บทที่ 616 สร้างและเข้าฌาน

บทที่ 616 สร้างและเข้าฌาน

“ฉันมีเรื่องจะพูดกับทุกคนเรื่องหนึ่ง !” พูดเพียงแค่นั้นฉู่เหินก็หยุดไป ทำให้ความคิดของคนที่ได้ยินวุ่นวายไปหมด ว่าที่ชายหนุ่มพูดนั้นมันหมายความว่ายังไง พื้นที่แห่งนั้นตกเป็นของพวกตนแล้ว ? …หรือว่าจะยังกัน ? เพราะยังไงเสียตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ก็ไม่มีใครเคยได้ยินเลยว่าอสนีทะเลเพลิงสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ !

หลังจากคิดถึงตรงนี้ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาราวกับปล่อยวางไปแล้ว ก็นั่นแหละ จะหาพื้นที่ดี ๆ สักแห่งย่อมต้องยากมากอยู่แล้ว ! และหลังจากคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าที่ผิดหวังของทุกคนก็ผ่อนคลายลง ด้วยพวกเขาคิดว่าแค่แม่ทัพของตัวเองทำดีขนาดนี้ มันก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือไง !

“ท่านแม่ทัพวางใจเถอะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของคุณ ไม่ได้ที่นี่ก็ช่างมัน พวกเราไปหาที่อื่นอยู่ก็ได้ !” นายทหารคนหนึ่งเอ่ยเช่นนี้ออกมา และเมื่อเขาพูดจบ เสียงอื้ออึงก็ตามมาติด ๆ ซึ่งส่วนมากก็เป็นคำพูดประมาณเดียวกันทั้งนั้น

พอฉู่เหินได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหัว “ฉันพูดตอนไหนว่าที่นี่อยู่ไม่ได้ ฉันแค่จะบอกทุกคนว่าที่นี่ไม่ค่อยมีของวิเศษอะไรมากนัก มารดามันเถอะ ! ฉันหาเป็นวันก็หาอะไรดี ๆ ไม่เจอสักอย่างเลย !”

จนถึงตอนนี้พวกเขาก็คล้ายจะรู้แล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำหน้าเศร้าอย่างนั้นออกมา ก็เพราะหาของวิเศษไม่เจอนี้เอง ! …แต่เดี๋ยวก่อน นี่มันหมายความว่าพวกเขาสามารถเข้าไปอยู่ในมิติอสนีทะเลเพลิงได้งั้นเหรอ !?

….ถ้าเกิดมันเป็นความจริงล่ะก็ งั้นพวกเขาก็มีโอกาสขึ้นเป็นอันดับ 1 จากทั้ง 5 กลุ่มน่ะสิ !

หลังจากนั้นพวกเขาก็พากันใช้สายตาเป็นประกายจ้องมองฉู่เหิน เพื่อคอยดูว่าเขาจะประกาศเรื่องอะไรต่อไป ! ซึ่งเมื่อเห็นท่าทีแบบนั้น ชายหนุ่มก็พลันยิ้มออกมา ก่อนจะเปิดปากพูดว่า

“ตอนนี้มิติเล็ก ๆ แห่งนี้ได้กลายเป็นของพวกเราแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไป ที่นี่จะเป็นเมืองกิเลนของพวกเรา !” ทันทีที่ฉู่เหินพูดจบ ทุกคนก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมา !

จากนั้นไม่นานฉู่เหินก็ได้เดินนำทุกคนเข้าไปที่มิติอสนีทะเลเพลิง ! และพอทุกคนเห็นว่าที่นี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน ทหารกว่า 1 ล้านนายก็คล้ายจะเป็นบ้าไปแล้ว พากันส่งเสียงแหลมสูง ก่อนวิ่งสำรวจมิติเล็ก ๆ นี้อย่างบ้าคลั่ง ทำเอาฉู่เหินที่เห็นฉากนี้รู้สึกมีความสุขแบบแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก

ก่อนที่ชายหนุ่มจะไปจัดการเรื่องอื่นต่อ เขาก็พลันนึกถึงฮวามู่ตันที่คอยช่วยจัดการงานต่าง ๆ ให้ ด้วยถ้าไม่มีฮวามู่ตัน เขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรขึ้นบ้าง ! ซึ่งหลังจากที่เห็นการจัดการของอีกฝ่าย มันก็ทำให้ฉู่เหินได้รู้ว่าฮวามู่ตันมีความสามารถด้านนี้เพียงไหน ! และหากต่อไปต้องเข้าฌาน เขาก็คิดกับตัวเองว่าน่าจะวางใจให้ฮวามู่ตันดูแลแทนได้ !

และนั่น มันก็หมายความว่าตำแหน่งรองแม่ทัพตกเป็นของฮวามู่ตันแน่แล้ว !!! ซึ่งหลังจากที่เรื่องนี้เสร็จสิ้น ฉู่เหินก็ขอตัว บอกว่าจะไปหาพื้นที่เข้าฌานฝึกฝนพลังเสียหน่อย !

เดิมฉู่เหินว่าจะไปพบหวังซานเหนียงกับหลิวซินยี่เสียหน่อย แต่คิดไม่ถึงว่าทั้งสองจะเข้าฌานไปหมดแล้ว ! และด้วยความจำใจ เขาเลยมุ่งไปเข้าฌานเองบ้าง เนื่องจากไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ยังมีโอกาสอีกมากที่จะได้เจอกัน !

…แต่ชายหนุ่มไหนเลยจะรู้ว่าการเข้าฌานครั้งนี้ จะทำให้เขาต้องรอเจอหวังซานเหนียงอีกครั้งในอีกสิบปีหลังจากนี้ !!!

และด้วยเหตุผลก่อนหน้า ก็ทำให้กลุ่มกิเลนอยู่ในมือของฮวามู่ตันทั้งหมด ! และหลังจากพวกเขามีที่อยู่แล้ว มันก็ทำให้ภาระงานของเธอเพิ่มเป็นเท่าตัว !

เหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะมิตินี้มีพื้นที่ใหญ่มาก มากเสียจนทำให้การสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยยุ่งวุ่นวายไปหมด ซึ่งการก่อสร้างที่ว่า มันก็ทำให้พวกเขาพบว่ากลุ่มกิเลนนั้นไม่เหมือนกับอีก 4 กลุ่มที่เหลือเลยสักนิด !

ตามปกติแล้ว ทั้ง 4 กลุ่มจะทำการแบ่งเป็นเมืองชั้นนอกกับเมืองชั้นใน ด้วยเพราะเมืองชั้นในนั้นมีจำกัดไม่สามารถบรรจุคนจำนวนมากได้ ! ซึ่งมันก็ผิดกับเมืองที่กลุ่มกิเลนกำลังสร้าง เพราะในมิติเล็ก ๆ แห่งนี้กว้างขวางมาก ทำให้การมีคน 1 ล้านคนหรือมากกว่านั้นไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด !!

แต่ทว่ากลุ่มกิเลนเพิ่งจะเริ่มสร้างเมือง ทำให้อะไร ๆ ก็ใหม่ไปหมด จนตอนนี้พวกทหารก็ได้ถอดเครื่องแบบของตัวเองออกหมด เพื่อมาช่วยงานกรรมกร ! ด้วยพวกเขาคิดเป็นเสียงเดียวกันว่าจะต้องรวมแรงรวมใจกันสร้างบ้านหลังนี้ให้ได้ ! และด้วยเหตุนี้ มันก็ทำให้ในระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 1 เดือน ก็เริ่มมีสิ่งก่อสร้างผุดขึ้นมาเต็มมิติเล็ก ๆ แห่งนี้แล้ว !

ขณะที่ทุกคนกำลังรวมแรงกันสร้างบ้านเมือง ฉู่เหินก็กำลังดำเนินการตามแผนการของตัวเอง ที่ครั้งนี้เขาวางแผนว่าจะเข้ามาศึกษาชิ้นส่วนพลังที่ได้มา ! เพราะตั้งแต่เข้ามาที่สนามรบชิงคง เขาก็ได้ชิ้นส่วนพลังมาไม่น้อย เพียงแต่มันมีลักษณะหรือพลังแบบไหนชายหนุ่มเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าฌานเพื่อจะได้หาว่าตัวเองสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง !

ในตอนที่เขาหยิบชิ้นส่วนพลังชิ้นแรกขึ้นมาทำการศึกษาอย่างละเอียด ฉู่เหินก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น เพราะสัมผัสได้ถึงพลังธาตุดินอย่างมหาศาล ! ทำให้เท่านี้ก็รู้แล้วว่านี้เป็นชิ้นส่วนพลังธาตุดิน !

เพียงแต่ที่น่าเสียดายก็คือในพลังธาตุทั้ง 4 ของตัวเองนั้นไม่มีพลังธาตุดินอยู่เลย ทำให้ตัวเขาไม่สามารถใช้ได้ …แต่จะว่าไป ชิ้นส่วนพลังนี้มันก็ถือว่าเหมาะสมกับศิษย์พี่ 6 ไม่น้อย !

เพราะต้องอย่าลืมว่าศิษย์พี่ 6 นั้นเข้ากับพลังธาตุดินได้เป็นอย่างดี ! ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจได้ในทันทีว่าจะมอบมันให้กับศิษย์พี่ของตัวเอง ! แต่เมื่อคิดถึงตอนออกที่ต้องมีการตรวจค้นร่างกาย ชายหนุ่มก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองจะแอบเอาชิ้นส่วนพลังออกไปยังไงดี !

ทว่าหลังจากกลอกตาอยู่สักพัก เขาก็พลันเกิดความคิดที่ว่า ถ้าตัวเองเอาชิ้นส่วนพลังเหล่านี้ไปซ่อนไว้ในหม้อเซียนเผ่ากูละจะเป็นยังไง !? เพราะต้องเข้าใจว่าหม้อเซียนเผ่ากูนั้นอยู่ในร่างกายเขา และหากเอาชิ้นส่วนพลังพวกนี้ไปซ่อนในหม้อเซียนเผ่ากูได้ งั้นแล้วมันก็ไม่ยากเลยที่จะแอบเอาของพวกนี้กลับออกไป !!!

ว่าแล้วฉู่เหินก็เอาชิ้นส่วนพลังอีกชิ้นขึ้นมาดู ! และเมื่อมองอยู่สักพักเขาก็หัวเราะลั่น ! เพราะของสิ่งนี้มันเกิดมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ด้วยชิ้นส่วนพลังนี้มีธาตุสายฟ้า !

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ไม่ลังเลที่จะดูดซับพลังมาจากชิ้นส่วนพลังที่มีธาตุสายฟ้านั่น ทำให้พลังธาตุสายฟ้าในกายเกิดการเปลี่ยนแปลง คล้ายจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง ! ราวกับเด็กเรียนคนหนึ่งที่กำลังนั่งเรียนบทกวีของขงจื๊ออยู่ยังไงยังงั้น !!!

ชิ้นส่วนพลังมีความแปลกประหลาดอยู่ อีกทั้งเครื่องหมายที่นำมาเรียงต่อกันยังมีความหมายที่ไม่สามารถระบุได้ ! ซึ่งการจะได้รู้เนื้อความทั้งหมดมันก็แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ! แต่อย่างน้อย ตอนนี้เขาก็สามารถเรียนรู้ขั้นพื้นฐานได้แล้ว และขั้นพื้นฐานเหล่านี้เอง ที่จะทำให้เมื่อเขาต้องการทะลวงขั้นที่เหนือกว่าขั้นเทพดารากลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น !!!

เพียงแต่น่าเสียดายที่พลังธาตุสายฟ้าของชิ้นส่วนพลังนี้มันช่างน้อยเกินไป ใช้เวลาเพียง 2 วันชิ้นส่วนพลังก็สลายหายไปเสียแล้ว ! ทำให้ชายหนุ่มต้องจำใจหยิบชิ้นต่อไปขึ้นมา

และหลังจากค้นหาอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พบชิ้นส่วนพลังที่เข้ากับตัวเองเข้าให้แล้ว แต่ว่าแต่ละอันมีพลังบรรจุอยู่เพียงน้อยนิด ทำให้ฉู่เหินไม่สามารถเจาะลึกไปมากกว่านี้ได้ ทว่าก็โชคดียังที่พอจะมีชิ้นส่วนพลังธาตุไฟอยู่บ้าง ที่นับรวมแล้วมีประมาณ 6-7 ชิ้นเลยทีเดียวที่เป็นธาตุไฟ !!!

และนอกจากชิ้นส่วนพลังธาตุไฟแล้ว เขาก็ยังได้ชิ้นส่วนพลังธาตุน้ำแข็งที่ไม่เลวมาด้วยอีก 2-3 ชิ้น ผิดกับชิ้นส่วนพลังธาตุสายฟ้าที่มีน้อยแสนน้อย ! ส่วนธาตุลมนั้นสักชิ้นก็ยังไม่มี !!!

เมื่อเห็นแบบนี้ ในหัวของฉู่เหินก็พลันเกิดความคิด ว่าตัวเองควรซื้อสนามรบชิงคงทั้งหมดนี่ดีไหม จะได้กวาดเอาชิ้นส่วนพลังทั้งหมดมาเป็นของตัวเอง แต่ก็นั่นแหละ เขาคงได้แต่คิด เพราะถ้าซื้อขายได้จริง มันก็คงจะราคาแพงมากทีเดียว !!!!!!!