไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งปรากฏตัว คนๆนี้ก็คือชิงตี้ที่หนีออกจากรีสอร์ตหยูฉวน!

เทียนขุยโทษตัวเองจากเรื่องที่ครั้งก่อนชิงตี้หนีไป ดังนั้นการเจอกันในครั้งนี้ เขาจึงไม่ได้พูดอะไรแล้ว และลงมือทันที

การต่อสู้ของทั้งสองทำให้ฟางเหยียนที่อยู่บนสะพานตกใจ เมื่อเห็นฟางเหยียน เธอก็ยิ่งเคลื่อนตัวมายังตรงหน้าของเขา เทียนขุยกำลังจะพุ่งเข้ามา แต่กลับถูกฟางเหยียนห้ามไว้

“จอมพลโผ้จวินครับ ผู้หญิงคนนี้คงจะมีแต่คิดไม่ดีกับคุณนะครับ!”

ฟางเหยียนพูดนิ่งเฉยว่า “ไม่เป็นไร เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+