สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 237 ทะลวงสู่ขั้นเต๋า, ความรักคือยาพิษ

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 237 ทะลวงสู่ขั้นเต๋า ความรักคือยาพิษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 237 ทะลวงสู่ขั้นเต๋า, ความรักคือยาพิษ

บทที่ 237 ทะลวงสู่ขั้นเต๋า, ความรักคือยาพิษ

คนที่พูดค่อนข้างมั่นใจในทักษะของเขา เขาคิดว่านอกจากผู้หญิงคนนี้ จะมีสิ่งไหนสำคัญกว่าชีวิตของเขาไหม หรือไม่ก็อาจจะลืมไปหมดแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าเมื่อเธอใกล้ชิดสนิทสนมแต่กับฉู่เหิน เป็นเวลาหนึ่งเดือนนั้นไม่มีความเป็นไปได้เลย ด้วยเหตุนี้ทำให้เศษความทรงจำของเขามีประโยชน์มากขึ้น

กล่าวอีกนัยหนึ่งหลังจากเฉินเจียนออกจากที่นี่ ประกายแห่งความเกลียดชังในดวงตาของเธอหายไปทันที ทว่าแฝงไปด้วยความกังวลอย่างสุดซึ้ง! และเมื่อเธอมองกลับไปที่ภูเขาที่ซึ่งเธออาศัยอยู่มานานกว่าหนึ่งเดือน ในแววตาของเธอมีปรากฏความซับซ้อนอยู่ในนั้น เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกขอบคุณหรือเกลียดที่นี่

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ในที่สุดเธอก็เข้าสู่ดินแดนจีนอีกครั้ง แค่ว่าในใจตอนนี้ของเธอไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อย เพราะเมื่อเธออยู่บนเครื่องบินเธอเจอกับหญิงชราคนหนึ่ง หญิงชราไม่มีเจตนาที่ไม่ดีอะไรอีกฝ่ายแค่อยากได้เธอไปเป็นศิษย์ แต่สำหรับเฉินเจียนตอนนี้คนที่เธอต้องการเจอก็คือฉู่เหิน เธอสามารถทำให้ตัวเองดีขึ้นได้และเธอก็ไม่ได้คิดเรื่องหญิงคนนี้มากนัก

อย่างไรก็ตามหญิงชราคนนี้ก็มีความเพียรมาก ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน อีกฝ่ายจะตามและรักษาระยะห่างสามถึงห้าเมตรเสมอ! ในตอนแรกเฉินเจียนไม่เคยคุ้นเท่าไร แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ไม่สนแล้ว

ในตอนนี้ยังมีคนอีกคนที่กำลังตรงไปที่เทียนซาน! คนนี้คือซ่างกวงเสี่ยวฟู๋ ช่วงนี้เธอมักจะโทรติดต่อหาฉู่เหิน แต่กลับไม่มีการตอบรับ แม้ว่าฉู่เหินได้เขียนตอบกลับถึงพวกเขาเมื่อไม่นานมานี้โดยบอกว่าตอนนี้เขาปลอดภัยแล้ว แต่ซ่างกวงเสี่ยวฟู๋กลับรู้สึกว่าหัวใจเต้นรัว ราวกับว่าจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น!

ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงแอบหนีออกจากบ้านและเดินทางไปยังภูเขาเทียนซานคนเดียว แม้ว่าฉู่เหินไม่ได้บอกเธอว่าตอนนี้เขายังอยู่ในเทียนซาน อย่างไรก็ตามด้วยความเฉลียวและความฉลาดของซ่างกวงเสี่ยวฟู่มันไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเดาออก

ขณะเฉินเจียนและซ่างกวงเสี่ยวฟู่ต่างก็รีบมุ่งหน้าไปที่เขาเทียนซาน ในเวลาเดียวกันหลิวเสี่ยวชิงซึ่งอยู่ห่างไกลจากเขาเทียนซานเจียนเองก็รู้สึกกระสับกระส่ายเช่นกัน ในช่วงเวลานี้ชีวิตของเขาไม่สงบนัก มักจะมีตัวละครพิเศษเข้ามาก่อกวน โชคดีที่มีคนที่แอบลงมือเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เรียบร้อยอยู่เสมอ

หลังจากได้พบกับครั้งสองครั้งเสี่ยวชิงก็รู้จักคนผู้นั้นดีขึ้น และเมื่อเธอรู้ว่าคนผู้นี้ก็คือฉู่เหินที่คอยปกป้องเธออย่างลับ ๆ ทำให้เธอรู้สึกสะเทือนใจ เมื่อรวมกับช่วงนี้ที่เธอรู้สึกจิตใจไม่สงบเท่าไรด้วย จนเธอคิดว่าฉู่เหินอาจจะกำลังเกิดเรื่อง

หลังจากที่เสี่ยวชิงฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ไม่หยุดหย่อนทักษะของเสี่ยวชิงก็ดีขึ้นเช่นกัน อย่างน้อยก็จากการประเมินของโจวหู่ เขาเกรงว่าตอนนี้เธอจะถึงระดับปรมาจารย์เแล้ว แต่หนทางที่จะไปถึงระดับปราชญ์ขั้นแรกนั้นยังคงอีกยาวไกล

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งหญิงสาวก็กลับเข้าเรียน พอดีกับตอนนี้มหาวิทยาลัยของเธอกำลังจะปิดเทอมแล้ว นอกจากนี้สำหรับนักเรียนชั้นปีสุดท้ายพวกเขาเหลือวิชาหลักเพียงไม่กี่วิชาเท่านั้นส่วนเวลาว่างที่เหลือพวกเขาสามารถจัดการได้อย่างอิสระ ดังนั้นเธอจึงวางแผนที่จะไปตามหาฉู่เหิน! หลังจากมาพบโจวหู่เพื่อหารือทั้งสองก็ออกเดินทางไปที่ภูเขาเทียนซานด้วยกัน

หลังจากโม่เจียวกลับไปหาอาจารย์ เด็กหญิงก็ทะลวงเข้าสู่เต๋าเป็นทางการหลังจากรับบัพติศมา(พิธีศีลจุ่มของศาสนาคริสต์) หลังจากนั้นเธอก็พุ่งลงมาจากภูเขาพร้อมด้วยความโกรธเพื่อตามหาฉู่เหิน เธอไม่คาดคิดว่าชายคนนั้นจะล่วงหน้าไปก่อนเธอทำให้โม่เจียวโกรธขึ้นมาจริง ๆ อย่างไรก็ตามเธอรู้ดีว่าฉู่เหินกำลังจะไปที่ไหนและเนื่องจากมันอยู่ไม่ไกลจากเขาเทียนซานนัก เธอจึงสามารถไปเขาเทียนซานได้ด้วยตั๋วเครื่องบินตรง

ฉู่เหินไม่ได้รู้อะไรเลยในขณะที่เขากำลังฝึกโคจรอยู่อย่างเงียบ ๆ ในคุกน้ำ ผู้หญิงที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับเขาล้วนกำลังเดินทางมาที่เทียนซาน ถ้าเขารู้เขาก็คงจะตกใจ แม้แต่เขาไม่สามารถจะออกไปไหนได้ มันจะไม่เป็นอันตรายงั้นเหรอหากพวกเขามา?

หลังเฝ้าดูอยู่สี่ห้าวัน ในตอนนี้หญิงชราของพรรคกระบี่แหล่งเทียนซานก็โมโหอย่างมาก เธอคาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กฉู่เหินนั้นจะดื้อรั้นเยี่ยงนี้ เนื่องจากว่าเธอกลับมาเกิดใหม่หลายครั้งแล้วและแน่นอนว่าเธออยู่มาหลายร้อยปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกตกหลุมรัก แต่เธอไม่ได้คาดคิดอีกฝ่ายจะไม่ตอบรับความรู้สึกเธอ

ภายใต้ความสิ้นหวังนี้ทำให้เธอนึกถึงเล่ห์กลบางอย่างขึ้นมา จากนั้นก็กระซิบอย่างเงียบ ๆ กับคนสนิทของเธอ ชายคนนั้นจากไปด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าหลังจากฟัง แต่เมื่อเขาจากไป เธอก็มีเม็ดยาสีขาวซีดอยู่ในมือหนึ่งเม็ด

ยาเม็ดเล็ก ๆ นี้คือยาอย่างว่าและผลของมันคล้ายกับยาไวอาก้าที่ขายอยู่ด้านนอก แต่ฤทธิ์ของมันนั้นแรงยิ่งกว่า! ในใจของหญิงชราได้คำนวณไว้หมดแล้ว ถ้าใช้ยานี้กับฉู่เหิน เขาจะต้องควบคุมตัวเองไม่อยู่แน่ๆ

การบ่มเพาะได้มาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว ทว่าเขาไม่รู้เลยว่าข้างนอกได้มาซึ่งการสมรู้รวมคิดบางอย่างเกิดขึ้น เขาต้องจินตนาการไม่ออกเลยว่า ถ้าเขากินยานั่น จะทำให้เขาต้องสูญเสียความรู้สึกนึกคิดไป และเมื่อเขาลืมตาขึ้นและพบว่าเป็นหญิงชราที่นอนอยู่ข้างเขา ไม่รู้ว่าเขาตรอมใจตายเลยรึไม่

หลังจากฝึกโคจรพลังมาหลายวัน ขั้นตัดวิญญาณกับระดับตอนนี้ของเขาถูกแบ่งแยกด้วยเส้นบางๆเท่านั้น นั่นทำให้ฉู่เหินรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษและถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาก็สามารถทะลวงผ่านวันนี้ได้เลย แม้ว่าจะแค่พูดว่าจะทะลวงเข้าสู่เต๋า แต่เขารู้ว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

อย่างน้อยอาศัยกำลังของเขา ยังคงพอมีความหวังสักน้อยนิด ที่จะหลบหนีจากพรรคกระบี่แห่งเทียนซานนี้

ฆาตดาราโคจรอย่างบ้าคลั่งและกลุ่มปราณพลังดาราขนาดใหญ่ในคุกน้ำจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างสมบูรณ์ ในตอนนี้การไหลของอากาศในตันเถียนของเขาทำให้ตัวเขาบวมขึ้น มีชีวิต ใช้ชีวิตเหมือนกระต่ายน่ารัก

หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง เขาก็มองดูมันและรู้สึกว่าสิ่งกีดขวางที่รบกวนเขามาหลายวันดูเหมือนว่าจะคลายตัวลงเล็กน้อย สิ่งกีดขวางนั้นดูเหมือนจะเป็นประตู โดยการเปิดประตูเท่านั้นจะทำให้เขาก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้นไปอีกขั้น ในความเป็นจริงเมื่อทุกคนที่ก้าวจากก่อกำเนิดขั้นสูงสู่เต๋าย่อมอุปสรรคอยู่แล้ว

สิ่งกีดขวางของฉู่เหินนั้นแค่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป หากไม่เป็นเช่นนั้นเขาคงไม่เหนื่อยมากมายขนาดนี้ หลังจากผ่านมานานมาก แต่ก็ยังไม่สามารถทะลวงสู่เต๋าได้

ผู้มีพลังแต่กำเนิดกับฝึกฝนภายหลังต่างแค่คำๆเดียวแต่ต่างราวฟ้ากับเหว หลังจากทะลวงเข้าสู่เต๋า แค่สิบวัน ไม่ทานอะไรเลยสักครึ่งเดือนก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย นอกจากนี้สิ่งสกปรกในร่างกายบางส่วนจะถูกปล่อยออกมาอีกทั้งเส้นลมปราณก็จะถูกขจัดให้โคจรได้ดียิ่งขึ้น เพียงแต่ว่ายังคงมันยากเกินไปที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยการฝึกที่ได้แต่กำเนิด

ในบรรดาขั้นปราชญ์หนึ่งพันคน ในจำนวนหนึ่งพันคนนี้แทบไม่มีใครสามารถทะลวงขั้นเต๋าได้ ด้วยอัตราส่วนที่น่ากลัวถึงขนาดนี้ การที่เขาสามารถทะลวงขั้นเต๋าได้ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะแล้ว

หลังจากผ่านไปหลายวันท่ามกลางสายน้ำในที่สุดฉู่เหินก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าสามารถทะลุผ่านกำแพงอุปสรรคตรงหน้านี้ได้ เขาไม่ได้กังวลแต่กลับทำการโคจรพลังดวงดาวในร่างกายของเขาอย่างช้า ๆ เมื่อพลังดวงดาวรวมตัวกันในระดับหนึ่งแล้ว เขาก็รวบรวมพลังทั้งหมดให้พุ่งตรงไปยังคอขวดนั้นและกระแทกเข้ากับมัน

“กริ๊ก” ในตอนนี้ฉู่เหินรู้สึกว่ามีเสียงบางอย่างที่ดังมากอยู่ในร่างกายของเขา ราวกับว่ามีวัตถุสองอย่างกระทบกัน และเสียงที่ดังก้องนี้สั่นสะเทือนถึงแก้วหูของเขา ด้วยเสียงที่ดังอย่างต่อเนื่อง เขารู้สึกถึงความหวานที่คอและเกือบที่จะพ่นเลือดออกมา นี่แสดงให้เห็นว่ากำแพงอุปสรรคของเขาผ่านได้ยากเพียงใด

อย่างไรก็ตามโชคดีที่หลังจากการระเบิดเต็มที่ เขาเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว สิ่งกีดขวางผ่านไปไม่ได้ในตอนแรกไม่เพียงเริ่มหลุดออกเท่านั้น แต่มันยังมีรอยร้าวมากมายปรากฏขึ้น เมื่อเห็นฉากนี้ เขาก็รู้ทันทีว่ามันได้ผล ฉู่เหินเริ่มต้นโคจรพลังดวงดาวในร่างกายของเขาอีกเพื่อให้มันชนเข้ากับสิ่งขวางกั้นนั่นอย่างต่อเนื่อง

เวลาเดียวกับที่เขากำลังฝึกฝนอยู่ที่นี่อย่างเมามัน โจรสลัดในมหาสมุทรก็อาละวาดอย่างผิดปกติเช่นกัน พวกมันมักจะปรากฏในมหาสมุทรและสกัดกั้นสินค้าบางอย่าง ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการฆ่าและการทำเกินเหตุ เมื่อสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นอย่าให้ประเทศต่าง ๆ สงบนิ่ง

โจรสลัดส่วนใหญ่เดินเรือไปที่ทางแยกเช่นทะเลหัวเซียและมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้เรือของทั้งสองประเทศทั้งขาไปและกลับต้องประสบความสูญเสียอย่างต่อเนื่องในระดับที่แตกต่างกันไป แม้แต่กองเรือเดินทะเลก็ได้รับการพัฒนาและถูกส่งออกไป แต่ไม่เคยพบร่องรอยของอีกฝ่ายเลย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด