สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 234 ป้องกันอย่างแน่นหนา

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 234 ป้องกันอย่างแน่นหนา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 234 ป้องกันอย่างแน่นหนา

บทที่ 234 ป้องกันอย่างแน่นหนา

หลังวางค่ายกลฉู่เหินก็ออกมาซ่อนตัวอยู่ไกลๆ และเฝ้ามองอย่างเงียบๆ ในที่สุดคนพวกนี้ก็ตกหลุมพรางของฉู่เหิน เขาหันหลังแล้ววิ่งหนีลงจากเขาเทียนซานอย่างไม่ลังเล แม้จะเห็นว่ามีคนหลบหนีออกมาได้เขาก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาคิดว่าคนที่หลบหนีมาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่ๆ ตอนนี้เลยเป็นโอกาสดีที่เขาจะหนีไปจากการซุ่มโจมตีของฝ่ายตรงข้าม

ขณะที่ฉู่เหินหนีไปไกล ชายชราที่หนีออกมาจากค่ายกลก่อนใครก็ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้น หญิงชราที่ตอนแรกคิดว่าใช้คนจำนวนมากขนาดนี้ต้องจับตัวฉู่เหินได้แน่ๆ ทว่าเธอไม่คิดว่ามันเป็นความประมาทครั้งใหญ่ของเธอ!

เกือบทั้งหมดที่ถูกส่งไปนั้นเป็นกองกำลังส่วนตัวของเธอและถ้าทุกคนตายหมด มันจะกลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของเธอเลย เมื่อคิดถึงตรงนี้เธอก็เตรียมตัวออกไปช่วย ด้วยระดับพลังของเธอในตอนนี้ เป็นเรื่องง่ายมากที่จะทำลายค่ายกลของฉู่เหิน แต่หากเธอเลือกทำเช่นนั้นก็เท่ากับเป็นการปล่อยฉู่เหินให้หนีไปได้

จากข้อมูลที่เธอมีตอนนี้ฉู่เหินมีทักษะที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเขาใช้ความสามารถทั้งหมดออกมา ภายใน 5-10 นาที เขาจะหลบหนีไปจากภูเขาเทียนซานได้อย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นเธอเกรงว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจับเขาได้อีกครั้ง เธอเริ่มไม่สนใจคนที่ติดอยู่ในค่ายกลเธอตรวจสอบทั่วทุกพื้นที่โดยรอบด้วยพลังของเธอ หากตอนนี้ฉู่เหินหนีออกไปข้างนอกแล้วจริงๆ เธอคงต้องลงจากภูเขาไปด้วยตัวเองซึ่งนั่นทำให้เธอกังวลอยู่ไม่น้อย ในโลกอันกว้างใหญ่นี้ อย่าคิดว่าพวกสันโดษไม่สังกัดสำนักใดๆ จะอ่อนแอไปซะทั้งหมด จริงๆแล้วมีเพียงยอดฝีมือระดับสูงเท่านั้นที่เป็นพวกสันโดษแถมยังเยอะมากอีกด้วย คนพวกนี้กำลังเล่นเกมชีวิตอย่างสนุกปะปนอยู่ในโลกมนุษย์ บางคนอาจแกล้งทำเป็นขอทาน บางคนแกล้งทำเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวย

เหตุผลแรกที่พวกเขาสนุกกับตัวตนปลอมๆเป็นเพราะพวกเขาชอบความเงียบสงบไร้ซึ่งการต่อสู้ แน่นอนว่าคนเหล่านี้ก่อนออกจากสำนักพวกเขาได้เตรียมผู้สืบทอดของตนเองเอาไว้แล้ว! พวกเขาทุกคนเป็นคนที่เธอไม่อาจเข้าไปยุ่งด้วยได้ ดังนั้นการลงจากภูเขาไปมีโอกาสที่เธอจะเจอกับคนพวกนี้สูงมากเธอเลยไม่อยากลงไปในเมืองเอง

หญิงชราตัดสินใจว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการจับตัวฉู่เหินให้ได้ก่อน หากเธอได้ดูดกลืนแก่นแท้ของฉู่เหินได้ มันอาจทำให้เธอทะลวงขั้นพลังต่อไปได้เลย ดังนั้นเธอต้องจับตัวฉู่เหินแล้วเอามันมาดูดซับแก่นแท้จนเสร็จเกลี้ยงให้ได้

ด้วยวิธีนี้เธอจะแข็งแกร่งจนไม่ต้องเกรงกลัวใคร ฉู่เหินถือว่ามีประโยชน์ต่อเธอมาก ดังนั้นเมื่อนำเอาทั้งสองมาชั่งน้ำหนักความสำคัญ เธอจึงเลือกละทิ้งพวกพ้องและไล่ตามฉู่เหินไป

เหตุผลที่ฉู่เหินวางค่ายกลไม่ใช่เพราะต้องการฆ่า แต่เพราะต้องการให้กำลังเสริมในค่ายกลออกมา แบบวิธีนี้เขาจะสามารถหลบหนีจากภูเขาเทียนซานได้อย่างปลอดภัย แต่เขาไม่คิดเลยว่า เขาจะมีความสำคัญต่ออีกฝ่ายมากจนถึงกับยอมทิ้งลูกน้องหลายร้อยคนแล้วเลือกที่จะไล่ล่าเขาแทน

ขณะที่ฉู่เหินรีบวิ่งลงจากภูเขา ก็เห็นว่าข้างๆ ต้นไม้มีกลุ่มคนยืนอยู่และคาดว่าทั้งหมดน่าจะเป็นผู้หญิงในดวงตาของพวกเธอมีเสน่ห์บางอย่าง ทันทีหลังจากที่พวกเธอปรากฏตัวขึ้น พวกเธอก็ยักคิ้วหลิ่วตา พร้อมกับจับแหวกเสื้อผ้าตัวเอง

คนหนึ่งถอดเสื้อคลุมของเธอออกมองดูจากระยะไกลๆ ดูราวกับว่าเธอกำลังเปลื้องผ้าอยู่เลย แม้ว่าพวกเธอจะอยู่ไกล แต่ฉู่เหินก็สามารถเดาได้เลยว่าคนเหล่านี้ฝึกวิชาแบบเดียวกันกับเม่ยซานเหนียง เพียงแค่มองดูพลังยั่วยวนของพวกเธอก็รู้ซึ้งในทันที

ดวงตาของเขาดูเคลิ้มอยู่เล็กน้อย แต่ความเร็วในการวิ่งนั้นไม่ลดน้อยลงเลย เมื่อเห็นดวงตาเหม่อลอยของฉู่เหิน พวกเธอก็แอบดีใจ ถ้านับจากเสน่ห์ของพวกเธอเองแล้ว เสน่ห์ของเม่ยซานเหนียงยังด้อยกว่าพวกเธอมากนัก ด้วยเหตุนี้คนเหล่านี้จึงมั่นใจในเสน่ห์ของพวกเธอมาก

เมื่อเห็นว่าฉู่เหินอยู่ไม่ไกลไม่ใกล้ พวกเธอก็พากันตื่นเต้น ในตอนนี้เองพวกเธอได้ตัดสินใจแล้วว่า จะพาฉู่เหินกลับไปเพื่อขอผลงานจากการจับกุมเขา

ผู้หญิงบางคนใจกล้ากว่าคนอื่น เริ่มบิดเอวผอมๆดุจดั่งต้นหลิว ก้าวย่างเดินไปทางฉู่เหินทีละก้าว! ถ้าเม่ยซานเหนียงอยู่ที่นี่ละก็ เธอจะหลับตาลงอย่างอับอาย คุณก็รู้ว่าครั้งที่แล้วเธอก็ใช้วิธีเดียวนี้แหละ!

เมื่อฉู่เหินวิ่งไปทางผู้หญิงเหล่านี้อยู่ๆ เขาก็ชะงักกระทันหัน แต่เขาไม่ได้หยุดวิ่งเขาชกหมัดทั้งสองข้างออกไปอย่างแรง กระแทกลงบนหน้าอกของผู้หญิงทั้งสองคนอย่างโหดเหี้ยม

เสียงกิเลนคำรามออกมาจากกำปั้นผ่านลม เจาะทะลุหน้าอกทั้งสองทันทีแม้แต่ผู้หญิงโดยชกหน้าอกทะลุยังไม่อาจตอบสนองได้ทัน พวกเธอก้มลงมองก็พบว่ามีรูอยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของพวกเธอพอดี

หลังจากใช้หมัดกิเลนและดัชนีกิเลนจัดการพวกเธอแล้ว ฉู่เหินก็ไม่รอช้าเขาหันหลังวิ่งต่อทันที ในขณะที่วิ่งดวงตาของเขาก็หดแคบลงอย่างครุ่นคิด ดูเหมือนว่าในการไล่ล่าจับตัวเขาครั้งนี้ เม่ยซานเหนียงไม่ได้ร่วมด้วย!

ฉู่เหินไม่เข้าใจหรือเขาเข้าใจเม่ยซานเหนียงผิดจริงๆ ตั้งแต่ต้นจนจบครั้งนี้มีแค่อาจารย์ของเธอเท่านั้นที่ลงมือ ทำให้ฉู่เหินได้แต่สงสัยว่าทำไมเพราะเขากับเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีเท่าไรนัก ทำไมครั้งนี้เธอถึงไม่ออกมา

ความจริงก็คือ เม่ยซานเหนียงได้บอกเล่าถึงความสามารถของฉู่เหินกับอาจารย์ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของอาจารย์เธอเปล่งประกาย ในตอนแรกเม่ยซานเหนียงไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่เมื่อเธอรู้ว่าอาจารย์ของเธอคิดจะแย่งชิงร่างกายของเธอไป เธอก็ไปค้นหาหนังสือโบราณมาอ่าน หลังจากได้รับคำตอบ เธอก็ได้รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมอาจารย์ของเธอถึงอยากได้ตัวฉู่เหินนัก

สิ่งที่อาจารย์กำลังฝึกฝนคือวิชาต้องห้ามของสวรรค์ที่ถูกเรียกว่า ‘เก้าภพแห่งกรรม’ วิชาเก้าภพแห่งกรรมนี้ สามารถแย่งร่างกายคนอื่นมาได้เก้าครั้ง เกิดใหม่เก้าครั้ง จึงจะถือว่าฝึกฝนสำเร็จอย่างแท้จริง เมื่อสำเร็จวิชาแล้ว พลังของมันเกินกว่าที่จะหยั่งถึงอาจทำให้สามารถเลื่อนขั้นเป็นขั้นบรรพชนดาราแล้วก้าวข้ามไปยังขั้นทรราชดารา ขั้นราชันดารา หรือขั้นจักรพรรดิดาราได้เลย

หากนี่เป็นความจริง แม้จะไม่ถือว่าไร้เทียมทานในใต้หล้า แต่อย่างน้อยก็คงมีเพียงคนไม่กี่คนที่กล้าสู้อาจารย์ของเธอ ข้อเสียของการฝึกฝนด้วยวิธีนี้คือทุกครั้งที่เกิดใหม่ระดับพลังจะลดลง แต่หากได้เลือดของคนที่มีความสามารถพิเศษ ไม่เพียงแต่จะสามารถฝึกฝนต่อจากร่างเดิมได้เลยยังสามารถทะลวงระดับพลังต่อจากเดิมได้ทันที!

เห็นได้ชัดว่าหลังจากอาจารย์ได้ยินที่เม่ยซานเหนียงเล่า เธอก็คิดว่าฉู่เหินเป็นอัจฉริยะไร้คู่เปรียบ ที่สำคัญที่สุดคือเป็นอัจฉริยะที่ไม่สังกัดสำนักไหนเลย เพราะเรื่องนี้ทำให้สอดคล้องกับมาตรฐานของเธอ และฉู่เหินก็กลายเป็นผู้เสียสละในใจเธออย่างสมบูรณ์ เขาเป็นลูกรักของสวรรค์ที่โชคไม่ดี

กลับมาที่ ฉู่เหิน หลังจากจัดการกลุ่มผู้หญิงอย่างโหดเหี้ยม ฉู่เหินก็หันหลังและหนีไปทันที ในตอนนี้เขาไม่อาจรอช้า หากประมาทเขาต้องตายอย่างแน่นอนระหว่างทางเขาต้องลุยฝ่าอันตรายไม่หยุด มีผู้คนมากมายไล่ล่าและปิดกั้นเส้นทาง แต่สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกโล่งใจคือระดับการฝึกตนของคนเหล่านี้ไม่ได้สูงนัก

ขณะที่วิ่งอยู่ฉู่เหินก็รู้สึกใจสั่น ราวกับว่ามีบางสิ่งไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้น หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ซ่อนแหวนมิติไว้ในมือของเขาทันที แหวนมิตินี้มีระดับค่อนข้างสูง มันสามารถซ่อนอยู่ในเลือดและเนื้อได้โดยไม่ถูกค้นพบโดยผู้อื่นได้

เมื่อเขามองไปที่ทางออกตรงหน้า ฉู่เหินก็เห็นประกายแห่งความหวัง แต่เพราะไม่มีการป้องกันในจุดสำคัญแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจหรือว่าอีกฝ่ายยอมแพ้แล้ว? แต่มันก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะไม่มีใครตามมา

ขณะที่เขาวิ่งต่อไปนั้น เขาก็เห็นหญิงชราคนหนึ่งที่ทางแยกตรงเชิงเขา เธอยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับไม้เท้า แวบแรกที่ได้เห็นหญิงชราคนนี้ฉู่เหินก็สัมผัสได้ถึงอันตราย เขาไม่ลังเลที่จะปล่อยกระต่ายต้องสาปออกมาให้มันใช้พลังของมันสาปเธอ

หญิงชรายืนอยู่อย่างสงบ ทันใดนั้นก็ราวกับมีบางอย่างเข้ามาในร่างกายของเธอ แต่เธอไม่สนใจเพราะเธอรู้ว่ามันคือลูกเล่นของฉู่เหิน ซึ่งไม่ว่ากลอุบายของคู่ต่อสู้จะเป็นยังไงภายใต้การควบคุมของเธอทุกอย่างที่อีกฝ่ายทำนั้นช่างอ่อนแอและไร้ประโยชน์ ตอนนี้ฉู่เหินยืนอยู่ที่เดิมอย่างเงียบๆ ให้ความรู้สึกกับผู้มองดูราวกับเป็นชายผู้ไม่อาจเข้าถึงราวกับบ่อน้ำลึกที่ไม่อาจหยั่งรู้ถึงก้นบ่อ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด