สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก

“ตกลง” หลังสิ้นคำพูดของฉู่เหิน เขาก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปอีกเล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็ไม่กลัวความร้อนเบื่องหน้านี้อีกต่อไปแล้ว

จากนั้นเขาก็เริ่มลงมือ พลังแห่งดวงดาวเริ่มเปล่งออกจากตัวเขา เปลวเพลิงค่อยๆ ห่อหุ้มตัวเขาอย่างช้าๆ พลังที่ฉู่เหินเปล่งออกมามีสายฟ้าอยู่ด้วย และสายฟ้าเองก็มีเปลวไฟในตัวมันเอง เมื่อผนวกทั้งสองเข้าด้วยกัน สถานการณ์จึงยังสงบนิ่ง

ฉู่เหินใช้พลังแห่งดวงดาวของเขาค่อย ๆ ประคองเปลวเพลิงขึ้นมา ก่อนที่จะนำมันมาที่ตัวเขา ทันทีเปลวเพลิงเข้ามาใกล้ตัว เสื้อผ้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน ฉู่เหินแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เปลวเพลิงเคลื่อนผ่านผิวของเขาเข้าไปในร่างกาย

มันเป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก ฉู่เหินรู้สึกเหมือนสมองของเขาลัดวงจร

หลังจากที่กองอัคคีเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว ความรู้สึกร้อนแผดเผาก็ทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง ฉู่เหินนึกว่าการรับดวงไฟเข้าร่างกายจะเป็นเรื่องง่าย เพราะเขาเองก็เสียค่าประสบการณ์ไปไม่น้อย แต่เขาไม่นึกเลยว่ามันจะร้อนราวกับจะเผาร่างกายของเขาถึงเพียงนี้

แม้จิตใจของฉู่เหินจะแข็งแกร่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา เขาไม่สามารถอดกลั้นความเจ็บปวดนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด ไม่อย่างนั้นแล้วร่างกายของเขาอาจโดนไฟเผาจนหมดสิ้นก็เป็นได้

ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ที่ยืนอยู่ข้างฉู่เหินรู้สึกโง่อย่างบอกไม่ถูก เธอเดินไปช่วยฉู่เหินไม่ได้ด้วยซ้ำ ความร้อนทำให้เธอต้องยืนห่างออกไป 5 ก้าว แต่ถึงจะห่างกันขนาดนั้นก็ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนราวกับกำลังโดนเผาไปทั้งร่าง

จู่ ๆ ความกลัวและความรู้สึกไร้ค่าก็เข้าเกาะกุมจิตใจ เมื่อเธอตกที่นั่งลำบาก ฉู่เหินรีบเข้ามาช่วยเธออย่างไม่ลังเล แต่เมื่ออีกฝ่ายกำลังเผชิญอันตราย เธอกลับช่วยเขาไม่ได้ เรื่องทั้งหมดนี่ทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก

เธอเห็นดวงไฟเข้าไปในร่างของฉู่เหิน แต่เธอไม่รู้ว่านั่นหมายความอย่างไร เธอคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ไม่มีทางออก แล้วจู่ ๆ เธอก็เอากล่องไม้ออกมาจากในอ้อมแขน สมบัติในกล่องไม้นี้อาจช่วยบรรเทาฉู่เหินจากความเจ็บปวดได้

เธออยู่ห่างจากฉู่เหินออกไปไม่กี่ก้าว และก็อยากส่งสมบัติชิ้นนี้ไปที่ปากของเขา แต่เธอก็ทำไม่ได้ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋จึงได้แต่คุกเข่าหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ฉู่เหิน ฉันขอโทษ ฉันขอโทษด้วยจริง ๆ ถ้านายไม่มากับฉัน นายก็คงไม่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างนี้” เมื่อยิ่งเศร้า เธอก็ยิ่งอยากร้องไห้ เมื่อยิ่งร้องไห้ เธอก็ยิ่งยากจะหยุดร้อง เธอทำได้แต่เปล่งเสียงร้องทั้งน้ำตาออกมาภายในถ้ำอันมืดมิด

เสียงร้องของเธอเล็ดลอดออกไปภายนอกผ่านรูเล็ก ๆ ซึ่งเสียงที่คนอื่นได้ยินกลับเป็นดั่งเสียงร้องไห้โหยหวนของภูตผีและเสียงเห่าหอนของหมาป่า แม้แต่คนที่กล้าหาญที่สุด เมื่อได้ยินเสียงนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็อดที่จะขนลุกทั้งตัวไม่ได้

“เสียงโคตรน่ากลัวเลย ที่นี่มีผีด้วยเหรอเนี่ย” ลูกพี่นักเลงที่กำลังตามล่าฉู่เหินกล่าวออกมา

แม้คนอื่น ๆ จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่พวกเขารู้ดีว่านี่จะต้องเป็นเสียงสัตว์ร้ายแน่ ๆ นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้ไม่มีใครกล้าแยกตัวไปเดินคนเดียวไกล ๆ

ในป่าข้างนอกที่บรรยากาศผิดกัน ตอนนี้มีนักเลงที่เก่งเรียนศิลปะป้องกันตัวโบราณเกือบ 10 คน พวกมันกำลังตามหา ฉู่เหินและซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ที่อยู่ข้างในป่า แม้แต่คนจากหน่วยงานราชการเองก็มาร่วมไล่ล่าพวกเขาด้วย ถึงตอนนี้ ป่าทั้งหมดกลายเป็นเขตหวงห้ามสำหรับคนภายนอก พวกเขาทั้งหมดปักใจเชื่อว่าทั้งสองคนต้องเข้าไปซ่อนตัวในป่าแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังตามหาไม่เจออยู่ดี แม้ว่าจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม

พ่อของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋อยากจะยอมยกกล่องไม้ให้พวกมันไป แต่เขาติดต่อลูกสาวไม่ได้เลย นั่นจึงทำให้เขากังวลใจอย่างมาก

ลึกลงไปที่ก้นถ้ำ ชีวิตของฉู่เหินกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างความเป็นและความตาย ฉู่เหินเริ่มอยากจะโวยวายขึ้นมาแล้ว

“โว้ยยย นี่มันระบบบ้าอะไรกันเนี่ย? ฉันเสียค่าประสบการณ์ไปแล้ว ไม่เห็นช่วยอะไรเลย จะเจ็บไปไหนวะเนี่ย ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป คงไม่ได้ตายเพราะไฟหรอก น่าจะเจ็บจนขาดใจตายแทน!”

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเสียงความคิดของเขาเท่านั้น เขาไม่สามารถอ้าปากได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้ร่างกายของเขาเกือบจะชักเพราะความเจ็บปวดที่กระจายไปทั่วร่าง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงต้องตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้แน่

โชคดีที่ความเจ็บปวดเริ่มบรรเทาลงหลังผ่านไป 1 ชั่วโมง หลังจากเหตุการณ์นี้ ฉู่เหินรู้แล้วว่าเขายังอ่อนด้อยแค่ไหน อย่าว่าแต่ปกป้องญาติและมิตรสหายเลย เขาอาจตายไปแล้วด้วยซ้ำถ้าเขาไม่ระมัดระวัง ดังนั้นเขาจึงตะโกนบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่า “ฉันต้องแข็งแกร่ง ต้องแข็งแกร่งกว่านี้”

ความคิดที่อยากจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เริ่มแทงรากอ่อน ตอนนี้มันได้กลายเป็นต้นกล้าที่หยั่งรากลึกเข้าไปในจิตใจของฉู่เหินแล้ว และเพราะความคิดนี้นี่เองที่จะทำให้เขาสร้างตำนานของตนเองในอนาคตต่อไป

หลังจากที่ความคิดนี้ฝังลึกเข้าไปในร่างกาย ทันใดนั้นฉู่เหินก็รู้สึกราวกับว่าเขาสามารถเอาชนะความรู้สึกเจ็บปวดนี้ได้ เหมือนกับว่ามันกลายเป็นเรื่องที่ไม่หนักหนาอะไรอีกแล้ว น่าแปลกที่พอเขาเอาชนะความรู้สึกนี้ได้ เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนัก

เขารีบลุกขึ้นเตะต่อยด้วยทักษะที่ได้มา แม้ฉู่เหินจะรู้ดีว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นสามารถใช้พลังแห่งดวงดาวนี้ได้แม้ในเวลาที่เขานั่งขัดสมาธิ แต่นั่นมันก็ไม่ได้ความผลลัพธ์จะดีเท่ากับลุกขึ้นมาต่อยมวยเสียหน่อย

ขณะที่เขาขยับร่างกายไปมาตามกระบวนท่า ฉู่เหินก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าทุกเซลล์ในร่างกายดูเหมือนจะสามารถรองรับพลังงานมหาศาลได้ ตอนนี้เขาสามารถชกได้ด้วยแรงอัดถึง 7-8 กิโลกรัมได้เลยถ้าเขาต้องการ

ถ้าเขาต่อยใครด้วยแรงอัดเท่านี้ ฉู่เหินเชื่อว่าแม้แต่นักเลงขาใหญ่ก็เอาไม่อยู่ และด้วยการแตะต่อยนี้เอง เปลวไฟที่เขาเพิ่งรับเข้าร่างกายก็เริ่มจะโผล่ออกมาพร้อมกับพลังแห่งดวงดาวของเขา

ฉู่เหินรู้สึกได้ถึงความสำเร็จของเขา มันเหมือนกับว่าเขาได้บรรลุอะไรบางอย่าง ตอนนี้เขารู้สึกดีไปทั้งร่างกาย และแน่นอนว่าสิ่งที่ชัดเจนที่สุดนั่นก็คือเขารู้สึกหิวขึ้นมาทันที

โชคดีที่ตอนใช้แหวนมิติครั้งล่าสุด เขาได้ทำเนื้อย่างตุนไว้เยอะมาก ดังนั้นเขาจึงหยิบเอาเนื้อเสือจากในแหวนออกมาทาน พอกินไปก็คิดไปว่าอยากให้มันกลิ่นหอมกว่านี้

ตอนนี้ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋หยุดร้องไห้แล้ว เมื่อเธอเห็นว่าฉู่เหินปลอดภัยดี เธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ถึงจะเห็นเขาเป็นปกติแล้ว เธอก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนในตัวของฉู่เหินอยู่ดี

“ฉู่เหิน กินสมบัติในกล่องนี้เถอะ”

ถึงฉู่เหินจะยังตั้งใจฝึก แต่เขายังได้ยินคำพูดของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ชัดเจน

“นั่นมันของของเธอ ฉันไม่แตะต้องมันหรอก ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า” เมื่อได้ยินฉู่เหินพยายามปลอบเธอ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ก็ร้องไห้ออกมาอีก

“ฉู่เหิน ฉันรู้ว่านายกำลังลำบากมาก ถึงขนาดนี้แล้วยังต้องเกรงใจอะไรฉันอีก รีบเอากล่องไม้ไปแล้วกินสมบัติด้านในเถอะ” เมื่อพูดจบ เธอก็โยนกล่องไม้สีหยกไปให้ฉู่เหิน

กล่องไม้เปิดออกทันทีเมื่อถึงมือเขา ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ได้ทำการเปิดกล่องนี้ก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เปิดออกมาเองเมื่อถึงมือของฉู่เหิน เมื่อเปิดออกฉู่เหินก็เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน

ภายในนั้นมีขิงสีแดงสดขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งทีมีใบไม้เล็ก ๆ ประดับอยู่ด้านบน แค่ดูก็รู้แล้วว่าขิงสีแดงนี้มันเต็มไปด้วยเลือด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก

“ตกลง” หลังสิ้นคำพูดของฉู่เหิน เขาก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปอีกเล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็ไม่กลัวความร้อนเบื่องหน้านี้อีกต่อไปแล้ว

จากนั้นเขาก็เริ่มลงมือ พลังแห่งดวงดาวเริ่มเปล่งออกจากตัวเขา เปลวเพลิงค่อยๆ ห่อหุ้มตัวเขาอย่างช้าๆ พลังที่ฉู่เหินเปล่งออกมามีสายฟ้าอยู่ด้วย และสายฟ้าเองก็มีเปลวไฟในตัวมันเอง เมื่อผนวกทั้งสองเข้าด้วยกัน สถานการณ์จึงยังสงบนิ่ง

ฉู่เหินใช้พลังแห่งดวงดาวของเขาค่อย ๆ ประคองเปลวเพลิงขึ้นมา ก่อนที่จะนำมันมาที่ตัวเขา ทันทีเปลวเพลิงเข้ามาใกล้ตัว เสื้อผ้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน ฉู่เหินแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เปลวเพลิงเคลื่อนผ่านผิวของเขาเข้าไปในร่างกาย

มันเป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก ฉู่เหินรู้สึกเหมือนสมองของเขาลัดวงจร

หลังจากที่กองอัคคีเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว ความรู้สึกร้อนแผดเผาก็ทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง ฉู่เหินนึกว่าการรับดวงไฟเข้าร่างกายจะเป็นเรื่องง่าย เพราะเขาเองก็เสียค่าประสบการณ์ไปไม่น้อย แต่เขาไม่นึกเลยว่ามันจะร้อนราวกับจะเผาร่างกายของเขาถึงเพียงนี้

แม้จิตใจของฉู่เหินจะแข็งแกร่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา เขาไม่สามารถอดกลั้นความเจ็บปวดนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด ไม่อย่างนั้นแล้วร่างกายของเขาอาจโดนไฟเผาจนหมดสิ้นก็เป็นได้

ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ที่ยืนอยู่ข้างฉู่เหินรู้สึกโง่อย่างบอกไม่ถูก เธอเดินไปช่วยฉู่เหินไม่ได้ด้วยซ้ำ ความร้อนทำให้เธอต้องยืนห่างออกไป 5 ก้าว แต่ถึงจะห่างกันขนาดนั้นก็ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนราวกับกำลังโดนเผาไปทั้งร่าง

จู่ ๆ ความกลัวและความรู้สึกไร้ค่าก็เข้าเกาะกุมจิตใจ เมื่อเธอตกที่นั่งลำบาก ฉู่เหินรีบเข้ามาช่วยเธออย่างไม่ลังเล แต่เมื่ออีกฝ่ายกำลังเผชิญอันตราย เธอกลับช่วยเขาไม่ได้ เรื่องทั้งหมดนี่ทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก

เธอเห็นดวงไฟเข้าไปในร่างของฉู่เหิน แต่เธอไม่รู้ว่านั่นหมายความอย่างไร เธอคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ไม่มีทางออก แล้วจู่ ๆ เธอก็เอากล่องไม้ออกมาจากในอ้อมแขน สมบัติในกล่องไม้นี้อาจช่วยบรรเทาฉู่เหินจากความเจ็บปวดได้

เธออยู่ห่างจากฉู่เหินออกไปไม่กี่ก้าว และก็อยากส่งสมบัติชิ้นนี้ไปที่ปากของเขา แต่เธอก็ทำไม่ได้ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋จึงได้แต่คุกเข่าหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ฉู่เหิน ฉันขอโทษ ฉันขอโทษด้วยจริง ๆ ถ้านายไม่มากับฉัน นายก็คงไม่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างนี้” เมื่อยิ่งเศร้า เธอก็ยิ่งอยากร้องไห้ เมื่อยิ่งร้องไห้ เธอก็ยิ่งยากจะหยุดร้อง เธอทำได้แต่เปล่งเสียงร้องทั้งน้ำตาออกมาภายในถ้ำอันมืดมิด

เสียงร้องของเธอเล็ดลอดออกไปภายนอกผ่านรูเล็ก ๆ ซึ่งเสียงที่คนอื่นได้ยินกลับเป็นดั่งเสียงร้องไห้โหยหวนของภูตผีและเสียงเห่าหอนของหมาป่า แม้แต่คนที่กล้าหาญที่สุด เมื่อได้ยินเสียงนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็อดที่จะขนลุกทั้งตัวไม่ได้

“เสียงโคตรน่ากลัวเลย ที่นี่มีผีด้วยเหรอเนี่ย” ลูกพี่นักเลงที่กำลังตามล่าฉู่เหินกล่าวออกมา

แม้คนอื่น ๆ จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่พวกเขารู้ดีว่านี่จะต้องเป็นเสียงสัตว์ร้ายแน่ ๆ นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้ไม่มีใครกล้าแยกตัวไปเดินคนเดียวไกล ๆ

ในป่าข้างนอกที่บรรยากาศผิดกัน ตอนนี้มีนักเลงที่เก่งเรียนศิลปะป้องกันตัวโบราณเกือบ 10 คน พวกมันกำลังตามหา ฉู่เหินและซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ที่อยู่ข้างในป่า แม้แต่คนจากหน่วยงานราชการเองก็มาร่วมไล่ล่าพวกเขาด้วย ถึงตอนนี้ ป่าทั้งหมดกลายเป็นเขตหวงห้ามสำหรับคนภายนอก พวกเขาทั้งหมดปักใจเชื่อว่าทั้งสองคนต้องเข้าไปซ่อนตัวในป่าแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังตามหาไม่เจออยู่ดี แม้ว่าจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม

พ่อของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋อยากจะยอมยกกล่องไม้ให้พวกมันไป แต่เขาติดต่อลูกสาวไม่ได้เลย นั่นจึงทำให้เขากังวลใจอย่างมาก

ลึกลงไปที่ก้นถ้ำ ชีวิตของฉู่เหินกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างความเป็นและความตาย ฉู่เหินเริ่มอยากจะโวยวายขึ้นมาแล้ว

“โว้ยยย นี่มันระบบบ้าอะไรกันเนี่ย? ฉันเสียค่าประสบการณ์ไปแล้ว ไม่เห็นช่วยอะไรเลย จะเจ็บไปไหนวะเนี่ย ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป คงไม่ได้ตายเพราะไฟหรอก น่าจะเจ็บจนขาดใจตายแทน!”

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเสียงความคิดของเขาเท่านั้น เขาไม่สามารถอ้าปากได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้ร่างกายของเขาเกือบจะชักเพราะความเจ็บปวดที่กระจายไปทั่วร่าง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงต้องตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้แน่

โชคดีที่ความเจ็บปวดเริ่มบรรเทาลงหลังผ่านไป 1 ชั่วโมง หลังจากเหตุการณ์นี้ ฉู่เหินรู้แล้วว่าเขายังอ่อนด้อยแค่ไหน อย่าว่าแต่ปกป้องญาติและมิตรสหายเลย เขาอาจตายไปแล้วด้วยซ้ำถ้าเขาไม่ระมัดระวัง ดังนั้นเขาจึงตะโกนบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่า “ฉันต้องแข็งแกร่ง ต้องแข็งแกร่งกว่านี้”

ความคิดที่อยากจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เริ่มแทงรากอ่อน ตอนนี้มันได้กลายเป็นต้นกล้าที่หยั่งรากลึกเข้าไปในจิตใจของฉู่เหินแล้ว และเพราะความคิดนี้นี่เองที่จะทำให้เขาสร้างตำนานของตนเองในอนาคตต่อไป

หลังจากที่ความคิดนี้ฝังลึกเข้าไปในร่างกาย ทันใดนั้นฉู่เหินก็รู้สึกราวกับว่าเขาสามารถเอาชนะความรู้สึกเจ็บปวดนี้ได้ เหมือนกับว่ามันกลายเป็นเรื่องที่ไม่หนักหนาอะไรอีกแล้ว น่าแปลกที่พอเขาเอาชนะความรู้สึกนี้ได้ เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนัก

เขารีบลุกขึ้นเตะต่อยด้วยทักษะที่ได้มา แม้ฉู่เหินจะรู้ดีว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นสามารถใช้พลังแห่งดวงดาวนี้ได้แม้ในเวลาที่เขานั่งขัดสมาธิ แต่นั่นมันก็ไม่ได้ความผลลัพธ์จะดีเท่ากับลุกขึ้นมาต่อยมวยเสียหน่อย

ขณะที่เขาขยับร่างกายไปมาตามกระบวนท่า ฉู่เหินก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าทุกเซลล์ในร่างกายดูเหมือนจะสามารถรองรับพลังงานมหาศาลได้ ตอนนี้เขาสามารถชกได้ด้วยแรงอัดถึง 7-8 กิโลกรัมได้เลยถ้าเขาต้องการ

ถ้าเขาต่อยใครด้วยแรงอัดเท่านี้ ฉู่เหินเชื่อว่าแม้แต่นักเลงขาใหญ่ก็เอาไม่อยู่ และด้วยการแตะต่อยนี้เอง เปลวไฟที่เขาเพิ่งรับเข้าร่างกายก็เริ่มจะโผล่ออกมาพร้อมกับพลังแห่งดวงดาวของเขา

ฉู่เหินรู้สึกได้ถึงความสำเร็จของเขา มันเหมือนกับว่าเขาได้บรรลุอะไรบางอย่าง ตอนนี้เขารู้สึกดีไปทั้งร่างกาย และแน่นอนว่าสิ่งที่ชัดเจนที่สุดนั่นก็คือเขารู้สึกหิวขึ้นมาทันที

โชคดีที่ตอนใช้แหวนมิติครั้งล่าสุด เขาได้ทำเนื้อย่างตุนไว้เยอะมาก ดังนั้นเขาจึงหยิบเอาเนื้อเสือจากในแหวนออกมาทาน พอกินไปก็คิดไปว่าอยากให้มันกลิ่นหอมกว่านี้

ตอนนี้ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋หยุดร้องไห้แล้ว เมื่อเธอเห็นว่าฉู่เหินปลอดภัยดี เธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ถึงจะเห็นเขาเป็นปกติแล้ว เธอก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนในตัวของฉู่เหินอยู่ดี

“ฉู่เหิน กินสมบัติในกล่องนี้เถอะ”

ถึงฉู่เหินจะยังตั้งใจฝึก แต่เขายังได้ยินคำพูดของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ชัดเจน

“นั่นมันของของเธอ ฉันไม่แตะต้องมันหรอก ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า” เมื่อได้ยินฉู่เหินพยายามปลอบเธอ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ก็ร้องไห้ออกมาอีก

“ฉู่เหิน ฉันรู้ว่านายกำลังลำบากมาก ถึงขนาดนี้แล้วยังต้องเกรงใจอะไรฉันอีก รีบเอากล่องไม้ไปแล้วกินสมบัติด้านในเถอะ” เมื่อพูดจบ เธอก็โยนกล่องไม้สีหยกไปให้ฉู่เหิน

กล่องไม้เปิดออกทันทีเมื่อถึงมือเขา ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ได้ทำการเปิดกล่องนี้ก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เปิดออกมาเองเมื่อถึงมือของฉู่เหิน เมื่อเปิดออกฉู่เหินก็เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน

ภายในนั้นมีขิงสีแดงสดขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งทีมีใบไม้เล็ก ๆ ประดับอยู่ด้านบน แค่ดูก็รู้แล้วว่าขิงสีแดงนี้มันเต็มไปด้วยเลือด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก

“ตกลง” หลังสิ้นคำพูดของฉู่เหิน เขาก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปอีกเล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็ไม่กลัวความร้อนเบื่องหน้านี้อีกต่อไปแล้ว

จากนั้นเขาก็เริ่มลงมือ พลังแห่งดวงดาวเริ่มเปล่งออกจากตัวเขา เปลวเพลิงค่อยๆ ห่อหุ้มตัวเขาอย่างช้าๆ พลังที่ฉู่เหินเปล่งออกมามีสายฟ้าอยู่ด้วย และสายฟ้าเองก็มีเปลวไฟในตัวมันเอง เมื่อผนวกทั้งสองเข้าด้วยกัน สถานการณ์จึงยังสงบนิ่ง

ฉู่เหินใช้พลังแห่งดวงดาวของเขาค่อย ๆ ประคองเปลวเพลิงขึ้นมา ก่อนที่จะนำมันมาที่ตัวเขา ทันทีเปลวเพลิงเข้ามาใกล้ตัว เสื้อผ้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน ฉู่เหินแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เปลวเพลิงเคลื่อนผ่านผิวของเขาเข้าไปในร่างกาย

มันเป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก ฉู่เหินรู้สึกเหมือนสมองของเขาลัดวงจร

หลังจากที่กองอัคคีเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว ความรู้สึกร้อนแผดเผาก็ทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง ฉู่เหินนึกว่าการรับดวงไฟเข้าร่างกายจะเป็นเรื่องง่าย เพราะเขาเองก็เสียค่าประสบการณ์ไปไม่น้อย แต่เขาไม่นึกเลยว่ามันจะร้อนราวกับจะเผาร่างกายของเขาถึงเพียงนี้

แม้จิตใจของฉู่เหินจะแข็งแกร่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา เขาไม่สามารถอดกลั้นความเจ็บปวดนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด ไม่อย่างนั้นแล้วร่างกายของเขาอาจโดนไฟเผาจนหมดสิ้นก็เป็นได้

ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ที่ยืนอยู่ข้างฉู่เหินรู้สึกโง่อย่างบอกไม่ถูก เธอเดินไปช่วยฉู่เหินไม่ได้ด้วยซ้ำ ความร้อนทำให้เธอต้องยืนห่างออกไป 5 ก้าว แต่ถึงจะห่างกันขนาดนั้นก็ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนราวกับกำลังโดนเผาไปทั้งร่าง

จู่ ๆ ความกลัวและความรู้สึกไร้ค่าก็เข้าเกาะกุมจิตใจ เมื่อเธอตกที่นั่งลำบาก ฉู่เหินรีบเข้ามาช่วยเธออย่างไม่ลังเล แต่เมื่ออีกฝ่ายกำลังเผชิญอันตราย เธอกลับช่วยเขาไม่ได้ เรื่องทั้งหมดนี่ทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก

เธอเห็นดวงไฟเข้าไปในร่างของฉู่เหิน แต่เธอไม่รู้ว่านั่นหมายความอย่างไร เธอคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ไม่มีทางออก แล้วจู่ ๆ เธอก็เอากล่องไม้ออกมาจากในอ้อมแขน สมบัติในกล่องไม้นี้อาจช่วยบรรเทาฉู่เหินจากความเจ็บปวดได้

เธออยู่ห่างจากฉู่เหินออกไปไม่กี่ก้าว และก็อยากส่งสมบัติชิ้นนี้ไปที่ปากของเขา แต่เธอก็ทำไม่ได้ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋จึงได้แต่คุกเข่าหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ฉู่เหิน ฉันขอโทษ ฉันขอโทษด้วยจริง ๆ ถ้านายไม่มากับฉัน นายก็คงไม่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างนี้” เมื่อยิ่งเศร้า เธอก็ยิ่งอยากร้องไห้ เมื่อยิ่งร้องไห้ เธอก็ยิ่งยากจะหยุดร้อง เธอทำได้แต่เปล่งเสียงร้องทั้งน้ำตาออกมาภายในถ้ำอันมืดมิด

เสียงร้องของเธอเล็ดลอดออกไปภายนอกผ่านรูเล็ก ๆ ซึ่งเสียงที่คนอื่นได้ยินกลับเป็นดั่งเสียงร้องไห้โหยหวนของภูตผีและเสียงเห่าหอนของหมาป่า แม้แต่คนที่กล้าหาญที่สุด เมื่อได้ยินเสียงนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็อดที่จะขนลุกทั้งตัวไม่ได้

“เสียงโคตรน่ากลัวเลย ที่นี่มีผีด้วยเหรอเนี่ย” ลูกพี่นักเลงที่กำลังตามล่าฉู่เหินกล่าวออกมา

แม้คนอื่น ๆ จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่พวกเขารู้ดีว่านี่จะต้องเป็นเสียงสัตว์ร้ายแน่ ๆ นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้ไม่มีใครกล้าแยกตัวไปเดินคนเดียวไกล ๆ

ในป่าข้างนอกที่บรรยากาศผิดกัน ตอนนี้มีนักเลงที่เก่งเรียนศิลปะป้องกันตัวโบราณเกือบ 10 คน พวกมันกำลังตามหา ฉู่เหินและซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ที่อยู่ข้างในป่า แม้แต่คนจากหน่วยงานราชการเองก็มาร่วมไล่ล่าพวกเขาด้วย ถึงตอนนี้ ป่าทั้งหมดกลายเป็นเขตหวงห้ามสำหรับคนภายนอก พวกเขาทั้งหมดปักใจเชื่อว่าทั้งสองคนต้องเข้าไปซ่อนตัวในป่าแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังตามหาไม่เจออยู่ดี แม้ว่าจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม

พ่อของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋อยากจะยอมยกกล่องไม้ให้พวกมันไป แต่เขาติดต่อลูกสาวไม่ได้เลย นั่นจึงทำให้เขากังวลใจอย่างมาก

ลึกลงไปที่ก้นถ้ำ ชีวิตของฉู่เหินกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างความเป็นและความตาย ฉู่เหินเริ่มอยากจะโวยวายขึ้นมาแล้ว

“โว้ยยย นี่มันระบบบ้าอะไรกันเนี่ย? ฉันเสียค่าประสบการณ์ไปแล้ว ไม่เห็นช่วยอะไรเลย จะเจ็บไปไหนวะเนี่ย ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป คงไม่ได้ตายเพราะไฟหรอก น่าจะเจ็บจนขาดใจตายแทน!”

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเสียงความคิดของเขาเท่านั้น เขาไม่สามารถอ้าปากได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้ร่างกายของเขาเกือบจะชักเพราะความเจ็บปวดที่กระจายไปทั่วร่าง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงต้องตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้แน่

โชคดีที่ความเจ็บปวดเริ่มบรรเทาลงหลังผ่านไป 1 ชั่วโมง หลังจากเหตุการณ์นี้ ฉู่เหินรู้แล้วว่าเขายังอ่อนด้อยแค่ไหน อย่าว่าแต่ปกป้องญาติและมิตรสหายเลย เขาอาจตายไปแล้วด้วยซ้ำถ้าเขาไม่ระมัดระวัง ดังนั้นเขาจึงตะโกนบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่า “ฉันต้องแข็งแกร่ง ต้องแข็งแกร่งกว่านี้”

ความคิดที่อยากจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เริ่มแทงรากอ่อน ตอนนี้มันได้กลายเป็นต้นกล้าที่หยั่งรากลึกเข้าไปในจิตใจของฉู่เหินแล้ว และเพราะความคิดนี้นี่เองที่จะทำให้เขาสร้างตำนานของตนเองในอนาคตต่อไป

หลังจากที่ความคิดนี้ฝังลึกเข้าไปในร่างกาย ทันใดนั้นฉู่เหินก็รู้สึกราวกับว่าเขาสามารถเอาชนะความรู้สึกเจ็บปวดนี้ได้ เหมือนกับว่ามันกลายเป็นเรื่องที่ไม่หนักหนาอะไรอีกแล้ว น่าแปลกที่พอเขาเอาชนะความรู้สึกนี้ได้ เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนัก

เขารีบลุกขึ้นเตะต่อยด้วยทักษะที่ได้มา แม้ฉู่เหินจะรู้ดีว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นสามารถใช้พลังแห่งดวงดาวนี้ได้แม้ในเวลาที่เขานั่งขัดสมาธิ แต่นั่นมันก็ไม่ได้ความผลลัพธ์จะดีเท่ากับลุกขึ้นมาต่อยมวยเสียหน่อย

ขณะที่เขาขยับร่างกายไปมาตามกระบวนท่า ฉู่เหินก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าทุกเซลล์ในร่างกายดูเหมือนจะสามารถรองรับพลังงานมหาศาลได้ ตอนนี้เขาสามารถชกได้ด้วยแรงอัดถึง 7-8 กิโลกรัมได้เลยถ้าเขาต้องการ

ถ้าเขาต่อยใครด้วยแรงอัดเท่านี้ ฉู่เหินเชื่อว่าแม้แต่นักเลงขาใหญ่ก็เอาไม่อยู่ และด้วยการแตะต่อยนี้เอง เปลวไฟที่เขาเพิ่งรับเข้าร่างกายก็เริ่มจะโผล่ออกมาพร้อมกับพลังแห่งดวงดาวของเขา

ฉู่เหินรู้สึกได้ถึงความสำเร็จของเขา มันเหมือนกับว่าเขาได้บรรลุอะไรบางอย่าง ตอนนี้เขารู้สึกดีไปทั้งร่างกาย และแน่นอนว่าสิ่งที่ชัดเจนที่สุดนั่นก็คือเขารู้สึกหิวขึ้นมาทันที

โชคดีที่ตอนใช้แหวนมิติครั้งล่าสุด เขาได้ทำเนื้อย่างตุนไว้เยอะมาก ดังนั้นเขาจึงหยิบเอาเนื้อเสือจากในแหวนออกมาทาน พอกินไปก็คิดไปว่าอยากให้มันกลิ่นหอมกว่านี้

ตอนนี้ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋หยุดร้องไห้แล้ว เมื่อเธอเห็นว่าฉู่เหินปลอดภัยดี เธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ถึงจะเห็นเขาเป็นปกติแล้ว เธอก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนในตัวของฉู่เหินอยู่ดี

“ฉู่เหิน กินสมบัติในกล่องนี้เถอะ”

ถึงฉู่เหินจะยังตั้งใจฝึก แต่เขายังได้ยินคำพูดของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ชัดเจน

“นั่นมันของของเธอ ฉันไม่แตะต้องมันหรอก ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า” เมื่อได้ยินฉู่เหินพยายามปลอบเธอ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ก็ร้องไห้ออกมาอีก

“ฉู่เหิน ฉันรู้ว่านายกำลังลำบากมาก ถึงขนาดนี้แล้วยังต้องเกรงใจอะไรฉันอีก รีบเอากล่องไม้ไปแล้วกินสมบัติด้านในเถอะ” เมื่อพูดจบ เธอก็โยนกล่องไม้สีหยกไปให้ฉู่เหิน

กล่องไม้เปิดออกทันทีเมื่อถึงมือเขา ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ได้ทำการเปิดกล่องนี้ก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เปิดออกมาเองเมื่อถึงมือของฉู่เหิน เมื่อเปิดออกฉู่เหินก็เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน

ภายในนั้นมีขิงสีแดงสดขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งทีมีใบไม้เล็ก ๆ ประดับอยู่ด้านบน แค่ดูก็รู้แล้วว่าขิงสีแดงนี้มันเต็มไปด้วยเลือด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 75 อัคคีในหลุมลึก

“ตกลง” หลังสิ้นคำพูดของฉู่เหิน เขาก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเขาเปลี่ยนแปลงไปอีกเล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็ไม่กลัวความร้อนเบื่องหน้านี้อีกต่อไปแล้ว

จากนั้นเขาก็เริ่มลงมือ พลังแห่งดวงดาวเริ่มเปล่งออกจากตัวเขา เปลวเพลิงค่อยๆ ห่อหุ้มตัวเขาอย่างช้าๆ พลังที่ฉู่เหินเปล่งออกมามีสายฟ้าอยู่ด้วย และสายฟ้าเองก็มีเปลวไฟในตัวมันเอง เมื่อผนวกทั้งสองเข้าด้วยกัน สถานการณ์จึงยังสงบนิ่ง

ฉู่เหินใช้พลังแห่งดวงดาวของเขาค่อย ๆ ประคองเปลวเพลิงขึ้นมา ก่อนที่จะนำมันมาที่ตัวเขา ทันทีเปลวเพลิงเข้ามาใกล้ตัว เสื้อผ้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน ฉู่เหินแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เปลวเพลิงเคลื่อนผ่านผิวของเขาเข้าไปในร่างกาย

มันเป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก ฉู่เหินรู้สึกเหมือนสมองของเขาลัดวงจร

หลังจากที่กองอัคคีเข้าไปในร่างกายของเขาแล้ว ความรู้สึกร้อนแผดเผาก็ทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง ฉู่เหินนึกว่าการรับดวงไฟเข้าร่างกายจะเป็นเรื่องง่าย เพราะเขาเองก็เสียค่าประสบการณ์ไปไม่น้อย แต่เขาไม่นึกเลยว่ามันจะร้อนราวกับจะเผาร่างกายของเขาถึงเพียงนี้

แม้จิตใจของฉู่เหินจะแข็งแกร่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา เขาไม่สามารถอดกลั้นความเจ็บปวดนี้ได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด ไม่อย่างนั้นแล้วร่างกายของเขาอาจโดนไฟเผาจนหมดสิ้นก็เป็นได้

ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ที่ยืนอยู่ข้างฉู่เหินรู้สึกโง่อย่างบอกไม่ถูก เธอเดินไปช่วยฉู่เหินไม่ได้ด้วยซ้ำ ความร้อนทำให้เธอต้องยืนห่างออกไป 5 ก้าว แต่ถึงจะห่างกันขนาดนั้นก็ยังทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนราวกับกำลังโดนเผาไปทั้งร่าง

จู่ ๆ ความกลัวและความรู้สึกไร้ค่าก็เข้าเกาะกุมจิตใจ เมื่อเธอตกที่นั่งลำบาก ฉู่เหินรีบเข้ามาช่วยเธออย่างไม่ลังเล แต่เมื่ออีกฝ่ายกำลังเผชิญอันตราย เธอกลับช่วยเขาไม่ได้ เรื่องทั้งหมดนี่ทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก

เธอเห็นดวงไฟเข้าไปในร่างของฉู่เหิน แต่เธอไม่รู้ว่านั่นหมายความอย่างไร เธอคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ไม่มีทางออก แล้วจู่ ๆ เธอก็เอากล่องไม้ออกมาจากในอ้อมแขน สมบัติในกล่องไม้นี้อาจช่วยบรรเทาฉู่เหินจากความเจ็บปวดได้

เธออยู่ห่างจากฉู่เหินออกไปไม่กี่ก้าว และก็อยากส่งสมบัติชิ้นนี้ไปที่ปากของเขา แต่เธอก็ทำไม่ได้ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋จึงได้แต่คุกเข่าหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ฉู่เหิน ฉันขอโทษ ฉันขอโทษด้วยจริง ๆ ถ้านายไม่มากับฉัน นายก็คงไม่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายอย่างนี้” เมื่อยิ่งเศร้า เธอก็ยิ่งอยากร้องไห้ เมื่อยิ่งร้องไห้ เธอก็ยิ่งยากจะหยุดร้อง เธอทำได้แต่เปล่งเสียงร้องทั้งน้ำตาออกมาภายในถ้ำอันมืดมิด

เสียงร้องของเธอเล็ดลอดออกไปภายนอกผ่านรูเล็ก ๆ ซึ่งเสียงที่คนอื่นได้ยินกลับเป็นดั่งเสียงร้องไห้โหยหวนของภูตผีและเสียงเห่าหอนของหมาป่า แม้แต่คนที่กล้าหาญที่สุด เมื่อได้ยินเสียงนี้ พวกเขาเหล่านั้นก็อดที่จะขนลุกทั้งตัวไม่ได้

“เสียงโคตรน่ากลัวเลย ที่นี่มีผีด้วยเหรอเนี่ย” ลูกพี่นักเลงที่กำลังตามล่าฉู่เหินกล่าวออกมา

แม้คนอื่น ๆ จะปฏิเสธว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่พวกเขารู้ดีว่านี่จะต้องเป็นเสียงสัตว์ร้ายแน่ ๆ นี่เองจึงเป็นสาเหตุให้ไม่มีใครกล้าแยกตัวไปเดินคนเดียวไกล ๆ

ในป่าข้างนอกที่บรรยากาศผิดกัน ตอนนี้มีนักเลงที่เก่งเรียนศิลปะป้องกันตัวโบราณเกือบ 10 คน พวกมันกำลังตามหา ฉู่เหินและซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ที่อยู่ข้างในป่า แม้แต่คนจากหน่วยงานราชการเองก็มาร่วมไล่ล่าพวกเขาด้วย ถึงตอนนี้ ป่าทั้งหมดกลายเป็นเขตหวงห้ามสำหรับคนภายนอก พวกเขาทั้งหมดปักใจเชื่อว่าทั้งสองคนต้องเข้าไปซ่อนตัวในป่าแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังตามหาไม่เจออยู่ดี แม้ว่าจะผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม

พ่อของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋อยากจะยอมยกกล่องไม้ให้พวกมันไป แต่เขาติดต่อลูกสาวไม่ได้เลย นั่นจึงทำให้เขากังวลใจอย่างมาก

ลึกลงไปที่ก้นถ้ำ ชีวิตของฉู่เหินกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างความเป็นและความตาย ฉู่เหินเริ่มอยากจะโวยวายขึ้นมาแล้ว

“โว้ยยย นี่มันระบบบ้าอะไรกันเนี่ย? ฉันเสียค่าประสบการณ์ไปแล้ว ไม่เห็นช่วยอะไรเลย จะเจ็บไปไหนวะเนี่ย ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป คงไม่ได้ตายเพราะไฟหรอก น่าจะเจ็บจนขาดใจตายแทน!”

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงเสียงความคิดของเขาเท่านั้น เขาไม่สามารถอ้าปากได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้ร่างกายของเขาเกือบจะชักเพราะความเจ็บปวดที่กระจายไปทั่วร่าง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงต้องตายในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี้แน่

โชคดีที่ความเจ็บปวดเริ่มบรรเทาลงหลังผ่านไป 1 ชั่วโมง หลังจากเหตุการณ์นี้ ฉู่เหินรู้แล้วว่าเขายังอ่อนด้อยแค่ไหน อย่าว่าแต่ปกป้องญาติและมิตรสหายเลย เขาอาจตายไปแล้วด้วยซ้ำถ้าเขาไม่ระมัดระวัง ดังนั้นเขาจึงตะโกนบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่า “ฉันต้องแข็งแกร่ง ต้องแข็งแกร่งกว่านี้”

ความคิดที่อยากจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เริ่มแทงรากอ่อน ตอนนี้มันได้กลายเป็นต้นกล้าที่หยั่งรากลึกเข้าไปในจิตใจของฉู่เหินแล้ว และเพราะความคิดนี้นี่เองที่จะทำให้เขาสร้างตำนานของตนเองในอนาคตต่อไป

หลังจากที่ความคิดนี้ฝังลึกเข้าไปในร่างกาย ทันใดนั้นฉู่เหินก็รู้สึกราวกับว่าเขาสามารถเอาชนะความรู้สึกเจ็บปวดนี้ได้ เหมือนกับว่ามันกลายเป็นเรื่องที่ไม่หนักหนาอะไรอีกแล้ว น่าแปลกที่พอเขาเอาชนะความรู้สึกนี้ได้ เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนัก

เขารีบลุกขึ้นเตะต่อยด้วยทักษะที่ได้มา แม้ฉู่เหินจะรู้ดีว่าตัวเขาในตอนนี้นั้นสามารถใช้พลังแห่งดวงดาวนี้ได้แม้ในเวลาที่เขานั่งขัดสมาธิ แต่นั่นมันก็ไม่ได้ความผลลัพธ์จะดีเท่ากับลุกขึ้นมาต่อยมวยเสียหน่อย

ขณะที่เขาขยับร่างกายไปมาตามกระบวนท่า ฉู่เหินก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่าทุกเซลล์ในร่างกายดูเหมือนจะสามารถรองรับพลังงานมหาศาลได้ ตอนนี้เขาสามารถชกได้ด้วยแรงอัดถึง 7-8 กิโลกรัมได้เลยถ้าเขาต้องการ

ถ้าเขาต่อยใครด้วยแรงอัดเท่านี้ ฉู่เหินเชื่อว่าแม้แต่นักเลงขาใหญ่ก็เอาไม่อยู่ และด้วยการแตะต่อยนี้เอง เปลวไฟที่เขาเพิ่งรับเข้าร่างกายก็เริ่มจะโผล่ออกมาพร้อมกับพลังแห่งดวงดาวของเขา

ฉู่เหินรู้สึกได้ถึงความสำเร็จของเขา มันเหมือนกับว่าเขาได้บรรลุอะไรบางอย่าง ตอนนี้เขารู้สึกดีไปทั้งร่างกาย และแน่นอนว่าสิ่งที่ชัดเจนที่สุดนั่นก็คือเขารู้สึกหิวขึ้นมาทันที

โชคดีที่ตอนใช้แหวนมิติครั้งล่าสุด เขาได้ทำเนื้อย่างตุนไว้เยอะมาก ดังนั้นเขาจึงหยิบเอาเนื้อเสือจากในแหวนออกมาทาน พอกินไปก็คิดไปว่าอยากให้มันกลิ่นหอมกว่านี้

ตอนนี้ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋หยุดร้องไห้แล้ว เมื่อเธอเห็นว่าฉู่เหินปลอดภัยดี เธอก็รู้สึกโล่งใจ แต่ถึงจะเห็นเขาเป็นปกติแล้ว เธอก็ยังรู้สึกได้ถึงความร้อนในตัวของฉู่เหินอยู่ดี

“ฉู่เหิน กินสมบัติในกล่องนี้เถอะ”

ถึงฉู่เหินจะยังตั้งใจฝึก แต่เขายังได้ยินคำพูดของซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ชัดเจน

“นั่นมันของของเธอ ฉันไม่แตะต้องมันหรอก ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า” เมื่อได้ยินฉู่เหินพยายามปลอบเธอ ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ก็ร้องไห้ออกมาอีก

“ฉู่เหิน ฉันรู้ว่านายกำลังลำบากมาก ถึงขนาดนี้แล้วยังต้องเกรงใจอะไรฉันอีก รีบเอากล่องไม้ไปแล้วกินสมบัติด้านในเถอะ” เมื่อพูดจบ เธอก็โยนกล่องไม้สีหยกไปให้ฉู่เหิน

กล่องไม้เปิดออกทันทีเมื่อถึงมือเขา ซ่างกวนเสี่ยวฟู๋ได้ทำการเปิดกล่องนี้ก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เปิดออกมาเองเมื่อถึงมือของฉู่เหิน เมื่อเปิดออกฉู่เหินก็เห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน

ภายในนั้นมีขิงสีแดงสดขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งทีมีใบไม้เล็ก ๆ ประดับอยู่ด้านบน แค่ดูก็รู้แล้วว่าขิงสีแดงนี้มันเต็มไปด้วยเลือด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+