สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 344 ผลประโยชน์

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 344 ผลประโยชน์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 344 ผลประโยชน์

บทที่ 344 ผลประโยชน์

หลังจากได้ยินที่ฉู่เหินพูด หยูเหวินชิงเฟิงก็คลี่ยิ้มออกมา ที่จริงเขาได้คิดเอาไว้อยู่แล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงยังไม่รีบคาดว่าจะได้ขึ้นเป็นนิกายระดับ 1

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้นิกายกิเลนของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้พวกเขามีศักยภาพพอที่จะขึ้นเป็นนิกายระดับ 1 แต่ก็อย่างที่ฉู่เหินพูดเอาไว้ว่าการจะเป็นนิกายระดับ 1 นั้นไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าในโลกใบนี้เดิมทีพวกเขาก็ไม่ได้มีอำนาจอะไร แถมยังไม่มีอิทธิพล หยูเหวินชิงเฟิงคิดที่จะมองหาพลังภายนอกมาเสริมเช่นตระกูลจอมยุทธ์โบราณมากมายในโลกใบนี้ แต่เสียดายตระกูลจอมยุทธ์โบราณเหล่านี้ล้วนแต่ฉลาดและอยู่กันอย่างลึกลับ

แต่พวกเขาไม่ได้อยู่อย่างสุขสบาย กลับกันพวกเขาทุ่มเทฝึกฝนวิชาอย่างบ้าคลั่ง! พวกเขาเคยเจอเรื่องราวอันโศกเศร้ามาหลายครั้ง เพราะงั้นหลายตระกูลก็เลยไม่ยอมเป็นมิตรกับใครในยุทธภพอีกเลย!

แถมเวลาพวกเขารับศิษย์เข้านิกายก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก เพราะกฎการรับเข้านิกายกิเลนนั้นจะต้องมีความซื่อสัตย์ ดังนั้นพวกเขาจึงร่อนเร่เดินทางค้นหาไปทั่วโลก ปกติแล้วพวกเขาจะส่งศิษย์ให้เดินทางออกไปเพื่อหาศิษย์ที่มีความสามารถกลับเข้านิกายนั้นเอง!

ทว่าคาดไม่ถึงคือน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ จนทุกวันนี้ศิษย์นิกายกิเลนของเขาก็ยังมีคนไม่ถึง 10,000 คนด้วยซ้ำ จำนวนเท่านี้ไม่อาจเปรียบเทียบกับนิกายระดับ 1 ได้เลย แม้แต่จะเปรียบเทียบกับนิกายระดับ 2 ด้วยกันแล้วก็ยังถือว่าน้อยสุด ๆ

แต่ขณะที่เขากำลังกลัดกลุ้มใจอยู่นั้น คาดไม่ถึงว่าฉู่เหินจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา อีกทั้งยังคิดให้เองเสร็จสรรพ นี้จึงทำให้เขาดีใจจนไม่รู้จะพูดยังไงดี

หยูเหวินชิงเฟิงไตร่ตรองสักพัก ก่อนจะพูดแสดงความคิดเห็นออกมา

“การจะจัดการกับเรื่องทั้งสามที่กล่าวมานั้นไม่ยาก ในยุทธภพข้างนอกนั่นไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับนิกายหนึ่งย่อมต้องมีเส้นมีสาย อีกทั้งการจะได้ความร่วมมือจากพวกเขาก็มีจำกัด ทำไมเราไม่ร่วมมือกับพวกทหารดูละ ฉันน่าจะสามารถติดต่อผสานกับพวกเขาได้นะ”

ขอบเขตการร่วมมือที่่่หยูเหวินชิงเฟิงคิดก็คือ หาสถานที่บางแห่งสำหรับการฝึกกองทัพทั้งยังจะช่วยฝึกทหารให้อีกฟรี ๆ และถ้าทหารเหล่านี้สนใจหลังปลดประจำการพวกเขาก็สามารถเข้าเป็นศิษย์ของนิกายได้ พวกเขาจะประเมินอย่างละเอียดว่าเก่งพอหรือไม่ แล้วค่อยรับเข้าเป็นศิษย์ในนิกาย

การเป็นศิษย์ในนิกายนั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลลับเฉพาะของนิกายได้ แต่ข้อมูลลับนั้นก็มีเฉพาะศิษย์ในแต่ละกลุ่มอีกที เมื่อมีข้อมูลรั่วออกไปคนทรยศก็คือหนึ่งในคนกลุ่มนั้นอย่างแน่นอน ถ้าแบบนี้พวกเราก็จะสามารถคัดเลือกคนที่จริงใจจากแต่ละกลุ่มได้ แล้ว จากนั้นถึงค่อยรับเข้ามาในนิกายกิเลนสาขาใหญ่แห่งนี้

ผลประโยชน์นี้ฝ่ายทหารไม่น่าจะต่อต้านอย่างแน่นอนและถ้าหากมีเหตุการณ์อะไรพิเศษ นิกายกิเลนก็พร้อมจะเข้าช่วยเหลือ!

ครั้งนี้เขาก็สนใจคนที่ชื่อว่าซ่างกวนชิงเฟิง เขาเป็นผู้นำตระกูลซ่างกวนและยังท่าทางเป็นมิตร เขาคิดว่าเราน่าจะร่วมมือกันได้ อย่างน้อยที่สุดตระกูลซ่างกวนก็ไม่น่าจะทรยศพวกเรานิกายกิเลน!

ถ้าหากตระกูลซ่างกวนสนใจ นิกายกิเลนก็จะยอมรับคนในตระกูลมาเป็นศิษย์นอกนิกายก่อน จากนั้นก็วางแผนการคัดเลือกคน ถ้ามีคนที่เหมาะสมพวกเขาก็พร้อมจะให้เป็นศิษย์ภายในนิกาย แน่นอนว่าอันดับแรกจะต้องผ่านการทดสอบนิกายกิเลนเสียก่อน

นี้เหมือนเป็นการไปสร้างนิกายสาขาไว้ที่แผนดินใหญ่ อาศัยเหล่าเด็กน้อยข้างนอกสร้างนิกายสาขา เขาที่เป็นสาขาใหญ่ก็จะส่งคนมีฝีมือไปช่วยฝึกสอน และเพื่อปกป้องไม่ให้นิกายอื่นเข้ามาแทรงแซงภายใน ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นสาขาย่อย แต่ก็ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง

ไม่เพียงแค่นั้น ลูกศิษย์ทุกคนต้องคัดเลือกมาอย่างดี หยูเหวินชิงเฟิงรู้จักค่ายกลอยู่อย่างหนึ่งชื่อว่าค่ายกลเหวิ่นซิน เพียงแค่มีคนเข้ามาในภายในค่ายกลก็จะถูกพลังค่ายกลทำให้เกิดอาการสับสนมึนงง ถามอะไรเขาก็จะตอบอย่างนั้น ดังนั้นขั้นตอนการคัดเลือกลูกศิษย์จะต้องถูกส่งเข้ามาในค่ายกลเหวิ่นซินแห่งนี้ แค่นี้ก็รับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด

ในเมื่อนิกายกิเลนอยากไปเป็นนิกายระดับ 1 งั้นก็ต้องทำมันให้เด็ดขาดก่อนอื่นพวกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมและวางแผนป้องกันให้ดี ถ้าสาขาภายนอกเกิดภัยพิบัติ สาขาใหญ่ก็ต้องอยู่รอด ฉู่เหินบอกเขาว่ารู้วิธีการสร้างค่ายกลเป็นอย่างดี ฉู่เหินเลยแนะนำให้สร้างค่ายกลป้องกันที่ไร้เทียมทานเอาไว้ก่อนจะดีที่สุเ แต่การปกป้องหุบเขากิเลนจำเป็นต้องใช้ค่ายกลขนาดใหญ่ถึงจะเหมาะสม การจะสร้างค่ายกลแบบนั้นอาศัยความสามารถของฉู่เหินในตอนนี้ยังไม่เพียงพอ

แต่ถ้าเอาค่ายกลนี้มาเป็นตัวกลางและใช้พลังของหยูเหวินชิงเฟิงกับเหล่าราชาและผู้อาวุโสต่าง ๆ ก็จะสร้างค่ายกลที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานขึ้นมาได้เพราะยิ่งวรยุทธ์ของผู้สร้างค่ายกลสูงส่ง ค่ายกลก็ยิ่งแข็งแกร่ง

หลังจากคุยเรื่องสร้างค่ายกลแล้ว ฉู่เหินก็พูดถึงการประลองร้อยนิกาย การประลองร้อยนิกายครั้งนี้ต้องได้ระดับสูง ๆ ในการประลองถึงจะดีที่สุด

ฉู่เหินได้ยินมาจากเหล่าศิษย์แล้วว่า การประลองร้อยนิกายในครั้งนี้ทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น 3 รายการ และไม่แยกแบ่งระดับขั้น แต่แยกตามอายุ!

รายการแรก ให้เข้าร่วมได้แค่อัจฉริยะในวัยไม่เกิน 30 ปี รายการนี้ ฉู่เหินจะเข้าร่วมเอง แม้เขาจะรู้ว่านิกายใหญ่ ๆ คงส่งศิษย์ที่ไม่ธรรมดามาลงแข่ง แต่ด้วยความสามารถของเขา ต่ำกว่าขั้นทรราชดาราไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังเหลือเวลาอีกตั้ง 3 เดือน ภายในเวลา 3 เดือนนี้ เขายังก้าวหน้าได้อีก

หยูเหวินชิงเฟิงเมื่อได้ยินที่ฉู่เหินพูด มุมปากก็อดกระตุกไม่ได้ ต้องเข้าใจว่าหลังจากเลื่อนเป็นขั้นผู้พิชิตดารานั้นการจะทะลวงพลังแต่ละระดับยากลำบากมาก แม้แต่อัจฉริยะเองถ้าจะทะลวงระดับต่อไปก็ต้องกินเวลาหลายเดือน ซึ่งภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้จะทะลวงพลังได้กี่ระดับกัน ทำไมถึงกล้าพูดแบบนี้ แม้แต่เขาก็ไม่กล้าเชื่อเรื่องแบบนี้จริง ๆ

แต่เขาไม่สงสัยในคำพูดของฉู่เหิน ถ้าเป็นคนอื่นพูดล่ะก็เขาไม่เชื่อแน่นอน แต่เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจากตัวฉู่เหินอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ขณะที่เขากำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ฉู่เหินก็พูดต่อ “ส่วนรายการที่สองสำหรับ คนที่อายุไม่เกิน 50 ปี ก็ให้ส่งโป๋อีกู่ไป ผมเชื่อว่าเขามีศักยภาพมากพอ แม้เขาจะเพิ่งเลื่อนเป็นขั้นจักรพรรดิดารา แต่ภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้ เขาจะต้องได้เลื่อนขั้นเป็นขั้นจักรพรรดิดาราระดับ 2 ไม่ก็ระดับ 3 ได้แน่ ๆ เขาเป็นจักรพรรดิดาราตอนอายุแค่ 30 กว่าและมีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย เขาจะต้องได้อันดับที่ 1 อย่างแน่นอน!”

เมื่อฟังที่ฉู่เหินอธิบายจบ หยูเหวินชองเฟิงก็พยักหน้า ที่จริงแล้วเขาก็คิดแบบนั้น เมื่อวิเคราะห์ดี ๆ แล้วถ้าสำเร็จมันจะทำให้นิกายกิเลนของพวกเขามีชื่อเสียงขึ้นอีกมาก

ถ้าเป็นไปตามที่คิดกันสองคนทั้งหมด จากนี้ไปจะเป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองของนิกายกิเลนอย่างแท้จริง!

ทั้งสองคนหารื้อกันอีกนาน กว่าทั้งสองจะพูดจบท้องฟ้าก็เปลี่ยนสี แต่นัยน์ตาของทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยความสุข ไม่มีความกลุ้มใจใด ๆ อยู่เลย

ในตอนที่ฉู่เหินเดินทางกลับที่พัก ผู้อาวุโสจางก็โทรมาพอดีหลังจากเล่าให้ผู้อาวุโสจางฟังอย่างละเอียดแล้ว ตอนแรกผู้อาวุโสจางก็ไม่เชื่อจนเงียบเสียงไป ถ้าหากในโลกใบนี้มีกลุ่มผู้แข็งแกร่งแบบนั้นอยู่จริง ๆ พวกเขาก็ต้องพร้อมตัวให้พร้อมโดยเร็ว

แม้ผู้อาวุโสจางจะบอกว่าไม่กลัวผู้ฝึกยุทธเหล่านี้ แต่ถ้าทำสงครามฆ่ากันขึ้นมาสุดท้ายใครจะเป็นคนชนะก็ยากตัดสิน ยิ่งถ้าคนเก่ง ๆ ในยุทธภพออกมาพร้อมกันไม่รู้ว่าโลกจะวุ่นวายขนาดไหน! ดังนั้นเพื่อรับประกันว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด เขาให้คำตอบแก่ฉู่เกินและบอกให้ฉู่เหินคอยส่งข่าวเพื่อผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้กลับมาด้วย

ที่มีความสุขที่สุดเห็นจะเป็นซ่างกวนชิงเฟิง เพราะเขาได้ตามที่ปรารถนาทุกอย่างต้องขอบคุณฉู่เหินจริง ๆ! แต่ฉู่เหินกล่าวเตือนเขาอีกว่า ถ้าเลือกนิกายกิเลนเป็นที่พึ่งพิงแล้ว ในอนาคตห้ามทรยศต่อกัน ไม่งั้นเขาจะไม่ช่วยเด็ดขาด!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด