สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 136 ตัวนิ่มไม่กลัวไฟ

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 136 ตัวนิ่มไม่กลัวไฟ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 136 ตัวนิ่มไม่กลัวไฟ[รีไรท์]

บทที่ 136 ตัวนิ่มไม่กลัวไฟ[รีไรท์]
หลังจากกลายเป็นยักษ์ใหญ่แห่งเปลวไฟ ฉู่เหินก็อดหัวเราะไม่ได้ พวกสัตว์กลายพันธุ์เหล่านี้ล้วนกลัวไฟ ดังนั้นพวกมันจึงพาถอยหนีกันไปอย่างรวดเร็ว ตอนแรกเขาเองก็หวาดกลัวว่ามันจะไม่สำเร็จ แต่ที่ไหนได้มันกลับได้ผล!
หลังจากออกจากวงล้อมมาได้ เขาก็รีบวิ่งไปยังทางออกโดยที่มีพวกสัตว์เหล่านั้นวิ่งตามมาติด ๆ ทว่าฉู่เหินก็ไม่ได้หวาดกลัวเพราะว่ามันทำร้ายเขาไม่ได้แน่ ๆ
ทันใดนั้นเขาก็มาถึงทางออกของท่อระบายน้ำ เมื่อเปิดมันออก มันก็ทำให้ฉู่เหินหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะว่าด้านบนหัวนี้เต็มไปด้วยน้ำหนักมหาศาลที่กดทับเอาไว้อยู่ ดังนั้นมันทำให้ฉู่เหินต้องนิ่วหน้าอย่างประหลาด เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะหนักขนาดนี้
ถ้าต้องใช้กำลังมหาศาลในการเปิดมันละก็ เรื่องแบบนั้นฉู่เหินก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะมันไม่ได้ยากอะไรเลย แต่ประเด็นก็คือตอนนี้เขากำลังอยู่กลางจุดที่ลึกที่สุดและต้องใช้พละกำลังมากกว่า 30,000 กิโลเพื่อเปิดมันเนี่ยสิ
ถ้าขืนฉู่เหินใช้แรงมากเกินไปในที่แบบนี้ หากกำแพงถล่มลงมาพวกเขาคงต้องตายกันหมดแน่ ตอนนี้เขาเริ่มสิ้นหวังซะแล้วซิ
ฉู่เหินพยายามคิดอย่างรวดเร็ว เขามองพื้นที่โดยรอบ ก่อนจะแบ่งแยกเป็นส่วน ๆ เพื่อที่จะกระโดดขึ้นไป แต่ที่นี่มันสูงเกินไป ทุกครั้งที่เขากระโดด ถึงแม้ฉู่เหินจะขึ้นไปได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถขุดรูหนีไปได้อยู่ดี
ขืนเป็นแบบนี้ ต่อให้พวกเขาไปถึงทางออกได้ แต่มันก็คงจะยากเกินไป ฉู่เหินวางบาเรียไฟเอาไว้เพื่อไม่ให้มีอะไรเข้ามา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและหวังว่าจะให้มีสัญญาณ
เมื่อเห็นว่ามีสัญญาณขึ้นมาบ้าง ดังนั้นเขาจึงได้แต่กัดฟันแล้วปีนก้อนหินต่อไป เมื่อเข้าใกล้ตำแหน่งทางเข้าท่อระบายน้ำ มันก็ได้มีสัญญาณเพิ่มขึ้น นี่ทำให้เขามีความสุขมาก
“ฉู่เหิน นายอยู่ที่ไหนน่ะ? ฉันติดต่อนายไม่ได้เลย เกิดอะไรขึ้นกับนายรึเปล่า?” ปลายสายที่ตอบรับมานั้นคือ หวงเจิน
“คุณลุง ตอนนี้ผมอยู่ที่ท่อระบายน้ำข้างโกดัง มันเคยมีทางเข้า แต่ตอนนี้มันโดนปิดไปแล้ว…” ทันทีที่ชายหนุ่มตอบกลับไปสัญญาณก็ขาดช่วงอีก
เมื่อโทรไปอีกครั้ง เขาก็ได้พูดไปเพียงแค่เล็กน้อยก่อนที่สัญญาณมันจะขาดไปอีกรอบ คราวนี้เขาจึงหันมาทำการส่งข้อความแทน เพราะเพิ่งจะคิดได้ว่าเขาอยู่ที่ทางใต้ดิน มันน่าจะไม่ค่อยมีสัญญาณเท่าไหร่นัก
แน่นอนว่าในโทรศัพท์มันบอกอยู่แล้วว่าการส่งข้อความน่ะสำเร็จ แต่ปลายทางคืออีกฝ่ายจะได้รับรึเปล่า? มันขึ้นอยู่กับว่าสัญญาณจะดีมากน้อยแค่ไหน ทันทีที่เขาส่งข้อความออกไป ฉู่เหินก็พลันได้ยินเสียงคำรามอย่างฉุนเฉียวจากกองเพลิงนั่น ดูจากเสียงแล้ว นั่นคงไม่ใช่พวกหนูหรืองูเสียด้วย
ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่ จู่ ๆ สัตว์ตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในระยะสายตา มันทำเอาฉู่เหินต้องประหลาดใจ นี่สัตว์พวกนี้มันกลัวไฟไม่ใช่หรือไงกัน?
เจ้าสัตว์ร้ายพากันเดินผ่านกองเพลิงเข้ามา ตัวของมันสูงประมาณ 2 เมตรและมีหัวเป็นสามเหลี่ยมกับดวงตาที่ส่องสว่าง แม้ว่าแขนขามันจะไม่ยาวมากนัก แต่หางของมันยาวลากพื้นเสียจนตอนเดินเสียงดังก้องไปทั่ว
ลำตัวของมันมีเกล็ดครอบคลุมไปทั่วร่างแม้แต่ที่หาง ดูแล้วน่าจะเป็นตัวนิ่ม แต่นี่ไม่ใช่ตัวนิ่มธรรมดาแน่ ๆ ไม่เพียงแค่มันจะตัวใหญ่เท่านั้น หากแต่มันก็ยังมีบางอย่างที่ไม่ปกติ
ที่กลางหลังของมันตั้งแต่จมูกไปจนถึงหางมีหนามแหลมโผล่ออกมา แถมหนามทุกแท่งเองก็ยังมีลักษณะน่ากลัวอีก!
เล็บของมันคมกริบ มันลากไปตามพื้นจนทำให้เกิดประกายแสงตลอดเวลา
เห็นแบบนี้ฉู่เหินก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ดูเหมือนว่าพลังป้องกันของตัวนิ่มนี่จะสูงมาก ต่อให้เขาใช้พลังทั้งหมดที่มี มันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถฆ่ามันได้ง่าย ๆ ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงรีบจัดตั้งค่ายกลขึ้นที่นี่เพื่อกันเจ้าตัวใหญ่นั่นออกไป
หลังจากปล่อยฉู่เฟิงออกมา เขาก็ปล่อยให้เจ้าหุ่นเชิดออกไปต่อสู้กับตัวนิ่ม หลังจากที่ต่อสู้กับพวกซอมบี้มาก่อนหน้านี้ ฉู่เหินก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวนิ่มนี่จะอ่อนแอกว่าซอมบี้พวกนั้นเสียเท่าไหร่หรอก ทว่าเมื่อเขาต้องสร้างค่ายกลไปด้วยนั้น มันก็ทำให้เขามือไม่ว่างเลย
หลังจากเห็นมันกำลังเดินเข้ามา ฉู่เหินก็รีบหยิบวัตถุดิบต่าง ๆ อย่างรวดเร็วไปพร้อม ๆ กันกับที่มือของเขาประกอบค่ายกลขึ้นมา เพียงชั่วพริบตาค่ายกลก็เสร็จสิ้น
ฉู่เหินรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่คิดว่ามันจะฝ่าค่ายกลของเขามาได้หรอก ว่าแล้วชายหนุ่มก็เรียกฉู่เฟิงกลับมาทำแผลให้
การใช้ ‘ดวงดาวเปล่าเปลี่ยว’ ในการรักษา ถึงแม้มันจะไม่ใช่การรักษาที่ดีที่สุด แต่มันก็ยังถือเป็นการรักษาอยู่ดี ถึงแม้ถ้าขยับตัวแล้วจะทำให้แผลมันเปิดก็ตาม
ด้วยการรักษาอย่างต่อเนื่อง พลังดวงดาวค่อย ๆ ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของฉู่เฟิง มันฟื้นฟูร่างกายที่บาดเจ็บของเจ้าหุ่นเชิดอย่างช้า ๆ ด้วยการแช่พลังดวงดาวเหล่านี้ แม้ว่าฉู่เฟิงจะยังไม่สามารถกลับสู่สภาวะสูงสุดได้สักพัก แต่หลังจากได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นได้บ้าง
หลังจากนั้นฉู่เหินก็เตรียมที่จะหาทางออกอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็ต้องหาแผนการเผื่อเอาไว้หน่อย เพราะถ้าไม่มีใครหาตัวเขาเจอขึ้นมาจะทำยังไง? ฉู่เหินยื่นมือขึ้นไปแตะฝาท่อเพื่อทดลองว่ามีคนมาเปิดให้หรือยัง เขาก็พบว่ามันยังหนักอยู่
ในยามที่เขาไม่เหลืออะไรแล้ว ค่ายกลป้องกันคือสิ่งที่ฉู่เหินภูมิใจที่สุด หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันกลับทำให้เขาต้องรู้สึกประหลาดใจ ฉู่เหินไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวนิ่มจะมีพลังโจมตีมากขนาดนี้ และในจังหวะที่เขากำลังตกตะลึง เสียงการโจมตีก็ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแล้วค่ายกลของเขาก็พังทลายลง
ทันใดนั้นฉู่เหินก็เห็นเจ้าสัตว์ประหลาดขนาดตัว 4-5 เมตรกำลังเดินเข้ามา หลังจากที่เห็นมัน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าตัวนิ่มนั่นจะขยายร่างตัวเองได้แบบนี้ แบบนี้มันน่าจะต้องอันตรายมากขึ้นเป็นแน่!
หลังจากที่มันกลายร่าง เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ก็สูญเสียสติสัมปชัญญะไป ดวงตาสีแดงของมันดุดันพร้อมกับเล็บอันคมกริบขยับไปมา กรงเล็บของมันในเวลานี้ดูโหดร้ายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีก
ตัวนิ่มเหมือนจะรู้สึกได้ถึงลมหายใจของฉู่เหิน เจ้าสัตว์ร้ายพุ่งเข้าใส่เขา ชายหนุ่มรีบการหลบกรงเล็บของมันทันที กลายเป็นว่าตอนนี้เขาหลบมาอยู่ด้านหลังของมันแล้ว
ร่างของตัวนิ่มที่ขยายใหญ่ขึ้น นอกจากจะทำให้มันมีพลังมากขึ้นแล้ว มันก็ยังทำให้ฉู่เหินรู้สึกดูอึดอัดอีกด้วย เป็นเพราะพื้นที่คับแคบโดยรอบที่ถูกบดบังด้วยร่างของสัตว์ร้าย ในขณะที่มันยังไม่หันกลับมา ฉู่เหินก็หยิบพัดของเขาขึ้นมาเพื่อเตรียมการ เขาจะใช้จังหวะนี้นี่แหละจัดการเจ้าตัวนิ่มตรงหน้าให้ได้!
Next

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 136 ตัวนิ่มไม่กลัวไฟ

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 136 ตัวนิ่มไม่กลัวไฟ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 136 ตัวนิ่มไม่กลัวไฟ[รีไรท์]

บทที่ 136 ตัวนิ่มไม่กลัวไฟ[รีไรท์]
หลังจากกลายเป็นยักษ์ใหญ่แห่งเปลวไฟ ฉู่เหินก็อดหัวเราะไม่ได้ พวกสัตว์กลายพันธุ์เหล่านี้ล้วนกลัวไฟ ดังนั้นพวกมันจึงพาถอยหนีกันไปอย่างรวดเร็ว ตอนแรกเขาเองก็หวาดกลัวว่ามันจะไม่สำเร็จ แต่ที่ไหนได้มันกลับได้ผล!
หลังจากออกจากวงล้อมมาได้ เขาก็รีบวิ่งไปยังทางออกโดยที่มีพวกสัตว์เหล่านั้นวิ่งตามมาติด ๆ ทว่าฉู่เหินก็ไม่ได้หวาดกลัวเพราะว่ามันทำร้ายเขาไม่ได้แน่ ๆ
ทันใดนั้นเขาก็มาถึงทางออกของท่อระบายน้ำ เมื่อเปิดมันออก มันก็ทำให้ฉู่เหินหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะว่าด้านบนหัวนี้เต็มไปด้วยน้ำหนักมหาศาลที่กดทับเอาไว้อยู่ ดังนั้นมันทำให้ฉู่เหินต้องนิ่วหน้าอย่างประหลาด เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะหนักขนาดนี้
ถ้าต้องใช้กำลังมหาศาลในการเปิดมันละก็ เรื่องแบบนั้นฉู่เหินก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะมันไม่ได้ยากอะไรเลย แต่ประเด็นก็คือตอนนี้เขากำลังอยู่กลางจุดที่ลึกที่สุดและต้องใช้พละกำลังมากกว่า 30,000 กิโลเพื่อเปิดมันเนี่ยสิ
ถ้าขืนฉู่เหินใช้แรงมากเกินไปในที่แบบนี้ หากกำแพงถล่มลงมาพวกเขาคงต้องตายกันหมดแน่ ตอนนี้เขาเริ่มสิ้นหวังซะแล้วซิ
ฉู่เหินพยายามคิดอย่างรวดเร็ว เขามองพื้นที่โดยรอบ ก่อนจะแบ่งแยกเป็นส่วน ๆ เพื่อที่จะกระโดดขึ้นไป แต่ที่นี่มันสูงเกินไป ทุกครั้งที่เขากระโดด ถึงแม้ฉู่เหินจะขึ้นไปได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถขุดรูหนีไปได้อยู่ดี
ขืนเป็นแบบนี้ ต่อให้พวกเขาไปถึงทางออกได้ แต่มันก็คงจะยากเกินไป ฉู่เหินวางบาเรียไฟเอาไว้เพื่อไม่ให้มีอะไรเข้ามา จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและหวังว่าจะให้มีสัญญาณ
เมื่อเห็นว่ามีสัญญาณขึ้นมาบ้าง ดังนั้นเขาจึงได้แต่กัดฟันแล้วปีนก้อนหินต่อไป เมื่อเข้าใกล้ตำแหน่งทางเข้าท่อระบายน้ำ มันก็ได้มีสัญญาณเพิ่มขึ้น นี่ทำให้เขามีความสุขมาก
“ฉู่เหิน นายอยู่ที่ไหนน่ะ? ฉันติดต่อนายไม่ได้เลย เกิดอะไรขึ้นกับนายรึเปล่า?” ปลายสายที่ตอบรับมานั้นคือ หวงเจิน
“คุณลุง ตอนนี้ผมอยู่ที่ท่อระบายน้ำข้างโกดัง มันเคยมีทางเข้า แต่ตอนนี้มันโดนปิดไปแล้ว…” ทันทีที่ชายหนุ่มตอบกลับไปสัญญาณก็ขาดช่วงอีก
เมื่อโทรไปอีกครั้ง เขาก็ได้พูดไปเพียงแค่เล็กน้อยก่อนที่สัญญาณมันจะขาดไปอีกรอบ คราวนี้เขาจึงหันมาทำการส่งข้อความแทน เพราะเพิ่งจะคิดได้ว่าเขาอยู่ที่ทางใต้ดิน มันน่าจะไม่ค่อยมีสัญญาณเท่าไหร่นัก
แน่นอนว่าในโทรศัพท์มันบอกอยู่แล้วว่าการส่งข้อความน่ะสำเร็จ แต่ปลายทางคืออีกฝ่ายจะได้รับรึเปล่า? มันขึ้นอยู่กับว่าสัญญาณจะดีมากน้อยแค่ไหน ทันทีที่เขาส่งข้อความออกไป ฉู่เหินก็พลันได้ยินเสียงคำรามอย่างฉุนเฉียวจากกองเพลิงนั่น ดูจากเสียงแล้ว นั่นคงไม่ใช่พวกหนูหรืองูเสียด้วย
ในขณะที่เขากำลังคิดอยู่ จู่ ๆ สัตว์ตัวหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในระยะสายตา มันทำเอาฉู่เหินต้องประหลาดใจ นี่สัตว์พวกนี้มันกลัวไฟไม่ใช่หรือไงกัน?
เจ้าสัตว์ร้ายพากันเดินผ่านกองเพลิงเข้ามา ตัวของมันสูงประมาณ 2 เมตรและมีหัวเป็นสามเหลี่ยมกับดวงตาที่ส่องสว่าง แม้ว่าแขนขามันจะไม่ยาวมากนัก แต่หางของมันยาวลากพื้นเสียจนตอนเดินเสียงดังก้องไปทั่ว
ลำตัวของมันมีเกล็ดครอบคลุมไปทั่วร่างแม้แต่ที่หาง ดูแล้วน่าจะเป็นตัวนิ่ม แต่นี่ไม่ใช่ตัวนิ่มธรรมดาแน่ ๆ ไม่เพียงแค่มันจะตัวใหญ่เท่านั้น หากแต่มันก็ยังมีบางอย่างที่ไม่ปกติ
ที่กลางหลังของมันตั้งแต่จมูกไปจนถึงหางมีหนามแหลมโผล่ออกมา แถมหนามทุกแท่งเองก็ยังมีลักษณะน่ากลัวอีก!
เล็บของมันคมกริบ มันลากไปตามพื้นจนทำให้เกิดประกายแสงตลอดเวลา
เห็นแบบนี้ฉู่เหินก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ดูเหมือนว่าพลังป้องกันของตัวนิ่มนี่จะสูงมาก ต่อให้เขาใช้พลังทั้งหมดที่มี มันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถฆ่ามันได้ง่าย ๆ ดังนั้นแล้วชายหนุ่มจึงรีบจัดตั้งค่ายกลขึ้นที่นี่เพื่อกันเจ้าตัวใหญ่นั่นออกไป
หลังจากปล่อยฉู่เฟิงออกมา เขาก็ปล่อยให้เจ้าหุ่นเชิดออกไปต่อสู้กับตัวนิ่ม หลังจากที่ต่อสู้กับพวกซอมบี้มาก่อนหน้านี้ ฉู่เหินก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวนิ่มนี่จะอ่อนแอกว่าซอมบี้พวกนั้นเสียเท่าไหร่หรอก ทว่าเมื่อเขาต้องสร้างค่ายกลไปด้วยนั้น มันก็ทำให้เขามือไม่ว่างเลย
หลังจากเห็นมันกำลังเดินเข้ามา ฉู่เหินก็รีบหยิบวัตถุดิบต่าง ๆ อย่างรวดเร็วไปพร้อม ๆ กันกับที่มือของเขาประกอบค่ายกลขึ้นมา เพียงชั่วพริบตาค่ายกลก็เสร็จสิ้น
ฉู่เหินรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่คิดว่ามันจะฝ่าค่ายกลของเขามาได้หรอก ว่าแล้วชายหนุ่มก็เรียกฉู่เฟิงกลับมาทำแผลให้
การใช้ ‘ดวงดาวเปล่าเปลี่ยว’ ในการรักษา ถึงแม้มันจะไม่ใช่การรักษาที่ดีที่สุด แต่มันก็ยังถือเป็นการรักษาอยู่ดี ถึงแม้ถ้าขยับตัวแล้วจะทำให้แผลมันเปิดก็ตาม
ด้วยการรักษาอย่างต่อเนื่อง พลังดวงดาวค่อย ๆ ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของฉู่เฟิง มันฟื้นฟูร่างกายที่บาดเจ็บของเจ้าหุ่นเชิดอย่างช้า ๆ ด้วยการแช่พลังดวงดาวเหล่านี้ แม้ว่าฉู่เฟิงจะยังไม่สามารถกลับสู่สภาวะสูงสุดได้สักพัก แต่หลังจากได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นได้บ้าง
หลังจากนั้นฉู่เหินก็เตรียมที่จะหาทางออกอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็ต้องหาแผนการเผื่อเอาไว้หน่อย เพราะถ้าไม่มีใครหาตัวเขาเจอขึ้นมาจะทำยังไง? ฉู่เหินยื่นมือขึ้นไปแตะฝาท่อเพื่อทดลองว่ามีคนมาเปิดให้หรือยัง เขาก็พบว่ามันยังหนักอยู่
ในยามที่เขาไม่เหลืออะไรแล้ว ค่ายกลป้องกันคือสิ่งที่ฉู่เหินภูมิใจที่สุด หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้ามันกลับทำให้เขาต้องรู้สึกประหลาดใจ ฉู่เหินไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวนิ่มจะมีพลังโจมตีมากขนาดนี้ และในจังหวะที่เขากำลังตกตะลึง เสียงการโจมตีก็ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแล้วค่ายกลของเขาก็พังทลายลง
ทันใดนั้นฉู่เหินก็เห็นเจ้าสัตว์ประหลาดขนาดตัว 4-5 เมตรกำลังเดินเข้ามา หลังจากที่เห็นมัน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าตัวนิ่มนั่นจะขยายร่างตัวเองได้แบบนี้ แบบนี้มันน่าจะต้องอันตรายมากขึ้นเป็นแน่!
หลังจากที่มันกลายร่าง เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ก็สูญเสียสติสัมปชัญญะไป ดวงตาสีแดงของมันดุดันพร้อมกับเล็บอันคมกริบขยับไปมา กรงเล็บของมันในเวลานี้ดูโหดร้ายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีก
ตัวนิ่มเหมือนจะรู้สึกได้ถึงลมหายใจของฉู่เหิน เจ้าสัตว์ร้ายพุ่งเข้าใส่เขา ชายหนุ่มรีบการหลบกรงเล็บของมันทันที กลายเป็นว่าตอนนี้เขาหลบมาอยู่ด้านหลังของมันแล้ว
ร่างของตัวนิ่มที่ขยายใหญ่ขึ้น นอกจากจะทำให้มันมีพลังมากขึ้นแล้ว มันก็ยังทำให้ฉู่เหินรู้สึกดูอึดอัดอีกด้วย เป็นเพราะพื้นที่คับแคบโดยรอบที่ถูกบดบังด้วยร่างของสัตว์ร้าย ในขณะที่มันยังไม่หันกลับมา ฉู่เหินก็หยิบพัดของเขาขึ้นมาเพื่อเตรียมการ เขาจะใช้จังหวะนี้นี่แหละจัดการเจ้าตัวนิ่มตรงหน้าให้ได้!
Next

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+