จอมนักรบทรงเกียรติยศ 756 ผู้ชายคนนั้น มาแล้ว

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 756 ผู้ชายคนนั้น มาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญิงสาวที่แสนสวย แล้วยังมีสองคนด้วย!

พวกนักเลงต่างก็ใช้ชีวิตไปวันๆกันทั้งนั้น การหาเรื่องสนุกทำคือเป้าหมายของพวกมัน เมื่อหาเงินมาได้เรื่องแรกที่ทำก็คือสถานที่ไปจัดการความต้องการส่วนตัว และครั้งนี้ที่ได้เงินมา ก็เพื่อเอาไปกำจัดความใคร่!

เขารู้สึกว่าสิ่งที่ขโมยมาในมือนั้น ไม่หอมแล้ว!

หญิงสาวที่แสนสวยสองคน ทำเอาเขาอึ้งไปเลย!

กว่าจะใช้โอกาสที่วุ่นวายนี้ขโมยมาได้มากมาย ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะยังได้สิ่งที่คาดไม่ถึงมาอีก รูปร่างทรวดทรงน่าหลงใหลทั้งคู่ เขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง เขามองดูฉินเข่อที่ล้มอยู่ที่พื้น ความโลภบนใบหน้าก็ยิ่งมากขึ้น

ร้านทองก็ปล้นมาแล้ว จบตัวหญิงสาวที่แสนสวยอีกสองคนจะเป็นไรไป!

จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำในวันนี้ เป็นการกระทำที่ฉลาดมาก!

“น้องสาว เจ็บเลยละสิ” ไอ้นักเลงแสร้งทำเป็นรู้สึกผิด เอ่ยปากโชว์ฟันดำที่สูบบุหรี่ และยังมีกลิ่นปากเหม็น ถามออกมา แม้ปากจะถามแบบนี้ แต่มือของเขากลับลูบไล้อยู่บนตัวของฉินเข่อ

“กรี๊ด….” ฉินเข่อตะโกนกรีดร้อง เทียบกับสมองที่เบลออยู่ เธอยิ่งรู้สึกได้ถึงความน่าขยะแขยงของมือไอ้นักเลงที่ลูบไล้อยู่บนตัวเธอมากกว่า!

“น้องสาว ร้องเก่งขนาดนี้เชียว ใช่ ร้องแบบนี้แหละ เสียงดังหน่อย ฮ่าๆๆ…..” ฉินเข่อต่อสู้ขัดขืน ทำให้ไอ้นักเลงยิ่งได้ใจมากขึ้น การกระทำก็หนักยิ่งขึ้น เหมือนกับเห็นว่าการขัดขืนนี้ เป็นความสนุก เป็นความเพิ่มอารมณ์อย่างหนึ่ง ทำเอาความต้องการพุ่งกระจาย!

ในถนนที่อ้างว้างนี้ ถึงแม้ว่าจะมีคนเห็นแล้วยังไง? แม้แต่ตายยังไม่กลัว เขาจะยังกลัวอะไรอีก?

น่าตื่นเต้นจริงๆ!

ตามมาจากการที่ไอ้นักเลงยิ่งลูบยิ่งตื่นตัว แล้วปีนป่ายขึ้นไปบนตัวของฉินเข่อ แล้วก็จูบหอมตัวเธอไปทั่ว!

หลินยียีได้สติจากความตกใจแล้ว จึงจับกระเป๋าในมือฟาดใส่หัวของไอ้นักเลงรัวๆ “สารเลว รีบปล่อยเข่อเข่อนะ…..”

มีคนเคยบอกว่า กระเป๋าของผู้หญิงก็คืออีกโลกหนึ่ง เป็นตัวแทนของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความชื่นชอบชีวิตของผู้หญิง

ไอ้นักเลงถูกทุบจนเวียนหัวไปหมด เขาอดทนไม่ส่งเสียงร้องสักคำ กลับกันที่รอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้ายิ่งมากขึ้น ทนความเจ็บปวดของหัวที่ถูกกระเป๋าฟาดจนเลือดออก ยื่นมือไปจับตัวหลินยียีเอาไว้ เขาออกแรงดึง หลินยียีเสียการควบคุมตัว ทำเอาร่างกายโซเซล้มไปในอ้อมกอดของไอ้นักเลง

ไอ้นักเลงยิ้มอย่างได้ใจ “น้องสาว ใจร้อนขนาดนี้เชียว ในเมื่อเธอใจร้อนขนาดนี้ งั้นฉันก็สนองให้เธอแล้วกัน มาเลย ให้กูได้เอาใจมึงดีๆสักที ฮ่าๆๆ….”

หญิงสาวทั้งสองคนเริ่มขัดขืนอย่างหนัก แต่หญิงสาวอ่อนแอสองคนจะสู้ไอ้นักเลงได้ยังไงกัน เห็นเพียงสองมือของเขาจับกดหญิงสาวทั้งสองไว้คนละข้าง หอมข้างซ้ายเสร็จก็ข้างขวาต่อ การกระทำเลวร้ายมาก

เมื่อผู้คนข้างทางที่สีหน้าร้อนรนเห็นภาพนี้ อดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้ามองดู ยิ่งมีบางคนชี้นิ้วนินทา แต่กลับไม่มีคนกล้าเข้าไปช่วยหญิงสาวสองคนนี้เลย

สุดท้ายก็มีคุณลุงคนหนึ่งทนไม่ไหวพูดออกมาว่า “ไอ้หนุ่ม นายรู้มั้ยว่าแบบนี้นายกำลังทำผิดกฎหมาย รีบปล่อยพวกเธอซะ”

ไอ้นักเลงหันหน้าไปตะโกนใส่ว่า “ไอ้แก่ ถ้าไม่ตายก็หุบปากไปซะ!”

คุณลุงยิ้มแห้ง สีหน้าอึดอัด สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อว่า “ไอ้หนุ่ม ทำเรื่องเลวร้ายโจ่งแจ้งในที่สาธารณะ แบบนี้คือการทำผิด นายอย่าทำเรื่องไม่ดีเลย”

คุณป้าเองก็เอ่ยปากพูดกล่อม เพียงแต่ว่าเพราะความน่ากลัวของคนร้าย น้ำเสียงจึงดูเบามาก “ใช่แล้ว ไอ้หนุ่ม นายอย่าได้ถือโอกาสวุ่นวายทำผิดเลย นึกถึงพ่อแม่ในบ้านของนาย นึกถึงพี่น้องของนาย นายอย่าทำเรื่องโง่ๆเลย”

”…..”

ผู้คนต่างก็ช่วยกันพูดกล่อม ทำเอาไอ้นักเลงโมโห ตะโกนใส่ผู้คน “ไปให้พ้นซะทั้งหมดเลย กูไม่มีพ่อแม่ กูทำงานอยู่กับโจวเจิ้ง อยากตายก็พูดต่อไป!”

เมื่อได้ยินชื่อโจวเจิ้ง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก

โจวเจิ้งของตระกูลโจวเรียกได้ว่าเป็นจอมอันธพาลของดินแดนตะวันตก ใช้ความที่ฐานะบ้านร่ำรวยมีอำนาจมารังแกผู้คน ทำเรื่องเลวร้าย โจวเจิ้งถูกตัดมือข้างหนึ่ง ก็ทำตัวดีขึ้นเยอะ และก็ถ่อมตนขึ้นเยอะ แต่การกระทำเลวร้ายก่อนหน้านั้นของเขาได้ฝังใจผู้คนอย่างลึกซึ้งไปแล้ว

ไม่มีใครพูดจา ไอ้นักเลงก็ทั้งหอมทั้งจับหญิงสาวทั้งสองคนอย่างได้ใจ และการกระทำก็หนักขึ้น ถึงกับดึงเสื้อผ้าบนร่างกายของหญิงสาวทั้งสองคนออก ปรากฏเสื้อในสีขาวสีดำอย่างละตัวออกมา เมื่อเห็นถึงนี่ ไอ้นักเลงรู้สึกเพียงว่าความร้อนรุ่มพุ่งสูงขึ้นมาถึงสมอง ลงมือด้วยการกระทำหยาบคาย

มีคนไม่น้อยแอบถอนหายใจ หลับตาลงอย่างจนใจ แล้วก็หันหลังเดินจากไป

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำอะไรไม่ได้ หญิงสาวสองคนนี้คงจะหนีไม่พ้นแล้วละ!

คุณลุงทนไม่ได้ที่จะเห็นหญิงสาวทั้งสองคนเจอแบบนี้ จึงยกถึงขยะขึ้นฟาดใส่ไอ้นักเลงอย่างแรง ตามมาด้วยคุณป้าเองก็เอาผักที่ซื้อมาฟาดลงไปอย่างแรง

ปึก!

ไอ้นักเลงร้องครวญคราง เหวี่ยงหมัดหนึ่งต่อยคุณลุงล้มลงกับพื้น แล้วก็กระทืบอย่างหนักอีกหลายที คุณลุงจะทนโดนเขาทำแบบนี้ไหวที่ไหน จึงได้กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ไอ้นักเลงเหมือนว่าจะยังไม่พอใจ จึงกระทืบอย่างแรงใส่คุณป้า คุณป้าร้องครวญทีหนึ่งและล้มลงกับพื้น

ถูกรบกวนการทำเรื่องดีๆ ไอ้นักเลงก็โมโหอยู่แล้ว แล้วตอนนี้ยังถูกไอ้แก่สองคนนี้ทำร้ายอีก เขาทนไม่ไหวแล้ว ทั้งต่อยทั้งเตะเข้าใส่

ไม่นาน คุณลุงคุณป้าก็นิ่งไม่ขยับ ถูกเขาตีตายคาที่!

“แม่งเอ้ย ทำลายเรื่องดีๆของกู ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านขนาดนี้ กูฆ่ามึงให้ตาย!” ไอ้นักเลงด่าอย่างโหดร้าย แม้คุณลุงคุณป้าจะตายไปแล้ว ความโมโหของเขาก็ไม่น้อยลงเลยสักนิด

จนกระทั่งเลือดไหลกองไปทั่ว เขาถึงได้หยุดลงอย่างหอบเหนื่อย แล้วเดินตรงไปหาหญิงสาวทั้งสองคน ยิ้มชั่วร้ายออกมา เดินไปด้วยถอดเสื้อไปด้วย….

“มี มีคนตายแล้ว….”

ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมา ผู้คนรีบแยกย้าย ไม่มีใครกล้ายุ่งอีก

ชายสองหญิงหนึ่งปรากฏตัวที่ถนน หญิงสาวมองดูผู้คนทที่วิ่งหนีแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขาเหมือนกับว่าเห็นผีมาเลย?”

ชายผอมพูดว่า “ขวางคนหนึ่งแล้วถามก็ได้รู้แล้วสิ?”

ชายสูงใหญ่ขยับไปข้างหน้า แล้วก็ขวางคนหนึ่งไว้ เมื่อฟังจนจบก็ขมวดคิ้วแน่น แล้วก็บอกข่าวที่สอบถามมาออกไป

“ฆ่าคนกลางถนน ข่มขืนหญิงสาว ไอ้เลวนี่ควรตาย!”

“รีบไปดูกัน!”

ฉินเข่อและหลินยียีจ้องมองไอ้นักเลงที่เดินมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว พวกเธอรู้ดีว่าไม่มีใครมาช่วยพวกเธอแล้ว

ความสิ้นหวัง เกิดขึ้นในใจของหญิงสาวทั้งสองคน

รู้สึกเสียใจ!

นอกจากความรู้สึกผิดแล้ว ฉินเข่อก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ ถ้าหากว่าฟังหลินยียีตั้งแต่แรก จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน ไอ้เพียงเท่านั้น ยังทำให้คนตายอีกสองคนด้วย

พวกเธอสิ้นหวังแล้ว!

ไอ้นักเลงพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “น้องสาว พี่ชายถอดหมดแล้ว ถึงคิวพวกเธอแล้ว ฮ่าๆๆ….”

“อ๊าก….”

ไอ้นักเลงเพิ่งล้มตัวลงใส่ ความเจ็บปวดอย่างมากก็เกิดขึ้น ถึงได้พบว่าหลินยียีกัดแขนขวาของเขาไว้อย่างแรง เลือดที่ฝ่ามือไหลหยดลงมา ไอ้นักเลงฟาดมือตบกลับไป

“อ๊ะ….”

“ยียี เธอ เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย”

“เข่อเข่อรีบหนีเร็ว ฉันยื้อเขาไว้ เธอรีบหนีไป”

“หนี?” ไอ้นักเลงยิ้มชั่วร้าย “อยู่ในมือของกูพวกเธอจะหนีรอด? วันนี้กูจะขึ้นพวกมึงให้ได้ ฮ่าๆๆ….”

มันล้มตัวใส่ทั้งสองอีกครั้ง!

อีกด้านหนึ่ง หยางจิ่งเซียนที่รีบมาเห็นภาพนี้ ก็โมโหอย่างหนักทันที ตะโกนออกไปว่า “เหี้ย กูจะฆ่าไอ้เลวอย่างมึงทิ้งซะ!”

ในตอนที่ไอ้นักเลงกำลังจะถอดเสื้อในสีขาวของฉินเข่อออกจนหมด จู่ๆเขาก็ส่งเสียงร้องอย่างกับหมูถูกเชือด “อ๊า….มือของกู มือ….”

ฉินเข่อยอมรับชะตาแล้ว ดังนั้นในวินาทีนั้นจึงหลับตาลง เธอคิดไว้แล้ว เมื่อเสร็จจากตรงนี้ เธอขอแค่ตายจากไป!

แต่ว่า!

รอไปหลายวินาที เสียงกรีดร้องของไอ้นักเลงทำเอาเธอลืมตาขึ้น มือชั่วร้ายคู่นั้นของมันไม่ได้ล้วงต่อไป แต่กลับกันที่หยุดลงกลางอากาศ ฝ่ามือหายไปแล้ว ข้อมือเลือดไหลไม่หยุด น่าหวาดกลัวมาก ส่วนฝ่ามือที่หายไปทั้งมือนั้นเหมือนกับว่าถูกตัดออกมา!

ฉินเข่อตกใจไม่น้อย เธอรู้ดีว่าเธอได้รับการช่วยเหลือแล้ว จากนั้นเงาคนก็ค่อยๆสะท้อนเข้าในดวงตา เธออดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมา

ผู้ชายคนนั้นมาแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอมนักรบทรงเกียรติยศ 756 ผู้ชายคนนั้น มาแล้ว

Now you are reading จอมนักรบทรงเกียรติยศ Chapter 756 ผู้ชายคนนั้น มาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญิงสาวที่แสนสวย แล้วยังมีสองคนด้วย!

พวกนักเลงต่างก็ใช้ชีวิตไปวันๆกันทั้งนั้น การหาเรื่องสนุกทำคือเป้าหมายของพวกมัน เมื่อหาเงินมาได้เรื่องแรกที่ทำก็คือสถานที่ไปจัดการความต้องการส่วนตัว และครั้งนี้ที่ได้เงินมา ก็เพื่อเอาไปกำจัดความใคร่!

เขารู้สึกว่าสิ่งที่ขโมยมาในมือนั้น ไม่หอมแล้ว!

หญิงสาวที่แสนสวยสองคน ทำเอาเขาอึ้งไปเลย!

กว่าจะใช้โอกาสที่วุ่นวายนี้ขโมยมาได้มากมาย ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะยังได้สิ่งที่คาดไม่ถึงมาอีก รูปร่างทรวดทรงน่าหลงใหลทั้งคู่ เขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง เขามองดูฉินเข่อที่ล้มอยู่ที่พื้น ความโลภบนใบหน้าก็ยิ่งมากขึ้น

ร้านทองก็ปล้นมาแล้ว จบตัวหญิงสาวที่แสนสวยอีกสองคนจะเป็นไรไป!

จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำในวันนี้ เป็นการกระทำที่ฉลาดมาก!

“น้องสาว เจ็บเลยละสิ” ไอ้นักเลงแสร้งทำเป็นรู้สึกผิด เอ่ยปากโชว์ฟันดำที่สูบบุหรี่ และยังมีกลิ่นปากเหม็น ถามออกมา แม้ปากจะถามแบบนี้ แต่มือของเขากลับลูบไล้อยู่บนตัวของฉินเข่อ

“กรี๊ด….” ฉินเข่อตะโกนกรีดร้อง เทียบกับสมองที่เบลออยู่ เธอยิ่งรู้สึกได้ถึงความน่าขยะแขยงของมือไอ้นักเลงที่ลูบไล้อยู่บนตัวเธอมากกว่า!

“น้องสาว ร้องเก่งขนาดนี้เชียว ใช่ ร้องแบบนี้แหละ เสียงดังหน่อย ฮ่าๆๆ…..” ฉินเข่อต่อสู้ขัดขืน ทำให้ไอ้นักเลงยิ่งได้ใจมากขึ้น การกระทำก็หนักยิ่งขึ้น เหมือนกับเห็นว่าการขัดขืนนี้ เป็นความสนุก เป็นความเพิ่มอารมณ์อย่างหนึ่ง ทำเอาความต้องการพุ่งกระจาย!

ในถนนที่อ้างว้างนี้ ถึงแม้ว่าจะมีคนเห็นแล้วยังไง? แม้แต่ตายยังไม่กลัว เขาจะยังกลัวอะไรอีก?

น่าตื่นเต้นจริงๆ!

ตามมาจากการที่ไอ้นักเลงยิ่งลูบยิ่งตื่นตัว แล้วปีนป่ายขึ้นไปบนตัวของฉินเข่อ แล้วก็จูบหอมตัวเธอไปทั่ว!

หลินยียีได้สติจากความตกใจแล้ว จึงจับกระเป๋าในมือฟาดใส่หัวของไอ้นักเลงรัวๆ “สารเลว รีบปล่อยเข่อเข่อนะ…..”

มีคนเคยบอกว่า กระเป๋าของผู้หญิงก็คืออีกโลกหนึ่ง เป็นตัวแทนของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความชื่นชอบชีวิตของผู้หญิง

ไอ้นักเลงถูกทุบจนเวียนหัวไปหมด เขาอดทนไม่ส่งเสียงร้องสักคำ กลับกันที่รอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้ายิ่งมากขึ้น ทนความเจ็บปวดของหัวที่ถูกกระเป๋าฟาดจนเลือดออก ยื่นมือไปจับตัวหลินยียีเอาไว้ เขาออกแรงดึง หลินยียีเสียการควบคุมตัว ทำเอาร่างกายโซเซล้มไปในอ้อมกอดของไอ้นักเลง

ไอ้นักเลงยิ้มอย่างได้ใจ “น้องสาว ใจร้อนขนาดนี้เชียว ในเมื่อเธอใจร้อนขนาดนี้ งั้นฉันก็สนองให้เธอแล้วกัน มาเลย ให้กูได้เอาใจมึงดีๆสักที ฮ่าๆๆ….”

หญิงสาวทั้งสองคนเริ่มขัดขืนอย่างหนัก แต่หญิงสาวอ่อนแอสองคนจะสู้ไอ้นักเลงได้ยังไงกัน เห็นเพียงสองมือของเขาจับกดหญิงสาวทั้งสองไว้คนละข้าง หอมข้างซ้ายเสร็จก็ข้างขวาต่อ การกระทำเลวร้ายมาก

เมื่อผู้คนข้างทางที่สีหน้าร้อนรนเห็นภาพนี้ อดไม่ได้ที่จะหยุดฝีเท้ามองดู ยิ่งมีบางคนชี้นิ้วนินทา แต่กลับไม่มีคนกล้าเข้าไปช่วยหญิงสาวสองคนนี้เลย

สุดท้ายก็มีคุณลุงคนหนึ่งทนไม่ไหวพูดออกมาว่า “ไอ้หนุ่ม นายรู้มั้ยว่าแบบนี้นายกำลังทำผิดกฎหมาย รีบปล่อยพวกเธอซะ”

ไอ้นักเลงหันหน้าไปตะโกนใส่ว่า “ไอ้แก่ ถ้าไม่ตายก็หุบปากไปซะ!”

คุณลุงยิ้มแห้ง สีหน้าอึดอัด สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อว่า “ไอ้หนุ่ม ทำเรื่องเลวร้ายโจ่งแจ้งในที่สาธารณะ แบบนี้คือการทำผิด นายอย่าทำเรื่องไม่ดีเลย”

คุณป้าเองก็เอ่ยปากพูดกล่อม เพียงแต่ว่าเพราะความน่ากลัวของคนร้าย น้ำเสียงจึงดูเบามาก “ใช่แล้ว ไอ้หนุ่ม นายอย่าได้ถือโอกาสวุ่นวายทำผิดเลย นึกถึงพ่อแม่ในบ้านของนาย นึกถึงพี่น้องของนาย นายอย่าทำเรื่องโง่ๆเลย”

”…..”

ผู้คนต่างก็ช่วยกันพูดกล่อม ทำเอาไอ้นักเลงโมโห ตะโกนใส่ผู้คน “ไปให้พ้นซะทั้งหมดเลย กูไม่มีพ่อแม่ กูทำงานอยู่กับโจวเจิ้ง อยากตายก็พูดต่อไป!”

เมื่อได้ยินชื่อโจวเจิ้ง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก

โจวเจิ้งของตระกูลโจวเรียกได้ว่าเป็นจอมอันธพาลของดินแดนตะวันตก ใช้ความที่ฐานะบ้านร่ำรวยมีอำนาจมารังแกผู้คน ทำเรื่องเลวร้าย โจวเจิ้งถูกตัดมือข้างหนึ่ง ก็ทำตัวดีขึ้นเยอะ และก็ถ่อมตนขึ้นเยอะ แต่การกระทำเลวร้ายก่อนหน้านั้นของเขาได้ฝังใจผู้คนอย่างลึกซึ้งไปแล้ว

ไม่มีใครพูดจา ไอ้นักเลงก็ทั้งหอมทั้งจับหญิงสาวทั้งสองคนอย่างได้ใจ และการกระทำก็หนักขึ้น ถึงกับดึงเสื้อผ้าบนร่างกายของหญิงสาวทั้งสองคนออก ปรากฏเสื้อในสีขาวสีดำอย่างละตัวออกมา เมื่อเห็นถึงนี่ ไอ้นักเลงรู้สึกเพียงว่าความร้อนรุ่มพุ่งสูงขึ้นมาถึงสมอง ลงมือด้วยการกระทำหยาบคาย

มีคนไม่น้อยแอบถอนหายใจ หลับตาลงอย่างจนใจ แล้วก็หันหลังเดินจากไป

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทำอะไรไม่ได้ หญิงสาวสองคนนี้คงจะหนีไม่พ้นแล้วละ!

คุณลุงทนไม่ได้ที่จะเห็นหญิงสาวทั้งสองคนเจอแบบนี้ จึงยกถึงขยะขึ้นฟาดใส่ไอ้นักเลงอย่างแรง ตามมาด้วยคุณป้าเองก็เอาผักที่ซื้อมาฟาดลงไปอย่างแรง

ปึก!

ไอ้นักเลงร้องครวญคราง เหวี่ยงหมัดหนึ่งต่อยคุณลุงล้มลงกับพื้น แล้วก็กระทืบอย่างหนักอีกหลายที คุณลุงจะทนโดนเขาทำแบบนี้ไหวที่ไหน จึงได้กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ไอ้นักเลงเหมือนว่าจะยังไม่พอใจ จึงกระทืบอย่างแรงใส่คุณป้า คุณป้าร้องครวญทีหนึ่งและล้มลงกับพื้น

ถูกรบกวนการทำเรื่องดีๆ ไอ้นักเลงก็โมโหอยู่แล้ว แล้วตอนนี้ยังถูกไอ้แก่สองคนนี้ทำร้ายอีก เขาทนไม่ไหวแล้ว ทั้งต่อยทั้งเตะเข้าใส่

ไม่นาน คุณลุงคุณป้าก็นิ่งไม่ขยับ ถูกเขาตีตายคาที่!

“แม่งเอ้ย ทำลายเรื่องดีๆของกู ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านขนาดนี้ กูฆ่ามึงให้ตาย!” ไอ้นักเลงด่าอย่างโหดร้าย แม้คุณลุงคุณป้าจะตายไปแล้ว ความโมโหของเขาก็ไม่น้อยลงเลยสักนิด

จนกระทั่งเลือดไหลกองไปทั่ว เขาถึงได้หยุดลงอย่างหอบเหนื่อย แล้วเดินตรงไปหาหญิงสาวทั้งสองคน ยิ้มชั่วร้ายออกมา เดินไปด้วยถอดเสื้อไปด้วย….

“มี มีคนตายแล้ว….”

ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมา ผู้คนรีบแยกย้าย ไม่มีใครกล้ายุ่งอีก

ชายสองหญิงหนึ่งปรากฏตัวที่ถนน หญิงสาวมองดูผู้คนทที่วิ่งหนีแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเขาเหมือนกับว่าเห็นผีมาเลย?”

ชายผอมพูดว่า “ขวางคนหนึ่งแล้วถามก็ได้รู้แล้วสิ?”

ชายสูงใหญ่ขยับไปข้างหน้า แล้วก็ขวางคนหนึ่งไว้ เมื่อฟังจนจบก็ขมวดคิ้วแน่น แล้วก็บอกข่าวที่สอบถามมาออกไป

“ฆ่าคนกลางถนน ข่มขืนหญิงสาว ไอ้เลวนี่ควรตาย!”

“รีบไปดูกัน!”

ฉินเข่อและหลินยียีจ้องมองไอ้นักเลงที่เดินมาด้วยสีหน้าหวาดกลัว พวกเธอรู้ดีว่าไม่มีใครมาช่วยพวกเธอแล้ว

ความสิ้นหวัง เกิดขึ้นในใจของหญิงสาวทั้งสองคน

รู้สึกเสียใจ!

นอกจากความรู้สึกผิดแล้ว ฉินเข่อก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจ ถ้าหากว่าฟังหลินยียีตั้งแต่แรก จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน ไอ้เพียงเท่านั้น ยังทำให้คนตายอีกสองคนด้วย

พวกเธอสิ้นหวังแล้ว!

ไอ้นักเลงพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “น้องสาว พี่ชายถอดหมดแล้ว ถึงคิวพวกเธอแล้ว ฮ่าๆๆ….”

“อ๊าก….”

ไอ้นักเลงเพิ่งล้มตัวลงใส่ ความเจ็บปวดอย่างมากก็เกิดขึ้น ถึงได้พบว่าหลินยียีกัดแขนขวาของเขาไว้อย่างแรง เลือดที่ฝ่ามือไหลหยดลงมา ไอ้นักเลงฟาดมือตบกลับไป

“อ๊ะ….”

“ยียี เธอ เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย”

“เข่อเข่อรีบหนีเร็ว ฉันยื้อเขาไว้ เธอรีบหนีไป”

“หนี?” ไอ้นักเลงยิ้มชั่วร้าย “อยู่ในมือของกูพวกเธอจะหนีรอด? วันนี้กูจะขึ้นพวกมึงให้ได้ ฮ่าๆๆ….”

มันล้มตัวใส่ทั้งสองอีกครั้ง!

อีกด้านหนึ่ง หยางจิ่งเซียนที่รีบมาเห็นภาพนี้ ก็โมโหอย่างหนักทันที ตะโกนออกไปว่า “เหี้ย กูจะฆ่าไอ้เลวอย่างมึงทิ้งซะ!”

ในตอนที่ไอ้นักเลงกำลังจะถอดเสื้อในสีขาวของฉินเข่อออกจนหมด จู่ๆเขาก็ส่งเสียงร้องอย่างกับหมูถูกเชือด “อ๊า….มือของกู มือ….”

ฉินเข่อยอมรับชะตาแล้ว ดังนั้นในวินาทีนั้นจึงหลับตาลง เธอคิดไว้แล้ว เมื่อเสร็จจากตรงนี้ เธอขอแค่ตายจากไป!

แต่ว่า!

รอไปหลายวินาที เสียงกรีดร้องของไอ้นักเลงทำเอาเธอลืมตาขึ้น มือชั่วร้ายคู่นั้นของมันไม่ได้ล้วงต่อไป แต่กลับกันที่หยุดลงกลางอากาศ ฝ่ามือหายไปแล้ว ข้อมือเลือดไหลไม่หยุด น่าหวาดกลัวมาก ส่วนฝ่ามือที่หายไปทั้งมือนั้นเหมือนกับว่าถูกตัดออกมา!

ฉินเข่อตกใจไม่น้อย เธอรู้ดีว่าเธอได้รับการช่วยเหลือแล้ว จากนั้นเงาคนก็ค่อยๆสะท้อนเข้าในดวงตา เธออดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมา

ผู้ชายคนนั้นมาแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+