สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 467 ผู้เข้าแข่งขันสามสิบอันดับแรก

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 467 ผู้เข้าแข่งขันสามสิบอันดับแรก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 467 ผู้เข้าแข่งขันสามสิบอันดับแรก

บทที่ 467 ผู้เข้าแข่งขันสามสิบอันดับแรก

“พระเจ้า ดูนี้เร็ว ฉู่เหินปล่อยตัวอะไรออกมาน่ะ” ไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว หลังสิ้นเสียงโวยวาย ทุกคนก็รีบหันไปมองสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ว่าใครมองอยู่เห็นต่างก็ตัวสั่นเท่าไปตาม ๆ กัน! ขนาดยอดฝีมือบางคนยังสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ออกมาจากสัตว์ร้ายตัวนั้นเลย!

ผู้เฒ่าสามอดหรี่ตาเล็กอย่างครุ่นคิดไม่ได้ เขาไม่รู้เลยว่ามันจะลงเอยแบบนี้! แต่ไม่รู้เพราะอะไรสัตว์ร้ายตัวนั้นให้ความรู้สึกคล้ายจะยังไม่สมบูรณ์นัก ส่วนสาเหตุมาจากอะไรผู้เฒ่าสามเองก็พูดไม่ถูกเหมือนกัน แต่เขารู้สึกว่าสัตว์นี้มีความเชื่อมโยงกับสายเลือดของตัวเองแปลก ๆ

ที่จริงคนที่รู้สึกเหมือนกับเขานั้นยังมีฉู่เหินอีกคน สัตว์ตัวนี้ฉู่เหินปล่อยมันออกมาเป็นครั้งแรก ทั้งที่จริงชายหนุ่มก็ไม่รู้ว่าจะสามารถโจมตีแบบนี้ได้เลย ตอนที่เขากำลังบรรลุแก่นแทนก็พลันพบว่าพลังธาตุทั้งสามสามารถหลอมรวมกันได้ ด้วยเหตุเขาจึงทดลองดู ซึ่งมันก็ทำให้พลังของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

แต่สำหรับตอนที่หลอมรวมเสร็จแล้วจะเป็นยังไงต่อนั้น เขาก็ไม่รู้เลยจริง ๆ เพราะตอนนั้นเขาหยุดไปกลางคันเสียก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อสัตว์ตัวนี้ปรากฏกาย เขาก็รู้สึกว่ากระแสลมปราณของตัวเองเต้นตุบ ๆ ไม่หยุด ต่อมาชายหนุ่มก็สัมผัสได้ว่าลมปราณภายในร่างกายตัวเองจู่ ๆ ก็พลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างกระทันหัน ก่อนที่มันจะหยุดลงเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน!

แม้ว่าฉู่เหินจะไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เขาเดาว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับพลังกิเลนของตนอย่างแน่นอน! ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มกำลังอยู่ในการประลอง ดังนั้นจึงไม่มีเวลาครุ่นคิดให้มากความ เมื่อสร้างสัตว์ร้ายเสร็จ ฉู่เหินก็พลันขยับกระบองจตุรธาตุไปด้านหน้า ก่อนที่เขาจะเห็นว่าสัตว์ร้ายนี้จะพุ่งตามไปในทิศทางดังกล่าว!

เจ้าสัตว์ร้ายชนเข้ากับเงาจันทราครึ่งเสี้ยวอย่างพอดิบพอดี ทันทีที่ทั้งสองปะทะกัน รอบด้านก็คล้ายจะเงียบลงทันตา ก่อนที่มันจะเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น! เสียงระเบิดราวกับอุกกาบาตตกก็ไม่ปาน นี้ทำให้ทั้งฉู่เหินและหลิงหยุนจือต้องกระโดดหนีออกไป

ทั้งสองเมื่อปะทะก็เกิดเป็นควันรูปเห็ดขนาดใหญ่ลอยออกมา การระเบิดครั้งนี้รุนแรงมาก สามารถทำให้ค่ายกลที่นี่สั่นสะเทือนได้เลย! หลังจากนั้นทุกคนก็เห็นว่าค่ายกลเกิดเสียงปริแตก กระทั่งตอนนี้สีหน้าของผู้คุมค่ายกลก็ยังย้ำแย่สุด ๆ

ต้องเข้าใจเสียก่อน แม้พวกเขาจะสร้างค่ายกลนี้ขึ้นมาอย่างง่าย ๆ ทว่าการโจมตีของขั้นปราชญ์ดารานั้นกลับไม่ใช่ปัญหาสำหรับค่ายกลนี้เลย อย่างไรก็ตาม การปะทะกันของทั้งสองถึงกับทำให้ค่ายกลของพวกเขาเสียหายเจ็ดถึงแปดส่วนแล้ว ถ้ามากกว่านี้อีกนิดก็คงจะถูกทำลายอย่างแน่นอน!

เห็นได้ชัดเลยว่าการโจมตีตรงหน้าเหนือกว่าการโจมตีของขั้นพลังปราชญ์ดาราระดับต้นไปแล้ว และด้วยความที่ผู้เชี่ยวชาญค่ายกลเหล่านี้มีพลังวรยุทธ์ไม่เกินปราชญ์ดาราระดับต้น ดังนั้นตอนที่พวกเขาทำการฟื้นฟูค่ายกลจึงทำให้ได้รับบาดเจ็บจากผลสะท้อนกลับไปด้วย ใบหน้าขาวซีด กระทั่งมีบางคนที่พลังวรยุทธ์ต่ำหน่อยถึงกับกระอักเลือดออกมา!

แน่นอนผู้เชี่ยวชาญค่ายกลแต่ละคนต่างก็พากันรู้สึกตื่นกลัว พวกเขาไม่คิดว่ารุ่นน้องทั้งสองจะสามารถสำแดงพลังโจมตีออกมาได้ถึงขนาดนี้! โดยเฉพาะทำให้ค่ายกลตรงหน้าปริร้าว ราวกับว่าสามารถแตกสลายได้ทุกเมื่อ นั้นยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกแปลกประหลาด!

ที่จริงไม่เพียงแต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญ เหล่ายอดยุทธทั้งหลายเองต่างก็สงสัย หอเมฆารู้ว่าความสามารถของพวกเขาดี แม้ว่าตัดจันทราของพวกเขาจะมีพลังอำนาจไม่น้อย แต่ถ้าจะสามารถโจมตีขั้นปราชญ์ดาราระดับต้นได้อย่างหมดจดนั้น พวกเขาคิดว่าเป็นไปไม่ได้แน่

คนที่ใช้วิชาตัดจันทรามีเพียงวรยุทธ์ขั้นจักรพรรดิดาราระดับต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตามวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ทำให้ทุกคนสงสัยว่าเป็นไปได้ไหมที่พลังทั้งสองนั้นหลอมรวมกันจนทำให้เหตุการณ์กลายเป็นเช่นนี้! ซึ่งความคิดดังกล่าวก็ดูเป็นไปได้มากทีเดียว!

พลังโจมตีที่รุนแรงนี้ทำให้ฉู่เหินและหลิงหยุนจือต้องถอยไปสุดค่ายกล เดิมทีค่ายกลที่แตกร้าวไปแล้วแบบนี้ก็ไม่อาจขัดขวางพวกเขาสองคนได้อีกต่อไป ดังนั้นทั้งสองเลยหนีออกมาจากรอยแตกเหล่านั้น!

เมื่อทั้งสองออกมาจากค่ายกล ผู้อาวุโสของพวกเขาก็พากันกระโดดมารับคนของตน! ฉู่เหินมีเลือดออกจากการถูกแรงกระแทกเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงอะไร ทว่าหลิงหยุนจือกลับเป็นลมหมดสติไปแล้ว! เพียงเท่านี้ก็รู้ผลแพ้ชนะ

แต่ทว่าฉู่เหินกลับไม่ยินยอม ชายหนุ่มยืนยันหนักแน่นว่าครั้งนี้นั้นถือว่าเสมอกัน เป็นเพราะทั้งสองออกมาจากค่ายกลพร้อมกัน! เมื่อได้ปรึกษาหารือกันสักพัก พวกคนอื่น ๆ ต่างก็ตกลงเห็นด้วย เพราะถ้าต้องไปที่ต่างมิติ ยังไงเสียการมียอดฝีมือตามไปด้วยเยอะ ๆ ย่อมดีกว่าไม่มีเลย เพราะที่แห่งนั้นจะต้องเต็มไปด้วยอันตรายอย่างแน่นอน

ดังนั้นเหล่าผู้ยอดยุทธในที่นี้ต่างก็หวังว่าจะมีคนที่มีความสามารถจริง ๆ ได้ไป! มีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่น่าจะพอรับประกันความสำเร็จได้บ้าง! อีกทั้งหลิงหยุนจือยังเป็นหัวหลักสำคัญของหอเมฆา ถ้าคนที่มีฝีมือแบบนี้ไม่ได้ไป แต่กลับได้คนที่อ่อนแอกว่านี้ละก็ น่ากลัวว่าเดินทางไปต่างโลกครั้งนี้คงจบตั้งแต่ยังไม่เริ่ม!

ต่อมาเหล่าผู้ยอดยุทธก็ได้ปรึกษากันและตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนกฎการแข่งขันใหม่อีกครั้ง ที่จริงฉู่เหินค่อนข้างเบื่อหน่ายที่การแข่งขันนั้นมีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหลายรอบแบบนี้ เพราะนี่ทำให้ความน่าเชื่อถือของงานประลองลดลงไปมาก แต่ไม่ว่าชายหนุ่มจะคิดเห็นยังไง ทว่าทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับเหล่ายอดยุทธจัดการทั้งสิ้น คุณจะคิดยังไงก็คิดไปเถอะ!

อันที่จริงฉู่เหินก็คงไม่กล้าพูดสิ่งที่ตนคิดออกไปหรอก เพราะในเหล่ายอดยุทธนั้นก็มีตระกูลฉู่ของพวกเขาอยู่ด้วย! การปรึกษาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ก่อนที่กฎการประลองข้อใหม่จะถูกประกาศออกมา พอจับใจความได้ว่า งานแข่งขันต่อจากนี้ ลานประลองจะถูกแบ่งออกเป็น 30 เวที!

เหล่ายอดยุทธในที่นี้จะทำการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน 30 คนที่จะมายืนอยู่บน 30 เวที! โดย 30 คนนี้ก็คือ 30 คนแรกที่มีพลังมากที่สุดตอนคัดเลือกรอบร้อยคนก่อนหน้านี้

ส่วนคนที่เข้ามาประลองกับทั้ง 30 คนนี้ พวกเขาแต่ละคนจะมีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าแพ้ก็จะถูกคัดออกในทันที แท้ที่จริงแล้วนั้น คนทั้ง 30 คนที่ถูกเลือกให้มาประจำอยู่เวทีก็คือคนที่เหล่ายอดยุทธคัดเลือกไว้แล้วนั่นเอง!

ส่วนบรรดายอดฝีมือทั้ง 30 คนที่ถูกคัดเลือกมานั้น พวกเขาแต่ละคนสามารถแข่งขันได้ 3 ครั้ง หรือก็คือถ้าพวกเขาถูกคนอื่นทำให้แพ้ล่ะก็ คน ๆ นั้นก็จะมีโอกาสแข่งกับคนอื่นได้อีก 3 ครั้ง ที่จริงกฎนี้ไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไร แต่นี่เป็นสิ่งที่คนมีอำนาจที่สุดในที่นี้กำหนดขึ้นมา ดังนั้นจึงไม่อาจโต้เถียงได้!

ท่ามกลาง 30 คนแรกนั้น มีคนถึง 21 คนที่มาจาก 7 ฐานอำนาจใหญ่! ฉู่เหินถือว่าเป็นตัวแทนของนิกายกิเลนคนหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธไร้สังกัดมีเพียง 3 คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นยังมีทาปาหยินหนานด้วย ส่วนอีก 5 คนก็มาจาก 5 กลุ่มอำนาจใหญ่ที่ส่งมาแข่งขัน แต่ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกประหลาดก็คือมิยาโมโตะ อิจิโร่

แม้ว่ามิยาโมโตะ อิจิโร่จะดูธรรมดา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหาช่องว่างจัดการได้เลย! ดังนั้นผู้เฒ่าฉู่เลยคิดจะให้ทุกคนช่วยฉู่เหิน ให้พวกเขาช่วยกันลดทอนกำลังของมิยาโมโตะ อิจิโร่ พอถึงตาฉู่เหินสู้กับอีกฝ่าย ชายหนุ่มจะได้ฆ่าอีกฝ่ายได้ง่าย ๆ

คนจากตระกูลฉู่นั้นเข้ามาได้ 3 คน ได้แก่ฉู่ฉุน ฉู่ตง และฉู่หนาน! พลังวรยุทธ์ของทั้ง 3 คนคือขั้นจักรพรรดิดาราระดับต้น เมื่อเทียบกันแล้วสูงกว่าคนอื่น ๆ ไม่น้อยเลย ดังนั้นพวกเขาจึงได้ครอบครองเวทีประลองคนละเวที ส่วนฉู่ซี ฉู่เป่น ฉู่อี้ เมื่อดูความสามารถของทั้ง 3 คนแล้ว ก็ดูท่าจะมีลุ้นอยู่บ้าง คงไม่ถือว่ายากอะไร!

ส่วนนิกายกิเลนที่มีฮาวโยวกับกวนเชิง ทั้ง 2 คนนั้นได้ถูกปัดตกไปแล้ว เพราะพลังวรยุทธ์ของพวกเขายังน้อยอยู่สักหน่อย เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้ยึดครองเวทีประลอง! ฉู่เหินอยากจะให้สองพี่น้องไปกับตัวเองด้วย เพราะแม้ว่าต่างมิติจะเต็มไปด้วยอันตราย แต่สมบัติก็มากมายเช่นกัน!

ต่อมาฉู่เหินก็นำของวิเศษล้ำค่าที่สุด 3 ชุดออกมาจากแหวนมิติ และแจกจ่ายให้กับฮาวโยว กวนเชิงและก็ทาปาหยินหนาน! บนร่างของทาปาหยินหนานไม่ได้มีของวิเศษดี ๆ อะไรเลย แม้ว่าฮาวโยวกับกวนเชิงจะได้มาจากนิกายกิเลนบ้าง แต่ของพวกนั้นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของฉู่เหินเลยแม้แต่น้อย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด