สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด

หลังจากได้ฟังคำของฉู่เหิน ทุกคนก็ดีใจเป็นอย่างมาก! ตามบันทึกโบราณของเงือก พวกมนุษย์ถนัดในการสร้างเครื่องมือต่าง ๆ ดังนั้นพวกเงือกจึงพากันตั้งตารอว่าครั้งหน้าที่ฉู่เหินมานั้น เขาจะนำอะไรมาให้

ผ่านไปกว่าค่อนชั่วโมง ฉู่เหินก็เห็นพวกเงือกขนพวกสาหร่าย ปะการัง และหอยต่าง ๆ มาให้ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงหินใต้ทะเลรูปร่างประหลาด ๆ และพวกดอกไม้ พืชทะเลต่าง ๆ มากองไว้ตรงหน้าเขามากมาย เมื่อเห็นของพวกนี้ มันก็ทำให้เขารู้สึกยินดีจนแทบปิดไว้ไม่มิด

นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉู่เหินมองของพวกนั้นด้วยความดีใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความร่าเริง หลังจากที่ปล่อยให้พวกเงือกเอาของมาให้ พวกเงือกก็พากันรู้สึกอึดอัดใจอย่างช่วยไม่ได้

“ให้ตายสิช่างไม่รู้จักโลกกว้างเอาซะเลยนะ ก็แค่ของธรรมดา ๆ ไม่ใช่รึไง! สาหร่ายทะเล ปะการัง หอยที่มีหินห้วงลึกทมิฬ มันก็เป็นของที่หาได้ทั่วไปอยู่แล้วนี่นา”

นี่คือคิดสิ่งที่พวกเขาคิด ฉู่เหินนั้นช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ แต่พวกเขาดันเอาแต่ของแบบนี้มาให้ ถ้าเอาไปบอกคนอื่น คงต้องถูกนินทาเป็นแน่

ฉู่เหินไม่ได้ใส่ใจกับสายตาพวกนั้น ขอเพียงได้หินห้วงลึกทมิฬมาเพิ่มอีก ไม่ว่าคนอื่นจะคิดยังไง เขาก็ยินดีน้อมรับ

ฉู่เหินรีบเก็บของทั้งหมดลงในแหวนมิติของเขาอย่างรวดเร็ว พอจัดการเรียบร้อย ชายหนุ่มก็กล่าวขอบคุณพวกเงือกที่เอาของมาให้

เหล่าเงือกไม่กล้าพูดอะไร พวกเขาโค้งคำนับแล้วออกไปทันที ฉู่เหินพอใจกับการลงมาใต้ทะเลครั้งนี้อย่างมาก เพราะฉะนั้นเขาจึงจะไปบอกลาแม่เฒ่าก่อนกลับ ตอนมาสองมือว่างเปล่า แต่ตอนกลับมีเต็มไม้เต็มมือ ช่างเป็นอะไรที่ดีเสียจริง!

เขาเชื่อว่าของในแหวนมิตินี้จะทำให้เกิดความฮือฮากันมากเป็นแน่ ไม่ต้องพูดถึงพวกหินห้วงลึกทมิฬเลย เพียงแค่พวกปะการังเปล่งแสงนั้นก็ทำราคาได้สูงเท่ากับพวกหินห้วงลึกทมิฬแล้ว เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

ถ้าเจ้าพืชหน้าตาประหลาด ๆ พวกนี้ได้ออกสู่โลกภายนอกแล้ว มันคงจะทำให้ทั้งโลกตกตะลึงเป็นแน่! ปกติแล้วต้นไม้ต้องเติบโตบนดิน และได้รับแสงแดด เพราะงั้นพืชที่อยู่ในน้ำพวกนี้จะต้องสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับคนบนบกได้อย่างแน่นอน

นี่ยังไม่นับหินรูปร่างประหลาดที่ถูกนำขึ้นมาอีก ฉู่เหินเชื่อเลยว่าเมื่อเขาเอามันออกสู่โลกภายนอกแล้ว เกรงว่าคงจะมีการตอบรับที่ดีแน่ ๆ เพราะรูปร่างและลวดลายบนหินไม่ใช่ฝีมือของคน หากแต่เป็นตามธรรมชาติ ซึ่งมันก็สวยงามราวกับรูปวาดเลยทีเดียว

บางอันดูเหมือนสิงโตที่ดูน่าเกรงขาม บางอันดูเหมือนช้างที่ทรงพลัง บางอันก็ดูเหมือนกับต้นไม้ ยิ่งดูใกล้ ๆ แล้วมันก็จะดูเหมือนว่าลวดลายเหล่านี้มันมีชีวิตยังไงยังงั้น

สำหรับหินพวกนี้ ฉู่เหินยังไม่ได้คิดที่จะขายพวกมัน เขากะจะเอาพวกมันไปจัดสวนที่บ้านของเขาก่อน หินเหล่านี้เกิดขึ้นจากฝีมือของธรรมชาติ ดังนั้นฉู่เหินจึงมั่นใจว่าหินพวกนี้จะดึงดูดความสนใจ และสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาเยี่ยมชมบ้านของเขาได้แน่

หลังจากเดินอยู่ใต้ทะเล เวลาก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ฉู่เหินรู้ว่าตอนนี้บนบกคงจะฟ้ามืดหมดแล้ว หากแล่นเรือตอนนี้คงจะอันตราย แต่ถึงจะอย่างงั้น ฉู่เหินก็รู้ดีว่าเขาต้องกลับไปให้เร็วที่สุด เพราะหลิวจ้านซานดันรู้ว่าวันนี้เขาออกเรือด้วยนะสิ

ถ้ากลับไปช้าแล้วทำให้พ่อตาในอนาคตต้องเป็นกังวลคงจะไม่ดี ในตอนที่ฉู่เหินครุ่นคิดอยู่ ก็มีปลาทูน่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งมาอยู่ใกล้ ๆ เขา ฉู่เหินมองพิจารณา ปลาทูน่าตัวนี้ไม่ได้แตกต่างจากตัวอื่นมากนัก เพียงแต่ตัวของมันค่อนข้างใหญ่มากเลยทีเดียว

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เหินเห็นทูน่าตัวกว่า 10 เมตรแบบนี้ ฉู่เหินตกใจจนอ้าปากค้าง เขาได้แต่หัวเราะต่อความโชคดีนี้

“คุณมีพระคุณต่อเผ่าเงือกและต่อทะเล เรารู้ว่าคุณจะขึ้นไปบนผิวน้ำจึงจะไปส่ง” ทูน่าที่เห็นว่าฉู่เหินกำลังงงจึงอธิบายอย่างช่วยไม่ได้

เขาเคยขี่ม้าขี่วัว แต่เขาไม่เคยขี่ปลามาก่อน แค่คิดก็รู้สึกสนุกแล้ว ฉู่เหินพยักหน้ารับทันทีที่อีกฝ่ายอนุญาต ชายหนุ่มเดินไปขี่หลังของมัน จากนั้นการเดินทางของเขาก็รวดเร็วราวกับติดปีก

ฉู่เหินนั้นสำรวจไปรอบ ๆ ทีแรกเขาก็รู้สึกสบายดี แต่ชายหนุ่มก็รู้ตัวว่าตัวเองนั้นคิดผิด ปลาตัวนี้มันเคลื่อนที่เร็วราวกับกระสุน

ฉู่เหินเริ่มรู้สึกพะอืดพะอมเล็กน้อยตอนที่อยู่ใกล้กับผิวทะเล แต่พอผ่านไปประมาณ 10 นาทีเขาก็เริ่มชิน ชายหนุ่มเอาเข็มทิศออกมาเพื่อดูทิศทาง ก่อนจะบอกทูน่าว่าจะต้องไปทางไหน ซึ่งพอรู้ มันก็ว่ายต่อไปด้วยความเร็วสูงทันที

เรือชมสมุทรนั้นล่องไปในทะเลอย่างช้า ๆ ท้องทะเลยามค่ำคืนช่างสวยงาม ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันเงียบสงบส่องแสงสะท้อนกับท้องทะเล มันราวกับพวกเขาอยู่ในเทพนิยาย! ชายหนุ่มหญิงสาวบางคนนั่งอยู่บนเรือ พวกเขาพากันหัวเราะต่อกระซิกและนั่งดูท้องทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

“ที่รัก เชื่อผมเถอะ ผมรักคุณจริง ๆ นะ ถ้าผมโกหกขอให้อสูรกายทะเลมากินผมได้เลย!” มีชายผมทองคนหนึ่งสารภาพกับหญิงสาว

เมื่อสิ้นคำกล่าวนั้น ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยเสน่หา แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อไป เธอก็บันดาลโทสะแล้วตบชายผมทองที่เธอคุยด้วย

“คนโกหก หันหลังไปดูเองเถอะ คำสาบานของคุณออกมาแล้วไง” หญิงสาวพูดจบก็หันหลังแล้วเดินจากไป ชายหนุ่มจึงหันหน้าไปมองตามทิศทางนั้นด้วยความมึนงง

“โอ้มายก๊อด! นั่นอะไรน่ะ? นั่นมันสัตว์ประหลาดเหรอ?” ด้วยเสียงตะโกนที่ดังลั่น ทุกคนต่างหันไปมองกันเป็นตาเดียว พวกเขาเห็นเข้ากับร่างใหญ่ยักษ์ว่ายผ่านไปด้วยความเร็วสูง ร่างที่ปรากฏนั้นใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่าสัตว์ประหลาดมาก

สิ่งนั้นทำให้ทุกคนบนดาดฟ้ากรีดร้องกันหมด บางคนรีบหยิบกล้องออกมาเพื่อถ่ายรูปสิ่งนั้น

“โอ้พระเจ้า ดูสิ หลังของเจ้าตัวนั้นมีเงาคนอยู่แล้ว หรือว่าเป็นอัศวินในตำนาน? เท่มากเลยอ่ะ” หญิงสาวผมทองพูดอย่างโอเว่อร์

“อัศวินงั้นเหรอ? คุณหล่อมากเลยค่ะ ฉันรักคุณ!” พวกผู้หญิงบนดาดฟ้ากรีดร้องด้วยความบ้าคลั่ง

“ท่านอัศวินคะ! พาฉันไปด้วย!”

ฉู่เหินไม่รู้ว่าด้านหน้าเป็นยังไง เพราะทูน่านั้นว่ายเร็วเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถลืมตาได้เลย เขาได้ยินเสียงเพียงแค่ตะโกนที่ฟังไม่รู้เรื่อง

ดังนั้นฉู่เหินจึงทำการกวักมือทักทายไปยังทิศทางของเสียง ก่อนที่ปลาทูน่าที่เขาขี่อยู่นั้น จะหายไปจากสายตาของทุกคนในชั่วพริบตา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด

หลังจากได้ฟังคำของฉู่เหิน ทุกคนก็ดีใจเป็นอย่างมาก! ตามบันทึกโบราณของเงือก พวกมนุษย์ถนัดในการสร้างเครื่องมือต่าง ๆ ดังนั้นพวกเงือกจึงพากันตั้งตารอว่าครั้งหน้าที่ฉู่เหินมานั้น เขาจะนำอะไรมาให้

ผ่านไปกว่าค่อนชั่วโมง ฉู่เหินก็เห็นพวกเงือกขนพวกสาหร่าย ปะการัง และหอยต่าง ๆ มาให้ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงหินใต้ทะเลรูปร่างประหลาด ๆ และพวกดอกไม้ พืชทะเลต่าง ๆ มากองไว้ตรงหน้าเขามากมาย เมื่อเห็นของพวกนี้ มันก็ทำให้เขารู้สึกยินดีจนแทบปิดไว้ไม่มิด

นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉู่เหินมองของพวกนั้นด้วยความดีใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความร่าเริง หลังจากที่ปล่อยให้พวกเงือกเอาของมาให้ พวกเงือกก็พากันรู้สึกอึดอัดใจอย่างช่วยไม่ได้

“ให้ตายสิช่างไม่รู้จักโลกกว้างเอาซะเลยนะ ก็แค่ของธรรมดา ๆ ไม่ใช่รึไง! สาหร่ายทะเล ปะการัง หอยที่มีหินห้วงลึกทมิฬ มันก็เป็นของที่หาได้ทั่วไปอยู่แล้วนี่นา”

นี่คือคิดสิ่งที่พวกเขาคิด ฉู่เหินนั้นช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ แต่พวกเขาดันเอาแต่ของแบบนี้มาให้ ถ้าเอาไปบอกคนอื่น คงต้องถูกนินทาเป็นแน่

ฉู่เหินไม่ได้ใส่ใจกับสายตาพวกนั้น ขอเพียงได้หินห้วงลึกทมิฬมาเพิ่มอีก ไม่ว่าคนอื่นจะคิดยังไง เขาก็ยินดีน้อมรับ

ฉู่เหินรีบเก็บของทั้งหมดลงในแหวนมิติของเขาอย่างรวดเร็ว พอจัดการเรียบร้อย ชายหนุ่มก็กล่าวขอบคุณพวกเงือกที่เอาของมาให้

เหล่าเงือกไม่กล้าพูดอะไร พวกเขาโค้งคำนับแล้วออกไปทันที ฉู่เหินพอใจกับการลงมาใต้ทะเลครั้งนี้อย่างมาก เพราะฉะนั้นเขาจึงจะไปบอกลาแม่เฒ่าก่อนกลับ ตอนมาสองมือว่างเปล่า แต่ตอนกลับมีเต็มไม้เต็มมือ ช่างเป็นอะไรที่ดีเสียจริง!

เขาเชื่อว่าของในแหวนมิตินี้จะทำให้เกิดความฮือฮากันมากเป็นแน่ ไม่ต้องพูดถึงพวกหินห้วงลึกทมิฬเลย เพียงแค่พวกปะการังเปล่งแสงนั้นก็ทำราคาได้สูงเท่ากับพวกหินห้วงลึกทมิฬแล้ว เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

ถ้าเจ้าพืชหน้าตาประหลาด ๆ พวกนี้ได้ออกสู่โลกภายนอกแล้ว มันคงจะทำให้ทั้งโลกตกตะลึงเป็นแน่! ปกติแล้วต้นไม้ต้องเติบโตบนดิน และได้รับแสงแดด เพราะงั้นพืชที่อยู่ในน้ำพวกนี้จะต้องสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับคนบนบกได้อย่างแน่นอน

นี่ยังไม่นับหินรูปร่างประหลาดที่ถูกนำขึ้นมาอีก ฉู่เหินเชื่อเลยว่าเมื่อเขาเอามันออกสู่โลกภายนอกแล้ว เกรงว่าคงจะมีการตอบรับที่ดีแน่ ๆ เพราะรูปร่างและลวดลายบนหินไม่ใช่ฝีมือของคน หากแต่เป็นตามธรรมชาติ ซึ่งมันก็สวยงามราวกับรูปวาดเลยทีเดียว

บางอันดูเหมือนสิงโตที่ดูน่าเกรงขาม บางอันดูเหมือนช้างที่ทรงพลัง บางอันก็ดูเหมือนกับต้นไม้ ยิ่งดูใกล้ ๆ แล้วมันก็จะดูเหมือนว่าลวดลายเหล่านี้มันมีชีวิตยังไงยังงั้น

สำหรับหินพวกนี้ ฉู่เหินยังไม่ได้คิดที่จะขายพวกมัน เขากะจะเอาพวกมันไปจัดสวนที่บ้านของเขาก่อน หินเหล่านี้เกิดขึ้นจากฝีมือของธรรมชาติ ดังนั้นฉู่เหินจึงมั่นใจว่าหินพวกนี้จะดึงดูดความสนใจ และสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาเยี่ยมชมบ้านของเขาได้แน่

หลังจากเดินอยู่ใต้ทะเล เวลาก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ฉู่เหินรู้ว่าตอนนี้บนบกคงจะฟ้ามืดหมดแล้ว หากแล่นเรือตอนนี้คงจะอันตราย แต่ถึงจะอย่างงั้น ฉู่เหินก็รู้ดีว่าเขาต้องกลับไปให้เร็วที่สุด เพราะหลิวจ้านซานดันรู้ว่าวันนี้เขาออกเรือด้วยนะสิ

ถ้ากลับไปช้าแล้วทำให้พ่อตาในอนาคตต้องเป็นกังวลคงจะไม่ดี ในตอนที่ฉู่เหินครุ่นคิดอยู่ ก็มีปลาทูน่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งมาอยู่ใกล้ ๆ เขา ฉู่เหินมองพิจารณา ปลาทูน่าตัวนี้ไม่ได้แตกต่างจากตัวอื่นมากนัก เพียงแต่ตัวของมันค่อนข้างใหญ่มากเลยทีเดียว

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เหินเห็นทูน่าตัวกว่า 10 เมตรแบบนี้ ฉู่เหินตกใจจนอ้าปากค้าง เขาได้แต่หัวเราะต่อความโชคดีนี้

“คุณมีพระคุณต่อเผ่าเงือกและต่อทะเล เรารู้ว่าคุณจะขึ้นไปบนผิวน้ำจึงจะไปส่ง” ทูน่าที่เห็นว่าฉู่เหินกำลังงงจึงอธิบายอย่างช่วยไม่ได้

เขาเคยขี่ม้าขี่วัว แต่เขาไม่เคยขี่ปลามาก่อน แค่คิดก็รู้สึกสนุกแล้ว ฉู่เหินพยักหน้ารับทันทีที่อีกฝ่ายอนุญาต ชายหนุ่มเดินไปขี่หลังของมัน จากนั้นการเดินทางของเขาก็รวดเร็วราวกับติดปีก

ฉู่เหินนั้นสำรวจไปรอบ ๆ ทีแรกเขาก็รู้สึกสบายดี แต่ชายหนุ่มก็รู้ตัวว่าตัวเองนั้นคิดผิด ปลาตัวนี้มันเคลื่อนที่เร็วราวกับกระสุน

ฉู่เหินเริ่มรู้สึกพะอืดพะอมเล็กน้อยตอนที่อยู่ใกล้กับผิวทะเล แต่พอผ่านไปประมาณ 10 นาทีเขาก็เริ่มชิน ชายหนุ่มเอาเข็มทิศออกมาเพื่อดูทิศทาง ก่อนจะบอกทูน่าว่าจะต้องไปทางไหน ซึ่งพอรู้ มันก็ว่ายต่อไปด้วยความเร็วสูงทันที

เรือชมสมุทรนั้นล่องไปในทะเลอย่างช้า ๆ ท้องทะเลยามค่ำคืนช่างสวยงาม ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันเงียบสงบส่องแสงสะท้อนกับท้องทะเล มันราวกับพวกเขาอยู่ในเทพนิยาย! ชายหนุ่มหญิงสาวบางคนนั่งอยู่บนเรือ พวกเขาพากันหัวเราะต่อกระซิกและนั่งดูท้องทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

“ที่รัก เชื่อผมเถอะ ผมรักคุณจริง ๆ นะ ถ้าผมโกหกขอให้อสูรกายทะเลมากินผมได้เลย!” มีชายผมทองคนหนึ่งสารภาพกับหญิงสาว

เมื่อสิ้นคำกล่าวนั้น ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยเสน่หา แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อไป เธอก็บันดาลโทสะแล้วตบชายผมทองที่เธอคุยด้วย

“คนโกหก หันหลังไปดูเองเถอะ คำสาบานของคุณออกมาแล้วไง” หญิงสาวพูดจบก็หันหลังแล้วเดินจากไป ชายหนุ่มจึงหันหน้าไปมองตามทิศทางนั้นด้วยความมึนงง

“โอ้มายก๊อด! นั่นอะไรน่ะ? นั่นมันสัตว์ประหลาดเหรอ?” ด้วยเสียงตะโกนที่ดังลั่น ทุกคนต่างหันไปมองกันเป็นตาเดียว พวกเขาเห็นเข้ากับร่างใหญ่ยักษ์ว่ายผ่านไปด้วยความเร็วสูง ร่างที่ปรากฏนั้นใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่าสัตว์ประหลาดมาก

สิ่งนั้นทำให้ทุกคนบนดาดฟ้ากรีดร้องกันหมด บางคนรีบหยิบกล้องออกมาเพื่อถ่ายรูปสิ่งนั้น

“โอ้พระเจ้า ดูสิ หลังของเจ้าตัวนั้นมีเงาคนอยู่แล้ว หรือว่าเป็นอัศวินในตำนาน? เท่มากเลยอ่ะ” หญิงสาวผมทองพูดอย่างโอเว่อร์

“อัศวินงั้นเหรอ? คุณหล่อมากเลยค่ะ ฉันรักคุณ!” พวกผู้หญิงบนดาดฟ้ากรีดร้องด้วยความบ้าคลั่ง

“ท่านอัศวินคะ! พาฉันไปด้วย!”

ฉู่เหินไม่รู้ว่าด้านหน้าเป็นยังไง เพราะทูน่านั้นว่ายเร็วเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถลืมตาได้เลย เขาได้ยินเสียงเพียงแค่ตะโกนที่ฟังไม่รู้เรื่อง

ดังนั้นฉู่เหินจึงทำการกวักมือทักทายไปยังทิศทางของเสียง ก่อนที่ปลาทูน่าที่เขาขี่อยู่นั้น จะหายไปจากสายตาของทุกคนในชั่วพริบตา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 108 ความเร็วสูงสุด

หลังจากได้ฟังคำของฉู่เหิน ทุกคนก็ดีใจเป็นอย่างมาก! ตามบันทึกโบราณของเงือก พวกมนุษย์ถนัดในการสร้างเครื่องมือต่าง ๆ ดังนั้นพวกเงือกจึงพากันตั้งตารอว่าครั้งหน้าที่ฉู่เหินมานั้น เขาจะนำอะไรมาให้

ผ่านไปกว่าค่อนชั่วโมง ฉู่เหินก็เห็นพวกเงือกขนพวกสาหร่าย ปะการัง และหอยต่าง ๆ มาให้ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงหินใต้ทะเลรูปร่างประหลาด ๆ และพวกดอกไม้ พืชทะเลต่าง ๆ มากองไว้ตรงหน้าเขามากมาย เมื่อเห็นของพวกนี้ มันก็ทำให้เขารู้สึกยินดีจนแทบปิดไว้ไม่มิด

นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ ฉู่เหินมองของพวกนั้นด้วยความดีใจ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความร่าเริง หลังจากที่ปล่อยให้พวกเงือกเอาของมาให้ พวกเงือกก็พากันรู้สึกอึดอัดใจอย่างช่วยไม่ได้

“ให้ตายสิช่างไม่รู้จักโลกกว้างเอาซะเลยนะ ก็แค่ของธรรมดา ๆ ไม่ใช่รึไง! สาหร่ายทะเล ปะการัง หอยที่มีหินห้วงลึกทมิฬ มันก็เป็นของที่หาได้ทั่วไปอยู่แล้วนี่นา”

นี่คือคิดสิ่งที่พวกเขาคิด ฉู่เหินนั้นช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ แต่พวกเขาดันเอาแต่ของแบบนี้มาให้ ถ้าเอาไปบอกคนอื่น คงต้องถูกนินทาเป็นแน่

ฉู่เหินไม่ได้ใส่ใจกับสายตาพวกนั้น ขอเพียงได้หินห้วงลึกทมิฬมาเพิ่มอีก ไม่ว่าคนอื่นจะคิดยังไง เขาก็ยินดีน้อมรับ

ฉู่เหินรีบเก็บของทั้งหมดลงในแหวนมิติของเขาอย่างรวดเร็ว พอจัดการเรียบร้อย ชายหนุ่มก็กล่าวขอบคุณพวกเงือกที่เอาของมาให้

เหล่าเงือกไม่กล้าพูดอะไร พวกเขาโค้งคำนับแล้วออกไปทันที ฉู่เหินพอใจกับการลงมาใต้ทะเลครั้งนี้อย่างมาก เพราะฉะนั้นเขาจึงจะไปบอกลาแม่เฒ่าก่อนกลับ ตอนมาสองมือว่างเปล่า แต่ตอนกลับมีเต็มไม้เต็มมือ ช่างเป็นอะไรที่ดีเสียจริง!

เขาเชื่อว่าของในแหวนมิตินี้จะทำให้เกิดความฮือฮากันมากเป็นแน่ ไม่ต้องพูดถึงพวกหินห้วงลึกทมิฬเลย เพียงแค่พวกปะการังเปล่งแสงนั้นก็ทำราคาได้สูงเท่ากับพวกหินห้วงลึกทมิฬแล้ว เผลอ ๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

ถ้าเจ้าพืชหน้าตาประหลาด ๆ พวกนี้ได้ออกสู่โลกภายนอกแล้ว มันคงจะทำให้ทั้งโลกตกตะลึงเป็นแน่! ปกติแล้วต้นไม้ต้องเติบโตบนดิน และได้รับแสงแดด เพราะงั้นพืชที่อยู่ในน้ำพวกนี้จะต้องสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับคนบนบกได้อย่างแน่นอน

นี่ยังไม่นับหินรูปร่างประหลาดที่ถูกนำขึ้นมาอีก ฉู่เหินเชื่อเลยว่าเมื่อเขาเอามันออกสู่โลกภายนอกแล้ว เกรงว่าคงจะมีการตอบรับที่ดีแน่ ๆ เพราะรูปร่างและลวดลายบนหินไม่ใช่ฝีมือของคน หากแต่เป็นตามธรรมชาติ ซึ่งมันก็สวยงามราวกับรูปวาดเลยทีเดียว

บางอันดูเหมือนสิงโตที่ดูน่าเกรงขาม บางอันดูเหมือนช้างที่ทรงพลัง บางอันก็ดูเหมือนกับต้นไม้ ยิ่งดูใกล้ ๆ แล้วมันก็จะดูเหมือนว่าลวดลายเหล่านี้มันมีชีวิตยังไงยังงั้น

สำหรับหินพวกนี้ ฉู่เหินยังไม่ได้คิดที่จะขายพวกมัน เขากะจะเอาพวกมันไปจัดสวนที่บ้านของเขาก่อน หินเหล่านี้เกิดขึ้นจากฝีมือของธรรมชาติ ดังนั้นฉู่เหินจึงมั่นใจว่าหินพวกนี้จะดึงดูดความสนใจ และสร้างความประทับใจให้กับแขกที่มาเยี่ยมชมบ้านของเขาได้แน่

หลังจากเดินอยู่ใต้ทะเล เวลาก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ฉู่เหินรู้ว่าตอนนี้บนบกคงจะฟ้ามืดหมดแล้ว หากแล่นเรือตอนนี้คงจะอันตราย แต่ถึงจะอย่างงั้น ฉู่เหินก็รู้ดีว่าเขาต้องกลับไปให้เร็วที่สุด เพราะหลิวจ้านซานดันรู้ว่าวันนี้เขาออกเรือด้วยนะสิ

ถ้ากลับไปช้าแล้วทำให้พ่อตาในอนาคตต้องเป็นกังวลคงจะไม่ดี ในตอนที่ฉู่เหินครุ่นคิดอยู่ ก็มีปลาทูน่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งมาอยู่ใกล้ ๆ เขา ฉู่เหินมองพิจารณา ปลาทูน่าตัวนี้ไม่ได้แตกต่างจากตัวอื่นมากนัก เพียงแต่ตัวของมันค่อนข้างใหญ่มากเลยทีเดียว

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เหินเห็นทูน่าตัวกว่า 10 เมตรแบบนี้ ฉู่เหินตกใจจนอ้าปากค้าง เขาได้แต่หัวเราะต่อความโชคดีนี้

“คุณมีพระคุณต่อเผ่าเงือกและต่อทะเล เรารู้ว่าคุณจะขึ้นไปบนผิวน้ำจึงจะไปส่ง” ทูน่าที่เห็นว่าฉู่เหินกำลังงงจึงอธิบายอย่างช่วยไม่ได้

เขาเคยขี่ม้าขี่วัว แต่เขาไม่เคยขี่ปลามาก่อน แค่คิดก็รู้สึกสนุกแล้ว ฉู่เหินพยักหน้ารับทันทีที่อีกฝ่ายอนุญาต ชายหนุ่มเดินไปขี่หลังของมัน จากนั้นการเดินทางของเขาก็รวดเร็วราวกับติดปีก

ฉู่เหินนั้นสำรวจไปรอบ ๆ ทีแรกเขาก็รู้สึกสบายดี แต่ชายหนุ่มก็รู้ตัวว่าตัวเองนั้นคิดผิด ปลาตัวนี้มันเคลื่อนที่เร็วราวกับกระสุน

ฉู่เหินเริ่มรู้สึกพะอืดพะอมเล็กน้อยตอนที่อยู่ใกล้กับผิวทะเล แต่พอผ่านไปประมาณ 10 นาทีเขาก็เริ่มชิน ชายหนุ่มเอาเข็มทิศออกมาเพื่อดูทิศทาง ก่อนจะบอกทูน่าว่าจะต้องไปทางไหน ซึ่งพอรู้ มันก็ว่ายต่อไปด้วยความเร็วสูงทันที

เรือชมสมุทรนั้นล่องไปในทะเลอย่างช้า ๆ ท้องทะเลยามค่ำคืนช่างสวยงาม ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันเงียบสงบส่องแสงสะท้อนกับท้องทะเล มันราวกับพวกเขาอยู่ในเทพนิยาย! ชายหนุ่มหญิงสาวบางคนนั่งอยู่บนเรือ พวกเขาพากันหัวเราะต่อกระซิกและนั่งดูท้องทะเลที่ไกลสุดลูกหูลูกตา

“ที่รัก เชื่อผมเถอะ ผมรักคุณจริง ๆ นะ ถ้าผมโกหกขอให้อสูรกายทะเลมากินผมได้เลย!” มีชายผมทองคนหนึ่งสารภาพกับหญิงสาว

เมื่อสิ้นคำกล่าวนั้น ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยเสน่หา แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อไป เธอก็บันดาลโทสะแล้วตบชายผมทองที่เธอคุยด้วย

“คนโกหก หันหลังไปดูเองเถอะ คำสาบานของคุณออกมาแล้วไง” หญิงสาวพูดจบก็หันหลังแล้วเดินจากไป ชายหนุ่มจึงหันหน้าไปมองตามทิศทางนั้นด้วยความมึนงง

“โอ้มายก๊อด! นั่นอะไรน่ะ? นั่นมันสัตว์ประหลาดเหรอ?” ด้วยเสียงตะโกนที่ดังลั่น ทุกคนต่างหันไปมองกันเป็นตาเดียว พวกเขาเห็นเข้ากับร่างใหญ่ยักษ์ว่ายผ่านไปด้วยความเร็วสูง ร่างที่ปรากฏนั้นใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่าสัตว์ประหลาดมาก

สิ่งนั้นทำให้ทุกคนบนดาดฟ้ากรีดร้องกันหมด บางคนรีบหยิบกล้องออกมาเพื่อถ่ายรูปสิ่งนั้น

“โอ้พระเจ้า ดูสิ หลังของเจ้าตัวนั้นมีเงาคนอยู่แล้ว หรือว่าเป็นอัศวินในตำนาน? เท่มากเลยอ่ะ” หญิงสาวผมทองพูดอย่างโอเว่อร์

“อัศวินงั้นเหรอ? คุณหล่อมากเลยค่ะ ฉันรักคุณ!” พวกผู้หญิงบนดาดฟ้ากรีดร้องด้วยความบ้าคลั่ง

“ท่านอัศวินคะ! พาฉันไปด้วย!”

ฉู่เหินไม่รู้ว่าด้านหน้าเป็นยังไง เพราะทูน่านั้นว่ายเร็วเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถลืมตาได้เลย เขาได้ยินเสียงเพียงแค่ตะโกนที่ฟังไม่รู้เรื่อง

ดังนั้นฉู่เหินจึงทำการกวักมือทักทายไปยังทิศทางของเสียง ก่อนที่ปลาทูน่าที่เขาขี่อยู่นั้น จะหายไปจากสายตาของทุกคนในชั่วพริบตา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+