สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 317 โดนบุก

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 317 โดนบุก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 317 โดนบุก

บทที่ 317 โดนบุก

ตามทฤษฏีแล้วความแข็งแกร่งของนิกายกิเลนย่อมน้อยกว่าสามกองกำลังร่วมมือกันแน่ ๆ แต่ถ้านิกายกิเลนสู้ตายมันคงไม่ดีกับพวกเขา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะกลัวว่าจะถูกจับได้

“น้องฉู่ ตอนนี้ฉันเข้าไปดูในค่ายกลได้เลยไหม?” เฉิงกู๋ถามฉู่เหินพร้อมรอยยิ้ม

“ถ้าพี่เฉิงอยากจะเข้าไปดูก็เข้าได้เลย แม้ว่าค่ายกลนี้จะกินพื้นที่ไม่กว้างแต่ภายในนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉันแนะนำให้ทุกคนเตรียมทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่จะเข้าไปนะ เพราะจะตรวจสอบให้เสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมงคงจะยากหน่อย”

เหตุผลที่ฉู่เหินพูดแบบนี้ก็เพราะเขาอยากให้คนพวกนี้เตรีียมตัวให้พร้อมเขาคาดเดาอนาคตไว้แล้ว ว่าอีกไม่นานนักก็จะเกิดสงครามขึ้น หากคนเหล่านี้ไม่เตรียมตัวให้พร้อมคงจะไม่ดีแน่

มีคนทั้งหมด 32 คนในนิกายกิเลน เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาทุกคนอยากเข้าไปตรวจสอบมันข้างใน แต่คนพวกนี้ไม่คิดจะเข้าไปพร้อม ๆ กันเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อเข้าไปแล้วจะมีอันตรายอะไรหรือเปล่า ถ้าพวกเขาเข้าไปหมดแล้วค่ายกลตรงหน้าเป็นกับดัก พวกเขาก็จะถูกฆ่ากันหมดน่ะสิ

หลังจากถกเถียงกันอยู่สักพัก เฉิงหมิงกู่ก็นำคน 15 คนเข้าไปในค่ายกล ส่วนหลิวจวิ้นซานนำคนอีก 15 คนปกป้องด้านนอก! แบบนี้จะปลอดภัยที่สุด แม้พวกเขาจะเชื่อใจฉู่เหินแต่ระวังไว้ก่อนดีกว่า!

หลังจากนั้นค่ายกลดาบห้าธาตุก็เปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ ทันทีที่เปิดใช้งานค่ายกลดาบห้าธาตุ คมดาบก็ปรากฏกลางอากาศ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้จะยืนอยู่ด้านนอกค่ายกล หากคมดาบเหล่านี้พุ่งแทงเข้ามารับรองได้เลยว่าพวกเขาต้องไม่รอดแน่ ๆ

แม้แต่หลิวจวิ้นซานก็ยังประหลาดใจ จากนั้นก็เขารู้สึกยินดีอย่างล้นเหลือ! ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของหลิวจวิ้นซานทำให้ฉู่เหินสับสน เพราะไม่เข้าใจว่าไอ้หมอนี้มันคนดีหรือไม่ดีกันแน่

แต่เดิมเขานับหลิวจวิ้นซานไว้ในกลุ่มคนทรยศ แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาเขาก็รีบเปลี่ยนความคิดทันที ดูเหมือนว่าเหตุผลที่หลิวจวิ้นซานดูถูกเขาในตอนแรกอาจเป็นเพราะยังสงสัยตัวเขาอยู่ แต่ตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นค่ายกลนี้แล้วหลิวจวิ้นซานคงเชื่อใจเขาแล้ว

แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดา ฉู่เหินต้องการอะไรอื่นเพิ่มเติมเพื่อยืนยันเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยก็คลายความระมัดระวังไปได้ส่วนหนึ่ง

การเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ของค่ายกลดาบห้าธาตุ ที่ปรากฏตรงหน้าของเฉิงหมิงกู่ทำให้ทุกคนตกใจ พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าค่ายกลดาบห้าธาตุนี้จะทรงพลังและล้ำลึกขนาดนี้ แม้แต่เฉิงหมิงกู่ก็ไม่อาจบุกเข้าไปได้โดยง่าย

จากนั้นในหัวใจของพี่น้องชายหญิงหลายสิบคนก็เต็มไปด้วยความสุข เพราะพวกเขาคิดว่าฐานของพวกเขามันอันตรายมาก แต่ถ้ามีค่ายกลป้องกันแบบนี้ พวกเขาจะสามารถตั้งรับต่ออันตรายได้อย่างง่ายดายแบบนี้พี่น้องที่คอยสลับเป็นเวรยามก็จะได้มีโอกาสไปข้างนอกมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ค่ายกลของพวกเขาอ่อนแอมาก ดังนั้นพี่น้องที่ออกไปข้างนอกได้ในแต่ละครั้งจึงค่อนข้างน้อย

พวกเขาอยากได้ค่ายกลดี ๆ แบบนี้มานานแล้วพอได้เห็นค่ายกลตรงหน้าพวกเขาต่างก็มีความสุด

ยิ่งถ้าพวกเขาออกไปข้างนอกพร้อมกันได้หลายคน พวกเขาก็จะหาทรัพยากรฝึกตนได้มากขึ้น แบบนี้นิยายกิเลนของที่นี่ก็จะแข็งแกร่งขึ้นซะที

ขณะที่เฉิงหมิงกู่และคนอื่น ๆ กำลังประหลาดใจในค่ายกลนี้ แขกที่ไม่ได้รับเชิญได้เริ่มเข้ามายังเขตของนิกายกิเลน หลังจากเข้าสู่เทือกเขากิเลนใบหน้าของผู้บุกรุกก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังคิดคำนวณว่าพวกเขาจะได้รับอะไรกลับไปบ้างหลังเสร็จงานครั้งนี้

แต่ด้วยพลังของค่ายกล ฉู่เหินเห็นผู้บุกรุกมาจากเชิงเขาไกลออกไป เขาจึงให้เสี่ยวชิงและคนอื่น ๆ รออย่างใจเย็นข้าง ๆ ค่ายกลดาบห้าธาตุแห่งนี้ ทันทีที่พบสิ่งผิดปกติทุกคนจะเข้าไปซ่อนตัวในค่ายกลดาบห้าธาตุ สำหรับคนที่อยู่ด้านนอก เขาไม่อาจช่วยได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าเป็นไปได้เขาก็เต็มใจที่จะช่วยหนึ่งหรือสองคน

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกแกนิกายกิเลนตายกันหมดแล้วหรือไง? ไม่คิดว่าพวกนายจะเหลืออยู่แค่หยิบมือเดียวเลยแหะ แบบนี้พวกแกตายแน่!” ชายชุดดำเดินเข้ามาหาฉู่เหินพร้อมพรรคพวก ล้อมกรอบพวกเขาและตะโกนเสียงดัง

“พวกแกเป็นใคร? ปิดหน้าปิดตาทำไมห่ะ? กล้ามากเลยนะที่ทำให้ฉันโกรธ พวกแกไม่กลัวตายกันหรือไง?” หลิวจวิ้นซานขมวดคิ้ว แล้วเดินออกไปหนึ่งก้าวเพื่อบังทุกคนเอาไว้ด้านหลัง เขาพูดอย่างโกรธเกรี้ยวกับคนนับร้อยที่ปรากฏตัวออกมา

“ไม่ต้องห่วง ตั้งแต่วันนี้ไปบนเกาะซาถัวจะไม่มีนิกายกิเลนอีกต่อไปแล้ว พวกแกตายไปก็ไม่มีใครรู้หรอก พวกแกนิกายกิเลนจะต้องล่มสลาย!” หลังจากที่ผู้นำของชายชุดดำตะโกนออกมาเขาก็หัวเราะดังลั่น เขาดูตื่นเต้นมากที่จะได้ทำลายนิกายกิเลน

ฉู่เหินไล่มองพวกคนชุดดำขึ้นลงก็พบว่าขั้นพลังของคนพวกนี้ไม่เท่ากัน มีไม่กี่คนเท่านั้นแข็งแกร่งเท่าเทียบกับหลิวจวิ้นซาน หลายคนพลังต่ำมากยังไม่ถึงขั้นปรมาจารย์ด้วยซ้ำ ความแตกต่างของพลังนี่ทำให้ฉู่เหินแปลกใจไม่น้อย

แต่เหตุผลที่คนพวกนี้มีแต่ระดับอ่อน ๆ ก็เพราะฉู่เหินนั้นเองเนื่องจากหลายกลุ่มส่งคนออกไปตามล่าหัวขโมยที่ขโมยสมุนไพรไป ทำให้โดนกับดักและค่ายกลของฉู่เหินที่หน้าเกาะเข้าเต็ม ๆ หลังจากเหตุการณ์นั้นผู้คนมากมายเลยต้องบาดเจ็บล้มตาย แม้แต่กลุ่มอำนาจใหญ่ทั้งสามที่บุกเข้ามาก็ไม่มียอดฝีมือเหลือเท่าไรแล้ว เลยต้องเอาคนฝีมืออ่อนหัดตามมาด้วย

แม้จะมีคนมากมายขนาดนี้แต่ไม่มีใครที่แข็งแกร่งเลยสักคนเดียวทำให้นิกายกิเลนในตอนนี้ไม่มีใครเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย!

ศิษย์นิกายกิเลนหลายคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม ทุกคนจิตใจเต็มไปด้วยไฟอันแรงกล้า แม้ว่าพวกเขาจะตายพวกเขาก็จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด สำหรับพวกเขาแล้วความตายไม่น่ากลัวเลยซักนิด ที่แย่น่ะคือความขี้ขลาด!

“ฉันไม่คาดคิดเลยว่าวันนี้ ฉัน ฉู่เหิน จะบังเอิญเจอเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะโชคดีจริง ๆ !” ฉู่เหินยิ้มให้ชายชุดดำพวกนั้น

“ไอ้หนุ่ม รีบบอกความลับของแกมาดีกว่า บางทีแกอาจจะมีชีวิตรอดก็ได้ไม่งั้นแล้วก็รอรับความตาย” ชายคนหนึ่งพูดออกมาและจ้องมองฉู่เหิน

“ความลับเหรอ ฉันมีความลับอะไร?” ฉู่เหินถามอย่างสงสัย แต่แล้วเขาก็คิดขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายอาจมีคนรู้จักระบบเชื่อมโลกา…แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้!

“ไม่กี่เดือนก่อนแกยังเป็นคนธรรมดาอยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นยอดฝีมือขั้นผู้พิชิตดาราไปแล้ว นี่แกยังกล้าพูดว่าไม่มีความลับอีกงั้นเหรอ?” ชายในชุดดำตะโกนออกมา

ฉู่เหินได้ยินก็ต้องตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมา “โอ้ย ๆ คิดว่าอะเรื่องอะไร ไม่เป็นไร ๆ ฉันจะบอกให้ฟังก็ได้ ที่ฉันพัฒนาได้รวดเร็วขนาดนี้ก็เพราะปู่ของฉัน ท่านมีความสามารถมากเลยน่ะสิ”

พวกเขารอฟังอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้ พวกเขามองฉู่เหินด้วยความโกรธแค้นและแทบรอไม่ไหวที่จะฉีกฉู่เหินเป็นชิ้น ๆ!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด