สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 10 พลังดวงดาว

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 10 พลังดวงดาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 10 พลังดวงดาว

เมื่อได้ยินเสียงเรียก หลิวซานหู่ก็ตัวชาวาบ เขาอดคิดไม่ได้ว่า ไอ้เด็กนี่คิดจะหาเรื่องเขารึเปล่า? ยิ่งตัวเขาคิดถึงมันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น หลิวซานหู่คิดในใจว่า ‘สู้ก็สู้วะ ลูกผู้ชายสิบปีแก้แค้นก็ไม่สาย ยังไงมันก็คงไม่กล้าฆ่าฉันแน่ ๆ’

“ก่อนออกไปเก็บเงิน สามหมื่นหยวน ของนายไปด้วย ต่อให้ฉัน ฉู่เหินจะเป็นคนยากจน แต่ก็ใช่ว่าฉันก็จะเอาเปรียบใคร” เมื่อหลิวซานหู่ได้ยินก็ตกตะลึงทันที เขารู้สึกประทับใจกับคำพูดนี้ของฉู่เหินมาก แต่ตัวเขาเลือกที่จะไม่พูดอะไร หลังจากที่เก็บเงิน สามหมื่นหยวน เขาก็หันหลังกลับออกไปทันที

หลังจากฉู่เหินกล่าวขอบคุณชาวบ้านและส่งทุกคนแล้ว เขาก็กลับเข้าบ้านและโทรหาพี่ชายพี่สะใภ้เพื่อบอกว่าเขาหาเงินได้แล้ว พวกเขาไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น วันมะรืนนี้เขาจะเอาเงินเข้าไปให้

หลังจากวางโทรศัพท์แล้ว ฉู่เหินก็นอนต่อไม่หลับ วินาทีนี้ใจของเขาคิดถึงแต่เรื่องการประมูลในวันพรุ่งนี้และระบบเชื่อมโลกา เมื่อคิดถึงการหว่านแหในวันนี้ ฉู่เหินนึกขึ้นถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สงสัยจังว่าของสองสิ่งนั้นทำอะไรได้ ทำไมระบบถึงเพิ่มแต้มให้เยอะขนาดนั้น ฟูกนอนที่ได้มา หลังจากผึ่งมันจนแห้ง เขาก็เอามันมาปูนอน ส่วนรูปปั้นหินก็เอามาวางตั้งไว้ด้านหน้า

ฉู่เหินนั่งบนฟูกนอนและจ้องมองรูปปั้นหินอย่างจริงจัง ยิ่งมองฉู่เหินก็ยิ่งรู้สึกราวกับว่าเทวรูปหินต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับเขา อย่างไรก็ตามการดูมันเป็นเวลานานก็เริ่มทำให้เขารู้สึกเจ็บตา แต่ถึงกระนั้นฉู่เหินก็ยังคงนั่งมองรูปปั้นหินข้างหน้าเขาโดยไม่ขยับเขยื้อน ที่ตัวเขาทำแบบนี้ก็เพราะว่ารูปปั้นหินนี้ถูกเรียกว่า ‘รูปปั้นหินจ้องมอง’ ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าการจะหาความลับของรูปปั้นหินนี้ได้นั้น ก็คงต้องใช้การมองเท่านั้น

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉู่เหินยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่ารูปปั้นหินนี้น่าประทับใจมาก ความรู้สึกดังกล่าวดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ฉู่เหินไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ทันใดนั้นก็มีข้อมูลชุดหนึ่งขึ้นมาในใจเขา

“วิชาพลังแห่งดวงดาว วิชาที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างรากฐานและการฝึกตน ด้วยการดูดซับพลังของสวรรค์และโลกผ่านแสงของดวงดาวเข้าสู่ร่างกายของคุณ!”

“วิชาพลังแสงดาราชุดนี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายขั้น ได้แก่ ขั้นแรกเริ่ม ขั้นก่อกำเนิด ขั้นบรรลุ ขั้นแก่นแท้ ขั้นตัดวิญญาณ และขั้นนิพพาน ทั้งสิ้นหกขั้น”

จากข้อมูลที่ได้รับมา ถ้าฝึกวิชาพลังแห่งดวงดาวจนสำเร็จถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว เขาจะสามารถใช้เพียงแค่หมัดเดียวทลายภูเขาได้! พลังของมันยอดเยี่ยมมากเสียจนฉู่เหินไม่สามารถจินตนาการได้

“ผู้ถือครองฉู่เหินได้รับรางวัลเป็นวิชาพลังแห่งดวงดาว ซึ่งเป็นทักษะระดับสูง หลังจากฝึกฝนคุณสามารถเพิ่มแต้มคุณลักษณะทางกายภาพได้ ผู้ถือครองฉู่เหินจะฝึกฝนด้วยตนเองหรือแลกเปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์?” เสียงของระบบที่ปรากฏขึ้นทำให้ฉู่เหินรู้สึกตกใจ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินเสียงของระบบ แม้กระทั่งตอนที่ไม่ได้ใช้แหแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินคำพูดของระบบเขาก็ยิ้มเยาะออกมา ทุกคนล้วนรู้ดีว่าในโลกนี้ อะไรก็สู้การเป็นคนแข็งแกร่งไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณมีความสามารถเพียงพอ ต่อให้ในอนาคตต้องเจอเรื่องที่หนักหน่วงแค่ไหน คุณก็จะมีพลังป้องกันตัวเอง

“ฝึกเอง” ฉู่เหินตอบโดยไม่ลังเล หลังจากรออยู่นานระบบก็ไม่ได้ส่งเสียงตอบกลับมา สิ่งนี้ทำให้ฉู่เหินรู้สึกแปลกใจ ‘ระบบนี้ไม่ได้อยู่กับฉันตลอดเวลาเหรอ?’ จากนั้นเขาก็ส่ายหัว เขาไม่อาจเข้าใจได้จริง ๆ หลังจากกำจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัว ฉู่เหินก็นั่งขัดสมาธิลงบนฟูก เมื่อเขาเริ่มสงบลง เขาก็รู้สึกถึงพลังของดวงดาวที่ถูกกล่าวถึงของวิชาพลังแสงดารา

การเข้าสู่สมาธิครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู่สมาธิแล้ว ความคิดฟุ้งซ่านวุ่นวาย ฉู่เหินก็เช่นเดียวกัน เมื่อเขาเพิ่งหลับตา เขาก็นึกถึงชีวิตในโรงเรียนมัธยม คิดถึงหลังจากกลายเป็นเด็กกำพร้า หลังจากนั้นก็นึกถึงใบหน้ากังวลของพี่ชายในโรงพยาบาล

หลังจากผ่านไปนาน เขาก็เริ่มเข้าสู่สมาธิอย่างแท้จริง แต่มันก็ยังยากมากที่จะละทิ้งความคิดฟุ้งซ่านที่มีอยู่ในหัวได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากใช้เวลาระยะหนึ่ง เขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงพลังงานที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเขา อันที่จริงพลังแห่งดวงดาวเองก็เป็นพลังชนิดหนึ่ง ตราบเท่าที่คุณสัมผัสมันได้ คุณก็จะพบว่าพลังที่ว่าทรงพลังมากเพียงใด

ฉู่เหินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ ถูกล้อมรอบไปด้วยเมฆหมอกจนทำให้ไม่สามารถรับรู้ทิศทางได้ ตอนนี้เหมือนมีพลังบางอย่างล้อมรอบตัวเขาไว้อยู่ ฉู่เหินทำการตรวจสอบพลังงานรอบตัวอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวังเนื่องจากไม่มีอันไหนเลยที่เป็นพลังดวงดาว

ขณะที่เขากำลังผิดหวัง ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่า อากาศด้านบนศีรษะของเขาอัดแน่นไปด้วยพลังงานบางอย่าง! และพลังเหล่านี้เองก็ดูเหมือนจะเป็นพลังดวงดาวที่เขากำลังมองหาอยู่ หลังจากที่ได้เห็นฉากนี้ฉู่เหินก็ดีใจมาก จากนั้นเขาก็เตรียมที่จะดูดซับพลังเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว

แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นก็ทำให้เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย พลังดวงดาวเหล่านั้นไม่ได้ต่อต้านเขาก็จริง แต่เมื่อฉู่เหินต้องการดูดซับพวกมันเข้าสู่ร่างกาย พลังดวงดาวเหล่านั้นกลับกระจัดกระจายออกไปราวกับว่ามันไม่สามารถจะอยู่ร่วมกันได้

เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้กับฉู่เหิน เขามองไปที่จุดแสงไม่มีที่สิ้นสุดที่ลอยอยู่ในอากาศ ฉู่เหินรู้ว่าจุดแสงเหล่านี้ จะกำหนดชะตากรรมตลอดชีวิตที่เหลือของเขา และในบรรดาดาวเคราะห์จำนวนมากเหล่านี้ พลังของดาวดวงไหนที่แข็งแกร่งที่สุดล่ะ?

ขณะที่ฉู่เหินกำลังคิดใคร่ครวญ จู่ ๆ ก็มีจุดแสงหนึ่งตกลงมาจากอวกาศ จุดแสงที่ว่าพุ่งเข้าใส่ร่างของฉู่เหินโดยตรง หลังจากที่ได้เห็นฉากนี้ฉู่เหินก็ได้แต่ตกตะลึง ‘ล้อเล่นน่า ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะดูดซับดาวดวงไหน ทำไมมันถึงมาเองได้ล่ะ?’

แม้ว่าฉู่เหินจะไม่เข้าใจเรื่องนี้นัก แต่เนื่องจากดาวนี้เลือกเขาไปแล้วจึงไม่มีวิธีอื่นนอกจากการฝึกตนทีละขั้นตอน ในขณะที่เขาทำตามแนวทางการฝึกตนที่ได้รับ พลังดวงดาวที่เข้าไปในร่างกายของเขาเริ่มที่จะควบแน่นช้า ๆ ในจุดตันเทียน ฉู่เหินรู้ว่าในเวลานี้เขาต้องไปที่ลานนอกบ้าน การฝึกครั้งต่อไปคือการฝึกหมัดมวย เขาจำเป็นที่จะต้องโคจรพลังแห่งดวงดาวที่ดูดซับมา ทำให้พวกมันให้ซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อและกระดูกของเขาอย่างช้า ๆ ด้วยวิธีการนี้เท่านั้นที่จะทำให้การกลั่นที่แท้จริงบรรลุผล!

การออกหมัดและลูกเตะของฉู่เหินค่อนข้างแปลก แม้จะดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะช้ามาก แต่การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งกลับสามารถดึงพลังแห่งดวงดาวให้ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาได้อย่างรวดเร็ว ฉู่เหินรู้สึกว่าหากพลังดวงดาวเหล่านี้ยังคงขัดเกลาร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง มันกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลขึ้นในร่างกายของเขา!

เวลายามค่ำคืนค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว ดวงอาทิตย์สีแดงเพลิงลุกโชนขึ้นมาจากทะเล ในตอนนี้ฉู่เหินกำลังทำการเคลื่อนไหวภายใต้แสงสว่างของพระอาทิตย์ เขาไม่รู้ว่าเลยว่าตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงดูดซับแสงของยามเช้าเข้าสู่ร่างกายของเขาโดยไม่รู้ตัว

หลังจากแสงตะวันยามเช้าถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกาย จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าร่างกายกำลังลุกเป็นไฟ ความรู้สึกแสบร้อนทำให้เขาตื่นขึ้นมาในทันที แต่แม้ว่าเขาจะตื่นอยู่ เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในร่างกายของเขาได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 10 พลังดวงดาว

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 10 พลังดวงดาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 10 พลังดวงดาว

เมื่อได้ยินเสียงเรียก หลิวซานหู่ก็ตัวชาวาบ เขาอดคิดไม่ได้ว่า ไอ้เด็กนี่คิดจะหาเรื่องเขารึเปล่า? ยิ่งตัวเขาคิดถึงมันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น หลิวซานหู่คิดในใจว่า ‘สู้ก็สู้วะ ลูกผู้ชายสิบปีแก้แค้นก็ไม่สาย ยังไงมันก็คงไม่กล้าฆ่าฉันแน่ ๆ’

“ก่อนออกไปเก็บเงิน สามหมื่นหยวน ของนายไปด้วย ต่อให้ฉัน ฉู่เหินจะเป็นคนยากจน แต่ก็ใช่ว่าฉันก็จะเอาเปรียบใคร” เมื่อหลิวซานหู่ได้ยินก็ตกตะลึงทันที เขารู้สึกประทับใจกับคำพูดนี้ของฉู่เหินมาก แต่ตัวเขาเลือกที่จะไม่พูดอะไร หลังจากที่เก็บเงิน สามหมื่นหยวน เขาก็หันหลังกลับออกไปทันที

หลังจากฉู่เหินกล่าวขอบคุณชาวบ้านและส่งทุกคนแล้ว เขาก็กลับเข้าบ้านและโทรหาพี่ชายพี่สะใภ้เพื่อบอกว่าเขาหาเงินได้แล้ว พวกเขาไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น วันมะรืนนี้เขาจะเอาเงินเข้าไปให้

หลังจากวางโทรศัพท์แล้ว ฉู่เหินก็นอนต่อไม่หลับ วินาทีนี้ใจของเขาคิดถึงแต่เรื่องการประมูลในวันพรุ่งนี้และระบบเชื่อมโลกา เมื่อคิดถึงการหว่านแหในวันนี้ ฉู่เหินนึกขึ้นถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สงสัยจังว่าของสองสิ่งนั้นทำอะไรได้ ทำไมระบบถึงเพิ่มแต้มให้เยอะขนาดนั้น ฟูกนอนที่ได้มา หลังจากผึ่งมันจนแห้ง เขาก็เอามันมาปูนอน ส่วนรูปปั้นหินก็เอามาวางตั้งไว้ด้านหน้า

ฉู่เหินนั่งบนฟูกนอนและจ้องมองรูปปั้นหินอย่างจริงจัง ยิ่งมองฉู่เหินก็ยิ่งรู้สึกราวกับว่าเทวรูปหินต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับเขา อย่างไรก็ตามการดูมันเป็นเวลานานก็เริ่มทำให้เขารู้สึกเจ็บตา แต่ถึงกระนั้นฉู่เหินก็ยังคงนั่งมองรูปปั้นหินข้างหน้าเขาโดยไม่ขยับเขยื้อน ที่ตัวเขาทำแบบนี้ก็เพราะว่ารูปปั้นหินนี้ถูกเรียกว่า ‘รูปปั้นหินจ้องมอง’ ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าการจะหาความลับของรูปปั้นหินนี้ได้นั้น ก็คงต้องใช้การมองเท่านั้น

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉู่เหินยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่ารูปปั้นหินนี้น่าประทับใจมาก ความรู้สึกดังกล่าวดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ฉู่เหินไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ทันใดนั้นก็มีข้อมูลชุดหนึ่งขึ้นมาในใจเขา

“วิชาพลังแห่งดวงดาว วิชาที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างรากฐานและการฝึกตน ด้วยการดูดซับพลังของสวรรค์และโลกผ่านแสงของดวงดาวเข้าสู่ร่างกายของคุณ!”

“วิชาพลังแสงดาราชุดนี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายขั้น ได้แก่ ขั้นแรกเริ่ม ขั้นก่อกำเนิด ขั้นบรรลุ ขั้นแก่นแท้ ขั้นตัดวิญญาณ และขั้นนิพพาน ทั้งสิ้นหกขั้น”

จากข้อมูลที่ได้รับมา ถ้าฝึกวิชาพลังแห่งดวงดาวจนสำเร็จถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว เขาจะสามารถใช้เพียงแค่หมัดเดียวทลายภูเขาได้! พลังของมันยอดเยี่ยมมากเสียจนฉู่เหินไม่สามารถจินตนาการได้

“ผู้ถือครองฉู่เหินได้รับรางวัลเป็นวิชาพลังแห่งดวงดาว ซึ่งเป็นทักษะระดับสูง หลังจากฝึกฝนคุณสามารถเพิ่มแต้มคุณลักษณะทางกายภาพได้ ผู้ถือครองฉู่เหินจะฝึกฝนด้วยตนเองหรือแลกเปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์?” เสียงของระบบที่ปรากฏขึ้นทำให้ฉู่เหินรู้สึกตกใจ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินเสียงของระบบ แม้กระทั่งตอนที่ไม่ได้ใช้แหแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินคำพูดของระบบเขาก็ยิ้มเยาะออกมา ทุกคนล้วนรู้ดีว่าในโลกนี้ อะไรก็สู้การเป็นคนแข็งแกร่งไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าคุณมีความสามารถเพียงพอ ต่อให้ในอนาคตต้องเจอเรื่องที่หนักหน่วงแค่ไหน คุณก็จะมีพลังป้องกันตัวเอง

“ฝึกเอง” ฉู่เหินตอบโดยไม่ลังเล หลังจากรออยู่นานระบบก็ไม่ได้ส่งเสียงตอบกลับมา สิ่งนี้ทำให้ฉู่เหินรู้สึกแปลกใจ ‘ระบบนี้ไม่ได้อยู่กับฉันตลอดเวลาเหรอ?’ จากนั้นเขาก็ส่ายหัว เขาไม่อาจเข้าใจได้จริง ๆ หลังจากกำจัดความคิดฟุ้งซ่านในหัว ฉู่เหินก็นั่งขัดสมาธิลงบนฟูก เมื่อเขาเริ่มสงบลง เขาก็รู้สึกถึงพลังของดวงดาวที่ถูกกล่าวถึงของวิชาพลังแสงดารา

การเข้าสู่สมาธิครั้งแรกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู่สมาธิแล้ว ความคิดฟุ้งซ่านวุ่นวาย ฉู่เหินก็เช่นเดียวกัน เมื่อเขาเพิ่งหลับตา เขาก็นึกถึงชีวิตในโรงเรียนมัธยม คิดถึงหลังจากกลายเป็นเด็กกำพร้า หลังจากนั้นก็นึกถึงใบหน้ากังวลของพี่ชายในโรงพยาบาล

หลังจากผ่านไปนาน เขาก็เริ่มเข้าสู่สมาธิอย่างแท้จริง แต่มันก็ยังยากมากที่จะละทิ้งความคิดฟุ้งซ่านที่มีอยู่ในหัวได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากใช้เวลาระยะหนึ่ง เขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงพลังงานที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเขา อันที่จริงพลังแห่งดวงดาวเองก็เป็นพลังชนิดหนึ่ง ตราบเท่าที่คุณสัมผัสมันได้ คุณก็จะพบว่าพลังที่ว่าทรงพลังมากเพียงใด

ฉู่เหินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยอยู่ในอากาศ ถูกล้อมรอบไปด้วยเมฆหมอกจนทำให้ไม่สามารถรับรู้ทิศทางได้ ตอนนี้เหมือนมีพลังบางอย่างล้อมรอบตัวเขาไว้อยู่ ฉู่เหินทำการตรวจสอบพลังงานรอบตัวอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวังเนื่องจากไม่มีอันไหนเลยที่เป็นพลังดวงดาว

ขณะที่เขากำลังผิดหวัง ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่า อากาศด้านบนศีรษะของเขาอัดแน่นไปด้วยพลังงานบางอย่าง! และพลังเหล่านี้เองก็ดูเหมือนจะเป็นพลังดวงดาวที่เขากำลังมองหาอยู่ หลังจากที่ได้เห็นฉากนี้ฉู่เหินก็ดีใจมาก จากนั้นเขาก็เตรียมที่จะดูดซับพลังเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว

แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นก็ทำให้เขารู้สึกสับสนเล็กน้อย พลังดวงดาวเหล่านั้นไม่ได้ต่อต้านเขาก็จริง แต่เมื่อฉู่เหินต้องการดูดซับพวกมันเข้าสู่ร่างกาย พลังดวงดาวเหล่านั้นกลับกระจัดกระจายออกไปราวกับว่ามันไม่สามารถจะอยู่ร่วมกันได้

เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้กับฉู่เหิน เขามองไปที่จุดแสงไม่มีที่สิ้นสุดที่ลอยอยู่ในอากาศ ฉู่เหินรู้ว่าจุดแสงเหล่านี้ จะกำหนดชะตากรรมตลอดชีวิตที่เหลือของเขา และในบรรดาดาวเคราะห์จำนวนมากเหล่านี้ พลังของดาวดวงไหนที่แข็งแกร่งที่สุดล่ะ?

ขณะที่ฉู่เหินกำลังคิดใคร่ครวญ จู่ ๆ ก็มีจุดแสงหนึ่งตกลงมาจากอวกาศ จุดแสงที่ว่าพุ่งเข้าใส่ร่างของฉู่เหินโดยตรง หลังจากที่ได้เห็นฉากนี้ฉู่เหินก็ได้แต่ตกตะลึง ‘ล้อเล่นน่า ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะดูดซับดาวดวงไหน ทำไมมันถึงมาเองได้ล่ะ?’

แม้ว่าฉู่เหินจะไม่เข้าใจเรื่องนี้นัก แต่เนื่องจากดาวนี้เลือกเขาไปแล้วจึงไม่มีวิธีอื่นนอกจากการฝึกตนทีละขั้นตอน ในขณะที่เขาทำตามแนวทางการฝึกตนที่ได้รับ พลังดวงดาวที่เข้าไปในร่างกายของเขาเริ่มที่จะควบแน่นช้า ๆ ในจุดตันเทียน ฉู่เหินรู้ว่าในเวลานี้เขาต้องไปที่ลานนอกบ้าน การฝึกครั้งต่อไปคือการฝึกหมัดมวย เขาจำเป็นที่จะต้องโคจรพลังแห่งดวงดาวที่ดูดซับมา ทำให้พวกมันให้ซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อและกระดูกของเขาอย่างช้า ๆ ด้วยวิธีการนี้เท่านั้นที่จะทำให้การกลั่นที่แท้จริงบรรลุผล!

การออกหมัดและลูกเตะของฉู่เหินค่อนข้างแปลก แม้จะดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของเขาจะช้ามาก แต่การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งกลับสามารถดึงพลังแห่งดวงดาวให้ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาได้อย่างรวดเร็ว ฉู่เหินรู้สึกว่าหากพลังดวงดาวเหล่านี้ยังคงขัดเกลาร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง มันกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลขึ้นในร่างกายของเขา!

เวลายามค่ำคืนค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว ดวงอาทิตย์สีแดงเพลิงลุกโชนขึ้นมาจากทะเล ในตอนนี้ฉู่เหินกำลังทำการเคลื่อนไหวภายใต้แสงสว่างของพระอาทิตย์ เขาไม่รู้ว่าเลยว่าตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงดูดซับแสงของยามเช้าเข้าสู่ร่างกายของเขาโดยไม่รู้ตัว

หลังจากแสงตะวันยามเช้าถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกาย จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าร่างกายกำลังลุกเป็นไฟ ความรู้สึกแสบร้อนทำให้เขาตื่นขึ้นมาในทันที แต่แม้ว่าเขาจะตื่นอยู่ เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในร่างกายของเขาได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+