บทที่ 458 เทคโนโลยีขั้นสูง

บทที่ 458 เทคโนโลยีขั้นสูง

ผู้คนในสนามพากันพูดด้วยความโกรธ โดยเฉพาะนักพรตหูเชิงที่เข้าข้างเจ้ามนุษย์ต่างดาวตัวนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะมันล่ะก็ เขาก็คงไม่ทะเลาะกับตระกูลฉู่ และเสียพนัน

ตอนนี้เขายอมรับแล้วว่าตัวเองแพ้แล้ว สายตานับไม่ถ้วนล้วนเป็นพยานว่าตัวเองปกป้องมนุษย์ต่างดาวตนหนึ่ง ลองนึกดูแล้วเขาก็รู้สึกโกรธแค้น เพราะแบบนี้เขาเลยไม่อยากจะมองหน้าเจ้ามนุษย์ต่างดาวตัวนี้ และใช้ฝ่ามือตบลงไป!

ในสายตาของคนอื่นแล้ว ด้วยความสามารถของนักพรตหูเชิง น่ากลัวว่าเพียงมือเดียวก็สามารถทำให้มันตายได้แล้วโดยไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตามหลังจากมนุษย์ต่างดาวตัวนี้โดนตบแล้ว มันกลับยิ้มและยื่นมือมากดปุ่มหนึ่งที่บริเวณหัว และก็มีสว่างที่คล้ายจะเป็นโล่ป้องกันขวางเอาไว้

ฝ่ามือนั้นปะปนไปด้วยพลังมหาศาลจนเกิดเสียงออกมา! เมื่อมองไกล ๆ ก็จะเห็นว่าฝ่ามือแผ่พลังออกมากว่า 10 เมตรแล้ว พลังมหาศาลนี้ชนเข้ากับโล่แสงอย่างจัง รุนแรงเสียจนเกิดเสียงดัง ปัง! พื้นที่สั่นสะเทือนบีบให้ทุกคนโดยรอบถอยไป

แต่ที่ทุกคนจินตนาการไม่ถึงเลยก็คือโล่นั้นกลับไม่ขยับเลยสักนิดเดียว! ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ก็ตัวนักพรตหูเชิงเองนั้นแหละที่ตกใจแทบรับไม่ได้ เขาไม่คิดว่าฝ่ามือพิฆาตของตัวเองจะไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้!

ฉู่เหินมองโล่แสงของอีกฝ่ายด้วยสายตาครุ่นคิด! โล่แสงอันนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่แข็งแรงอะไรเลย แต่ของสิ่งนี้คล้ายจะมีพลังที่ขัดแย้งกับหลักธรรมชาติอยู่ หรือก็คือเพียงแค่พลังหรือไม่ก็อาวุธอะไรก็แล้วแต่จะไม่สามารถโจมตีโล่แสงนี้ได้!

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงโล่แสงนี้ก็ยอดเยี่ยมมาก ๆ ว่าแล้วฉู่เหินจึงลองใช้พลังจิตของตัวเองทำการตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบสักพักก็ทำให้เขาอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะโล่แสงนี้ไม่มีท่าทางว่าจะต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ทำให้พลังจิตของเขาสามารถทะลุเข้าไปโดยง่าย!

แบบนี้ก็รู้แล้วว่าโล่แสงนี้ไม่ได้รับมือยากอะไรอย่างที่คิด ถ้าใช้พลังวิญญาณก็สามารถโจมตีอีกฝ่ายได้ น่าเสียดายที่ในโลกนี้มีน้อยคนมากที่จะมีพลังวิญญาณ แม้ว่าฉู่เหินจะเคยอ่านตำรามามาก แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยฝึกฝนมาก่อน ซึ่งตอนนี้อยากจะฝึกก็ไม่ทันแล้ว!

ระหว่างที่ฉู่เหินกำลังลังเลอยู่นั้น ก็เห็นมนุษย์ต่างดาวตัวนั้นหยิบของที่คล้ายกับปืนชนิดหนึ่ง พออีกฝ่ายหยิบออกมาทุกคนก็คล้ายจะมีอาการสั่นด้วยความกลัว แม้กระทั่งขั้นปราชญ์ดารายอดฝีมือก็ยังรู้สึกหมดเรี่ยวแรง พวกเขาสัมผัสได้ว่าถ้าเจ้าสิ่งนี้ปล่อยพลังออกมาเมื่อไหร่ มันสามารถสังหารขั้นปราชญ์ดาราอย่างพวกเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เองที่มนุษย์ต่างดาวนำปืนดำเตรียมจะยิงไปทางนักพรตหูเชิง ปัง! เสียงยิงปืนดังขึ้นพร้อม ๆ กับลำแสงสีม่วงที่แผ่ออกมา นักพรตหูเชิงเป็นขั้นปราชญ์ดารายอดฝีมือ แม้ว่าเขาจะทำอะไรโล่แสงนั้นไม่ได้ แต่คิดจะใช้ปืนโจมตีเขานั้นก็ไม่ง่ายเช่นกัน!

เมื่อรู้สึกได้ถึงอันตราย นักพรตหูเชิงก็รีบเคลื่อนไหวหลบอย่างรวดเร็ว นั้นทำให้จุดเดิมที่เขาเคยยืนอยู่ถูกกระสุนแสงสีม่วงยิงเข้าทันที และทุกคนก็ได้เห็นพื้นที่ทำจากแร่อันแข็งแรงยากจะทำลาย ถูกแรงกระสุนจนทำให้แตกกระจายในทันที! เท่านี้ก็รู้แล้วว่าอานุภาพของกระสุนรุนแรงขนาดไหน

หลังจากเหล่ายอดฝีมือปราชญ์ดาราเห็นฉากนี้ก็หัวใจเต้นรัว พวกเขารู้สึกว่าด้วยความสามารถของตัวเอง ถ้าถูกปืนนี้ยิงเข้าต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่! ต่อมาเจ้ามนุษย์ต่างดาวตัวนี้ก็ใช้ปืนยิงยอดฝีมือขั้นปราชญ์ดาราอีกหลายคน แต่ว่าพวกขั้นปราชญ์ดารานั้นได้เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว เลยสามารถหายไปในความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว!

พวกเขาหายไปอย่างคล่องแคล่ว แต่ลูกศิษย์ซึ่งอยู่ในที่นี้ไม่น้อยกลับต้องประสบหายนะ เพราะพวกเขาไม่ได้มีความเร็วเหมือนกับพวกยอดฝีมือเหล่านั้น อีกทั้งชีวิตของยอดฝีมือขั้นปราชญ์ดารายังมีค่ามากกว่าชีวิตพวกเขา! มองสิบผู้เข้าแข่งขันต้องตายไปแบบนี้ ในใจของกลุ่มอำนาจต่างรู้สึกปวดใจไม่น้อย!

ฉู่เหินเหมือนคนโง่ที่ยืนมองสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงนั้น แต่ยิ่งมองสายตาของเขาก็ยิ่งเปล่งแสง! เพียงแต่ให้สายตาของคนอื่นมองแล้วเหมือนเห็นว่าเขาตกใจจนโง่งมไปแล้ว นี้ทำให้กลุ่มอาจที่ซ่อนตัวอยู่ส่ายหัวเพราะรู้สึกว่าฉู่เหินจะแค่ราคาคุย ไม่ได้เก่งขนาดนั้น

ผู้เฒ่าสามรีบเข้ามาประกบข้างกายฉู่เหิน และเตรียมจะพาเขาหนี! คนของนิกายกิเลนก็พากันหนีไปไกลแล้วเช่นกัน พอทุกคนเห็นมนุษย์ต่างดาวก็คล้ายจะมึนงงไปชั่วขณะ ไม่ใช่เพราะพวกเขาสู้มนุษย์ต่างดาวไม่ได้ และก็ไม่ใช่เพราะความรุนแรงของเทคโนโลยีขั้นสูงของเขาเช่นกัน

แต่การต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตแปลก ๆ ที่ทุกคนไม่เคยเจอมาก่อน ในใจย่อมมีความกลัวอยู่แล้ว ที่จริงถ้าพวกเขาสงบสติอารมณ์สักนิดและตั้งใจสังเกตดี ๆ ก็จะพบจุดอ่อนมากมาย การจะฆ่าเอเลี่ยนตนนี้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ฉู่เหินเห็นว่าผู้เฒ่าสามกำลังดึงเขาวิ่ง เลยรีบบอกให้ผู้เฒ่าสามหยุดการกระทำนั้นซะ! ก่อนจะบอกวิธีฆ่าเจ้ามนุษย์ต่างดาวนี้! พอผู้เฒ่าสามฟังจบ แม้ว่าจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เขามีความเชื่อมั่นในตัวของฉู่เหินมาก! ดังนั้นเลยหายไปยืนด้านหน้าตระกูลฉู่และนิกายกิเลนเพื่อช่วยปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า!

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ทว่าไม่ใช่กับลูกศิษย์พรรคอื่น ๆ ตอนนี้คล้ายจะมียอดฝีมือหลายคนหายตัวไปแล้ว แต่ผู้เฒ่าสามกลับยังอยู่ปกป้องลูกศิษย์ตัวเองที่ยังอ่อนแออยู่ มีเพียงตระกูลฉู่เท่านั้นที่มีคุณธรรมแบบนี้ คนอื่นเทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย

คนของตระกูลฉู่รู้สึกอบอุ่นไปทั้งใจ พวกเขารู้สึกภูมิใจที่ตัวเองเป็นคนของตระกูลฉู่! หลังจากที่มนุษย์ต่างดาวนั้นสร้างความวุ่นวาย มันก็พลันพุ่งไปเข้าไปหาฉู่เหินทันที ดวงตาทั้งสองข้างคล้ายจะเต็มไปด้วยเส้นเลือด ต้องเข้าใจว่าชายหนุ่มคนนี้ทำให้ตัวเองและพวกต้องเจ็บปวดใจไปอีกนับ 10 ปี

ตอนนี้เขาต้องกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น ก็ยากที่เขาจะระงับความรู้สึกนั้นได้ ไม่ทันไรปืนดำนั้นก็เล็งไปทางฉู่เหิน และตอนที่กำลังเหนี่ยวไกนั้น จู่ ๆ ก็มีคนขวางเอาไว้

คน ๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาก็คือนักพรตหูเชิง ตอนนี้ลมปราณของนักพรตหูเชิงออกจะปั่นป่วนไม่น้อย เพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งจะปล่อยพลังโจมตีของตัวเองไป ไหนจะโดนยิงอีก แม้ว่าจะยิงไม่โดนแต่เขาก็ต้องเคลื่อนไหวด้วยความเร็วอยู่ดี มันทำให้พลังของเขาได้รับผลกระทบไม่น้อย

“เด็กน้อย ก่อนหน้านี้ฉันทำผิดกับเธอแล้ว ตอนนี้ให้ฉันรับกระสุนนี้แทนเธอแล้วรีบหนีไปซะ!” คำพูดของนักพรตหูเชิงเข้ามาในหูฉู่เหิน มันทำให้เขารู้ว่าอย่ามองคำพูดไม่น่าฟังก่อนหน้านี้ เพราะนักพรตคนนี้นั้นแท้จริงแล้วเป็นคนดีคนหนึ่ง

“ผู้อาวุโสหูหลบไปซะ เจ้าสวะคนนี้ฉันจะเป็นคนเอาชีวิตของมันเอง!” คำพูดของฉู่เหินไม่เพียงเข้ามาในหูของนักพรตหูเชิง มันยังเข้าหูยอดฝีมือที่หลบอยู่ในที่นี้ด้วย หลังจากพวกเขาได้ยินแบบนั้นต่างก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ พวกเขายังไม่สามารถต่อกรกับลำแสงสีม่วงได้ แล้วขั้นราชันดาราคนหนึ่งเนี่ยนะจะทำได้?

นักพรตหูเชิงคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ ๆ หูของเขาก็ได้ยินเสียงของผู้เฒ่าสามว่า “ตาแก่นักพรต ไปทำอะไรตรงนั้นรีบหลบไปซะ แล้วดูพลังที่แท้จริงของลูกหลานตระกูลฉู่!”

นักพรตหูเชิงในที่สุดก็รู้แล้วว่าตัวเองมาสร้างความวุ่นวายแล้ว เขารู้สึกว่าโลกใบนี้เปลี่ยนแปลงมากเกินไป ตัวเองไม่สามารถสู้กับหมอนั้นได้ ส่วนขั้นราชันดาราคนหนึ่งกลับบอกให้เขาถอยไป ที่สำคัญคือผู้อาวุโสของเจ้าขั้นราชันดาราคนนี้ยังสนับสนุนอีกด้วย นี้ทำให้เขาร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก แต่ก็หลบไป

ทั้งหมดนั้นเหมือนจะช้า ทว่าแท้จริงแล้วกลับเกิดในเสี้ยววินาทีเท่านั้น! ทันทีที่นักพรตหูเชิงหายไป ปืนนั้นของมนุษย์ต่างดาวก็ถูกยิงออกมา ลำแสงสีม่วงพุ่งเข้ามาหาตัวฉู่เหิน ทว่าชายหนุ่มกลับมองลำแสงที่พุ่งมาหาตัวเองโดยไม่หลบ เอาแต่ยืนรออยู่อย่างงั้น