บทที่ 640 แสงสว่างสีม่วง

บทที่ 640 แสงสว่างสีม่วง

ทั้งสามรีบหยุดชะงักลงอย่างรวดเร็ว ! แต่พอพวกเขาสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายมีแค่คนเดียวก็คลายความกังวลใจลง ! แต่ก็ยังไม่คลายความระแวดระวังตัวลง ต้องเข้าใจว่าก่อนหน้าที่ฉู่เหินก็มีแค่คนเดียว ยังทำให้พวกเขามีสภาพอย่างนี้ได้เลย ! อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายพลังยังไม่ต่างกับพวกเขามากนักด้วย

เป็นจูเก๋อโยวหมิงที่ลอยตัวอยู่เหนือท้องฟ้ามองทั้งสามด้วยสายตาสำรวจ ! ใบหน้าที่เรียบนิ่งเผยความกังวลออกมาเล็กน้อยขณะมองฉู่เหิน ! จริง ๆ แล้วเขามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด ! มีเพียงแค่ค่ายกลก่อนหน้านี้เท่านั้นที่เขาไม่ค่อยเข้าใจ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงลงมือนานแล้ว !

เมื่อเห็นศิษย์มีผู้อาวุโสคุ้มครอง เขาก็ไม่คิดจะลังเลอีกต่อไป ! ก่อนจะสะบัดมือครั้งหนึ่งต้าอิ้งหรือตราประทับทองคำก็ปรากฏขึ้น !

จากนั้นจูเก๋อโยวหมิงก็ไม่ลังเลแม้แต่จะพูดให้เสียเวลา ต้าอิ้งที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็แปรสภาพใหญ่ขึ้น มองดูแล้วเหมือนภูเขาไท่ซานลูกหนึ่ง ! ก่อนที่จูเก๋อโยวหมิงจะสะบัดมือครั้งหนึ่ง ตราประทับทองคำก็ถูกกดลงมา ! แรงกดดันนี้ทำให้ทั้งสามเริ่มสังหรณ์ได้ถึงลางร้าย รีบถอยหนีอย่างไว !

พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจูเก๋อโยวหมิงจะมีเครื่องรางวิญญาณไว้ในครอบครองหนึ่งชิ้น ! เครื่องรางวิญญาณหากเทียบกับอาวุธวิญญาณก็ของพวกเขาก็แทบจะกลายเป็นของเด็กเล่นไปเลย ! เพราะแค่เครื่องรางวิญญาณชิ้นเดียวไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ไม่อาจสู้ด้วยได้ สิ่งที่ทำได้คือหลบยังไงให้พ้นก็พอ และทันทีที่พวกเขาถอยหลังหนี ต้าอิงก็ตกมาแทนที่ที่พวกเขายืนอยู่แล้ว

พอฝุ่นที่ตลบจางหายไป พวกเขาก็มองตรงที่ต้าอิ้งตกลงมา ซึ่งตอนนี้กลายเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่มองไม่เห็นก้นบึ้ง ! เพียงเท่านั้นไม่แค่ทั้งสามคนอื่นที่เห็นก็เป็นต้องสูดหายใจเข้าลึกอย่างตกใจ !

เห็นหลุมที่ลึกไม่เห็นก้นบึ้ง พวกเขาก็รู้สึกหนาวสะท้านไปทั่วไขสันหลัง ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเมื่อกี้พวกเขาหลบไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น !

และก็เป็นในตอนนี้เองที่พวกเขาเพิ่งหันมามองหน้าจูเก๋อโยวหมิงชัด ๆ เท่านั้นหละหัวใจของพวกเขาก็เต้นผิดจังหวะทันที เพราะพวกเขาจำได้ว่านี้คือจูเก๋อโยวหมิงที่มีชื่อเสียงคนนั้น ที่ตอนแรกพวกเขามองเห็นไม่ชัดเพราะถูกเครื่องรางวิญญาณดึงดูดความสนใจไป !

เห็นดังนั้นนัยน์ตาก็พวกเขาก็หรี่เรียว จากเดิมที่คิดจะหนี จู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจ ! พวกเขาคิดใจในว่าการโจมตีแบบนี้ไม่น่าจะใช้ได้หลายครั้งแน่ ด้วยถ้าได้เป็นเวลานาน คนที่เป็นอันตรายอาจเป็นตัวผู้ใช้เอง !

เมื่อคิดได้ดังนั้นเพียงพริบตาทั้งสามก็เตรียมทำการโจมตี ! ต้องเข้าใจว่าพวกเขามีกัน 3 คน แต่อีกฝ่ายมีแค่คนเดียว ขอเพียงพวกเขายืดเวลาออกไปได้สักพัก อีกฝ่ายก็จบสิ้นแล้ว ! จนถึงตอนนี้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรพวกเขาก็ยอมทั้งนั้น รวมทั้งชีวิตตัวเองก็ด้วย !

หลังจากนั้นทั้งสามก็พุ่งตรงเข้าหาจูเก๋อโยวหมิง พวกเขาใช้วิชามายาทุกการโจมตี และแม้ว่ามันจะเป็นวิชามายา แต่ถ้าคุณเก่งมากพอ มันก็จะสามารถกลายเป็นของจริงได้ ! และต่อให้คุณรับมือมันได้ มันก็จะแปรเปลี่ยนเป็นภาพมายา ! ด้วยเหตุนี้ทำให้สามคนคิดในใจว่าจูเก๋อโยวหมิงยากจะรอดไปได้ !

จูเก๋อโยวหมิงรับกระบวนท่าของวิชามายาได้หมดทุกกระบวน โดยไม่มีท่าทีว่าจะใช่เครื่องรางวิญญาณอีก นั่นทำให้ทั้งสามรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น นึกไว้แล้วว่าจูเก๋อโยวหมิงกำลังจนแต้ม ถึงขนาดไม่มีเวลาจะใช้เครื่องรางวิญญาณนั่น ! แต่ฉู่เหินที่มองอยู่ในไกลออกไป กลับไม่รู้สึกกังวลใจเลยแม้แต่น้อย นัยน์ตาและริมฝีปากยังยกยิ้มอีกด้วย ! ก่อนจะเลิกสนใจ และมุ่งมั่นรักษาบาดแผลของตัวเองต่อ

ตอนนี้เขาเพียงแค่เหนื่อยเท่านั้น หากให้เวลาเขาสักหน่อย การจะฟื้นฟูพลังกลับมาเหมือนเดิมนั้นง่ายนิดเดียว ! และยิ่งตอนนี้ข้างกายฉู่เหินมีผู้อาวุโสคอยคุ้มครองอยู่ ชายหนุ่มก็ไม่จำเป็นต้องกังวลสิ่งใดแล้ว ! ด้วยเหตุนี้ยารักษาชนิดต่าง ๆ จึงถูกส่งเข้าปากเข้าอย่างต่อเนื่อง

พลังของชายหนุ่มฟื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เมื่อฉู่เหินประเมินด้วยตัวเอง เขาก็พบว่าอีกไม่นานเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว และเมื่อถึงตอนนั้นเขาจะฆ่าพวกมันให้หมด ! เวลา 2 ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้จูเก๋อโยวหมิงยังคงรับการโจมตีของทั้งสาม โดยไม่มีท่าทีว่าจะตอบโต้กลับเลยแม้แต่น้อย !

ฉากที่เห็นยิ่งทำให้ทั้งสามได้ใจ กระทั่งนัยน์ตายังสั่นไหวด้วยความตื่นเต้นยินดี ราวกับว่าพวกเขาล้างแค้นสำเร็จแล้วอย่างนั้นแหละ ! เพียงแต่หลังจากผ่านเข้าชั่วโมงที่สาม พวกเขาก็เริ่มดูสึกแปลกใจที่จูเก๋อโยวหมิงกลับไม่มีท่าทีว่าจะล้มเลย

พวกเขาจ้องมองทั้งหมดด้วยสายตาเหลือเชื่อ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าอีกฝ่ายไม่มีแรงเหลือแล้ว เหตุใดถึงคงท่าทางเช่นนี้อยู่ได้ ! พอดีกับที่ขณะเดียวกันนั้น จู่ ๆ พวกเขากลับมองเห็นแสงสว่างสีม่วงออกมาจากจุดศูนย์กลางของบ้านวายุ !

แสงนั้นสว่างมองจนพวกเขาไม่อาจลืมตาขึ้นมาได้เลย !

ในใจทั้งสามรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ ! เริ่มรู้สึกว่านี้ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ! เพราะแสงแบบนี้มันคือแสงของผู้ที่เลื่อนระดับขั้นสำเร็จอย่างไรเล่า ! พวกเขารู้ว่าโลกแห่งนี้เลื่อนขั้นยากแสนยาก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลื่อนขั้นขึ้นมาได้ด้วยวิธีธรรมดา

อีกทั้งพวกเขาเคยเข้ามาสอดแนบในบ้านวายุ ก็รู้มาว่านอกจากศิษย์พี่ใหญ่ของที่นี่แล้ว ก็ไม่มีใครที่มีพลังมากไปกว่าเขาอีกแล้ว ! และศิษย์พี่ใหญ่คนนั้นก็ได้เดินออกนอกบ้านวายุไม่กลับมาหลายสิบปีแล้ว ! รวมไปถึงศิษย์พี่รองก็ด้วย ! ดังนั้นตอนนี้บ้านวายุจึงควรเหลือเพียงอาจารย์จูเก๋อโยวหมิง ที่ไม่ได้เป็นผู้มีพลังวรยุทธ์สูงส่งอะไร !

เพราะแบบนี้ทำให้พวกเขากล้าที่จะโจมตีบ้านวายุในตอนนี้ ไม่งั้นอาศัยพลังของพวกเขา 8 คน มีหรือจะกล้าทำถึงขนาดนี้ !

ทันทีที่แสงสีม่วงปรากฏ ฉู่เหินก็ลุกขึ้นยืนในพลัน ! พร้อมกับสองมือที่เคลื่อนไหวผสานอินอีกครั้ง !

ทำให้ค่ายกลที่เพิ่งหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ! ทั้งยังครอบออกไปภายนอกของบ้านวายุ ทำให้คนที่อยู่ด้านนอกที่เดิมมองไม่ค่อยเห็น เห็นเรื่องทุกอย่างอย่างชัดเจน จนทำให้ในใจของทุกคนเริ่มเกิดความสนใจ พากันเฝ้ารอดูเรื่องสนุกอย่างใจจดใจจ่อ !

ทันทีที่ค่ายกลปรากฏอีกครั้ง ไม่ว่าจูเก๋อโยวหมิงหรือว่าศัตรูที่เหลือก็พากันหวาดกลัวจนตัวสั่น ! พวกเขารู้ดีถึงอันตรายของมัน ไหนจะอาจารย์ของอีกฝ่ายและก็ผู้อาวุโสพรรคนั่นอีก เรียกได้ว่าตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในอันตรายแล้วอย่างแท้จริง !

ไม่ใช่แค่ค่ายกลของฉู่เหินเท่านั้นที่ทำให้พวกเขาตกใจ เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งกำลังพุ่งมาทางนี้จากที่ไกล ๆ! ก่อนที่สายตาของคนคนนั้นจะกลายเป็นโกรธแค้น พร้อมกับหยิบดาบคู่ออกมาอย่างเดือดดาล

คนคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือศิษย์พี่รองของฉู่เหิน เขาเคยได้ยินว่าศิษย์พี่รองออกไปฝึกฝนด้านนอก แต่แท้จริงเขากลับอยู่ในบ้านวายุมาโดยตลอด ! และก่อนหน้านี้ไม่นาน ศิษย์พี่รองก็ได้มอบเครื่องรางวิญญาณสองชิ้นแก่ฉู่เหินด้วย !!!